0

Thamonwan B

05 Nov 2020 - 3 min read

Road Trip เชียงใหม่ - แม่ริม - ปาย ทริปนี้เสพธรรมชาติกันให้จุกๆ ไปเลย

หนาวๆ แบบนี้ ใครมองหาทริปขับรถชิลล์ๆ รับลมเย็นๆ อากาศดีๆ กันอยู่บ้าง?? ตามมาเลยจ้า วันนี้ขอพาไปชิลล์กับเส้นทางขับรถเที่ยว เชียงใหม่ - แม่ริม - ปาย ที่สายธรรมชาติจะต้องแฮปปี้ เพราะตลอดเส้นทางนี้มีที่เที่ยววิวสวยๆ ให้จอดแวะกันเพียบจ้า แล้วออกตัวไว้ก่อนเลยว่าเราเน้นเที่ยวกันแบบฟีลสโลว์ไลฟ์ไม่รีบเร่งเน้อ ก็เลยจะขอปักหมุดกันเป็นจุดๆ แล้วดื่มด่ำความสวยกันให้จุกๆ ไปโลด จองตั๋วเครื่องบินในเว็บไซต์ Traveloka บินไปลงเชียงใหม่แล้วกลับจากแม่ฮ่องสอนก็สะดวกดีนะ ไม่ต้องเสียเวลา เอ้า...ใครรู้ตัวว่าเป็นสายชิลล์ ตามมาโลด!

ทริปนี้เราเลือกจองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka เพราะนอกจากจะมีตั๋วราคาโปรโมชั่นมาให้ไม่ขาดแล้วเนี่ย ยังมี Feature ใหม่ให้กดเทียบราคาตั๋วโปรโมชั่นของแต่ละสายการบินได้อีก! ทั้งประหยัดทั้งสะดวกแบบนี้ใครสนใจลองไปใช้กันดู

ซึ่งตอนนี้ Traveloka Clean Flight ให้คุณบินอย่างมั่นใจมากขึ้นในช่วง New Normalดูอัพเดตมาตรการป้องกัน COVID-19 จากสายการบินพร้อมข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการเดินทางได้ที่ Traveloka เลย

Road Trip เชียงใหม่ - แม่ริม - ปาย

Day 1

ลงเครื่องที่สนามบินเชียงใหม่ปุ๊บ เราก็รับรถเช่าที่จองเอาไว้ได้เลยจ้า บอกเลยว่าจองกับ Traveloka คือง่ายเว่อร์! ได้รถแล้วเราก็ปักหมุดไปดอยแม่โถกันก่อนเลย เพราะได้ข่าวว่าที่นี่เป็นภูเขาซึ่งเต็มไปด้วยทุ่งหญ้ากว้างปกคลุมเกือบทั้งหมด วิวรอบๆ ก็สวยเว่อร์ เหมาะมากกับการแวะมาแชะรูปเช็คอินคูลๆ กันเด้อ ส่วนการขึ้นมาบนดอยนั้น แนะนำให้ใช้บริการรถรับส่งของชาวบ้านดีกว่า เพราะนอกจากจะเป็นรถโฟว์วีลซึ่งเหมาะกับสภาพถนนขึ้นดอยแล้วนะ ยังมีคนขับที่ชินกับเส้นทางด้วย เพราะบางช่วงเป็นทางแคบ ทางโค้ง หรือเป็นเหวที่ค่อนข้างอันตราย เราว่ายังไงให้คนพื้นถิ่นขับขึ้นไปก็ปลอดภัยกว่าแหละ อ้อ… ใกล้ๆ กันมีโครงการหลวงแม่โถด้วยเน้อ แวะไปเที่ยวไปฝากท้องกันได้ ชิลล์อีกเช่นกัน

กินข้าวกินปลาเสร็จสรรพ ก็ได้เวลาขับรถต่อกันไปอีกยาวๆ เพราะคืนนี้เราปักหมุดจะไปค้างคืนกันที่บ้านแม่กำปอง หมู่บ้านยอดฮิตที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศสุดสโลว์ไลฟ์ ระหว่างทางเข้าไปยังหมู่บ้านก็มีพิกัดชิลล์ๆ ให้แวะกันเพียบนะ ไม่ว่าจะเป็นโครงการหลวงตีนตกที่อยู่ใกล้ๆ หรือจะแวะไหว้พระที่วัดแม่กำปองก็ได้อยู่ แล้วยังมีคาเฟ่ รวมถึงมีน้ำตกแม่กำปองให้แวะเข้าไปเดินเล่นรับอากาศบริสุทธิ์สดชื่นกันอีกด้วย ใครชอบแนวไหนจัดได้ตามอัธยาศัยเลย

เพราะความที่เป็นชุมชนเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ในวงล้อมของทิวเขา รอบด้านของที่นี่จึงมีแต่สีเขียวของต้นไม้ แถมยังมีลำธารไหลผ่านหมู่บ้านไปอีกกก บ้านแม่กำปองก็เลยกลายเป็นพิกัดสุดเลิฟของคนที่ชอบธรรมชาติอันเงียบสงบและความสโลว์ไลฟ์ การได้มาแวะนอนโฮมสเตย์ที่นี่ซักคืนจึงเหมือนเราได้มาเพิ่มพลังให้ร่างกายและหัวใจได้ผ่อนคลายแบบสุดๆ ไปเลยละ แล้วไม่ต้องกลัวเบื่อนะ เพราะที่นี่มีถนนคนเดินเล็กๆ ในหมู่บ้านด้วยจ้า จะแวะนั่งหาอะไรกินก็ได้ หรือจะช้อปให้เพลินไปเลยก็ดี อากาศเย็นๆ แบบนี้ เดินยังไงก็ชิลล์

Day 2

วันต่อมา ก็ต้องโบกมือลาความสโลว์ไลฟ์ของแม่กำปองกันในตอนเช้า เพราะวันนี้เรามีภารกิจพิชิตธรรมชาติ จัดหนักกับการแชะรูปโปรไฟล์กันอีกหลายที่ และพิกัดที่เล็งเอาไว้ก็ต้องเป็นที่นี่เลยจ้า ‘แม่ริม’ อำเภอที่มีวิวสวยๆ ให้เราเช็คอินกันเพียบ หน้าหนาวแบบนี้ ที่ยืนหนึ่งห้ามพลาดก็ต้องเป็นการแวะมาจัดรูปแจ่มๆ กันที่ I love flower farm สวนดอกไม้แสนสวยที่ถ้าไม่ได้แวะมาก็บอกเลยว่าน่าเสียดาย ที่นี่จะมีการเปิดให้เข้าเป็นช่วงๆ ไปนะ แล้วก็ยังมีดอกไม้หลากหลายสีสันให้เราได้แทรกตัวเข้าไปถ่ายรูปเก๋ๆ กันเพียบจ้า สวยแบบไม่รู้จะบรรยายยังไง คงต้องไปดูด้วยตาตัวเองกันเน้อ

พิกัดต่อไป ขอกระชากฟีลเปลี่ยนบรรยากาศจากโหมดคูลๆ สุดสโลว์ไลฟ์กันซักนิด ด้วยการมุ่งหน้าไปเรียกเสียงกรี๊ดกันที่โป่งแยง แอดเวนเจอร์ ปาร์ค หน่อยนะ เดี๋ยวจะหาว่าทริปนี้ไม่มีสีสัน มาที่นี่ก็แน่นอนละว่าต้องไม่พลาดการได้มาลองความมันของจังเกิ้ล โคสเตอร์ แห่งแรกของเมืองไทย บอกตรงนี้ว่าความเร้าใจที่ได้สัมผัสน่ะ มันช่างขัดกับความชิลล์ของบรรยากาศรอบตัวโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นการพิชิตความเสียวแบบกลุ่มเล็กเป็นคู่ๆ ไม่ได้เป็นหมู่คณะแบบรถไฟเหาะที่เราคุ้นเคยกัน แต่ก็มันไปอีกแบบนะ เอาจริง!

หลังจากได้หวีดกรี๊ดกันพอให้อะดรีนาลินหลั่งแล้วนะ ขอกลับมาที่โหมดรักน้ำรักแมกไม้กันต่อเพื่อรักษาสติแป๊บ กับพิกัดสุดชิลล์ที่มาแรงในหมู่คนรักพืชพรรณอย่างสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ในเขตอำเภอแม่ริมนี่ละ ที่นี่เป็นแหล่งรวมพันธุ์ไม้นานาชนิดที่เน้นการจำลองรูปแบบตามธรรมชาติ บอกเลยว่ามุมถ่ายรูปแจ่มๆ เพียบจ้ะ ไม่ว่าจะเป็นในเรือนกระจกที่แบ่งเป็นเรือนป่าดิบชื้น เรือนพันธุ์ไม้ทั่วไป รวมถึงเรือนพืชทะเลทราย และอีกหลายแห่ง เดินดูไม้ดอกไม้ใบในเรือนปลูกกันแล้ว อย่าลืมไปแวะเดินเล่นที่โซนสวนดอกไม้กลางแจ้ง รวมถึงไฮไลท์เด็ดอย่างทางเดินลอยฟ้าเหนือยอดไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ซึ่งยาวกว่า 400 เมตรด้วยนะ ใครรักต้นไม้ต้องมา ใครอยากหามุมถ่ายรูปแจ่มๆ ก็ไม่ควรพลาดเช่นกันเน้อ

ส่งท้ายวันแห่งความชิลล์ในโซนแม่ริมกันด้วยการขับรถไปเช็คอินที่ม่อนแจ่ม แลนด์มาร์คหลักอีกแห่งที่มาเชียงใหม่แล้วต้องแวะมาแชะรูปกับบรรดาดอกไม้และวิวสบายตากันซักหน่อย ทีเด็ดของม่อนแจ่มก็คือธรรมชาติสวยสดชื่นตานี่ละ ไม่ว่าจะเป็นสีสันสดใสของไม้ดอกสารพัดชนิดที่ปลูกกันเพียบในละแวกนี้ หรือสกายวอล์คไม้ไผ่ยาวเหยียดที่มีให้เดินเล่นกัน แถมหน้าหนาวนี่นะ ไร่สตรอว์เบอร์รี่คือพิกัดที่ไม่ควรพลาดด้วยจ้า ส่วนสายคาเฟ่ก็น่าจะแฮปปี้ เพราะมีร้านสวยๆ ที่แจ่มสมชื่อให้เลือกเพียบเด้อ มาแวะแล้วกลับไปนอนในเมืองก็สบายเพราะขับรถไม่ไกลมาก หรือถ้าอยากชิลล์แบบแน่นๆ จุกๆ ก็แนะนำให้นอนซักคืนนะ เด็ดสุดก็ต้องกินหมูกระทะพร้อมชมวิวของที่นี่ในยามเย็นแหละ ฟินมากแม่ คอนเฟิร์ม!

Day 3

จากแม่ริม เชียงใหม่ เราขอปักหมุดขับรถฝ่าทางโค้งโหดๆ มุ่งหน้าสู่เมืองปายในแม่ฮ่องสอนกันต่อ พิกัดแรกที่เราขอแวะเที่ยวกันในเส้นทางนี้ก็เริ่มกันที่กองแลน หรือปายแคนยอน ผาดินสูงๆ ต่ำๆ อันเกิดจากการทรุดตัวของภูเขาที่กินพื้นที่กว้าง จนเกิดเป็นภูมิประเทศที่แปลกตาน่าสนใจ เหมาะกับการมาเดินเล่นชมวิวหรือถ่ายรูปสุดๆ เชียวละ แนะนำว่าถ้าไม่มาช่วงเช้าก็ควรเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ หน่อยนะ แดดจะได้ไม่ร้อนมาก แล้วอย่าลืมเตรียมกำลังขามาให้พร้อมด้วยจ้า เพราะต้องเดินกันเยอะอยู่ละ โอเค้??

จากกองแลน อีกหนึ่งพิกัดที่มาปายแล้วไม่ได้แวะก็เหมือนมาไม่ถึง ยืนหนึ่งในเรื่องการเป็นแลนด์มาร์คหลัก ก็ต้องปักหมุดกันที่สะพานประวัติศาสตร์ท่าปายไปเลยจ้า โดยที่นี่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างของเมืองปาย ซึ่งใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูปเช็คอินกับสะพานเหล็กเก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ความคลาสสิคของที่นี่คือโครงสะพานเหล็กที่ให้ฟีลคล้ายกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว แต่พื้นสะพานเป็นไม้ สะพานนี้ก็เปรียบเหมือนประตูต้อนรับสู่เมืองปาย ไม่แวะมาคือไม่ได้จริงๆ

ในปายมีวัดที่น่าสนใจอยู่หลายวัดเหมือนกันนะ วัดนึงที่อยากชวนให้มาแวะไหว้พระกันก็คือวัดพระธาตุแม่เย็น ซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูงที่สามารถใช้เป็นจุดชมวิวของเมืองปายในมุมกว้างได้อีกด้วย ด้านในวัดเป็นที่ประดิษฐานองค์พระธาตุแม่เย็น และยังมีองค์พระพุทธโลกุตระมหามุนี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวองค์ใหญ่ ที่เด่นเป็นสง่ามองเห็นได้แต่ไกลอยู่บนยอดเขา ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกราวๆ 300 ขั้นจ้า ได้ขึ้นไปไหว้พระ แถมยังได้กล้ามเนื้อขาแบบกระชับกลับบ้านด้วยนะ คุ้มจะตาย!

เย็นย่ำในอำเภอปาย อะไรจะดีไปกว่าการได้มาเดินชิลล์กันในถนนคนเดินของที่นี่ ถนนคนเดินแห่งนี้นับเป็นถนนคนเดินยอดฮิตแห่งแรกๆ ของเมืองไทยเลยนะ ด้วยบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางบ้านไม้แบบวินเทจ อากาศก็เย็นจนบางช่วงเลยไปถึงหนาว ข้าวของที่วางขายก็มีทั้งของกินของใช้ในสไตล์ร่วมสมัยและที่เป็นของในท้องถิ่น ยิ่งพวกงานแฮนด์เมดฝีมือชาวเขานะ ที่นี่มีให้ช้อปกันละลานตาเว่อร์ ร้านอาหารชิลล์ๆ ก็มีให้เลือกอยู่หลายร้าน เรียกว่าเป็นถนนที่บรรยากาศสบายๆ เดินเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อจริงๆ!

Day 4

ก่อนบอกลาเมืองปาย ก็ขอแวะเช็คอินที่หมู่บ้านรักไทยเป็นการส่งท้ายกันซักหน่อย อยากฟินแบบหนักๆ จุกๆ ก็ต้องมาถึงเช้าหน่อยนะ ถ้าอากาศเป็นใจ เราจะได้มาเห็นความสวยของหมู่บ้านสไตล์จีนในวงล้อมของขุนเขา พร้อมหมอกขาวๆ ที่ลอยอวลอยู่รอบตัว นั่งชมวิวทะเลสาบสวยสงบไป จิบชาร้อนๆ ไป หรือถ้าอยากได้อะไรที่อิ่มกว่านั้นเค้าก็มีหลายเมนูพร้อมเสิร์ฟเลยเด้อ มาถึงบ้านรักไทย สิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือการชิมอาหารสไตล์ยูนนานและชิมเมนูชา ซึ่งถือว่าเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ บรรยากาศดี อาหารก็เริ่ดเว่อร์ นับเป็นการส่งท้ายทริปที่คูลมากจ้าเธอ ปักหมุดเลย

สำหรับบรรดาสายชิลล์รักธรรมชาติสวยของวิวป่าเขาและอากาศหนาวๆ แต่ก็ยังอยากได้ความคึกคักครึกครื้นเอาไว้สลับอารมณ์บ้างนะ อยากชวนให้ปักหมุดเส้นทาง road trip เส้นนี้เอาไว้ในลิสต์ได้เลย เพราะเป็นเส้นทางสุดชิลล์ที่มีพิกัดวิวสวยให้แวะเพียบ แล้วยังสะดวกและสบายทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์และเครื่องบิน มีถนนคนเดิน มีความบันเทิงของบรรยากาศเมืองให้ได้เปลี่ยนบรรยากาศกัน ถ้าชอบฟีลนี้เตรียมปักหมุดตามรอยได้เลยจ้า ปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ค่อยมีมา ขับรถเที่ยวได้สบายไปอีก รีบๆ เลย

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร