ตั๋วเครื่องบินไป Vienna (VIE)

ทราเวลโลก้าช่วยให้คุณค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกและโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไปยัง Vienna (VIE)

เส้นทาง

สายการบิน

ตารางบิน

ราคาเริ่มต้น

ซูริค (ZRH) → เวียนนา (VIE)
Air France
พุธ, 15 พ.ค. 2024
THB 1,850.29
นิวเดลี (DEL) → เวียนนา (VIE)
IndiGo
พฤหัสบดี, 16 พ.ค. 2024
THB 12,616.53
จาการ์ตา (CGK) → เวียนนา (VIE)
สายการบิน
จันทร์, 20 พ.ค. 2024
THB 26,456.87
สุราบายา (SUB) → เวียนนา (VIE)
สายการบิน
จันทร์, 06 พ.ค. 2024
THB 30,441.94
ลอสแอนเจลิส (LAX) → เวียนนา (VIE)
Air Canada
ศุกร์, 10 พ.ค. 2024
THB 40,093.06
ลอสแอนเจลิส (LAX) → เวียนนา (VIE)
สายการบิน
ศุกร์, 10 พ.ค. 2024
THB 40,093.06
ไมอามี (MIA) → เวียนนา (VIE)
สายการบิน
อังคาร, 14 พ.ค. 2024
THB 40,737.66
ไมอามี (MIA) → เวียนนา (VIE)
American Airlines
อังคาร, 14 พ.ค. 2024
THB 41,441.88
กรุงเทพ (BKK) → เวียนนา (VIE)
สายการบิน
เสาร์, 11 พ.ค. 2024
THB 125,562.15

ข้อมูลทั่วไปเวียนนา

เวียนนา (Vienna) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย (Austria) ถูกยกให้เป็น “ประตูแห่งยุโรปกลาง” เนื่องจากมีดินแดนที่ติดกับประเทศสำคัญฯ ของยุโรปหลายประเทศ ด้านเหนือติดสาธารณรัฐเช็ก เยอรมนี ด้านตะวันออกติด สโลวาเกีย ฮังการี ด้านทิศใต้และตะวันตกมีชายแดนติดกับอิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ เวียนนาเป็นศูนย์กลางทั้งทางเศรษฐกิจและการปกครองของประเทศ และด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลางของทวีปยุโรปพอดี นครแห่งนี้จึงมีความสำคัญในระดับนานาชาติ เป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติหลายแห่ง เช่น องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Industrial Development Organization)  องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (Organization of Petroleum Exporting Countries) หรือ โอเปก (OPEC)  และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานสหประชาชาติ (United Nations) แห่งที่สามของโลกอีกด้วย หากใครที่อยากลองไปเที่ยวยุโรปกลาง การจองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนาก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ

 

เวียนนา เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมืองหนึ่งของยุโรป ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ และคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังได้รับสมญานามว่าเป็น “นครแห่งเสียงดนตรี” เพราะเป็นบ้านเกิดของนักแต่งเพลงคลาสสิกชื่อดังจำนวนมาก ขึ้นชื่อในฐานะฮันนีมูนเดสทิเนชั่นของคู่รักจากทั่วโลก    เวียนนาอวลด้วยกลิ่นอายของความหรูหรา ความโรแมนติกของดนตรีคลาสสิก ศิลปะอันล้ำค่า และสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังอันวิจิตรอลังการ สวนสาธารณะที่สวยงามเงียบสงบ พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงระดับโลก หรือถนนสายช้อปปิ้งสุดหรูบนถนนสายเก่า และความเงียบสงบของเมือง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในการจองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนา เพื่อเยี่ยมชมเวียนนาสักครั้งในชีวิต 

 

สกุลเงินที่ใช้

ออสเตรียใช้เงินสกุล ยูโร (EUR) สำหรับธนบัตรมีชนิด 5, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500  ยูโร โดย 1 ยูโร แบ่งออกเป็น 100 เซนต์ สำหรับเหรียญมี 1, 2, 5, 10, 20, 50 เซ็นต์, 1 และ 2 ยูโร  อัตราเเลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 33.66 บาท ต่อ 1 ยูโร 

 

ฤดูกาลของกรุงเวียนนา

กรุงเวียนนาตั้งอยู่ในเขตอบอุ่น ภูมิอากาศแบบยุโรปตอนกลางที่ได้รับอิทธิพลจากภูมิอากาศแบบแอตแลนติก อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ระหว่าง 6.7 - 8.9 องศาเซลเซียส อากาศหนาวจัดระหว่างเดือนธันวาคมถึงมีนาคม เดือนมกราคมเป็นเดือนที่หนาวที่สุด 

และร้อนจัดระหว่างเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ส่วนช่วงที่เหมาะกับการจองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนา คือระหว่างเดือนเมษายนและพฤษภาคม และระหว่างเดือนกันยายนและตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศดี ไม่หนาวหรือร้อนมากจนเกินไป นักท่องเที่ยวไม่เยอะมากเท่าช่วงฤดูร้อน   

กรุงเวียนนามี 4 ฤดู ได้แก่ 

  • - ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม อากาศยังคงหนาวเย็น เป็นช่วงชมธรรมชาติ ชมดอกไม้บาน และสนุกสนานกับเทศกาลอีสเตอร์  
  • - ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน อากาศค่อนข้างเย็นจนถึงเย็นสบาย เป็นช่วงชมใบไม้เปลี่ยนสี อาจมีฝนตกโปรยปราย ควรเตรียมร่มพับติดกระเป๋าไปด้วย
  • - ฤดูร้อน เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม มีอากาศอบอุ่นจนถึงค่อนข้างร้อน เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่คึกคักที่สุด และมีงานเทศกาลมากมาย
  • - ฤดูหนาว เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อากาศหนาวจัด เวลาในช่วงกลางวันสั้น พระอาทิตย์ตกประมาณ 4 โมงเย็น ในเดือนธันวาคมและมกราคม สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งปิดเร็ว เป็นช่วงแห่งเทศกาลคริสต์มาและปีใหม่

 

ภูมิภาคของเวียนนา

กรุงเวียนนาแบ่งการปกครองออกเป็น 23 เขต

 

สนามบินสำคัญเวียนนา

ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา (Vienna International Airport) มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า สนามบินเวียนนา (Vienna Airport) เป็นสนามบินหลักของกรุงเวียนนา และเป็นประตูสู่ประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนา ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมืองอย่างสะดวกรวดเร็วที่สุดโดยรถไฟด่วนสายสนามบิน (CAT) ใช้เวลาเพียง 16 นาทีเท่านั้น และยังมีรถไฟ รถโดยสารประจำทาง และรถแท็กซี่ให้บริการ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที 

 

การเดินทางไปเวียนนา

 

การเดินทางในเวียนนา

  • - เครื่องบิน สายการบินแห่งชาติออสเตรียคือ ออสเตรียนแอร์ไลน์ (Austrian Airlines) โดยมีสนามบินเวียนนาเป็นสนามบินหลัก ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ 
  • - รถไฟด่วนสายสนามบิน (CAT - City Airport Train) ให้บริการรับส่งจากสนามบินถึงใจกลางเมืองโดยไม่จอดแวะ  ออกจากสนามบินรอบสุดท้ายประมาณ 23.39 น. และออกจากเมืองรอบแรกประมาณ 05.36 น. ค่าโดยสารไป-กลับ 19 ยูโร  
  • - รถไฟใต้ดิน (U-Bahn) การเดินทางที่สะดวกที่สุด ครอบคลุมเวียนนาทั้งหมด มีด้วยกัน 5 สาย ได้แก่ U1 - สายสีแดง, U2  - สายสีม่วง, U3 - สายสีส้ม, U4 - สายสีเขียว และ U6 - สายสีน้ำตาล
  • - รถไฟเร็ว (S-Bahn) ให้บริการจากสนามบินเวียนนา เชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นๆ และประเทศต่างๆ ในยุโรป และผ่านใจกลางกรุงเวียนนามีทั้งหมด 9 เส้นทาง รายชื่อเส้นทาง ได้แก่ สาย S1 (สายสีน้ำเงิน) สาย S2 - สายสีฟ้าน้ำทะเล   สาย S3 - สายสีแดง      สาย S7 - สายสีชมพู      สาย S40 – สายสีส้ม      สาย S45 – สายสีเขียวแก่ สาย S50 – สายสีฟ้า    สาย S60 – สายสีเขียวเข้ม และ สาย S80 – สายสีแสดอ่อน ในราคาเริ่มต้น 3.90 ยูโรต่อเที่ยว
  • - รถบัส (Bus) ให้บริการจากสนามบินไปยังเส้นทางต่างๆ ภายในประเทศ มี 3 เส้นทางหลัก ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 8 ยูโร ไป - กลับ 13 ยูโร
  • - รถราง (Tram) เป็นการเดินทางภายในกรุงเวียนนา ระยะทาง 172 กิโลเมตร จำนวน 1,031 สถานี ให้บริการทุกวัน ช่วงเวลาประมาณ 04.45 น. – 00.30 น. ของวันถัดไป 
  • - แท็กซี่ ทางเลือกการเดินทางแบบเป็นกลุ่มที่ต้องการความสะดวกและเป็นส่วนตัว มีบริการรับ-ส่งจากสนามบินไปยังตัวเมืองและพื้นที่ต่างๆ  ราคาตามมิเตอร์ หรือเรียกใช้บริการผ่านแอพฯ Taxify 
  • - รถจักรยาน กรุงเวียนนามีเส้นทางจักรยานให้ปั่นชมเมืองเส้นหลายเส้นทาง โดยสามารถหาเช่าจักรยานได้จาก Citybike  
  • - รถเช่า กรุงเวียนมีบริการรถเช่าจากหลายบริษัทรถเช่าชั้นนำ สามารถติดต่อได้ที่สนามบิน โรงแรมที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ

  

สถานที่เที่ยวสำคัญในเวียนนา

  1. 1. พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) พระราชวังฤดูร้อน แห่งราชวงศ์ฮับสเบิร์กแห่งออสเตรีย สร้างขึ้นในสมัยคริสศตวรรษที่ 13 – 20 โดยใช้พระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศสเป็นต้นแบบ โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ในปี 1996 ชื่อของพระราชวัง เชินบรุนน์ มีความหมายว่า น้ำพุอันสวยงาม ด้วยแต่เดิมมีการผุดขึ้นของน้ำบาดาลที่อยู่รายล้อมพระราชวังแห่งนี้ ในสมัยพระนางมาเรียเทเรซา พระมารดาของสมเด็จพระราชินีมารี อองตัวแน็ตแห่งประเทศฝรั่งเศส ทรงโปรดให้มีการก่อสร้างปรับปรุงพระราชวังแห่งนี้จากโครงสร้างบารอกดั้งเดิม ให้เป็นแบบรอกโคโคทั้งหมด มีความหรูหราอลังการ โดยเฉพาะตัวอาคารสีเหลืองที่ถูกเรียกขานว่า เป็นสีเหลืองเทเรซา ซึ่งเป็นสีที่พระนางมาเรียเทเรซาทรงโปรด ภายในมีห้องทั้งหมด 1,441 ห้อง แต่เปิดให้เข้าชมเพียง 40 ห้อง แต่ละห้องสะท้อนถึงเรื่องราวต่างๆ ของราชวงศ์ และขนบประเพณีออสเตรีย ในส่วนพระราชอุทยานด้านหลัง โดดเด่นด้วยอาคารที่มีชื่อว่า โกลเรียตต์ (Gloriette) ตั้งอยู่บนยอดเนินที่สามารถมองได้รอบทิศ ตัวอาคารประกอบด้วยซุ้มโค้ง 11 ซุ้ม รองรับด้วยเสาดอริกแบบกรีก  ยอดบนสุดของอาคารสร้างเป็นรูปนกอินทรีเหยียบลูกโลก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก และที่นี่ยังมีสวนสัตว์เชินบรุนน์ สวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเขาวงกตอันสวยงาม รวมถึงเรือนปลูกปาล์มที่ปลูกในร่มซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย แต่ถ้าไม่ชอบเดินก็สามารถเช่ารถม้าโบราณนั่งชมรอบวังได้แบบเพลินๆ
  2. 2. พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) พระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในอดีตเป็นศูนย์กลางการปกครองของพระราชวงศ์ฮอฟบวร์ก และเป็นที่ประทับของจักรพรรดิในราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ตั้งแต่พระองค์แรกจนถึงพระองค์สุดท้าย เป็นเวลายาวนานกว่า 600 ปี  ฤดูหนาวแห่งนี้ประกอบด้วยอาคารกว่า 18 ส่วน และห้องอันหรูอลังการของราชวงศ์ฮอฟบวร์กมากกว่า 2,000 ห้อง โดยมีจัตุรัสมิคาเอล  (Michaelerplatz) โดดเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านพระราชวัง ส่วนตรงกลางจตุรัสมีอนุสาวรีย์ทรงม้าของอาร์คยุคชาร์ล และเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย (Prince Eugene of Savoy) ผู้บัญชาการทหารแห่งจักรวรรดิออสเตรีย เมื่อสมัยทำสงครามกับสุลต่านออตโตมัน แห่งตุรกี ที่ยกทัพมาปิดล้อมกรุงเวียนนา เมื่อปี 1683 ปัจจุบันพระราชวังถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ 3 แห่ง ซึ่งแยกส่วนในการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ตลอดจนวัตถุโบราณอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เช่น เขายูนิคอร์น ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ชาทซ์คัมเมอร์ (Schatzkammer) คลังสมบัติเก็บเครื่องกกุธภัณฑ์ของราชวงศ์ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ซิซี่ (SiSi Meseum)  จัดแสดงเรื่องราวของจักรพรรดินีเอลิซาเบธในสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ ที่ 1  และยังมีการแสดงของโรงเรียนขี่ม้าที่น่าทึ่งให้ชมอีกด้วย นอกจากนี้บริเวณสวนด้านหลังพระราชวัง ยังมีรูปปั้นของศิลปินเอก โวล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) ซึ่งตกแต่งสวนดอกไม้เป็นรูปกุญแจซอล เป็นอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงผลงานของท่านที่ทำให้วงการดนตรีคลาสสิกเฟื่องฟูขึ้นมาในกรุงเวียนนา  
  3. 3. โรงละครโอเปราแห่งกรุงเวียนนา (Vienna State Opera) โรงละครโอเปราแห่งแรกของกรุงเวียนนา  มีชื่อท้องถิ่นว่า “วีเนอร์ สตาทโซเพอร์” หรือหลายคนที่มีใจรักด้านงานศิลปะการแสดงเรียกว่าเป็นเวทีแห่งความฝันเลยทีเดียว ตั้งอยู่ด้านนอกของจัตุรัสคาร์ลส์ บนถนนริงสตราสส์  ใจกลางกรุงเวียนนา ถือว่าเป็นหนึ่งในโรงอุปรากรที่มีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดในโลก ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบนีโอเรเนซองส์ และงานศิลป์หลากหลาย ทั้งรูปปั้น ภาพวาด ความวิจิตรอลังการสะดุดตา ตั้งแต่รอบนอกอาคารจรดภายในทุกซอกมุม จากการใส่ใจรายละเอียดทุกตารางนิ้ว วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งหลักคือหินอ่อน โรงอุปรากรแห่งนี้นับเป็นสถานที่ที่มีงานจัดแสดงที่มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนถึง 350 โชว์ ในหนึ่งฤดูกาลแสดง โดยสร้างสรรค์โอเปรา 50 – 60 เรื่องต่อปี รวมทั้งการแสดงอื่นๆ อย่าง บัลเลต์ คอนเทมโพรารีแดนซ์ หรือคอนเสิร์ตประเภทต่างๆ ที่แตกต่างกันไปทุกๆ วัน ในแต่ละสัปดาห์ จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่ก็คือ การเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสชมการแสดงดีๆ โดยได้จัดที่ยืนเอาไว้ให้เข้าชมฟรี โดยมีข้อแม้ว่าการแสดงรอบนั้นๆ จะต้องขายตั๋วที่นั่งหมดเกลี้ยงเสียก่อน และต้องไปยืนรอหน้าโรงโอเปราก่อนที่ม่านจะเปิด และมีการประกาศให้เข้าไปยืนชมได้จำนวน 567 คนเท่านั้น นอกจากนี้ในพื้นที่ของโรงอุปรากรยังมีส่วนเฉพาะของพิพิธภัณฑ์อยู่ด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนาได้รับรู้ประวัติความเป็นมาของโรงอุปรากรแห่งนี้ ตั้งแต่เริ่มแรกโดยละเอียด
  4. ถนนกราเบนและถนนโคห์ลมาร์ท (Graben and Kohlmarkt) ถนน 2 สาย ที่อยู่คู่เคียงกันนี้ เปรียบเป็นหัวใจของชาวกรุงเวียนนา เป็นถนนสายช้อปปิ้งอันโด่งดัง อยู่ไม่ไกลจากพระราชวัง พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) ในอดีตนั้น ถนนกราเบนมีความกว้างกว่าปัจจุบันนี้มาก ถูกสร้างขึ้นราวปี 1220 เมื่อครั้งที่ดยุคเลียวโปลด์ ที่ 6 (Duke Leopold VI) ได้ทำการขยายเมืองและคูเมือง ส่วนอาคารต่างๆ นั้นสร้างขึ้นราวช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดยได้ลดความกว้างของถนนลง และกลายเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงเวียนนา ปัจจุบันถนนทั้งสองสายนี้นอกจากจะเป็นแหล่งรวมร้านขายสินค้าแบรนด์เนม สินค้าแฟชั่นชั้นยอดให้จับจ่ายซื้อกันตามใจชอบ ยังมีร้านเครื่องดนตรี อัญมณี ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงแรม รวมทั้งร้านช็อกโกแล็ตชื่อดัง เรียงรายตลอดสองข้างทาง นอกจากอาคารร้านค้าที่มีความหรูหราด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมของอนุสาวรีย์และน้ำพุ แต่ที่เป็นไฮไลท์ คือ อนุสาวรีย์ Plague Column ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่ใช้ศิลปะแบบบาร็อก สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงชาวเวียนนาที่เสียชีวิตกว่าหนึ่งแสนคน คราวเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ที่เวียนนาในปี 1679 บนถนนทั้งสองสายนี้ยังมีการแสดงต่างๆ ตามรายทางให้ได้ชมเป็นระยะๆ  มีนักดนตรีเปิดหมวกให้ฟังเพลินๆ นอกจากนี้สองถนนช้อปปิ้งชื่อดังนี้ สามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญอื่นๆ ในกรุงเวียนนาได้อีกด้วย
  5. 5. หมู่บ้านกรินซิ่ง (Grinzing Village) หมู่บ้านพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ชื่อดังอันดับต้นๆ ของ อยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียนนา ประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านอยู่บนเชิงเขา แต่เดิมเคยเป็นเขตขุนนางที่เต็มไปด้วยคนรับใช้ชั้นแรงงานมากมาย ไฮไลท์อยู่ที่ร้านอาหารที่ขายไวน์เรียกว่า ออยริงค์เคอ (Heuringer) บรรยากาศแบบโรงเตี๊ยมตะวันตก ที่จัดให้มีบริเวณที่นั่งรับประทานอาหารเย็นในสวน บางร้านก็จะเป็นตึกไม้แบบโรงเตี๊ยมเก่าแก่ ภายในร้านตกแต่งด้วยอุปกรณ์ทำการเกษตร  ไม่ว่าจะเป็นไถ คราด มีด แถมมีเครื่องล่าสัตว์แบบโบราณแขวนไว้ที่ผนังตึกและเพดานให้เข้ากับบรรยากาศอีกด้วย  แต่ละร้านจะเสิร์ฟไวน์ที่ผลิตเองที่เรียกว่า Young Wine ไวน์ขาวที่นำผลองุ่นมาบ่มตั้งแต่อายุยังไม่มาก ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของที่นี่  เสิร์ฟพร้อมอาหารค่ำแบบพื้นเมืองที่มีขาหมูเวียนนาเป็นเมนูเด่น เคล้าเสียงเพลงที่บรรเลงด้วยหีบเพลงและดนตรีเครื่องสี ที่เรียกว่า ซรามเบลมูซิค ร้านยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนา มักแวะมาตามรอยนักประพันธ์เพลงผู้ยิ่งใหญ่ ชื่อร้าน Mayor AM Pfarrplatz ซึ่ง ลุดวิก แวน บีโธเฟน (Ludwig Van Beethoven) เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ว่ากันว่า เขาแต่งเพลงซิมโฟนีหมายเลข 9 (Symphony No.9) หรือที่มีชื่อเรียกเฉพาะว่า คอรัลซิมโฟนี (Choral Symphony) ซึ่งเป็นบทเพลงซิมโฟนีบทสุดท้ายของเขา ณ ร้านแห่งนี้ 

 

เทศกาลสำคัญเวียนนา

  1. 1. เทศกาลงานเต้นรำแห่งกรุงเวียนนา (Viennese Ball Season) เป็นงานประเพณีสำคัญของกรุงเวียนนาและประเทศออสเตรียที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของงานเทศกาลคาร์นิวัลประจำกรุงเวียนนา และอยู่ในรายชื่อวัฒนธรรมที่สำคัญของยูเนสโก้  งานเลี้ยงเต้นรำนี้จะเริ่มตั้งแต่ช่วงคริสต์มาส ปีใหม่ ยาวไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งเป็นฤดูกาลของการจัดงานเต้นรำในกรุงเวียนนา ถึง 450 งานทีเดียว เป็นงานพบปะสังสรรค์กันของชนชั้นสูง มีการรับประทานอาหารร่วมกันและเต้นรำกัน โดยการเต้นรำจะเน้นลีลาศจังหวะคลาสสิกอย่างวอลซ์เป็นหลัก จัดขึ้นที่โรงละครและโรงแรมทั่วเมือง โดยงานใหญ่ที่สุดจัดขึ้นที่โรงละครแห่งชาติกรุงเวียนนา (Vienna State Opera) ที่จุได้มากถึง 2,200 คน ราคาค่าเข้างานมีตั้งแต่ 290 - 20,500 ยูโร โดยงานเลี้ยงจะจัดกันข้ามคืนจากเวลา 3 ทุ่มไปจนถึง 6 โมงเช้า ของวันรุ่งขึ้นเลยทีเดียว
  2. 2. งานเทศกาลเบียร์ออสเตรีย (Wiener Wiesn-Fest) เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองที่มีบรรยากาศไม่ต่างจากเทศกาลเบียร์ออกโทเบอร์เฟส (Oktoberfest) อันโด่งดังของเยอรมนี งานเทศกาลนี้เป็นการรวมตัวผู้ผลิตเบียร์ และไวน์ของออสเตรีย มารวมตัวกันจัดงาน ณ บริเวณหน้าชิงช้าสวรรค์ยักษ์พราเตอร์ (Wiener Riesenrad) แลนด์มาร์กสำคัญชองสวนสนุกพราเตอร์ (Wurstel Prater) ซึ่งเป็นสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกของกรุงเวียนนา ภายในงานมีเบียร์และอาหารท้องถิ่นอย่าง วีเนอร์ชนิทเซิล (Wiener Schnitzel) เมนูประจำชาติออสเตรีย ให้เลือกชิมเลือกดริงก์มากมาย อีกทั้งยังมีการแสดงดนตรีสด การร้องเล่นเต้นรำในชุดพื้นเมืองท้องถิ่นด้วย จองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนา เพื่อร่วมเทศกาลแห่งความสุขนี้ได้ในระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม โดยจัดต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลา 15 วัน 
  3. 3. เทศกาลคริสต์มาส (Christmas Event) นับเป็นงานเฉลิมฉลองคริสต์มาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และมีการจัดงานอย่างเก่าแก่ยาวนานตั้งแต่ปี 1772 โดยกรุงเวียนนาจะมีการจัดเทศกาลคริสต์มาสตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงวันคริสต์มาส สถานที่ท่องเที่ยวและจัตุรัสต่างๆ เต็มไปด้วยกลิ่นอายเทศกาลแห่งความสุข ไฮไลท์อยู่ที่ตลาดนัดคริสต์มาส ซึ่งมีเกือบ 20 แห่ง กระจายอยู่ทั่วเมือง อาทิ จัตุรัสกลางเมือง (Marktplaztz) พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) พระราชวังเบลเวอเดียร์ (Belvedere Palace) พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) โรงละครแห่งชาติกรุงเวียนนา (Vienna State Opera) ตลาดเก่ากรุงเวียนนา นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนาจะได้ตื่นตาตื่นใจกับของประดับคริสต์มาสเก๋ๆ ร้านของเล่นน่ารักๆ ของฝากยอดนิยมประจำท้องถิ่น และยังมีอาหารประจำฤดูกาลจำหน่ายมากมาย  

 

เคล็ดลับการเดินทางไปเวียนนา

  • - เวลาของออสเตรียช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง ในฤดูร้อน และช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง ในฤดูหนาว
  • - เวียนนาการ์ด (Vienna Card) เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองเวียนนา ภายใน 72 ชั่วโมง ใช้ได้ทั้งรถใต้ดิน รถราง รถบัส แต่ไม่รวมรถไฟ และใช้เป็นส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์บางแห่งได้ด้วย  
  • - อาหารประจำชาติออสเตรียคือ วีเนอร์ชนิทเซิล (Wiener Schnitzel) หมูทุบชุบแป้งขนมปังทอด ทานคู่กับสลัด มันฝรั่ง   ใครไม่ได้กินถือว่าไปไม่ถึงออสเตรีย
  • - แอพฯ Qando จะช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย ใช้ตรวจเช็คตำแหน่งและเวลาของรถบัสและรถไฟฟ้าที่เดินรถโดยบริษัท Wiener Linien ได้ และดูสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย  
  • - ค้นหาจุดให้บริการ Free Wi-Fi ตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วเมืองเวียนนาได้ที แ

  • - กิจกรรมห้ามพลาด คือ นั่งรถรางและรถม้าชมเมืองรอบถนนวงแหวน (Ringstrasse) ซึ่งเป็นถนนที่วิ่งรอบๆ เมืองเก่า สองข้างทางมีอาคารสถาปัตยกรรมงดงามให้ชมมากมาย
  • - อย่าลืมชิม อาหารประจำชาติ ชนิทเซล (Schnitzel) เนื้อสัตว์ชุบแป้งทอด กินกับสลัดผัก และ  แอปเปิ้ลสตรูเดิ้ล (Apple Strudel)s ขนมหวานดั้งเดิมที่มีส่วนผสมของแอปเปิ้ลห่อด้วยแป้งพายอบกรอบ 
  • - ชมวิวเมืองเวียนนาแบบ 360 องศา ได้ที่หอคอยชมวิวของมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen Cathedral) ณ จัตุรัสสเตฟาน (Stephansplatz)

เวียนนา (Vienna) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย (Austria) ถูกยกให้เป็น “ประตูแห่งยุโรปกลาง” เนื่องจากมีดินแดนที่ติดกับประเทศสำคัญฯ ของยุโรปหลายประเทศ ด้านเหนือติดสาธารณรัฐเช็ก เยอรมนี ด้านตะวันออกติด สโลวาเกีย ฮังการี ด้านทิศใต้และตะวันตกมีชายแดนติดกับอิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ เวียนนาเป็นศูนย์กลางทั้งทางเศรษฐกิจและการปกครองของประเทศ และด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลางของทวีปยุโรปพอดี นครแห่งนี้จึงมีความสำคัญในระดับนานาชาติ เป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติหลายแห่ง เช่น องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Industrial Development Organization)  องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (Organization of Petroleum Exporting Countries) หรือ โอเปก (OPEC)  และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานสหประชาชาติ (United Nations) แห่งที่สามของโลกอีกด้วย หากใครที่อยากลองไปเที่ยวยุโรปกลาง การจองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนาก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ

 

เวียนนา เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมืองหนึ่งของยุโรป ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ และคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังได้รับสมญานามว่าเป็น “นครแห่งเสียงดนตรี” เพราะเป็นบ้านเกิดของนักแต่งเพลงคลาสสิกชื่อดังจำนวนมาก ขึ้นชื่อในฐานะฮันนีมูนเดสทิเนชั่นของคู่รักจากทั่วโลก    เวียนนาอวลด้วยกลิ่นอายของความหรูหรา ความโรแมนติกของดนตรีคลาสสิก ศิลปะอันล้ำค่า และสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังอันวิจิตรอลังการ สวนสาธารณะที่สวยงามเงียบสงบ พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงระดับโลก หรือถนนสายช้อปปิ้งสุดหรูบนถนนสายเก่า และความเงียบสงบของเมือง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในการจองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนา เพื่อเยี่ยมชมเวียนนาสักครั้งในชีวิต 

 

สกุลเงินที่ใช้

ออสเตรียใช้เงินสกุล ยูโร (EUR) สำหรับธนบัตรมีชนิด 5, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500  ยูโร โดย 1 ยูโร แบ่งออกเป็น 100 เซนต์ สำหรับเหรียญมี 1, 2, 5, 10, 20, 50 เซ็นต์, 1 และ 2 ยูโร  อัตราเเลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 33.66 บาท ต่อ 1 ยูโร 

 

ฤดูกาลของกรุงเวียนนา

กรุงเวียนนาตั้งอยู่ในเขตอบอุ่น ภูมิอากาศแบบยุโรปตอนกลางที่ได้รับอิทธิพลจากภูมิอากาศแบบแอตแลนติก อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ระหว่าง 6.7 - 8.9 องศาเซลเซียส อากาศหนาวจัดระหว่างเดือนธันวาคมถึงมีนาคม เดือนมกราคมเป็นเดือนที่หนาวที่สุด 

และร้อนจัดระหว่างเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ส่วนช่วงที่เหมาะกับการจองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนา คือระหว่างเดือนเมษายนและพฤษภาคม และระหว่างเดือนกันยายนและตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศดี ไม่หนาวหรือร้อนมากจนเกินไป นักท่องเที่ยวไม่เยอะมากเท่าช่วงฤดูร้อน   

กรุงเวียนนามี 4 ฤดู ได้แก่ 

  • - ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม อากาศยังคงหนาวเย็น เป็นช่วงชมธรรมชาติ ชมดอกไม้บาน และสนุกสนานกับเทศกาลอีสเตอร์  
  • - ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน อากาศค่อนข้างเย็นจนถึงเย็นสบาย เป็นช่วงชมใบไม้เปลี่ยนสี อาจมีฝนตกโปรยปราย ควรเตรียมร่มพับติดกระเป๋าไปด้วย
  • - ฤดูร้อน เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม มีอากาศอบอุ่นจนถึงค่อนข้างร้อน เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่คึกคักที่สุด และมีงานเทศกาลมากมาย
  • - ฤดูหนาว เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อากาศหนาวจัด เวลาในช่วงกลางวันสั้น พระอาทิตย์ตกประมาณ 4 โมงเย็น ในเดือนธันวาคมและมกราคม สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งปิดเร็ว เป็นช่วงแห่งเทศกาลคริสต์มาและปีใหม่

 

ภูมิภาคของเวียนนา

กรุงเวียนนาแบ่งการปกครองออกเป็น 23 เขต

 

สนามบินสำคัญเวียนนา

ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา (Vienna International Airport) มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า สนามบินเวียนนา (Vienna Airport) เป็นสนามบินหลักของกรุงเวียนนา และเป็นประตูสู่ประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนา ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมืองอย่างสะดวกรวดเร็วที่สุดโดยรถไฟด่วนสายสนามบิน (CAT) ใช้เวลาเพียง 16 นาทีเท่านั้น และยังมีรถไฟ รถโดยสารประจำทาง และรถแท็กซี่ให้บริการ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที 

 

การเดินทางไปเวียนนา

 

การเดินทางในเวียนนา

  • - เครื่องบิน สายการบินแห่งชาติออสเตรียคือ ออสเตรียนแอร์ไลน์ (Austrian Airlines) โดยมีสนามบินเวียนนาเป็นสนามบินหลัก ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ 
  • - รถไฟด่วนสายสนามบิน (CAT - City Airport Train) ให้บริการรับส่งจากสนามบินถึงใจกลางเมืองโดยไม่จอดแวะ  ออกจากสนามบินรอบสุดท้ายประมาณ 23.39 น. และออกจากเมืองรอบแรกประมาณ 05.36 น. ค่าโดยสารไป-กลับ 19 ยูโร  
  • - รถไฟใต้ดิน (U-Bahn) การเดินทางที่สะดวกที่สุด ครอบคลุมเวียนนาทั้งหมด มีด้วยกัน 5 สาย ได้แก่ U1 - สายสีแดง, U2  - สายสีม่วง, U3 - สายสีส้ม, U4 - สายสีเขียว และ U6 - สายสีน้ำตาล
  • - รถไฟเร็ว (S-Bahn) ให้บริการจากสนามบินเวียนนา เชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นๆ และประเทศต่างๆ ในยุโรป และผ่านใจกลางกรุงเวียนนามีทั้งหมด 9 เส้นทาง รายชื่อเส้นทาง ได้แก่ สาย S1 (สายสีน้ำเงิน) สาย S2 - สายสีฟ้าน้ำทะเล   สาย S3 - สายสีแดง      สาย S7 - สายสีชมพู      สาย S40 – สายสีส้ม      สาย S45 – สายสีเขียวแก่ สาย S50 – สายสีฟ้า    สาย S60 – สายสีเขียวเข้ม และ สาย S80 – สายสีแสดอ่อน ในราคาเริ่มต้น 3.90 ยูโรต่อเที่ยว
  • - รถบัส (Bus) ให้บริการจากสนามบินไปยังเส้นทางต่างๆ ภายในประเทศ มี 3 เส้นทางหลัก ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 8 ยูโร ไป - กลับ 13 ยูโร
  • - รถราง (Tram) เป็นการเดินทางภายในกรุงเวียนนา ระยะทาง 172 กิโลเมตร จำนวน 1,031 สถานี ให้บริการทุกวัน ช่วงเวลาประมาณ 04.45 น. – 00.30 น. ของวันถัดไป 
  • - แท็กซี่ ทางเลือกการเดินทางแบบเป็นกลุ่มที่ต้องการความสะดวกและเป็นส่วนตัว มีบริการรับ-ส่งจากสนามบินไปยังตัวเมืองและพื้นที่ต่างๆ  ราคาตามมิเตอร์ หรือเรียกใช้บริการผ่านแอพฯ Taxify 
  • - รถจักรยาน กรุงเวียนนามีเส้นทางจักรยานให้ปั่นชมเมืองเส้นหลายเส้นทาง โดยสามารถหาเช่าจักรยานได้จาก Citybike  
  • - รถเช่า กรุงเวียนมีบริการรถเช่าจากหลายบริษัทรถเช่าชั้นนำ สามารถติดต่อได้ที่สนามบิน โรงแรมที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ

  

สถานที่เที่ยวสำคัญในเวียนนา

  1. 1. พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) พระราชวังฤดูร้อน แห่งราชวงศ์ฮับสเบิร์กแห่งออสเตรีย สร้างขึ้นในสมัยคริสศตวรรษที่ 13 – 20 โดยใช้พระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศสเป็นต้นแบบ โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ในปี 1996 ชื่อของพระราชวัง เชินบรุนน์ มีความหมายว่า น้ำพุอันสวยงาม ด้วยแต่เดิมมีการผุดขึ้นของน้ำบาดาลที่อยู่รายล้อมพระราชวังแห่งนี้ ในสมัยพระนางมาเรียเทเรซา พระมารดาของสมเด็จพระราชินีมารี อองตัวแน็ตแห่งประเทศฝรั่งเศส ทรงโปรดให้มีการก่อสร้างปรับปรุงพระราชวังแห่งนี้จากโครงสร้างบารอกดั้งเดิม ให้เป็นแบบรอกโคโคทั้งหมด มีความหรูหราอลังการ โดยเฉพาะตัวอาคารสีเหลืองที่ถูกเรียกขานว่า เป็นสีเหลืองเทเรซา ซึ่งเป็นสีที่พระนางมาเรียเทเรซาทรงโปรด ภายในมีห้องทั้งหมด 1,441 ห้อง แต่เปิดให้เข้าชมเพียง 40 ห้อง แต่ละห้องสะท้อนถึงเรื่องราวต่างๆ ของราชวงศ์ และขนบประเพณีออสเตรีย ในส่วนพระราชอุทยานด้านหลัง โดดเด่นด้วยอาคารที่มีชื่อว่า โกลเรียตต์ (Gloriette) ตั้งอยู่บนยอดเนินที่สามารถมองได้รอบทิศ ตัวอาคารประกอบด้วยซุ้มโค้ง 11 ซุ้ม รองรับด้วยเสาดอริกแบบกรีก  ยอดบนสุดของอาคารสร้างเป็นรูปนกอินทรีเหยียบลูกโลก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก และที่นี่ยังมีสวนสัตว์เชินบรุนน์ สวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเขาวงกตอันสวยงาม รวมถึงเรือนปลูกปาล์มที่ปลูกในร่มซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย แต่ถ้าไม่ชอบเดินก็สามารถเช่ารถม้าโบราณนั่งชมรอบวังได้แบบเพลินๆ
  2. 2. พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) พระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในอดีตเป็นศูนย์กลางการปกครองของพระราชวงศ์ฮอฟบวร์ก และเป็นที่ประทับของจักรพรรดิในราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ตั้งแต่พระองค์แรกจนถึงพระองค์สุดท้าย เป็นเวลายาวนานกว่า 600 ปี  ฤดูหนาวแห่งนี้ประกอบด้วยอาคารกว่า 18 ส่วน และห้องอันหรูอลังการของราชวงศ์ฮอฟบวร์กมากกว่า 2,000 ห้อง โดยมีจัตุรัสมิคาเอล  (Michaelerplatz) โดดเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านพระราชวัง ส่วนตรงกลางจตุรัสมีอนุสาวรีย์ทรงม้าของอาร์คยุคชาร์ล และเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย (Prince Eugene of Savoy) ผู้บัญชาการทหารแห่งจักรวรรดิออสเตรีย เมื่อสมัยทำสงครามกับสุลต่านออตโตมัน แห่งตุรกี ที่ยกทัพมาปิดล้อมกรุงเวียนนา เมื่อปี 1683 ปัจจุบันพระราชวังถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ 3 แห่ง ซึ่งแยกส่วนในการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ตลอดจนวัตถุโบราณอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เช่น เขายูนิคอร์น ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ชาทซ์คัมเมอร์ (Schatzkammer) คลังสมบัติเก็บเครื่องกกุธภัณฑ์ของราชวงศ์ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ซิซี่ (SiSi Meseum)  จัดแสดงเรื่องราวของจักรพรรดินีเอลิซาเบธในสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ ที่ 1  และยังมีการแสดงของโรงเรียนขี่ม้าที่น่าทึ่งให้ชมอีกด้วย นอกจากนี้บริเวณสวนด้านหลังพระราชวัง ยังมีรูปปั้นของศิลปินเอก โวล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) ซึ่งตกแต่งสวนดอกไม้เป็นรูปกุญแจซอล เป็นอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงผลงานของท่านที่ทำให้วงการดนตรีคลาสสิกเฟื่องฟูขึ้นมาในกรุงเวียนนา  
  3. 3. โรงละครโอเปราแห่งกรุงเวียนนา (Vienna State Opera) โรงละครโอเปราแห่งแรกของกรุงเวียนนา  มีชื่อท้องถิ่นว่า “วีเนอร์ สตาทโซเพอร์” หรือหลายคนที่มีใจรักด้านงานศิลปะการแสดงเรียกว่าเป็นเวทีแห่งความฝันเลยทีเดียว ตั้งอยู่ด้านนอกของจัตุรัสคาร์ลส์ บนถนนริงสตราสส์  ใจกลางกรุงเวียนนา ถือว่าเป็นหนึ่งในโรงอุปรากรที่มีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดในโลก ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบนีโอเรเนซองส์ และงานศิลป์หลากหลาย ทั้งรูปปั้น ภาพวาด ความวิจิตรอลังการสะดุดตา ตั้งแต่รอบนอกอาคารจรดภายในทุกซอกมุม จากการใส่ใจรายละเอียดทุกตารางนิ้ว วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งหลักคือหินอ่อน โรงอุปรากรแห่งนี้นับเป็นสถานที่ที่มีงานจัดแสดงที่มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนถึง 350 โชว์ ในหนึ่งฤดูกาลแสดง โดยสร้างสรรค์โอเปรา 50 – 60 เรื่องต่อปี รวมทั้งการแสดงอื่นๆ อย่าง บัลเลต์ คอนเทมโพรารีแดนซ์ หรือคอนเสิร์ตประเภทต่างๆ ที่แตกต่างกันไปทุกๆ วัน ในแต่ละสัปดาห์ จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่ก็คือ การเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสชมการแสดงดีๆ โดยได้จัดที่ยืนเอาไว้ให้เข้าชมฟรี โดยมีข้อแม้ว่าการแสดงรอบนั้นๆ จะต้องขายตั๋วที่นั่งหมดเกลี้ยงเสียก่อน และต้องไปยืนรอหน้าโรงโอเปราก่อนที่ม่านจะเปิด และมีการประกาศให้เข้าไปยืนชมได้จำนวน 567 คนเท่านั้น นอกจากนี้ในพื้นที่ของโรงอุปรากรยังมีส่วนเฉพาะของพิพิธภัณฑ์อยู่ด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนาได้รับรู้ประวัติความเป็นมาของโรงอุปรากรแห่งนี้ ตั้งแต่เริ่มแรกโดยละเอียด
  4. ถนนกราเบนและถนนโคห์ลมาร์ท (Graben and Kohlmarkt) ถนน 2 สาย ที่อยู่คู่เคียงกันนี้ เปรียบเป็นหัวใจของชาวกรุงเวียนนา เป็นถนนสายช้อปปิ้งอันโด่งดัง อยู่ไม่ไกลจากพระราชวัง พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) ในอดีตนั้น ถนนกราเบนมีความกว้างกว่าปัจจุบันนี้มาก ถูกสร้างขึ้นราวปี 1220 เมื่อครั้งที่ดยุคเลียวโปลด์ ที่ 6 (Duke Leopold VI) ได้ทำการขยายเมืองและคูเมือง ส่วนอาคารต่างๆ นั้นสร้างขึ้นราวช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดยได้ลดความกว้างของถนนลง และกลายเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงเวียนนา ปัจจุบันถนนทั้งสองสายนี้นอกจากจะเป็นแหล่งรวมร้านขายสินค้าแบรนด์เนม สินค้าแฟชั่นชั้นยอดให้จับจ่ายซื้อกันตามใจชอบ ยังมีร้านเครื่องดนตรี อัญมณี ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงแรม รวมทั้งร้านช็อกโกแล็ตชื่อดัง เรียงรายตลอดสองข้างทาง นอกจากอาคารร้านค้าที่มีความหรูหราด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมของอนุสาวรีย์และน้ำพุ แต่ที่เป็นไฮไลท์ คือ อนุสาวรีย์ Plague Column ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่ใช้ศิลปะแบบบาร็อก สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงชาวเวียนนาที่เสียชีวิตกว่าหนึ่งแสนคน คราวเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ที่เวียนนาในปี 1679 บนถนนทั้งสองสายนี้ยังมีการแสดงต่างๆ ตามรายทางให้ได้ชมเป็นระยะๆ  มีนักดนตรีเปิดหมวกให้ฟังเพลินๆ นอกจากนี้สองถนนช้อปปิ้งชื่อดังนี้ สามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญอื่นๆ ในกรุงเวียนนาได้อีกด้วย
  5. 5. หมู่บ้านกรินซิ่ง (Grinzing Village) หมู่บ้านพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ชื่อดังอันดับต้นๆ ของ อยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียนนา ประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านอยู่บนเชิงเขา แต่เดิมเคยเป็นเขตขุนนางที่เต็มไปด้วยคนรับใช้ชั้นแรงงานมากมาย ไฮไลท์อยู่ที่ร้านอาหารที่ขายไวน์เรียกว่า ออยริงค์เคอ (Heuringer) บรรยากาศแบบโรงเตี๊ยมตะวันตก ที่จัดให้มีบริเวณที่นั่งรับประทานอาหารเย็นในสวน บางร้านก็จะเป็นตึกไม้แบบโรงเตี๊ยมเก่าแก่ ภายในร้านตกแต่งด้วยอุปกรณ์ทำการเกษตร  ไม่ว่าจะเป็นไถ คราด มีด แถมมีเครื่องล่าสัตว์แบบโบราณแขวนไว้ที่ผนังตึกและเพดานให้เข้ากับบรรยากาศอีกด้วย  แต่ละร้านจะเสิร์ฟไวน์ที่ผลิตเองที่เรียกว่า Young Wine ไวน์ขาวที่นำผลองุ่นมาบ่มตั้งแต่อายุยังไม่มาก ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของที่นี่  เสิร์ฟพร้อมอาหารค่ำแบบพื้นเมืองที่มีขาหมูเวียนนาเป็นเมนูเด่น เคล้าเสียงเพลงที่บรรเลงด้วยหีบเพลงและดนตรีเครื่องสี ที่เรียกว่า ซรามเบลมูซิค ร้านยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนา มักแวะมาตามรอยนักประพันธ์เพลงผู้ยิ่งใหญ่ ชื่อร้าน Mayor AM Pfarrplatz ซึ่ง ลุดวิก แวน บีโธเฟน (Ludwig Van Beethoven) เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ว่ากันว่า เขาแต่งเพลงซิมโฟนีหมายเลข 9 (Symphony No.9) หรือที่มีชื่อเรียกเฉพาะว่า คอรัลซิมโฟนี (Choral Symphony) ซึ่งเป็นบทเพลงซิมโฟนีบทสุดท้ายของเขา ณ ร้านแห่งนี้ 

 

เทศกาลสำคัญเวียนนา

  1. 1. เทศกาลงานเต้นรำแห่งกรุงเวียนนา (Viennese Ball Season) เป็นงานประเพณีสำคัญของกรุงเวียนนาและประเทศออสเตรียที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของงานเทศกาลคาร์นิวัลประจำกรุงเวียนนา และอยู่ในรายชื่อวัฒนธรรมที่สำคัญของยูเนสโก้  งานเลี้ยงเต้นรำนี้จะเริ่มตั้งแต่ช่วงคริสต์มาส ปีใหม่ ยาวไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งเป็นฤดูกาลของการจัดงานเต้นรำในกรุงเวียนนา ถึง 450 งานทีเดียว เป็นงานพบปะสังสรรค์กันของชนชั้นสูง มีการรับประทานอาหารร่วมกันและเต้นรำกัน โดยการเต้นรำจะเน้นลีลาศจังหวะคลาสสิกอย่างวอลซ์เป็นหลัก จัดขึ้นที่โรงละครและโรงแรมทั่วเมือง โดยงานใหญ่ที่สุดจัดขึ้นที่โรงละครแห่งชาติกรุงเวียนนา (Vienna State Opera) ที่จุได้มากถึง 2,200 คน ราคาค่าเข้างานมีตั้งแต่ 290 - 20,500 ยูโร โดยงานเลี้ยงจะจัดกันข้ามคืนจากเวลา 3 ทุ่มไปจนถึง 6 โมงเช้า ของวันรุ่งขึ้นเลยทีเดียว
  2. 2. งานเทศกาลเบียร์ออสเตรีย (Wiener Wiesn-Fest) เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองที่มีบรรยากาศไม่ต่างจากเทศกาลเบียร์ออกโทเบอร์เฟส (Oktoberfest) อันโด่งดังของเยอรมนี งานเทศกาลนี้เป็นการรวมตัวผู้ผลิตเบียร์ และไวน์ของออสเตรีย มารวมตัวกันจัดงาน ณ บริเวณหน้าชิงช้าสวรรค์ยักษ์พราเตอร์ (Wiener Riesenrad) แลนด์มาร์กสำคัญชองสวนสนุกพราเตอร์ (Wurstel Prater) ซึ่งเป็นสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกของกรุงเวียนนา ภายในงานมีเบียร์และอาหารท้องถิ่นอย่าง วีเนอร์ชนิทเซิล (Wiener Schnitzel) เมนูประจำชาติออสเตรีย ให้เลือกชิมเลือกดริงก์มากมาย อีกทั้งยังมีการแสดงดนตรีสด การร้องเล่นเต้นรำในชุดพื้นเมืองท้องถิ่นด้วย จองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนา เพื่อร่วมเทศกาลแห่งความสุขนี้ได้ในระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม โดยจัดต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลา 15 วัน 
  3. 3. เทศกาลคริสต์มาส (Christmas Event) นับเป็นงานเฉลิมฉลองคริสต์มาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และมีการจัดงานอย่างเก่าแก่ยาวนานตั้งแต่ปี 1772 โดยกรุงเวียนนาจะมีการจัดเทศกาลคริสต์มาสตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงวันคริสต์มาส สถานที่ท่องเที่ยวและจัตุรัสต่างๆ เต็มไปด้วยกลิ่นอายเทศกาลแห่งความสุข ไฮไลท์อยู่ที่ตลาดนัดคริสต์มาส ซึ่งมีเกือบ 20 แห่ง กระจายอยู่ทั่วเมือง อาทิ จัตุรัสกลางเมือง (Marktplaztz) พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) พระราชวังเบลเวอเดียร์ (Belvedere Palace) พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) โรงละครแห่งชาติกรุงเวียนนา (Vienna State Opera) ตลาดเก่ากรุงเวียนนา นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปเวียนนาจะได้ตื่นตาตื่นใจกับของประดับคริสต์มาสเก๋ๆ ร้านของเล่นน่ารักๆ ของฝากยอดนิยมประจำท้องถิ่น และยังมีอาหารประจำฤดูกาลจำหน่ายมากมาย  

 

เคล็ดลับการเดินทางไปเวียนนา

  • - เวลาของออสเตรียช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง ในฤดูร้อน และช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง ในฤดูหนาว
  • - เวียนนาการ์ด (Vienna Card) เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองเวียนนา ภายใน 72 ชั่วโมง ใช้ได้ทั้งรถใต้ดิน รถราง รถบัส แต่ไม่รวมรถไฟ และใช้เป็นส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์บางแห่งได้ด้วย  
  • - อาหารประจำชาติออสเตรียคือ วีเนอร์ชนิทเซิล (Wiener Schnitzel) หมูทุบชุบแป้งขนมปังทอด ทานคู่กับสลัด มันฝรั่ง   ใครไม่ได้กินถือว่าไปไม่ถึงออสเตรีย
  • - แอพฯ Qando จะช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย ใช้ตรวจเช็คตำแหน่งและเวลาของรถบัสและรถไฟฟ้าที่เดินรถโดยบริษัท Wiener Linien ได้ และดูสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย  
  • - ค้นหาจุดให้บริการ Free Wi-Fi ตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วเมืองเวียนนาได้ที แ

  • - กิจกรรมห้ามพลาด คือ นั่งรถรางและรถม้าชมเมืองรอบถนนวงแหวน (Ringstrasse) ซึ่งเป็นถนนที่วิ่งรอบๆ เมืองเก่า สองข้างทางมีอาคารสถาปัตยกรรมงดงามให้ชมมากมาย
  • - อย่าลืมชิม อาหารประจำชาติ ชนิทเซล (Schnitzel) เนื้อสัตว์ชุบแป้งทอด กินกับสลัดผัก และ  แอปเปิ้ลสตรูเดิ้ล (Apple Strudel)s ขนมหวานดั้งเดิมที่มีส่วนผสมของแอปเปิ้ลห่อด้วยแป้งพายอบกรอบ 
  • - ชมวิวเมืองเวียนนาแบบ 360 องศา ได้ที่หอคอยชมวิวของมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen Cathedral) ณ จัตุรัสสเตฟาน (Stephansplatz)
Flight-destination-article-image

สายการบินพันธมิตร

สายการบินพันธมิตรทั้งในและระหว่างประเทศ
เราร่วมมือกับสายการบินต่างๆ ทั่วโลก เพื่อรองรับทุกจดหมายปลายทางที่คุณต้องการ

พันธมิตรผู้ให้บริการชำระเงิน

เราร่วมมือกับผู้ให้บริการชำระเงินที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าการชำระเงินของคุณสะดวกและปลอดภัย

เส้นทางยอดนิยม