ฮานอย เป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติ คุณสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินไปเวียดนามออกเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวสุสานโฮจิมินห์ หรือสุสานลุงโฮ ประธานาธิบดีคนสำคัญของเวียดนาม ชมผลงานศิลปกรรมที่วิหารวรรณกรรม ตลอดจนล่องเรือที่อ่าวฮาลองเบย์ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด
เดินทางไปฮานอย สามารถเลือกซื้อตั๋วเครื่องบินไปฮานอยล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน Traveloka แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมตั๋วไปฮานอยราคาถูก มีสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแต้มคะแนนสะสม ระบบแจ้งเตือนออนไลน์ ส่วนลด และโปรโมชันพิเศษที่มีเฉพาะในแอป Traveloka เท่านั้น
การจะจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยในช่วงที่ถูกที่สุด จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจอง หากคุณดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Traveloka จะช่วยให้คุณจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดได้ทันเวลา ไม่พลาดตั๋วราคาดีที่สุดแน่นอน โดยราคาตั๋วไปฮานอยในแต่ละเดือนมีราคาเริ่มต้นดังนี้
อย่างไรก็ตามราคาตั๋วเครื่องบินไปฮานอยมักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อให้คุณไม่พลาดตั๋วเครื่องบินราคาสุดพิเศษก่อนใคร แนะนำให้โหลดแอป Traveloka เพราะแอปนี้คือแหล่งรวบรวมตั๋วราคาโปร สามารถเปรียบเทียบตั๋วเครื่องบินทุกสายการบิน พร้อมช่วยให้คุณค้นหาตั๋วบินไปฮานอยราคาถูกที่สุด ดังนั้น เรื่องตั๋วเครื่องบินต้องยกให้เรา
ข้อมูลตั๋วเครื่องบินไปฮานอยจะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างมั่นใจ พร้อมออกเดินทางไปตามหาฝันที่ได้วางแผนไว้ ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินไปฮานอยมาไว้ให้คุณแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
การจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยมีข้อมูลมากมายที่ควรรู้ไว้ก่อนจองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งการมีเครื่องมือดี ๆ ช่วยค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น โดยคำถามที่พักพบบ่อยเมื่อต้องจองตั๋วฮานอยมีดังนี้
จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยบินลงที่สนามบินนานาชาติโหน่ยบ่าย (NoiBai International Airport) สนามบินหลักของกรุงฮานอยที่นิยมเรียกว่า “สนามบินฮานอย” ตั้งอยู่ในย่านผูมินห์ เขตซอคเซิน ห่างจากตัวเมืองฮานอยไปทางทิศเหนือประมาณ 35 กิโลเมตร
จากสนามบินสามารถเดินทางสู่ตัวเมืองได้หลายวิธี ได้แก่ รถโดยสารประจำทาง, รถบัสสนามบิน, รถแท็กซี่ และรถเช่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที เมื่อคุณเช็กอินที่โรงแรมแล้วก็เดินเที่ยวบริเวณรอบเมืองได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบคืนดาบ, โบสถ์เซนต์โจเซฟ หรือชมการแสดงหุ่นกระบอกน้ำที่ขึ้นชื่อของฮานอย
ฮานอย (Hanoi) เป็นเมืองหลวงที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของเวียดนาม โดยมีอายุครบ 1,000 ปี เมื่อปี 2010 สำหรับ “ฮานอย” ในภาษาเวียดนาม คำว่า ฮา แปลว่า แม่น้ำ ซึ่งหมายถึงแม่น้ำซงโห่ง หรือแม่น้ำแดงคำว่า นอย แปลว่า ข้างใน แปลรวมกันได้ความหมายว่า “เมืองบนฝั่งโค้งของแม่น้ำ” ซึ่งตรงกับภูมิศาสตร์ของฮานอยที่ตั้งอยู่บนลุ่มแม่น้ำแดงในภาคเหนือของประเทศ
สำหรับในช่วงต้นศตวรรษที่ 11ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ลี้ กษัตริย์หลีไทโตทรงสถาปนาเมืองโบราณริมแม่น้ำซงโห่งเป็นเมืองหลวง และพระราชทานนามใหม่ว่า “ทังลอง” หรือ ฮานอยในปัจจุบัน มีความหมายว่า “มังกรเหิน” ฮานอยเป็นที่บรรจบของแม่น้ำหลายสาย จึงได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน
ฮานอยดินแดนแห่งมังกรหลับใหล เป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดในเอเชียสมดังคำกล่าวขานว่า Little Paris และยังเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลสาบ (City of Lakes) เพราะมีทะเลสาบน้อยใหญ่มากถึง 12 แห่ง โดยมีทะเลสาบโห่เตย (Ho Tay) หรือทะเลสาบตะวันตก (West Lake) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฮานอย และมีทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม (Ho HoanKiem Lake) ณ บริเวณใจกลางเมืองที่ยังคงไว้ด้วยสถานที่ประวัติศาสตร์ และมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมีอาคารสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลที่งดงามโดดเด่นที่สุดในอินโดจีนให้เดินทางไปเยี่ยมชมได้ และด้วยความสวยงามของสถานที่ต่าง ๆ ที่กล่าวมา จึงเป็นเหมือนมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยจำนวนมากในแต่ละปีอีกด้วย
สำหรับคนไทยสามารถเดินทางเข้าเวียดนามได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และอาศัยอยู่ในเวียดนามได้นาน 30 วัน โดยการเข้าเมืองเวียดนามต้องเตรียมตั๋วเครื่องบินไปฮานอย, พาสปอร์ตที่ยังมีอายุอยู่ และใบรับรองการฉีดวัคซีน ซึ่งในปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว แต่ขอให้เตรียมไว้เผื่อเจ้าหน้าที่ขอดู
สำหรับสายการบินที่มีเที่ยวบินไปฮานอยแบบบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่สนามบินฮานอย มีหลายสายการบินด้วยกัน ทั้งจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยสามารถดูรายละเอียดได้ดังนี้
การเดินทางสู่ฮานอยด้วยการจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย สามารถเดินทางได้หลายสายการบินด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน Vietnam Airlines ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศเวียดนาม และเป็นสายการบินหลักของฮานอย นอกจากนี้ยังมีสายการบินอื่น ๆ ที่ให้บริการระหว่างประเทศและภายในประเทศ อาทิ Vietjet Air และ Jetstar Pacific Airlines โดยจะลงจอดที่สนามบินเพียงหนึ่งเดียวของฮานอย คือสนามบินนานาชาติโหน่ยบ่าย หลังจากนั้นก็สามารถเดินทางเข้าเมืองง่าย ๆ หลายวิธี เช่น
เวลาที่ฮานอย เวียดนามต่างจาก Greenwich Mean Time 7 ชั่วโมง (GMT +7.00) ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่ต่างจากประเทศไทยที่อยู่ในโซนเวลา Indochina Time (ICT) เขตเวลา Asia/Bangkok GMT +7.00 ชั่วโมงเหมือนกัน ทำให้จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย ใช้เวลาได้เหมือนอยู่เมืองไทย
จุดหมายของผู้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปฮานอยคือหวังจะได้สัมผัสกับอารยธรรมมากมายในสไตล์เดียนเบียนฟู พร้อมซึมซับกับวัฒนธรรมเวียดนาม และธรรมชาติอันงดงาม ซึ่งฮานอยมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมายให้สามารถเข้าไปเยี่ยมชมและดื่มด่ำกับบรรยากาศในแบบที่ตามหาได้เลย โดยที่เที่ยวฮานอยจะมีสถานที่สำคัญ ๆ รอให้คุณไปท่องเที่ยวมากมาย ดังนี้
สุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Mausoleum)
ตั้งอยู่บนถนนเดียนเบียนฟู บริเวณจัตุรัสบาสดิงห์ สถานที่อ่านคำประกาศอิสรภาพของประธานาธิบดีโฮจิมินห์ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 1945 อาคารสุสานมีชื่อในภาษาเวียดนามว่า "จู่ติกโอจิมินห์" สร้างด้วยหินอ่อน, หินแกรนิต และไม้มีค่าจากทั่วประเทศ กลางห้องใหญ่สีขาวมีแท่นหินตั้งโลงแก้ว บรรจุร่างอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ซึ่งอาบน้ำยาเป็นอย่างดี โดยภายในห้องจะทำการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ด้วยส่วนบริเวณใกล้เคียงกันนั้นยังมีสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโฮจิมินห์ให้เยี่ยมชมอีก เช่น ทำเนียบประธานาธิบดีบ้านโฮจิมินห์และพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ใครจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยต้องไม่พลาดมาเยี่ยมชมที่เหล่านี้เลย
ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม (Ho Hoan Kiem Lake)
ทะเลสาบใจกลางกรุงฮานอย มีตำนานเล่าว่า สมัยพระเจ้าเลไทโตได้นำดาบวิเศษไปคืนให้กับเต่าศักดิ์สิทธิ์กลางทะเลสาบ หลังจากใช้ดาบต่อสู้กับชาวจีนราชวงศ์จนได้รับชัยชนะ อันเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบ และเป็นที่มาของหอคอยโบราณทรงสี่เหลี่ยมกลางทะเลสาบทางด้านทิศใต้ที่เรียกว่า “ทาพรัว”หรือ“หอคอยเต่า”ส่วนใครที่มาแล้วอยากจะไปชมวิวสวย ๆ เราขอแนะนำจุดชมวิวทะเลสาบที่สวยที่สุดเลย คือ บริเวณเกาะหยกกลางทะเลสาบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดหง็อกเซินหรือวัดเนินหยก วัดเก่าประจำเมือง ที่มีสะพานเทฮุกสีแดง หรือสะพานแสงอาทิตย์ทอดยาวจากริมฝั่งไปยังเกาะกลางน้ำให้เดินชมความงามพร้อมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ด้วย ดังนั้น ถ้าจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยแล้วต้องอย่าลืมมาถ่ายรูปที่นี่เอาไว้เยอะ ๆ เลย เพราะสวยงามสมคำร่ำลือจริง ๆ
วิหารวรรณกรรมอันเหมียว (Van MieuTempleof Literature)
หอวรรณกรรมหรือวันเหมียวในภาษาเวียดนามหรือ “วัดจอหงวน” วัดเก่าแก่คู่เมืองฮานอย สร้างขึ้นเพื่อเป็นวิหารลัทธิขงจื๊อและเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนาม เป็นที่ศึกษาวิชาปรัชญาขงจื๊อ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเหล่าขุนนางในอดีตวิหารวรรณกรรมอันเหมียวได้ปิดตัวลงและถูกปล่อยทิ้งร้างว่างเปล่า ตั้งแต่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ต่อมาได้รับการบูรณะให้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรม ที่รวบรวมผลงานด้านศิลปะทุกแขนงนับตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถ้าใครซื้อตั๋วเครื่องบินไปฮานอยเพื่ออยากจะได้สัมผัสศิลปะโบราณแล้ว ก็ยังได้เรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์และการศึกษาของเวียดนามที่สำคัญที่สุดในฮานอยจากสถานที่เหล่านี้อีกด้วย
ย่านโอลด์ควอเตอร์ (Old Quarter)
ย่านเมืองเก่าของฮานอยที่มีอายุกว่า 600 ปี ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งราคาประหยัด คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เพื่อเที่ยวชมบรรยากาศเก่าแก่ที่ถนน 36 สาย ย่านหัตถกรรมและสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของกรุงฮานอย โดยถนนแต่ละสายจะเน้นสินค้าที่แตกต่างกันตามอาชีพดั้งเดิมทั้ง 36 อาชีพสำหรับไฮไลต์จะอยู่ที่คืนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เนื่องจากมีตลาดกลางคืนและสตรีทฟู้ดให้ลิ้มลองละลานตา นอกจากนี้ยังมีจุดห้ามพลาดคือทางรถไฟสายเก่า ที่รถไฟจะผ่านบ้านเรือนผู้คนอย่างใกล้ชิด อารมณ์ประมาณทางรถไฟสายแม่กลองของไทย
ฮาลองเบย์(Ha Long Bay )
จุดเด่นของฮาลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง ที่เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางด้านธรรมชาติ คือ รูปร่างอันแปลกตาของหมู่เกาะหินปูนมากมายกว่า 1,900 เกาะทางตอนเหนือของฮานอย ผู้คนที่มาทเี่ยวที่นี่มักทำกิจกรรมยอดนิยมในการเที่ยวชมความงามรอบ ๆ อ่าว นั่นคือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้า 2 ชั้น หรือ Queen Cable Car ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและอีกหนึ่งกิจกรรมห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เลยก็คือ การชมวิวฮาลองเบย์เหนือผืนน้ำชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศาบนชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ (Sun Wheel) หรือล่องเรือชมความงามของอ่าว พร้อมแวะชมถ้ำเทียนกุงหรือถ้ำสวรรค์ที่มีหินงอกหินย้อยที่งดงามสมเป็นถ้ำมรดกโลก หลายคนที่จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยก็เพื่อต้องการมาสัมผัสประสบการณ์ที่นี่นั่นเอง
เทศกาลเต็ด (Tet)
เทศกาลเต็ด หรือ “เต็ดเหวียนดาน” เทศกาลแห่งรุ่งอรุณของปี หรือเทศกาลปีใหม่ของชาวเวียดนาม ที่คนไทยรู้จักในชื่อ “ตรุษญวน” นั่นเอง ชาวเวียดนามจะเริ่มต้นเฉลิมฉลองกัน 1 สัปดาห์ก่อนถึงวันเทศกาล หรือในวันที่ 23 เดือน 12โดยในงานเทศกาลจะมีการเซ่นไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ ประดับตกแต่งหิ้งบูชาอย่างสวยงามด้วยไม้มงคล ทั้งดอกท้อและดอกมาย ส่วนบ้านเรือนก็จะประดับไฟสว่างไสวและจุดประทัดหรือดอกไม้ไฟ เพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่มาถึง นับเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลนี้ได้มากมายเลยทีเดียว
เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง (Mid-Autumn Festival)
เต๊ดจุงทู หรือเทศกาลใบไม้ร่วงของเวียดนาม จะคล้ายกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ของจีนซึ่งจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ชาวเวียดนามจะจัดประกวดขนมบันตรังทู หรือขนมเปี๊ยะโก๋ญวน ซึ่งมีรูปร่างกลม ๆ ผิวหน้ามีลวดลายสวยงาม ใส่ไส้ถั่วและผลไม้ รวมถึงมีขบวนแห่เชิดสิงโตและมังกรเพื่อแสดงความเคารพต่อพระจันทร์ ส่วนบ้านเรือนก็จะประดับประดาด้วยโคมไฟ พร้อมทั้งจัดงานขับร้องเพลงพื้นบ้าน ใครที่สนใจก็จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลได้ในช่วงเดือนกันยายนของทุกปีได้เลยเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ (Quest Festival)
เทศกาลดนตรีอันโด่งดังในหมู่คอเพลงอิเล็กทรอนิกส์ เทคโน และ เฮาส์มิวสิก ที่คับคั่งไปด้วยศิลปิน และเหล่าดีเจนานาชาติกว่า 150 คนท่ามกลางทิวทัศน์และธรรมชาติอันแสนงดงามบนภูเขา ณ เซินตินห์แคมป์ ในอุทยานแห่งชาติบาวี ห่างจากฮานอย 45 นาที นอกจากบูธขายอาหารและเครื่องดื่มแล้ว นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย ยังได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรม และเวิร์กช้อปมากมายในงานที่จัดต่อเนื่อง 3 วันในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปีสำหรับผู้จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยควรเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศฮานอย เพื่อวางแผนการเดินทางอย่างราบรื่น โดยฮานอยมีภูมิอากาศคล้ายเขตเมืองร้อน มีอุณหภูมิต่างกันอย่างมากระหว่างช่วงร้อนที่สุดและหนาวที่สุด มี 4 ฤดูกาล คือ
ฤดูใบไม้ผลิ
เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมอากาศเย็นสบายฝนตกประปรายฤดูร้อน
เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม อากาศจะร้อนอบอ้าวที่สุด แต่ก็มีฝนตกบ่อยที่สุดเช่นกันฤดูใบไม้ร่วง
เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เพราะอากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส ฝนตกน้อยฤดูหนาว
เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อากาศเย็นสบายที่สุดในรอบปี และเดือนมกราคมคือเดือนที่หนาวเย็นที่สุดฮานอยเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอย่างมาก คุณจึงควรมีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางในฮานอยเก็บไว้ ซึ่งเคล็ดลับสำคัญที่ผู้จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยควรรู้มีดังนี้
แลกเปลี่ยนเงินได้ที่สนามบิน ธนาคาร โรงแรม และจุดรับแลกเงินทั่วไปซึ่งจะมีตัวอักษรสีทองว่า Hieu Kim Hoan หรือ HieuVang
เคล็ดลับในการคำนวณเงินไทย คือ เอาเลข 3 หลักข้างหน้า คูณด้วย 1.5 เช่น 100,000 ดอง จะประมาณ 150 บาท
เก็บกระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์มือถือไว้ในจุดที่ปลอดภัย และแยกเงินสดและพาสปอร์ตเก็บไว้ในกระเป๋าคาดอกหรือคาดเอว
ในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง ประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายน และในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เพราะอากาศสบาย ๆ ไม่ร้อนจนหมดสนุก
ช่วงเทศกาลเต็ด หรือปีใหม่ของชาวเวียดนาม ในเดือนกุมภาพันธ์เมืองฮานอยจะเงียบสงบประมาณ 3 วัน เพราะชาวเมืองเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัว ดังนั้น ก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย อย่าลืมเช็กปฏิทินให้แน่ใจ
สุสานโฮจิมินห์เปิดทำการเพียงครึ่งวัน ตั้งแต่ 08.00-11.00 น. ในวันอังคาร-พฤหัสบดี และวันเสาร์-อาทิตย์ และปิดในเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายนเพื่อนำร่างประธานาธิบดีโฮจิมินห์ไปทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาที่รัสเซีย
มารยาทในการเข้าชมสุสานโฮจิมินท์ คือ แต่งกายสุภาพ ขาสั้นแขนกุดห้ามเด็ดขาด เมื่อเข้าสู่ภายในสุสานห้ามถ่ายรูปห้ามรับประทานอาหาร ห้ามเอามือล้วงกระเป๋า และต้องฝากกระเป๋าสิ่งของมีค่าไว้กับเจ้าหน้าที่
แท็กซี่ในฮานอยมักจะพาอ้อม หรือโกงมิเตอร์ ควรใช้บริการจากบริษัทที่เชื่อถือได้ หรือตกลงราคาให้เรียบร้อยก่อนใช้บริการ และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามิเตอร์ใช้ได้จริง และอย่าลงจากรถจนกว่าจะได้รับเงินทอนจนครบ
สอบถามราคาให้เรียบร้อยทุกครั้งก่อนใช้บริการ ซื้อสินค้าที่ติดป้ายราคาชัดเจน ถ้าเป็นไปได้ ควรเตรียมเงินให้พอดี และส่งธนบัตรให้ทีละใบ และตรวจสอบเงินทอนทุกครั้งเมื่อซื้อสินค้า
นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย ควรระมัดระวังเรื่องการถ่ายรูปชาวเวียดนาม เพราะอาจโดนเรียกเก็บค่าถ่ายรูปโดยไม่รู้ตัว
ฮานอย เป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติ คุณสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินไปเวียดนามออกเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวสุสานโฮจิมินห์ หรือสุสานลุงโฮ ประธานาธิบดีคนสำคัญของเวียดนาม ชมผลงานศิลปกรรมที่วิหารวรรณกรรม ตลอดจนล่องเรือที่อ่าวฮาลองเบย์ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด
เดินทางไปฮานอย สามารถเลือกซื้อตั๋วเครื่องบินไปฮานอยล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน Traveloka แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมตั๋วไปฮานอยราคาถูก มีสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแต้มคะแนนสะสม ระบบแจ้งเตือนออนไลน์ ส่วนลด และโปรโมชันพิเศษที่มีเฉพาะในแอป Traveloka เท่านั้น
การจะจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยในช่วงที่ถูกที่สุด จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจอง หากคุณดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Traveloka จะช่วยให้คุณจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดได้ทันเวลา ไม่พลาดตั๋วราคาดีที่สุดแน่นอน โดยราคาตั๋วไปฮานอยในแต่ละเดือนมีราคาเริ่มต้นดังนี้
อย่างไรก็ตามราคาตั๋วเครื่องบินไปฮานอยมักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อให้คุณไม่พลาดตั๋วเครื่องบินราคาสุดพิเศษก่อนใคร แนะนำให้โหลดแอป Traveloka เพราะแอปนี้คือแหล่งรวบรวมตั๋วราคาโปร สามารถเปรียบเทียบตั๋วเครื่องบินทุกสายการบิน พร้อมช่วยให้คุณค้นหาตั๋วบินไปฮานอยราคาถูกที่สุด ดังนั้น เรื่องตั๋วเครื่องบินต้องยกให้เรา
ข้อมูลตั๋วเครื่องบินไปฮานอยจะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างมั่นใจ พร้อมออกเดินทางไปตามหาฝันที่ได้วางแผนไว้ ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินไปฮานอยมาไว้ให้คุณแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
การจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยมีข้อมูลมากมายที่ควรรู้ไว้ก่อนจองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งการมีเครื่องมือดี ๆ ช่วยค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น โดยคำถามที่พักพบบ่อยเมื่อต้องจองตั๋วฮานอยมีดังนี้
จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยบินลงที่สนามบินนานาชาติโหน่ยบ่าย (NoiBai International Airport) สนามบินหลักของกรุงฮานอยที่นิยมเรียกว่า “สนามบินฮานอย” ตั้งอยู่ในย่านผูมินห์ เขตซอคเซิน ห่างจากตัวเมืองฮานอยไปทางทิศเหนือประมาณ 35 กิโลเมตร
จากสนามบินสามารถเดินทางสู่ตัวเมืองได้หลายวิธี ได้แก่ รถโดยสารประจำทาง, รถบัสสนามบิน, รถแท็กซี่ และรถเช่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที เมื่อคุณเช็กอินที่โรงแรมแล้วก็เดินเที่ยวบริเวณรอบเมืองได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบคืนดาบ, โบสถ์เซนต์โจเซฟ หรือชมการแสดงหุ่นกระบอกน้ำที่ขึ้นชื่อของฮานอย
ฮานอย (Hanoi) เป็นเมืองหลวงที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของเวียดนาม โดยมีอายุครบ 1,000 ปี เมื่อปี 2010 สำหรับ “ฮานอย” ในภาษาเวียดนาม คำว่า ฮา แปลว่า แม่น้ำ ซึ่งหมายถึงแม่น้ำซงโห่ง หรือแม่น้ำแดงคำว่า นอย แปลว่า ข้างใน แปลรวมกันได้ความหมายว่า “เมืองบนฝั่งโค้งของแม่น้ำ” ซึ่งตรงกับภูมิศาสตร์ของฮานอยที่ตั้งอยู่บนลุ่มแม่น้ำแดงในภาคเหนือของประเทศ
สำหรับในช่วงต้นศตวรรษที่ 11ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ลี้ กษัตริย์หลีไทโตทรงสถาปนาเมืองโบราณริมแม่น้ำซงโห่งเป็นเมืองหลวง และพระราชทานนามใหม่ว่า “ทังลอง” หรือ ฮานอยในปัจจุบัน มีความหมายว่า “มังกรเหิน” ฮานอยเป็นที่บรรจบของแม่น้ำหลายสาย จึงได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน
ฮานอยดินแดนแห่งมังกรหลับใหล เป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดในเอเชียสมดังคำกล่าวขานว่า Little Paris และยังเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลสาบ (City of Lakes) เพราะมีทะเลสาบน้อยใหญ่มากถึง 12 แห่ง โดยมีทะเลสาบโห่เตย (Ho Tay) หรือทะเลสาบตะวันตก (West Lake) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฮานอย และมีทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม (Ho HoanKiem Lake) ณ บริเวณใจกลางเมืองที่ยังคงไว้ด้วยสถานที่ประวัติศาสตร์ และมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมีอาคารสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลที่งดงามโดดเด่นที่สุดในอินโดจีนให้เดินทางไปเยี่ยมชมได้ และด้วยความสวยงามของสถานที่ต่าง ๆ ที่กล่าวมา จึงเป็นเหมือนมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยจำนวนมากในแต่ละปีอีกด้วย
สำหรับคนไทยสามารถเดินทางเข้าเวียดนามได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และอาศัยอยู่ในเวียดนามได้นาน 30 วัน โดยการเข้าเมืองเวียดนามต้องเตรียมตั๋วเครื่องบินไปฮานอย, พาสปอร์ตที่ยังมีอายุอยู่ และใบรับรองการฉีดวัคซีน ซึ่งในปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว แต่ขอให้เตรียมไว้เผื่อเจ้าหน้าที่ขอดู
สำหรับสายการบินที่มีเที่ยวบินไปฮานอยแบบบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่สนามบินฮานอย มีหลายสายการบินด้วยกัน ทั้งจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยสามารถดูรายละเอียดได้ดังนี้
การเดินทางสู่ฮานอยด้วยการจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย สามารถเดินทางได้หลายสายการบินด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน Vietnam Airlines ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศเวียดนาม และเป็นสายการบินหลักของฮานอย นอกจากนี้ยังมีสายการบินอื่น ๆ ที่ให้บริการระหว่างประเทศและภายในประเทศ อาทิ Vietjet Air และ Jetstar Pacific Airlines โดยจะลงจอดที่สนามบินเพียงหนึ่งเดียวของฮานอย คือสนามบินนานาชาติโหน่ยบ่าย หลังจากนั้นก็สามารถเดินทางเข้าเมืองง่าย ๆ หลายวิธี เช่น
เวลาที่ฮานอย เวียดนามต่างจาก Greenwich Mean Time 7 ชั่วโมง (GMT +7.00) ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่ต่างจากประเทศไทยที่อยู่ในโซนเวลา Indochina Time (ICT) เขตเวลา Asia/Bangkok GMT +7.00 ชั่วโมงเหมือนกัน ทำให้จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย ใช้เวลาได้เหมือนอยู่เมืองไทย
จุดหมายของผู้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปฮานอยคือหวังจะได้สัมผัสกับอารยธรรมมากมายในสไตล์เดียนเบียนฟู พร้อมซึมซับกับวัฒนธรรมเวียดนาม และธรรมชาติอันงดงาม ซึ่งฮานอยมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมายให้สามารถเข้าไปเยี่ยมชมและดื่มด่ำกับบรรยากาศในแบบที่ตามหาได้เลย โดยที่เที่ยวฮานอยจะมีสถานที่สำคัญ ๆ รอให้คุณไปท่องเที่ยวมากมาย ดังนี้
สุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Mausoleum)
ตั้งอยู่บนถนนเดียนเบียนฟู บริเวณจัตุรัสบาสดิงห์ สถานที่อ่านคำประกาศอิสรภาพของประธานาธิบดีโฮจิมินห์ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 1945 อาคารสุสานมีชื่อในภาษาเวียดนามว่า "จู่ติกโอจิมินห์" สร้างด้วยหินอ่อน, หินแกรนิต และไม้มีค่าจากทั่วประเทศ กลางห้องใหญ่สีขาวมีแท่นหินตั้งโลงแก้ว บรรจุร่างอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ซึ่งอาบน้ำยาเป็นอย่างดี โดยภายในห้องจะทำการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ด้วยส่วนบริเวณใกล้เคียงกันนั้นยังมีสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโฮจิมินห์ให้เยี่ยมชมอีก เช่น ทำเนียบประธานาธิบดีบ้านโฮจิมินห์และพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ใครจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยต้องไม่พลาดมาเยี่ยมชมที่เหล่านี้เลย
ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม (Ho Hoan Kiem Lake)
ทะเลสาบใจกลางกรุงฮานอย มีตำนานเล่าว่า สมัยพระเจ้าเลไทโตได้นำดาบวิเศษไปคืนให้กับเต่าศักดิ์สิทธิ์กลางทะเลสาบ หลังจากใช้ดาบต่อสู้กับชาวจีนราชวงศ์จนได้รับชัยชนะ อันเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบ และเป็นที่มาของหอคอยโบราณทรงสี่เหลี่ยมกลางทะเลสาบทางด้านทิศใต้ที่เรียกว่า “ทาพรัว”หรือ“หอคอยเต่า”ส่วนใครที่มาแล้วอยากจะไปชมวิวสวย ๆ เราขอแนะนำจุดชมวิวทะเลสาบที่สวยที่สุดเลย คือ บริเวณเกาะหยกกลางทะเลสาบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดหง็อกเซินหรือวัดเนินหยก วัดเก่าประจำเมือง ที่มีสะพานเทฮุกสีแดง หรือสะพานแสงอาทิตย์ทอดยาวจากริมฝั่งไปยังเกาะกลางน้ำให้เดินชมความงามพร้อมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ด้วย ดังนั้น ถ้าจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยแล้วต้องอย่าลืมมาถ่ายรูปที่นี่เอาไว้เยอะ ๆ เลย เพราะสวยงามสมคำร่ำลือจริง ๆ
วิหารวรรณกรรมอันเหมียว (Van MieuTempleof Literature)
หอวรรณกรรมหรือวันเหมียวในภาษาเวียดนามหรือ “วัดจอหงวน” วัดเก่าแก่คู่เมืองฮานอย สร้างขึ้นเพื่อเป็นวิหารลัทธิขงจื๊อและเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนาม เป็นที่ศึกษาวิชาปรัชญาขงจื๊อ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเหล่าขุนนางในอดีตวิหารวรรณกรรมอันเหมียวได้ปิดตัวลงและถูกปล่อยทิ้งร้างว่างเปล่า ตั้งแต่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ต่อมาได้รับการบูรณะให้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรม ที่รวบรวมผลงานด้านศิลปะทุกแขนงนับตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถ้าใครซื้อตั๋วเครื่องบินไปฮานอยเพื่ออยากจะได้สัมผัสศิลปะโบราณแล้ว ก็ยังได้เรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์และการศึกษาของเวียดนามที่สำคัญที่สุดในฮานอยจากสถานที่เหล่านี้อีกด้วย
ย่านโอลด์ควอเตอร์ (Old Quarter)
ย่านเมืองเก่าของฮานอยที่มีอายุกว่า 600 ปี ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งราคาประหยัด คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เพื่อเที่ยวชมบรรยากาศเก่าแก่ที่ถนน 36 สาย ย่านหัตถกรรมและสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของกรุงฮานอย โดยถนนแต่ละสายจะเน้นสินค้าที่แตกต่างกันตามอาชีพดั้งเดิมทั้ง 36 อาชีพสำหรับไฮไลต์จะอยู่ที่คืนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เนื่องจากมีตลาดกลางคืนและสตรีทฟู้ดให้ลิ้มลองละลานตา นอกจากนี้ยังมีจุดห้ามพลาดคือทางรถไฟสายเก่า ที่รถไฟจะผ่านบ้านเรือนผู้คนอย่างใกล้ชิด อารมณ์ประมาณทางรถไฟสายแม่กลองของไทย
ฮาลองเบย์(Ha Long Bay )
จุดเด่นของฮาลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง ที่เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางด้านธรรมชาติ คือ รูปร่างอันแปลกตาของหมู่เกาะหินปูนมากมายกว่า 1,900 เกาะทางตอนเหนือของฮานอย ผู้คนที่มาทเี่ยวที่นี่มักทำกิจกรรมยอดนิยมในการเที่ยวชมความงามรอบ ๆ อ่าว นั่นคือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้า 2 ชั้น หรือ Queen Cable Car ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและอีกหนึ่งกิจกรรมห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เลยก็คือ การชมวิวฮาลองเบย์เหนือผืนน้ำชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศาบนชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ (Sun Wheel) หรือล่องเรือชมความงามของอ่าว พร้อมแวะชมถ้ำเทียนกุงหรือถ้ำสวรรค์ที่มีหินงอกหินย้อยที่งดงามสมเป็นถ้ำมรดกโลก หลายคนที่จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยก็เพื่อต้องการมาสัมผัสประสบการณ์ที่นี่นั่นเอง
เทศกาลเต็ด (Tet)
เทศกาลเต็ด หรือ “เต็ดเหวียนดาน” เทศกาลแห่งรุ่งอรุณของปี หรือเทศกาลปีใหม่ของชาวเวียดนาม ที่คนไทยรู้จักในชื่อ “ตรุษญวน” นั่นเอง ชาวเวียดนามจะเริ่มต้นเฉลิมฉลองกัน 1 สัปดาห์ก่อนถึงวันเทศกาล หรือในวันที่ 23 เดือน 12โดยในงานเทศกาลจะมีการเซ่นไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ ประดับตกแต่งหิ้งบูชาอย่างสวยงามด้วยไม้มงคล ทั้งดอกท้อและดอกมาย ส่วนบ้านเรือนก็จะประดับไฟสว่างไสวและจุดประทัดหรือดอกไม้ไฟ เพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่มาถึง นับเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลนี้ได้มากมายเลยทีเดียว
เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง (Mid-Autumn Festival)
เต๊ดจุงทู หรือเทศกาลใบไม้ร่วงของเวียดนาม จะคล้ายกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ของจีนซึ่งจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ชาวเวียดนามจะจัดประกวดขนมบันตรังทู หรือขนมเปี๊ยะโก๋ญวน ซึ่งมีรูปร่างกลม ๆ ผิวหน้ามีลวดลายสวยงาม ใส่ไส้ถั่วและผลไม้ รวมถึงมีขบวนแห่เชิดสิงโตและมังกรเพื่อแสดงความเคารพต่อพระจันทร์ ส่วนบ้านเรือนก็จะประดับประดาด้วยโคมไฟ พร้อมทั้งจัดงานขับร้องเพลงพื้นบ้าน ใครที่สนใจก็จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลได้ในช่วงเดือนกันยายนของทุกปีได้เลยเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ (Quest Festival)
เทศกาลดนตรีอันโด่งดังในหมู่คอเพลงอิเล็กทรอนิกส์ เทคโน และ เฮาส์มิวสิก ที่คับคั่งไปด้วยศิลปิน และเหล่าดีเจนานาชาติกว่า 150 คนท่ามกลางทิวทัศน์และธรรมชาติอันแสนงดงามบนภูเขา ณ เซินตินห์แคมป์ ในอุทยานแห่งชาติบาวี ห่างจากฮานอย 45 นาที นอกจากบูธขายอาหารและเครื่องดื่มแล้ว นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย ยังได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรม และเวิร์กช้อปมากมายในงานที่จัดต่อเนื่อง 3 วันในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปีสำหรับผู้จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยควรเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศฮานอย เพื่อวางแผนการเดินทางอย่างราบรื่น โดยฮานอยมีภูมิอากาศคล้ายเขตเมืองร้อน มีอุณหภูมิต่างกันอย่างมากระหว่างช่วงร้อนที่สุดและหนาวที่สุด มี 4 ฤดูกาล คือ
ฤดูใบไม้ผลิ
เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมอากาศเย็นสบายฝนตกประปรายฤดูร้อน
เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม อากาศจะร้อนอบอ้าวที่สุด แต่ก็มีฝนตกบ่อยที่สุดเช่นกันฤดูใบไม้ร่วง
เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เพราะอากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส ฝนตกน้อยฤดูหนาว
เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อากาศเย็นสบายที่สุดในรอบปี และเดือนมกราคมคือเดือนที่หนาวเย็นที่สุดฮานอยเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอย่างมาก คุณจึงควรมีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางในฮานอยเก็บไว้ ซึ่งเคล็ดลับสำคัญที่ผู้จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอยควรรู้มีดังนี้
แลกเปลี่ยนเงินได้ที่สนามบิน ธนาคาร โรงแรม และจุดรับแลกเงินทั่วไปซึ่งจะมีตัวอักษรสีทองว่า Hieu Kim Hoan หรือ HieuVang
เคล็ดลับในการคำนวณเงินไทย คือ เอาเลข 3 หลักข้างหน้า คูณด้วย 1.5 เช่น 100,000 ดอง จะประมาณ 150 บาท
เก็บกระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์มือถือไว้ในจุดที่ปลอดภัย และแยกเงินสดและพาสปอร์ตเก็บไว้ในกระเป๋าคาดอกหรือคาดเอว
ในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง ประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายน และในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย เพราะอากาศสบาย ๆ ไม่ร้อนจนหมดสนุก
ช่วงเทศกาลเต็ด หรือปีใหม่ของชาวเวียดนาม ในเดือนกุมภาพันธ์เมืองฮานอยจะเงียบสงบประมาณ 3 วัน เพราะชาวเมืองเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัว ดังนั้น ก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย อย่าลืมเช็กปฏิทินให้แน่ใจ
สุสานโฮจิมินห์เปิดทำการเพียงครึ่งวัน ตั้งแต่ 08.00-11.00 น. ในวันอังคาร-พฤหัสบดี และวันเสาร์-อาทิตย์ และปิดในเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายนเพื่อนำร่างประธานาธิบดีโฮจิมินห์ไปทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาที่รัสเซีย
มารยาทในการเข้าชมสุสานโฮจิมินท์ คือ แต่งกายสุภาพ ขาสั้นแขนกุดห้ามเด็ดขาด เมื่อเข้าสู่ภายในสุสานห้ามถ่ายรูปห้ามรับประทานอาหาร ห้ามเอามือล้วงกระเป๋า และต้องฝากกระเป๋าสิ่งของมีค่าไว้กับเจ้าหน้าที่
แท็กซี่ในฮานอยมักจะพาอ้อม หรือโกงมิเตอร์ ควรใช้บริการจากบริษัทที่เชื่อถือได้ หรือตกลงราคาให้เรียบร้อยก่อนใช้บริการ และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามิเตอร์ใช้ได้จริง และอย่าลงจากรถจนกว่าจะได้รับเงินทอนจนครบ
สอบถามราคาให้เรียบร้อยทุกครั้งก่อนใช้บริการ ซื้อสินค้าที่ติดป้ายราคาชัดเจน ถ้าเป็นไปได้ ควรเตรียมเงินให้พอดี และส่งธนบัตรให้ทีละใบ และตรวจสอบเงินทอนทุกครั้งเมื่อซื้อสินค้า
นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย ควรระมัดระวังเรื่องการถ่ายรูปชาวเวียดนาม เพราะอาจโดนเรียกเก็บค่าถ่ายรูปโดยไม่รู้ตัว