ตั๋วเครื่องบินไป Cape Town (CPT)

ทราเวลโลก้าช่วยให้คุณค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกและโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไปยัง Cape Town (CPT)

เส้นทาง

สายการบิน

ตารางบิน

ราคาเริ่มต้น

กรุงเทพ (BKK) → เคปทาวน์ (CPT)
Cathay Pacific
พฤหัสบดี, 25 เม.ย. 2024
THB 21,787.77
สิงคโปร์ (SIN) → เคปทาวน์ (CPT)
สายการบิน
เสาร์, 11 พ.ค. 2024
THB 24,829.01
กรุงเทพ (BKK) → เคปทาวน์ (CPT)
สายการบิน
พุธ, 08 พ.ค. 2024
THB 25,749.64
ปารีส (CDG) → เคปทาวน์ (CPT)
Air France
อังคาร, 30 เม.ย. 2024
THB 33,327.20
สิงคโปร์ (SIN) → เคปทาวน์ (CPT)
British Airways
เสาร์, 27 เม.ย. 2024
THB 34,154.44
ไมอามี (MIA) → เคปทาวน์ (CPT)
Delta Airlines
พฤหัสบดี, 25 เม.ย. 2024
THB 51,713.96

ข้อมูลทั่วไปเคปทาวน์

เคปทาวน์ (Cape Town) เป็นเมืองหลวง และเป็นทั้งเมืองที่มีความใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่บนปลายแหลมสุดของแผ่นดิน ทางตอนใต้ของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของทางลาดภูเขารูปโต๊ (Table Mountain) อันเป็นที่มาของชื่อเมืองก็คือ เคปทาวน์ ตั้งอยู่ตอนปลายสุดของทวีปแอฟริกาเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เมืองเคปทาวน์มีความพิเศษ ตรงที่มีวิวทิวทัศน์อันสวยงาม สามารถมองเห็นได้ทั้งภูเขา และทะเล เนื่องจากแหลมที่ว่านี้เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในมหาสมุทร จึงทำให้เมืองเคปทาวน์ เกือบจะทั่วทั้งเมืองถูกล้อมรอบด้วยน้ำทะเล ส่งผลทำให้เมืองเคปทาวน์ได้กลายเป็นเมืองท่า และมีความสำคัญเกี่ยวกับการค้าขาย และการขนส่งสินค้าของประเทศแอฟริกาใต้ นอกจากนั้นความโดดเด่นของเมืองเคปทาวน์ ก็คือจะมีภูเขาตั้งอยู่ใจกลางเมือง ภูเขาลูกนี้ก็คือ ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain) ทำให้เมืองเคปทาวน์ มีทั้งทัศนียภาพอันสวยงามของธรรมชาติ ทั้งภูเขา ทะเล ลำธาร คือจัดว่าครบ ทั้งนี้เมืองเคปทาวน์ก็ยังเป็นเมืองที่ไม่ได้พลุกพล่านมากเท่าไหร่นัก เป็นส่วนประกอบที่ลงตัวระหว่างเมืองหลวง และบรรยากาศสวยๆ ของธรรมชาติอยู่ล้อมรอบ อยากมาเที่ยวเคปทาวน์ก็ไม่ยาก เพราะแค่จองตั๋วเครื่องบินไปเคปทาวน์ แล้วไม่ต้องทำวีซ่า เพราะคนไปเที่ยวเคปทาวน์แบบฟรีวีซ่าได้ พำนักได้นานถึง 30 วัน 

 

หากใครที่ชอบเที่ยวแบบธรรมชาติ แนะนำว่าการลิสต์เคปทาวน์เอาไว้เป็นเมืองที่ควรมา ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะอย่างแรกเลยคือเคปทาวน์ มีทั้งอุทยานแห่งชาติ และภูเขาตั้งอยู่กลางเมือง การขึ้นไปเที่ยวบนภูเขาโต๊ะ นอกจากจะทำให้เห็นความงดงามของธรรมชาติแล้วนั้น ยังโดดเด่นด้วยการล้อมรอบไปด้วยทัศนียภาพของทะเล เนื่องจากภูมิประเทศของเคปทาวน์ นั้นตั้งอยู่บนแหลมกู๊ดโฮป หากใครที่คิดว่าไปเที่ยวแอฟริกาใต้ แล้วจะมีแต่ทุ่งหญ้าสะวันนา หรือการล่าสัตว์อย่างเดียว การมาเที่ยวที่เคปทาวน์ จะช่วยทำให้มุมมองของคุณต่อแอฟริกาใต้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้นเคปทาวน์ ยังถือว่าเป็นเมืองที่วิวสวยติดอันดับโลก และมีวิวสวยงามเป็นอันดับหนึ่งของประเทศแอฟริกาใต้อีกด้วย หรือถ้าหากใครที่อยากมาเที่ยวเคปทาวน์ แล้วช้อปปิ้ง หรือเที่ยวคาเฟ่ บอกเลยว่าก็ไม่ผิดหวัง เพราะในเคปทาวน์จะมีแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองโรแมนติก และน่าสนใจ หากเบื่อเที่ยวโซนยุโรปแล้ว การมาเที่ยวที่แอฟริกาใต้ หรือว่าเคปทาวน์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี 

 

สกุลเงิน 

สกุลเงินที่ใช้ในเมืองเคปทาวน์ก็คือ แรนด์แอฟริกาใต้ (ZAR) เทียบเท่า 1 แรนด์แอฟริกาใต้คือ 2 บาทไทย (THB) ซึ่งเรทเงินจะขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละวัน 

 

ฤดูกาลเคปทาวน์ 

ด้วยสภาพอากาศของเคปทาวน์ เนื่องจากตั้งอยู่บนแหลม และมีส่วนที่ยื่นลงไปในทะเล จึงทำให้มีสภาพอากาศอบอุณแบบเมดิเตอร์เรเนียน แต่ในขณะเดียวกันอากาศก็มีความแห้งแล้ง ทำให้ฤดูร้อนที่เคปทาวน์จะร้อนแบบแดดแรง และมีความแห้งแล้ง อุณหภูมิเฉลี่ยของเคปทาวน์จะอยู่ที่ประมาณ 11-20 องศาเซสเซียสด้วยกัน ฤดูกาลภายในเคปทาวน์ จะประกอบไปด้วย 4 ฤดูด้วยกันคือ 

 

  • ฤดูใบไม้ผลิ จะเริ่มตั้งแต่เดือน กันยายน ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน อากาศจะไม่ถึงกับร้อนมาก ค่อนข้างมีความเย็นสบาย แต่จะค่อยๆ อุ่นขึ้นเรื่อยๆ 
  • ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่ช่วงเดือนนี้ที่บริเวณฝั่งยุโรปจะมีความหนาวเย็น แต่เคปทาวน์จะมีอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น เป็นฤดูแบบแห้งแล้ง 
  • ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงฤดูที่อากาศจะค่อยๆ หนาวเย็นมากขึ้น เพราะเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูหนาว คนที่ไม่ชอบอากาศร้อน มักจะมาเที่ยวในช่วงนี้ 
  • ฤดูหนาว จะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ไปจนถึงสิงหาคม อากาศจะมีความหนาวเย็น และอุณหภูมิจะค่อยลดต่ำลงเรื่อยๆ อุณหภูมิอาจจะลดลงจนถึงเลขตัวเดียว 

 

 

ภูมิภาคเคปทาวน์ 

เมืองเคปทาวน์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาค West Coast ประกอบไปด้วยเมืองต่างๆ ดังนั้น 

  • Cape Town
  • Bloubergstrand
  • Milnerton 
  • Tableview
  • West Beach 
  • Big Bay 
  • Sunset Beach 
  • Sunningdale
  • Parklands
  • Parklands North 

 

สนามบินสำคัญเคปทาวน์ 

เมืองเคปทาวน์มีสนามบินแห่งสำคัญของเมืองก็คือ ท่าอากาศยานนานาชาติเคปทาวน์ (CPT) เป็นสนามบินที่ถือว่ามีความหนาแน่นเป็นอันดับ 3 ของทวีปแอฟริกา และเป็นสนามบินสำคัญที่ติด 1 ใน 10 สนามบิน หรือว่าเส้นทางการบินที่มีคนใช้บริการมากที่สุดในโลก 

 

การเดินทางไปเคปทาวน์ 

จองตั๋วเครื่องบินไปเคปทาวน์ แล้วไปเที่ยวเคปทาวน์กันดีกว่า ซึ่งใครที่อยากเดินทางไปเที่ยวเคปทาวน์ นั้นยังไม่มีเที่ยวบินตรง แต่สามารถเลือกสายการบินที่มีให้บริการต่อเครื่อง ได้แก่ เอมิเรตส์ (Emirates) สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) กาตาร์แอร์เวย์ (Qatar Airways) เคนย่าแอร์เวย์ (Kenya Airways) และสายการบินเอทิฮัด (Etihad Airways) โดยใช้เวลา 16 ชั่วโมงขึ้นไป ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสายการบิน และระยะเวลาการต่อเครื่อง

การเดินทางในเคปทาวน์ 

 

  • เครื่องบิน การเดินทางด้วยเครื่องบินระหว่างเมืองในประเทศแอฟริกาใต้ หรือทวีปแอฟริกา ก็ยังคงเป็นที่นิยม เพราะว่าช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก แถมยังเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกสบายเป็นอย่างมาก 
  • รถบัส (Bus) การคมนาคมสำหรับเมืองเคปทาวน์ที่สะดวกรองลงมา จากการเดินทางด้วยเครื่องบิน ก็คือการเดินทางด้วยรถบัส เพราะว่ามีหลายเส้นทางให้เลือก หากใครที่ไม่ได้เร่งรีบมากนัก และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย การเดินทางด้วยรถบัส เป็นตัวเลือกที่ดี 
  • รถยนต์ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว และอยากแพลนทริปด้วยตัวของคุณเอง แนะนำให้เช่ารถขับเอง ยิ่งเดินทางไปเที่ยวเคปทาวน์กันหลายคน ก็ยิ่งหารได้ถูกลง ซึ่งวิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นักท่องเที่ยวนิยม 
  • รถไฟ หากใครอยากเดินทางออกไปเมืองใกล้เคียง หรืออกไปเที่ยวนอกเมืองเคปทาวน์ แนะนำการเดินทางด้วยรถไฟ แต่แนะนำให้ศึกษาการเดินทางด้วยรถไฟให้ดี เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะหลงได้ 
  • รถแท็กซี่ อาจจะไม่คุ้นเคยนักกับการใช้รถสาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยว หากใครที่อยากได้รับความสะดวกสบาย หรือว่าอยากถึงจุดหมายปลายทางได้โดยเร็ว แนะนำให้ใช้บริการรถแท็กซี่ 
  • รถบัส Hop On-Hop Off Bus ถือว่าเป็นการขนส่งคมนาคมที่สะดวก และเหมาะกับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นที่สุด สำหรับรถบัสนี้ เพราะว่าจะแบ่งเป็น 4 สาย มีทั้งหมด 4 สี จะจอดทุกป้าย และเส้นทางการเดินรถจะตระเวณไปรอบเมืองเคปทาวน์ และแลนด์มาร์คดังๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวรอบเคปทาวน์ 

 

สถานที่เที่ยวสำคัญเคปทาวน์

  1. อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น (Table Mountain National Park) นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเที่ยวแบบธรรมชาติ หรือว่าอยากหากิจกรรมทำแบบแอดเวนเจอร์จะต้องชื่นชอบที่เที่ยวเคปทาวน์แห่งนี้แน่นอน เพราะว่าด้านบนภูเขาโต๊ะ นอกเหนือจากจะมีวิวทิวทัศนที่สวยงามแล้วนั้น ยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ สัตว์ป่า และพืชพันธุ์ต่างๆ ที่หาดูได้ยาก เหมาะกับการเป็นที่เที่ยวเชิงธรรมชาติ หากใครที่ไม่ชอบเดินป่า หรือปีนเขาก็ไม่ต้องห่วง เพราะระหว่างที่ขึ้นไปด้านบน จะสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปได้ 
  2. แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) ถือว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองเคปทาวน์ และไฮไลท์ของประเทศแอฟริกาใต้เลยก็ว่าได้ สำหรับแหลมกู๊ดโฮป สามารถเดินทางไปเที่ยวจากเคปทาวน์ เป็นแหลมที่ยื่นออกไปกลางมหาสมุทรแอตเลนติก คนส่วนใหญ่ที่เดินทางไปเที่ยวเคปทาวน์ ต่างก็ลิสต์ที่เที่ยวแหลมกู๊ดโฮปแห่งนี้เอาไว้ เนื่องจากมีความงดงามทางด้านทัศนียภาพเป็นอย่างมาก ใครที่อยากได้วิวรูปถ่ายสวยๆ แนะนำให้ไปเที่ยวที่แหลมกู๊ดโฮปนี้ 
  3. หาดโบลเดอร์ส (Boulders Beach) ปักไว้ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งเมืองเคปทาวน์ที่ห้ามพลาดกันเลยทีเดียว กับชายหาดโบลเดอร์ส หรือที่หลายคนเรียกว่าหาดนกเพนกวิน โดยชายหาดแห่งนี้จะตั้งอยู่ระหว่างเมืองเคปทาวน์ และแหลมกู๊ดโฮป ความโดดเด่นคือบริเวณที่ชายหาดโบลเดอร์ส จะเต็มไปด้วยนกเพนกวินมากมาย ออกมาเดินเล่น และเล่นน้ำบริเวณนี้ เป็นที่ฮือฮาสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วนกเพนกวินจะอาศัยอยู่ในที่หนาวเย็นเท่านั้น 
  4. สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช (Kirstenbosch National Botanical Garden) นอกเหนือจากที่เที่ยวทางทะเลที่เคปทาวน์แล้วนั้น ยังมีที่เที่ยวทางธรรมชาติ หรือว่าสวนพฤกษศาสตร์นี้ที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งแห่ง โดยสวนนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1913 เอาไว้สำหรับเพาะปลูก และอนุรักษ์พืชพันธุ์ต่างๆ ที่หาได้ยาก และเป็นพืชพื้นเมืองของแอฟริกาใต้ โดยส่วนนี้จะตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของอุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น เปิดตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. 
  5. ห้าง V&A Waterfront หากใครที่ชอบช้อปปิ้งมาเที่ยวเคปทาวน์ก็ไม่ผิดหวัง เพราะที่เคปทาวน์นี้มีห้างสรรพสินค้าใหญ่โต ครอบคลุมพื้นที่ท่าเรือที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเคปทาวน์เอาไว้ กลายมาเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเคปทาวน์ไปซะแล้ว นอกเหนือจากการที่จะได้ช้อปปิ้งสมใจ ยังได้มองเห็นวิวสวยๆ ของท่าเรือ และถ่ายรูปกับวิวที่ด้านหลังเป็นภูเขาโต๊ะ ทำให้ห้างนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว 

 

เทศกาลสำคัญเคปทาวน์ 

  1. งานเทศกาลแจ๊ส (Cape Town International Jazz Festival) ถือว่าเป็นงานเทศกาลที่ได้รับความสนใจจากชาวเมืองเคปทาวน์เอง และจากนักท่องเที่ยว สำหรับงานเทศกาลแจ๊ส ที่ถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในเมืองเคปทาวน์ นักดนตรีแจ๊สฝีมือจะหลั่งไหลมาร่วมงานนี้ทั่วทุกมุมโลก ถือว่าเป็นงานเทศกาลดนตรีที่น่าสนใจอีกงานหนึ่งของเมืองเคปทาวน์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่หลายเฝ้ารอคอย เพราะถือว่าเป็นงานเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่ง 
  2. คาร์นิวัลเคป (Cape Carnival) ประเทศอื่น หรือว่าเมืองอื่นอาจจะฉลองเทศกาลปีใหม่ ทุกวันที่ 31 ธันวาคม หรือวันที่ 1 มกราคม แต่ว่าที่เมืองเคปทาวน์ นั้นได้มีการเฉลิมฉลอง และงานเทศกาลที่ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ภายในวันที่ 2 มกราคม โดยจะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ มีขบวนแห่ไปตามท้องถนน และประชาชนจะทำการหยุดงาน หากใครไปเที่ยวเคปทาวน์ในช่วงปีใหม่ แนะนำให้ลองเตรียมตัวไปร่วมงานเทศกาลนี้ดู 
  3. ฤดูวาฬ (Whale Season) แม้จะไม่ใช่เทศกาลเฉลิมฉลองอะไรที่ยิ่งใหญ่นัก แต่เทศกาลดูวาฬ หรือการล่องเรือชมวาฬ ก็ถูกจัดขึ้นอย่างเป็นประจำในทุกๆ ปี ซึ่งในแต่ละปีฤดูที่เหมาะสมกับการดูวาฬ ก็คือช่วง มิ.ย. – พ.ย. นักท่องเที่ยวที่อยากเห็นวาฬ จะเดินทางมาเที่ยวเคปทาวน์ในช่วงฤดูนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เพราะบางเวลาวาฬก็อาจจะไม่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเลยก็ได้ 

เคล็ดลับการไปเที่ยวเคปทาวน์  

  • - เวลาที่เมืองเคปทาวน์ นั้นช้ากว่าที่ประเทศไทย 5 ชั่วโมง 
  • - เมืองเคปทาวน์ ประชาชนใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ  
  • - หากอยากมาดูวาฬ ให้มาเที่ยวเคปทาวน์ในช่วงเดือนมิถุนายน ไปจนถึงพฤศจิกายน แต่ถ้าอยากเห็นลูกวาฬด้วย ให้มาเที่ยวเคปทาวน์ช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
  • - คนไทยไม่จำเป็นต้องทำวีซ่าเมื่อมาเที่ยวเคปทาวน์ เพราะว่าได้รับการยกเว้นฟรีวีซ่า และพำนักอยู่ในเมืองเคปทาวน์ได้นานถึง 30 วันด้วยกัน 
  • - สำหรับคนที่เช่ารถยนต์ขับเองภายในเคปทาวน์ แนะนำไม่ควรพกสิ่งมีค่า และเอาไว้ในรถยนต์ เพราะอาจจะถูกโจรกรรมได้ 
  • - หากใครที่ไม่รีบร้อน และอยากตระเวณเที่ยวไปยังจุดต่างๆ ของเคปทาวน์ แนะนำให้เช่ารถยนต์ขับ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี 
  • - ไม่อยากต่อคิวเข้าที่เที่ยว หรือแลนด์มาร์คในเคปทาวน์นาน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการไปเที่ยวสถานที่เที่ยวต่างๆ ในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ให้ไปในวันธรรมดาแทน 

เคปทาวน์ (Cape Town) เป็นเมืองหลวง และเป็นทั้งเมืองที่มีความใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่บนปลายแหลมสุดของแผ่นดิน ทางตอนใต้ของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของทางลาดภูเขารูปโต๊ (Table Mountain) อันเป็นที่มาของชื่อเมืองก็คือ เคปทาวน์ ตั้งอยู่ตอนปลายสุดของทวีปแอฟริกาเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เมืองเคปทาวน์มีความพิเศษ ตรงที่มีวิวทิวทัศน์อันสวยงาม สามารถมองเห็นได้ทั้งภูเขา และทะเล เนื่องจากแหลมที่ว่านี้เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในมหาสมุทร จึงทำให้เมืองเคปทาวน์ เกือบจะทั่วทั้งเมืองถูกล้อมรอบด้วยน้ำทะเล ส่งผลทำให้เมืองเคปทาวน์ได้กลายเป็นเมืองท่า และมีความสำคัญเกี่ยวกับการค้าขาย และการขนส่งสินค้าของประเทศแอฟริกาใต้ นอกจากนั้นความโดดเด่นของเมืองเคปทาวน์ ก็คือจะมีภูเขาตั้งอยู่ใจกลางเมือง ภูเขาลูกนี้ก็คือ ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain) ทำให้เมืองเคปทาวน์ มีทั้งทัศนียภาพอันสวยงามของธรรมชาติ ทั้งภูเขา ทะเล ลำธาร คือจัดว่าครบ ทั้งนี้เมืองเคปทาวน์ก็ยังเป็นเมืองที่ไม่ได้พลุกพล่านมากเท่าไหร่นัก เป็นส่วนประกอบที่ลงตัวระหว่างเมืองหลวง และบรรยากาศสวยๆ ของธรรมชาติอยู่ล้อมรอบ อยากมาเที่ยวเคปทาวน์ก็ไม่ยาก เพราะแค่จองตั๋วเครื่องบินไปเคปทาวน์ แล้วไม่ต้องทำวีซ่า เพราะคนไปเที่ยวเคปทาวน์แบบฟรีวีซ่าได้ พำนักได้นานถึง 30 วัน 

 

หากใครที่ชอบเที่ยวแบบธรรมชาติ แนะนำว่าการลิสต์เคปทาวน์เอาไว้เป็นเมืองที่ควรมา ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะอย่างแรกเลยคือเคปทาวน์ มีทั้งอุทยานแห่งชาติ และภูเขาตั้งอยู่กลางเมือง การขึ้นไปเที่ยวบนภูเขาโต๊ะ นอกจากจะทำให้เห็นความงดงามของธรรมชาติแล้วนั้น ยังโดดเด่นด้วยการล้อมรอบไปด้วยทัศนียภาพของทะเล เนื่องจากภูมิประเทศของเคปทาวน์ นั้นตั้งอยู่บนแหลมกู๊ดโฮป หากใครที่คิดว่าไปเที่ยวแอฟริกาใต้ แล้วจะมีแต่ทุ่งหญ้าสะวันนา หรือการล่าสัตว์อย่างเดียว การมาเที่ยวที่เคปทาวน์ จะช่วยทำให้มุมมองของคุณต่อแอฟริกาใต้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้นเคปทาวน์ ยังถือว่าเป็นเมืองที่วิวสวยติดอันดับโลก และมีวิวสวยงามเป็นอันดับหนึ่งของประเทศแอฟริกาใต้อีกด้วย หรือถ้าหากใครที่อยากมาเที่ยวเคปทาวน์ แล้วช้อปปิ้ง หรือเที่ยวคาเฟ่ บอกเลยว่าก็ไม่ผิดหวัง เพราะในเคปทาวน์จะมีแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองโรแมนติก และน่าสนใจ หากเบื่อเที่ยวโซนยุโรปแล้ว การมาเที่ยวที่แอฟริกาใต้ หรือว่าเคปทาวน์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี 

 

สกุลเงิน 

สกุลเงินที่ใช้ในเมืองเคปทาวน์ก็คือ แรนด์แอฟริกาใต้ (ZAR) เทียบเท่า 1 แรนด์แอฟริกาใต้คือ 2 บาทไทย (THB) ซึ่งเรทเงินจะขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละวัน 

 

ฤดูกาลเคปทาวน์ 

ด้วยสภาพอากาศของเคปทาวน์ เนื่องจากตั้งอยู่บนแหลม และมีส่วนที่ยื่นลงไปในทะเล จึงทำให้มีสภาพอากาศอบอุณแบบเมดิเตอร์เรเนียน แต่ในขณะเดียวกันอากาศก็มีความแห้งแล้ง ทำให้ฤดูร้อนที่เคปทาวน์จะร้อนแบบแดดแรง และมีความแห้งแล้ง อุณหภูมิเฉลี่ยของเคปทาวน์จะอยู่ที่ประมาณ 11-20 องศาเซสเซียสด้วยกัน ฤดูกาลภายในเคปทาวน์ จะประกอบไปด้วย 4 ฤดูด้วยกันคือ 

 

  • ฤดูใบไม้ผลิ จะเริ่มตั้งแต่เดือน กันยายน ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน อากาศจะไม่ถึงกับร้อนมาก ค่อนข้างมีความเย็นสบาย แต่จะค่อยๆ อุ่นขึ้นเรื่อยๆ 
  • ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่ช่วงเดือนนี้ที่บริเวณฝั่งยุโรปจะมีความหนาวเย็น แต่เคปทาวน์จะมีอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น เป็นฤดูแบบแห้งแล้ง 
  • ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงฤดูที่อากาศจะค่อยๆ หนาวเย็นมากขึ้น เพราะเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูหนาว คนที่ไม่ชอบอากาศร้อน มักจะมาเที่ยวในช่วงนี้ 
  • ฤดูหนาว จะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ไปจนถึงสิงหาคม อากาศจะมีความหนาวเย็น และอุณหภูมิจะค่อยลดต่ำลงเรื่อยๆ อุณหภูมิอาจจะลดลงจนถึงเลขตัวเดียว 

 

 

ภูมิภาคเคปทาวน์ 

เมืองเคปทาวน์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาค West Coast ประกอบไปด้วยเมืองต่างๆ ดังนั้น 

  • Cape Town
  • Bloubergstrand
  • Milnerton 
  • Tableview
  • West Beach 
  • Big Bay 
  • Sunset Beach 
  • Sunningdale
  • Parklands
  • Parklands North 

 

สนามบินสำคัญเคปทาวน์ 

เมืองเคปทาวน์มีสนามบินแห่งสำคัญของเมืองก็คือ ท่าอากาศยานนานาชาติเคปทาวน์ (CPT) เป็นสนามบินที่ถือว่ามีความหนาแน่นเป็นอันดับ 3 ของทวีปแอฟริกา และเป็นสนามบินสำคัญที่ติด 1 ใน 10 สนามบิน หรือว่าเส้นทางการบินที่มีคนใช้บริการมากที่สุดในโลก 

 

การเดินทางไปเคปทาวน์ 

จองตั๋วเครื่องบินไปเคปทาวน์ แล้วไปเที่ยวเคปทาวน์กันดีกว่า ซึ่งใครที่อยากเดินทางไปเที่ยวเคปทาวน์ นั้นยังไม่มีเที่ยวบินตรง แต่สามารถเลือกสายการบินที่มีให้บริการต่อเครื่อง ได้แก่ เอมิเรตส์ (Emirates) สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) กาตาร์แอร์เวย์ (Qatar Airways) เคนย่าแอร์เวย์ (Kenya Airways) และสายการบินเอทิฮัด (Etihad Airways) โดยใช้เวลา 16 ชั่วโมงขึ้นไป ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสายการบิน และระยะเวลาการต่อเครื่อง

การเดินทางในเคปทาวน์ 

 

  • เครื่องบิน การเดินทางด้วยเครื่องบินระหว่างเมืองในประเทศแอฟริกาใต้ หรือทวีปแอฟริกา ก็ยังคงเป็นที่นิยม เพราะว่าช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก แถมยังเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกสบายเป็นอย่างมาก 
  • รถบัส (Bus) การคมนาคมสำหรับเมืองเคปทาวน์ที่สะดวกรองลงมา จากการเดินทางด้วยเครื่องบิน ก็คือการเดินทางด้วยรถบัส เพราะว่ามีหลายเส้นทางให้เลือก หากใครที่ไม่ได้เร่งรีบมากนัก และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย การเดินทางด้วยรถบัส เป็นตัวเลือกที่ดี 
  • รถยนต์ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว และอยากแพลนทริปด้วยตัวของคุณเอง แนะนำให้เช่ารถขับเอง ยิ่งเดินทางไปเที่ยวเคปทาวน์กันหลายคน ก็ยิ่งหารได้ถูกลง ซึ่งวิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นักท่องเที่ยวนิยม 
  • รถไฟ หากใครอยากเดินทางออกไปเมืองใกล้เคียง หรืออกไปเที่ยวนอกเมืองเคปทาวน์ แนะนำการเดินทางด้วยรถไฟ แต่แนะนำให้ศึกษาการเดินทางด้วยรถไฟให้ดี เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะหลงได้ 
  • รถแท็กซี่ อาจจะไม่คุ้นเคยนักกับการใช้รถสาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยว หากใครที่อยากได้รับความสะดวกสบาย หรือว่าอยากถึงจุดหมายปลายทางได้โดยเร็ว แนะนำให้ใช้บริการรถแท็กซี่ 
  • รถบัส Hop On-Hop Off Bus ถือว่าเป็นการขนส่งคมนาคมที่สะดวก และเหมาะกับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นที่สุด สำหรับรถบัสนี้ เพราะว่าจะแบ่งเป็น 4 สาย มีทั้งหมด 4 สี จะจอดทุกป้าย และเส้นทางการเดินรถจะตระเวณไปรอบเมืองเคปทาวน์ และแลนด์มาร์คดังๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวรอบเคปทาวน์ 

 

สถานที่เที่ยวสำคัญเคปทาวน์

  1. อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น (Table Mountain National Park) นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเที่ยวแบบธรรมชาติ หรือว่าอยากหากิจกรรมทำแบบแอดเวนเจอร์จะต้องชื่นชอบที่เที่ยวเคปทาวน์แห่งนี้แน่นอน เพราะว่าด้านบนภูเขาโต๊ะ นอกเหนือจากจะมีวิวทิวทัศนที่สวยงามแล้วนั้น ยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ สัตว์ป่า และพืชพันธุ์ต่างๆ ที่หาดูได้ยาก เหมาะกับการเป็นที่เที่ยวเชิงธรรมชาติ หากใครที่ไม่ชอบเดินป่า หรือปีนเขาก็ไม่ต้องห่วง เพราะระหว่างที่ขึ้นไปด้านบน จะสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปได้ 
  2. แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) ถือว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองเคปทาวน์ และไฮไลท์ของประเทศแอฟริกาใต้เลยก็ว่าได้ สำหรับแหลมกู๊ดโฮป สามารถเดินทางไปเที่ยวจากเคปทาวน์ เป็นแหลมที่ยื่นออกไปกลางมหาสมุทรแอตเลนติก คนส่วนใหญ่ที่เดินทางไปเที่ยวเคปทาวน์ ต่างก็ลิสต์ที่เที่ยวแหลมกู๊ดโฮปแห่งนี้เอาไว้ เนื่องจากมีความงดงามทางด้านทัศนียภาพเป็นอย่างมาก ใครที่อยากได้วิวรูปถ่ายสวยๆ แนะนำให้ไปเที่ยวที่แหลมกู๊ดโฮปนี้ 
  3. หาดโบลเดอร์ส (Boulders Beach) ปักไว้ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งเมืองเคปทาวน์ที่ห้ามพลาดกันเลยทีเดียว กับชายหาดโบลเดอร์ส หรือที่หลายคนเรียกว่าหาดนกเพนกวิน โดยชายหาดแห่งนี้จะตั้งอยู่ระหว่างเมืองเคปทาวน์ และแหลมกู๊ดโฮป ความโดดเด่นคือบริเวณที่ชายหาดโบลเดอร์ส จะเต็มไปด้วยนกเพนกวินมากมาย ออกมาเดินเล่น และเล่นน้ำบริเวณนี้ เป็นที่ฮือฮาสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วนกเพนกวินจะอาศัยอยู่ในที่หนาวเย็นเท่านั้น 
  4. สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช (Kirstenbosch National Botanical Garden) นอกเหนือจากที่เที่ยวทางทะเลที่เคปทาวน์แล้วนั้น ยังมีที่เที่ยวทางธรรมชาติ หรือว่าสวนพฤกษศาสตร์นี้ที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งแห่ง โดยสวนนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1913 เอาไว้สำหรับเพาะปลูก และอนุรักษ์พืชพันธุ์ต่างๆ ที่หาได้ยาก และเป็นพืชพื้นเมืองของแอฟริกาใต้ โดยส่วนนี้จะตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของอุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น เปิดตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. 
  5. ห้าง V&A Waterfront หากใครที่ชอบช้อปปิ้งมาเที่ยวเคปทาวน์ก็ไม่ผิดหวัง เพราะที่เคปทาวน์นี้มีห้างสรรพสินค้าใหญ่โต ครอบคลุมพื้นที่ท่าเรือที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเคปทาวน์เอาไว้ กลายมาเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเคปทาวน์ไปซะแล้ว นอกเหนือจากการที่จะได้ช้อปปิ้งสมใจ ยังได้มองเห็นวิวสวยๆ ของท่าเรือ และถ่ายรูปกับวิวที่ด้านหลังเป็นภูเขาโต๊ะ ทำให้ห้างนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว 

 

เทศกาลสำคัญเคปทาวน์ 

  1. งานเทศกาลแจ๊ส (Cape Town International Jazz Festival) ถือว่าเป็นงานเทศกาลที่ได้รับความสนใจจากชาวเมืองเคปทาวน์เอง และจากนักท่องเที่ยว สำหรับงานเทศกาลแจ๊ส ที่ถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในเมืองเคปทาวน์ นักดนตรีแจ๊สฝีมือจะหลั่งไหลมาร่วมงานนี้ทั่วทุกมุมโลก ถือว่าเป็นงานเทศกาลดนตรีที่น่าสนใจอีกงานหนึ่งของเมืองเคปทาวน์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่หลายเฝ้ารอคอย เพราะถือว่าเป็นงานเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่ง 
  2. คาร์นิวัลเคป (Cape Carnival) ประเทศอื่น หรือว่าเมืองอื่นอาจจะฉลองเทศกาลปีใหม่ ทุกวันที่ 31 ธันวาคม หรือวันที่ 1 มกราคม แต่ว่าที่เมืองเคปทาวน์ นั้นได้มีการเฉลิมฉลอง และงานเทศกาลที่ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ภายในวันที่ 2 มกราคม โดยจะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ มีขบวนแห่ไปตามท้องถนน และประชาชนจะทำการหยุดงาน หากใครไปเที่ยวเคปทาวน์ในช่วงปีใหม่ แนะนำให้ลองเตรียมตัวไปร่วมงานเทศกาลนี้ดู 
  3. ฤดูวาฬ (Whale Season) แม้จะไม่ใช่เทศกาลเฉลิมฉลองอะไรที่ยิ่งใหญ่นัก แต่เทศกาลดูวาฬ หรือการล่องเรือชมวาฬ ก็ถูกจัดขึ้นอย่างเป็นประจำในทุกๆ ปี ซึ่งในแต่ละปีฤดูที่เหมาะสมกับการดูวาฬ ก็คือช่วง มิ.ย. – พ.ย. นักท่องเที่ยวที่อยากเห็นวาฬ จะเดินทางมาเที่ยวเคปทาวน์ในช่วงฤดูนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เพราะบางเวลาวาฬก็อาจจะไม่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเลยก็ได้ 

เคล็ดลับการไปเที่ยวเคปทาวน์  

  • - เวลาที่เมืองเคปทาวน์ นั้นช้ากว่าที่ประเทศไทย 5 ชั่วโมง 
  • - เมืองเคปทาวน์ ประชาชนใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ  
  • - หากอยากมาดูวาฬ ให้มาเที่ยวเคปทาวน์ในช่วงเดือนมิถุนายน ไปจนถึงพฤศจิกายน แต่ถ้าอยากเห็นลูกวาฬด้วย ให้มาเที่ยวเคปทาวน์ช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
  • - คนไทยไม่จำเป็นต้องทำวีซ่าเมื่อมาเที่ยวเคปทาวน์ เพราะว่าได้รับการยกเว้นฟรีวีซ่า และพำนักอยู่ในเมืองเคปทาวน์ได้นานถึง 30 วันด้วยกัน 
  • - สำหรับคนที่เช่ารถยนต์ขับเองภายในเคปทาวน์ แนะนำไม่ควรพกสิ่งมีค่า และเอาไว้ในรถยนต์ เพราะอาจจะถูกโจรกรรมได้ 
  • - หากใครที่ไม่รีบร้อน และอยากตระเวณเที่ยวไปยังจุดต่างๆ ของเคปทาวน์ แนะนำให้เช่ารถยนต์ขับ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี 
  • - ไม่อยากต่อคิวเข้าที่เที่ยว หรือแลนด์มาร์คในเคปทาวน์นาน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการไปเที่ยวสถานที่เที่ยวต่างๆ ในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ให้ไปในวันธรรมดาแทน 
Flight-destination-article-image

สายการบินพันธมิตร

สายการบินพันธมิตรทั้งในและระหว่างประเทศ
เราร่วมมือกับสายการบินต่างๆ ทั่วโลก เพื่อรองรับทุกจดหมายปลายทางที่คุณต้องการ

พันธมิตรผู้ให้บริการชำระเงิน

เราร่วมมือกับผู้ให้บริการชำระเงินที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าการชำระเงินของคุณสะดวกและปลอดภัย

Xperience อื่นๆ ใน Cape Town

เส้นทางยอดนิยม