ชุมพร (Chumphon) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย บนแหลมมลายูบริเวณคอคอดกระ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 463 กิโลเมตร อาณาเขตทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทิศใต้ติดต่อกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทิศตะวันออกติดต่อกับอ่าวไทย ทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดระนองและพม่า มีเนื้อที่ประมาณ 6,010 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศทางด้านตะวันตกเป็นที่สูง มีเทือกเขาตะนาวศรีและเทือกเขาภูเก็ตเป็นแนวกั้นเขตแดนธรรมชาติ มีแม่น้ำสายสั้นๆ ไหลจากทางทิศตะวันตกออกสู่ทะเลทางทิศตะวันออก เช่น แม่น้ำท่าตะเภา แม่น้ำสวี แม่น้ำหลังสวน และแม่น้ำละแม ตอนกลางของจังหวัดเป็นที่ราบลูกคลื่นและที่ราบลุ่ม ทางทิศตะวันออกเป็นที่ราบไปตามแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ชายหาดค่อนข้างเรียบ มีความโค้งเว้าน้อย หาดทรายกว้างและมีความลาดชันน้อย มีชายฝั่งทะเลยาวถึง 222 กิโลเมตร ด้วยภูมิประเทศอันสวยงามนี้ จังหวัดชุมพรจึงเป็นสถานที่พักผ่อนและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดชุมพร อยากไปเที่ยวชุมพรไม่ต้องคิดนาน ก็จองตั๋วเครื่องบินไปชุมพรแล้วเตรียมตัวแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวกันได้เลย

ชุมพร มีปรากฏร่องรอยการอาศัยอยู่ของมนุษย์มาตั้งแต่ก่อนสมัยยุคประวัติศาสตร์ มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านฝ่ายเหนือ มาแต่โบราณในอาณาจักรนครศรีธรรมราช และอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ และเป็นเมืองปีมะแม เป็น 1 ในเมือง 12 เมือง หรือเรียกว่า เมืองสิบสองนักษัตรของอาณาจักรนครศรีธรรมราช โดยใช้รูปแพะเป็นตราเมือง ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งเป็นมณฑลชุมพร ต่อมามีการยุบการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาลเป็นจังหวัด ชุมพรจึงมีฐานะเป็นจังหวัดนับแต่นั้นมา สำหรับชื่อเมืองชุมพร สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า “ชุมนุมพล” ก่อนจะเพี้ยนเป็น “ชุมพร” บ้างก็ว่ามาจากคำว่า “ชุมนุมพร” เนื่องจากสถานที่ทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ได้รับชัยชนะในการสู้รบในสมัยโบราณ อีกทั้งยังสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากชื่อมะเดื่อชุมพรที่ขึ้นอยู่มากมายบนฝั่งแม่น้ำชุมพร ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองเดิม  ต้นมะเดื่อชุมพรจึงเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองอยู่ในตราจังหวัดจนถึงปัจจุบัน

ชุมพร เป็นจังหวัดที่ถือว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ เป็นสะพานเชื่อมระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีพร้อมทั้งป่าไม้ ชายฝั่งทะเลมีความยาวกว่า 200 กิโลเมตร ซึ่งยังคงรักษาความงดงามตามธรรมชาติไว้เป็นอย่างดี โดดเด่นในเรื่องความงามของโลกใต้ทะเล เป็นแหล่งดำน้ำชื่อดัง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ และบรรยากาศที่เงียบสงบไม่ซ้ำใคร นักท่องเที่ยวจะได้รับความเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่สวยงามของป่า เทือกเขาหินปูน นอกจากนั้นชุมพรยังเป็นเมืองผลไม้ที่มีผลไม้ขึ้นชื่อหลายชนิด และช่วงฤดูกาลผลไม้เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ไม่ว่าจะเป็นกล้วยเล็บมือ ทุเรียน ลองกอง เงาะ มังคุด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตลอดสองข้างทางจะรายล้อมไปด้วยไปด้วยสวนผลไม้  ได้สัมผัสถึงชีวิตของชาวสวน กิจกรรมภายในสวน รวมถึงอิ่มอร่อยไปกับผลไม้ นอกจากนี้จังหวัดชุมพรยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วย ถ้าหากอยากรู้ว่าเที่ยวชุมพรแล้วน่าสนใจอย่างไร อย่ารอช้าจองตั๋วเครื่องบินไปชุมพรกันได้เลย

เช็คมาตรการสนามบินจังหวัดชุมพรได้ที่นี่

สกุลเงินที่ใช้

ไทยบาท (Thai Baht หรือ THB)

ฤดูกาลชุมพร  

จังหวัดชุมพรตั้งอยู่บนแหลมมลายูซึ่งอยู่ระหว่างทะเลอันดามันกับทะเลจีนใต้ จึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมทั้ง 2 ฤดู คือ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ทำให้มีฝนตกชุกโดยทั่วไป โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมจะมีปริมาณฝนมากกว่าพื้นที่ราบชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก ส่วนลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีลมจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นลมเย็นและแห้งจากประเทศจีน พัดปกคลุมประเทศไทยตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้อากาศเย็นลงและมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน และเนื่องจากจังหวัดชุมพรตั้งอยู่ในภาคใต้ตอนบนและติดกับทะเลลักษณะอากาศในแต่ละฤดูกาลจึงไม่แตกต่างกันมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 34.8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 21.6 องศาเซลเซียส เดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวที่สุดคือเดือนเมษายน ส่วนอุณหภูมิสูงที่สุดที่วัดได้คือ 38.8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดที่วัดได้ 10.5องศาเซลเซียส ทั้งนี้ควรตรวจสอบสภาพอากาศอีกครั้งก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปชุมพร

จังหวัดชุมพรมีเพียง 2 ฤดู คือ

• ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมเป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออ่อนกำลังลง อากาศจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม จนร้อนที่สุดในเดือนเมษายน แต่ไม่ร้อนมากนัก เพราะได้รับอิทธิพลจากลมทะเล เป็นช่วงที่เหมาะแก่การเล่นน้ำทะเล ล่องแพมากที่สุด
• ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นมวลอากาศที่มีความชื้นสูง พักปกคลุมประเทศไทย และมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้เป็นระยะในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน    ทำให้จังหวัดชุมพรยังมีฝนชุกต่อเนื่องจนถึงเดือนธันวาคมฝนจึงเริ่มลดลง

 สายการบินที่มาชุมพร 

• เส้นทางบินระหว่างกรุงเทพฯ – ชุมพร มีเที่ยวบินให้บริการทุกวัน 22 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ระยะทาง 372 กิโลเมตร
• สายการบินที่ให้บริการบินตรงจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินชุมพร คือ นกแอร์ (Nok Air) และ แอร์เอเชีย (Air Asia)

วิธีการเดินทางในชุมพร

• รถโดยสารประจำทาง รถออกที่สถานีขนส่งชุมพรเมืองใหม่ ถนนเพชรเกษม อยู่ห่างตัวเมืองออกไปประมาณ 12 กิโลเมตร มีรถสองแถววิ่งรับ-ส่ง รถจอดบริเวณศาลหลักเมือง
• รถสองแถว รถสองแถวสีฟ้าให้บริการวิ่งรอบเมืองจุดสำคัญๆ เช่น สถานีขนส่ง สถานีรถไฟและตลาดสด ขึ้นรถที่ถนนเลียบทางรถไฟ และหน้าโรงพยาบาลชุมพรรถสองแถวสีเหลืองจุดหมายปลายทางอยู่ที่หาดทุ่งวัวแล่น ขึ้นรถที่หลังตลาดเทศบาลชุมพร ส่วนรถสองแถว ชุมพร-ปากน้ำ-หาดทรายรี ขึ้นรถที่หน้าสำนักงานไปรษณีย์จังหวัดชุมพร ใกล้กับศาลหลักเมืองชุมพร
• รถตุ๊กตุ๊ก เป็นการเดินทางที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ค่าบริการขึ้นอยู่กับระยะทางและการต่อรอง
• รถแท็กซี่ บริการรถรับส่งทั่วเมืองชุมพรคิดค่าบริการแบบเหมาจ่าย จุดจอดอยู่ที่หน้าสำนักงานประปาจังหวัด ตรงข้ามสถานีดับเพลิง  
• รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว อัตราค่าโดยสารขึ้นอยู่กับระยะทาง และการต่อรอง
• รถเช่า ภายในจังหวัดชุมพรมีรถให้เช่า ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้จากโรงแรมที่พัก  

ที่เที่ยวสำคัญในชุมพร

1. 1. หาดทรายรี (Sairee Beach) หาดทรายรี สถานเที่ยวทางทะเลที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของชุมพร มีความโดดเด่นอยู่ที่หาดทรายสีขาว ชายหาดรูปทรงโค้งยาวกว้างสำหรับทำกิจกรรมชายหาด  น้ำทะเลใสสวยเชิญชวนให้ลงเล่นน้ำให้ฉ่ำใจ ลมทะเลแรงเย็นสบายมีจุดเช็กอินให้ถ่ายรูปสวยๆ หลายจุด รวมถึงพื้นที่ให้นั่งๆ นอนๆ พักผ่อนริมหาดใต้ร่มไม้เรียงรายตลอดแนวกั้นระหว่างถนนกับชายหาด อาหารการกินเหลือเฟือเช่นเดียวกับที่พักที่มีพร้อมรองรับให้บริการนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปชุมพรอย่างเพียงพอ  สถานที่สำคัญอีกแห่ง ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กของหาดทรายรีที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปเยี่ยมเยือนนั่นก็คือ อนุสรณ์สถานกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือศาลกรมหลวงชุมพร ฯ ซึ่งมีทั้งศาลหลังเก่าและหลังใหม่ เหตุที่มีอนุสรณ์สถานที่ที่นี่ก็เพราะหาดทรายรีเป็นสถานที่พระองค์สิ้นพระชนม์นั่นเอง โดยศาลตั้งอยู่บนเรือรบหลวงพระร่วงจำลองบนเขา และหันหน้าออกสู่ทะเลจึงทำให้พื้นที่จุดนี้เป็นจุดที่มองเห็นทิวทัศน์ของทะเลและหาดทรายรีได้อย่างสวยงาม นอกจากจะได้มองเห็นความสวยงามแห่งเวิ้งอ่าวแล้ว ยังได้บวงสรวงสักการะรำลึกถึงคุโณปการอันยิ่งใหญ่ของเสด็จกรมหลวงชุมพรฯ ที่มีต่อราชนาวีไทย และด้านการแพทย์แผนไทยที่รู้จักกันนามของพระองค์คือ หมอพรนั่นเอง ที่ศาลกรมหลวงนี้จะมีการจุดประทัดเป็นเครื่องถวายสักการะซึ่งมีประทัดจำหน่ายและกำหนดจุดให้จุดประทัดซึ่งจะได้ยินประทัดดังอยู่เรื่อยๆ แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาเยี่ยมชมสักการะไม่ขาดสาย
2. หาดทุ่งวัวแล่น (Thungwualaen Beach) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอำเภอปะทิว ห่างจากตัวเมืองชุมพรประมาณ 16 กิโลเมตร เป็นหาดทรายที่มีเม็ดทรายสีขาวนวลละเอียดยาวสุดสายตา ชายหาดลาดเอียงลงไปในทะเล ทำให้มองเห็นความสวยงามของชายหาดกับน้ำทะเลได้มุมมองที่สวยงาม ตลอดแนวหาดมีต้นมะพร้าว สนและหูกวาง เรียงรายให้ร่มเงาเป็นระยะๆ และมีผักบุ้งทะเลเป็นหย่อมๆ บนพื้นหาด นอกจากนี้ตัวหาดยังมีความกว้างและยาวไกลถึง 5 – 6 กิโลเมตร เหมาะที่จะเล่นน้ำทะเลหรือออกกำลังกายเล่นกีฬาชายหาดได้สบายๆ บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน จากชายหาดทุ่งวัวแล่นสามารถมองเห็นเกาะง่ามน้อยเกาะง่ามใหญ่และหมู่เกาะในทะเลชุมพรได้อย่างชัดเจน และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าที่สวยงามแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพรอีกด้วย ส่วนทางตอนใต้สุดของชายหาดติดกับชุมพรคาบาน่ารีสอร์ท มีลักษณะเป็นภูเขายื่นออกมาคือเขาโพธิ์แบะ มีแนวหินใต้น้ำ สาหร่ายทะเล ฟองน้ำทะเล ดอกไม้ทะเล และฝูงปลาทะเลสีสันสวยงามนานาชนิด หาดทุ่งวัวแล่นยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริเวณหาดแห่งนี้เคยเป็นจุดที่จุดที่กองทหารญี่ปุ่นเคยยกพลขึ้นบกในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 หาดวัวแล่นนี้มีจุดเช็คอินที่สำคัญหลายจุด แต่ที่ต้องไม่พลาดคือ รูปหล่อวัวหนุ่มเขายาวแหลมขนาดล่ำสันในท่าวิ่งกระโจนที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นสะดุดตา   ช่วงเวลาที่อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับการมาเที่ยวหาดนี้ คือช่วงประมาณกลางเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงมรสุม  
3. 3. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร  (Mu Ko Chumphon National Park) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เดิมชื่อว่าอุทยานแห่งชาติ หาดทรายรี เป็นหมู่เกาะที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยเรียงรายรวมกันกว่า 40 เกาะ แต่ละเกาะมีความงดงามของธรรมชาติที่แตกต่างกัน บางเกาะมีหาดทรายขาวละเอียด บางเกาะเป็นภูเขาหินปูนที่มีรูปทรงแปลกตาน่าชม บางเกาะแม้จะมีสัมปทานรังนก แต่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปพักผ่อนและเล่นน้ำทะเลได้ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงโดดเด่นมาก เต็มไปด้วยแนวปะการังและกองหินใต้น้ำที่อุดมสมบูรณ์ รวมทั้งฝูงปลานานาชนิด ปะการังดำ ดงดอกไม้ทะเลสุดลูกหูลูกตา นับเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำอย่างแท้จริง เป็นแหล่งชมฉลามวาฬที่แวะเวียนมาทุกฤดูร้อน โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนจะมีโอกาสได้พบบ่อย เกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยว ได้แก่ เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เกาะทะลุ เกาะทองหลาง เกาะละวะ เกาะลังกาจิว เกาะมัตตรา และเกาะไข่ และยังมีชายหาดสวยอีกหลายแห่ง ทั้งอ่าวทุ่งมะขามน้อย อ่าวทุ่งมะขามใหญ่ หาดทรายรีสวี และหาดอรุโณทัย และยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวทุ่งคา เป็นสะพานไม้ทอดยาวเข้าไปในอ่าว ทางเดินศึกษาธรรมชาติเริ่มจากที่บริเวณจอดรถทอดตัวผ่านศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ผ่านแปลงปลูกป่าโกงกาง บริเวณริมคลองมีท่าเรือเล็กๆ ให้หยุดชมวิว ตลอดทางเดินจะมีป้ายสื่อความหมายเกี่ยวกับสภาพป่าและสิ่งมีชีวิตในป่าชายเลนเป็นระยะๆ นับเป็นป่าพูดได้แห่งแรกในประเทศไทย บริเวณใกล้ๆ กันบนยอดเขาโพงพาง เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ทิวทัศน์ของท้องทะเล เกาะต่างๆ เวิ้งอ่าว และพื้นป่าชายเลนที่กว้างใหญ่  
4.  บ้านอ่าวคราม (Ban Ao Kham) แรกเริ่มนั้น บ้านอ่าวครามเป็นเพียงชุมชนชาวประมงพื้นบ้านขนาดเล็กของอำเภอสวี มีเพียง 20 กว่าครัวเรือน อาชีพหลักคือการทำประมงด้วยวิธีธรรมชาติตั้งแต่บรรพบุรุษ 100 กว่าปีมาแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่เรียบง่ายเป็นแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยรักใคร่กลมเกลียวกัน และยังไม่เป็นที่รู้จักของคนภายนอกพื้นที่เท่าไหร่นัก  เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านจากปัญหาการทำประมงทำให้ชุมชนอ่าวครามเริ่มปรับเปลี่ยนวิถีการดำรงชีพ โดยมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือน โดยเป็นลักษณะการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่หาได้ยากในสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ บ้านอ่าวครามไม่เพียงแต่จะมีบรรยากาศของสถานที่ยังคงบริสุทธิ์เท่านั้น ที่พักโฮมสเตย์ยังคงรูปแบบเดิมๆ ไม่ได้ปรุงแต่งให้สวยหรู อาหารทะเลสดสะอาด ยามกลางวันสามารถนั่งเรือชมเกาะต่างๆ ในบริเวณนั้นได้ เช่น เกาะกุลา เกาะกระ เกาะแมว เกาะหนู หินช้างสมเด็จพระนเรศวร หรือหินชื่อสุดแปลกอย่าง “หินยายหีโหว่” ชมค่างแว่นที่มักนั่งอวดโฉมอยู่ริมเกาะ หรือหากโชคดีอาจได้เห็นฝูงโลมา ทั้งสีชมพูและสีเทาด้วย ไฮไลท์ของบ้านอ่าวครามคือการบามหมึกหรือล่อหมึกให้มาเข้าอวน เป็นการล่องเรือที่ทางโฮมสเตย์จัดไว้ไปยังจุดที่ชาวบ้านใช้อวนขึงกับเสาไม้ทั้ง 4 เสาที่ตั้งอยู่กลางทะเล ขึงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส จากนั้นก็ใช้แสงไฟจากถังแก๊สที่ห้อยไว้ด้านบน เป็นตัวล่อให้หมึกเข้ามาเล่นไฟ เมื่อได้เวลาก็หมุนรอกให้เชือกดึงตาข่ายอวนขึ้นมาเหนือผิวน้ำ แล้วเอาสวิงตักหมึกขึ้นมาปรุงอาหารกันแบบสดๆ นับเป็นการใช้ภูมิปัญญาในการจับหมึกโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของบ้านอ่าวคราม 
5. อำเภอพะโต๊ะ  (Phato District) “ดินแดนแห่งภูเขาเขียว เที่ยวล่องแพ แลหมอกปก น้ำตกงาม ลือนามผลไม้” คือ คำขวัญประจำอำเภอพะโต๊ะ อำเภอใต้สุดของจังหวัดชุมพร ถิ่นที่มีป่าไม้หนาแน่นภูเขาโอบล้อม มีต้นน้ำพะโต๊ะที่เป็นแหล่งน้ำชั้นดีสู่สายธารลำคลอง หล่อเลี้ยงชีวิตชาวบ้านของอำเภอนี้มาช้านาน และยังสร้างอาชีพในหลายๆ ด้านแก่ชุมชนต่างๆ ด้วย โดยเฉพาะชาวสวนผลไม้ ก่อนที่สายน้ำจากพะโต๊ะจะไหลไปรวมกับแม่น้ำชุมพร และความที่มีป่าเขามีต้นน้ำสมบูรณ์ จึงทำให้พะโต๊ะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ได้รับความนิยม ทั้งการท่องเที่ยวทางน้ำรวมถึงการเดินป่า ซึ่งจะได้เห็นฝูงค่างแว่นสัตว์ประจำถิ่นใต้หรือนกเงือก อีกทั้งมีน้ำตกให้เลือกเที่ยวได้หลากหลายแห่ง เช่นน้ำตกเหวโหลม น้ำตกเหวตาจันทร์ น้ำตกเหวพลูหนัง น้ำตกทับขอน น้ำตกเหวเตย และน้ำตกเหนือเหว ไฮไลท์ห้ามพลาดคือ ล่องแพล่องแก่งด้วยเรือยาง กิจกรรมเด่นที่อยู่คู่กับอำเภอพะโต๊ะมาช้านาน และเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอพะโต๊ะเป็นอย่างมาก การล่องแพจะเริ่มตั้งแต่คลองต้นน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ ผ่านสวนทุเรียน สวนกาแฟ และสวนมังคุด สามารถลงเล่นน้ำได้ตามจุดที่กำหนด และแวะชมและชิมผลไม้สดจากสวนได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเดินป่า ให้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปชุมพรได้เดินชมธรรมชาติ สัมผัสกับพืชสมุนไพรหลากชนิด และดอกบัวผุดที่หาดูยาก สำหรับใครที่อยากเห็นทะเลดาวในตอนกลางคืน สามารถเลือกพักแบบโฮมสเตย์หรือกางเต็นท์ บริเวณสนามหญ้าหน้าที่ว่าการอำเภอในช่วงเทศกาลล่องแพ ที่มีนักท่องเที่ยวจองตั๋วเครื่องบินไปชุมพร เพื่อร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

อ่านบทความที่เที่ยวชุมพร ได้ที่นี่ 

พาตะลุย Road Trip เที่ยวใต้ หัวหิน-ประจวบ-ชุมพร

เทศกาลที่สำคัญในชุมพร

1. 1. งานโลกทะเลชุมพร (Chumphon Sea World Fair) งานใหญ่ประจำปีของจังหวัดชุมพร กำหนดจัดงานระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ณ ชายทะเลหาดทุ่งวัวแล่น งานโลกทะเลชุมพรเป็นเทศกาลที่รวบรวมกิจกรรมสนุกสนานต่างๆ ไว้มากมาย ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่จองตั๋วเครื่องบินไปชุมพรได้ร่วมสนุกตลอดทั้ง 5 วัน อาทิ การแข่งขันตกปลา การประกวดภาพถ่ายแหล่งท่องเที่ยว การจัดนิทรรศการแหล่งท่องเที่ยว พาทัวร์ดำน้ำชมปะการังและเก็บขยะใต้ทะเล การโชว์เรือหลวง ต. 996 การแข่งขันกีฬา อาทิ วอลเลย์บอลชายหาด โรเลอร์สกี วู๊ดบอล และเปตองชายหาด การออกร้านจำหน่ายอาหาร ให้นักท่องเที่ยวได้อิ่มอร่อยอาหารทะเลและอาหารท้องถิ่น อีกทั้งมีโชว์ทำอาหารจากเชฟชื่อดังอีกด้วย พร้อมด้วยการแสดงคอนเสิร์ตริมชายหาดจากศิลปินชื่อดังของไทย  
2. 2. งานวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ (Koh Phitak Mini Marathon) การแข่งขันวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ หรือหลังสวนมินิมาราธอน จัดการแข่งขันประมาณเดือนมิถุนายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำทะเลลดลงจนสามารถเดินข้ามเกาะได้ เนื่องจาก ในรอบ 1 ปี จะมีระดับน้ำลดลงจนสามารถวิ่งข้ามได้เพียงไม่กี่วัน ในช่วงเดือนมิถุนายน และจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้นที่น้ำลดต่ำสุด ซึ่งมีเส้นทางที่น้ำลดต่ำสุดเพียงจุดเดียวที่สามารถวิ่งลุยน้ำทะเลไปถึงเกาะพิทักษ์ได้ การวิ่งมินิมาราธอน มีระยะทาง 14 กิโลเมตร โดยวิ่งบนถนนเลียบชายฝั่ง 13 กิโลเมตร และวิ่งในทะเล อีก 1 กิโลเมตร ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่ชายทะเลปากน้ำหลังสวน บริเวณเรือจักรีนฤเบศร์จำลอง ไปตามเส้นทางเลียบชายฝั่งทะเล ถึงท่าเรือข้ามไปเกาะพิทักษ์ วิ่งลุยน้ำข้ามทะเลระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เข้าเส้นชัยบนเกาะพิทักษ์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น “หนึ่งเดียวในสยาม” ของการแข่งขันมินิมาราธอน
3. 3. เทศกาลล่องแพพะโต๊ะ (Phato Rafting Festival) กิจกรรมล่องแพเชิงอนุรักษ์ มีกำหนดจัดงานขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ณ บริเวณลานกิจกรรมหน้าที่ว่าการอำเภอพะโต๊ะ เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่จองตั๋วเครื่องบินไปชุมพร ได้สนุกสนานกับการล่องแพชมทัศนียภาพของสายน้ำของแม่น้ำพะโต๊ะ ซึ่งเป็นลำน้ำธรรมชาติไหลคดเคี้ยวลงมาจากขุนเขา บางช่วงเป็นแก่งน้ำขนาดใหญ่ให้บรรยากาศที่ตื่นเต้นเร้าใจ สนุกกับการล่องแพไม้ไผ่และแพท่อพีวีซี เล่นน้ำตามแก่งต่างๆ ชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำที่ผ่านป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ที่สุดของภาคใต้ ผ่านจุดบรรจบของคลองสกกับคลองทรง อันเป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำหลังสวน ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ การแข่งขันจักยานเสือภูเขา การประกวดธิดาล่องแพ  การแสดงบนเวทีของนักเรียน  การแข่งขันนกรงหัวจุกและหนังตะลุง และลิ้มลองอาหารพื้นเมือง เช่น แกงส้มหมูสามชั้นกับหยวกกล้วยป่า ใบเหลียงผัดไข่ และไข่หลามยำยอดผักกูด นอกจากนี้ยังมีการจัดเดินป่าขึ้นไปชมป่าต้นน้ำ กางเต็นท์พักแรม หรือขี่ช้างเที่ยวป่า