พาไปดูพร้อมเช็คอิน 15 ที่เที่ยวสวยดังต้องมนต์ที่บาหลี

Traveloka TH
04 Jul 2022 - 2 min read

เหตุผลดีๆ ที่ทำให้ “บาหลี” (Bali) เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายคน คือวัฒนธรรมอันหลากหลาย ชายหาดที่บริสุทธิ์ และธรรมชาติที่สวยดังต้องมนต์ ในทุกย่านบาหลีคือความฝันที่เป็นจริงของนักเดินทาง ไม่ว่าคุณจะต้องการพักผ่อนบนชายหาดท่ามกลางแสงแดด พักผ่อนในสปา การผจญภัยแบบนอกเส้นทาง จะชิมอาหารหรือจิบไวน์ บาหลีมีทุกสิ่งให้คุณได้จริงๆ ใครที่กำลังวางแผนเที่ยว บอกได้เลยว่า “บาหลี” ตอบโจทย์สุด เพราะเดินทางสะดวกง่ายดาย มีเที่ยวบินตรงให้ใช้บริการหลากหลายระดับราคา

คลิกค้นหาโปรดีๆ ราคาถูกใจได้ที่ Traveloka Travel & Lifestyle Super App ที่มีครบทั้งจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก รถรับ - ส่งสนามบิน รวมทั้งรถเช่า ให้คุณได้จองทุกอย่างครบๆ ภายในแอพเดียว อีกทั้งยังมีช่องทางชำระเงินให้เลือกหลากหลาย สะดวกแบบไหนก็เลือกได้เลย - - ตอนนี้บาหลีเปิดให้ไปเที่ยวกันแล้ว จะรออะไรไปเที่ยวกัน!!

1. ทุ่งดอกดาวเรือง (Marigolds Field)

บาหลีไม่ได้มีแค่ที่เที่ยวแนววัฒนธรรมประเพณีเท่านั้น แต่ยังมีทุ่งดอกดาวเรืองเหลืองอร่าม เป็นจุดเช็กอินที่สวยดังต้องมนต์ ดาวเรืองเป็นดอกไม้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา จึงมีทุ่งดอกดาวเรืองให้ชมในหลายๆ พื้นที่ จุดที่สวยโดดเด่นและมีชื่อเสียงที่สุดตั้งอยู่ในเส้นทางระหว่างคินตามณีและเบดูกุล มองเห็นได้จากริมถนน ช่วงกลางเดือนเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการชมวิวและถ่ายรูปสวยๆ กับดอกดาวเรือง

2. วัดเลมปูยัง (Pura Lempuyang)

มาต่อกันที่วัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในบาหลี “วัดเลมปูยัง” ตั้งอยู่บนยอดเขาเลมปูยัง เหนือระดับน้ำทะเลราว 1,000 เมตร วัดแห่งนี้มีไฮไลท์อยู่ที่“ประตูสู่สวรรค์” ซุ้มประตูหินขนาดใหญ่ที่สะท้อนผืนน้ำราวกับกระจกนำไปสู่สรวงสรรค์ มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟอากุง หนึ่งในภูเขาที่ยังคงมีพลังบนเกาะบาหลี เป็นจุดถ่ายรูปห้ามพลาดของบรรดานักเดินทาง ช่วงไฮซีซันถึงกับต่อคิวกันยาวเหยียดเลยทีเดียว

3. หาดเกอลิงกิง (Kelingking Beach)

“หาดเกอลิงกิง” แห่งเกาะเปนิดา คือหนึ่งในชายหาดที่สวยงามที่สุดของบาหลี แนวหน้าผาสีเขียวมรกดพร้อมหาดทรายขาวบริสุทธิ์ ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าคราม แลนด์มาร์กเด่นอยู่ที่ภูเขาหินที่ยื่นออกไปในท้องทะเล ที่มีรูปร่างแปลกตามองดูคล้ายไดโนเสาร์ทีเร็กซ์ ที่ใครมาเที่ยวบาหลีต้องไม่พลาดถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ส่วนใครอยากลงไปถ่ายรูปที่ชายหาด ก็มีบันไดไม้ไผ่ให้เดินลงไปให้ความรู้สึกท้าทายสุดๆ

4. หมู่บ้านจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Village)

บาหลีมีนาข้าวที่สวยงามให้เที่ยวชมหลายแห่ง แต่หมู่บ้านจาตีลูวีห์แห่งนี้ เป็นหมู่บ้านเดียวในบาหลีที่ปลูก ปาดีบาหลี หรือข้าวพันธ์ุท้องถิ่นที่มีลำต้นยาวสวยสง่า ถือเป็นนาข้าวขั้นบันไดที่วิวสวยที่สุดในเกาะบาหลี มองเห็นแนวเขาสูงต่ำสุดสายตา อากาศเย็นสบาย ผู้คนไม่พลุกพล่าน ในช่วงที่เตรียมพื้นที่จะเห็นแปลงนาเหมือนร่องน้ำที่คดเคี้ยวสะท้อนเงาท้องฟ้า งามไปอีกอารมณ์ ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ลับฟ้ายิ่งงามเกินบรรยาย

5. เส้นทางเดินสันเขาจัมปูฮัน (Campuhan Hills Ridge Walk)

สำหรับเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่สวยที่สุดในบาหลี ต้องยกให้ “เส้นทางเดินสันเขาจัมปูฮัน” เส้นทางเดินที่เข้าถึงง่ายอยู่ใจกลางเมืองอูบุด เป็นเส้นทางเดินบนสันเขาผ่านหุบเขา สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าเขียวขจี มองเห็นทุ่งนาและโฮฺทสเตย์เป็นระยะๆ มีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินเล่นคือเช้าตรู่อากาศสบายๆ คนไม่มาก บรรยากาศเงียบสงบ

6. สะพานสีเหลืองเซนิงัน (Yellow Bridge Ceningan)

สะพานแขวนสีเหลืองโดดเด่น หรือที่ชาวบาหลีเรียกว่า “สะพานแห่งความรัก” เชื่อมต่อระหว่างเกาะเซนิงันและเกาะเลมโบงัน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเกาะเปนิดาอันเลื่องชื่อ เป็นสะพานแคบๆ สำหรับเดินเท้าหรือปั่นจักรยาน ที่ใครมาถึงบาหลีต้องแวะไปถ่ายรูปกลางสะพานแห่งนี้ เมื่อไปถึงเกาะเกาะเซนิงันอย่าลืมแวะไปที่บลูลากูน เพื่อดำดิ่งลงสู่มหาสมุทรจากหน้าผาสูง 14 เมตร หรือเที่ยวหาดซีเคร็ทอันงดงาม

7. ยอดเขาบาตูร์ (Mount Batur)

“ภูเขาไฟบาตูร์” เป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่เพียงลูกเดียวของบาหลี และเป็นหนึ่งในอุทยานธรณีโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโก เป็นจุดหมายปลายทางของผู้รักความท้าทายผจญภัย ในการพิชิตยอดเขาที่ความสูง 1,717 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เมื่อมองลงมาจะเห็นวิวธรรมชาติที่สวยงามของทะเลสาบบาตูร์ และยอดภูเขาต่างๆ ที่รายรอบ ยิ่งช่วงเช้าตรู่จะได้เห็นพระอาทิตย์สาดแสงอาบฟ้างามจับใจ

8. ทะเลสาบบราตัน (Lake Bratan)

“ทะเลสาบบราตัน” เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาะบาหลี อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่สวยงามราวภาพวาด มีวัดศักดิ์สิทธิ์ “วัดอูลุนดานูบราตัน” เป็นแลนด์มาร์กเด่นอยู่กลางน้ำ ในช่วงเช้าตรู่จะได้เห็นภาพสวยงามของม่านหมอกที่ปกคลุมทั่วบริเวณ และพื้นผิวสะท้อนแสงที่เรียบของทะเลสาบ จนดูเหมือนวัดกำลังลอยอยู่ เป็นช่วงที่เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นยิ่งนัก

9. น้ำตกตูกัดเซปุงบังลี (Tukad Cepung Waterfall)

“น้ำตกตูกัดเซปุงบังลี” นอกจากจะเป็นน้ำตกที่สวยงามท่ามกลางธรรมชาติป่าไม้ที่ร่มรื่น อากาศบริสุทธิ์สุดๆ แล้ว เสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือ ภาพแสงแดดส่องกระทบน้ำตกที่ส่องลงมากลางดงไม้ และกำแพงสายน้ำประกายระยิบระยับที่ร่วงหล่นลงสู่พื้น นับเป็นภาพสุดงามเกินบรรยาย สะกดทุกสายตาที่มองเห็นได้ จนทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในน้ำตกที่ถูกถ่ายรูปอัพสู่โลกโซเชียลมากที่สุดในบาหลี

10. เมืองชางกู (Canggu)

“ชางกู” เป็นชุมชนประมงตอนเหนือของหาดดูต้า แต่สุดฮิตเพราะวิถีสโลว์ไลฟ์ กลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการช่วงเวลาผ่อนคลายให้จองตั๋วเครื่องบินไปบาหลีมาเที่ยวที่นี่ สัมผัสบรรยากาศแบบเรียบง่ายไม่เร่งรีบ มีที่พักแบบเก๋ๆ รวมถึงคาเฟ่กลมกลืนวิถีชุมชน มีกิจกรรมทางน้ำมากมายให้เพลิดเพลิน เดินเล่นดูคลื่นซัดสาดเข้าหาฝั่ง หรือแม้แต่นั่งเล่นนอนเล่นใต้ร่มไม้รับบรรยากาศสบายๆ เป็นส่วนตัวก็ได้ทั้งนั้น

11. เมืองซานูร์ (Sanur)

“ซานูร์” เป็นเมืองชายทะเลอันเงียบสงบ อยู่ไม่ไกลจากเมืองชางกู ที่นี่มีทุกสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการ บรรยากาศสบายๆ ไม่เร่งรีบ ที่นี่มีชายหาดเรียงรายไปด้วยเรือประมงสีสันสดใส รวมถึงมีแกลเลอรีศิลปะ ร้านอาหาร และวิหารเก่าแก่ พิพิธภัณฑ์ วัดโบราณ มีที่พักที่สวยงามพร้อมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และแหล่งช้อปปิ้ง และยังเป็นจุดเดินทางไปยังเกาะเปนิดาได้ด้วย

12. หมู่บ้านไซด์เมน (Sidemen Village)

“ไซด์เมน” เป็นหมู่บ้านสุดสโลว์ไลฟ์ทางตะวันออกของบาหลี ที่มีทิวทัศน์เขียวขจีสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ท้องทุ่งนาและสวนปาล์ม นอกจากความสวยงามของทิวทัศน์ ชาวบ้านยังมีฝีมือด้านการทอผ้าและงานเครื่องประดับภูมิปัญญา อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตไวน์ปาล์ม ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเงียบสงบกับการเดินเล่น ปั่นจักรยานชมวิว ถ่ายรูปทิวทัศน์ และชิมอาหารท้องถิ่น

13. หาดเซมินยัก (Seminyak Beach)

“หาดเซมินยัก” เป็นจุดชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบาหลี ที่นี่เป็นจุดปักหมุดยอดนิยมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งที่พักสุดหรู ร้านอาหารชั้นดีรสเลิศ สปาชั้นเยี่ยม ร้านแฟชั่นบูติก และมีบีชบาร์สุดฮิป ร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ มากมายให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดผ่อนคลายริมทะเล ใครชอบบรรยากาศสนุกๆ แบบปาร์ตี้ริมหาด บอกเลยว่าต้องไม่พลาด

14. วัดกูนุงกาวี (Gunung Kawi Temple)

“วัดกูนุงกาวี” สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม มีความโดดเด่นทางโบราณคดีมากที่สุด เป็นการแกะสลักภูเขาให้เป็นอนุสรณ์สถานขนาดใหญ่นับ 10 แห่ง เพื่อเป็นเกียรติแก่ราชวงศ์บาหลี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปากีริซาน ภายในวัดมีบันไดหิน 371 ขั้น ทอดผ่านหุบเขาที่เขียวชอุ่ม โอบล้อมด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม แม้จะต้องเดินไกลเกือบกิโลเมตร แต่ก็งดงามหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

15. หมู่บ้านอาเหม็ด (Amed Village)

แล้วก็มาถึงจุดปักหมุดสุดท้าย “อาเหม็ด” หมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบ ที่มีทั้งความสวยงามเขียวขจีและวิถีชุมชนที่เรียบง่ายริมผืนน้ำงามอีกแห่งของบาหลี แถมยังเป็นจุดดำน้ำที่ยอดเยี่ยม มีซากเรือลาดตระเวนของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้สำรวจ มีฟาร์มเกลือให้เที่ยวชม มีวิวพระอาทิตย์ตกสุดอลังการ พร้อมมีอาหารทะเลสดๆ คุณภาพดี ให้ลิ้มรสกันอย่างเต็มที่อีกด้วย

บาหลีมีที่เที่ยวหลายแนวให้นักท่องเที่ยวได้สำรวจ เดินทางง่ายด้วยเที่ยวบินตรง แถมยังฟรีวีซ่า ดีงามขนาดนี้ต้องรีบเคลียร์งาน หาวันว่าง จองตั๋วเครื่องบินไปบาหลีกันซะแล้วเพื่อนๆ ไปเช็คมาตรการสนามบินไปเยือนบาหลีให้พร้อม แพคกระเป๋าพร้อม จองทุกอย่างให้พร้อมสรรพ แล้วจะรออะไร ทริปหน้าต้องไปเที่ยวบาหลีกันแล้วไหมหล่ะ

Hotels
Flights
Things to Do
Always Know the Latest Info
Subscribe to our newsletter for more travel & lifestyle recommendations and exciting promos.
Subscribe