ถึงปีนี้คงจะยังเดินทางไปเที่ยวเมืองนอกกันไม่ได้เพราะโควิดแวะมา Say Hi! กับคนทั้งโลก แต่ความโชคดีของพวกเราชาวไทยก็คือยังมีที่เที่ยวสวยๆ ซึ่งให้กลิ่นอายเหมือนได้ไปต่างประเทศอยู่เพียบ บรรดาคนรักการเดินทางจึงน่าจะยังมีตัวเลือกสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีกันได้แบบแฮปปี้อยู่ไม่น้อยเชียวละ ไปต่างประเทศไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีพิกัดเด็ดในเมืองไทยที่คล้ายกับแลนด์มาร์คจากทั่วโลก ข้อดีคือเราเที่ยวกันได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แถมยังประหยัดเงินกว่าไปเมืองนอกหลายเท่าตัว ไปดูกันเลยดีกว่าว่าแลนด์มาร์คไทยที่เราจะพาไปทัวร์น่ะ มีที่ไหนเด็ดๆ บ้าง ออกเดินทางพร้อมกันเลยจ้า
ครั้งนี้เราเลือกเดินทางไปกับ Traveloka แอบกระซิบว่าตอนนี้ Traveloka มี ฟีจเจอร์ใหม่ที่โดนใจสุดๆ สามารถเทียบราคาของแต่ละสายการบินให้ได้รู้กันไปเลยว่าเจ้าไหนถูกกว่า #Travelokaเทียบแล้วเที่ยวเลย
แก่งหินรูปร่างแปลกตาซึ่งกินพื้นที่กว่า 30 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ มีทั้งแอ่งน้ำขนาดเล็กใหญ่ มีผาหินสูงๆ ต่ำ สลับซับซ้อนเรียงรายกันแบบสุดสายตา หลายคนจึงขนานนามว่านี่คือแกรนด์ แคนยอน ของเมืองไทย ที่ให้ฟีลคล้ายกับต้นฉบับแต่แค่ย่อส่วนมา สามพันโบกนั้นตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำโขงและจะสวยโดดเด่นเห็นได้ชัดในช่วงหน้าแล้ง ใช่จ้ะ ช่วงนี้ละเข้าไฮซีซั่นแล้ว แก่งก็สวย อากาศก็สบาย ไม่ต้องไปถึงอเมริกาก็หาแบ็คกราวนด์ถ่ายรูปเจ๋งๆ ได้ เริ่ดออกเด้อ
สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวในฟีลลิ่งที่ให้ความตื่นเต้น ลุ้นระทึก ออกแนวผจญภัยนิดๆ นะ อยากชวนให้ปักหมุดพิกัดนี้เอาไว้ เพราะแทบจะเป็นแห่งเดียวในเมืองไทย ที่คุณจะได้ล่องเรือในคลองซึ่งสองฟากฝั่งเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ให้บรรยากาศออกแนวลึกลับคล้ายผืนป่าแอมะซอนในอัฟริกา นอกจากจะได้ชมความสมบูรณ์ของผืนป่าและต้นไทรใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านจนดูเหมือนม่านห้อยระย้า ความเร้าใจของการมาที่นี่ยังอยู่ที่การได้ส่องบรรดางูสารพัดสายพันธุ์ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่บนกิ่งก้านของต้นไม้ทั้งสองฝั่ง ใครมองหาความเร้าใจที่จะกระตุ้นให้อะดรีนาลินหลั่งปรู๊ดพุ่งปรี๊ดกันแบบจุกๆ ได้ อยากให้ปักหมุดที่นี่เลย
อีกหนึ่งพิกัดที่ให้ฟีลแนวผจญภัยเหมือนได้ไปยืนอยู่กลางทุ่งกว้างในอัฟริกา ชนิดที่เรียกว่าถอดแบบมาจากต้นฉบับยังไงยังงั้น จะต่างกันนิดหน่อยก็ตรงที่เกาะพระทองแห่งนี้ไม่มีช้าง เสือ หรือแรดโผล่มาให้เห็นเท่านั้นละ แม้อาจจะไม่ใช่เกาะที่เอ่ยชื่อแล้วทุกคนรู้จัก แต่เกาะพระทองแห่งนี้ก็เป็นเกาะใหญ่ที่กินพื้นที่กว่า 30,000 ไร่ และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของเมืองไทยเด้อ ช่วงที่สวยที่สุดของเกาะนี้ก็คือเดือนพฤศจิกายน - มกราคม ซึ่งทุ่งหญ้าบนเกาะจะกลายเป็นสีทองสุดลูกหูลูกตา ใครตามหาโลเกชั่นถ่ายรูปเจ๋งๆ ว้าวๆ เหมือนอยู่อัฟริกานะ บอกเลยว่าที่นี่คือโดน!
นอกจากธรรมชาติสวยๆ แล้ว เวียดนามยังโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง ซึ่งอนุสรณ์สถานแห่งนี้ถอดรูปแบบมาได้อย่างค่อนข้างแนบเนียนเลยละ ถ้าคุณใส่ชุดอ่าวหญ่ายแล้วมาถ่ายรูปที่นี่ เชื่อว่าต้องมีหลายคนที่คิดว่าอยู่ในเวียดนาม และเพราะนครพนมนั้นเคยเป็นสถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งประธานาธิบดีโฮจิมินห์เคยมาอาศัยอยู่ก่อนกลับไปกอบกู้ประเทศคืนกลับมา ด้านในของที่นี่จึงมีเรื่องราวของท่านให้ได้ทำความรู้จักกันพอสมควรเลยละ ใครอยากใส่ชุดอ่าวหญ่ายเค้าก็มีให้เช่ากันได้ด้วยนะ ไม่ไกลกันยังมีบ้านซึ่งสร้างในพื้นที่จริงที่ท่านเคยอาศัยอยู่อนุรักษ์เอาไว้ให้เราได้ดูกันอีกด้วย ถ่ายรูปก็เริ่ด มาศึกษาประวัติศาสตร์ก็ดี ไม่ควรมองข้ามที่นี่เลยเชียวคุณ
เชื่อว่านี่คือพิกัดในดวงใจของใครหลายคนที่เคยเดินทางไปแม่ฮ่องสอนมา เรียกว่าให้ฟีลเหมือนได้ไปเยือนหมู่บ้านเล็กๆ ในชนบทของประเทศจีนเลยเชียวละ ด้วยการเป็นหมู่บ้านแบบเรียบง่ายที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ล้อมรอบทะเลสาบกว้างซึ่งมีไอหมอกจางๆ ปกคลุมในยามเช้า แลนด์มาร์คหลักของที่นี่ต้องยกให้กับลีไวน์ รักไทย ที่พักกลางไร่ชาซึ่งเป็นบ้านดินในสไตล์จีนที่ใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูปกัน นอกจากทิวทัศน์และสถาปัตยกรรมแล้ว ไฮไลท์อีกอย่างของหมู่บ้านนี้ก็คือเมนูอาหารยูนนานที่อร่อยมาก มาที่นี่นอกจากจะได้อาหารตาแล้วยังอิ่มท้องด้วยจ้ะ หาโอกาสไปเช็คอินให้ได้เด้อ
วัดใหญ่สุดอลังการที่ว่ากันว่าเหมือนยกวัดไต้หวันมาไว้ในเมืองไทยแห่งนี้ ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่เรียกได้ว่าถอดแบบมาจากวัดต้นฉบับของไต้หวันชนิดแทบจะไม่ผิดเพี้ยน ด้านในมีลานสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่แวดล้อมด้วยอาคารสวย ตัววิหารหลักด้านในยิ่งใหญ่ตระการตาด้วยองค์พระประธานสไตล์จีนตั้งเรียงหน้ากระดานกันถึงสามองค์ รอบด้านยังมีอาคารย่อยๆ ที่เต็มไปด้วยดีเทลอย่างรูปแกะสลักจากหิน เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ และอื่นๆ อีกมากมาย วัดนี้เพิ่งเปิดให้เข้าชมกันได้ไม่นาน นักท่องเที่ยวจึงอยู่ในปริมาณพอดีๆ กำลังสบาย อยากเห็นว่าสวยเหมือนอยู่ไต้หวันจริงมั้ย? ต้องไปดูเอง
เกาะนามิ นับเป็นแลนด์มาร์คยอดฮิตที่บรรดานักท่องเที่ยวชาวไทยแวะไปเยือนกันแบบไม่ขาดสาย แต่ถ้าไปเช็คอินถึงสถานที่จริงกันไม่ได้ สวนสนบ่อแก้วที่เชียงใหม่ก็นับเป็นตัวเลือกที่เริ่ดเลยเชียวละ ยิ่งในช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็นๆ แสนจะเป็นใจแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศที่นี่ใกล้เคียงกับเกาะนามิไปอีก ด้วยทิวสนสูงใหญ่ในพื้นที่กว้าง มีทางเดินเล็กๆ ผ่านกลางพอให้เดินชมเดินแชะกันได้ง่ายๆ ยิ่งเช้าๆ ที่มีไอหมอกจางๆ ลอยอยู่ท่ามกลางแสงสวยๆ นะ คือดี สวยชิลล์สมศักดิ์ศรีเกาะนามิเมืองไทยจริงๆ
เมื่อพูดถึงพิกัดที่ให้ฟีลเหมือนได้ไปแช่ออนเซ็นในญี่ปุ่นทุกครั้ง น้ำพุร้อนแจ้ซ้อนเมืองลำปางคือพิกัดยืนหนึ่งตลอดสำหรับเรา ด้วยสภาพแวดล้อมที่แสนจะเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ป่าไม้ หรือน้ำตกที่อยู่ใกล้ๆ กัน ซึ่งสร้างบรรยากาศให้แสนจะชิลล์สบาย ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติซึ่งมีการจัดแบ่งไว้ให้ใช้บริการกันหลายแบบ ทั้งบ่อรวมกลางแจ้ง บ่อในร่ม และบ่อแบบเป็นส่วนตัวสุดไพรเวท แช่เสร็จเดินขึ้นจากบ่อคือสบายมากกก แถมดีงามตรงที่ไม่มีกลิ่นกำมะถันมากวนใจด้วยนะ หนาวๆ แบบนี้แวะมาแช่ออนเซ็นแบบไทยคือฟินมากจ้า ปักหมุดมุ่งหน้ามากันเลย
สะพานไม้อูเบ็งในเมียนมาร์นั้นได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก โดยมีความยาวของสะพานถึง 1.2 กิโลเมตร ส่วนสะพานมอญแห่งเมืองสังขละนั้นก็ไม่น้อยหน้า เพราะว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานอูเบ็งนั่นละ โดยมีความยาวอยู่ที่ 850 เมตร นอกจากจากความยาวที่แตกต่างกัน ที่เหลือจากนั้นบอกได้เลยว่าใกล้เคียงเหมือนฝาแฝด! ด้วยลักษณะโดยรวมของตัวสะพาน หรือแม้กระทั่งบรรยากาศของผู้คน เพราะความที่อยู่ไม่ไกลจากประเทศเมียนมาร์ เราจึงจะได้เห็นสาวๆ ทาทานาคา แบกของเทินหัวเดินกันแบบสบายๆ เหมือนวาร์ปข้ามแดนได้จริงๆ
เมื่อพูดถึงจิ่วจ้ายโกวในเมืองจีน ภาพความสวยของสระน้ำสีฟ้าใสและต้นไม้สารพัดสีที่อยู่รายรอบก็ลอยมา และแม้ว่าบ้านเราจะไม่มีฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่สระน้ำใสแจ๋วของที่นี่ก็สวยไม่แพ้กันนะ เชื่อว่าสู้ได้สบาย แถมยังลงเล่นน้ำได้ด้วย เริ่ดไปอีก สระมรกตที่นี่นั้นได้ชื่อว่าเป็นพิกัดสุด unseen แห่งหนึ่งในบ้านเรา ที่แต่ละปีนั้นมีนักท่องเที่ยวมุ่งหน้ามาเยือนกันมากมาย ดีงามมากก็ตรงที่เที่ยวได้แบบไม่ต้องง้อฤดูกาลด้วยนะ สะดวกตอนไหนก็มาเลย ไม่ต้องรอ
เป็นพิกัดยืนหนึ่งที่หลายคนนึกถึงเมื่อเอ่ยชื่อสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ด้วยความสวยของป่าสนและเนินเขาที่รายล้อมอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ชนิดที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เขียวชอุ่มชุ่มชื่นสายตา ที่เด็ดกว่าคือสวิสเมืองไทยนั้นล่องแพชมทิวทัศน์รอบๆ กันได้ด้วยจ้า ไม่ใช่แค่จะมาเดินดูเฉยๆ อยากซึมซับแบบเจาะลึก แนะนำให้พกเต็นท์มานอนเสพธรรมชาติกันซักคืนสองคืนก็ยังได้ ตื่นเช้ามาแค่เปิดเต็นท์ก็จะเห็นไอหมอกขาวๆ ลอยเหนือผิวน้ำ พร้อมหงส์ขาวหงส์ดำแหวกว่ายไปมา ยิ่งหนาวๆ อย่างตอนนี้นะ บอกเลยว่ายิ่งใกล้เคียง!
อีกหนึ่งพิกัดที่คนอยากไปเมืองจีนสามารถแวะไปวอร์มกันก่อนได้ ก็คงต้องยกให้หมู่บ้านสันติชลในอำเภอปาย แม่ฮ่องสอนนี่ละ เพราะนี่คืออีกหนึ่งชุมชนชาวจีนยูนนานที่อพยพเข้ามาอยู่ในเมืองไทย โดยที่นี่มีการสร้างบ้านดินหน้าตาเรียบง่ายจำลองเอาไว้เป็นหมู่บ้าน มีป้อมกำแพงเมืองจีนจำลอง มีสนามให้ฝึกยิงหน้าไม้ มีชิงช้าสไตล์ยูนนาน มีร้านขายชา และที่พลาดไม่ได้คือการแวะมาชิมอาหารยูนนานที่อร่อยแบบห้ามคำนวณแคลอรี่ ใครคิดถึงเมืองจีนมาที่นี่ก่อนได้เลย
ถ้ามาเลเซียมีเมืองปีนังเป็นเมืองเก่าสุดคูลที่เดินดูก็เพลิน เดินเล่นก็สบาย ขอบอกว่าย่านเมืองเก่าสงขลาในไทย ก็นับเป็นพิกัดที่ให้ความชิลล์ไม่แพ้กัน ด้วยหน้าตาอาคารไม้สไตล์จีนเก่าแก่ หรือตึกปูนในรูปแบบชิโน-โปรตุกีสที่ยิ่งคลาสสิกเมื่อผ่านกาลเวลา แถมเดี๋ยวนี้ยังมีสตรีทอาร์ตน่ารักๆ ซ่อนตัวอยู่ตามกำแพงในจุดต่างๆ ให้ได้แวะถ่ายรูปเช็คอินกันด้วยอีก ปิดท้ายที่เริ่ดไม่แพ้กันก็คืออาหารสไตล์ท้องถิ่น ซึ่งมีเอกลักษณ์และหาชิมได้ยากจากที่อื่น คิดถึงปีนังลองปักหมุดเมืองเก่าสงขลานะ รับรองว่าชิลล์ไม่แพ้กัน
ใครติดใจความสวยของนาขั้นบันไดแห่งเมืองซาปาในเวียดนาม ต้องตามมาเช็คอินที่บ้านป่าบงเปียงแห่งนี้ เชื่อว่าจะไม่มีผิดหวัง เพราะแม้อาจจะไม่ได้อลังการเท่า แต่ก็บอกได้ว่าอยู่ในระดับคล้ายเคียงกันอย่างยิ่งเลยเชียวละ โดยเฉพาะถ้ามาในช่วงหน้าฝนซึ่งข้าวกำลังเติบโตเขียวพรึ่บครอบคลุมทั้งภูเขา จะแค่แวะมาเที่ยวถ่ายรูปเช็คอินก็ฟินเว่อร์ หรือจะมานอนโฮมสเตย์แบบสงบๆ ดื่มด่ำกับธรรมชาติให้จุกอกไปเลยก็ได้ แม้ในหน้าหนาวจะไม่มีข้าวเขียวๆ ให้ดู แต่ก็มีหมอกขาวๆ กับอากาศเย็นสบาย ใครชอบความสโลว์ไลฟ์หรือคิดถึงเมืองซาปา มาที่นี่ก่อนได้เลย
ถ้าคุณเป็นสายบุญที่เคยปลาบปลื้มความสวยสงบของวัดแบบเมียนมาร์ อยากแนะนำว่าความสวยของวัดจองคำ - จองกลาง สองวัดแฝดกลางเมืองแม่ฮ่องสอนแห่งนี้มีบรรยากาศใกล้เคียงกันกับต้นฉบับเลยเชียวละ ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ไทยใหญ่ที่ให้ความรู้สึกแปลกตา บวกกับทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ข้างหนองน้ำกว้างและภูเขาที่ให้ฟีลแบบสงบสบาย ไปไหว้พระที่เมียนมาร์ยังไม่ได้ ไปแม่ฮ่องสอนก่อนเลยจ้า เชื่อว่าน่าจะฟินในระดับใกล้เคียงกัน
คิดถึงบรรยากาศสวยสงบและเป็นส่วนตัวแบบมัลดีฟส์อยู่หรือเปล่า? เราเชื่อว่าต้องมีหลายคนหลายคู่เลยละที่มองหา หนึ่งในพิกัดที่อยากชวนให้คนคิดถึงมัลดีฟส์ได้เก็บไว้เป็นช้อยส์ก็คือเขื่อนศรีนครินทร์นี่ละ เพราะมีที่พักสไตล์รีสอร์ทซึ่งให้ฟีลเหมือนอยู่ในมัลดีฟส์ผุดขึ้นมาให้เลือกกันเยอะมาก แล้วถ้าตัดเรื่องความเป็นน้ำจืดน้ำเค็มออกไป ดูคร่าวๆ ก็คือใช่เลยละ อยากเล่นน้ำก็ทำได้ อยากพักผ่อนแบบสงบสบายและเป็นส่วนตัวก็ชิลล์มาก ในวันที่ยังบินข้ามฟ้ากันไม่ได้แบบนี้ มาที่นี่น่าจะคลายความคิดถึงมัลดีฟส์ได้ดีเลยเชียว
รู้ใช่มั้ยว่าเมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้ฉายาว่าเป็นแกรนด์ แคนยอน อยู่เยอะมาก และหนึ่งในพิกัดเหล่านั้นก็คือผาช่อนี่ละ ความโดดเด่นของที่นี่คือการเป็นผาดินขนาดใหญ่ที่สวยอลังการด้วยฝีมือเนรมิตของลมและฝนมานับล้านปี จนเกิดเป็นฉากยิ่งใหญ่ลวดลายแปลกตาเหมือนมีคนมาสร้างไว้ และแม้จะไม่ได้กินพื้นที่อาณาเขตกว้างใหญ่เหมือนอีกหลายที่ แต่ความสวยของผาดินที่นี่รับรองไม่แพ้ใคร ถ้าอยากได้แบ็คกราวนด์ถ่ายรูปแนวผจญภัยไม่จำเจ ผาช่อคืออีกหนึ่งทำเลที่ดี!
แค่ได้ยินฉายาว่าเป็น ‘กุ้ยหลินเมืองไทย’ ก็บอกถึงความละม้ายคล้ายกันของสองสถานที่นี้ได้แล้วละ จริงมั้ย? ทั้งกุ้ยหลินในจีนและกุ้ยหลินในไทยนั้นได้ชื่อว่าสวยเหมือนอยู่ในสวรรค์ ต่างกันนิดหน่อยก็ตรงที่ต้นฉบับในจีนนั้นเป็นภูเขาหินปูนที่อยู่บนแผ่นดินเป็นส่วนใหญ่ แต่กุ้ยหลินในบ้านเรานั้นเป็นภูเขาหินปูนที่มีน้ำสีฟ้าใสล้อมรอบเพราะอยู่ในพื้นที่เขื่อน ซึ่งก็ให้อารมณ์สบายๆ ไปอีกแบบนะ ถ้ามีเวลาลองปักหมุดที่นี่ดูจ้ะ รับรองว่าความสวยไม่เป็นรองของจริงอย่างแน่นอน
นี่คือพิกัดซึ่งมั่นใจว่าคนรักธรรมชาติต้องแฮปปี้ เพราะที่นี่คืออุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ความโดดเด่นที่หลายคนขนานนามว่านี่คือทุ่งสะวันนาของเมืองไทยนั้น คงต้องยกให้กับการเป็นทุ่งหญ้ากว้างที่มีป่าสนและต้นไม้สูงสลับแบบเบาบางอยู่เป็นระยะ อารมณ์แบบถ้าเป็นสะวันนาแท้ๆ คืออีกซักพักต้องเจอเสือหรือช้างแล้วละ แต่ที่ทุ่งแสลงหลวงนั้นเต็มที่ก็เจอสัตว์กินพืชประเภทกวางเท่านั้นจ้า ความเด็ดอยู่ตรงที่ว่าในช่วงเช้าหรือเย็นที่แสงดีๆ วิวที่นี่จะสวยมากกก บางวันมีหมอกบางๆ ลอยปกคลุมเพิ่มความอลังเข้าไปอีก คือดี!
หน้าหนาวแบบนี้ หลายคนคงคิดถึงช่วงเวลาที่เคยไปนอนชิลล์ในเรียวกัง แช่ออนเซ็นพร้อมนอนดูวิวข้างนอกเป็นภูเขาไฟฟูจิที่มีหิมะปกคลุม สุขสุดๆ เลยละ จริงมั้ย? แต่อย่าเพิ่งเศร้าไปที่โควิดมาทำให้คุณพลาดโมเม้นท์แบบนั้นในปีนี้ เพราะเมืองไทยก็มีฟูจิให้ชมกันจ้า แม้ว่าจะไม่ได้นอนแช่ออนเซ็นแล้วดู แต่ก็แฮปปี้อยู่นะ ว่าไม่ได้ ภูเขาที่เป็นเหมือนฟูจิแห่งเมืองไทยนั้นมีชื่อว่าภูหอ ซึ่งพิกัดที่ดีที่สุดของการมาชมวิวภูนี้คือการเดินทางขึ้นไปที่ภูป่าเปาะ ซึ่งจะมองเห็นวิวภูหออยู่ตรงหน้า เอาจริงๆ ก็คลับคล้ายคลับคลา ดูเผินๆ เหมือนฟูจิซังอยู่นะ ว่าไม่ได้เชียว!!
เกียวโตคืออีกหนึ่งเป้าหมายการเดินทางหลักๆ ของบรรดานักท่องเที่ยวชาวไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาวอย่างในช่วงนี้จะดีมาก หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยแพลนว่าจะเดินทางไปชมความงามของเกียวโตในช่วงปลายปี แล้วแผนก็กลับต้องพับไปเพราะโควิดบุกมา ไม่ต้องเสียใจนะ เพราะวัดนี้ช่วยคุณได้ ที่นี่มีทิวต้นไผ่สูงปรี๊ดเรียงรายอยู่สองฝั่งเป็นระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตรเลยละ ยังไงก็ไปซ้อมเก็บภาพที่นี่กันไว้ก่อนได้ ถ้าปีหน้าโควิด say goodbye จะได้มีท่าเด็ดๆ มุมดีๆ ไปถ่ายในสถานที่จริงกัน
ยังคงวนเวียนอยู่กับพิกัดจุดแวะเที่ยวที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในญี่ปุ่นอยู่ดี ก็เพราะเรารู้ว่านี่คือประเทศยอดฮิตที่หลายคนคิดถึงแน่ๆ และถ้าคุณเป็นหนึ่งในนั้น ปักหมุดไปชมซากุระเมืองไทยกันที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนกันก่อนได้เลย เพราะช่วงปลายปี ที่นี่จะสวยปิ๊งไปด้วยสีชมพูของดงดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งให้ฟีลเหมือนคุณได้ไปอยู่ในเทศกาลชมดอกไม้ในเมืองปลาดิบกันเลยละ ปีหน้าจะไปญี่ปุ่นได้หรือยังเราไม่รู้ แต่ปีนี้อยากชวนไปดูความสวยที่นี่กันก่อน รับรองว่าชิลล์
อีกหนึ่งพิกัดที่น่าจะทำให้สายบุญและสายมูทั้งหลายคลายความคิดถึงการเดินทางไปแสวงบุญที่เมืองเมียนมาร์ลง คือการไปกราบนมัสการองค์พระมหามัยมุนีที่จำลองแบบมาจากเมืองมัณฑะเลย์ในวัดนี้ เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้ย่างเท้าเข้ามา เชื่อเหอะว่ามันให้ฟีลลิ่งเหมือนได้วาร์ปข้ามมาเมียนมาร์ในทันใด เพราะวัดเก่าแก่อายุนับร้อยปีแห่งนี้สร้างขึ้นจากช่างฝีมือชาวเมียนมาร์ที่อพยพมาจากรัฐฉาน แถมรอบๆ ด้านยังมีวัฒนธรรมที่ให้ฟีลเหมือนไม่ได้อยู่ในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นภาษา อาหาร หรือผู้คนในท้องถิ่น นี่คือดินแดนเมียนมาร์ในไทยอย่างแท้ทรู!
‘ทัชมาฮาลเมืองไทย’ คือฉายาที่มีคนตั้งให้กับความอลังการของมัสยิดกลางสงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คหลักที่ต้องมาเช็คอินเมื่อมาถึงเมืองหาดใหญ่ แม้อาจจะไม่ได้เหมือนกันราวกับฝาแฝด แต่เชื่อว่าฟีลลิ่งของความน่าตื่นตาน่ะได้อยู่เลยละ ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกตอนเย็นจะฟินมาก เพราะมีแสงทไวไลท์สวยๆ เป็นแบ็คกราวนด์อยู่ด้านหลัง ใครชอบถ่ายรูปนะ นั่นคือช่วงเวลาที่ปังเว่อร์ ถ้ามีแพลนมาหาดใหญ่ ลองปักหมุดที่นี่เอาไว้เลย
ดอยอินทนนท์นั้นเต็มไปด้วยเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะสำหรับสายเทรกกิ้งที่คิดถึงการได้ไปเดินดูต้นไม้ใบหญ้าในอุทยานแห่งชาติอาลีซานของไต้หวัน เราเชื่อว่าที่ดอยอินทนนท์จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการให้คุณได้ ไม่ว่าจะเป็นความเขียวชุ่มชื้นในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติดอยอ่างกา หรือเส้นทางชมทิวทัศน์ตรงกิ่วแม่ปานที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ที่สำคัญคืออากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ใครเป็นสายนี้มาลุยเลย
คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายสำหรับที่นี่ เพราะเห็นกันชัดๆ อยู่แล้วว่าทุกอณูในพื้นที่คือญี่ปุ่นจ๋า! ไม่ว่าจะเป็นปราสาทที่สร้างจากไม้ฮิโนกิซึ่งเป็นหนึ่งในสนหอมที่หายาก หมู่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ปิดท้ายที่ทิวเสาโทริอิสีแดงสดจำนวนถึง 88 คู่ ไม่ต้องไปถึงเกียวโตก็มาใส่กิโมโนถ่ายรูปกับแนวเสาโทริอิของที่นี่ได้สบาย ชนิดที่หากคุณไม่บอกก็แทบไม่มีใครเอะใจเลยละว่าในรูปน่ะไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าที่นี่จะทำให้คุณคลายความคิดถึงแดนปลาดิบลงได้อีกเยอะเชียว
กำลังคิดถึงวิวสวยของทุ่งดอกไม้ในหน้าร้อนที่ฮอกไกโดอยู่หรือเปล่า? ถ้าใช่นะ เราแนะนำให้ปักหมุดมาที่นี่ด่วนๆ เลย เอาจริงๆ ก็เชื่อว่าในนาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่แล้วละ เพราะความสวยของทุ่งดอกไม้สารพัดสีที่มีผู้คนแวะมาเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ฟาร์มนี้ยืนหนึ่งในเรื่องการเป็นพิกัดที่ทุกคนอยากแวะมา ยิ่งอากาศช่วงนี้มีลมหนาวโชยเข้ามาทักทายแล้วนะ ยิ่งทำให้เที่ยวกันแบบสุดแฮปปี้ มาเชียงใหม่แล้วไม่แวะมาที่นี่คือพลาดนะ เอาจริง
แม้กัมพูชาจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้และเดินทางง่าย หากในช่วงที่โควิดยังไม่หมดไปแบบนี้ ต่อให้ใกล้แค่ไหนก็คงไม่มีโอกาสได้เข้าไปหรอกเนอะ แต่ไม่ต้องเสียใจไป เพราะปราสาทหินกลิ่นอายเขมรในบ้านเรานั้นมีให้แวะเช็คอินกันอยู่หลายแห่ง และหนึ่งในที่สุดของความยิ่งใหญ่ ก็คงหนีไม่พ้นปราสาทหินพนมรุ้งในบุรีรัมย์นี่ละ ใครมีแพลนไปเที่ยวกัมพูชาหลังหมดโควิด ควรมาที่นี่ซักครั้งนะ เชื่อว่าจะได้ฟีลผจญภัยในสไตล์ย้อนยุคไม่ต่างกัน
ถึงจะไม่ได้มีเสือชีต้า สิงโต แรด หรือม้าลายโผล่ออกมาให้ได้เห็นกัน แต่เขาใหญ่ก็มีโขลงช้าง กวาง หมี และสัตว์เล็กสัตว์น้อยอีกหลายชนิดให้เห็นได้พอตื่นเต้นเลยละ สำหรับคนที่อยากเพลินกับธรรมชาติแต่ไม่ชอบความลำบากลำบนจนเกินไป เขาใหญ่คือช้อยส์ที่ดีมาก เพราะเดินทางง่าย ค่าใช้จ่ายก็ไม่สูงเกินเอื้อม แถมยังเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ยิ่งลมหนาวโชยมาแล้วแบบนี้นะ ยิ่งทำให้การเที่ยวเขาใหญ่ชิลล์มาก อยากเที่ยวแบบง่ายๆ แต่ได้ฟีลสุดธรรมชาติ ปักหมุดเขาใหญ่ไว้ก่อนเลย
เนินทรายขนาดใหญ่ในมุยเน่นั้นนับเป็นพิกัดเด็ดที่หลายคนปักหมุดไว้ว่าต้องไป และในเมื่อโควิดมาดับฝันบรรดาคนรักการเดินทางกันคราวนี้ ใครอยากไปที่นี่แต่ไปไม่ได้ก็ไม่ต้องเซ็งจ้ะ แนะนำว่าให้ปักหมุดไปเมืองอุบลราชธานี เพราะที่นี่มีหาดหงส์ซึ่งเป็นเนินทรายขนาดใหญ่อยู่ริมแม่น้ำโขง อันเกิดจากตะกอนทรายที่สายน้ำพัดมากองรวมกัน ด้วยความที่กินพื้นที่กว้างพอประมาณ หลายคนจึงขนานนามให้เป็นทะเลทรายของเมืองไทย ถ้าอยากไปต้องวางแพลนได้แล้วนะ เพราะที่นี่จะเที่ยวได้เฉพาะช่วงหน้าแล้ง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นพฤษภาคมเท่านั้นจ้า อย่าคิดนาน
โรคโควิดที่ผ่านเข้ามา ถ้าจะมองหาข้อดี อย่างน้อยก็มีตรงที่ทำให้เรารู้จักสถานที่ต่างๆ ในบ้านตัวเองมากขึ้นละนะ หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่าบ้านเราก็มีสถานที่เที่ยวซึ่งให้ฟีลแบบอินเตอร์เยอะขนาดนี้ ไปเที่ยวเมืองนอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังไงช่วงนี้ปักหมุดเที่ยวไทยกันไปก่อนเลยจ้า อากาศหน้าหนาวดีขนาดนี้ แพ็คกระเป๋าแล้วออกเดินทางสิ จะรออะไร ไม่เที่ยวตอนนี้ ไม่รู้อีกกี่ปีจะมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ให้เราเที่ยวในราคาสบายๆ แถมไม่ต้องเบียดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างในปีนี้เด้อ ไปชิลล์กันเหอะ อย่ารอ!