15 ที่เที่ยวสุดปังในไอซ์แลนด์ เน้นที่เที่ยวแนวธรรมชาติ

Pakapron Pathomsuntronchai
13 Aug 2021 - 6 min read

เชื่อว่านักท่องเที่ยวสายธรรมชาติทั้งหลายไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของความสวยงามของธรรมชาติที่ประเทศไอซ์แลนด์กันอย่างแน่นอน แม้ว่าช่วงนี้จะอยู่ในช่วงของโควิด-19 กำลังระบาด แต่นักเดินทางชาวไทยนั้นสามารถเดินทาง และจองตั๋วเครื่องบินไปไอซ์แลนด์กันได้แล้ว หากใครวีซ่าพร้อม ตั๋วเครื่องบินพร้อม ที่พักพร้อม ชาร์จแบตกล้องให้เต็มเปี่ยม แล้วเตรียมตัวไปเลือกลิสต์ 15 ที่เที่ยวสุดปังในไอซ์แลนด์ที่สวยจนแทบจะลืมหายใจกับพวกเรากันได้เลย หรือหากใครยังไม่มีทริปที่อยากไปอยู่ในใจ จะลองเลือกดูที่เที่ยวในไอซ์แลนด์เหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจเอาไว้ก็ไม่ว่ากัน

แต่ว่า อย่าลืมเช็คมาตรการสนามบินปลายทางที่นี่ก่อนบินนะ

1. บลูลากูน ไอซ์แลนด์ (Blue Lagoon Iceland)

ที่เที่ยวไอซ์แลนด์แห่งแรกที่โด่งดัง และไม่เอ่ยถึงก็คงไม่ได้ ก็คือ “บลูลากูน ไอซ์แลนด์ (Blue Lagoon Iceland)” เป็นบ่อน้ำแร่ธรรมชาติสีฟ้าที่ตั้งอยู่บริเวณภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ในส่วนของน้ำพุร้อนแห่งนี้มักจะเห็นตามโซเชียลมิเดียอยู่บ่อยครั้ง เพราะถือว่าเป็นจุดเช็คอินที่สำคัญของไอซ์แลนด์ โดยเป็นน้ำพุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และสีฟ้าของน้ำเกิดขึ้นตามธรรมชาติ อุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 39 องศาเซสเซียส จะมีการเปลี่ยนน้ำอัตโนมัติทุก 48 ชั่วโมง ข้อดีของน้ำแร่ที่บลูลากูนคือจะช่วยทำให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ และรักษาโรคผิวหนัง โดยเฉพาะสะเก็ดเงิน ใครแพลนว่าจะบินไปเที่ยวไอซ์แลนด์ แนะนำว่าห้ามพลาดเลย

2. ภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell)

ในไอซ์แลนด์จะมีธรรมชาติที่สวยงาม และน่าทึ่งมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือน้ำตกแห่งนี้ ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเป็นภูเขาโบสถ์ หรือว่า Church Mountain เพราะมีรูปร่างคล้ายคลึงกับโบสถ์อย่างนั้นเอง ความน่าทึ่งของภูเขานี้คือสีที่เกิดขึ้นหลากสีจากการทับถมกันของหิน หรือว่าฟอลซิลที่คาดว่าน่าจะมีอายุมากกว่าล้านปีขึ้นมา โดยที่ด้านบนจะเป็นหินลาวา และมีความสูงทั้งสิ้นมากกว่า 460 เมตรด้วยกัน ความงดงามของภูเขาแห่งนี้แม้ว่าจะสวยงามทุกฤดู แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว เมื่อหิมะได้ทำการปกคลุมเขานี้ไปจนทั่ว จะทำให้ดูเหมือนกับหมวกของแม่มดมากขึ้นไปอีก และบริเวณที่ภูเขานี้จะมีน้ำตกด้วย ถือว่าเป็นที่เที่ยวไอซ์แลนด์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย

3. น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ (Seljalandsfoss)

มาเที่ยวไอซ์แลนด์นั้นหนึ่งในที่เที่ยวไอซ์แลนด์สายธรรมชาติ ก็ต้องยกให้กับน้ำตก ซึ่ง “น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ (Seljalandsfoss)” เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความสวยงามอันดับต้นของประเทศไอซ์แลนด์กันเลยทีเดียว หากใครที่จองตั๋วเครื่องบินไปไอซ์แลนด์แล้ว ยังไม่เคยไปเยือนน้ำตกแห่งนี้ ถือว่าพลาดมาก เพราะน้ำตกแห่งนี้มีความโดดเด่นตรงที่ความสูงมากถึง 60 เมตร ที่ถึงแม้จะเป็นน้ำตกที่ไม่กว้างมากนัก แต่มองจากความสูง และความแรงของสายน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาสูง ถือว่างดงามมาก ไฮไลท์ของน้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์คือสามารถลอดไปยังด้านหลังของน้ำตกได้ และหากไปในช่วงฤดูร้อน จะเห็นวิวงดงามโดยรอบน้ำตกจะเต็มไปด้วยความเขียวขจี

4. น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)

เชื่อว่าต้องถูกใจนักเดินทางสายธรรมชาติอย่างแน่นอน สำหรับที่เช็คอินอย่าง “น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)” อันเป็นน้ำตกที่มีทั้งความงดงาม และใหญ่โตอลังการติดอันดับโลก ได้รับการขนานนามว่าเป็นไนแองการ่าของไอซ์แลนด์ โดดเด่นด้วยสีของน้ำที่เป็นสีเขียวแบบเทอควอยช์อันงดงาม ความอลังการของน้ำตกกุลล์ฟอสส์ไม่ได้มีแค่เพียงตัวน้ำตกอย่างเดียว แต่ที่มาของน้ำตกก็น่าสนใจ เพราะไหลมาจากแม่น้ำควิทอา (Hvítá) อันเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไอซ์แลนด์ ส่วนใหญ่แล้วการเดินทางมาเที่ยวที่นี่ จะต้องเดินตามเขตแดนที่ถูกกำหนดไว้เท่านั้น เพราะบางช่วงถ้าออกนอกพื้นที่อาจจะมีความอันตราย เนื่องจากน้ำตกแรง และสูงมาก ส่วนใหญ่แล้วคนนิยมเดินทางมาเที่ยวที่กุลล์ฟอสส์ในช่วงฤดูหนาว

5. ปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid Crater)

แม้ว่าสถานที่เที่ยวไอซ์แลนด์แห่งนี้จะมีการเก็บค่าเข้าชม แต่เชื่อเถอะว่าคุ้มค่ากับการได้เข้าไปเที่ยวอย่างแน่นอน เพราะว่าที่ “ปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid Crater)” นั้นเป็นปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว อีกทั้งยังเป็นปล่องภูเขาไฟที่สังเกตง่าย และเห็นได้อย่างชัดเจนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยปล่องภูเขาไฟเคริดได้เกิดจากเหตุการณ์ระเบิดของภูเขาไฟในเมื่อประมาณ 3000 ปีก่อนหน้านี้ จนเกิดมาเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่มีทะเลสาบยังเบื้องล่าง แม้ว่าจะมีให้เห็นแค่เพียงปากปล่องภูเขาไฟที่ดับลงไปแล้ว แต่ความสวยงามของปล่องภูเขาไฟนี้ก็คุ้มค่าแก่การมาเยือน

6. น้ำพุร้อนกีเซอร์ (Geysir)

หรือที่หลายคนเรียกว่า น้ำพุร้อนไกรเซอร์ มีให้เห็นได้ทั่วไป ไม่ใช่แค่เพียงในไอซ์แลนด์เท่านั้น ลักษณะจะเป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน แต่สำหรับกีเซอร์ที่ไอซ์แลนด์ เป็นน้ำพุร้อนพวยพุ่งด้วยแรงดันสูงที่มีความโด่งดังในระดับโลก หากใครจองตั๋วเครื่องบินไปไอซ์แลนด์ จึงอยากจะให้มาดูด้วยตาของตนเองกันสักครั้ง เพราะบ่อน้ำพุร้อน จะถูกความดันใต้พื้นโลกดันขึ้นมา ให้เกิดการระเบิด ภายในหนึ่งวันอาจจะมีการประทุขึ้นหลายครั้ง และบางครั้งก็อาจจะคาดเดาไม่ได้ ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเฝ้าดูกีเซอร์เกิดความตื่นเต้น และรู้สึกท้าทาย อย่างไรก็ตามหากมีโอกาสได้ไปเที่ยวไอซ์แลนด์ อยากให้ลองไปเที่ยวกันดู

7. เรย์นิสดรังการ์ (Reynisdrangar)

สวยแบบต้องมนต์สะกด นอกจากนั้นยังดูแปลกตาเหมือนไม่ได้อยู่บนโลก แต่ทว่าเหมือนเกิดขึ้นจากบนดาวเคราะห์สักดวง สำหรับ “เรย์นิสดรังการ์ (Reynisdrangar)” ตั้งอยู่หน้าหาดทรายดำ ที่นอกเหนือจากหาดทรายดำที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากความงดงามยังมีความลึกลับของกลุ่มก้อนหินบะซอลล์ที่ผุดขึ้นมาเป็นก้อนบริเวณริมชายหาด ทำให้มองดูคล้ายกลายเป็นก้อนหินประหลาดปรากฎอยู่ อันมีตำนานเล่าเกี่ยวกับหินทั้งหลายนี้ว่า แต่เดิมทีหินพวกนี้เป็นโทรล (Troll) ที่พยายามลากเรือเข้าสู่ฝั่งแต่ทว่าไม่เกิดผลสำเร็จ จากนั้นเมื่อรุ่งเช้าจึงทำให้โทรลได้กลายมาเป็นหินอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ด้วยความแปลกที่ไม่เหมือนกับที่ไหนทำให้ที่เที่ยวไอซ์แลนด์แห่งนี้ติดเป็นหนึ่งในที่เที่ยวไอซ์แลนด์ที่น่าสนใจ

8. โจกุลซาลอน (Jökulsárlón)

มาเที่ยวถึงไอซ์แลนด์ทั้งที ไม่มาเที่ยวที่ธารน้ำแข็ง อันเป็นไฮไลท์ของไอซ์แลนด์ก็ดูเหมือนจะมาไม่ถึง ดังนั้นจึงอยากจะขอให้ลิสต์ “โจกุลซาลอน (Jökulsárlón)” เอาไว้เลย เพราะมีความสำคัญตรงที่เป็นธารน้ำแข็งที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปีมาแล้วด้วยกัน แถมธารน้ำแข็งบริเวณนี้เมื่อละลายไปแล้ว ยังก่อให้เกิดทะเลสาบอีกมาก และเมื่อครั้งที่โลกของเราร้อนขึ้น มีอุณหภูมิที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ธารน้ำแข็งเกิดการละลายมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน ทะเลสาบที่เกิดจากธารน้ำแข็งจึงมีขนาดใหญ่มากขึ้น และลึกมากยิ่งขึ้น เป็นหนึ่งในที่เที่ยวไอซ์แลนด์ธรรมชาติที่สวยอันดับต้นของไอซ์แลนด์เลยหล่ะ

9. น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss)

จองตั๋วเครื่องบินไปไอซ์แลนด์แล้วก็ต้องเดินทางไปเที่ยวน้ำตกกันรัวๆ สำหรับ “น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss)” เป็นหนึ่งในน้ำตกชื่อดังของประเทศไอซ์แลนด์ ที่หากใครเน้นการเที่ยวชมธรรมชาติสวยงามของไอซ์แลนด์ จะต้องไม่พลาดน้ำตกสโกกาฟอสส์นี้เลย ซึ่งน้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่ไหลมาจากแม่น้ำสโกกา ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสโกกา และเป็นน้ำตกที่มีความใหญ่โตเป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ จุดเด่นของน้ำตกแห่งนี้คือเป็นน้ำตกที่สูงมากถึง 60 เมตร และสวยงามทุกฤดู ไม่ว่าจะมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน ใบไม้ผลิ หรือฤดูหนาวที่ทุกพื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง และหิมะก็สวยงามอย่าบอกใคร

10. อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park)

สายเที่ยวอุทยานแห่งชาติบอกเลยว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้ไปเยือนอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ “อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park)” เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไอซ์แลนด์ โดยได้ตั้งอยู่ระหว่างรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ ทำให้อุทยานแห่งชาตินี้เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่มีความสำคัญ และน่าสนใจในเชิงธรณีวิทยาระดับโลก ภายในอุทยานแห่งชาตินี้จะมีความงดงามทางธรรมชาติมาก และเนื่องด้วยความสำคัญ เพราะไม่ใช่แค่ตั้งอยู่ระหว่างรอยแยกหุบเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่เปลือกโลกเคลื่อนตัว จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นักเดินทางทั้งหลายห้ามพลาด

11. น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ (Dettifoss)

เดินทางมาถึงน้ำตกแห่งถัดไปที่น่าสนใจของประเทศไอซ์แลนด์ กับ “น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ (Dettifoss) ” ที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ และมีความแรงของน้ำ (จัดอันดับโดยความจุของน้ำ) มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ใครมีเวลามากพออยากจะให้ลองมาเยือน และมาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้กัน เพราะคุณจะเห็นได้ถึงความทรงพลังของน้ำตกแห่งนี้ นอกเหนือจากจะครองแชมป์อันดับหนึ่งความทรงพลังของไอซ์แลนด์แล้ว ยังเป็นอันดับหนึ่งของยุโรปด้วยนะ

12. หุบโตรกฟยาดราร์กลิเฟอร (Fjaðrárgljúfur)

แม้จะอ่านออกเสียงยากสักนิดหนึ่งสำหรับที่เที่ยวแห่งนี้ แต่ก็ไม่อยากให้พลาดที่จะมาเยือน คนส่วนใหญ่มักจะเอ่ยถึงสถานที่นี้ว่าเป็นเหมือนแกรนด์แคนยอนมหัศจรรย์แห่งไอซ์แลนด์ งดงามไปด้วยภาพธรรมชาติที่เหมือนกับหลุดออกมาจากในหนังสือนิทาน จุดเด่นของหุบเขาแห่งนี้ คือจะเป็นหุบเขาที่ลึกลงไป มีความลึกประมาณ 100 เมตร และมีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 2 กิโลเมตร ความงดงามของสถานที่เที่ยวไอซ์แลนด์แห่งนี้คือสวยงามทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อน หรือว่าฤดูหนาว ใครชอบเที่ยวแนวธรรมชาติต้องฟินอย่างแน่นอน

13. แหลมดีร์โฮเลย์ (Dyrholaey)

แต่เดิมทีจะเรียกสถานที่นี้ว่า แคปพอร์ตแลนด์ มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล จากทางฝั่งตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์เลยทีเดียว ความพิเศษของแหลมนี้คือจะมีลักษณะโค้งเหมือนกับซุ้มประตู ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลโดยธรรมชาติ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวไอซ์แลนด์ที่มีวิวธรรมชาติสุดอลัง นอกจากนั้นหากคุณมายืนที่บริเวณแหลมดีร์โฮเลย์นี้ ยังจะมองเห็นถึงหินอาร์นาร์ดรันเก้อร์ (Arnardrangur) และธารน้ำแข็งได้ด้วย

14. มีวัทน์ (Myvatn)

ทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไอซ์แลนด์ หากใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการเที่ยวน้ำตก มาเที่ยวทะเลสาบแล้วละก็ แนะนำว่าปักหมุดเอาไว้ที่ “มีวัทน์ (Myvatn)” จะไม่เสียใจเลย เพราะวิวธรรมชาติบริเวณนี้สวยงามมาก สำหรับทะเลสาบนี้ได้เป็นทะเลสาบที่อยู่บริเวณปล่องภูเขาไฟ มีภูมิภาคตื้นกว่าทะเลสาบอื่นๆ ไฮไลท์จะอยู่ที่มีวัทน์จะรายล้อมไปด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ มีความเขียวขจีสวยงาม อีกทั้งบริเวณเดียวกันนั้นยังเป็นที่ตั้งของปล่องภูเขาไฟที่ยังคงมีการประทุอยู่ ถ้าหากเปรียบเทียบให้มีวัทน์เป็นการ์ตูนสักเรื่อง คงเหมาะกับเป็นอลิซในดินแดนมหัศจรรย์

15. สไนล์แฟลซโจกุล (Snæfellsjökull)

อุทยานแห่งชาติอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ที่ควรค่าแก่การไปเยือนเป็นอย่างยิ่ง เสน่ห์ของอุทยานแห่งชาติสไนล์แฟลซโจกุลคือการที่มีหลายอย่างอยู่ภายในนี้ ทั้งธารน้ำแข็ง ภูเขาไฟ ชายหาด แม่น้ำ รวมไปถึงภูเขา ถือว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความงดงาม แต่ยังเป็นแหล่งรวมที่เที่ยวไอซ์แลนด์ชื่อดังเอาไว้ได้อย่างครบครัน ถือว่าเป็นที่เที่ยวไอซ์แลนด์ที่มีธรรมชาติสวยๆ เหมาะกับการมาเยือน

ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมชาติที่ดูแปลกตา ทั้งบ่อน้ำพุร้อนสีฟ้า ลาวาสีดำ ชายหาดสีดำ หรือน้ำตกสูงสุดตา รวมไปถึงทุ่งหญ้าเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา เชื่อว่าประเทศไอซ์แลนด์จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน นอกเหนือจากที่เที่ยวธรรมชาติ อันเป็นไฮไลท์สิ่งที่โดดเด่นของไอซ์แลนด์แล้ว คนส่วนมากยังนิยมเดินทางไปไอซ์แลนด์เพื่อดูแสงเหนืออีกด้วย

Hotels
Flights
Things to Do
Always Know the Latest Info
Subscribe to our newsletter for more travel & lifestyle recommendations and exciting promos.
Subscribe