JR Pass คืออะไร?

Japan Rail Pass หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า JR Pass เป็นวิธีการเดินทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น หากคุณวางแผนจะไปเที่ยวในหลายพื้นที่ การซื้อตั๋ว JR Pass หรือว่าตั๋ว JR Rail Pass ก็จะช่วยประหยัดเงินให้คุณได้มากทีเดียว นอกจากนั้นการซื้อตั๋ว JR Pass หรือว่า JR Rail Pass ล่วงหน้า ก็จะทำให้การวางแผนการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย หากใครที่อยากจองตั๋วรถไฟ JR Pass หรือกำลังมีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในเร็ววันนี้ แนะนำให้จองตั๋วรถไฟ JR Pass กับTraveloka ได้เลย เพราะว่าสะดวกมากกว่าแน่นอน

JR Pass เป็นบัตรที่ออกโดยบริษัท Japan Railways Group (JR Group) ที่นำไปใช้โดยสารรถไฟใน 2 ชั้นโดยสารได้ ได้แก่รถธรรมดา (Ordinary Car) และรถแบบพรีเมียม (Green Car) นอกเหนือจากรถไฟแล้ว JR Pass ยังนำไปใช้โดยสารยานพาหนะอื่นๆ ของ JR Group ได้อีก เช่น บริการรับส่งสนามบิน รถบัส เรือเฟอร์รี่ และแม้แต่จักรยาน

คู่ค้าอย่างเป็นทางการของ Japan Railways Group

ไม่ว่าจะอยากไปเที่ยวทั่วทั้งญี่ปุ่นหรือแค่ในบางเขต เราก็มีบัตรโดยสารที่คุณต้องการ

ทำไมต้องจอง JR Pass กับ Traveloka?

ค้นหาบัตรที่ใช่ได้ง่ายๆ

ไม่ต้องสับสนอีกต่อไปว่าจะซื้อบัตรแบบไหนดี เพียงบอกเราว่าจะไปเที่ยวไหนในญี่ปุ่น เราก็จะหาบัตรที่เหมาะกับคุณมาให้ทันที

วิธีจัดส่งบัตรหลากหลาย

รับบัตรชั่วคราวหรือ Exchange Order ไปได้เลยง่ายๆ เพียงเลือกว่าจะรับด้วยตนเอง ส่งไปทางอีเมล์ หรือบริการส่งของ ก็ทำได้เลย

ขอคืนเงินได้เต็มจำนวน

เกิดเปลี่ยนแผนขึ้นมาเหรอ? ไม่ต้องห่วงเลย เพียงส่ง Exchange Order ของคุณมาหาเรา และรับเงินคืนไปได้เลย

ฉันจะจอง JR Pass ได้อย่างไร?

1. ค้นหาบัตร

เปิด JR Pass ในแอป Traveloka เริ่มค้นหาโดยระบุพื้นที่/สถานที่ที่ต้องการไปที่ญี่ปุ่น

2. เลือกบัตร

คุณจะเห็นรายการบัตรสำหรับจุดหมายของคุณ แตะที่บัตรเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

3. ดูรายละเอียดบัตร

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บัตร พื้นที่ใช้งาน และบริการ จากนั้นเลือกบัตรที่คุณต้องการ

4. เลือกประเภทบัตร

บัตรบางประเภทให้บริการทั้งรถแบบธรรมดา (Ordinary Car) และรถประเภทพิเศษ (Green Car) เลือกชั้นที่ต้องการและเพิ่มผู้เดินทาง

5. ทำการจอง

ระบุรายละเอียดการจองและเลือกวิธีการรับบัตรชั่วคราว (Exchange Order) และชำระเงิน

6. รับบัตรชั่วคราว

หลังการชำระเงินได้รับการยืนยันแล้ว คุณจะได้รับใบยืนยันการจอง Traveloka ส่วนบัตรชั่วคราวจะส่งให้คุณผ่านอีเมล์หรือบริการส่งของหรือเลือกรับด้วยตนเอง

การแลกรับบัตร JR Pass

นำบัตรชั่วคราว (Exchange Order) ไป

ตรวจสอบว่าได้นำบัตรชั่วคราวไปญี่ปุ่นด้วย

ขอให้แปะสติกเกอร์ Temporary Visitor

เมื่อไปถึงญี่ปุ่น ให้ขอให้เจ้าหน้าที่แปะสติกเกอร์ Temporary Visitor ในหนังสือเดินทางของคุณ

ไปที่สำนักงาน JR

ไปที่สำนักงาน JR ใดก็ได้ในสนามบินและสถานีรถไฟใหญ่ๆ (ตามที่ระบุ ที่นี่)

แลกรับบัตร JR Pass

เพื่อรับบัตร JR Pass ของคุณ กรุณาแสดงบัตรชั่วราวและสติกเกอร์ Temporary Visitor ในหนังสือเดินทางให้กับเจ้าหน้าที่ JR

เดินทางในญี่ปุ่นให้สะดวกสบายกว่าเดิมด้วย JR Pass

Japan Rail Pass หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ JR Pass เป็นบัตรที่สามารถนำไปใช้โดยสารรถไฟในญี่ปุ่น บนรถไฟแห่งชาติที่ดำเนินการโดย JR รวมถึง Shinkansen และ Narita Express JR Pass ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเที่ยวเล่นในญี่ปุ่น

ถ้าคุณวางแผนที่จะไปเที่ยวในหลาย ๆ พื้นที่ของญี่ปุ่น การซื้อบัตร Japan Railway Pass จัดทำโดย Japan Railways Group (JR Group) ต้องถือว่าเป็นวิธีการเที่ยวที่ช่วยประหยัดงบการเที่ยวญี่ปุ่นได้ดีที่สุดเลย โดย Japan Train Pass มีรถไฟสองประเภท; คลาสปกติเรียกว่า Ordinary Car และคลาสพรีเมียมเรียกว่า Green Car แต่นอกเหนือจากรถไฟแล้ว JR Pass ยังสามารถใช้เพื่อโดยสารยานพาหนะอื่น ๆ ของ JR Group ได้ เช่น รถรับส่งสนามบิน รถบัส เรือเฟอร์รี่ และแม้แต่จักรยาน

เส้นทาง JR Pass

ทำไมต้องจอง JR Pass กับ Traveloka?

1. หาบัตร JR Pass ที่เหมาะสมได้ง่าย

ไม่ต้องกังวลว่าจะซื้อบัตรใบไหนเพื่อใช้ในการเดินทางของคุณ เพียงบอกจุดหมายปลายทางของคุณในญี่ปุ่น แล้วเราจะหาบัตรโดยสารที่เหมาะกับคุณให้เอง

2. ตัวเลือกการจัดส่งที่หลากหลาย

รับ ตั๋วชั่วคราว หรือที่เรียกว่า Exchange Order ของคุณได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถเลือกให้ไปรับด้วยตนเองหรือส่งทางอีเมลเพื่อให้ไปรับที่สนามบิน หรือส่งตรงถึงบ้านคุณทางไปรษณีย์

3. สามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวน

เปลี่ยนแผนการเดินทางของคุณ? ไม่มีปัญหา! เพียงส่ง ตั๋วชั่วคราวของคุณกลับมา แล้วบัตรของคุณจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน

วิธีจองบัตร JR Pass

1. ค้นหาบัตร JR Pass ของคุณ

โดยสามารถค้นหาได้ที่แอปหรือเว็บ Traveloka ให้เปิดเมนู Japan Train เริ่มต้นการค้นหาโดยกรอกภูมิภาคหรือสถานที่ที่คุณวางแผนจะไปเที่ยวในญี่ปุ่น

2. เลือกบัตร JR Pass ของคุณ

คุณจะเห็นบัตรทั้งหมดที่มีสำหรับจุดหมายปลายทางของคุณ หากคุณต้องการข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับบัตร JR Pass นั้น ๆ สามารถเลือกแตะที่ตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติม

3. ข้อมูลรายละเอียดบัตร JR Pass แต่ละอัน

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน พื้นที่ให้บริการ และบริการเกี่ยวกับบัตร JR Pass นั้น ๆ จากนั้นเลือกบัตร JR Pass ที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด

4. เลือกประเภทบัตร JR Pass

บัตรโดยสารบางประเภทมีทั้งแบบชั้นธรรมดา และชั้นกรีนคาร์ (พรีเมียม) เลือกชั้นเรียนที่คุณต้องการ จากนั้นกรอกจำนวนผู้เดินทาง

5. จบการจอง

กรอกรายละเอียดการจองของคุณและเลือกวิธีการจัดส่ง ตั๋วชัวคราว จากนั้นจึงทำการชำระเงิน

6. รับตั๋วชั่วคราว (Exchange Order)

เมื่อการชำระเงินได้รับการยืนยันแล้ว คุณจะได้รับใบยืนยันการจองจาก Traveloka ในขณะเดียวกัน ตั๋วชั่วคราวของคุณ จะถูกส่งทางอีเมลหรือบริการจัดส่ง ตามที่คุณได้เลือกไว้

การจอง JR Pass สามารถกดได้ด้านล่างนี้เลย:

https://www.traveloka.com/th-th/activities/japan/product/pick-updelivery-jr-pass-nationwide-4343568425184

วิธีแลกบัตร JR Pass ที่ซื้อจาก Traveloka

1. นำตั๋วชั่วคราว (Exchange Order) ของคุณมาด้วย

เมื่อเดินทางไปญี่ปุ่น อย่าลืมนำตั๋วชั่วคราว (Exchange Order) ไปด้วย

2. ขอตราประทับผู้มาเยือนชั่วคราว

เมื่อคุณมาถึงญี่ปุ่น โปรดขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประทับตราผู้มาเยือนชั่วคราวบนหนังสือเดินทางของคุณ

3. เช็กอินที่สำนักงาน JR

เช็กอินที่สำนักงาน JR แห่งใดแห่งหนึ่งที่สนามบินหรือสถานีรถไฟหลัก (ดูรายชื่อที่นี่)

4. แลกบัตร JR Pass

หากต้องการรับบัตร JR Pass ให้แสดงตั๋วชั่วคราว (Exchange Order) และตราประทับการเข้าเมืองชั่วคราวในหนังสือเดินทางของคุณต่อเจ้าหน้าที่ JR เพียงเท่านี้บัตร JR Pass ของคุณก็พร้อมใช้

เที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัดด้วย JR Pass

ไม่ว่าคุณจะมาเที่ยวญี่ปุ่นกี่ครั้ง ดินแดนซากุระแห่งนี้ก็ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปใหม่ ๆ ที่เก็บได้เรื่อย ๆ เสมอ ๆ ญี่ปุ่นทอดยาวจากฮอกไกโดไปจนถึงโอกินาวา นำเสนอสมบัติทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลายซึ่งแสดงเสน่ห์ที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง ในอดีต นักท่องเที่ยวมีโตเกียวทาวเวอร์ ชินจูกุ และอาซากุสะก็ถือว่ามากพอแล้ว แต่ปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ นอกโตเกียว เช่น ชิราคาวะโกะ และเมืองนารา เริ่มดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าค่าเดินทางสู่สถานที่ต่าง ๆ ที่ว่ามานี้ ยังคงเป็นปัญหาสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่น แม้การเที่ยวญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อในเรื่องระบบการคมนาคมที่ทันสมัยและสะดวกสบาย แต่หลาย ๆ คนกลับคิดว่าค่าเดินทางในญี่ปุ่นมีราคาแพงกว่าสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น เกาหลี บ่อยครั้งสิ่งนี้ทำให้นักท่องเที่ยวคิดทบทวนเกี่ยวกับการไปเที่ยวญี่ปุ่นในสถานที่นอกเมืองใหญ่ ๆ เช่น โตเกียว โอซาก้า และเกียวโต ในขณะที่ในเมืองอื่น ๆ โอกาสที่จะได้สำผัสความเป็นญี่ปุ่นแบบแท้ ๆนั้นมีสูงกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่นในโตเกียว

จึงเป็นเหตุผลที่ญี่ปุ่นพยายามผลักดันระบบขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพสูงเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวสามารถประหยัดค่าเดินทางในการเที่ยวญี่ปุ่นให้ทั่วถึงมากขึ้น โดยใช้ Japan Rail Pass หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ JR Pass ซึ่งเป็นบัตรโดยสารที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้เดินทางได้ทั่วญี่ปุ่นตามแผนการเดินทางที่วางแผนไว้ นอกจากจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณต้องรู้หากคุณใช้ JR Pass ขณะเดินทางไปญี่ปุ่น

1. วางแผนเส้นทางที่ถูกต้องด้วย JR Pass

ก่อนที่คุณจะซื้อ JR Pass ควรวางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบจะดีกว่า ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถเลือกบัตร JR Pass ที่เหมาะสมซึ่งสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดระหว่างการเดินทางในญี่ปุ่นได้

ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเดินทางทั่วภูมิภาคคันโต เช่น โตเกียว ชิบะ ไซตามะ กุมมะ หรืออิบารากิ คุณสามารถใช้บัตร JR East Pass ได้ ในขณะเดียวกัน หากคุณต้องการเดินทางรอบ ๆ บริเวณคันไซ คุณสามารถใช้ Kansai Pass ที่ให้บริการในเส้นทางต่าง ๆ เช่น สนามบินคันไซ (KIX) สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในเกียวโต-โอซาก้า เช่น อาราชิยามะ หรือ ฟูชิมิอินาริไทชะ รวมไปถึงโกเบและนารา

ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถใช้บัตร JR Pass เพื่อการเดินทางข้ามพื้นที่ได้อีกด้วย หนึ่งในเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเส้นทางโตเกียวไปยังโอซาก้า คุณสามารถใช้บัตร JR Pass ในการเดินทางเส้นทางโตเกียว-โอซาก้า โดยโฮคุริคุอาร์ชพาส ซึ่งผ่านเมืองใหญ่ ๆ เช่น นากาโนะ คานาซาว่า และโทยามะ ได้เช่นกัน

การมี JR Pass ที่ถูกต้องไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดค่าเดินทางเท่านั้น แต่ยังประหยัดเวลาเพื่อให้คุณได้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มากขึ้นอีกด้วย

2. ใช้บัตร JR Pass เพื่อทางเลือกการเดินทางที่หลากหลาย

คุณสามารถใช้บริการรถไฟทุกประเภทที่ดำเนินการโดย JR รวมถึงรถไฟชินคันเซ็น รถไฟด่วนพิเศษ รถไฟสนามบินนาริตะเอ็กซ์เพรส รถไฟด่วน และรถไฟท้องถิ่นด้วย JR Pass

ไม่เพียงแต่รถไฟเท่านั้น บัตร JR Pass ยังใช้ได้กับตัวเลือกการเดินทางต่าง ๆ เช่น โมโนเรลไปและกลับจากสนามบินฮาเนดะ เรือเฟอร์รี่ JR หากคุณต้องการเดินทางไปยังเกาะมิยาจิมะจากฮิโรชิม่า รวมถึงรถบัสท้องถิ่นหลายสายที่ดำเนินการโดย JR รถบัส JR บางสายที่สามารถใช้ได้ ได้แก่ รถบัสนำเที่ยวฮิโรชิม่า รถบัสท้องถิ่นในซัปโปโรและคิวชู และอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยบัตร JR Pass คุณสามารถโดยสารรถไฟที่ไม่ใช่ของ JR ได้ในบางเส้นทาง เช่น รถไฟอาโอโมริ รถไฟอิชิคาวะ และรถไฟไอโนะคาเสะโทยามะ

โดยทั่วไป คุณสามารถใช้ Japan Rail Pass ได้กับเส้นทางของ JR ทุกสาย รวมถึงชินคันเซ็นด้วย อย่างไรก็ตาม รถไฟพิเศษ เช่น รถไฟตู้นอน และ Nozomi และ Mizuho Shinkansen จะำไม่ได้รวมอยู่ในการเดินทางที่ให้บริการโดย JR Pass

3. มี JR Pass อยู่แล้ว จะใช้มันได้อย่างไร?

เมื่อซื้อ JR Pass ที่ต้องการ คุณจะได้รับตั๋วชั่วคราว (Exchange Order) เก็บเอกสารนี้ไว้เป็นหลักฐานการซื้อของคุณ เมื่อมาถึงญี่ปุ่น แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองให้ประทับตราหนังสือเดินทางของคุณด้วยตราประทับ 'ผู้มาเยือนชั่วคราว (temporary visitor)' ก่อนใช้งานคุณต้องไปเปิดการใช้งานบัตรที่สาขาสำนักงาน JR Pass เพื่อแลกเปลี่ยนเอกสารที่คุณมีกับ JR Pass

หากคุณมีบัตร JR Pass อยู่ในมือแล้ว คุณเพียงแค่ต้องมองหาทางเข้าเฉพาะของ JR เท่านั้น โดยปกติทางเข้านี้จะแตกต่างจากทางเข้าอื่น ๆ เช่น ประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติสำหรับผู้โดยสารทั่วไป หากสับสน คุณสามารถแสดงบัตร JR Pass ให้แก่เจ้าหน้าที่สถานีเมื่อออกไปหรือเข้าประตูได้

4. ข้อดีอื่น ๆ ของ JR Pass

ประเภทของ JR Pass ยังให้บริการตามระยะเวลาการเดินทางที่ต้องการ ตั้งแต่ 7 วัน 14 วัน จนถึง 21 วัน มีสองที่นั่งให้เลือก ได้แก่ รถชั้นธรรมดา และรถชั้นพรีเมี่ยม (รถสีเขียว) โดยรถสีเขียวจะมีพื้นที่มากกว่ารถชั้นธรรมดาจึงถือเป็นตัวเลือกที่นั่งที่พิเศษกว่าเมื่อมาเปรียบเทียบกัน

ข้อดีอีกข้อของการมี JR Pass คือคุณสามารถจองที่นั่งที่ต้องการได้ฟรี อย่างน้อยหนึ่งเดือนก่อนการเดินทาง นอกจากนี้ หากคุณอยู่ในญี่ปุ่นแล้ว คุณสามารถมาที่สำนักงาน JR และแสดง JR Pass จากนั้นแจ้งจุดหมายปลายทางและเวลาให้กับเจ้าหน้าที่ที่ช่วยคุณจองที่นั่งที่ต้องการ นอกจากการสำรองที่นั่งฟรีแล้ว คุณยังสามารถรับส่วนลดได้หากคุณวางแผนจะพักที่โรงแรมที่บริหารโดย JR อีกด้วย

5. ซื้อ JR Pass ได้ที่ไหน?

แม้ว่าคุณสามารถซื้อบัตร JR Pass ได้ที่สนามบินนาริตะ ฮาเนดะ สนามบินคันไซ หรือแม้แต่ที่สถานีต่าง ๆ เช่น สถานีโตเกียว นาโกย่า โอซาก้า โยโกฮาม่า ฮิโรชิมา และฮากาตะ แต่แน่นอนว่ามันจะง่ายกว่ามากถ้าคุณมีบัตร JR Pass อยู่แล้วก่อนออกเดินทางไปญี่ปุ่น เพราะคุณเพียงแค่ต้องแลกบัตรชั่วคราวของคุณเมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่นเท่านั้น นอกจากนี้ คุณไม่จำเป็นต้องต่อคิวและมองหาสถานที่จำหน่าย JR Pass เมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่น

Traveloka จะช่วยให้คุณซื้อบัตร JR Pass เพื่อเติมเต็มแผนการเดินทางรอบญี่ปุ่นของคุณ นอกจากจะง่ายแล้ว คุณยังสามารถดูรายละเอียดประเภทและราคาของ JR Pass ที่คุณต้องการซื้อได้อีกด้วย เพื่อให้สามารถปรับให้เข้ากับแผนการเดินทางของคุณได้ ที่สำคัญคุณยังสามารถทำธุรกรรมการซื้อโดยใช้สกุลเงินบาทได้อีกด้วย ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเงินก่อนรับบัตร JR Pass ดังนั้นอย่าลืมจอง JR Pass กับ Traveloka ก่อนออกเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายและสะดวกสบาย!

คำถามที่พบบ่อย

JR Pass สามารถใช้ได้ที่ไหน?

JR Pass สามารถใช้กับบริการรถไฟที่ดำเนินการโดย Japan Railways, รถบัส JR ท้องถิ่น, เรือเฟอร์รี่ และจักรยานเช่าในภูมิภาคต่าง ๆ ในญี่ปุ่น มีตัวเลือก JR Pass มากมายที่ผ่านบางเส้นทางในญี่ปุ่น คุณสามารถเลือกบัตร JR Pass ได้ตามจุดหมายปลายทางที่คุณต้องการไป

รถไฟใดบ้างที่รวมอยู่ใน JR Pass

JR Pass ใช้ได้กับบริการรถไฟที่ดำเนินการโดย JR (Japan Railways) เท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีรถไฟที่ดำเนินการโดย JR บางขบวนที่ไม่รวมอยู่ในรถไฟที่สามารถใช้ได้กับ JR Pass เช่น รถไฟหัวกระสุนโนโซมิบนสายโตเกียว-เกียวโต-โอซาก้า (โทไคโด) รถไฟหัวกระสุนมิจูโอบนสายคิวชูชินคันเซ็น , รถไฟ JR ที่ใช้สายที่ไม่ใช่ JR และรถไฟตู้นอนโตเกียว-โอคายามะ

แลก JR Pass ได้ที่ไหน?

หลังจากได้รับตั๋วชั่วคราว (Exchange Order) จากการจอง JR Pass แล้ว คุณสามารถแลกเปลี่ยนเป็น JR Pass ได้ที่สำนักงานแลกบัตร JR Pass ซึ่งตั้งอยู่ที่สนามบินและสถานีหลายแห่งในญี่ปุ่น โดยคุณสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่นี่

ตั๋วชั่วคราว (Exchange Order) และ JR Pass แตกต่างกันอย่างไร?

ตั๋วชั่วคราว (Exchange Order) หรือที่มักเรียกว่า MCO เป็นเอกสารกระดาษที่ต้องเป็นเจ้าของเพื่อแลกเป็น JR Pass หลังจากเดินทางมาถึงญี่ปุ่น สำหรับการซื้อ JR Pass กับ Traveloka ทุกครั้ง คุณจะได้รับตั๋วชั่วคราว (Exchange Order) ที่สามารถส่งไปยังที่อยู่ของคุณหรือไปรับที่สนามบินตามผลิตภัณฑ์ JR Pass ที่ซื้อได้ ในขณะที่ JR Pass เป็นตั๋วที่ใช้โดยสารรถไฟ JR และยานพาหนะอื่น ๆ ในญี่ปุ่น และอย่าลืมนำ ตั๋วชั่วคราวมาเปลี่ยนเป็น JR Pass กับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงาน JR ทั่วญี่ปุ่น

เช็กให้แน่ใจว่าคุณได้จองบัตร JR Pass กับ Traveloka ก่อนเริ่มการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่น จองบัตร JR Pass ตอนนี้เพื่อรับราคาที่ดีที่สุด!

จอง JR Pass ได้ที่นี่

https://www.traveloka.com/th-th/activities/jr-pass

จุดหมายปลายทางยอดนิยม

Fushimi Inari-taisha
Fuji Mountain
Shirakawago