จองตั๋วเครื่องบิน
เที่ยวเดียว / ไป-กลับ
เดินทางหลายเมือง

เปิดแผนที่

จาก
ไป
จำนวนผู้โดยสาร
ชั้นโดยสาร
ค้นหาเที่ยวบิน
การแจ้งเตือนราคาเที่ยวบิน

ตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น


ข้อมูลทั่วไปประเทศญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่น (Japan) มีลักษณะเป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางฝั่งตะวันออกของทวีปเอเชีย เกาะ4 เกาะใหญ่ และเกาะย่อยมากกว่า 3,000 เกาะ เกาะใหญ่เรียงจากเหนือไปใต้ได้แก่ฮอกไกโด,ฮอนชู, ชิโกกุ และคิวชู รวมทั้งหมู่เกาะริวกิว และเกาะโอกินาวะทางใต้ของคิวชู ญี่ปุ่นถูกล้อมรอบด้วยทะเลทุกด้าน ได้แก่ ทะเลโอคอตสค์ทางเหนือ ทะเลญี่ปุ่นทางตะวันตก ทะเลจีนตะวันออกทางตะวันตกเฉียงใต้ ทะเลฟิลิปปินส์ทางใต้ และมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออก พื้นที่ประมาณ 3 ใน 4 ของญี่ปุ่นจะเป็นภูเขาและเนินเขา พื้นที่ราบที่ใหญ่ที่สุด คือ ที่ราบคันโตอยู่บริเวณใจกลางอ่าวโตเกียว นอกจากนั้นก็ยังมีที่ราบขนาดเล็กกระจัดกระจายทั่วประเทศ มีแม่น้ำที่ยาวที่สุดคือ แม่น้ำชินาโนะ ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแนวชายฝั่งทะเลเทือกเขาสูงตระหง่านหุบเขาคดเคี้ยวไปมา ที่ราบสูง แม่น้ำ ทะเลสาบ บ่อน้ำพุร้อน ล้วนเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น เพื่อชื่นชมความงดงามที่ธรรมชาติสรรสร้าง

ญี่ปุ่นมีซากุระเป็นดอกไม้ประจำชาติ และมีภูเขาฟูจิเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของประเทศ เป็นประเทศที่มีความสมบูรณ์ด้านการท่องเที่ยว ไม่เพียงมีธรรมชาติที่งดงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล หากแต่ยังเป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรมประเพณีอันเก่าแก่หลายศตวรรษ รวมถึงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้วยลักษณะพิเศษเฉพาะตัวทั้งสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและอาคารสูงสมัยใหม่ ที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน คือความอัศจรรย์ที่เป็นเสน่ห์ของญี่ปุ่น ที่เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น พักผ่อนท่ามกลางขุนเขา และทะเลสาบในฤดูร้อน ชมดอกซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ ชมใบไม้เปลี่ยนสีเหลืองแดงตระการตา หรือตื่นตาตื่นใจไปกับหิมะในฤดูหนาว นับเป็นประเทศที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก อยากเดินทางกลับมาเยือนอีกครั้งเสมอ

สกุลเงิน

สกุลเงินของญี่ปุ่น คือ เยน มีธนบัตรมูลค่าตั้งแต่ 1,000, 2,000, 5,000, และ10,000 เยน และเหรียญ1, 5, 10, 50, 100 และ 500 เยน อัตราแลกเปลี่ยน 100 เยน ประมาณ 29.6 บาท

 

ฤดูกาลของประเทศญี่ปุ่น

ภูมิอากาศของญี่ปุ่นเป็นแบบอบอุ่นเป็นหลัก แต่มีความแตกต่างกันมากตั้งแต่เหนือจดใต้ อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูหนาวในประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 5.1 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูร้อนอยู่ที่ 25.2 องศาเซลเซียสแบ่งเป็น 4 ฤดูกาล คือ

  • ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ช่วงซากุระบาน เริ่มตั้งแต่ตอนใต้ไล่ขึ้นไปทางเหนือ
  • ฤดูร้อน เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมเป็นฤดูแห่งการพักผ่อนเที่ยวทะเล ชมงานเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นทั่วประเทศ
  • ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน อุณหภูมิเย็นสบาย ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองและแดง ทั่วทั้งผืนป่าและสวนสาธารณะ
  • ฤดูหนาว เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์อากาศหนาวเย็น หิมะตกที่ภาคเหนือของประเทศ เป็นช่วงที่เต็มไปเทศกาลแห่งความสุข ทั้งเทศกาลหิมะ วันคริสต์มาส และวันปีใหม่

ภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นแบ่งเป็น 4 เกาะใหญ่ ซึ่งเรียงจากทิศเหนือลงไปยังไปใต้ ได้แก่ ฮอกไกโด,ฮอนชู, ชิโคขุ และ คิวชู
ญี่ปุ่นมีภูมิภาครวมทั้งหมด 8 ภูมิภาค และแบ่งการปกครองออกเป็น 47 จังหวัด ได้แก่

  • ภูมิภาคฮอกไกโด เป็นเกาะที่อยู่เหนือสุดของญี่ปุ่น ประกอบด้วย 1 จังหวัด คือ ฮอกไกโด
  • ภูมิภาคโทโฮคุ ตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ อาโอโมริ, อิวาเตะ, มิยางิ, อากิตะ, ยามางาตะ และ ฟูกูชิมะ
  • ภูมิภาคคันโต เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของประเทศ ประกอบด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ อิบารากิ, โทชิงิ, กุนมะ, ไซตามะ, ชิบะ, โตเกียวและคานากาวา
  • ภูมิภาคจูบุ เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด ได้แก่ นิงาตะ, โทยาม่า, อิชิคาวา, ฟุกุอิ, ยามานาชิ, นากาโน, กิฟุ, ชิสึโอกะและ ไอจิ
  • ภูมิภาคคันไซ ตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงเก่า ประกอบด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ มิเอะ, ชิกะ เกียวโต, โอซาก้า, เฮียวโงะ, นารา และ วาคายามะ
  • ภูมิภาคจูโงขุ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะฮอนชู มีเกาะมิยาจิมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ทตโทริ, ชิมาเนะ, โอคายามา, ฮิโรชิมา และ ยามากุจิ
  • ภูมิภาคชิโกกุ เป็นเกาะเล็กที่สุดในบรรดาเกาะทั้งหมดจุดเด่นของเกาะนี้คือสะพานเซโตะโอฮาชิประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ โทคุชิมะ, คางาวะ, เอฮิเมะ และ โคจิ
  • ภูมิภาคคิวชู เกาะใต้สุดของญี่ปุ่น ที่ตั้งของปราสาทคุมะโมโตะ1 ใน 3 ปราสาทที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 8 จังหวัด ได้แก่ ฟุกุโอกะ, ซากะ, นางาซากิ, คุมาโมโตะ, โออิตะ, มิยาซากิ, คาโกชิมา และโอกินาวา

 

สนามบินสำคัญ

  1. สนามบินนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะในจังหวัดชิบะ อยู่ห่างจากเมืองโตเกียวไปทางทิศตะวันตกประมาณ 60 กิโลเมตรเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้หลายวิธี ได้แก่ รถไฟ รถบัส รถบัสสนามบิน รถแท็กซี่ การเดินทางโดยสารรถไฟสะดวกรวดเร็วที่สุด แบ่งได้เป็นสายต่างๆ ดังนี้ JR Narita Express,Keisei Skyliner, Access Express และ Limited Express ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที
  2. สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งแรกของโตเกียว จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (Tokyo International Airport) ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ ตั้งอยู่ที่เมืองโอตะ ห่างจากใจกลางเมืองโตเกียวไปทางทิศใต้ประมาณ 15 กิโลเมตร เดินทางสู่เมืองด้วยรถบัส รถลิมูซีนสนามบิน แท็กซี่ และรถไฟ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและประหยัดที่สุด ให้บริการ 2 สาย คือ Tokyo Monorailและ Keikyu Line ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14 นาที
  3. สนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport) ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินคันไซ”จุดหมายปลายทางของโอซาก้าตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอ่าวโอซาก้าประมาณ 50กิโลเมตรการเดินทางสู่ตัวเมืองมีหลายวิธี อาทิ รถบัสสนามบิน ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รถแท็กซี่ วิธีที่สะดวกรวดเร็วที่สุด รถไฟ มีบริการหลักๆ ด้วยกัน 2 สาย คือ JR Lineและ Nankai Line ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 - 50 นาที
  4. สนามบินนานาชาติจุบุเซ็นแทร (Chubu Centrair International Airport) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินจุบุเซ็นแทร” ประตูสู่นาโกย่า เมืองท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัดไอจิตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองนาโกย่า ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ 35 กิโลเมตรเดินทางสู่ตัวเมืองโดย รถบัส รถแท็กซี่ และรถไฟสาย Meitetsuซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็วที่สุด ใช้เวลาเดินทาง 28 นาที
  5. สนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) เป็นสนามบินหลักของเมืองซัปโปโร ในภูมิภาคฮอกไกโดเกาะตอนเหนือของญี่ปุ่นห่างจากใจกลางเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 50 กิโลเมตร ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ การเดินทางสู่ตัวเมืองที่สะดวกที่สุดคือรถไฟ JR Rapid ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 35 นาที นอกจากนี้ยังมีรถบัส และแท็กซี่ให้บริการ
  6. สนามบินที่เชื่อมต่อไปยังเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ ของญี่ปุ่นได้แก่ สนามบินฟุกุโอกะ(Fukuoka Airport) สนามบินนาฮะ(Naha Airport) สนามบินฮิโรชิมา(HiroshimaAirport) สนามบินเซนได(Sendai Airport) สนามบินโทยามะ(ToyamaAirport) สนามบินโออิตะ (OitaAirport) สนามบินฟุกุชิมะ (FukushimaAirport) สนามบินยามากาตะ(YamagataAirport) สนามบินทตโตริ(TottoriAirport) สนามบินคุมาโมโตะ(KumamotoAirport) สนามบินโอคาดามะ(Okadama Airport) สนามบินมัสซูโมโต้(MatsumotoAirport) สนามบินอิชิกากิ(IshigakiAirport) ฯลฯ

การเดินทางไปญี่ปุ่น

 

การเดินทางในญี่ปุ่น

  • เครื่องบิน สายการบินหลักของญี่ปุ่น คือ เจแปนแอร์ไลน์(Japan Airlines) สายการบินในประเทศได้แก่ออลนิปปอนแอร์เวย์ (All Nippon Airways)
  • รถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) รถไฟหัวกระสุนที่เร็วที่สุดในญี่ปุ่น ให้บริการจากโตเกียวไปยังเมืองใหญ่ๆ ทั้งหมด 9 เส้นทาง
  • รถไฟ JR บริการขนส่งเส้นทางรอบนอกเมืองและระหว่างเมืองต่างๆครอบคลุมบริเวณทั่วประเทศญี่ปุ่น
  • รถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วและประหยัดที่สุด มีให้บริการอยู่ในทุกเมืองใหญ่โดยอัตราค่าโดยสารจะปรับขึ้นตามระยะทาง
  • รถไฟลอยฟ้ายูริคาโมเมะ (Yurikamome) รถไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าอัตโนมัติไม่มีคนขับ ให้บริการในกรุงโตเกียว เชื่อมต่อระหว่างสถานีชิมบาชิ และสถานีโทโยซุ
  • รถบัส รถบัสในกรุงโตเกียว คิดค่าโดยสารแบบราคาเดียว ส่วนรถบัสนอกเมืองคิดราคาตามระยะทาง
  • รถบัสด่วน (Highway Bus) อีกหนึ่งการเดินทางที่สะดวก จุดหมายปลายทางคือแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างภูเขาไฟฟูจิ, ฟูจิคิวไฮแลนด์, ทะเลสาบคาวากุจิ, หมู่บ้านชิรากาวะ, มัตสึโมโตะ และฮาคุบะ
  • รถแท็กซี่ เป็นบริการที่สะดวกสบาย แต่ค่าใช้จ่ายสูง ค่าโดยสารจะแตกต่างไปแต่ละพื้นที่ หลัง 4 ทุ่มไปจนถึงตี 5ค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้น 30% จากอัตราปกติ
  • เรือโดยสาร ให้บริการข้ามไปยังเกาะต่างๆ เพื่อท่องเที่ยวชมวิว มีทั้งเรือเฟอร์รี่และเรือสำราญ (Cruise)
  • จักรยาน มีรถจักรยานให้เช่าในเขตเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ

 

 

สถานที่เที่ยวสำคัญในญี่ปุ่น

  1. ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังในกรุงโตเกียว จุดนัดพบของเหล่าวัยรุ่นญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยสีสันของแฟชั่นสุดแหวกแนว อัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง อาทิ สถานีรถไฟฮาราจูกุ สะพานหินจิงงู ศาลเจ้าเมจิ สวนสาธารณะโยโยกิถนนทาเคชิตะถนนช้อปปิ้งสุดชิคถนนช้อปปิ้งสุดหรูโอโมเตะซันโด แหล่งขายของที่ระลึกและร้านของเล่นสุดคิคุรวมถึงร้านอาหาร ร้านเครปญี่ปุ่น และคาเฟ่เก๋ๆ ทุกวันอาทิตย์จะมีการปิดถนน เพื่อให้บรรดาวัยรุ่นมาจัดกิจกรรมต่างๆ เช็คปฏิทินก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น เพื่อความชัวร์
  2. โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) หอคอยที่สูงที่สุดในโลก ณริมแม่น้ำสุมิดะ จุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว มีจุดชมวิวมี 2 ระดับคือ จุดที่ความสูง 350 เมตร และที่ความสูง 450เมตรซึ่งมีจุดที่เรียกว่า “โซระคารา” เป็นห้องกระจกใสชมวิวได้ 360 องศา นับเป็นสกายวอล์กที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่ชื่อ “สกายทรีเทอร์เรซ” ระเบียงชมวิวแบบไร้กระจกกั้นบนความสูง 155 เมตร จากพื้นดิน จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น เพื่อไปยืนกินลมชมวิวได้ตามความชอบใจในแต่ละระดับความสูง สวยงามทั้งกลางวันยันกลางคืนเลยทีเดียว
  3. ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ทะเลสาบ 1 ใน 5 ที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิในจังหวัดยามานาชิ ใกล้กรุงโตเกียว เป็นจุดชมความงามของภูเขาไฟฟูจิสวยที่สุด ล้อมรอบไปด้วยรีสอร์ท ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย กิจกรรมสุดฮิตคือ นั่งเรโทรบัสชมวิวรอบทะเลสาบ กระเช้าไฟฟ้าชมวิวในมุมสูงและล่องเรือในทะเลสาบคาวากุจิ นักท่องเที่ยวสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นได้ตลอดทั้งปี เพื่อชมความงามของดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ชมใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูใบไม้ร่วง และชมหิมะปกคลุมยอดฟูจิในฤดูหนาว
  4. ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) แลนด์มาร์กของเมืองมัตสีโมโตะ จังหวัดนากาโนะเป็น 1 ใน 12 ปราสาทที่ยังคงความดั้งเดิมและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นปราสาทไม้มีหอคอยกลางปราสาทมีคูน้ำล้อมรอบ ตัวปราสาทเป็นสีดำ จึงถูกเรียกว่าปราสาทอีกา ชั้น 6 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของปราสาทเป็นจุดชมวิวเมืองมัตสึโมโตะที่สวยงาม ฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น มีต้นซากุระรายล้อมรอบปราสาทหลายร้อยต้น นับเป็นจุดชมซากุระบานยอดนิยม ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
  5. เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะห่างจากกรุงโตเกียวประมาณ 20 กิโลเมตร เมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม และกลิ่นอายในสมัยเอโดะฉายา “ลิตเติ้ลเอโดะ” โดดเด่นด้วยอาคารโกดังสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ที่มีกำแพงหนาและหลังคาสีดำ อันเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า “คุระซุคุริ” มีหอระฆังบอกเวลา “โทคิโนะคะเนะ” สัญลักษณ์ของเมือง และยังมีศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ ที่โด่งดังเรื่องของความรัก และมี“มันหวาน”ของอร่อยขึ้นชื่อ นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น ห้ามพลาดกิจกรรมสุดคลาสสิก นั่งรถบัสดีไซน์โบราณ CO-EDO Loop Bus ชมบรรยากาศรอบเมือง

 

เทศกาลสำคัญในญี่ปุ่น

  1. เทศกาลชมดอกซากุระ ( Ohanami ) เทศกาลที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกพร้อมใจกันจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น เพื่อชมดอกซากุระที่เบ่งบานทั่วประเทศญี่ปุ่น ในช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนเมษายนโดยเริ่มบานจากทางใต้ขึ้นไปยังทางเหนือตั้งแต่ฟูกุโอกะ โตเกียว นาโกยา เกียวโต โอซากา เซนได และซัปโปโร จุดชมซากุระชื่อดังมีอยู่หลายแห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ในสวนสาธารณะ ปราสาท ราชวัง ริมฝั่งน้ำ หรือแม้แต่บนเนินเขา อาทิ สวนมารุยามะ สวนอุเอโนะ สวนเคมะ ซากุระโนมิยะ ภูเขาโยชิโนะปราสาทโอซาก้า ริมแม่น้ำเมกุโระ อย่าลืมเช็กพยากรณ์ซากุระบานก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น
  2. เทศกาลดอกไม้ไฟกลางน้ำแห่งมิยะจิมา (Miyajima Water Fireworks Festival) เทศกาลดอกไม้ไฟกลางน้ำ จัดเป็นประจำในเดือนสิงหาคมของทุกปี บริเวณเสาโทริอิสีแดงที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำของศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ บนเกาะมิยาจิม่า ในจังหวัดฮิโรชิม่าศาลเจ้ามรดกโลกที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น1 ใน 3 วิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นโดยมีการแสดงดอกไม้ไฟกลางน้ำมากถึง 5,000 นัด นับเป็นงานเทศกาลดอกไม้ไฟที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ในงานนอกจากชมดอกไม้ไฟริมฝั่งแล้ว ยังมีบริการเรือล่องนำคุณไปชมดอกไม้ไฟกลางทะเลอีกด้วย
  3. เทศกาลน้ำแข็งและหิมะซัปโปโร (Supporo Snow Festival) เทศกาลฤดูหนาวชื่อดังแห่งเมืองซัปโปโรจัดขึ้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ สถานที่จัดงานมี 3 จุดคือ สวนสาธารณะโอโดริย่านบันเทิงซูซูกิโนะย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และสนามกีฬาซัปโปโรโดม ชมประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งสุดอลังการจำนวนหลายร้อยชิ้น ผลงานของผู้เข้าร่วมแข่งขันจากทั่วโลก ชมบรรยากาศของงานในมุมสูงได้ที่หอคอยซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) หอคอยกระจายสัญญาณโทรทัศน์จุดชมวิวยอดฮิตใจกลางเมืองซัปโปโร จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น เพื่อร่วมงานยิ่งใหญ่ระดับโลกได้ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

 

เคล็ดลับการเดินทางไปญี่ปุ่น

  • การขึ้นบันไดเลื่อนของชาวญี่ปุ่น ในโตเกียวยืนชิดซ้าย เพื่อให้เดินแซงในช่องขวาส่วนแถบโอซาก้ายืนชิดขวา และเปิดช่องซ้ายสำหรับคนที่เร่งรีบ
  • ในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น จะมีโบกี้สำหรับผู้หญิง ซึ่งอยู่โบกี้แรกหรือสุดท้าย ผู้ชายจึงควรตรวจสอบป้ายก่อนขึ้น
  • มารยาทของชาวญี่ปุ่นคือ ไม่คุยโทรศัพท์ขณะเดินทางโดยสารรถประจำทาง หรือรถไฟ ควรปิดเสียงโทรศัพท์ และเปิดระบบสั่นเอาไว้
  • สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งมีกฎห้ามใช้ไม้เซลฟี่ เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งกับผู้คนรอบข้าง อาทิ พิพิธภัณฑ์ศูนย์ศิลปะโตเกียวดิสนีย์แลนด์ ชานชาลารถไฟ เทศกาลจุดดอกไม้ไฟ แห่ศาลเจ้า เป็นต้น
  • แผ่นดินไหวอาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะในญี่ปุ่น Yurekuru Call คือแอพฯ แจ้งเตือนภัยแผ่นดินไหว ที่ควรโหลดติดโทรศัพท์มือถือไว้
  • โรงแรมโดยทั่วไปจะเปิดให้เช็คอินหลัง15:00 น. และเช็คเอาท์ก่อน 10:00 น. สามารถฝากกระเป๋าไว้กับทางโรงแรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  • สถานีรถไฟ และสถานที่ต่างๆ มีจุดกระเป๋าที่เรียกว่า Coin Locker เป็นตู้ล็อกเกอร์มีหลายขนาดให้เลือกใช้บริการ มีทั้งแบบหยอดเหรียญ และใช้บัตร ic-card ฝากได้ไม่เกิน 3 วัน
  • ป้ายราคาสินค้าส่วนใหญ่ยังไม่รวมภาษี 8% ควรสังเกตให้ดี เพื่อจะได้เตรียมเงินได้พร้อม
  • ร้านที่มีป้าย Tax Free สามารถทำเรื่องยกเว้นภาษีได้เลยที่แคชเชียร์เมื่อซื้อสินค้าครบ 5,000 เยน โดยต้องยื่นพาสปอร์ตตัวจริงตอนชำระเงิน
  • กดเงินเยนจากแบงค์ที่ไทยได้ที่ตู้ ATM ของ Seven Bank หรือตู้อื่นๆ ที่มีมีโลโก้ Visa หรือ PLUS, Master หรือ Cirrus เป็นต้น มีค่ากด 100 บาทต่อครั้ง ถอนได้ขั้นต่ำสุด 1,000 เยน สูงสุด 100,000 เยน

 

พันธมิตรสายการบินของ Traveloka - ภายในประเทศ และ ระหว่างประเทศ

Thai Airasia XThai SmileThai LionAirasiaNok AirScootThai Airways Bangkok AirwaysSingapore AirlinesMalaysia AirlinesCathay PacificVietnam AirlinesEmiratesJetstarLion AirMalindo AirNAM AirHongkong AirlinesKorean Air
.headContent .coverImage > .hero > h1 { font-size: 50px; font-weight: normal; }