เคปทาวน์ (Cape Town) เป็นเมืองหลวง และเป็นทั้งเมืองที่มีความใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่บนปลายแหลมสุดของแผ่นดิน ทางตอนใต้ของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของทางลาดภูเขารูปโต๊ (Table Mountain) อันเป็นที่มาของชื่อเมืองก็คือ เคปทาวน์ ตั้งอยู่ตอนปลายสุดของทวีปแอฟริกาเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เมืองเคปทาวน์มีความพิเศษ ตรงที่มีวิวทิวทัศน์อันสวยงาม สามารถมองเห็นได้ทั้งภูเขา และทะเล เนื่องจากแหลมที่ว่านี้เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในมหาสมุทร จึงทำให้เมืองเคปทาวน์ เกือบจะทั่วทั้งเมืองถูกล้อมรอบด้วยน้ำทะเล ส่งผลทำให้เมืองเคปทาวน์ได้กลายเป็นเมืองท่า และมีความสำคัญเกี่ยวกับการค้าขาย และการขนส่งสินค้าของประเทศแอฟริกาใต้ นอกจากนั้นความโดดเด่นของเมืองเคปทาวน์ ก็คือจะมีภูเขาตั้งอยู่ใจกลางเมือง ภูเขาลูกนี้ก็คือ ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain) ทำให้เมืองเคปทาวน์ มีทั้งทัศนียภาพอันสวยงามของธรรมชาติ ทั้งภูเขา ทะเล ลำธาร คือจัดว่าครบ ทั้งนี้เมืองเคปทาวน์ก็ยังเป็นเมืองที่ไม่ได้พลุกพล่านมากเท่าไหร่นัก เป็นส่วนประกอบที่ลงตัวระหว่างเมืองหลวง และบรรยากาศสวยๆ ของธรรมชาติอยู่ล้อมรอบ อยากมาเที่ยวเคปทาวน์ก็ไม่ยาก เพราะแค่จองตั๋วเครื่องบินไปเคปทาวน์ แล้วไม่ต้องทำวีซ่า เพราะคนไปเที่ยวเคปทาวน์แบบฟรีวีซ่าได้ พำนักได้นานถึง 30 วัน
หากใครที่ชอบเที่ยวแบบธรรมชาติ แนะนำว่าการลิสต์เคปทาวน์เอาไว้เป็นเมืองที่ควรมา ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะอย่างแรกเลยคือเคปทาวน์ มีทั้งอุทยานแห่งชาติ และภูเขาตั้งอยู่กลางเมือง การขึ้นไปเที่ยวบนภูเขาโต๊ะ นอกจากจะทำให้เห็นความงดงามของธรรมชาติแล้วนั้น ยังโดดเด่นด้วยการล้อมรอบไปด้วยทัศนียภาพของทะเล เนื่องจากภูมิประเทศของเคปทาวน์ นั้นตั้งอยู่บนแหลมกู๊ดโฮป หากใครที่คิดว่าไปเที่ยวแอฟริกาใต้ แล้วจะมีแต่ทุ่งหญ้าสะวันนา หรือการล่าสัตว์อย่างเดียว การมาเที่ยวที่เคปทาวน์ จะช่วยทำให้มุมมองของคุณต่อแอฟริกาใต้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้นเคปทาวน์ ยังถือว่าเป็นเมืองที่วิวสวยติดอันดับโลก และมีวิวสวยงามเป็นอันดับหนึ่งของประเทศแอฟริกาใต้อีกด้วย หรือถ้าหากใครที่อยากมาเที่ยวเคปทาวน์ แล้วช้อปปิ้ง หรือเที่ยวคาเฟ่ บอกเลยว่าก็ไม่ผิดหวัง เพราะในเคปทาวน์จะมีแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองโรแมนติก และน่าสนใจ หากเบื่อเที่ยวโซนยุโรปแล้ว การมาเที่ยวที่แอฟริกาใต้ หรือว่าเคปทาวน์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
สกุลเงิน
สกุลเงินที่ใช้ในเมืองเคปทาวน์ก็คือ แรนด์แอฟริกาใต้ (ZAR) เทียบเท่า 1 แรนด์แอฟริกาใต้คือ 2 บาทไทย (THB) ซึ่งเรทเงินจะขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละวัน
ฤดูกาลเคปทาวน์
ด้วยสภาพอากาศของเคปทาวน์ เนื่องจากตั้งอยู่บนแหลม และมีส่วนที่ยื่นลงไปในทะเล จึงทำให้มีสภาพอากาศอบอุณแบบเมดิเตอร์เรเนียน แต่ในขณะเดียวกันอากาศก็มีความแห้งแล้ง ทำให้ฤดูร้อนที่เคปทาวน์จะร้อนแบบแดดแรง และมีความแห้งแล้ง อุณหภูมิเฉลี่ยของเคปทาวน์จะอยู่ที่ประมาณ 11-20 องศาเซสเซียสด้วยกัน ฤดูกาลภายในเคปทาวน์ จะประกอบไปด้วย 4 ฤดูด้วยกันคือ
- ฤดูใบไม้ผลิ จะเริ่มตั้งแต่เดือน กันยายน ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน อากาศจะไม่ถึงกับร้อนมาก ค่อนข้างมีความเย็นสบาย แต่จะค่อยๆ อุ่นขึ้นเรื่อยๆ
- ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่ช่วงเดือนนี้ที่บริเวณฝั่งยุโรปจะมีความหนาวเย็น แต่เคปทาวน์จะมีอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น เป็นฤดูแบบแห้งแล้ง
- ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงฤดูที่อากาศจะค่อยๆ หนาวเย็นมากขึ้น เพราะเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูหนาว คนที่ไม่ชอบอากาศร้อน มักจะมาเที่ยวในช่วงนี้
- ฤดูหนาว จะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ไปจนถึงสิงหาคม อากาศจะมีความหนาวเย็น และอุณหภูมิจะค่อยลดต่ำลงเรื่อยๆ อุณหภูมิอาจจะลดลงจนถึงเลขตัวเดียว
ภูมิภาคเคปทาวน์
เมืองเคปทาวน์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาค West Coast ประกอบไปด้วยเมืองต่างๆ ดังนั้น
- Cape Town
- Bloubergstrand
- Milnerton
- Tableview
- West Beach
- Big Bay
- Sunset Beach
- Sunningdale
- Parklands
- Parklands North
สนามบินสำคัญเคปทาวน์
เมืองเคปทาวน์มีสนามบินแห่งสำคัญของเมืองก็คือ ท่าอากาศยานนานาชาติเคปทาวน์ (CPT) เป็นสนามบินที่ถือว่ามีความหนาแน่นเป็นอันดับ 3 ของทวีปแอฟริกา และเป็นสนามบินสำคัญที่ติด 1 ใน 10 สนามบิน หรือว่าเส้นทางการบินที่มีคนใช้บริการมากที่สุดในโลก
การเดินทางไปเคปทาวน์
จองตั๋วเครื่องบินไปเคปทาวน์ แล้วไปเที่ยวเคปทาวน์กันดีกว่า ซึ่งใครที่อยากเดินทางไปเที่ยวเคปทาวน์ นั้นยังไม่มีเที่ยวบินตรง แต่สามารถเลือกสายการบินที่มีให้บริการต่อเครื่อง ได้แก่ เอมิเรตส์ (Emirates) สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) กาตาร์แอร์เวย์ (Qatar Airways) เคนย่าแอร์เวย์ (Kenya Airways) และสายการบินเอทิฮัด (Etihad Airways) โดยใช้เวลา 16 ชั่วโมงขึ้นไป ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสายการบิน และระยะเวลาการต่อเครื่อง
การเดินทางในเคปทาวน์
- เครื่องบิน การเดินทางด้วยเครื่องบินระหว่างเมืองในประเทศแอฟริกาใต้ หรือทวีปแอฟริกา ก็ยังคงเป็นที่นิยม เพราะว่าช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก แถมยังเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกสบายเป็นอย่างมาก
- รถบัส (Bus) การคมนาคมสำหรับเมืองเคปทาวน์ที่สะดวกรองลงมา จากการเดินทางด้วยเครื่องบิน ก็คือการเดินทางด้วยรถบัส เพราะว่ามีหลายเส้นทางให้เลือก หากใครที่ไม่ได้เร่งรีบมากนัก และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย การเดินทางด้วยรถบัส เป็นตัวเลือกที่ดี
- รถยนต์ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว และอยากแพลนทริปด้วยตัวของคุณเอง แนะนำให้เช่ารถขับเอง ยิ่งเดินทางไปเที่ยวเคปทาวน์กันหลายคน ก็ยิ่งหารได้ถูกลง ซึ่งวิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นักท่องเที่ยวนิยม
- รถไฟ หากใครอยากเดินทางออกไปเมืองใกล้เคียง หรืออกไปเที่ยวนอกเมืองเคปทาวน์ แนะนำการเดินทางด้วยรถไฟ แต่แนะนำให้ศึกษาการเดินทางด้วยรถไฟให้ดี เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะหลงได้
- รถแท็กซี่ อาจจะไม่คุ้นเคยนักกับการใช้รถสาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยว หากใครที่อยากได้รับความสะดวกสบาย หรือว่าอยากถึงจุดหมายปลายทางได้โดยเร็ว แนะนำให้ใช้บริการรถแท็กซี่
- รถบัส Hop On-Hop Off Bus ถือว่าเป็นการขนส่งคมนาคมที่สะดวก และเหมาะกับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นที่สุด สำหรับรถบัสนี้ เพราะว่าจะแบ่งเป็น 4 สาย มีทั้งหมด 4 สี จะจอดทุกป้าย และเส้นทางการเดินรถจะตระเวณไปรอบเมืองเคปทาวน์ และแลนด์มาร์คดังๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวรอบเคปทาวน์
สถานที่เที่ยวสำคัญเคปทาวน์
- อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น (Table Mountain National Park) นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเที่ยวแบบธรรมชาติ หรือว่าอยากหากิจกรรมทำแบบแอดเวนเจอร์จะต้องชื่นชอบที่เที่ยวเคปทาวน์แห่งนี้แน่นอน เพราะว่าด้านบนภูเขาโต๊ะ นอกเหนือจากจะมีวิวทิวทัศนที่สวยงามแล้วนั้น ยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ สัตว์ป่า และพืชพันธุ์ต่างๆ ที่หาดูได้ยาก เหมาะกับการเป็นที่เที่ยวเชิงธรรมชาติ หากใครที่ไม่ชอบเดินป่า หรือปีนเขาก็ไม่ต้องห่วง เพราะระหว่างที่ขึ้นไปด้านบน จะสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปได้
- แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) ถือว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองเคปทาวน์ และไฮไลท์ของประเทศแอฟริกาใต้เลยก็ว่าได้ สำหรับแหลมกู๊ดโฮป สามารถเดินทางไปเที่ยวจากเคปทาวน์ เป็นแหลมที่ยื่นออกไปกลางมหาสมุทรแอตเลนติก คนส่วนใหญ่ที่เดินทางไปเที่ยวเคปทาวน์ ต่างก็ลิสต์ที่เที่ยวแหลมกู๊ดโฮปแห่งนี้เอาไว้ เนื่องจากมีความงดงามทางด้านทัศนียภาพเป็นอย่างมาก ใครที่อยากได้วิวรูปถ่ายสวยๆ แนะนำให้ไปเที่ยวที่แหลมกู๊ดโฮปนี้
- หาดโบลเดอร์ส (Boulders Beach) ปักไว้ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งเมืองเคปทาวน์ที่ห้ามพลาดกันเลยทีเดียว กับชายหาดโบลเดอร์ส หรือที่หลายคนเรียกว่าหาดนกเพนกวิน โดยชายหาดแห่งนี้จะตั้งอยู่ระหว่างเมืองเคปทาวน์ และแหลมกู๊ดโฮป ความโดดเด่นคือบริเวณที่ชายหาดโบลเดอร์ส จะเต็มไปด้วยนกเพนกวินมากมาย ออกมาเดินเล่น และเล่นน้ำบริเวณนี้ เป็นที่ฮือฮาสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วนกเพนกวินจะอาศัยอยู่ในที่หนาวเย็นเท่านั้น
- สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช (Kirstenbosch National Botanical Garden) นอกเหนือจากที่เที่ยวทางทะเลที่เคปทาวน์แล้วนั้น ยังมีที่เที่ยวทางธรรมชาติ หรือว่าสวนพฤกษศาสตร์นี้ที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งแห่ง โดยสวนนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1913 เอาไว้สำหรับเพาะปลูก และอนุรักษ์พืชพันธุ์ต่างๆ ที่หาได้ยาก และเป็นพืชพื้นเมืองของแอฟริกาใต้ โดยส่วนนี้จะตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของอุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น เปิดตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.
- ห้าง V&A Waterfront หากใครที่ชอบช้อปปิ้งมาเที่ยวเคปทาวน์ก็ไม่ผิดหวัง เพราะที่เคปทาวน์นี้มีห้างสรรพสินค้าใหญ่โต ครอบคลุมพื้นที่ท่าเรือที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเคปทาวน์เอาไว้ กลายมาเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเคปทาวน์ไปซะแล้ว นอกเหนือจากการที่จะได้ช้อปปิ้งสมใจ ยังได้มองเห็นวิวสวยๆ ของท่าเรือ และถ่ายรูปกับวิวที่ด้านหลังเป็นภูเขาโต๊ะ ทำให้ห้างนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว
เทศกาลสำคัญเคปทาวน์
- งานเทศกาลแจ๊ส (Cape Town International Jazz Festival) ถือว่าเป็นงานเทศกาลที่ได้รับความสนใจจากชาวเมืองเคปทาวน์เอง และจากนักท่องเที่ยว สำหรับงานเทศกาลแจ๊ส ที่ถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในเมืองเคปทาวน์ นักดนตรีแจ๊สฝีมือจะหลั่งไหลมาร่วมงานนี้ทั่วทุกมุมโลก ถือว่าเป็นงานเทศกาลดนตรีที่น่าสนใจอีกงานหนึ่งของเมืองเคปทาวน์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่หลายเฝ้ารอคอย เพราะถือว่าเป็นงานเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่ง
- คาร์นิวัลเคป (Cape Carnival) ประเทศอื่น หรือว่าเมืองอื่นอาจจะฉลองเทศกาลปีใหม่ ทุกวันที่ 31 ธันวาคม หรือวันที่ 1 มกราคม แต่ว่าที่เมืองเคปทาวน์ นั้นได้มีการเฉลิมฉลอง และงานเทศกาลที่ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ภายในวันที่ 2 มกราคม โดยจะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ มีขบวนแห่ไปตามท้องถนน และประชาชนจะทำการหยุดงาน หากใครไปเที่ยวเคปทาวน์ในช่วงปีใหม่ แนะนำให้ลองเตรียมตัวไปร่วมงานเทศกาลนี้ดู
- ฤดูวาฬ (Whale Season) แม้จะไม่ใช่เทศกาลเฉลิมฉลองอะไรที่ยิ่งใหญ่นัก แต่เทศกาลดูวาฬ หรือการล่องเรือชมวาฬ ก็ถูกจัดขึ้นอย่างเป็นประจำในทุกๆ ปี ซึ่งในแต่ละปีฤดูที่เหมาะสมกับการดูวาฬ ก็คือช่วง มิ.ย. – พ.ย. นักท่องเที่ยวที่อยากเห็นวาฬ จะเดินทางมาเที่ยวเคปทาวน์ในช่วงฤดูนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เพราะบางเวลาวาฬก็อาจจะไม่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเลยก็ได้
เคล็ดลับการไปเที่ยวเคปทาวน์
- - เวลาที่เมืองเคปทาวน์ นั้นช้ากว่าที่ประเทศไทย 5 ชั่วโมง
- - เมืองเคปทาวน์ ประชาชนใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ
- - หากอยากมาดูวาฬ ให้มาเที่ยวเคปทาวน์ในช่วงเดือนมิถุนายน ไปจนถึงพฤศจิกายน แต่ถ้าอยากเห็นลูกวาฬด้วย ให้มาเที่ยวเคปทาวน์ช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
- - คนไทยไม่จำเป็นต้องทำวีซ่าเมื่อมาเที่ยวเคปทาวน์ เพราะว่าได้รับการยกเว้นฟรีวีซ่า และพำนักอยู่ในเมืองเคปทาวน์ได้นานถึง 30 วันด้วยกัน
- - สำหรับคนที่เช่ารถยนต์ขับเองภายในเคปทาวน์ แนะนำไม่ควรพกสิ่งมีค่า และเอาไว้ในรถยนต์ เพราะอาจจะถูกโจรกรรมได้
- - หากใครที่ไม่รีบร้อน และอยากตระเวณเที่ยวไปยังจุดต่างๆ ของเคปทาวน์ แนะนำให้เช่ารถยนต์ขับ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
- - ไม่อยากต่อคิวเข้าที่เที่ยว หรือแลนด์มาร์คในเคปทาวน์นาน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการไปเที่ยวสถานที่เที่ยวต่างๆ ในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ให้ไปในวันธรรมดาแทน