ค้นหา
Xperience/ประเทศไทย/กาญจนบุรี/อำเภอไทรโยค/สิงห์/บัตรเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City, R.E. 124)

บัตรเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City, R.E. 124)

Malika R.E.124, 168 Tambon Sing, Amphoe Sai Yok, Chang Wat Kanchanaburi 71150, Thailand
แสดงแผนที่
เปิด | วัน, 09:00-17:00
ดูเวลาทำการ
ดูรูปภาพทั้งหมด

8.6

ดี

จาก 46 ความคิดเห็น

แสดงแผนที่

อำเภอไทรโยค

หมดชั่วคราว

ค้นหาสถานที่เที่ยวอื่นๆ

ประสบการณ์สุดเพลินที่จะได้รับ

เดินทางย้อนเวลาและฟื้นคืนวิถีชีวิตของชาวไทยในยุคสมัยอันรุ่งเรืองของสยามขึ้นมาอีกครั้งที่เมืองมัลลิกา ซึ่งจำลองมาจากเมืองสยามในอดีต
เรียนรู้เรื่องราวความเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์ไทยหลังการประกาศเลิกทาสในสมัยรัชกาลที่ 5 ผ่านโซนหมู่บ้านต่างๆ และห้องแสดงประวัติศาสตร์
เดินเที่ยวรอบๆ หมู่บ้านพร้อมกับเรียนรู้สถาปัตยกรรมดั้งเดิมของไทย เช่น ตลาด เรือนชาวบ้าน เรือนเจ้าเรือนนาย และหอชมเมือง
อร่อยกับอาหารไทย ขนมไทย และสินค้าต่างๆ ขณะสวมชุดไทยแล้วออกไปเที่ยวสำรวจตลาดและสวนดอกไม้

เรือนมัลลิกา สถานที่ท่องเที่ยวที่จำลองเมืองในยุคสยามโบราณ ที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (ค.ศ. 1873-1910) เรือนมัลลิกาเป็นเมืองย้อนยุคที่ฟื้นคืนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการเลิกทาส

เมืองจำลองแห่งนี้ทำให้สยามในอดีตมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นคุณจึงสามารถสัมผัสวิถีชีวิตชาวไทยในอดีตได้ โดยไม่ใช่แค่ตาเปล่า แต่ยังลองใช้ชีวิตในแบบชาวสยามยุคก่อนได้ด้วย เรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมไทยขณะแปลงกายเป็น "ชาวสยาม" แล้วเดินเที่ยวไปรอบๆ เมือง นอกจากนี้มาลองชิมอาหารไทยแท้แต่ดั้งเดิมและชมเครื่องไม้เครื่องมือสมัยโบราณที่แทบจะหาดูไม่ได้แล้วในปัจจุบัน อย่าลืมแวะชมห้องเล่าเรื่อง ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวในอดีตผ่านรูปภาพต่างๆ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการพึ่งตนเองและอยู่ร่วมกับคนทุกหมู่เหล่าอย่างกลมเกลียวเป็นดังรากเหง้าสำคัญของการดำเนินชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน

ยินดีต้องรับสู่เมืองมัลลิกา เมืองจำลองจากต้นกรุงรัตนโกสินทร์

ขึ้นรถลากพร้อมแต่งกายเป็นชาวเมืองสยาม

ชมการแสดงไทยดั้งเดิมและกิจกรรมต่างๆ มากมายทั่วเมืองมัลลิกา

ลองลิ้มชิมรสเสน่ห์อาหารไทย

เรียนรู้ประวัติศาสตร์การเลิกทาสในสยามจากเมืองจำลองขนาดจริงแห่งนี้

ข้อมูลติดต่อ สิ่งอำนวยความสะดวก ภาษาที่ให้บริการ และอื่นๆ

ผู้คนพูดถึงกันว่าอย่างไร

Nanthita T.

9.0

/10
ใส่ชุดไทย เดินชมเมืองในอดีต ถ่ายรูปสวยๆ ต่อด้วยดินเนอร์พร้อมชมการแสดงแบบไทยๆ

Nichagarn P.

8.0

/10
พนักงานที่นั่นพูดดีไพเราะทุกคนเลย อาหารอร่อย ราคาไม่แพง บรรยากาศร้อน แต่ได้ย้อนยุคแบบเริ่ดๆ มากเลย ชอบความย้อนยุคของที่นั่นมาก แต่งตัวแต่งการน่ารัก มีโอกาสจะพาครอบครัวไปเที่ยวอีกค่ะ

Rattana N.

10.0

/10
เป็นสถานที่ที่ควรไปเที่ยวชมสักครั้ง แต่ควรมีแบบผ้านุ่งให้ผู้หญิงด้วย เพื่อสะดวกแก่การเที่ยวชมหรือเข้าห้องน้ำ ใส่โจงกระเบนไม่สะดวกเลย ต้องรีบเดินเที่ยวแล้วออกเร็ว

ข้อมูลสถานที่

Malika R.E.124, 168 Tambon Sing, Amphoe Sai Yok, Chang Wat Kanchanaburi 71150, Thailand
แสดงแผนที่
ติดต่อผู้ให้บริการ:
+6634540884

เกี่ยวกับ บัตรเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City, R.E. 124) เพิ่มเติม

ดูเพิ่ม

เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124)

เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) ยุค ร.ศ.124 ตรงกับปี พ.ศ.2448 ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ เพราะเป็นช่วงที่มีการประกาศเลิกทาสในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งช่วงเวลาที่ปวงชนชาวไทยได้พบกับช่วงเวลาที่มีอิสระและมีความสุขที่สุดช่วงหนึ่งก็ว่าได้ และนั่นเป็นที่มาว่าทำไมเมืองมัลลิกาแห่งนี้จะต้องเป็น เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) นั่นเอง

เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) แห่งนี้ ถือเป็นเมืองที่สร้างขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นวิถีชีวิตของคนในอดีต ผ่านการเชื่อมโยงเรื่องราวของตัวละครซึ่งถูกสมมติให้เป็นลูกสาวชาวนาที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือนเดี่ยว ต่อมาได้แต่งงานกับข้าราชการหนุ่มคนหนึ่ง และเริ่มประกอบอาชีพค้าขายโดยใช้เรือนแพเป็นหน้าร้าน ต่อมาเมื่อฐานะเจริญงอกงามขึ้นมาจึงมีการสร้างเรือนคหบดีเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย และท้ายสุดเมื่อมั่งมีศรีสุขและมีผู้มาเยือนเป็นแขกบ้านแขกเมืองอยู่มากมาย ครอบครัวของแม่มะลิจึงปิดท้ายด้วยการสร้างเรือนหมู่เอาไว้อีกหนึ่งเรือน เพื่อใช้รับรองแขกที่มาเยือนนั่นเอง นับว่าเป็นการเชื่อมโยงเรื่องราวของที่อยู่อาศัยแบบไทยๆ โดยสมมติให้เป็นเสมือนฉากในละคร เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) อยู่ภายใต้บรรยากาศหลักๆ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการค้าขายกับชาวต่างชาติจากหลากหลายประเทศ มีเรื่องราววิถีชีวิตของผู้คนที่น่าสนใจ มีวัฒนธรรมและประเพณีที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานมากมายในช่วงนี้ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกินหลากหลายรูปแบบ กลายเป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากของชาวไทย และคุณจะมีโอกาสได้เป็นหนึ่งตัวละครที่เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางวิถีแห่งความสุขและน่าสนใจทั้งหมดนี้ได้ด้วยตัวเองเมื่อได้ไปเยือนเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) นั่นเอง

บริเวณที่น่าสนใจในเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124)

  • สะพานหัน – ชื่ออาจจะคุ้นหู แต่หน้าตาแปลกใหม่มาก เพราะนี่คือการจำลองสะพานไม้ที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสร้างตามรูปแบบของสะพานริอัลโต ที่นครเวนิซ และ ปองเตเวกคิโอ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี มีรูปแบบเป็นสะพานไม้กว้างขวาง ด้านในสองฝั่งมีร้านขายของให้เลือกซื้อหา ส่วนที่มาของคำว่าสะพานหันนั้นมาจากเดิมทีที่สะพานไม้ข้ามคลองแบบนี้จะเป็นไม้กระดานแผ่นเดียว โดยมีการตรึงปลายไม้ข้างหนึ่งให้อยู่ติดกับพื้น ส่วนอีกข้างจะปล่อยไว้โดยไม่มีการตอกยึด เพื่อให้ไม้สามารถหมุนไปมาได้ในเวลาที่มีเรือแล่นผ่านนั่นเอง สะพานไม้รู้ปแบบโบราณอย่างนี้ เรียกว่าหากไม่มาที่เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) ก็แทบจะหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในปัจจุบัน

  • หอชมเมือง – หอคอยสูงที่จำลองรูปแบบมาจากหอคอยในเรือนจำ ซึ่งเอาไว้สอดส่องป้องกันผู้ต้องหาหลบหนี แต่สำหรับหอคอยในเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) แห่งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ชมวิวในมุมสูง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชมทิวทัศน์ทั้งหมดของเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) ที่โดดเด่นอยู่ท่ามกลางวงล้อมสีเขียวของธรรมชาติ ในบรรยากาศลมพัดโชยเอื่อยแสนสบาย ขอบอกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่เหมาะจะใช้ในการเซลฟี่จริงๆ

  • เรือนคหบดี - ที่เรือนนี้ นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้เห็นวิถีชีวิตประจำวันของชนชั้นปกครองในสมัยก่อน บนเรือนจะมีการประดิดประดอยงานฝีมือต่างๆ ซึ่งจะนำมาใช้ในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น งานใบตอง งานดอกไม้ งานเครื่องแขวน งานแกะสลักผลไม้ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง โดยใกล้กันจะเป็นโรงครัวซึ่งประกอบด้วย โรงสี ยุ้งข้าว และโรงเตรียม ซึ่งจะมีการจำลองชีวิตบ่าวไพร่ในการเตรียมอาหารเพื่อใช้รับรองแขกเหรื่อ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) จะได้เห็นตั้งแต่กรรมวิธีการฝัดข้าว สีข้าว ตำข้าว พร้อมทั้ง การหุงข้าวเตากระทะใบบัว ไปจนถึงการประกอบอาหารทั้งหวานและคาว ซึ่งทั้งหมดใช้เตาถ่านแบบโบราณในการทำ ถือว่าเป็นส่วนที่เหมาะจะพาเด็กๆ ไปเรียนรู้วิถีชีวิตและภูมิปัญญาของคนโบราณ ซึ่งแทบจะหาดูไม่ได้อีกแล้วในทุกวันนี้

  • เรือนแพ – เป็นอีกหนึ่งจุดที่จะแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตผู้คนริมน้ำซึ่งทำการค้าขาย เพราะในสมัยก่อนการสัญจรทางน้ำถือว่ามีความสำคัญมาก ในแต่ละวันจึงมีผู้คนผ่านไปผ่านมาในแม่น้ำลำคลองกันมากมาย จึงเกิดอาชีพค้าขายในเรือนแพขึ้นมา โดยในบริเวณเรือนแพของเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) แห่งนี้ ก็จะมีร้านค้าเปิดทำการอยู่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟตงฮู ซึ่งแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาที่เริ่มมีการนิยมนำเข้าเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศเพื่อมาใช้ในการบริโภค รวมถึงมีร้านข้าวแกงทรงโปรด ซึ่งมีการนำเมนูอาหารที่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเสวยมาให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน ถือเป็นบริเวณที่เหมาะกับการมานั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจของคนทุกวัยในครอบครัว

  • เรือนหมู่ – บริเวณนี้ถือเป็นเรือนหมู่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิถีชีวิตของขุนนางผู้มั่งคั่งในอดีตของเมืองไทยผ่านการเยี่ยมชมเรือนหมู่ในเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) แห่งนี้ โดยในยุคก่อน การปลูกเรือนหมู่ที่ประกอบด้วยบ้านทรงไทยหลายหลังแบบนี้ นอกจากใช้อยู่อาศัยแล้ว ยังสามารถใช้รับรองแขกผู้มาเยือนอีกด้วย โดยในเรือนจะมีคณะนาฏศิลป์ไทยที่จะทำการแสดงในขณะที่มีการรับประทานอาหาร ซึ่งในปัจจุบัน ที่เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) ใช้เรือนนี้เป็นห้องอาหาร ที่คุณจะได้อิ่มท้องกับอาหารไทยโบราณที่หากินได้ยาก ได้อิ่มตากับการจัดวางอาหารมาแบบประณีตบรรจง และได้อิ่มใจกับการแสดงนาฏศิลป์ไทยที่งดงาม บอกเลยว่าเรือนนี้ไม่ควรมองข้ามไปด้วยประการใดๆ จริงๆ

  • ห้องเล่าเรื่อง - เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ของเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) ที่คอยบอกเล่าเรื่องราวในสมัยเก่าให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้ โดยห้องนี้จะมีการจัดแสดงภาพถ่ายในอดีตที่น่าสนใจมากมาย ให้คุณได้เรียนรู้และดื่มด่ำไปกับความงดงามของวิถีชีวิตชาวไทยในอดีตของยุคที่แสนรุ่งเรือง มุมนี้เย็นสบาย เดินชมได้สะดวก ขอบอกว่าเหมาะมากหากคุณปู่คุณย่าอยากจะเล่าประวัติความเป็นมาในยุคเก่าให้เจ้าตัวเล็กได้ฟังพร้อมภาพประกอบ สนุก เพลิน แถมยังได้ความรู้อีกด้วยนะ แนะนำว่าอย่าพลาดชมเลยเชียว

สถานที่ตั้งเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124)

  • 168 หมู่ 5 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี 71150
  • เบอร์โทรศัพท์: 034 – 540884 ถึง 86

วิธีการเดินทางไปเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124)

รถประจำทาง

- ใช้บริการรถตู้หรือรถประจำทาง เส้นทางกาญจนบุรี - กรุงเทพ มาลงที่ท่ารถ บขส. กาญจนบุรี แล้วต่อรถประจำทางสายไทรโยค ทองผาภูมิ สังขละ หรือต่อรถตู้กาญจนบุรี - สังขละ มาลงที่เมืองมัลลิกา ซึ่งอยู่ติดปั๊มน้ำมันบางจาก ปากทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์

รถยนต์ส่วนตัว

- ขับรถมาตามเส้นทาง กรุงเทพ – กาญจนบุรี และไปตามทางหลวงหมายเลข 323 เส้นทางสายกาญจนบุรี - ไทรโยค จนถึงกิโลเมตรที่ 15 เมืองมัลลิกาตั้งอยู่ซ้ายมือข้างปั๊มน้ำมันบางจาก ก่อนถึงทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์

รถไฟ

- จากสถานีรถไฟธนบุรี ด้านหลังโรงพยาบาลศิริราช เลือกใช้บริการรถไฟเส้นทางสู่น้ำตกไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี มาลงที่สถานีกิเลนหรือถ้ำกระแซก็ได้ แล้วต่อรถรับจ้างท้องถิ่นมายังเมืองมัลลิกา

วันและเวลาเปิด-ปิดเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124)

เปิดบริการทุกวัน:  ตั้งแต่เวลา 9.00 - 19.00 น.

เที่ยวเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) ช่วงไหนดี

  • ฤดูร้อน – หากคุณเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) ในช่วงฤดูนี้ แนะนำว่าสิ่งที่ควรมีติดตัวมาอย่าให้พร่อง นั่นคือร่มกันแดด พร้อมทั้งพัดหรือพัดลม เพราะอากาศจะค่อนข้างอบอ้าวและมีแสงแดดค่อนข้างจัด แต่ข้อดีคือคุณจะสามารถเก็บภาพถ่ายในแสงสวยๆ ของวันได้อย่างยาวนานหลายช่วง และเนื่องจากในเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) มีสถานที่เที่ยวชมในร่มค่อนข้างเยอะกว่ากลางแจ้ง คุณจึงสามารถใช้อาคารต่างๆ เป็นที่เที่ยวชมหรือถ่ายรูปพร้อมกับหลบไอร้อนและแสงแดดรุนแรงในช่วงกลางวันได้อย่างสบาย
  • ฤดูฝน – อาจมีอุปสรรคเล็กน้อยในการเดินทาง และการเดินชมพื้นที่กลางแจ้งของเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) แต่เนื่องจากที่นี่มีอาคารซึ่งสามารถใช้หลบแดดหลบฝนได้แบบสบายอยู่หลายหลัง คุณจึงยังคงท่องเที่ยวได้อยู่พอสมควร ข้อดีคืออากาศจะค่อนข้างเย็นสบายและแดดจะไม่ร้อนแรงมากเท่าในช่วงฤดูร้อน แต่มีข้อเสียเล็กน้อยสำหรับคนชอบถ่ายรูปนั่นคือในจังหวะที่ฟ้าครึ้ม อาจจะทำให้คุณได้รูปที่มีสีสวยสดใสไม่เท่ากับที่ใจต้องการนั่นเอง
  • ฤดูหนาว – นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเดินเล่นเที่ยวชมเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) แห่งนี้ที่สุด เพราะอากาศจะเย็นสบายในขณะที่ยังมีแสงแดดสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปกันแบบเพลิดเพลิน แต่มีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่ในช่วงเย็นฟ้าจะมืดค่อนข้างเร็วกว่าในฤดูอื่น คุณจึงควรเผื่อเวลาและวางแผนการท่องเที่ยวไว้ซักนิดสำหรับในฤดูกาลนี้

เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวชมได้ทั้งครอบครัว คือสำหรับผู้สูงอายุก็เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปยังช่วงอดีตที่สวยงามตามยุคสมัยใกล้เคียงกับในวัยเด็กของท่าน คุณจึงอาจจะได้ฟังเรื่องเล่าสนุกๆ มากมายในยุคอดีตเป็นของแถม สำหรับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ อาจจะได้สนุกกับการทดลองแต่งกายแบบไทยแท้ในสมัยอดีต ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ไม่ง่ายนัก ที่เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) แห่งนี้ ยังเป็นที่ที่คุณจะได้ถ่ายรูปในเครื่องแต่งกายแบบแปลกตาเอาไว้เป็นรูปโปรไฟล์หรือใช้อวดเพื่อนฝูง แถมครอบครัวไหนมีเด็กๆ ยังถือเป็นการดีที่จะได้พาเจ้าตัวเล็กมาทำความรู้จักกับอาหารและขนมแบบไทยๆ รวมถึงยังใช้เป็นบทเรียนสำหรับเพิ่มความรู้รอบตัวให้กับพวกเขาได้อีกด้วย นอกจากนั้น ทุกคนในครอบครัวยังจะได้สนุกไปกับการใช้เงินแบบโบราณในการจับจ่ายใช้สอยในเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ (Mallika City R.E. 124) แห่งนี้ ลองมาเที่ยวดูซิ แล้วจะรู้ว่าใครจะเป็นแชมป์คณิตคิดเร็วของครอบครัวคุณ!