อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเติล (Amstel) เริ่มก่อตั้งประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 12 ชื่อเมืองนำมาจากชื่อแม่น้ำอัมสเตล (Amstel) รวมกับคำว่า ดัม (Dam) ที่แปลว่า เขื่อน ซึ่งเมื่อรวมความแล้วก็หมายถึง เขื่อนที่อยู่ริมเเม่นํ้าอัมสเตล นั่นเอง เดิมเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ก่อนจะเติบโตขึ้นในฐานะเมืองท่าที่สำคัญของยุโรปเหนือ และเข้าสู่ยุคทองใน ค.ศ. 17 และกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง และยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินและการค้าเพชรของโลกอีกด้วย ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ มีประชากรกว่า 1.5 ล้านคน นับว่ามากที่สุดในประเทศ แต่มีพื้นที่แค่ 40,000 กว่าตารางกิโลเมตรเท่านั้นเอง

อัมสเตอร์ดัม เมืองเล็กๆ ริมคลอง มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลายแห่ง เป็นเมืองศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป  มีอาคารมากกว่า 7,000 หลังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารประวัติศาสตร์ เป็นเมืองที่มีลักษณะพื้นที่เป็นเกาะ มีคูคลองล้อมรอบเมืองถึง 4 ชั้น เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรและขนส่งสินค้า เป็นคูเมืองเพื่อป้องกันข้าศึกศัตรู มีประตูกันน้ำถึง 16 แห่ง รวมสะพานอีกกว่า 400 แห่งที่เชื่อมเกาะต่างๆ เข้าด้วยกัน ไฮไลต์ของการเที่ยวอัมสเตอร์จึงเป็น การล่องเรือหลังคากระจกลัดเลาะล่องไปตามลำคลองน้อยใหญ่ เพื่อชมทัศนียภาพของเมือง และตึกรามบ้านช่องที่มีเอกลักษณ์สวยงามแปลกตา สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมสเปนผสมกับเรอเนสซองส์   อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ร่ำรวยไปด้วยงานศิลป์และพิพิธภัณฑ์ มีย่านโคมแดง แหล่งท่องราตรีสุดเสรี ปาร์ตี้สนุกสุดเหวี่ยง เหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้จองตั๋วเครื่องบินไปอัมสเตอร์ดัม ปีละหลายล้านคนเลยทีเดียว

สกุลเงินที่ใช้

อัมสเตอร์ดัมใช้เงินสกุล ยูโร (EUR) สำหรับธนบัตรมีชนิด 5, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500  ยูโร โดย 1 ยูโร แบ่งออกเป็น 100 เซนต์ สำหรับเหรียญมี 1, 2, 5, 10, 20, 50 เซ็นต์, 1 และ 2 ยูโร  อัตราเเลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 33.66 บาท ต่อ 1 ยูโร 

ฤดูกาลของเมืองอัมสเตอร์ดัม

อัมสเตอร์ดัมมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 18.3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 2.6 องศาสเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปีละ 797 มิลลิเมตร ควรตรวจสอบสภาพอากาศอีกครั้งก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปอัมสเตอร์ดัม

• ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มช่วงเดือนมีนาคมถึงกรกฎาคม มักจะมีอากาศแปรปรวน โดยเฉพาะในเดือนเมษายน อาจร้อนจัดหรือหนาวจัด และอาจมีหิมะตกได้ในช่วงนี้ อุณหภูมิประมาณ 12-20 องศา ถือว่าอากาศเย็นสำหรับคนไทย ควรเตรียมเสื้อแจ๊กเก็ตพออุ่น ถ้ากันฝนได้ด้วยยิ่งดี
• ฤดูร้อน เริ่มช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ช่วงนี้อากาศจะอุ่นขึ้น อุณหภูมิประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่อากาศร้อนที่สุด เวลากลางวันจะยาวนานขึ้น ทำให้มีเวลาในการท่องเที่ยวมากขึ้น และยังมีหลากหลายเทศกาลจัดขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเดินทางมาพักร้อนอย่างหนาแน่น
• ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน อากาศเย็นลง อุณหภูมิประมาณ 5-15 องศาเซลเซียส เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่มีฝนตกชุกที่สุด ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี ทำให้บรรยากาศเหมาะแก่การท่องเที่ยวอีกช่วงหนึ่ง 
• ฤดูหนาว เริ่มช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม  ฝนตกชุก มีเมฆมาก และอากาศค่อนข้างอึมครึม อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -10 ถึง -5 องศาเซลเซียส เดือนมกราคมเป็นเดือนที่อากาศหนาวที่สุด เป็นช่วงเวลากลางวันสั้นกว่าฤดูอื่น สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งปิดบริการหรือให้บริการสั้นลง

ภูมิภาคของอัมสเตอร์ดัม

เมืองอัมสเตอร์ดัม แบ่งออกเป็น 7 เขต ได้แก่ เซ็นทรัม (Centrum) โนร์ด (Noord) เวสต์ (West) นิวเวสต์ (Nieuw West) ซูอิด (Zuid)  โอสท์ (Oost) ซูอิดูสต์ (Zuidoost) และเวสท์โพร์ท (Westpoort)

สนามบินสำคัญอัมสเตอร์ดัม

ท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล (Amsterdam Airport Schiphol) สนามบินหลักของประเทศเนเธอร์แลนด์ และเป็นสนามบินเพียงแห่งเดียวในอัมสเตอร์ดัม มีเที่ยวบินหนาแน่นมากเป็นอันดับ 5 ของยุโรป ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร สามารถเดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมืองโดยรถไฟ ซึ่งสะดวกที่สุด ใช้เวลาเดินทาง 10 – 15 นาที นอกจากนี้ยังมี รถบัส รถแท็กซี่ และรถเช่าให้บริการ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 – 20 นาที 

การเดินทางไปอัมสเตอร์ดัม

• สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินตรง จากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองอัมสเตอร์ดัม ได้แก่เคแอลเอ็ม (KLM) และอีวีเอแอร์ (EVA Air) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง
• สายการบินที่ให้ที่ให้บริการเที่ยวบินต่อ พัก 1 จุด ได้แก่ การบินไทย (Thai Airways) เอมิเรตส์แอร์ไลน์ (Emirates Airlines) คาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific) สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) กาตาร์แอร์เวย์ (Qatar Airways) บริติชแอร์เวย์ (British Airways) แอร์ฟรานซ์ (Air France) และ ลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa) ใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 15 ชั่วโมง

การเดินทางในอัมสเตอร์ดัม

• - เครื่องบิน สายการบินหลักที่ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศคือ เคแอลเอ็ม (KLM) สายการบินแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ 
• - รถไฟ ให้บริการจากสนามบินไปยังสถานีรถไฟ และจากตัวเมืองอัมสเตอร์ดัมไปยังเมืองใกล้ๆ ซื้อตั๋วรถไฟได้ที่สถานีรถไฟ หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ผ่านเว็บไซต์
• - รถไฟฟ้าใต้ดิน (Metro) มีทั้งหมด 4 เส้นทาง ความยาวรวม 41 กิโลเมตร ได้แก่ สายสีแดง สายสีส้ม สายสีเหลือง และสายสีเขียว
• - รถราง (Tram)  มีทั้งหมด 15 เส้นทาง ความยาวรวม 80.5 กิโลเมตร  
• - รถโดยสารประจำทาง มีทั้งหมด 45 เส้นทาง สามารถซื้อตั๋วเที่ยวเดียวหรือตั๋วหนึ่งชั่วโมงได้โดยตรงจากพนักงานขับรถเมล์  
• - เรือโดยสาร บริการเรือข้ามฟากเพื่อเดินทางสู่อัมสเตอร์ดัมเหนือ เขตที่อนุญาตให้สกูเตอร์ จักรยาน และรถเมล์ เท่านั้นที่สามารถข้ามไปได้
• - จักรยาน อัมสเตอร์ดัมได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงแห่งจักรยานโลก การเดินทางด้วยรถจักรยานได้รับความนิยมสูงสุดโดยเฉพาะการเดินทางภายในเมืองที่การจราจรหนาแน่นมากๆ
• - แท็กซี่ ต้องขึ้นที่คิวแท็กซี่ตามจุดสำคัญๆ ของเมือง ค่าโดยสารคิดตามมิเตอร์ และราคาค่อนข้างสูง
• - รถเช่า อัมสเตอร์ดัมมีรถให้เช่า ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ และรถจักรยาน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้จากโรงแรมที่พัก

สถานที่เที่ยวสำคัญในอัมสเตอร์ดัม

1. 1. จัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) จัตุรัสพื้นที่กว้างใหญ่เปรียบเสมือนหัวใจของเมืองอัมสเตอร์ดัม เป็นจุดศูนย์รวมทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เพียงแต่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟให้ลิ้มรส แต่ยังมีส่วนบริการอื่นๆ ที่ครบครัน มีร้านสินค้าเเบรนด์ดังมากมาย และมีลานกว้างสำหรับเดินเล่นหรือพักผ่อน ทำกิจรรมต่างๆ แวดล้อมไปด้วยตึกรามอาคารเก่าที่ทรงคุณค่ามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เช่น พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace Amsterdam)  แลนด์มาร์กสำคัญที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามอลังการ อนุสรณ์สถานสงคราม (War Mermorial) โบสถ์ใหม่ (New Church) อนุสาวรีย์แห่งชาติ (National Monument) อนุสาวรีย์แห่งเสรีภาพที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกและสดุดีชาวเนเธอร์แลนด์ทั้งหลายที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้บริเวณจัตุรัสดัมสแควร์ยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีของสำนักพระราชวัง งานเฉลิมฉลองวันแห่งการรำลึก การแสดงเปิดหมวกบนท้องถนน รวมถึงกิจกรรมทางสังคมอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญคือเป็นจุดศูนย์กลางที่สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่สำคัญอีกหลายเเห่งด้วยกัน 
2.  2. พิพิธภัณฑ์บ้านแอนน์แฟรงค์ (The Anne Frank House) พิพิธภัณฑ์บ้านแอนน์แฟรงค์ ตั้งอยู่ริมคลองพรินเซนกราทช์ (Prinsengracht) ที่มีบรรยากาศสวยงาม และอยู่ไม่ไกลจากจตุรัสดัมสแควร์ โดยมีการสร้างอาคารทรงทันสมัยขึ้นใหม่ เพื่อจัดแสดงเรื่องราวชีวิตของแอนน์ แฟรงค์ เด็กหญิงชาวดัตช์ เชื้อสายยิวซึ่งมีไฮไลท์อยู่ที่ บันทึกต้นฉบับจริงที่เป็นลายมือของเธอ ส่วนบ้านเก่านั้นจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้เหมือนเมื่อครั้งยังมีคนอาศัยอยู่ รวมทั้งในส่วนของห้องใต้หลังคาที่เธอใช้ในการหลบซ่อนตัวจากนาซีถึง 2 ปี พวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องลับในบ้านนี้ เพื่อหลบหนีการตามล่าของทหารนาซี ที่เข้ายึดครองเนเธอร์แลนด์เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 และไล่กวาดต้อนจับชาวยิว ซึ่งครอบครัวของสาวน้อย แอนน์ แฟรงค์ หรือ อันเนอลีส มารี "อันเนอ" ฟรังค์ กับชาวยิวคนอื่นอีก 4 คน ได้หนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องลับใต้หลังคาของอาคารสำนักงานของ ออทโท ฟรังค์ ผู้เป็นบิดาในกรุงอัมสเตอร์ดัม ในที่สุดพวกเธอถูกจับได้ และถูกส่งไปยังค่ายกักกันในเยอรมนี ผู้คนทั่วโลกรับทราบชะตากรรมของพวกเธอจากไดอารีของเธอที่เขียนระหว่างซ่อนตัว ซึ่งต่อมาได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในภาษาดัทช์ ก่อนถูกนำไปแปลเป็นภาษาต่างๆ อีกหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยออกเผยแพร่ไปทั่วโลก  นอกจากนี้นิตยสารไทมส์ยังยกย่องให้เธอเป็น 1 ใน 100 บุคคลสำคัญแห่งศตวรรษที่ 20 อีกด้วย แม้จะเปิดให้เข้าชมตั้งเเต่เก้าโมงเช้าถึงสามทุ่ม แต่ก็คิวในการรอก็ยังยาวเหยียด ทางที่ดีควรจองบัตรเข้าชมผ่านทางเว็บไซต์ 
3.   3. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งอัมสเตอร์ดัม (Rijksmuseum Amsterdam) พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดและทรงคุณค่าที่สุดในเนเธอร์แลนด์ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พิพิธภัณฑ์ไรจ์คส์ (Rijksmuseum) ก่อครั้งมาตั้งแต่ปี 1800 ในกรุงเฮก และย้ายไปเปิดในกรุงอัมสเตอร์ดัมในปี 1885 อาคารหลักที่เห็นในปัจจุบันออกแบบโดยสถาปนิกชาวดัชต์ “ปีแยร์ ไคเปอส์” (Pierre Cuypers) ด้วยสถาปัตยกรรมแบบผสมระหว่างเรเนซองส์และกอธิคที่วิจิตรอลังการทั้งภายในและภายนอก จัดแสดงผลงานศิลปะและวัตถุทางประวัติศาสตร์กว่า 8,000 ชิ้น จากคอลเล็คชั่นที่เก็บสะสมเอาไว้กว่า 1 ล้านชิ้นที่ครอบคลุมเวลาตั้งแต่ปี 1200-2000 ถูกจัดวางไว้ในแกลอรี่ทั้งหมด 80 แกลอรี่ บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของชาวดัตช์กว่า 800 ปี โดยมีห้องจัดแสดงถึง 200 ห้อง และในจำนวนนั้นมีผลงานชิ้นเอกของจิตรกรเอกของโลก อย่างเช่นภาพ The Milk Maid ของ โยฮานเนสต์ เฟอร์เมียร์  (Johannes Vermeer) ภาพเขียน The Night Watch ของ เรมบรันต์ ฟาน ไรจ์น (Rembrandt van Rijn) ในปี 2013 และ 2014 พิพิธภัณฑ์ไรจ์คส์ได้รับการบันทึกว่า เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในเนเธอร์แลนด์ มีจำนวนผู้เข้าชม 2.2 – 2.45 ล้านคน เลยทีเดียว อีกทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งยุโรปประจำปี 2015 ที่มอบโดยที่ประชุมพิพิธภัณฑ์แห่งยุโรป  การจองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเสพงานศิลป์ของนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปอัมสเตอร์ดัมได้เยอะเลย
4. 4. หมู่บ้านซานส์สคันส์ (Zaanse Schans) หมู่บ้านอนุรักษ์กังหันลมเก่าแก่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือห่างจากเมืองอัมสเตอร์ดัมประมาณ 20 กิโลเมตร ทางเข้าหมู่บ้านโดดเด่นด้วยกังหันลมยักษ์ แลนด์มาร์กสำคัญของหมู่บ้านที่เปรียบได้ดังพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เปิดให้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปอัมสเตอร์ดัมได้เข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวดัชต์ ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่งในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 – 18 โดยทำหน้าที่ผลิตน้ำมันจากดอกมัสตาร์ด กระดาษ งานไม้ ปัจจุบันกังหันไม้ดั้งเดิมที่ถูกสร้างมาปี 1920 เหลือประมาณ 20 อันเท่านั้น ส่วนกังหันลมสีสันสดใสแตกต่างกันออกไปกว่า 1,000 ตัว เป็นของทำขึ้นมาใหม่เพิ่มความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็น นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์ซานส์ (Zaans Museum) พิพิธภัณฑ์กังหันลม De Kat พิพิธภัณฑ์เบเกอรี่ชีสฟาร์ม นาฬิกา ร้านขายเครื่องกาแฟและชา โรงบ่มน้ำมัน (Oil Mill)  ร้านขายของที่ระลึกที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ เช่น รองเท้าไม้ที่ใส่ได้จริง พวงกุญแจรูปรองเท้าไม้ กังหันลม ดอกทิวลิปทำด้วยไม้ ตุ๊กตา และเครื่องเซรามิกต่างๆ และโรงงานรองเท้าไม้ Klompenmakerij ที่อยู่กับชาวดัทซ์มาแต่โบราณกาล โดยมีรองเท้าไม้ยักษ์ตั้งเด่นเป็นสัญลักษณ์ให้ได้ถ่ายรูปกัน ที่นี่นอกจากจะรองเท้าไม้จำหน่ายเป็นของที่ระลึก ซึ่งมีมากมายลายลวดลายสีสันและขนาดสามารถนำไปใช้งานได้จริง ยังสามารถเข้าไปชมการทำงานของทีมช่างและขั้นตอนในการผลิตรองเท้าไม้ ตั้งแต่ต้นจนจบได้ด้วย
5. 5. เรือชมเมืองอัมสเตอร์ดัม (Canal Sightseeing Amsterdam) ล่องเรือชมเมือง (Canal Sightseeing) เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ห้ามพลาดของอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงแห่งคลองของเนเธอร์แลนด์ ในอดีตเมืองนี้มีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล จึงมีการขุดคลองเพื่อระบายน้ำ ทำให้มีคลองใหญ่น้อยกว่า 160 สาย ล้อมรอบเมืองถึง 4 ชั้น ความยาวรวมกว่า 100 กิโลเมตร มีประตูกั้นน้ำถึง 16 แห่ง ระบายน้ำมาลงที่แม่น้ำสายหลักของเมือง เพื่อให้มีพื้นที่แห้งสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยและทำการเกษตร คลองเหล่านี้ถูกใช้ในการสัญจรและการขนส่ง อีกทั้งป้องกันข้าศึกศัตรู ปัจจุบันลำคลองทุกสายถูกใช้ในการท่องเที่ยว มีการปรับเปลี่ยนเรือประเภทต่างๆ ให้กลายเป็นเรือนำเที่ยวชมเมืองอัมสเตอร์ดัม เจ้าของสมญานาม “เวนิสทางเหนือของยุโรป” ที่มีทัศนียภาพอันงดงาม รวมทั้งตึกรามบ้านช่องและสถาปัตยกรรมต่างๆ ซึ่งยังคงเป็นศิลปะโบราณแบบสเปนผสมเรอเนอซองส์ สืบทอดมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีเอกลักษณ์พิเศษ เป็นอาคารทรงแคบ ตัวตึกใช้อิฐแดงก่อแบบไม่ฉาบปูน ตกแต่งเป็นภาพปูนปั้นเทพเจ้ากรีกอย่างสวยงาม และหน้าจั่วมีไม้ยื่นออกมา เพื่อแขวนลอกไว้สำหรับขนสิ่งของเข้าบ้านทางหน้าต่าง เรือชมวิวมีหลายรูปแบบ แต่ที่รู้จักกันดีคือ ล่องเรือหลังคากระจก (Lover Boat) เป็นเรือยาวที่มีหลังคาและช่องหน้าต่างกระจกให้ได้มองชมวิว หรือจะล่องเรือพร้อมดินเนอร์สุดหรูก็ต้องใช้บริการ Pub Cruise ชมบรรยากาศแสงสีเมืองอัมสเตอร์ดัมที่สวยงามแปลกตา ผ่านลำคลองหลัก 3 คลอง คือ คลองไคเซอร์กราทช์ (Keizersgracht) คลองพรินเซนกราทช์ (Prinsengracht) และคลองเฮเรนกราทช์ (Herengracht)

เทศกาลสำคัญอัมสเตอร์ดัม

1. 1. เทศกาลแสงไฟอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam Light Festival) งานเทศกาลศิลปะจากแสงไฟประจำฤดูหนาว จัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม โดยแต่ละปีจะมีธีมของงานที่แตกต่างกันไป นักออกแบบหลากสัญชาติหลายสาขาจากทั่วโลกจะร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแสงไฟ จัดแสดงงานตามสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองอัมสเตอร์ดัม ตั้งแต่ถนนไปจนถึงแม่น้ำ เปิดให้ชมเวลา 5 โมงเย็น จนถึง 5 ทุ่ม นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปอัมสเตอร์ดัมสามารถชมเมืองที่เรืองรองไปด้วยแสงไฟได้หลายวิธี ทั้งปั่นจักรยาน เดินจิบกาแฟร้อนควันกรุ่น หรือล่องเรือไปตามลำน้ำ เพื่อชมความงามอย่างใกล้ชิด
2. 2. เทศกาลไพรด์อัมสเตอร์ดัม (Pride Amsterdam) งานเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ตระการตาของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศของชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจัดอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 9 วัน ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม แต่ละวันมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไปให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปอัมสเตอร์ดัมได้เข้าร่วม ทั้งการเดินขบวนพาเหรดสุดอลังการตามท้องถนน การแสดงดนตรีและการแสดงจากเหล่าศิลปิน ไฮไลท์ห้ามพลาดคือ Canal Parade ซึ่งเป็นขบวนพาเหรดทางน้ำแห่งเดียวในโลก เรือนับร้อยลำถูกประดับประดาอย่างสวยงาม พร้อมกลุ่มคนหลายหลากทางเพศที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันแบบจัดเต็ม  
3. 3. วันพระราชา (King's Day) เป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ งานเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพของพระราชาวิลเลียมอเล็กซานเดอร์ ในวันที่ 27 เมษายน ของทุกปี เป็นวันที่ชาวดัตช์จะพร้อมใจสวมใส่เสื้อผ้าสีส้ม เพื่อเป็นเกียรติแด่ราชวงศ์ออเรนจ์-นัสเซาแห่งเนเธอร์แลนด์ ในวันนี้ทั่วทุกมุมเมืองอัมสเตอร์ดัมจะมีตลาดนัดออกร้านขายของ มีขบวนพาเหรด มีการละเล่นต่างๆ ปาร์ตี้และคอนเสิร์ต และยังมีกิจกรรมยอดนิยมคือนั่งเรือในคลองประจำเมืองนับเป็นการเฉลิมฉลองที่สนุกสนานและยิ่งใหญ่ที่สุด ถือเป็นการเลี้ยงส่งฤดูหนาวและต้อนรับอากาศอบอุ่นไปด้วยในตัว

เคล็ดลับการเดินทางไปอัมสเตอร์ดัม

• - เวลาของอัมสเตอร์ดัมช้ากว่าไทย  5 ชั่วโมง ฤดูร้อนจะช้ากว่า 5 ชั่วโมง ส่วนฤดูหนาวจะช้ากว่า 6 ชั่วโมง 
• - ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 น. – 18.00 น. ส่วนวันเสาร์เปิดถึง 17.00 น. และวันพฤหัสบดีเปิดถึง 21.00 น. วันอาทิตย์เปิด 12.00 น. – 17.00 น. ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งเปิดถึง 20.00 น. หรือ 22.00 น. ในคืนวันปกติ
• - ตั๋วแบบ GVB Day Pass เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในอัมสเตอร์ดัมไม่กี่วัน มีให้เลือกเดินทาง 1-7 วัน ราคาเริ่มต้น 7.5 ยูโร ใช้ขึ้นรถเมล์ รถไฟและรถรางได้  
• - บัตรเติมเงินล่วงหน้า (OV-chipkaart) เหมาะสำหรับคนที่อยู่นานเป็นเดือน  เพราะบัตรมีอายุถึง 4-5 ปี  
• - ตั๋วแบบ Amsterdam & Region Travel Ticket มีให้เลือกเดินทาง 1-3 วัน โดยสามารถใช้ขึ้นรถเมล์ รถไฟ รถราง เรือเฟอร์รี่ได้ รวมถึงจากสนามบินมายังตัวเมืองอัมสเตอร์ดัม ราคาเริ่มต้นที่ 18.5 ยูโร
• - บัตร I amsterdam City Card เหมาะสำหรับการเที่ยวสั้นๆ เน้นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ใช้เป็นบัตรโดยสาร บัตรเข้าสถานที่ต่างๆ และเป็นบัตรส่วนลดไปด้วยในตัว
• - ทุกวันเสาร์แรกของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี พิพิธภัณฑ์กว่า 40 แห่ง ในอัมสเตอร์ดัมพร้อมใจกันเปิดยาวจนถึงตีสองให้ผู้สนใจเข้าชม งานนี้มีชื่อว่า N8 หรือ Amsterdam Night Museum Foundation 
• - พิพิธภัณฑ์บางแห่งในอัมสเตอร์ดัม ต้องจองล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ เช่น พิพิธภัณฑ์บ้านแอนน์แฟรงค์ (Anne Frank House) และพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum)