มาสูดอากาศสดชื่นให้สุดปอดที่ลี่เจียง (Lijiang) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีทัศนียภาพสวยงามด้วย Landscape ที่อลังการเป็นหุบเขาที่มีเสน่ห์ผสมผสานวัฒนธรรมน่าซีกับธรรมชาติอันงดงาม เอาง่าย ๆ คือวิวยุโรปในราคาเอเชีย แถมยังไม่ต้องขอวีซ่าอีกด้วย ขอบอกว่าไปเที่ยวลี่เจียงด้วยตาตัวเองมัน ว้าว กว่าในรูปอีกนะ การเดินทางในจีนปัจจุบันก็ง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ๆ คุณจึงสามารถเที่ยวลี่เจียงได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้ายังไม่รู้จะไปไหนดี วันนี้เรามาแนะนำ 12 ที่เที่ยวในลี่เจียงไม่ว่าจะเป็นเมืองโบราณ ที่เที่ยวธรรมชาติ และจุดถ่ายรูปสวย ๆ ที่ไปแล้วอาจจะทำให้คุณหลงรักและอยากกลับไปอีกครั้ง
มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนเมืองโบราณในเซี่ยงไฮ้หรือแห่งอื่น ๆ ในจีน จนได้รับขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม จากองค์การ UNESCO ในปี 1997 ตัวเมืองมีแม่น้ำมังกรดำไหลผ่าน รวมถึงมีดอกไม้นานาชนิดที่ถูกปลูกอยู่ในทุกมุมเมืองเข้ากันได้ดีกับสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างสไตล์จีนโบราณ แนะนำให้มาตอนเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกจนถึงพลบค่ำ จะได้เห็นเมืองเก่าลี่เจียงเวอร์ชันแสงธรรมชาติ และเวอร์ชันตลาดกลางคืนที่ระดับด้วยแสงไฟทั้งเมือง ใครมีงบหน่อยก็อาจจะเช่าชุดจีนโบราณแล้วถ่ายรูป รับรองรูปออกมาสวยเหมือนย้อนยุคกลับไป 800 ปีที่แล้วเลยทีเดียว สุดท้ายที่นี่ยังเป็นที่ที่ควรซื้อของฝากจากลี่เจียงติดไม้ติดมือกลับมาด้วย
สายเที่ยวธรรมชาติถูกใจสิ่งนี้! เพราะคุณจะได้เห็นภูเขาหิมะขาวโพลนและธารน้ำแข็ง ตระการตาจนไม่อยากจะเชื่อว่าบินจากไทยแค่ไม่กี่ชั่วโมงจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้ คุณสามารถขึ้นมาที่ภูเขาหิมะมังกรหยกได้ด้วยการนั่งกระเช้าเพียง 15 นาที แต่ถ้าอยากขึ้นไปจุดชมวิวบนยอดสูงสุดแนะนำให้จองออนไลน์ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์ ไม่งั้นถ้าคุณ walk-in โดยไม่ได้จองมาก่อน อาจจะเก้อก็ได้ และเนื่องจากจุดชมวิวมีความสูงถึง 4,506 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงทำให้มีอากาศเบาบาง สามารถซื้อกระป๋องออกซิเจนได้ที่ตู้กดอัติโนมัติบริเวณที่ขึ้นกระเช้า ต้องสแกนจ่ายด้วย Alipay เท่านั้น
ทะเลสาปไป๋สุ่ยเหอตั้งอยู่ในอุทยานภูเขาหิมะมังกรหยก เป็นอีกหนึ่งแห่งที่พลาดไม่ได้ เพราะเป็นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติวิวอลังการ มีธารน้ำสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ซึ่งเกิดจากการไหลรวมตัวกันของน้ำแข็งท่ามกลางภูเขา และป่าสน โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาพระจันทร์สีน้ำเงินกับภูเขามังกรหยก มีจุดถ่ายภาพหลากหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก สะพานไม้ กับน้องจามรี (มีค่าใช้จ่าย) หรือพื้นน้ำอันเงียบสงบ ซึ่งถ้าหากว่าวันไหนฟ้าเปิด พื้นทะเลสาปก็จะสะท้อนเงาภูเขาให้ได้เก็บรูปสวย ๆ ดั่งภาพวาดที่ไม่มีอยู่จริง
อีกหนึ่งไฮไลท์ของการเที่ยวลี่เจียง เพราะการแสดงนี้กำกับโดยผู้กำกับชื่อดังของจีน ‘จาง อี้โหมว’ ที่แสดงกลางแจ้ง มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 3,000 เมตร พร้อมฉากหลังเป็นวิวภูเขาสุดอลังการตัดกับผาสีอิฐแดง Impression Lijiang เป็นการแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของชนเผ่าดั้งเดิมในลี่เจียงผ่านนักแสดงถึง 600 ชีวิตซึ่งเป็นชาวบ้านจริง ๆ ของเมืองลี่เจียง จัดแสดง 2 รอบต่อวันด้วยกัน คือรอบ 11.00 น. และ 13.00 น.
สระมังกรดำหรือเฮยหลงถานก็เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เพราะความสวยงามและแสดงถึงวัฒนธรรมของยูนนานได้ดีเยี่ยม เฮยหลงถานตั้งอยู่ในสวนสาธารณะยู้วฉวน (Yuquan Park) เพราะฉะนั้นนอกจากจะได้เห็นวิวอันเงียบสงบ พื้นน้ำนิ่ง พร้อมสถาปัตยกรรมจีนโบราณสไตล์ทิเบตและหน่าซีที่มีสีสดตัดกับสีของต้นไม้และภูเขา พร้อมภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลังแล้ว ถ้าคุณไปเที่ยวช่วงเช้า ๆ จะได้เห็นคนท้องถิ่นออกมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่นี่ เช่น รำไทชิ รำดาบ และออกกำลังกาย
คุณสามารถชมสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมชนชาวน่าซีได้ผ่านบรรยากาศและความสวยงามของเมืองโบราณซู่เหอ เมืองนี้เล็กกว่าเมืองเก่าลี่เจียงและคนน้อยกว่า จึงทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบ สงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มีคูน้ำไหลเย็นตลอดทั้งหมู่บ้านทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่วุ่นวายเหมือนเมืองอื่น ๆ นอกจากนั้นยังมีหลากหลายตัวเลือกร้านอาหารพื้นเมืองของลี่เจียงที่คุณไม่ควรพลาดอีกด้วย
ไป๋ซาเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของลี่เจียงในยุคราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์หยวน ตึกรามบ้านช่องที่นี่เรียกได้ว่าแทบไม่เปลี่ยนไปเลยจากหลายร้อยกว่าปีก่อน ดูมีความขลังกว่าที่อื่น ๆ ถ้าจินตนาการไม่ออกว่าสมัยก่อนบ้านคนจีนจะเป็นยังไงให้มาดูที่นี่ อย่างไรก็ตาม แม้จะคงดีไซน์จีนโบราณ ที่แห่งนี้ก็มีคาเฟ่ชิค ๆ วิวอลังการ เช่น ร้าน 7Sea ซึ่งเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตที่หลาย ๆ คนไปถ่ายรูปกัน เป็นเมืองสโลวไลฟ์ในจีนที่คุณควรไปปล่อยใจเดินเล่นซักครึ่งวัน
ตั้งอยู่ด้านนอกประตูทางเข้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ Heilongtan Park คุณสามารถเข้ามาซึมซับวัฒนธรรมดั้งเดิมของตงปา (Dongba) ของชนเผ่าน่าซี (Naxi) อย่างลึกซึ้งได้ที่นี่ เพราะมีทั้งโบราณวัตถุข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกขุดพบ และการจัดแสดงอัขระภาพอักษรตงปา ซึ่งเป็นภาษาที่ชาวน่าซีใช้ในยุคโบราณ มีลักษณะคล้ายอักษรอียีปส์โบราณแต่ดูซับซ้อนน้อยกว่า ปัจจุบันมีการใช้ภาษาตงปาเฉพาะในบริบททางศาสนาเท่านั้นเพราะทุกวันนี้ชาวน่าซีแทบอ่านภาษาตงปากันไม่ได้แล้ว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีคำอธิบายภาษาอังกฤษเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1 ชั่วโมงในการเยี่ยมชม
เวลาทำการ: 9.00 น. ถึง 17.00 น.
*เวลาเปิดทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้เช็ครายละเอียดก่อนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมตงปา
มีตำนานเล่าต่อ ๆ กันว่าที่ช่องเขานี้เคยมีเสือตัวหนึ่งกระโดดข้ามฝั่งตรงจุดที่แคบที่สุด หนีนายพรานจากการถูกล่า หุบเขาเสือกระโจนจึงเป็นที่มาของชื่อสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ คุณจะได้เห็นวิวธรรมชาติสุดยิ่งใหญ่เป็นหุบเขาขนาบ 2 ข้าง ซึ่งคือหุบเขาหิมะมังกรหยกและหุบเขาหิมะฮาปา พร้อมแม่น้ำแยงซีที่ไหลเชี่ยวกราดอยู่ตลอดเวลา ด้วยความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวในจีนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO มีเส้นทางสำหรับเดินชมวิวเลียบแม่น้ำแยงซีที่สามารถเดินได้อย่างสะดวกสบาย และมีบันไดเลื่อนสำหรับคนที่ไม่อยากเดินขึ้น-ลง แต่มีค่าบริการประมาณ 80 หยวน
สูดอากาศบริสุทธิ์ได้สุดปอดได้ที่ทะเลสาปล่าซือไห่ มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูงมากเนื่องจากเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูกาล อย่างไรก็ตามถ้าคุณมีแพลนเที่ยวลี่เจียงหน้าร้อน ก็ยิ่งเหมาะเลย เพราะทะเลสาปล่าซือไห่อากาศดี และไม่ร้อนเท่าบริเวณอื่น ๆ ในยูนนาน วิวธรรมชาติสวยงาม เงียบสงบ และยังเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของนกกว่า 65 สายพันธุ์ ในฤดูหนาวคุณจะพบกับนกกว่า 3,000 ชีวิตอพยพมาที่นี่! มากไปกว่านั้นยังมีกิจกรรมกลางแจ้งให้ทำเยอะมาก ซึ่งกิจกรรมยอดฮิตก็คือ พายเรือ ปั่นจักรยาน และ ตกปลา
ตั้งอยู่บนแนวสโลปของภูเขาหิมะมังกรหยก และห่างจากเมืองเก่าลี่เจียงเพียงแค่ 18 กิโลเมตร ผู้ที่อาศัยกลุ่มแรกคือผู้พิทักษ์พระราชวังและคนดูแลกวางของตระกูลมู่ ซึ่งเป็นผู้ปกครองชาวท้องถิ่นน่าซีในราชวงศ์หยวน ราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง มีแม่น้ำ Yuhu ที่เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาตัดผ่านหมู่บ้าน ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Dr. Joseph Rock นักพฤกษศาสตร์ชื่อดัง อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ร่วมกับชาวน่าซีเป็นเวลา 27 ปีเพื่อศึกษาพืชบนภูเขามังกรหยก บ้านส่วนใหญ่ถูกสร้างด้วยหินและไม้ เป็นความสวยแบบเรียบง่าย ที่ชาวน่าซีได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จริง ๆ มาพันปีแล้ว
โครงสร้างและการออกแบบมีความปราณีตตามมาตรฐานสิ่งก่อสร้างของจีนโบราณ ซึ่ง Layout คล้ายกับ Imperial Palace ที่ปักกิ่ง โดยมีอาคารหลักสูงประมาณ 20 เมตร มี 2 ชั้น และมีอาคารเล็ก ๆ รวมกว่า 20 หลัง พื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร นอกจากคุณจะได้ชื่นชมความอลังการของพระราชวังแล้ว ยังได้เห็นวิวเมืองโบราณอยู่ด้านล่างและมีภูเขาเป็นฉากหลังสุดลูกหูลูกตา
ร้านอาหารพื้นเมืองที่โด่งดังเรื่องเมนูกระดูกงหมู ซึ่งเมนูที่เราแนะนำสำหรับร้านนี้จะเป็นเมนูหม้อไฟกระดูกหมูรมควัน เพราะรสชาติและความนุ่มของเนื้อติดซี่โครงลงตัวกันดีกับน้ำซุปรสชาติกลมกล่อมหอมกลิ่นเครื่องเทศ พนักงานคอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ ตลอด และคอยแนะนำวัตถุดิบในเมนูอาหารต่าง ๆ ให้
คาเฟ่มีบรรยากาศสบาย ๆ และอบอุ่นนี้อยู่ในเมืองโบราณลี่เจียง เมนูอาหารจะเป็นอาหารฝรั่งสไตล์ตะวันตก แต่ความพื้นเมืองมันอยู่ที่กาแฟ! ที่นี่มีกาแฟยูนนาน (Yunnan Coffee) และชาเนยที่ได้รับอิธิพลมาจากทิเบต มีรสชาติเค็มจากเนยที่ทำจากนมควายและบาร์เลย์คั่ว ต้องลองมานั่งจิบพลางชมวิวเมืองโบราณที่นี่
อาหารหร่อยแทบจะทุกเมนู มีรสชาติเข้มข้นสไตล์จีน แนะนำให้สั่งทั้งเมนูต้มและผัดกระทะ เพื่อลองรสชาติหลากหลาย นอกจากจะรสชาติดีแล้ว ราคาอาหารไม่แรงเกินไป พนักงานบริการดีและเสิร์ฟอาหารไว โลเคชั่นดีอยู่ใกล้กับเมืองโบราณ
ระดับ: 3 ดาว (Homestay)
เหมาะกับ: ครอบครัว สายติดแกลม สายรักสงบ สายท่องเที่ยวธรรมชาติ
ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และสามารถเห็นวิวทะเลสาปได้จากหน้าต่างห้องพัก ห้องกว้าง ทำให้รู้สึกโปร่งสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแม้จะอยู่ห่างไกลกับตัวเมือง ยามค่ำคืนอากาศดี และเงียบสงบไร้ความวุ่นวาย ผู้เข้าพักต่างชื่นชมความหลากหลายของอาหารเช้า และความเป็นกันเองของพนักงาน
จุดเด่น:
ระดับ: 5 ดาว
เหมาะกับ: สายรักความสะดวกสบาย สายติดแกลม ครอบครัว
ประหนึ่งเหมือนได้อยู่ในวัง! เพราะโรงแรมแห่งนี้ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากพระราชวังจีนโบราณ ห้องกว้างและขึ้นชื่อเรื่องความสะอาด ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมาก สามารถเดินไปเมืองโบราณ Dukezong ได้เลย หรือจะชมวิวเมืองโบราณจากในห้องก็ได้ (บางห้อง) มีอาหารพื้นเมืองลี่เจียงให้เลือกสรรค์ยามเช้าอีกด้วย
จุดเด่น:
ระดับ: 3 ดาว
เหมาะกับ: ครอบครัว สายรักความสะดวกสบาย สายติดแกลม ครอบครัว
ห้องพักให้ความรู้สึกสว่างสดใส สะอาด และมีสไตล์ เป็นโรงแรมที่ค่อนข้างใหม่ ทั้งตัวห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จึงดูใหม่แบบไร้ที่ติ ใกล้กับเมืองโบราณในระยะเดิน แต่อย่างไรก็ตาม โรงแรมตั้งอยู่ในเขตชุมชน จึงมีบรรยากาศเงียบสงบ และพนักงานมีความเป็นกันเอง
จุดเด่น:
ถ้าถามว่าที่ลี่เจียงอากาศเป็นยังไง? จริง ๆ เป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพียงแต่ถ้าคุณมาเที่ยวในฤดูที่แตกต่าง คุณก็จะได้พบกับบรรยากาศและความสวยงามที่มีเสน่ห์ของตัวเองในแต่ละฤดู
ฤดูร้อน
ช่วงมิถุนายน ถึง สิงหาคม อากาศไม่ร้อนจนเกินไป อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 - 25 องศา แต่แดดแรงมาก เพราะฉนั้นควรทาครีมกันแดดเสมอเมื่อออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ธรรมชาติถูกแต่งแต้มด้วยสีเขียวขจี อาจมีฝนประปราย
ฤดูใบไม้ร่วง
ช่วงกันยายน ถึง พฤศจิกายน เริ่มหนาวขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิประมาณ 10 - 20 องศา เสน่ห์ของฤดูนี้คือใบไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองและสีแดง และยังเป็นฤดูเก็บเกี่ยวของลี่เจียงอีกด้วย
หน้านาว
ช่วงธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์ อากาศหนาวมาก และอาจต่ำกว่า 0 องศาในช่วงกลางคืน ใครอยากได้ฟีลสวิตเซอร์แลนด์ มาเที่ยวลี่เจียงเดือนธันวาคมได้เลย
ฤดูใบไม้ผลิ
ช่วงมีนาคม ถึง พฤษภาคม ช่วงนี้เย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 5 – 15 องศาเซลเซียส ดอกไม้นานาชนิดกำลังผลิบานทั่วทุกมุมเมือง เหมือนเดินอยู่ในสวนดอกไม้ เหมาะกับการออกไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง
บินตรงจากกรุงเทพไปยังสนามบินนานาชาติลี่เจียงซานยี่ (Lijiang Sanyi International Airport) มีสายการบินหลายสายที่ให้บริการ เช่น China Eastern Airlines, China Southern Airlines, และ Air China คุณสามารถค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกไปยังลี่เจียงได้ผ่าน Traveloka
- Amap ที่จีนจะไม่ค่อยใช้ Google Maps กัน บางสถานที่จึงไม่มีใน Google Maps และบางทีมีปักไว้ แต่ไม่ตรงกับความเป็นจริงซะงั้น เพราะฉะนั้นควรโหลดแอป Navigator ของจีนไว้ ซึ่งเราขอแนะนำ Amap เนื่องจากไม่ต้องมีเบอร์จีนก็ใช้ได้ และยังมีภาษาอังกฤษ สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว
- Alipay นอกจากเงินสดแล้ว แอป Alipay ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ชาวจีนใช้สแกนจ่ายแทบทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ของใช้ทั่วไป ตั๋วพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ และซื้อของออนไลน์
- DiDi ใช้เรียกแท้กซี่ในจีน ซึ่งจะทำงานคล้าย ๆ กับ Grab บ้านเรานั่นเอง