เซนได (Sendai) เมืองหลวงของจังหวัดมิยางิ (Miyagi) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เป็นเมืองที่แสนสงบสุข และเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกอยากมาดูด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้ง! เพราะเซนไดผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับธรรมชาติอันสงบอย่างลงตัว ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองแห่งต้นไม้” เพราะเต็มไปด้วยต้นไม้ ไม่ว่าจะมาเที่ยวฤดูอะไรก็ฟินได้กับเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ และกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวหลาย ๆ กลุ่มทั่วโลก ตั้งแต่ธรรมชาติอันงดงาม เช่น สวนซากุระที่ฟุนาโอกะ โจชิ (Funaoka Joshi Park) ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ช่วงมีนาคมถึงเมษายน) และอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) หนึ่งในวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ไปจนถึงเทศกาลท้องถิ่นที่มีสีสันอย่าง Sendai Tanabata Festival ที่จัดในเดือนสิงหาคม ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาเราลิสต์ไว้ให้คุณหมดแล้ว!
ปราสาทอาโอบะเป็นจุดท่องเที่ยวประวัติศาสตร์สำคัญในเซนได ที่เที่ยวแห่งนี้สร้างโดยไดเมียวชื่อดัง “ดาเตะ มาซามุเนะ” ในศตวรรษที่ 17 แม้ตัวปราสาทจะเหลือเพียงฐาน แต่จุดชมวิวบนเนินเขานั้นงดงามมาก มองเห็นเมืองเซนไดแบบพาโนรามา พร้อมรูปปั้นมาซามุเนะขี่ม้าเป็นแลนด์มาร์กที่ต้องถ่ายรูป สถานที่นี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เหมาะกับผู้ที่สนใจที่เที่ยวด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: 9.00 น. ถึง 17.00 น. (ถึง 16.00 น. ช่วงพฤศจิกายนถึงมีนาคม)
ค่าเข้าชม:
ที่เที่ยวเซนไดสุดอลังการ จุดเด่นคือมีรูปปั้นพระโพธิสัตว์ไดคันนงขนาดยักษ์ สูงถึง 100 เมตร นับเป็นหนึ่งในรูปปั้นสูงที่สุดในโลก สามารถเข้าไปชมด้านในและขึ้นลิฟต์เพื่อชมวิวเมืองเซนไดจากด้านบนได้ ด้านในมีรูปปั้นเทพเจ้าและภาพวาดทางพุทธศาสนา ภายนอกสงบร่มรื่น เหมาะแก่การเดินเล่นและถ่ายภาพสวย ๆ เป็นจุดเช็คอินสำคัญของที่เที่ยวเซนได
เวลาเปิด-ปิด: 10.00 น. ถึง 15.00 น.
ถนนคนเดินยอดนิยมใจกลางเมืองเซนไดที่เต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่น คาเฟ่ และร้านอาหารท้องถิ่นมากมาย คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน มีทั้งร้านแบรนด์ดังและแบรนด์ท้องถิ่นของญี่ปุ่น เหมาะสำหรับสายช้อปและสายกิน นอกจากนี้ยังสามารถเดินทะลุไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอื่น ๆ ได้ง่าย นอกจากนี้ช่วงเดือนสิงหาคมยังมีเทศกาลทานาบาตะในทุก ๆ ปี โดยร้านค้าในถนนคลิสโรดจะร่วมใจกันระดับโคมที่มีลวดลายสวยงามเอาไว้หน้าร้าน เป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของเมืองเซนไดที่มีมาช้านาน ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองเซนไดที่ครบเครื่อง
เวลาเปิด-ปิด: 9.00 น. ถึง 22.00 น.
สุสานสไตล์ญี่ปุ่นโบราณอันงดงามของ "ดาเตะ มาซามุเนะ" ผู้ก่อตั้งเมืองเซนได รายล้อมด้วยป่าเขาและบรรยากาศเงียบสงบ ตัวอาคารตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงด้วยสีทองและลวดลายแบบ Momoyama เป็น ที่เที่ยวที่เหมาะกับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ นอกจากนี้ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี บริเวณนี้จะยิ่งงดงามด้วยสีสันจากธรรมชาติ เหมาะสำหรับถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอย่างยิ่ง
เวลาเปิด-ปิด: 9.00 น. ถึง 16.50 น. (เปิดถึง 16.20 น. ในเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม)
ค่าเข้าชม: 570 เยน
กินซังออนเซ็นได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก! ด้วยเสน่ห์ของหมู่บ้านออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นโบราณที่ตั้งอยู่ในหุบเขา ท่ามกลางแม่น้ำและอาคารไม้ย้อนยุค มีบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก โดยเฉพาะหน้าหนาวเมื่อหิมะปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้าน เป็นภาพที่สวยดั่งหลุดออกจากอนิเมะยังไงยังงั้น เป็นที่เที่ยวสำหรับการพักผ่อนแบบสงบสุขและฮีลใจไปกับการใช้ชีวิตอย่างช้า ๆ
ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นโดยดาเตะ มาซามุเนะ (Date Masamune) เพื่อบูชาเทพเจ้า Hachiman ซึ่งคือเทพเจ้าแห่งสงคราม ถือเป็นมรดกสำคัญของเมืองเซนได และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาติ ตัวอาคารตกแต่งด้วยสีดำทองสไตล์ Momoyama ตั้งอยู่ในป่าธรรมชาติร่มรื่น เป็นศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในการขอพรเรื่องชัยชนะและความร่ำรวย สายมูห้ามพลาดเด็ดขาด!
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
การเดินทาง: สถานี Sendai แล้วต่อรถบัสประมาณ 5-10 นาที (แล้วแต่สายที่นั่ง)
สวนสาธารณะบนเนินเขาซึ่งเป็นจุดชมวิวและจุดชมซากุระชื่อดังของเซนใดในฤดูใบไม้ผลิ อีกทั้งยังงดงามในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีด้วย ที่เที่ยวแห่งนี้เงียบสงบ ไฮไลท์ของที่นี่คือเคเบิลคาร์ที่สามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมือง นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์และพื้นที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว ใครที่ไปเที่ยวเซนไดในฤดูใบไม้ผลิ ห้ามพลาดโอกาสการชมเมืองเซนไดที่เต็มไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระที่สวนสาธารณะฟุนาโอกะ โจชิเด็ดขาด!
หนึ่งในที่เที่ยวเซนไดและจังหวัดมิยางิที่โด่งดังไปทั่วโลก หมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยจิ้งจอกกว่า 100 ตัว เดินเล่นอย่างอิสระในพื้นที่ธรรมชาติ ผู้เข้าชมสามารถถ่ายรูปและชมความน่ารักของพวกมันอย่างใกล้ชิด บางฤดูกาลยังสามารถให้อาหารได้ เป็นที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่มีหิมะตก และถึงแม้ว่าน้อง ๆ จิ้งจอกจะมีหน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู และมีขนฟูฟ่องน่าจับ แต่ก็อย่าลืมว่าน้อง ๆ เป็นสัตว์ป่า ทางหมู่บ้านจึงมีป้ายติดไว้เป็นระยะว่าไม่ควรจับน้อง และให้ดูแลความปลอดภัยของตัวเองด้วย
เวลาเปิด-ปิด: 9.00 น. ถึง 16.00 น.
หนึ่งในเทศกาลฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูมิภาค Tohoku ที่จัดขึ้นทุกเดือนสิงหาคมในเมืองเซนได ซึ่ง “ทานาบาตะ มัตสึริ” แปลว่า "เทศกาลแห่งดวงดาว" โดยจุดเด่นอยู่ที่การประดับประดาถนนด้วยโคมมีที่ริบบิ้นสีสันสดใสที่ยาวประมาณ 3-5 เมตร พริ้วไหวไปตามสายลม แขวนไว้กับไม้ไผ่ตามร้านค้า สร้างบรรยากาศคึกคักทั่วเมือง เป็นเทศกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละ 2 ล้านคนจากทั่วโลก เป็นที่เที่ยวช่วงหน้าร้อนที่ไม่ควรพลาด
เวลาดอกไม้ไฟ: 19.15 น. ถึง 20.30 น. (วันที่ 5 สิงหาคม)
ตรอกเล็ก ๆ สไตล์ย้อนยุคที่เต็มไปด้วยร้านกินดื่มสไตล์อิซากายะมากมาย ให้ความรู้สึกแบบญี่ปุ่นยุคโชวะ ทำให้ได้สัมผัสวิถีชีวิตกลางคืนของเซนไดอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่ม กินอาหารพื้นเมือง และพบปะผู้คนในบรรยากาศแบบท้องถิ่นแท้ ๆ ร้านชื่อดังของบุงกะ โยโคโชที่ไม่ควรพลาดคือ ร้านเกี๊ยวซ่า Chaotzu
อ่าวที่มีเกาะเล็ก ๆ กว่า 260 เกาะล้อมรอบ เป็นหนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น (Nihon Sankei) และของจังหวัดมิยางิ เหมาะกับการล่องเรือ ชมพระอาทิตย์ตก และเยี่ยมชมวัดเก่าแก่ริมอ่าว บรรยากาศสงบและงดงามตลอดปี โดยเฉพาะฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่เพิ่มเสน่ห์เข้าไปอีกขั้น
ตลาดเก่าแก่กว่า 80 ปี ใจกลางเมืองเซนไดที่เต็มไปด้วยอาหารทะเลสด ผักผลไม้ ของฝาก และอาหารท้องถิ่นมากมาย เหมาะสำหรับสายกินและนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น ตลาดนี้ยังมีเมนู “ลิ้นวัวย่าง” ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อประจำเมือง
เวลาเปิด-ปิด: 6.00 น. ถึง 12.00 น.
การเดินทาง: เดินประมาณ 10 นาทีจากสถานี JR Takayama
ถนนที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีเรียงรายสองข้างทาง เป็นที่เที่ยวที่โด่งดังของเมืองเซนไดโดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาวที่ประดับไฟอย่างงดงาม เป็นถนนที่จัดงานเทศกาลหลายงาน เช่น Pageant of Starlight และ Sendai Jazz Festival เป็นสถานที่ที่แสนเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ที่ผสมผสานธรรมชาติและศิลปะไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่จัดแสดงสัตว์ทะเลจากภูมิภาคโทโฮคุมากกว่า 100 สายพันธุ์ อีกทั้งยังมีโชว์โลมา และโชว์แมวน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮกุ และกิจกรรมสำหรับครอบครัวมากมาย เช่น สัมผัสเพนกวิน และแมวน้ำ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้เป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวและคู่รัก แนะนำให้ไปเที่ยวในวันธรรมดา
เวลาเปิด-ปิด: 9.00 น. ถึง 17.30 น.
ค่าเข้าชม:
เป็นพิพิธภัณฑ์สำคัญที่เก็บรักษาวัตถุโบราณและเอกสารเกี่ยวกับดาเตะ มาซามุเนะ และประวัติศาสตร์ของเมืองเซนได ตัวอาคารอยู่ใกล้กับปราสาทอาโอบะ ทำให้สามารถวางแผนเที่ยวร่วมกันได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของเมืองเซนไดที่ลึกซึ้งกว่าแค่ชมวิว
เวลาเปิด-ปิด: 09:00-16:45 *ปิด วันจันทร์และวันธรรมดา หลังวันหยุดนักขัตฤกษ์
ค่าเข้าชม: 460 เยน
ร้านเมนูย่างไฟแบบดั้งเดิมที่มีบรรายากาศหรูหรา คุณจะได้เห็นเชฟย่างเมนูที่คุณสั่งตรงบริเวณกองไฟซึ่งเป็นครัวแบบเปิดของร้าน การประกอบอาหารแบบนี้เป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นมาช้านาน นอกจากนั้นก็ยังมีเมนูน่าสนใจอื่น ๆ เช่น หม้อไฟ เมนูที่เราแนะนำคือ ปลาย่างเกลือ ทานคู่กับเบียร์ ฟินได้อีก!
ร้าน Tanya Zenjirou เป็นร้านที่ทำเมนูขึ้นชื่อของเมืองเซนไดอย่าง ลิ้นวัว ออกมาได้อย่างลงตัวมาก ๆ ชิ้นใหญ่ หนึบ มีความกรึบนิด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเมนูลิ้นวัวย่าง หรือสตูว์ลิ้นวัวก็ดีไปหมด สำหรับคนที่ไม่ทานลิ้นวัว ส่วนเมนูอื่น ๆ ก็อร่อยเช่นกัน เช่น สเต๊ก สลัด และไส้กรอกย่าง
เวลาเปิด-ปิด: 11.00 น. ถึง 22.30 น.
การเดินทาง: สถานี JR Sendai แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
ระดับ: 4 ดาว
เหมาะกับ: ครอบครัว สายชอบความสะดวกสบาย สายชอบอยู่ในตัวเมือง คนที่ไม่ได้เช่ารถเที่ยว
โรงแรมตั้งอยู่ในทำเลดีมาก เพราะอยู่ในสถานี Sendai เลย หาเจอได้ไม่ยาก สะดวกสบาย ใกล้ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารจำนวนมาก ห้องสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย วิวสวย มีเลานจ์ให้นั่งพักผ่อนชมวิวเมือง พนักงานดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
Japan
Hotel Metropolitan Sendai East
Wakabayashi-ku
See Price
ระดับ: 3 ดาว
เหมาะกับ: ครอบครัว สายชอบความสะดวกสบาย สายชอบอยู่ในตัวเมือง คนที่ไม่ได้เช่ารถเที่ยว
ห้องพักสะอาดและเป็นระเบียบถึงแม้จะมีพื้นที่ให้ใช้สอยน้อย ราคาไม่แพง สามารถเดินทางสะดวก เพราะติดกับสถานีรถไฟ และห้าง ติดกับโรงแรมมีตลาดปลาในตอนเช้า พนักงานสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และมีตัวเลือกอาหารที่หลากหลาย
Japan
Sotetsu Fresa Inn Sendai
Aoba-ku
See Price
ระดับ: 4 ดาว
เหมาะกับ: คู่รัก สายคอนเทนต์ สายรักความสงบ สายแช่ออนเซ็น สายติดแกลม
ที่พักสไตล์เรียวกังแบบโมเดิร์น กว้างขวาง ดีไซน์ห้องพักอย่างสวยงามโดยไม่ทิ้งวัฒนธรรมของญี่ปุ่น มีออนเซ็นหลายบ่อ ทั้งในร่มและกลางแจ้ง อาหารอร่อยโดยเฉพาะเมนูขึ้นชื่ออย่างลิ้นวัว พนักงานเป็นมิตรและคอยให้ความช่วยเหลือ อยู่ใกล้ร้านสะดวกซื้อ และมี Shuttle Bus รับ-ส่งจากสถานี Sendai
Japan
TAOYA Akiu
Shibata-gun
See Price
สามารถบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังเซนไดได้เลย โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง จากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ (BKK) ลงจอดปลายทาง ณ สนามบินนานาชาติเซ็นได (Sendai International Airport)
ขนส่งสาธารณะ (รถบัส) อาจมีรอบโดยสารต่อวันน้อย ผู้ที่ไปเที่ยวกับครอบครัว แนะนำให้เช่ารถ เพื่อที่จะได้ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ตามเวลาที่คุณสะดวกโดยไม่ต้องอิงรอบรถ หรือบางทีอาจจะมีจำนวนคนหนาแน่นเกินไปจนไม่สามารถใช้บริการได้ เพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
Tue, 19 Aug 2025
HK Express
Bangkok (BKK) to Sendai (SDJ)
Start from THB 5,803.48
Wed, 20 Aug 2025
Peach Airline
Osaka (KIX) to Sendai (SDJ)
Start from THB 1,655.66
Thu, 21 Aug 2025
Peach Airline
Nagoya (NGO) to Sendai (SDJ)
Start from THB 2,102.69
สุดท้ายนี้ ถ้าคุณชอบเซนได คุณน่าจะหลงรักเมืองที่มีกลิ่นอายคล้ายกัน เช่น เกียวโต เมืองเก่าแก่สงบ ๆ ที่มีสวนญี่ปุ่นชื่อดังและวัดเก่าแก่, นารา เมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยน้องกวาง เหมาะกับสายธรรมชาติและวัฒนธรรม, หรือ คุราชิกิ เมืองคลองย้อนยุคบรรยากาศอบอุ่นไม่พลุกพล่าน นอกจากนี้ นิกโก้ ก็เหมาะมากสำหรับคนรักธรรมชาติ แถมยังเป็นมรดกโลกที่อยู่ใกล้โตเกียว