ตั๋วเครื่องบินไป Chengdu (CTU)

ทราเวลโลก้าช่วยให้คุณค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกและโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไปยัง Chengdu (CTU)

เส้นทาง

สายการบิน

ตารางบิน

ราคาเริ่มต้น

คุนหมิง (KMG) → เฉิงตู (CTU)
Sichuan Airlines
เสาร์, 27 เม.ย. 2024
THB 2,782.20
สิงคโปร์ (SIN) → เฉิงตู (CTU)
สายการบิน
พุธ, 01 พ.ค. 2024
THB 8,350.09
กรุงเทพ (BKK) → เฉิงตู (CTU)
สายการบิน
พุธ, 22 พ.ค. 2024
THB 10,188.33
คุนหมิง (KMG) → เฉิงตู (CTU)
สายการบิน
เสาร์, 25 พ.ค. 2024
THB 11,828.32
สิงคโปร์ (SIN) → เฉิงตู (CTU)
สายการบิน
อังคาร, 21 พ.ค. 2024
THB 11,932.95
สิงคโปร์ (SIN) → เฉิงตู (CTU)
สายการบิน
เสาร์, 25 พ.ค. 2024
THB 16,322.72
จาการ์ตา (CGK) → เฉิงตู (CTU)
สายการบิน
จันทร์, 13 พ.ค. 2024
THB 17,229.46
บาหลี/เดนปาซาร์ (DPS) → เฉิงตู (CTU)
สายการบิน
อังคาร, 30 เม.ย. 2024
THB 75,828.19
สุราบายา (SUB) → เฉิงตู (CTU)
สายการบิน
จันทร์, 06 พ.ค. 2024
THB 122,707.41

กิจกรรมที่น่าสนใจใน Chengdu

Chengdu UNESCO of Mount Qingcheng and Dujiangyan
Chengdu UNESCO of Mount Qingcheng and Dujiangyan
THB 7,113.85
Chengdu All Inclusive Private Day Tour to Giant Panda Base and Leshan Giant Buddha Trip by High-Speed Train
Chengdu All Inclusive Private Day Tour to Giant Panda Base and Leshan Giant Buddha Trip by High-Speed Train
THB 5,929.98
3-Day Chengdu Private Tour: Jiuzhaigou Scenic Area, Songpan Ancient City, Huanglong Scenic Area
3-Day Chengdu Private Tour: Jiuzhaigou Scenic Area, Songpan Ancient City, Huanglong Scenic Area
THB 22,816.97
Small Group Half Day Chengdu Panda Breeding Center Tour
Small Group Half Day Chengdu Panda Breeding Center Tour
THB 1,846.24
4 stars: 2-Day Sichuan Private Tour to Leshan Giant Buddha and Emei Mountain by Bullet Train
4 stars: 2-Day Sichuan Private Tour to Leshan Giant Buddha and Emei Mountain by Bullet Train
THB 8,594.99
รถรับส่งสนามบินนานาชาติเฉิงตู ซวงหลิว (CTU)|จีน
รถรับส่งสนามบินนานาชาติเฉิงตู ซวงหลิว (CTU)|จีน
THB 278.19
แสดงกิจกรรมทั้งหมด

ข้อมูลทั่วไปเฉิงตู

เฉิงตู (Chengdu) เป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน (Sichuan)  สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตูกันได้แล้ว ตั้งอยู่บนที่ราบเฉิงตูทางภาคกลางของมณฑล หรือทางตะวันตกของที่ราบเสฉวน  มีภูมิประเทศทั้งที่เป็นที่ราบ เนินเขาแบบที่ราบสูงภูเขา ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลราว 387-5,364 เมตร ทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดเมืองเต๋อหยัง ตะวันออกเฉียงใต้ติดเมืองเน่ยเจียง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับเขตหย่าอันและเขาเล่อซัน ทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดเขตเหมยซัน และดินแดนปกครองตนเองของชนชาติทิเบตและชนชาติเชียง มีลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นแบบแอ่งกระทะ พื้นที่โดยรอบถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสูง 4 ด้าน ตรงกลางเป็นที่ราบ มีพื้นที่ประมาณ 485,000 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศมีลักษณะหลากหลายซับซ้อนมาก ด้านตะวันตกเป็นพื้นที่สูง ด้านตะวันออกลาดลงต่ำ มีแม่น้ำผ่าน 3 สาย คือ แม่น้ำหมินเจียง แม่น้ำต้าตู และแม่น้ำหลิ่ง ซึ่งแม่น้ำทั้ง 3 สายนี้ไหลลงมารวมกับแม่น้ำแยงซีเกียง 

    

นครเฉิงตู มหานครสีเขียวทางตะวันตกเฉียงใต้จีน ในอดีตเป็นชุมทางบนเส้นทางสายแพรไหมสายใต้ หรือที่รู้จักกันว่าถนนชา -ม้าโบราณ (Ancient Tea Horse Road) เป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมโบราณ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของภาคตะวันตกของจีน ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าสองพันปี มีความสำคัญในฐานะเมืองหลวงของเล่าปี่ในสมัยสามก๊ก มีดอกฝูหรงและต้นแปะก๊วยเป็นสัญลักษณ์และพืชประจำถิ่น เป็นบ้านเกิดของหมีแพนด้า และเป็นที่รู้จักกันดีในนาม อาณาจักรแห่งสวรรค์ ของคนรักธรรมชาติ ได้รับการขนานนามว่าเป็น เมืองแห่งอาหาร (City of Gastronomy) โดยยูเนสโก้ อีกทั้งยังเป็นเมืองแห่งการผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สำคัญของโลกอีกด้วย และได้รับการโหวตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ติด 1 ใน 10 ที่ห้ามพลาดและต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต

 

สกุลเงินที่ใช้

สกุลเงินของเฉิงตูเรียกว่า เหรินหมินปี้ และมีหน่วยเรียกเป็น หยวน (CNY) อัตราแลกเปลี่ยน 1 หยวน อยู่ที่ประมาณ 4.30 บาทไทย โดย 1 หยวนมี 10 เจี่ยว และ 1 เจี่ยวมี 10 เฟิน และ 100 เฟิน เท่ากับ 1 หยวน ธนบัตรแบ่งออกเป็น มี1 หยวน 5 เจี่ยว 1,2 และ 5 เฟิน   อัตราเเลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 4.3 บาท ต่อ 1 หยวน

 

ฤดูกาลของเมืองเฉิงตู

นครเฉิงตูอยู่ในเขตร้อนแถบเอเชีย อากาศอบอุ่นชุ่มชื้น มีฝนและหมอกตลอดทั้งปี อากาศไม่หนาวจัดในฤดูหนาว แต่เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบแอ่งกระทะ อากาศจึงร้อนอบอ้าวมากในฤดูร้อน จนได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 เมือง ที่ร้อนที่สุดของจีน มีช่วงฤดูร้อนที่นาน ฤดูหนาวที่สั้น สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตูได้ตลอดทั้ง 4 ฤดู ซึ่งแต่ละช่วงเวลามีความงดงามแตกต่างกัน แต่ที่นิยมกันมากคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ย 21 องศาเซลเซียส อากาศกำลังสบายๆ ทั้งนี้ควรตรวจสอบสภาพอากาศอีกครั้งก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตู

เมืองเฉิงตูมี 4 ฤดู ได้แก่ 

  • - ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน บรรยากาศกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากผ่านฤดูหนาว ใบไม้เริ่มผลิใบสีเขียว ดอกไม้ผลิบานอวดสีสัน ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 5 – 23 องศาเซลเซียส
  • - ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม จะมีฝนตกค่อนข้างชุกในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ต้นไม้เขียวชอุ่มสวยงาม ดอกไม้ต่างๆ ผลิบานอย่างเต็มที่ ท้องฟ้าเปิดและแสงแดดจ้า อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 33 องศาเซลเซียส
  • - ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 - 23 องศาเซลเซียส เป็นช่วงเวลาของการชมใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสีส้ม แดง เหลือง งดงามมาก 
  • - ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศหนาว และมีแสงแดดออกน้อยมีเมฆมาก เดือนมกราคมเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิหนาวเย็นที่สุดประมาณ 5 องศาเซลเซียส เป็นช่วงเวลาแห่งการสัมผัสความหนาวเย็น เล่นสกี และพักผ่อนบนยอดเขา

 

ภูมิภาคของเมืองเฉิงตู

เมืองเฉิงตู แบ่งเขตการปกครองออกเป็น ระดับเทศมณฑล 10 เขต 5 นครระดับเทศมณฑล และ 5 เทศมณฑล

 

สนามบินสำคัญเฉิงตู 

ท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูซวงหลิว (Chengdu Shuangliu International Airport) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สนามบินเฉิงตู” เป็นสนามบินหลักของเมืองเฉิงตู   และนับเป็นสนามบินที่สำคัญที่สุดของประเทศจีนฝั่งตะวันตก ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร เดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมืองได้หลายวิธี ได้แก่ รถไฟ รถไฟใต้ดิน รถบัสสนามบิน รถโดยสารระหว่างเมือง รถแท็กซี่ และ รถเช่า ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพจราจรและรูปแบบการเดินทาง การเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด คือ รถไฟ ซึ่งมีทั้งขบวนรถไฟด่วน CRH และรถไฟใต้ดิน 

 

การเดินทางไปเมืองเฉิงตู

  • เส้นทางบินตรง กรุงเทพฯ – เฉิงตู โดยเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ สายการบินที่ให้บริการ คือ ไทยไลออนแอร์ (Thai Lion Air) ลักกี้แอร์ (Lucky Air) ไชน่าเซาท์เทิร์น (China Southern Airlines) แอร์เอเชีย (Air Asia) การบินไทย (Thai Airways) เซินเจิ้นแอร์ไลน์ (Shenzhen Airlines) และซื่อชวนแอร์ไลน์ (Sichuan Airlines) เวลาบินโดยเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 55 นาที  
  • สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินต่อ พัก 1 จุด ใช้เวลาอย่างน้อย 7 ชั่วโมง 55 นาที ได้แก่ ฮ่องกงแอร์ไลน์ (Hong Kong Airlines) ไชนาอีสเทิร์น (China Eastern) คาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific) เจซีอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ (Jc International Airlines) จูนเยาแอร์ไลน์ (Juneyao Airlines) เซี่ยงไฮ้แอร์ไลน์ (Shanghai Airlines) เซียะเหมินแอร์ (Xiamen Air)  กว่างซีแอร์ไลน์ (GX Airlines) ไห่หนานแอร์ไลน์ (Hainan Airlines) และ แอร์ไชนา (Air China)  

 

การเดินทางในเมืองเฉิงตู

  • - เครื่องบิน สนามบินเฉิงตู เป็นสนามบินหลักของเมืองเฉิงตู ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ 
  • - รถบัสสนามบิน มีรถบัสสาย 1-5 บริการรับ-ส่งจากสนามบินเฉิงตูเข้าสู่ตัวเมืองและจอดรับ-ส่งตามสถานีรถไฟใต้ดิน หรือสถานที่สำคัญต่างๆ เสียค่าโดยสาร 10-12 หยวน
  • - รถไฟฟ้า ให้บริการรับส่งระหว่างสนามบินและตัวเมือง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ มีทั้งหมด 10 สาย   
  • - รถไฟใต้ดิน (MRT)  Subway เป็นการเดินทางภายในเมืองเฉิงตูที่สะดวกที่สุด มีทั้งหมด 4 สาย  คือ สาย 1 (สีม่วง) สาย 2 (สีส้ม) สาย 3 (สีชมพู) และสาย 4  (สีเขียว)
  • - รถไฟความเร็วสูง (Speed Train Chengdu) ให้บริการเส้นทาง  เฉิงตู – ฉงชิง, เฉิงตู – อี๋ปิน และ  เฉิงตู-ซีอาน
  • - รถประจำทาง เป็นการเดินทางที่ประหยัดที่สุด ค่าโดยสารรถธรรมดา 1 หยวน รถปรับอากาศ 2 หยวน
  • - รถโดยสารระหว่างเมือง บริการรับส่งผู้โดยสารไปยังเมืองต่างๆ ในเขตมณฑลเสฉวน  
  • - รถแท็กซี่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง ค่าโดยสาร 5 หยวน สำหรับ 3 กิโลเมตรแรก และจะเพิ่มกิโลเมตรละ 1.4 หยวน
  • - รถเช่า มีบริการรถเช่าจากหลายบริษัทรถเช่าชั้นนำ สามารถติดต่อได้ที่สนามบิน โรงแรมที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ

 

สถานที่เที่ยวสำคัญในเมืองเฉิงตู

  1. 1. ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าเฉิงตู (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding) “ฟอสซิลที่ยังมีชีวิต”เป็นฉายาของแพนด้ายักษ์ หนึ่งในสัตว์ที่หายากที่สุดของโลก จากโครงกระดูกที่พบในจากถ้ำระบุว่า สายพันธุ์แพนด้ายักษ์มีมามากกว่า 2 ล้านปี และปัจจุบันมีอยู่ที่เดียวคือ มณฑลเสฉวน และอาจเรียกได้ว่าใกล้สูญพันธุ์ในป่าธรรมชาติ รัฐบาลจีนจึงลงทุนอย่างมหาศาลสำรวจหาพื้นที่ และสร้างศูนย์นิเวศวิทยาจำลองที่เหมาะสม เพื่อทำการค้นคว้าวิจัยหาวิธีที่จะอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ รวมถึงสัตว์ป่าอื่นที่ใกล้สูญพันธุ์และสัตว์ป่าหายาก เช่น นกกะเรียนคอดำ หมีแพนด้าสีแดง ที่ทางเข้าศูนย์ฯ โดดเด่นด้วยรูปปั้นหมีแพนด้าคอยต้อนรับผู้มาเยือน และมีรถกอล์ฟให้นั่งเข้าไปชมด้านในที่ร่มรื่นมีพื้นที่สีเขียวเต็มไปหมด และมีต้นไผ่ลูกศรอาหารโปรดของหมีแพนด้า และจะได้เห็นอาคารต่างๆ หลายแห่ง เช่น บ้านสัตว์ โรงพยาบาลสัตว์ และอาคารการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มีพื้นที่เฉพาะที่กว้างใหญ่ราวสวนป่า และแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน โดยหมีแพนด้า 1 จะได้ใช้ชีวิตตามแบบตัวเองในอาณาบริเวณที่สร้างให้ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์แพนด้าที่มีแห่งเดียวในโลก ซึ่งแบ่งเป็นห้องโถงจัดแสดงขนาดใหญ่ 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนของแพนด้ายักษ์ ส่วนของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง และส่วนของผีเสื้อ พร้อมข้อมูลครบครัน ทั้งตัวอย่างฟอสซิล  ภาพถ่ายหุ่นจำลอง ซึ่งมีการนำเสนอในหลายรูปแบบ ในส่วนที่เป็นไฮไลท์ คือ การชมวิถีชีวิตหมีแพนด้าในพื้นที่ที่จัดไว้ เป็นหมีแพนด้าช่วงอายุประมาณ 2 – 5 ปี พร้อมป้ายข้อมูลติดไว้ และยังมีช่วงเวลาให้ดูการป้อนนมให้อาหาร คือ 09:00 น. – 11:00 น.ส่วนช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ที่อากาศค่อนข้างร้อนก็จะได้ดูเจ้าแพนด้าในห้องปรับอากาศแทน ที่นี่ยังมีของที่ระลึกเกี่ยวกับหมีแพนด้า อาทิ ตุ๊กตาหมีแพนด้า เสื้อผ้า กระเป๋า และพวงกุญแจ ให้ซื้อเป็นของฝากอีกด้วย 
  2. 2. ถนนโบราณจินหลี่ และศาลเจ้าสามก๊ก (Jinli Street and Chengdu Wu Hou Shrine) ถนนโบราณจินหลี่และศาลเจ้าสามก๊ก ถือเป็นแหล่งโบราณสถานที่สำคัญที่สุดอันดับต้นๆ ของจีน และเป็นถนนที่อยู่ใกล้ชิดติดกัน ถนนโบราณจินหลี่ เดิมเป็นถนนการค้าผ้าเก่าแก่ตั้งแต่ช่วงต้นราชวงศ์ฉิน ยุครุ่งเรืองสุดๆ คือช่วงอาณาจักรสู่หรือยุคสามก๊กเรืองอำนาจ เมื่อปี 221-263 หลังจากปิดพื้นที่โดยรอบเพื่อการบูรณะอยู่หลายปี และเพิ่งให้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปเที่ยวชมเมื่อปี 2004 นี่เอง โดยมีการคงไว้ซึ่งสภาพใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด ทำให้ถนนจินหลี่สายนี้เป็นที่นิยมของชาวจีนต่างถิ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายวันเก่าๆ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมโบราณของบ้านเรือน ร้านค้า โรงเตี๊ยม  โรงน้ำชา  โรงงิ้ว ร้านอาหาร รวมถึงวิถีชีวิตประจำวันแบบโบราณ และรสชาติอาหารท้องถิ่นแท้ๆ และมีของที่ระลึกเกี่ยวกับสามก๊กเยอะมาก รวมทั้งหน้ากากเฉิงตู เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของสถานที่แสดง โชว์เปลี่ยนหน้ากาก อันโด่งดังของเมืองเฉิงตู ส่วนศาลเจ้าสามก๊กนั้นสร้างขึ้นครั้งแรกสมัยราชวงศ์ถัง และสร้างขึ้นใหม่ใน ปี 1672 เพื่อรำลึกถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์สามก๊ก และอุทิศให้แก่ จูกัดเหลียงหรือขงเบ้ง ที่ปรึกษาของเล่าปี่แห่งสามก๊กนั่นเอง พื้นที่ภายในถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ มีพื้นที่จัดแสดงเกี่ยวกับเล่าปี่และขงเบ้ง มีสิ่งก่อสร้างที่ทรงคุณค่าหลายแห่ง เช่น ศาลาเสาหิน หรือ ศาลาเสาหินแห่งความสำเร็จ 3 ประการ แผ่นศิลาจารึก สุสานฮุ่ยหลิงของพระเจ้าเล่าปี่ สุสานปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่น และกำแพงสีแดง ซึ่งเป็นทางเดินที่มีกำแพงสีแดงขนาดอยู่ทั้งสองข้างใน ลักษณะเลี้ยวลดคดเคี้ยวดูน่าค้นหา ปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นโบราณสถานแห่งชาติที่สำคัญของจีน ก่อนที่จะสร้างสถานที่แห่งนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมื่อปี 1984
  3. 3. ภูเขาชิงเฉิง (Qingcheng Moutain) ภูเขาชิงเฉิงหรือชิงเฉิงซัน มรดกโลกของมณฑลเสฉวน อยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 68 กิโลเมตร เป็นขุนเขาที่มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ตลอดปี จึงได้ชื่อว่า เมืองแห่งแมกไม้สีเขียว และเป็นแหล่งต้นกำเนิดของลัทธิเต๋า  โดยนักปราชญ์จางหลิง (Zhang Ling) ได้เลือกภูเขาชิงเฉิง เป็นสถานที่เรียนรู้และซึมซับจิตวิญญาณแห่งธรรมธรรมชาติ ผสานความคิดของมนุษย์ จนเกิดเป็นแนวคิดวิถีแห่งเต๋าขึ้นมา ประตูทางเข้ายังเป็นแรงบันดาลใจให้กับฉากหุบเขาแห่งสันติภาพในหนังเอนิเมชั่นเรื่อง กังฟูแพนด้า (Kung Fu Panda) อีกด้วย พื้นที่ของภูเขาชิงเฉิงมีสิ่งก่อสร้างโบราณมากมาย ได้แก่ ถ้ำเทียนซือ ซึ่งล้อมรอบด้วย วังเจี้ยนฝู วังซ่างชิง ตำหนักจู่ซือ วังหยวนหมิง หอเหล่าจวิน วังอวี้ชิง และถ้ำเฉาหยัง โดยวังเจี้ยนฝูนั้นสร้างขึ้นราว ปี 730 ในสมัยราชวงศ์ถัง ปัจจุบันหลงเหลือเพียงสถาปัตยกรรมที่บูรณะขึ้นใหม่ ประกอบด้วยตำหนักใหญ่ 3 หลัง เป็นสถานที่กราบไหว้บูชาบรรดาปรมาจารย์ในลัทธิเต๋าและเทพเจ้าต่างๆ สถาปัตยกรรมเหล่านี้สร้างขึ้นอย่างกลมกลืนกับสภาพภูมิประเทศรอบข้าง ด้วยฝีมือและเทคนิคการก่อสร้างชั้นเยี่ยม เพื่อสะท้อนถึงแนวคิดลัทธิเต๋าในการเข้าถึงธรรมชาติ แม้แต่ข้าวของเครื่องประดับก็ยังแสดงถึงความเป็นมงคล อายุยืนนาน และความมุ่งหวังที่จะบรรลุเป็นเซียน ตามแนวคิดสูงสุดของเต๋า ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะอย่างมาก บนเสาภายในตำหนักยังประดับด้วยคำโคลง 394 ตัวอักษร ที่ได้รับขนานนามว่าเป็น "สุดยอดแห่งชิงเฉิง" นอกจากนี้ ยังมีหอภาพชมไพร ที่ตั้งอยู่บนสันเขาหลงจีว์ มีลักษณะเป็นเก๋งสิบเหลี่ยมที่มีชายคาทับซ้อนกัน มีทะเลสาบที่มีสะพานยาวให้เดินเลาะชมวิว หรือจะเลือกนั่งเรือข้ามทะเลสาบก็ได้ตามอัธยาศัย
  4. 4. ระบบชลประทานตูเจียงเยี่ยน (Dujiangyan) ระบบชลประทานขนาดใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก สุดยอดวิศวกรรมสถานอายุ 2,000 กว่าปี ที่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกประเภทมรดกวัฒนธรรม เป็นระบบชลประทานที่ใช้เทคนิคการทดน้ำโดยไม่สร้างเขื่อนกักน้ำเพียงแห่งเดียวของโลก ที่ยังหลงเหลืออยู่จากสมัยจีนโบราณ และยังคงใช้ได้อยู่จนทุกวันนี้ สร้างในช่วงศตวรรษที่ 3 ผู้ออกแบบก่อสร้าง คือ  หลี่ปิง ข้าหลวงเมืองสู่อัน หรือมณฑลเสฉวนในอดีต หลังจากเดินทางไปตรวจดูงานในเมืองเฉินตู แล้วพบว่าเมืองนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก แต่มักจะเกิดภัยน้ำท่วมอยู่เนืองๆ เพราะแม่น้ำหมินเจียง ซึ่งเป็นเขตต้นน้ำของแม่น้ำแยงซีเกียง มีปริมาณน้ำมากในฤดูน้ำหลาก ไหลบ่าท่วมไร่นาเสียหาย ท่านจึงเกิดความคิดที่จะบรรเทาทุกข์ราษฎร โดยการควบคุมน้ำให้ไหลเข้าเมืองนี้เพียงพอสำหรับใช้ในการเกษตร และไม่ก่อให้เกิดน้ำท่วม ด้วยการสร้างระบบชลประทานตูเจียงเยี่ยน เพื่อกั้นแม่น้ำหมินเจียงและจัดการระบบน้ำในที่ราบสูงเฉิงตู ซึ่งมีทั้งเจาะภูเขายู่เหล่ยให้เกิดเป็นร่องน้ำขนาดใหญ่ สร้างเขื่อนเป็นเกาะกลางแม่น้ำ ทำฝายน้ำล้น และขยายคูคลองลำธาร เปลี่ยนทางไหลของน้ำจนสำเร็จ สามารถแก้ปัญหาได้อย่างครบถ้วน เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง และหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตร และใช้ในการอุปโภคบริโภคสำหรับผู้คน ทำให้ระบบชลประทานตูเจียงเยี่ยนจึงยังสามารถใช้ได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางวิศวกรรม และทั้งที่เคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในมณฑลเสฉวน ในวันที่ 12 พฤษภาคม แต่ก็แทบไม่ได้รับความเสียหายเลย ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งศึกษาเรียนรู้เรื่องระบบชลประทาน และมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาเยี่ยมเยือน
  5. 5. พิพิธภัณฑ์จินซา (Jinsha Site Museum) พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์จินซาหรือพิพิธภัณฑ์ซานซิงตุย ในอดีตเมื่อ 3,000 ปี ก่อนนั้น คือหมู่บ้านจินซา ศูนย์กลางอารยธรรมแห่งลุ่มน้ำแม่น้ำแยงซีหรือแม่น้ำเหลือง ต่อมาเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรสู่ฮัน หรือ จ๊กก๊กในยุคสามก๊กนั่นเอง อารยธรรมซานซิงตุยพบครั้งแรกเมื่อปี 1970 ก่อนจะเกิดการค้นพบครั้งใหญ่ในปี 1986 เมื่อมีการขุดพบหลุมบวงสรวงใหญ่ 2 หลุม มีโบราณวัตถุอันล้ำค่าหลายพันชิ้น ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุเมื่อ 3,000 - 5,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช สิ่งสำคัญคือมีหน้ากากทองสำริดจำนวนมาก ซึ่งไม่เคยมีการพบในแหล่งอื่นมาก่อน และเป็นหน้ากากรูปทรงแปลกผิดกับรูปใบหน้าคนพื้นถิ่น เป็นหน้ากากคิ้วใหญ่ ตาโต จมูกสูง ปากทั้งแบนทั้งใหญ่ เกือบไม่มีขากรรไกรล่างทุกชิ้น ที่หูทั้งสองข้างต่างก็มีรูเล็กๆ รูหนึ่ง และยังได้พบรูปคนทองสัมฤทธิ์รูปหนึ่ง สวมเสื้อแบบชุดราตรี ชายเสื้อยาวหางนกนางแอ่น ตัวสูงประมาณ 170 เซนติเมตร  นอกจากนั้นยังมีวัตถุโบราณสิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือเครื่องใช้เครื่องประดับมากมายหลายที่ทำจากทองสำริดหลายอย่าง เช่น  ตะบองทอง ต้นไม้ทองสำริด รวมถึงวัตถุล้ำค่าหลายอย่าง เช่น งาช้าง หยก หิน งาช้าง และชิ้นงานจากไม้เคลือบ ดินเผา งานเซรามิคโบราณที่มีรูปร่างลวดลายน่ามหัศจรรย์ วัตถุโบราณที่ถือว่ามีความสำคัญทรงค่าที่สุดคือ เครื่องประดับที่มีชื่อว่า Sun and Immortal Bird มีเส้นรอบวง 12.5 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 5.29 เซนติเมตร และบางเฉียบเพียง 0.02 เซนติเมตร ฉลุตรงกลางเป็นพระอาทิตย์พร้อมรัศมี 12 แฉกรอบๆ ฉลุเป็นนก 4 ตัว บินทวนเข็มนาฬิกา ซึ่งเครื่องประดับโบราณชิ้นนี้ได้รับการประกาศให้เป็นสัญลักษณ์ของมรดกทางวัฒนธรรมของจีนโดยสถาบัน State Bureau of Cultural Relics และเป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์และของเมืองเฉิงตู 

 

เทศกาลสำคัญเฉิงตู

  1. 1. เทศกาลปล่อยน้ำตูเจียงเยี่ยน (Dujiangyan Water Releasing Festival) เทศกาลประจำปีจัดขึ้นที่ระบบชลประทานโบราณตูเจียงเยี่ยน ในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง หรือเทศกาลบูชาบรรพบุรุษของชาวจีน เป็นการปล่อยน้ำที่มีพลังยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดมาเป็นพันปี โดยเริ่มเมื่อปีค.ศ. 978 เพื่อรำลึกถึงขุนนางหลี่ปิง ผู้สร้างระบบตูเจียงเยี่ยน ซึ่งช่วยจัดสรรน้ำมาให้แก่การใช้งานของมนุษย์ และมีความสอดคล้องกับธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ เพื่อขอพรให้มีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี เทศกาลนี้ยังเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าฤดูกาลแห่งการเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ไฮไลท์ของงานนี้คือ การแสดงพิธีการ และวิธีการจัดการปัญหาน้ำท่วมแบบสมัยโบราณที่สมจริงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งการแต่งกายหรือพิธีการต่างๆ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนราวกับได้ย้อนยุคเข้าไปอยู่ในอดีตเลยทีเดียว จองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตู เพื่อชมความอลังการของงานได้ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี 
  2. 2. เทศกาลอาหารเอเชียแพนด้าเฉิงตู (Chengdu Panda Asian Food Festival) เทศกาลอาหารที่ดึงดูดนักชิมจากทั่วโลกให้มาลิ้มลองอาหารเสฉวนต้นตำรับ ที่มีรสชาติหลากหลายถึง 24 รส มีเมนูเด่นมากมาย เช่น เช่น เต้าหู้หม่าโผและไก่กังเปา ภายในงานนอกจากอาหารท้องถิ่นแล้ว ยังมีอาหารจานเด็ดจากร้านอาหารกว่า 100 แห่งในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี และอาหารไทย และยังมีกิจกรรมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมมากมาย เช่น นิทรรศการวัฒนธรรมการทำอาหารของจีน นิทรรศการงานเขียนเกี่ยวกับอาหารจีน  การประกวดภาพถ่ายนานาชาติ และทัวร์ "ตามกลิ่น" ซึ่งจะผสมผสานการกิน ที่พัก การเดินทาง การท่องเที่ยว การช้อปปิง และความบันเทิง เพื่อมอบประสบการณ์ในเฉิงตูแบบเจาะลึก ทั้งนี้เมืองเฉิงตูเป็นเมืองแรกในเอเชียที่ได้รับการประกาศให้เป็น "เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร" ของยูเนสโก จองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตูเพื่อร่วมชิมอาหารอร่อยได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม 
  3.  3. เทศกาลโคมไฟ (Lantern Festival) ชาวจีนเรียกว่า เทศกาลหยวนเซียว เป็นเทศกาลเก่าแก่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง และเป็นงานเทศกาลประจำปีของชาวเมืองเฉิงตูตั้งแต่ปี 711 เป็นต้นมา นับเป็นเทศกาลสุดท้ายที่เฉลิมฉลองในช่วงตรุษจีน ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ซึ่งถือเป็นคืนแรกของปีใหม่ที่จะเห็นพระจันทร์เต็มดวง ประเพณีแขวนโคมไฟนี้จัดนานถึงหนึ่งเดือน ชาวเฉิงตูพร้อมใจกันประดับประดาด้วยโคมไฟหน้าตาหลากหลาย มีตั้งแต่ทำด้วยผ้าไหมสีแดงแบบดั้งเดิม จนถึงโคมไฟนีออนที่มาพร้อมกับเสียงและแสงสว่าง ขนมหยวนเซียวคือขนมประจำเทศกาลนี้ มีลักษณะกลมคล้ายบัวลอย แต่มีไส้ทำด้วยแป้งข้าวเหนียว นอกจากการชมโคมไฟ และกินขนมหยวนเซียวแล้ว ยังมีกิจกรรม การละเล่นต่างๆ เช่น จุดพลุ และประทัด ระบำไม้ต่อขา รำพัด เชิดสิงโค การทายปริศนาโคมไฟ การเต้นรำพื้นบ้าน ซึ่งเฉิงตูมีชื่อเสียงด้านการแสดงกายกรรม สร้างความครึกครื้นให้สวนสาธารณะ Culture Park และ Qingyanggong Park เป็นอย่างมาก จองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตูเพื่อร่วมงานได้ในช่วงเดือนปลายเดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

 

เคล็ดลับการเดินทางไปเฉิงตู

  • - แอพฯ ที่ช่วยให้การเดินทางในเฉิงตูเป็นเรื่องง่าย ได้แก่  Maps me ดูแผนที่โดยไม่ต้องมีเน็ตก็ใช้ได้  Chengdu Metro Map ก็ดูแผนที่รถไฟไม่ต้องใช้เน็ตเช่นกัน  
  • - Google Translate ไม่รู้ภาษาจีนก็เที่ยว เพียงพิมพ์ประโยคที่ต้องการพูดเป็นภาษาไทย แล้วเลือกภาษาที่จะให้แอพฯ แปลเป็นภาษาจีน แถมยังใช้โหมดภาพแสกนตัวหนังสือได้ 
  • - Facebook, Google, Google Maps, Instagram, Line และ Youtube โดนบล็อกใช้ไม่ได้ที่เฉิงตู จึงต้องโหลดแอพฯ VPN master ไว้ให้พร้อม เพื่อปลดล็อกให้ใช้งานได้ตามปกติ
  • - อย่าพลาดชิมอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ หมอไฟเสฉวน หรือเรียกวาหัวกัว (Huoguo) ที่เผ็ดร้อนจากส่วนผสมของพริกและเครื่องเทศกว่า 20 ชนิด และหม่าโผโต้วฟู หรือเต้าหู้ผัดพริกเสฉวน สามารถหาทานได้เกือบทุกร้านในเมืองเฉิงตู
  • - รถเมล์ เป็นการเดินทางที่ประหยัดสุดๆ ใช้บัตรโดยสารแบบเติมเงินก็จะได้ส่วนลดอีก หรือจะจ่ายด้วยแอพฯ Wechat ก็สะดวก แต่ถ้าจ่ายเงินสดต้องเตรียมเศษเหรียญให้พอดี ไม่มีทอน และหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน  
  • - รถแท็กซี่ในเฉิงตู และหลายๆ เมืองของจีน จะมีรั้วเหล็กกั้นระหว่างคนขับและผู้โดยสารข้างหลัง มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง และรถแท็กซี่คันหนึ่งรับผู้โดยสารได้ไม่เกิน 4 คน  
  • - คนขับรถในเฉิงตูส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ควรจดชื่อภาษาจีนของป้ายที่จะขึ้นลงให้แม่น หรือเตรียมชื่อที่อยู่ของจุดหมายเป็นภาษาจีน หรือไม่ก็ขอนามบัตรของโรงแรมเอาไว้ยื่นให้คนขับ
  • - การขี่จักรยานเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยวชมเมือง สะดวกมากมายบริการจักรยานใช้ร่วม (Bike-Sharing)  อย่าลืมดาวน์โหลดแอพฯ แชร์จักรยาน Ofo และ Mobike  แล้วลงทะเบียนเพื่อใช้บริการ

เฉิงตู (Chengdu) เป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน (Sichuan)  สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตูกันได้แล้ว ตั้งอยู่บนที่ราบเฉิงตูทางภาคกลางของมณฑล หรือทางตะวันตกของที่ราบเสฉวน  มีภูมิประเทศทั้งที่เป็นที่ราบ เนินเขาแบบที่ราบสูงภูเขา ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลราว 387-5,364 เมตร ทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดเมืองเต๋อหยัง ตะวันออกเฉียงใต้ติดเมืองเน่ยเจียง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับเขตหย่าอันและเขาเล่อซัน ทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดเขตเหมยซัน และดินแดนปกครองตนเองของชนชาติทิเบตและชนชาติเชียง มีลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นแบบแอ่งกระทะ พื้นที่โดยรอบถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสูง 4 ด้าน ตรงกลางเป็นที่ราบ มีพื้นที่ประมาณ 485,000 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศมีลักษณะหลากหลายซับซ้อนมาก ด้านตะวันตกเป็นพื้นที่สูง ด้านตะวันออกลาดลงต่ำ มีแม่น้ำผ่าน 3 สาย คือ แม่น้ำหมินเจียง แม่น้ำต้าตู และแม่น้ำหลิ่ง ซึ่งแม่น้ำทั้ง 3 สายนี้ไหลลงมารวมกับแม่น้ำแยงซีเกียง 

    

นครเฉิงตู มหานครสีเขียวทางตะวันตกเฉียงใต้จีน ในอดีตเป็นชุมทางบนเส้นทางสายแพรไหมสายใต้ หรือที่รู้จักกันว่าถนนชา -ม้าโบราณ (Ancient Tea Horse Road) เป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมโบราณ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของภาคตะวันตกของจีน ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าสองพันปี มีความสำคัญในฐานะเมืองหลวงของเล่าปี่ในสมัยสามก๊ก มีดอกฝูหรงและต้นแปะก๊วยเป็นสัญลักษณ์และพืชประจำถิ่น เป็นบ้านเกิดของหมีแพนด้า และเป็นที่รู้จักกันดีในนาม อาณาจักรแห่งสวรรค์ ของคนรักธรรมชาติ ได้รับการขนานนามว่าเป็น เมืองแห่งอาหาร (City of Gastronomy) โดยยูเนสโก้ อีกทั้งยังเป็นเมืองแห่งการผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สำคัญของโลกอีกด้วย และได้รับการโหวตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ติด 1 ใน 10 ที่ห้ามพลาดและต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต

 

สกุลเงินที่ใช้

สกุลเงินของเฉิงตูเรียกว่า เหรินหมินปี้ และมีหน่วยเรียกเป็น หยวน (CNY) อัตราแลกเปลี่ยน 1 หยวน อยู่ที่ประมาณ 4.30 บาทไทย โดย 1 หยวนมี 10 เจี่ยว และ 1 เจี่ยวมี 10 เฟิน และ 100 เฟิน เท่ากับ 1 หยวน ธนบัตรแบ่งออกเป็น มี1 หยวน 5 เจี่ยว 1,2 และ 5 เฟิน   อัตราเเลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 4.3 บาท ต่อ 1 หยวน

 

ฤดูกาลของเมืองเฉิงตู

นครเฉิงตูอยู่ในเขตร้อนแถบเอเชีย อากาศอบอุ่นชุ่มชื้น มีฝนและหมอกตลอดทั้งปี อากาศไม่หนาวจัดในฤดูหนาว แต่เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบแอ่งกระทะ อากาศจึงร้อนอบอ้าวมากในฤดูร้อน จนได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 เมือง ที่ร้อนที่สุดของจีน มีช่วงฤดูร้อนที่นาน ฤดูหนาวที่สั้น สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตูได้ตลอดทั้ง 4 ฤดู ซึ่งแต่ละช่วงเวลามีความงดงามแตกต่างกัน แต่ที่นิยมกันมากคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ย 21 องศาเซลเซียส อากาศกำลังสบายๆ ทั้งนี้ควรตรวจสอบสภาพอากาศอีกครั้งก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตู

เมืองเฉิงตูมี 4 ฤดู ได้แก่ 

  • - ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน บรรยากาศกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากผ่านฤดูหนาว ใบไม้เริ่มผลิใบสีเขียว ดอกไม้ผลิบานอวดสีสัน ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 5 – 23 องศาเซลเซียส
  • - ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม จะมีฝนตกค่อนข้างชุกในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ต้นไม้เขียวชอุ่มสวยงาม ดอกไม้ต่างๆ ผลิบานอย่างเต็มที่ ท้องฟ้าเปิดและแสงแดดจ้า อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 33 องศาเซลเซียส
  • - ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 - 23 องศาเซลเซียส เป็นช่วงเวลาของการชมใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสีส้ม แดง เหลือง งดงามมาก 
  • - ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศหนาว และมีแสงแดดออกน้อยมีเมฆมาก เดือนมกราคมเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิหนาวเย็นที่สุดประมาณ 5 องศาเซลเซียส เป็นช่วงเวลาแห่งการสัมผัสความหนาวเย็น เล่นสกี และพักผ่อนบนยอดเขา

 

ภูมิภาคของเมืองเฉิงตู

เมืองเฉิงตู แบ่งเขตการปกครองออกเป็น ระดับเทศมณฑล 10 เขต 5 นครระดับเทศมณฑล และ 5 เทศมณฑล

 

สนามบินสำคัญเฉิงตู 

ท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูซวงหลิว (Chengdu Shuangliu International Airport) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สนามบินเฉิงตู” เป็นสนามบินหลักของเมืองเฉิงตู   และนับเป็นสนามบินที่สำคัญที่สุดของประเทศจีนฝั่งตะวันตก ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร เดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมืองได้หลายวิธี ได้แก่ รถไฟ รถไฟใต้ดิน รถบัสสนามบิน รถโดยสารระหว่างเมือง รถแท็กซี่ และ รถเช่า ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพจราจรและรูปแบบการเดินทาง การเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด คือ รถไฟ ซึ่งมีทั้งขบวนรถไฟด่วน CRH และรถไฟใต้ดิน 

 

การเดินทางไปเมืองเฉิงตู

  • เส้นทางบินตรง กรุงเทพฯ – เฉิงตู โดยเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ สายการบินที่ให้บริการ คือ ไทยไลออนแอร์ (Thai Lion Air) ลักกี้แอร์ (Lucky Air) ไชน่าเซาท์เทิร์น (China Southern Airlines) แอร์เอเชีย (Air Asia) การบินไทย (Thai Airways) เซินเจิ้นแอร์ไลน์ (Shenzhen Airlines) และซื่อชวนแอร์ไลน์ (Sichuan Airlines) เวลาบินโดยเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 55 นาที  
  • สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินต่อ พัก 1 จุด ใช้เวลาอย่างน้อย 7 ชั่วโมง 55 นาที ได้แก่ ฮ่องกงแอร์ไลน์ (Hong Kong Airlines) ไชนาอีสเทิร์น (China Eastern) คาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific) เจซีอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ (Jc International Airlines) จูนเยาแอร์ไลน์ (Juneyao Airlines) เซี่ยงไฮ้แอร์ไลน์ (Shanghai Airlines) เซียะเหมินแอร์ (Xiamen Air)  กว่างซีแอร์ไลน์ (GX Airlines) ไห่หนานแอร์ไลน์ (Hainan Airlines) และ แอร์ไชนา (Air China)  

 

การเดินทางในเมืองเฉิงตู

  • - เครื่องบิน สนามบินเฉิงตู เป็นสนามบินหลักของเมืองเฉิงตู ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ 
  • - รถบัสสนามบิน มีรถบัสสาย 1-5 บริการรับ-ส่งจากสนามบินเฉิงตูเข้าสู่ตัวเมืองและจอดรับ-ส่งตามสถานีรถไฟใต้ดิน หรือสถานที่สำคัญต่างๆ เสียค่าโดยสาร 10-12 หยวน
  • - รถไฟฟ้า ให้บริการรับส่งระหว่างสนามบินและตัวเมือง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ มีทั้งหมด 10 สาย   
  • - รถไฟใต้ดิน (MRT)  Subway เป็นการเดินทางภายในเมืองเฉิงตูที่สะดวกที่สุด มีทั้งหมด 4 สาย  คือ สาย 1 (สีม่วง) สาย 2 (สีส้ม) สาย 3 (สีชมพู) และสาย 4  (สีเขียว)
  • - รถไฟความเร็วสูง (Speed Train Chengdu) ให้บริการเส้นทาง  เฉิงตู – ฉงชิง, เฉิงตู – อี๋ปิน และ  เฉิงตู-ซีอาน
  • - รถประจำทาง เป็นการเดินทางที่ประหยัดที่สุด ค่าโดยสารรถธรรมดา 1 หยวน รถปรับอากาศ 2 หยวน
  • - รถโดยสารระหว่างเมือง บริการรับส่งผู้โดยสารไปยังเมืองต่างๆ ในเขตมณฑลเสฉวน  
  • - รถแท็กซี่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง ค่าโดยสาร 5 หยวน สำหรับ 3 กิโลเมตรแรก และจะเพิ่มกิโลเมตรละ 1.4 หยวน
  • - รถเช่า มีบริการรถเช่าจากหลายบริษัทรถเช่าชั้นนำ สามารถติดต่อได้ที่สนามบิน โรงแรมที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ

 

สถานที่เที่ยวสำคัญในเมืองเฉิงตู

  1. 1. ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าเฉิงตู (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding) “ฟอสซิลที่ยังมีชีวิต”เป็นฉายาของแพนด้ายักษ์ หนึ่งในสัตว์ที่หายากที่สุดของโลก จากโครงกระดูกที่พบในจากถ้ำระบุว่า สายพันธุ์แพนด้ายักษ์มีมามากกว่า 2 ล้านปี และปัจจุบันมีอยู่ที่เดียวคือ มณฑลเสฉวน และอาจเรียกได้ว่าใกล้สูญพันธุ์ในป่าธรรมชาติ รัฐบาลจีนจึงลงทุนอย่างมหาศาลสำรวจหาพื้นที่ และสร้างศูนย์นิเวศวิทยาจำลองที่เหมาะสม เพื่อทำการค้นคว้าวิจัยหาวิธีที่จะอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ รวมถึงสัตว์ป่าอื่นที่ใกล้สูญพันธุ์และสัตว์ป่าหายาก เช่น นกกะเรียนคอดำ หมีแพนด้าสีแดง ที่ทางเข้าศูนย์ฯ โดดเด่นด้วยรูปปั้นหมีแพนด้าคอยต้อนรับผู้มาเยือน และมีรถกอล์ฟให้นั่งเข้าไปชมด้านในที่ร่มรื่นมีพื้นที่สีเขียวเต็มไปหมด และมีต้นไผ่ลูกศรอาหารโปรดของหมีแพนด้า และจะได้เห็นอาคารต่างๆ หลายแห่ง เช่น บ้านสัตว์ โรงพยาบาลสัตว์ และอาคารการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มีพื้นที่เฉพาะที่กว้างใหญ่ราวสวนป่า และแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน โดยหมีแพนด้า 1 จะได้ใช้ชีวิตตามแบบตัวเองในอาณาบริเวณที่สร้างให้ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์แพนด้าที่มีแห่งเดียวในโลก ซึ่งแบ่งเป็นห้องโถงจัดแสดงขนาดใหญ่ 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนของแพนด้ายักษ์ ส่วนของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง และส่วนของผีเสื้อ พร้อมข้อมูลครบครัน ทั้งตัวอย่างฟอสซิล  ภาพถ่ายหุ่นจำลอง ซึ่งมีการนำเสนอในหลายรูปแบบ ในส่วนที่เป็นไฮไลท์ คือ การชมวิถีชีวิตหมีแพนด้าในพื้นที่ที่จัดไว้ เป็นหมีแพนด้าช่วงอายุประมาณ 2 – 5 ปี พร้อมป้ายข้อมูลติดไว้ และยังมีช่วงเวลาให้ดูการป้อนนมให้อาหาร คือ 09:00 น. – 11:00 น.ส่วนช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ที่อากาศค่อนข้างร้อนก็จะได้ดูเจ้าแพนด้าในห้องปรับอากาศแทน ที่นี่ยังมีของที่ระลึกเกี่ยวกับหมีแพนด้า อาทิ ตุ๊กตาหมีแพนด้า เสื้อผ้า กระเป๋า และพวงกุญแจ ให้ซื้อเป็นของฝากอีกด้วย 
  2. 2. ถนนโบราณจินหลี่ และศาลเจ้าสามก๊ก (Jinli Street and Chengdu Wu Hou Shrine) ถนนโบราณจินหลี่และศาลเจ้าสามก๊ก ถือเป็นแหล่งโบราณสถานที่สำคัญที่สุดอันดับต้นๆ ของจีน และเป็นถนนที่อยู่ใกล้ชิดติดกัน ถนนโบราณจินหลี่ เดิมเป็นถนนการค้าผ้าเก่าแก่ตั้งแต่ช่วงต้นราชวงศ์ฉิน ยุครุ่งเรืองสุดๆ คือช่วงอาณาจักรสู่หรือยุคสามก๊กเรืองอำนาจ เมื่อปี 221-263 หลังจากปิดพื้นที่โดยรอบเพื่อการบูรณะอยู่หลายปี และเพิ่งให้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปเที่ยวชมเมื่อปี 2004 นี่เอง โดยมีการคงไว้ซึ่งสภาพใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด ทำให้ถนนจินหลี่สายนี้เป็นที่นิยมของชาวจีนต่างถิ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายวันเก่าๆ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมโบราณของบ้านเรือน ร้านค้า โรงเตี๊ยม  โรงน้ำชา  โรงงิ้ว ร้านอาหาร รวมถึงวิถีชีวิตประจำวันแบบโบราณ และรสชาติอาหารท้องถิ่นแท้ๆ และมีของที่ระลึกเกี่ยวกับสามก๊กเยอะมาก รวมทั้งหน้ากากเฉิงตู เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของสถานที่แสดง โชว์เปลี่ยนหน้ากาก อันโด่งดังของเมืองเฉิงตู ส่วนศาลเจ้าสามก๊กนั้นสร้างขึ้นครั้งแรกสมัยราชวงศ์ถัง และสร้างขึ้นใหม่ใน ปี 1672 เพื่อรำลึกถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์สามก๊ก และอุทิศให้แก่ จูกัดเหลียงหรือขงเบ้ง ที่ปรึกษาของเล่าปี่แห่งสามก๊กนั่นเอง พื้นที่ภายในถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ มีพื้นที่จัดแสดงเกี่ยวกับเล่าปี่และขงเบ้ง มีสิ่งก่อสร้างที่ทรงคุณค่าหลายแห่ง เช่น ศาลาเสาหิน หรือ ศาลาเสาหินแห่งความสำเร็จ 3 ประการ แผ่นศิลาจารึก สุสานฮุ่ยหลิงของพระเจ้าเล่าปี่ สุสานปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่น และกำแพงสีแดง ซึ่งเป็นทางเดินที่มีกำแพงสีแดงขนาดอยู่ทั้งสองข้างใน ลักษณะเลี้ยวลดคดเคี้ยวดูน่าค้นหา ปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นโบราณสถานแห่งชาติที่สำคัญของจีน ก่อนที่จะสร้างสถานที่แห่งนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมื่อปี 1984
  3. 3. ภูเขาชิงเฉิง (Qingcheng Moutain) ภูเขาชิงเฉิงหรือชิงเฉิงซัน มรดกโลกของมณฑลเสฉวน อยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 68 กิโลเมตร เป็นขุนเขาที่มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ตลอดปี จึงได้ชื่อว่า เมืองแห่งแมกไม้สีเขียว และเป็นแหล่งต้นกำเนิดของลัทธิเต๋า  โดยนักปราชญ์จางหลิง (Zhang Ling) ได้เลือกภูเขาชิงเฉิง เป็นสถานที่เรียนรู้และซึมซับจิตวิญญาณแห่งธรรมธรรมชาติ ผสานความคิดของมนุษย์ จนเกิดเป็นแนวคิดวิถีแห่งเต๋าขึ้นมา ประตูทางเข้ายังเป็นแรงบันดาลใจให้กับฉากหุบเขาแห่งสันติภาพในหนังเอนิเมชั่นเรื่อง กังฟูแพนด้า (Kung Fu Panda) อีกด้วย พื้นที่ของภูเขาชิงเฉิงมีสิ่งก่อสร้างโบราณมากมาย ได้แก่ ถ้ำเทียนซือ ซึ่งล้อมรอบด้วย วังเจี้ยนฝู วังซ่างชิง ตำหนักจู่ซือ วังหยวนหมิง หอเหล่าจวิน วังอวี้ชิง และถ้ำเฉาหยัง โดยวังเจี้ยนฝูนั้นสร้างขึ้นราว ปี 730 ในสมัยราชวงศ์ถัง ปัจจุบันหลงเหลือเพียงสถาปัตยกรรมที่บูรณะขึ้นใหม่ ประกอบด้วยตำหนักใหญ่ 3 หลัง เป็นสถานที่กราบไหว้บูชาบรรดาปรมาจารย์ในลัทธิเต๋าและเทพเจ้าต่างๆ สถาปัตยกรรมเหล่านี้สร้างขึ้นอย่างกลมกลืนกับสภาพภูมิประเทศรอบข้าง ด้วยฝีมือและเทคนิคการก่อสร้างชั้นเยี่ยม เพื่อสะท้อนถึงแนวคิดลัทธิเต๋าในการเข้าถึงธรรมชาติ แม้แต่ข้าวของเครื่องประดับก็ยังแสดงถึงความเป็นมงคล อายุยืนนาน และความมุ่งหวังที่จะบรรลุเป็นเซียน ตามแนวคิดสูงสุดของเต๋า ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะอย่างมาก บนเสาภายในตำหนักยังประดับด้วยคำโคลง 394 ตัวอักษร ที่ได้รับขนานนามว่าเป็น "สุดยอดแห่งชิงเฉิง" นอกจากนี้ ยังมีหอภาพชมไพร ที่ตั้งอยู่บนสันเขาหลงจีว์ มีลักษณะเป็นเก๋งสิบเหลี่ยมที่มีชายคาทับซ้อนกัน มีทะเลสาบที่มีสะพานยาวให้เดินเลาะชมวิว หรือจะเลือกนั่งเรือข้ามทะเลสาบก็ได้ตามอัธยาศัย
  4. 4. ระบบชลประทานตูเจียงเยี่ยน (Dujiangyan) ระบบชลประทานขนาดใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก สุดยอดวิศวกรรมสถานอายุ 2,000 กว่าปี ที่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกประเภทมรดกวัฒนธรรม เป็นระบบชลประทานที่ใช้เทคนิคการทดน้ำโดยไม่สร้างเขื่อนกักน้ำเพียงแห่งเดียวของโลก ที่ยังหลงเหลืออยู่จากสมัยจีนโบราณ และยังคงใช้ได้อยู่จนทุกวันนี้ สร้างในช่วงศตวรรษที่ 3 ผู้ออกแบบก่อสร้าง คือ  หลี่ปิง ข้าหลวงเมืองสู่อัน หรือมณฑลเสฉวนในอดีต หลังจากเดินทางไปตรวจดูงานในเมืองเฉินตู แล้วพบว่าเมืองนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก แต่มักจะเกิดภัยน้ำท่วมอยู่เนืองๆ เพราะแม่น้ำหมินเจียง ซึ่งเป็นเขตต้นน้ำของแม่น้ำแยงซีเกียง มีปริมาณน้ำมากในฤดูน้ำหลาก ไหลบ่าท่วมไร่นาเสียหาย ท่านจึงเกิดความคิดที่จะบรรเทาทุกข์ราษฎร โดยการควบคุมน้ำให้ไหลเข้าเมืองนี้เพียงพอสำหรับใช้ในการเกษตร และไม่ก่อให้เกิดน้ำท่วม ด้วยการสร้างระบบชลประทานตูเจียงเยี่ยน เพื่อกั้นแม่น้ำหมินเจียงและจัดการระบบน้ำในที่ราบสูงเฉิงตู ซึ่งมีทั้งเจาะภูเขายู่เหล่ยให้เกิดเป็นร่องน้ำขนาดใหญ่ สร้างเขื่อนเป็นเกาะกลางแม่น้ำ ทำฝายน้ำล้น และขยายคูคลองลำธาร เปลี่ยนทางไหลของน้ำจนสำเร็จ สามารถแก้ปัญหาได้อย่างครบถ้วน เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง และหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตร และใช้ในการอุปโภคบริโภคสำหรับผู้คน ทำให้ระบบชลประทานตูเจียงเยี่ยนจึงยังสามารถใช้ได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางวิศวกรรม และทั้งที่เคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในมณฑลเสฉวน ในวันที่ 12 พฤษภาคม แต่ก็แทบไม่ได้รับความเสียหายเลย ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งศึกษาเรียนรู้เรื่องระบบชลประทาน และมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาเยี่ยมเยือน
  5. 5. พิพิธภัณฑ์จินซา (Jinsha Site Museum) พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์จินซาหรือพิพิธภัณฑ์ซานซิงตุย ในอดีตเมื่อ 3,000 ปี ก่อนนั้น คือหมู่บ้านจินซา ศูนย์กลางอารยธรรมแห่งลุ่มน้ำแม่น้ำแยงซีหรือแม่น้ำเหลือง ต่อมาเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรสู่ฮัน หรือ จ๊กก๊กในยุคสามก๊กนั่นเอง อารยธรรมซานซิงตุยพบครั้งแรกเมื่อปี 1970 ก่อนจะเกิดการค้นพบครั้งใหญ่ในปี 1986 เมื่อมีการขุดพบหลุมบวงสรวงใหญ่ 2 หลุม มีโบราณวัตถุอันล้ำค่าหลายพันชิ้น ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุเมื่อ 3,000 - 5,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช สิ่งสำคัญคือมีหน้ากากทองสำริดจำนวนมาก ซึ่งไม่เคยมีการพบในแหล่งอื่นมาก่อน และเป็นหน้ากากรูปทรงแปลกผิดกับรูปใบหน้าคนพื้นถิ่น เป็นหน้ากากคิ้วใหญ่ ตาโต จมูกสูง ปากทั้งแบนทั้งใหญ่ เกือบไม่มีขากรรไกรล่างทุกชิ้น ที่หูทั้งสองข้างต่างก็มีรูเล็กๆ รูหนึ่ง และยังได้พบรูปคนทองสัมฤทธิ์รูปหนึ่ง สวมเสื้อแบบชุดราตรี ชายเสื้อยาวหางนกนางแอ่น ตัวสูงประมาณ 170 เซนติเมตร  นอกจากนั้นยังมีวัตถุโบราณสิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือเครื่องใช้เครื่องประดับมากมายหลายที่ทำจากทองสำริดหลายอย่าง เช่น  ตะบองทอง ต้นไม้ทองสำริด รวมถึงวัตถุล้ำค่าหลายอย่าง เช่น งาช้าง หยก หิน งาช้าง และชิ้นงานจากไม้เคลือบ ดินเผา งานเซรามิคโบราณที่มีรูปร่างลวดลายน่ามหัศจรรย์ วัตถุโบราณที่ถือว่ามีความสำคัญทรงค่าที่สุดคือ เครื่องประดับที่มีชื่อว่า Sun and Immortal Bird มีเส้นรอบวง 12.5 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 5.29 เซนติเมตร และบางเฉียบเพียง 0.02 เซนติเมตร ฉลุตรงกลางเป็นพระอาทิตย์พร้อมรัศมี 12 แฉกรอบๆ ฉลุเป็นนก 4 ตัว บินทวนเข็มนาฬิกา ซึ่งเครื่องประดับโบราณชิ้นนี้ได้รับการประกาศให้เป็นสัญลักษณ์ของมรดกทางวัฒนธรรมของจีนโดยสถาบัน State Bureau of Cultural Relics และเป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์และของเมืองเฉิงตู 

 

เทศกาลสำคัญเฉิงตู

  1. 1. เทศกาลปล่อยน้ำตูเจียงเยี่ยน (Dujiangyan Water Releasing Festival) เทศกาลประจำปีจัดขึ้นที่ระบบชลประทานโบราณตูเจียงเยี่ยน ในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง หรือเทศกาลบูชาบรรพบุรุษของชาวจีน เป็นการปล่อยน้ำที่มีพลังยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดมาเป็นพันปี โดยเริ่มเมื่อปีค.ศ. 978 เพื่อรำลึกถึงขุนนางหลี่ปิง ผู้สร้างระบบตูเจียงเยี่ยน ซึ่งช่วยจัดสรรน้ำมาให้แก่การใช้งานของมนุษย์ และมีความสอดคล้องกับธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ เพื่อขอพรให้มีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี เทศกาลนี้ยังเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าฤดูกาลแห่งการเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ไฮไลท์ของงานนี้คือ การแสดงพิธีการ และวิธีการจัดการปัญหาน้ำท่วมแบบสมัยโบราณที่สมจริงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งการแต่งกายหรือพิธีการต่างๆ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนราวกับได้ย้อนยุคเข้าไปอยู่ในอดีตเลยทีเดียว จองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตู เพื่อชมความอลังการของงานได้ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี 
  2. 2. เทศกาลอาหารเอเชียแพนด้าเฉิงตู (Chengdu Panda Asian Food Festival) เทศกาลอาหารที่ดึงดูดนักชิมจากทั่วโลกให้มาลิ้มลองอาหารเสฉวนต้นตำรับ ที่มีรสชาติหลากหลายถึง 24 รส มีเมนูเด่นมากมาย เช่น เช่น เต้าหู้หม่าโผและไก่กังเปา ภายในงานนอกจากอาหารท้องถิ่นแล้ว ยังมีอาหารจานเด็ดจากร้านอาหารกว่า 100 แห่งในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี และอาหารไทย และยังมีกิจกรรมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมมากมาย เช่น นิทรรศการวัฒนธรรมการทำอาหารของจีน นิทรรศการงานเขียนเกี่ยวกับอาหารจีน  การประกวดภาพถ่ายนานาชาติ และทัวร์ "ตามกลิ่น" ซึ่งจะผสมผสานการกิน ที่พัก การเดินทาง การท่องเที่ยว การช้อปปิง และความบันเทิง เพื่อมอบประสบการณ์ในเฉิงตูแบบเจาะลึก ทั้งนี้เมืองเฉิงตูเป็นเมืองแรกในเอเชียที่ได้รับการประกาศให้เป็น "เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร" ของยูเนสโก จองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตูเพื่อร่วมชิมอาหารอร่อยได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม 
  3.  3. เทศกาลโคมไฟ (Lantern Festival) ชาวจีนเรียกว่า เทศกาลหยวนเซียว เป็นเทศกาลเก่าแก่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง และเป็นงานเทศกาลประจำปีของชาวเมืองเฉิงตูตั้งแต่ปี 711 เป็นต้นมา นับเป็นเทศกาลสุดท้ายที่เฉลิมฉลองในช่วงตรุษจีน ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ซึ่งถือเป็นคืนแรกของปีใหม่ที่จะเห็นพระจันทร์เต็มดวง ประเพณีแขวนโคมไฟนี้จัดนานถึงหนึ่งเดือน ชาวเฉิงตูพร้อมใจกันประดับประดาด้วยโคมไฟหน้าตาหลากหลาย มีตั้งแต่ทำด้วยผ้าไหมสีแดงแบบดั้งเดิม จนถึงโคมไฟนีออนที่มาพร้อมกับเสียงและแสงสว่าง ขนมหยวนเซียวคือขนมประจำเทศกาลนี้ มีลักษณะกลมคล้ายบัวลอย แต่มีไส้ทำด้วยแป้งข้าวเหนียว นอกจากการชมโคมไฟ และกินขนมหยวนเซียวแล้ว ยังมีกิจกรรม การละเล่นต่างๆ เช่น จุดพลุ และประทัด ระบำไม้ต่อขา รำพัด เชิดสิงโค การทายปริศนาโคมไฟ การเต้นรำพื้นบ้าน ซึ่งเฉิงตูมีชื่อเสียงด้านการแสดงกายกรรม สร้างความครึกครื้นให้สวนสาธารณะ Culture Park และ Qingyanggong Park เป็นอย่างมาก จองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตูเพื่อร่วมงานได้ในช่วงเดือนปลายเดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

 

เคล็ดลับการเดินทางไปเฉิงตู

  • - แอพฯ ที่ช่วยให้การเดินทางในเฉิงตูเป็นเรื่องง่าย ได้แก่  Maps me ดูแผนที่โดยไม่ต้องมีเน็ตก็ใช้ได้  Chengdu Metro Map ก็ดูแผนที่รถไฟไม่ต้องใช้เน็ตเช่นกัน  
  • - Google Translate ไม่รู้ภาษาจีนก็เที่ยว เพียงพิมพ์ประโยคที่ต้องการพูดเป็นภาษาไทย แล้วเลือกภาษาที่จะให้แอพฯ แปลเป็นภาษาจีน แถมยังใช้โหมดภาพแสกนตัวหนังสือได้ 
  • - Facebook, Google, Google Maps, Instagram, Line และ Youtube โดนบล็อกใช้ไม่ได้ที่เฉิงตู จึงต้องโหลดแอพฯ VPN master ไว้ให้พร้อม เพื่อปลดล็อกให้ใช้งานได้ตามปกติ
  • - อย่าพลาดชิมอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ หมอไฟเสฉวน หรือเรียกวาหัวกัว (Huoguo) ที่เผ็ดร้อนจากส่วนผสมของพริกและเครื่องเทศกว่า 20 ชนิด และหม่าโผโต้วฟู หรือเต้าหู้ผัดพริกเสฉวน สามารถหาทานได้เกือบทุกร้านในเมืองเฉิงตู
  • - รถเมล์ เป็นการเดินทางที่ประหยัดสุดๆ ใช้บัตรโดยสารแบบเติมเงินก็จะได้ส่วนลดอีก หรือจะจ่ายด้วยแอพฯ Wechat ก็สะดวก แต่ถ้าจ่ายเงินสดต้องเตรียมเศษเหรียญให้พอดี ไม่มีทอน และหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน  
  • - รถแท็กซี่ในเฉิงตู และหลายๆ เมืองของจีน จะมีรั้วเหล็กกั้นระหว่างคนขับและผู้โดยสารข้างหลัง มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง และรถแท็กซี่คันหนึ่งรับผู้โดยสารได้ไม่เกิน 4 คน  
  • - คนขับรถในเฉิงตูส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ควรจดชื่อภาษาจีนของป้ายที่จะขึ้นลงให้แม่น หรือเตรียมชื่อที่อยู่ของจุดหมายเป็นภาษาจีน หรือไม่ก็ขอนามบัตรของโรงแรมเอาไว้ยื่นให้คนขับ
  • - การขี่จักรยานเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยวชมเมือง สะดวกมากมายบริการจักรยานใช้ร่วม (Bike-Sharing)  อย่าลืมดาวน์โหลดแอพฯ แชร์จักรยาน Ofo และ Mobike  แล้วลงทะเบียนเพื่อใช้บริการ
Flight-destination-article-image

สายการบินพันธมิตร

สายการบินพันธมิตรทั้งในและระหว่างประเทศ
เราร่วมมือกับสายการบินต่างๆ ทั่วโลก เพื่อรองรับทุกจดหมายปลายทางที่คุณต้องการ

พันธมิตรผู้ให้บริการชำระเงิน

เราร่วมมือกับผู้ให้บริการชำระเงินที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าการชำระเงินของคุณสะดวกและปลอดภัย

เส้นทางยอดนิยม