0

Traveloka TH

18 Jan 2022 - 3 min read

10 ที่เที่ยวน่านสายสโลวไลฟ์ เอาใจคนรักธรรมชาติ

ใครที่อยากเที่ยวแบบสโลไลฟ์ท่ามกลางบรรยากาศอันเย็นสบายก็ต้องเดินทางไปเยือนดินแดนแห่งขุนเขาสุดโรแมนติกันที่ “น่าน” หนึ่งในจุดหมายปลายทางแห่งมนต์เสน่ห์ที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง เพราะที่นี่นอกจากจะมีที่เที่ยวน่านน่าสนใจมากมายแล้ว ยังมีวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีที่น่าค้นหา ตลอดจนถึงการพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติที่จะทำให้คุณได้สูดโอโซนให้ทั่วถึงปอดได้อย่างชื่นใจ ว่าแล้วไม่รอช้ารีบเก็บกระเป๋าแล้วเดินทางไปเช็กอินกันกับ 10 ที่เที่ยวน่านที่สายรักธรรมชาติไม่ควรพลาดกันเลยดีกว่า แต่ก่อนจะไปก็อย่าลืมกดจองตั๋วกับ Traveloka เพื่อรับตั๋วในราคาสุดคุ้มและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย

1. กาแฟบ้านไทลื้อ

เอาใจสายสโลไลฟ์ด้วยการพาไปเช็กอินนั่งพักผ่อนสบาย ๆ กันที่กาแฟบ้านไทลื้อ ลำดวนผ้าทอ หนึ่งในจุดเช็กอินยอดฮิตของน่านที่ใครก็ไม่ควรพลาด เพราะร้านแห่งนี้เปิดขายผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหล ลายโบราณชื่อดังของอำเภอปัวที่มีเอกลักษณ์เด่นอย่างงดงาม โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อเป็นของฝากที่ระลึก หรือซื้อไปตัดเย็บเป็นชุดในแบบที่ต้องการก็ได้ นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟที่คุณสามารถสั่งเครื่องดื่มนั่งทานกันแบบชิล ๆ พร้อมชมทัศนียภาพของทิวเขา ทุ่งนาสีเขียวขจี และแชะภาพถ่ายรูปตามมุมเก๋ ๆ กันได้อย่างรัว ๆ

2. ดอยเสมอดาว

เดินทางขึ้นดอย ซึมซับบรรยากาศธรรมชาติด้วยการไปเช็กอินที่ดอยเสมอดาว ที่เที่ยวน่านสุดโรแมนติกที่คู่รักไม่ควรพลาด โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่อากาศกำลังเย็นสบาย เหมาะสำหรับการไปชมทะเลหมอกในยามเช้า และชมพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น ที่สำคัญในยามค่ำคืนนักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นดวงดาวเต็มท้องฟ้าได้อย่างเต็มตา บอกเลยว่าใครที่เป็นสายรักธรรมชาติคุณจะต้องตกหลุมรักกับสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน เพราะคุณจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ทั่วถึงปอดได้อย่างชื่นใจ อีกทั้งยังได้ชมวิวเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนกันไปมาได้อีกด้วย

3. เสาดินนาน้อย

เดินทางไปถ่ายรูปชิค ๆ กันที่เสาดินนาน้อย อุทยานแห่งชาติศรีน่าน หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป เพราะที่แห่งนี้มีลักษณะคล้ายแกรนแคนยอนที่เกิดจากการทับถมของดินเป็นเวลานานกระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 20 ไร่ จนเกิดเป็นเสาดินที่มีรูปร่างแปลกตา และเป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพราะไม่ว่าจะยืนโพสท่าถ่ายรูปมุมไหน รูปก็ออกมาปังอย่างแน่นอน โดยมีชาวบ้านสันนิษฐานกันว่าเสาดินนาน้อยนี้มีอายุราวประมาณ 30,000-10,000 ปี จึงทำให้มีการอนุรักษ์กันมาถึงปัจจุบันนั่นเอง

4. วัดภูเก็ต

พาเพื่อนไปไหว้พระทำบุญกันต่อที่วัดภูเก็ต ที่ตั้งอยู่ในอำเภอปัวของจังหวัดน่าน ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา” ที่ชาวบ้านต่างให้ความเคารพศรัทธากันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีอาคารที่พักรองรับสำหรับผู้ที่มาปฎิบัติธรรม อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นจุดชมวิวทุ่งนาเขียวขจีอันกว้างใหญ่ พร้อมด้วยฉากหลังเป็นภูเขาของวนอุทยานดอยภูคาได้อย่างไกลสุดลูกหูลูกตา บอกเลยว่าไปเช็กอินที่เดียวแต่เก็บได้ครบทุกรสชาติ

5. บ้านสะปัน

เอากายไปพักกันต่อที่บ้านสะปัน ที่เที่ยวน่านสุดชิลที่ตั้งอยู่ในอำเภอบ่อเกลือ ซึ่งบ้านสะปันแห่งนี้เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของขุนเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนกันไปมา จึงทำให้บรรยากาศมีความเย็นสบาย ร่มเย็นทุกครั้งที่ได้สัมผัส เหมาะอย่างยิ่งแก่การเดินทางไปช่วงฤดูฝนเพราะเป็นช่วงการทำนา ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพของท้องนาอันเขียวขจี พร้อมทั้งสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยนักท่องเที่ยวสามารถมานอนค้างคืนที่หมู่บ้านแห่งนี้เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด

6. วัดศรีพันต้น

ที่เที่ยวน่านอันดับถัดมาอย่าง วัดศรีพันต้น เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองกับชาวน่านมาแต่ช้านาน โดยวัดแห่งนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ความงดงามของวิหารสีทองระยิบระยับที่ตั้งเด่นอย่างงดงาม จนสะดุดตานักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเช็กอินกันอย่างไม่ขาดสาย โดยภายในมีภาพลายเส้นที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติของพระพุทธเจ้า และการกำเนิดของเมืองน่าน รวมถึงจิตรกรรมปูนปั้นอย่างพญานาคเจ็ดเศียรที่ดูสวยงามยิ่งนัก ทำให้นอกจากจะสามารถมาเพื่อกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถมาเชยชมศิลปะและสถาปัตยกรรมภายในวัดได้ในคราวเดียวกัน

7. บ่อเกลือ สินเธาว์

บ่อเกลือ สินเธาว์ เป็นที่เที่ยวน่านที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 80 กิโลเมตร โดยไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้คือ เป็นสถานที่ผลิตเกลือขนาดใหญ่และเป็นแหล่งเกลือภูเขาที่มีเพียงแห่งเดียวในโลก ภายในจะมีชาวบ้านที่คอยสาธิตวิธีการต้มเกลือแบบโบราณให้เราได้เห็นกันแบบละเอียด ซึ่งถือเป็นการอนุรักษ์การผลิตเกลือแบบดั้งเดิมที่ไม่สามารถหาชมได้จากที่ไหน อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อเกลือกลับไปฝากเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย โดยจะมีทั้งเกลือสำหรับบริโภค และเกลือเพื่อสุขภาพ เช่น เกลือสปาขัดผิว หรือดอกเกลือสำหรับบำรุงผิว เป็นต้น

8. ถนนโค้งเลข 3

ใครที่เป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่ชื่นชอบการเก็บภาพบรรยากาศก็ต้องเดินทางไปปักหมุดกันที่ถนนโค้งหมายเลข 3 ที่ถือเป็นหนึ่งใน Unseen สำคัญของอำเภอปัว ตั้งอยู่บนถนนหมายเลข 1081 โดยถนนเส้นนี้มีโค้งที่คล้าย ๆ เลข 3 จนกลายเป็นไฮไลท์เด็ดและเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งบริเวณข้างทางรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย รวมถึงขุนเขาที่เรียงรายเต็มไปทั่วบริเวณ หากใครผ่านไปถนนเส้นนี้ก็ลองสังเกตหรือแวะถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นที่ระลึกได้

9. ดอยภูคา

ดอยภูคา ถือเป็นที่เที่ยวน่านที่อุดมไปด้วยความสวยงามของป่าไม้ธรรมชาติอันกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยสัตว์ป่าหายากและพืชพรรณนานาชนิดมากมาย โดยนักท่องเที่ยวสามารถมานอนกางเต็นท์ชมดาวในยามค่ำคืน พร้อมทั้งชมทะเลหมอกในยามเช้า และใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมสูดโอโซนให้เต็มปอดได้อย่างชื่นใจ ซึ่งหนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดของสถานที่แห่งนี้เลยก็คือ การมาชมต้นชมพูภูคา ที่พากันออกดอกเบ่งบานสะพรั่งเป็นช่อสีชมพูอมขาวได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ของทุกปี

10. นาข้าวขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ

แน่นอนว่ามาถึงน่านทั้งทีก็ต้องไม่พลาดอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญประจำจังหวัด นั่นก็คือ นาขั้นบันได ซึ่งเราจะพาเพื่อน ๆ ไปเช็กอินกันที่โครงการปิดทองหลังพระ เพื่อชมความงดงามของนาขั้นบันไดที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 3 ตำบลด้วยกัน ได้แก่อำเภอสองแคว ในหมู่บ้านยอด อำเภอท่าวังผา บ้านน้ำป้าก และ ต.ขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ โดยนาขั้นบันไดแห่งนี้เป็นการแสวงหาวิธีปลูกข้าวแบบใหม่โดยการทำนาบนพื้นที่เขา ซึ่งมีการประยุกต์มาจากโครงการแก้มลิง จนทำให้ในปัจจุบันกลายมาเป็นหนึ่งในที่เที่ยวน่านที่งดงามและรอให้ทุกคนได้มาสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง

เป็นอย่างไรบ้างกับ 10 ที่เที่ยวน่านที่สายรักธรรมชาติไม่ควรพลาด บอกเลยว่าใครที่อยากเที่ยวแบบคนเนิบ ๆ ใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ ก็ต้องเดินทางไปน่านเลย เพราะน่านถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์การเที่ยวแบบสบาย ๆ ได้เป็นอย่างดี

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร