Xperience
/
ประเทศไทย
/
กรุงเทพฯ
ค้นหา

สารบัญ:

destinationDescriptionTitle

ชาวกรุงตัวจริงอยากบอกต่อ... รวมสถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ต้องห้ามพลาด!

กิจกรรมในกรุงเทพฯ ที่เที่ยวในเมือง เที่ยวแบบธรรมชาติ

ที่เที่ยวในกรุงเทพ สำหรับผู้คนและเหล่านักท่องเที่ยวจำนวนไม่ใช้น้อยทราบกันดีว่า กรุงเทพมหานคร ถือเป็นประตูสู่โลกเอเซียอาคเนย์ ต่างชาติหลายคนมักจะแพลนทริปมาพักที่นี่เสมอเพื่อทำความรู้จักกรุงเทพมหานคร ขนาดที่ว่า 2 ถึง 3 วันยังดูน้อยไป เพราะสำหรับเมืองไทย กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่คุณสามารถใช้เวลาหนึ่งหรือสองอาทิตย์ได้โดยง่ายและดูผ่านไปเร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อได้เลย สถานที่ท่องเที่ยวใน กรุงเทพฯ นั้นมีจำนวนมากมายเกินจะบรรยาย คุณสามารถเลือกเที่ยวกรุงเทพฯ (Things to do in Bangkok) เองหรือจะเลือกบริการพาเที่ยว ทัวร์กรุงเทพฯ ก็ให้ความรู้สึกอีกแบบ การเดินทางมายังกรุงเทพมหานครนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีเที่ยวบินไม่ว่าจะเป็น บินตรงหรือพักเครื่องที่กรุงเทพ หรือ ในประเทศไทย อยู่จำนวนไม่น้อย วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวกรุงเทพฯ ตามแบบฉบับของเด็กเมืองหลวงตัวจริงที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งในแต่ละที่ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่อยากให้ทุกคนออกเดินทางตามรอย Traveloka Xperience โดยจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง? ไปดูกันเลยค่ะ!

33 ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ต้องไป ไม่ไปถือว่ามาไม่ถึง!

Wat-Arun

1. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)

วัดอรุณ ถือเป็นหนึ่งในวัดที่มีความสวยสดงดงามที่สุดของกรุงเทพมหานคร หอสังเกตการณ์กึ่งกลางของตึกที่เรียกว่าพระปรางค์มีความสูง 80 เมตร วัดอรุณให้ทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำโดยมีวังแล้วก็วัดพระแก้วอยู่ข้างหลังเป็น background ถ้าเกิดมีโอกาศได้ขึ้นไปข้างบน คุณจะไม่เพียงแค่เห็นทิวทัศน์ที่น่าประทับใจแค่นั้น แต่ว่ายังมีหินโมเสกนับพันที่ลายล้อมภายในนั้นที่สวยมากๆอีกด้วย ถ้าเกิดมองให้ดี คุณจะมีความคิดเห็นว่าภาพโมเสคแสดงถึงทางชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่ท่านประสูติกระทั่งสวรรคต ชื่อจริงของวัดนี้คือ “วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ซึ่งชื่อนี้ตั้งชื่อตามเทวดาฮินดูอรุณา เทพเทวดาที่รุ่งสาง ด้วยเหตุดังกล่าววัดก็เลยมีชื่อเล่นว่าวัดอรุณราชวราราม แม้ว่าเวลาที่ดูแล้วสวยที่สุดที่คนนิยมมากันก็คือตอนพระอาทิตย์ตก รวมทั้งช่วงกลางคืนเมื่อแสงสว่างนับร้อยให้วัดย่ำรุ่งส่องสีทองคำ แต่ก็ใช่ว่างตอนเช้าและบ่ายแก่ๆจะไม่สวยนะคะ แนะนำให้ลองหาเวลามาเดินเล่นและชื่นชมที่นี่ในช่วงเวลาที่คุณยังไม่เคยมาดู รับรองไม่ผิดหวัง วัดอรุณมีค่าเข้าชมคนละ 50 บาท และเนื่องจากเป็นวัด ผู้เข้าชมควรจะแต่งกายสุภาพโดยกระโปรงหรือกางเกงควรหุ้มหัวเข่ารวมทั้งไหล่ เพื่อแสดงความเคารพนับถือสถานที่ ถ้าเกิดคุณไม่มีเสื้อผ้าที่เหมาะสมจะใส่ คุณยังสามารถยืมเสื้อผ้าได้ที่ประตูทางเข้า การจะไปวัดอรุณจะต้องผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะเหตุว่าเรือด่วนมิได้หยุดที่ฝั่งตะวันตกในรอบๆใกล้เคียง วิธีแบบนี้ใช้ได้ผลในด้านดีที่สุดจากท่าเรือท่าเตียน ตรงนั้นคุณสามารถนั่งเรือรับส่งราวๆ 5 บาทเพื่อไปยังอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ

หมายเหตุ: คุณสามารถเลือกเดินทางชมวัดด้วยรถตุ๊กตุ๊กกับวัดอื่นๆได้ อาทิเช่น วัดตรีมิตรแล้วก็วัดโพธิ์ ที่อยู่ในระแวกเดียวกัน หากกำลังมองหา ที่เที่ยวในกรุงเทพ กับครอบครัว เพื่อน คนรัก วัดอรุณ ถือเป็นที่หนึ่งที่คุณสามารถใช้เวลากับคนที่คุณรักได้


Wat-Phra-Keaw

2. วัดพระแก้ว

“วัดพระศรีรัตนศาสดาราม” หรือ วัดพระแก้ว นั้น ตั้งอยู่ในพระราชวังโบราณ เนื่องด้วยพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะในประเทศไทย คนไทยควรจะมาเยี่ยมเยียนวัดพระแก้วอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต จะพูดว่าวังกับวัดพระแก้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญที่หนึ่งในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ เจดีย์ที่สวยสดงดงามในวัดพระแก้ววัดหลวงของกรุงเทพฯ การตกแต่งด้านในของสงฆ์น่าประทับใจมากมายด้วยเจดีย์สีทองคำ รูปปั้น รวมทั้งโบสถ์ของอุโบสถ เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้เห็นรูป วัดพระแก้ว ผ่านตามาจากรูปถ่าย สารคดี รายการโทรทัศน์อย่างน้อยหนึ่งครั้ง

หากสนใจพาเพื่อน ครอบครัวมาเที่ยววัดพระแก้วและก็พระราชวัง ที่นี่เปิดทุกวี่ทุกวัน เวลา 08.30 น. ถึง 15.30 น. และก็มีค่าเข้าชม 500 บาทสำหรับนักเดินทาง – คนไทยสามารถเยี่ยมชมวัดได้ฟรี อย่างไรก็แล้วแต่ คุณควรจะเช็คให้มั่นใจว่าคุณแต่งตัวสุภาพโดยใส่ชุดที่ปิดขาและก็ไหล่ของคุณ ไม่ใส่เสื้อสายเดี่ยว หรือหากคุณไม่มีเสื้อผ้าที่เรียบร้อยเหมาะสมก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ คุณสามารถเช่าชุดได้ที่ปากทางเข้าวัด


Wat-Pho

3. วัดโพธิ์

อีกหนึ่งที่เที่ยว สุดฮิต อีกที่ในกรุงเทพ สำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ Xperience อยากแนะนำคือ ศูนย์กลางเขตเมืองเก่าของ จ.กรุงเทพ นั่นก็คือวัดโพธิ์ ซึ่ง วัดโพธิ์ อยู่ไม่ไกลจากพระราชวัง หลายคนคงคุ้มกับการเรียนชื่อวัดว่า วัดโพธิ์ แต่รู้ไหมว่า วัดโพธิ์มีอีกชื่ออย่างเป็นทางการนั่นคือ "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร" ที่นี่ นอกจากจะเป็นตัววัดแล้ว ยังมีส่วนที่เป็นสวน เจดีย์ และก็ปรางค์นั้นมีคุณค่าแก่การมาเยี่ยมเยียน สักการะเป็นอย่างมาก และไฮไลท์อยู่ที่พระพุทธรูปนอน ในโบถท์ ซึ่งรูปปั้นมีขนาด 45 เมตร และถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปกันมาก เป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก วัดโพธิ์ถือเป็นอีกที่หนึ่งที่เหมาะกับการไปเที่ยวทั้งกับครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือคนเดียวเป็นอย่างมากเลย

วัดโพธิ์ เปิดแต่ละวัน เวลา 08.30 น. ถึง 18.30 น. รวมทั้งค่าเข้าชมพระพุทธนอนหลับ 100 บาท คุณสามารถเยี่ยมชมที่เหลือของคอมเพล็กซ์ได้ฟรี วัดโพธิ์ยังเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาสอนนวดที่มีชื่อที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่คุณสามารถเยี่ยมชมได้ในฐานะนักเดินทาง ไม่ว่าคุณจะเรียนศิลป์การนวดแผนไทยด้วยตัวเองหรือไปนวดตรงนั้น ราคาเริ่มที่ 260 บาท


Bangkok-Rooftop

4. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร

มาเริ่มกันที่แรก นั่นก็คือ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร ซึ่งแต่เดิมวัดนี้ชื่อว่า วัดแหลม หรือ วัดไทรทอง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่า The Marble Temple ซึ่งตัววัดมีความสวยงาม ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี อีกทั้งภายในวัดยังมีพระอุโบสถ และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่น่าเดินเที่ยวชมเป็นอย่างมาก บรรยากาศก็ร่มรื่นมีลมพัดผ่านตลอดเวลา แนะนำสำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและรักความสงบร่มเย็นเหมาะแก่การเที่ยววัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหารเป็นอย่างยิ่ง

ที่ตั้ง : 69 ถนนพระรามที่ 5 แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 5.30 น.

5. มหานคร สกายวอล์ค

ต่อมาสถานที่ท่องเที่ยวที่เด็กกรุงตัวจริงขอแนะนำ ‘มหานคร สกายวอล์ค’ แลนมาร์คแห่งใหม่ของเมืองไทยที่สูงที่สุด จะทำให้นักท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ใหม่ไปกับยอดตึกด้วยระดับความสูง 314 เมตร โดยที่ ‘มหานคร สกายวอล์ค’ นั้นเป็นจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศาที่สูงที่สุดในประเทศไทย เรียกได้ว่ามองเห็นวิวแบบพาโนรามารอบกรุงเทพเลยทีเดียว ซื้อบัตรเข้าชมตึกมหานครที่นี่

ที่ตั้ง : คิง เพาเวอร์ มหานคร 114 ถ.นราธิวาสราชนครินทร, สีลม, บางรัก กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

6. ซาฟารีเวิล์ด

สวนสัตว์เปิด ดินแดนอาณาจักรของเหล่าสัตว์นานาชนิด เป็นที่เที่ยวและแหล่งเรียนรู้สำหรับผู้ที่สนใจดูสัตว์ ที่นี่มีทั้งสัตว์แปลกๆ, สัตว์หายาก, สัตว์น่ารักๆ จากทั่วโลกมาให้ได้ชมกัน นอกจากนั้นยังมีการแสดงโชว์ของเหล่าสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น โชว์ช้าง, โชว์นกแก้วซันคอนนัวส์, โชว์ปลาโลมา และอื่นๆ ซึ่งในสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์นั้นแบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ ซาฟารีปาร์ค, มารีนปาร์คหรือสวนน้ำ และจังเกิลวอล์ค (พื้นที่เปิดใหม่ ล่าสุด)

ที่ตั้ง: 99 ถนนรามอินทรา สามวาตะวันตก คลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

วันเวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00 น. – 17.00 น.

7. สยามเลเซอร์เกม

เปิดประสบการณ์เที่ยวแปลกใหม่ไม่เหมือนใครที่ สยามเลเซอร์เกม ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนสนุกสนานไปกับการประลองฝีมือยิงปืนน่าตื่นเต้น ที่จะทำให้ทั้งตัวคุณและแก๊งเพื่อนนั้นได้ทดสอบไหวพริบไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการความท้าทายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นอย่างมาก ซื้อบัตรเข้าเล่นสยามเลเซอร์เกมที่นี่

ที่ตั้ง : Novotel Siam Square ซอย 6, ถนนพระราม 1, แขวงปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร 10330 (ชั้นใต้ดิน)

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.30 น. – 22.30 น.

8. สวนหลวง ร.9

สวนหลวง ร.9 พื้นที่สีเขียว ที่ผู้คนต่างนิยมมาพักผ่อนและออกกำลังกาย ซึ่งสวนหลวง ร.9 นี้ เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีพื้นที่มีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ ตั้งอยู่แถบชานเมือง ของกรุงเทพฯ และมีต้นไม้มากกว่า 3,000 ชนิด ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้ต่าง ๆ ไว้มากมาย โดยจะแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ทั้งโซนสถานรัชมงคล โซนสวนกิจการ หรือโซน ลานพฤกษพรรณ ที่ถูกออกแบบเพื่อนักท่องเที่ยวทุกคน

ที่ตั้ง : ซอยสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) ถนนเฉลิมพระเกรียติ ร.9 แขวงหนองบอน ประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 05.00 น. – 19.00 น.

ติดต่อ : 02-328-1385

9. สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา

อีกหนึ่งแลนมาร์คใหม่ที่สายถ่ายรูปตัวจริงพลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวทิวทัศน์รอบ ๆ บริเวณสวนลอยฟ้านี้เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ ทำให้ทุกคนจะได้พบกับแหล่งพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่นแน่นอน

ที่ตั้ง : สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา ถนนพระปกเกล้า แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 05.00 น. – 20.00 น.

10. สวนรถไฟ หรือ สวนวชิรเบญจทัศ

หากใครที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนใจกลางกรุงฯ สวนรถไฟ หรือ สวนวชิรเบญจทัศ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวกรุงเทพที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย นั่งพักผ่อน หรือเข้าชมอุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ เป็นต้น จุดเด่นของที่นี่ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้เพราะสวนสาธารณะแห่งนี้ถูกสร้างในแนวคิด “สวนครอบครัว” และเป็น “สวนสาธารณะในฝันของนักปั่นจักรยาน” จึงทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนชื่นชอบมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

ที่ตั้ง : ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงจตุจักร, ลาดยาว, เขตจตุจักร, กรุงเทพมหานคร 10900

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 05.00 น. – 21.00 น.

ติดต่อ : 02-537-9221

11. ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์

ศูนย์รวมสินค้าราคาถูกมากมายที่เหล่าวัยรุ่นต่างให้ความสนใจ พร้อมทั้งตกแต่งสไตล์วินเทจมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนที่ไหน ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ถ่ายรูปบริเวณตลาดเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำและได้ชอปปิ้งไปกับสินค้าหลากลายสไตล์ไม่ซ้ำใคร หากพูดถึงตลาดวัยรุ่นอินดี้ต้องยกให้ ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ เป็นอันดับหนึ่งอยู่เสมอ

ที่ตั้ง : ซ.ศรีนครินทร์ 51, ถ.ศรีนครินทร์, หนองบอน, ประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ ตั้งแต่ 17.00 น. – 22.00 น.

ติดต่อ : 081-827-5885

12. ตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา

หากพูดถึงตลาดนัดยามค่ำคืนอีกที่หนึ่งที่พลาดไม่ได้ก็คงหนีไม่พ้น ตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา สถานที่สุดชิคที่เหล่าวัยรุ่นกรุงเทพฯ ลงความเห็นตรงกันว่าเป็นแหล่งขายของที่เลิศที่สุด เพราะที่ตลาดแห่งนี้เต็มไปด้วยสินค้ามากมายทั้งเสื้อผ้า สินค้ามือหนึ่ง และสินค้ามือสองราคาถูก แถมยังมีของกินมากมาย เหมาะสำหรับวัยรุ่นวัยใสเป็นอย่างมาก

ที่ตั้ง : 510/7 ถนน ประดิษฐ์มนูธรรม แขวง ท่าแร้ง บางเขน กรุงเทพมหานคร 10220

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 17.30 น. – 02.00 น.

ติดต่อ : 082-357-3535

13. ตลาดวังหวัง

ขึ้นชื่อว่าตลาด ‘เด็กแนว’ ตลาดของเด็กมหา’ลัยย่านศิริราชและท่าพระจันทร์ ที่จะพลาดไม่ได้เด็ดขาดกับของกินอร่อยที่สุดมาอย่างยาวนานตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าของเรา ซึ่งที่ตลาดแห่งนี้มีสินค้าตั้งแต่เสื้อผ้าไปถึงของกินเก่าแก่ราคาถูก ที่บางอย่างเราก็ไม่สามารถหาได้จากตลาดอื่น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ล้วนนิยมเดินเที่ยวตลาดแห่งนี้เพราะความเก่าแก่ที่เป็นซิกเนอเจอร์ของที่นี่

ที่ตั้ง : 59/3 วังหลัง ศิริราช บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 น. – 18.00 น.

14. ตลาดพลู

ตลาดพลู ตลาดเก่าแก่ย่านฝั่งธนฯ ภายในตลาดเต็มไปด้วยของกินขึ้นชื่อที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นมากมาย เป็นร้านตำนานขายกันมานานหลายสิบปีไม่ว่าจะเป็นคาวหรือหวานก็ล้วนถูกปากอย่างแน่นอน แถมยังราคาถูกอีกด้วย ซึ่งถ้าหากคุณมีเงินเพียง 100 บาทเดินเข้าตลาดไป กลับออกมารับรองได้เลยค่ะว่าจะมีของกินติดไม้ติดมือหลายอย่างแน่นอน ซึ่งที่ตลาดพลูแห่งนี้เปิดให้บริการทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งการเดินทางก็ง่ายมาก ๆ ค่ะ เพียงนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีตลาดพลู ออกทางออก2 ค่ะ เดินต่อประมาณ 10 นาทีก็ถึงตลาดแล้ว หรือว่าจะต่อวิน มอเตอร์ไซต์มาก็ได้ค่ะ

ที่ตั้ง : ตลาดพลูตั้งอยู่บนถนนเทอดไท ฝั่งธนบุรี

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 น. – 20.00 น.

15. ถนนเยาวราช

ไชน่าทาวน์ ถนนเยาวราช ถนนสายหนึ่งของกรุงเทพฯ มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากมาย เพราะที่นี่ถนนสายนี้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหารและสินค้าราคาถูกมากมาย อีกทั้งยังเดินทางง่ายเพียงนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาขึ้นที่สถานีวัดมังกร ซึ่งที่นี่เปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึงตี 1 เรียกได้ว่าเป็นถนนที่ไม่เคยหลับใหลเลยทีเดียว พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเดินเล่นและถ่ายรูปมุมไหนก็สวยเหมือนอยู่เมืองจีนเลยค่ะ

ที่ตั้ง : ถนนเยาวราช สัมพันธวงศ์, กรุงเทพมหานคร 10100

วันเวลาเปิด – ปิด : ตั้งแต่ 06.00 น. – 23.00 น.

16. ช่างชุ่ย

พาเที่ยวช่างชุ่ยอีกหนึ่งแลนมาร์คที่ชาวกรุงฯ ฮิปสเตอร์ย่านฝั่งธนต้องเคยไป ซึ่งช่างชุ่ยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะแก่การถ่ายรูปเก๋ ๆ อวดลงโซเชียลมากที่สุด ทั้งยังเป็นสถานที่ปล่อยของและความครีเอทีฟของพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายในแบบที่ไม่เหมือนใครให้ชาวกรุงเทพ ฮิปสเตอร์ได้ซื้อสินค้าที่แตกต่าง โดยบริเวณรอบ ๆ อาณาจักร ที่รวมทั้งงานศิลปะ ไอเดีย แฟชั่น และอีกหลายสิ่ง บนพื้นที่กว่า 11 ไร่ และไฮไลท์เด่นของที่นี่ก็คือ เครื่องบินลำใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางสถานที่ นอกจากนี้ ช่างชุ่ยยังเป็น Creative Space ให้ทุกคนได้มารวมตัวกันอีกด้วย

ที่ตั้ง : 462/8 ถนน สิรินธร แขวง บางพลัด เขต บางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 น. – 23.00 น.

17. บางรัก เจริญกรุง

แหล่งรวมสถานที่ถ่ายรูปและคาเฟ่ เต็มไปด้วยจุดเช็คอินเดินเที่ยวได้ไม่รู้เบื่อ หากในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ไม่รู้จะไปที่ไหนดี? บางรัก เจริญกรุง ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ตอบโจทย์สายถ่ายรูปชิค ๆ อยู่ไม่น้อย เพราะย่านนี้เต็มไปด้วยคาเฟ่และสถาปัตยกรรมกรุงเก่าร่วมสมัย ที่ไม่ว่าจะถ่ายออกมามุมไหนก็ให้ความรู้สึกที่เท่ไม่ซ้ำใคร แถมยังมีคาเฟ่น่านั่งและร้านอาหารอร่อย ๆ อีกมากมาย

ที่ตั้ง : ถนนเจริญกรุง

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 น. – 21.00 น.

18. ท่ามหาราช

ศูนย์การค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือ คอมมูนิตี้มอลล์ ที่นักท่องเที่ยวล้วนให้ความสนใจเพราะเป็นศูนย์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยศิลปะ แถมยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยศิลปะ มรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อคนกรุงเทพได้สัมผัสบรรยากาศดี ๆ อีกทั้งยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้าเครื่องประดับ มากมาย แถมยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น วัดพระแก้วศาลหลักเมือง สนามหลวง เดินทางสะดวกด้วยขนส่งสาธารณะ หรือรถส่วนตัว ก็ได้ค่ะ

ที่ตั้ง : 1/11 ตรอก มหาธาตุ ถ.มหาราช, แขวง บรมมหาราชวัง เขตพระนคร, กรุงเทพมหานคร 10200

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 น. – 21.00 น.

ติดต่อ : 02-024-1393

19. ท้องฟ้าจำลอง

ท้องฟ้าจำลอง เป็นสถานที่ดูดาว ให้ความรู้เรื่องดาราศาสตร์โดยจำลองเป็นโดมท้องฟ้าขนาดใหญ่กลางเมืองกรุงเทพฯ เหมาะสำหรับคนที่สนใจอยากลองมานอนดูดาว และสถานศึกษาที่สามารถพานักเรียน นักศึกษา มาหาความรู้นอกห้องเรียนได้ นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการอื่นๆนอกโดมที่อาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์, อาคารโลกใต้น้ำ, อาคารธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอาคารความตระหนักรู้ด้านพลังงาน ค่าเข้าชมจะมีค่าบัตรรอบภาษาไทย: เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 30 บาท และรอบภาษาอังกฤษ: เด็ก 30 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท

ที่ตั้ง : ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 928 928 ซ.เอกมัย, ถ.สุขุมวิท คลองเตย, กรุงเทพมหานคร 10110

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่ 09.00 น. – 16.30 น.

ติดต่อ : 02-3910544, 02-3920508, 02-3921773

20. The Commons ทองหล่อ

‘The Commons ทองหล่อ’ คอมมูนิตี้มอลล์ใจกลางทองหล่อที่มีทั้งความชิค ความเก๋ และความหรู ที่มีไอเดียเพื่อเป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ชาวทองหล่อได้ออกมาทำกิจกรรมพบปะสังสรรค์หรืออ่านหนังสือ โดยมีการออกแบบที่เน้นความโปร่ง โล่ง ไม่แออัดเหมือนตึกอาคารในย่านนี้ อีกทั้งยังมีการแบ่งโซนอย่างชัดเจนทั้งหมด 4 โซน คือ โซน Market โซน Village โซน Play yard โซน โซน Top yard ซึ่งแต่ละโซนให้ความน่าสนใจในเรื่องอะไรบ้าง ต้องลองไปดูแล้วล่ะค่ะ!

ที่ตั้ง : 335 ซ.ทองหล่อ 17 ถ.สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 น. – 21.00 น.

ติดต่อ : 089-152-2677

21. The Commons ศาลาแดง

คอมมูนิตี้มอลล์แหล่งรวมพลแก๊งเพื่อนที่เต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่เจ้าดัง เป็นจุดเช็คอินอีกหนึ่งจุดที่เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน ที่สามารถมาใช้งานได้ทุกวัน ซึ่งยังคงคอนเซปท์ เป็นคอมมูนิตี้มอลล์รักษ์โลก ถ่ายรูปสวย เดินทางสะดวก เป็นจุดพบปะและสังสรรค์แห่งใหม่ของคนกรุงเทพ โดยวิธีการเดินทางก็ง่ายและสะดวกมาก ๆ ค่ะ เพียงนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสลงที่สถานีศาลาแดงหรือรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานีสีลม แล้วต่อด้วยการนั่งวินมอเตอร์ไซด์หรือแท็กซี่เข้ามาที่ศาลาแดงซอย 1 ได้เลยค่ะ

ที่ตั้ง : 126 ศาลาแดง 1, สีลม, เขตบางรัก, กรุงเทพมหานคร 10500

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 น. – 20.00 น.

ติดต่อ : 080-281-8339

22. พิพิธภัณฑ์ จิมทอมป์สัน

พิพิธภัณฑ์ จิมทอมป์สัน เป็นพิพิธภัณฑ์บ้านเรือนไทย ที่มีศิลปโบราณ ที่เป็นของสะสมของ เจมส์ เอช. ดับเบิลยู ทอมป์สัน ภายในมีพิพิธภัณฑ์ของสะสมมากมายจากหลากหลายช่วงเวลา โดยสิ่งของขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ ผ้าไหม นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายสินค้า และร้านอาหารไทยที่มีเมนูขึ้นชื่อ อาหารตำรับชาววังที่จะมีเป็นซีซัน (ช่วงหน้าร้อน) เท่านั้น นั่นคือ ข้าวแช่

ที่ตั้ง : 6/1 ซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระราม 1, แขวงวังใหม่, เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00 น. – 18.00 น.

23. หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพฯ

สถานที่ที่โด่งดังเรื่องการแสดงงานศิลปะที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย คงหนีไม่พ้น หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพฯ โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 9 ชั้น ดังนี้

ชั้น 1 -4 เป็นส่วนที่เรียกว่า ART-RIUM@BACC

ชั้น 1 เป็นส่วนของการออกร้านจากสถาบันการศึกษาทางศิลปะและดนตรีชั้นนำ

ชั้น 2 แหล่งร้านหนังสือที่คัดสรรพิเศษและแตกต่าง รวมทั้งหนังสือหายาก หนังสือทำมือ และภาพยนตร์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันโดยหอภาพยนตร์แห่งชาติและมูลนิธิ

ชั้น 3 งานหัตถกรรมจากโครงการในพระราชดำริ

ชั้น 4 มการจัดแสดงภาพถ่ายของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศ และทัศนศิลป์ร่วมสมัยจากกลุ่มแกลลอรี่ชั้นนำที่มีการปลัดเปลี่ยนอยู่เสมอ

ชั้น 5 สำหรับการประชุม ฉายภาพยนตร์ การแสดงดนตรี ละครเวที อบรม เสวนา และการแสดงต่าง ๆ

ชั้น 7-9 ที่จัดแสดงงานทัศนศิลป์

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าเที่ยวของกรุงเทพฯ อีกทั้งบริเวณรอบ ๆ หอศิลป์ฯ ยังเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งวัยรุ่นมากมาย

ที่ตั้ง : 939 ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่ 10.00 น. – 19.00 น.

ติดต่อ : 02-214-6630

24. เสาชิงช้า

สถานที่ท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ ที่สุดท้ายที่เราจะพาทุกคนไปเที่ยว ก็คือ เสาชิงช้า ซึ่งหลายคนที่ไม่คุ้นชินกับกรุงเทพอาจสงสัยว่า เสาชิงช้านั้นมีอะไรน่าเที่ยวเพราะเคยผ่านไปผ่านก็เห็นแต่อนุสาวรีย์ของเสาชิงช้าเท่านั้น แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าบริเวณรอบ ๆ เสาชิงช้านั้นเต็มไปด้วยร้านอาหารเจ้าเก่าแสนอร่อยและมีวัดวาอารามที่สวยงามอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวกรุงเทพฯนิยมขอพรอีกด้วยค่ะ เหมาะสำหรับทุกคนที่ชื่นชอบการเที่ยววัด รักการถ่ายรูป และเป็นฟู๊ดไฟท์เตอร์ตัวจริง สถานที่เที่ยวกรุงเทพ ‘เสาชิงช้า’ ตอบโจทย์ทุกสไตล์การเที่ยวมากที่สุด

ที่ตั้ง : 239 ถ.ดินสอ, แขวง บางขุนพรหม, พระนคร, กรุงเทพมหานคร 10200

วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่ 09.00 น. – 18.00 น.

25. Sky Bars ในกรุงเทพฯ

บอกเลยว่าในกรุงเทพมหานครนั้น นอกจากจะมีท้องฟ้าและวิวพระอาทิตย์ตกที่บอกเลยว่าสุดยอดมากแล้ว ยังมีร้านอาหาร ร้านนั่งชิว อีกมายมายหลากหลายสไตล์ ที่บอกเลยว่าจะไม่มีวันไหนที่คุณจะไม่เพลินใจกับการมา ยิ่งถ้าได้มา hang out กับเพื่อน คนรัก แล้วละก็ ฟินกับวิวหลักล้านกันไปข้างนึงแน่ๆค่ะ โดยเฉพาะการเพลิดเพลินกับวิวบนสกายบาร์ในกรุงเทพ ที่ไหนก็ได้ในกรุงเทพฯ สกายบาร์ที่ฮ็อตและ Traveloka อยากแนะนำคือที่ Sirocco Skybar ในโรงแรม Lebua ใจกลางเมือง บาร์ที่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้เลือก พร้อมอีกทั้งยังมีดนดรีสด คลาสลิกให้ฟังสลับกันไป ไว้ว่าจะต้องมีการแต่งกายที่สุภาพ ซึ่งแปลว่าคุณจะต้องใส่กางเกงขายาวและก็รองเท้าแบบปิด ขั้นต่ำก็สำหรับเพศชาย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารอื่นๆที่น่าสนใจอีกด้วย ดูได้ที่ อาหารและเครื่องดื่ม


Jao-Phra-Ya-River

26. ล่องเรือดูแม่น้ำเจ้าพระยา

นอกจากบาร์สุดฟินในกรุงเทพฯแล้วนั้น คุณยังสามารถซื้อทัวร์ ร่องเรือชมวิวหรือดินเนอร์แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ซึ่งเป็นสิ่งที่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางจำนวนมากติดใจ เพราะคุณจะสามารถลิ้นรสบรรยากาศสุดฟินไม่รู้ลืม ที่สองข้างฝั่งของเรือจะเป็นวิวเมืองอันสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าได้ทัวร์ดินเนอร์ไปด้วยแล้วละก็ จะทำให้การทานอาหารมื้อเย็นของคุณเป็นที่น่าจดจำเป็นอย่างมากเลยแน่นอน


The-river-front

27. เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ Asiatique

Asiatique หรือ เอเชียทีค ถือเป็นตลาดตอนกลางคืนที่วางแบบเทียมสำหรับนักเดินทางริมฝั่งเจ้าพระยา แล้วก็ยังมีบริการเรือรับส่งฟรีจากท่าเรือสาทร รอบๆตลาดมีการจัดวางอย่างยอดเยี่ยม ได้รับการดูแลอย่างยอดเยี่ยม นอกเหนือจากร้านมากมายที่ให้คุณเลือกชิมแล้ว คุณยังจะเจอห้องอาหารแล้วก็บาร์มากมายที่มีวิวดีๆอีกด้วย


Lum-Phi-Ni-Park

28. สวนลุมพินี

สวนลุมพินี หรือ เรียกสั้นๆว่าสวนลุม เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เป็นโอเอซิสสีเขียวของจังหวัดกรุงเทพ ถ้าคุณต้องหารหนีจากความเร่งรีบและก็ครึกโครมของชีวิตในเมือง คุณสามารถพักตรงนี้ ในสวนลุมพินีคุณสามารถเดินเที่ยวสบายๆนั่งเรือพายในทะเลสาบหรือแค่เพียงนั่งชมวิวเพลิดเพลินใจกับบรรยากาศก็สามารถทำให้คุณผ่อนคลายได้มากทีเดียวใน กรุงเทพ ในหลางเมือง ในช่วงค่ำๆก็ยังมีการบริหารร่างกาย เต้นแอโรบิกฟรีๆให้คุณได้ร่วมสนุกร่วมกับผู้คนนับร้อยที่มี vibes เดียวกัน คุณสามารถไปเต้น มีเสียงดนตรีแล้วก็เพลิดเพลินกับการบริหารร่างกายที่นอกจากจะทำให้คุณภาพดีแล้ว ยังมีโอกาศได้เจอเพื่อนใหม่อีก นี่เป็นการปรับเปลี่ยนที่ดีจากชีวิตในเมืองใหญ่ที่แสนวุ่นวายมาเจอความสุขเล็กๆในสวนสาธารณะแห่งนี้ และก็แน่ๆว่านี่เป็นสถานที่โปรดปรานของใครหลายๆคนในกรุงเทพมหานคร


Khao-san-road

29. ถนนข้าวสาร

ข้าวสาร ที่ไม่ได้หมายถึงข้าวสาร นี่เป็นถนนหนึ่งที่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รวมรวยคนไทยและต่างชาติมากมาย เป็น Mekka สำหรับแบ็คแพ็ค (Backpacker) ในกรุงเทพมหานคร มีบ้านพักราคาถูก บาร์ คลับ แผงขายของกิน ร้านรวงเล็กๆแล้วก็อีกเยอะแยะ ที่นี่ คุณจะเห็นแมงป่องทอด ตั๊กแตนทอดหรือแมลงอื่นๆ วางขายตามถนนข้าวสารให้คุณ นักท่องเที่ยวได้ลองกัน หากคุณยังไม่เคยลอง นี่เป็นที่ๆหนึ่งที่จะเปิดประสบการณ์นักท่องเที่ยวได้มากเลยทีเดียว ผู้มาเยี่ยมเยือนกรุงเทพมหานครทุกคนควรจะได้ลองมาที่ข้าวสารสักครั้งนึงในชีวิต เป็นถนนที่คุ้มแก่การเยี่ยมเยือนดูมากที่สุดที่หนึ่งในกรุงเทพเลย


Shuttle-boat

30. ล่องเรือข้ามคลอง

ไม่เพียงแต่ในแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้นที่คุณสามารถซื้อทัวร์ล่องเรือชมวิว บรรยากาศที่ดีได้ แต่ยังสามารถล่องเรือในคลองเล็กๆ ซึ่งเหมาะที่จะรวมการเยี่ยมชมตลาดตลิ่งชันเพราะคุณสามารถทำทัวร์ที่ยอดเยี่ยมคนเดียวหรือเป็นกลุ่มจากที่นั่น คุ้มค่ามากที่จะผ่านลำคลองและชมวิถีชีวิตท้องถิ่น


JJ-Market

31. ตลาดนัดจตุจักร

ตลาดนัดสวนจตุจักร หรือ เจเจ หรือ JJ Market ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดที่หนึ่งในไทย คุณสามารถหาซื้อข้าวของราคาเป็นมิตร ไม่ว่าจะเป็นของใช้หรือของฝาก, ของมือสอง, ต้นไม้ เทียนหอม, ซื้อเสื้อผ้า, อาหารและแม้แต่สัตว์เลี้ยงได้ที่นี่ อย่างที่บอกว่าไม่ว่าจะเป็นของมือ 1 หรือ ของมือ 2 ก็ตาม ที่นี่มีแผงขายของกว่า 10,000 ร้าน ตลาดเจเจที่นี่ถือว่ามีทุกอย่างที่คุณตามหา (อยู่ที่ว่าคุณจะเดินหาเจอไหม) นักท่องเที่ยวมากมายหลายชาติ หรือแม้กระทั่งคนไทยเองนิยมมาเดินเล่นที่แห่งนี้มาก เพราะตลาดนี้มีทุกอย่างที่คุณต้องการ ตลาดนัดจตุจักรเปิดให้เดินเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น.


Thailand-mall

32. ห้างสรรพสินค้า

อีกหนึ่งสิ่งเป็นที่นิยมมากสำหรับคนไทย และชาวต่างชาติที่ยังไงก็ต้องมา นั่นคือ ห้างสรรพสินค้ามากมายในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น สยามพารากอน, เซ็นทรัล, ไอคอนสยาม, สามย่านมิตรทาวน์ และอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ควรพลาด คำแนะนำคือ หากอยากเดินทางรวดเร็วขึ้นควรนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสไปและเดินจากที่นั่นโดยเฉพาะสยามพารากอน ซึ่งใกล้กับเซ็นทรัลเวิลล์, สยามวัน หรือสยามเซ็นเตอร์ซึ่งมีสินค้ายอดนิยมมากมาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ของที่ระลึก ภาพยนตร์ (ต้นฉบับและสำเนา) และอื่นๆ อีกมากมายที่จะนำเสนอคุณ

33. ตลาดนัดรถไฟ รัชดา

สำหรับตลาดนัดรถไฟ รัชดานั้นได้ถูก ปิดถาวร เรียบร้อยแล้ว

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 33 สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ที่ Traveloka นำมาฝากทุกคนในวันนี้ เรียกได้ว่าเที่ยววันเดียวไม่หมดเลยจริง ๆ ซึ่งสถานที่เที่ยวทั้งหมดตามแบบฉบับเด็กกรุงตัวจริงซึ่งคุณต้องห้ามพลาดเด็ดขาด!

สวนน้ำคลายร้อนในกรุงเทพฯ และใกล้กรุงเทพฯ

แงงงง ประเทศไทยจะร้อนกว่าทะเลทรายซาฮาราไม่ได้! ยิ่งช่วงซัมเมอร์นี่ไม่ต้องพูดถึง แทบลมจับ! โอเค นอกจากการไปเดินห้างรับแอร์เย็นๆแล้ว สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่แฮงเอ้าดีๆ มีกิจกรรมให้ทำ คลายร้อนใกล้ๆกรุงเทพฯ ละก็ วันนี้เรามีที่ชิคๆมาแนะนำทุกคน รับรองว่าสนุก มันส์ สุดขั้ว เพราะแต่ละที่ๆแอดรวบรวมมาวันนี้ Xperience เชื่อว่าทุกคนรู้จัก แต่ยังไม่เคยไป เอาเป็นว่า ไปดูกันเล้ยยยยย

Vana-Nava

1. วานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Water Jungle Hua Hin)

พร้อมสำหรับความสนุกๆแล้วหรือยัง? ที่ๆแรกที่อยากจะมาแนะนำวันนี้ คือ สวนน้ำวานา นาว่า หัวหิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย! เป็นสถานที่ที่เหมาะจะพาครอบครัว คนรัก และผองเพื่อนไปดับร้อนกับเครื่องเล่นสนุกๆสุดเสียว เพราะนอกจากฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจที่มีน้ำตกและน้ำพุแล้ว ยังมีเครื่องเล่น สไลเดอร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลกที่อยู่ไม่ไกลจากหัวหินอีกด้วย! 

การเข้าสวนสนุกที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ 19 แบบ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดมากมาย หรือแม้แต่แหล่งช้อปปิ้ง รับรองว่าคุณจะไม่มีวันเบื่อ ผู้คนจากทั่วประเทศไทยมาที่สวนน้ำแห่งนี้เพื่อเล่นเครื่องเล่นระดับโลก พร้อมกับระบบการรักษาความปลอดภัยสูงสุดของคุณ โดยมีเจ้าหน้าที่จะคอยดูแล กำกับเครื่องเล่นในแต่ละจุดเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำอย่างถูกต้อง หากคุณกำลังมองหาบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้หัวใจของคุณเต้นแรง วันนี้แอดขอแนะนำ The Abyss คือเครื่องเล่นที่จะมีคนหกคนเล่นกระดานโต้คลื่นขึ้นลงได้สูงถึง 45 กม. ต่อชั่วโมง! หากคุณต้องการความตื่นเต้นท่ามกลางกระแสน้ำ Aqua Loop คือเครื่องเล่นที่มีแก่งน้ำหลายระดับ Master Blaster และ Superbowl เป็นเครื่องเล่นสวนน้ำความเร็วสูงอีก 2 แบบที่คุณไม่ควรพลาด!! และถ้าคุณแค่ต้องการพักผ่อน Lazy River ก็เหมาะสำหรับการล่องลอยไปตามทาง 


สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจ เรามีโปรโมชั่นเด็ดๆ จาก Traveloka Xperience มาฝากด้วยน้า บัตรเข้าสวนน้ำ 1 วัน เหลือเพียง 1,050 บาท (จากราคาเต็ม 1,500 บาท) ถึง 31 ธันวาคมนี้เท่านั้น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บัตรสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์จังเกิล


Dream-world

2. ดรีมเวิลด์ (Dream World)

อีกหนึงสถานที่ดับร้อนที่ใกล้กรุงเทพ นั่นก็คือ “ดรีมเวิลด์” ไม่ว่าจะไปเดท ไปกับเพื่อน หรือไปกับครอบครัว อยากบอกว่า “ดรีมเวิลด์” เป็นหนึ่งในช้อยที่ทุกคนควรไป!  

ดรีมเวิลด์เป็นสวนสนุกที่มีขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดปทุมธานี ใกล้ๆกรุงเทพฯนี่เอง ใช้เวลาขับรถไม่ถึงชั่วโมงจากใจกลางกรุงเทพฯ ในสภาพการจราจรปานกลาง สวนสนุกแบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน รวมถึง Dream World Plaza, Dream Gardens, Fantasy Land และ Adventure Land โดยแต่ละโซนจะมีเครื่องเล่น สถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมเฉพาะกันไป

ตั้งแต่รถไฟเหาะไปจนถึงเครื่องเล่นอันเงียบสงบ Dream World เหมาะสำหรับเด็ก ผู้ใหญ่ทุกวัย โดยจุดดึงดูดหลักของสวนสนุกคือ Adventure Land ซึ่งเป็นโซนที่ใหญ่ที่สุด โดยมีรถไฟเหาะ ล่องแพในแม่น้ำผ่าน “แกรนด์แคนยอน” และ “สโนว์ ทาวน์” ซึ่งเป็นพื้นที่ในร่มที่ทุกคน จะได้สัมผัสกับหิมะ เล่นเลื่อนหิมะ และเล่นสโนว์บอล อีกทั้ง “ดรีมการ์เดนส์” ที่มีตีมธรรมชาติเหมาะสำหรับเด็กๆ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวเช่นระบบรถไฟขนาดเล็กและรถแข่งขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับขบวนพาเหรดวันหยุดสุดสัปดาห์ มาสคอต และมหกรรมดนตรีแบบลอยตัว Fantasy Land ซึ่งรวมถึงปราสาทของเจ้าหญิงนิทรา รถฟักทองของซินเดอเรลล่า และบ้านของยักษ์ ก็เหมาะสำหรับเด็กเล็กเช่นกัน 


ดีลพิเศษสุดๆ สำหรับบัตรเวิลด์ซุปเปอร์วีซ่า (World Super Visa) ที่รวมทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าเข้า และยังสามารถเล่นเครื่องเล่นได้ไม่จำกัดรอบ รวมถึงเมืองหิมะ, โกคาร์ต, เรือถีบ, และเรือบั๊ม เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆๆๆๆ ซื้อกับ Traveloka Xperience วันนี้ จ่ายเพียง 950 บาท/คน เท่านั้น (ราคาเต็ม 1,000 บาท) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บัตรสวนสนุกดรีมเวิลด์


Pororo-park

3. สวนน้ำโพโรโระ อควาพาร์ค กรุงเทพฯ (Pororo AquaPark)

อยากไปเที่ยวกับครอบครัวจัง ไป!! เก็บกระเป๋าและรับส่วนลดตั๋วเข้าชม Pororo AquaPark! ที่ตั้งอยู่ใจกลางใกล้ตัวเมืองกรุงเทพฯ เดินทางสะดวกสบายและจะพาคุณไปยังชั้น 6 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาบางนาได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสวนสนุกแห่งนี้ ได้รับการรับรองจากสมาคมสวนสนุกและสถานที่ท่องเที่ยวนานาชาติ รับประกันคุณภาพและความปลอดภัย ด้วยความสนุกในสวนน้ำกว่า 10,000 ตารางเมตร มีอะไรให้สำรวจมากมายสำหรับเด็กทุกวัย สไลเดอร์ Pororo's Funnel ความสูง 600 ม. เครื่องเล่น Pororo's River ที่ยาว 400 ม. สไลด์เดอร์ Tong Tong's Magic Slide ที่ทำให้ทุกคนในครอบครัวเลื่อนผ่านเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ ด้านล่าง และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นอีกมากมาย เด็กๆ ยังสามารถว่ายน้ำได้ตามใจชอบที่โซนสนามเด็กเล่น Pororo's สระสำหรับเด็ก 9 สระพร้อมกิจกรรมเล่นน้ำแบบอินเทอร์แอคทีฟและสไลเดอร์ ระหว่างรอสามารถผ่อนคลายได้ที่ห้องรับรองสไตล์รีสอร์ตของสวนน้ำในขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ได้รับการฝึกอบรมตามมาตรฐานสากลคอยดูแลบุตรหลานของคุณ สิ้นสุดการเดินทางที่ไร้กังวลด้วยอาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อยที่สวน หลังจากการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นรอบๆ รีสอร์ท คุณสามารถพาเด็กๆ มาพบปะและเล่นกับ Pororo the 'Little Penguin' และผองเพื่อนการ์ตูนของเขา ปิดท้ายวันที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยการแสดงเต้นแสนน่ารักและความบันเทิงจากตัวการ์ตูนที่เป็นสัญลักษณ์ 

สุดท้ายนี้ Traveloka Xperience มีดีลบัตรเข้าสวนน้ำมาฝากทุกคนด้วยนะ! บอกเลยว่าคุ้มมากกกกก พิเศษสุดๆกับบัตรเข้าสวนน้ำ 1 วัน จ่ายเพียง 260 บาท (ราคาเต็ม 400 บาท) ให้ไวเลยพ่อๆแม่ๆ ช้าหมด อดชิล! สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บัตรสวนน้ำโพโรโระ อควาพาร์ค

4. Sea Life Bangkok Ocean World สยามพารากอน

เพลิดเพลินไปกับโลกใต้น้ำ ใจกลางเมือง ที่สยามพารากอน ที่ซีไลฟ์ แบงค์คอก โอเชียล เวิลด์ คือทะเลใต้น้ำ จำลองเสมือนว่าคุณได้ไปเดินเล่นอยู่ใต้น้ำลึกที่มีฝูงสัตว์น้ำทะเลมากมายทางหลากหลายทวีปในนั้นเลย เป็นที่ๆคุณพ่อ คุณแม่สามารถพาลูกๆไปเดินเล่นชมสัตว์น้ำได้อย่างเพลิดเพลินใจ แบบที่ได้ใกล้ชิดกับเหล่าสัตว์น่ารักๆ ไม่ว่าจะเป็น ปลาฉลาม, เพนกวิน, แมงกะพรุน, ปลาโลมา, ปะการัง, และอื่นๆ เป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ที่ดีที่อยู่ในเมืองกรุงเทพ ซึ่งตรงประตูทางออกนั้นจะมีมุมให้ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และยังมีร้านขายของที่ระลึกให้เก็บกลับไปที่บ้านอีกด้วย

สำหรับค่าเข้าชมนั้นมีตั้งแต่ 450 บาท ขึ้นไป | สามารถดูโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ Sea Life Bangkok Ocean World เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 19.00 น.

5. สยาม อะเมซิ่งพาร์ค (Siam Amazing Park)

สยามอะเมซิ่งพาร์ค หรือ สวนสยาม ทะเลกรุงเทพ คือหนึ่งในที่เที่ยวในกรุงเทพฯ ที่หลายคนเลือกใช้เวลาวันหยุดเพื่อไปเที่ยวกันกับเพื่อน ครอบครัว และแฟน กันเป็นจำนวนมาก เพราะที่นี่มีเครื่องเล่นที่หลากหลายและสวยงาม เป็นที่หนึ่งที่เป็นเหมือนสถานที่ความทรงจำวัยเด็กของหลายๆคน นอกจากเครื่องเล่นที่สนุก หวาดเสียวที่มีแล้ว ยังมีมุมให้ถ่ายรูปอีกมากมายอีกด้วย อีกทั้งปัจจุบัน สวนสยามยังมีหลากหลายโซนให้เข้าชม ไม่ว่าจะเป็น Water World, Xtreme World, Adventure World, Family World, และ Small World ให้เลือกเข้าไปรับความสนุกกันแบบจุกๆไปเลยค่า

สำหรับค่าเข้ารายวัน ผู้ใหญ่ 900 บาท เด็ก(สูง101-130 cm.) 150 บาท และค่าเข้ารายปี อยู่ที่ 2,000 บาท | สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-105-4294 เปิดให้เข้าเล่นทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 18.00 น.