แนะนำอาหารการกิน ที่ควรกินในช่วงยุคโควิด-19 นี้

Pakapron Pathomsuntronchai
06 Sep 2021 - 3 min read

โควิด-19 ไม่ใช่แค่เพียงโรคระบาดที่ทำให้โลกต้องหวาดกลัวเท่านั้น แต่ยังเป็นโรคที่เข้ามาเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคนอย่างสิ้นเชิงเลยเชียวละ ทั้งการเดินทาง การอยู่ร่วมกับคนที่เรารัก หรือแม้กระทั่งอาหารการกินที่ต้องหันมาคัดสรรกันมากกว่าเดิม เมนูโปรดหลายอย่างที่เราเคยกินได้ตามใจก็อาจจะต้องหันหลังให้กันซักระยะ ในขณะที่อาจจะต้องกลับมาใส่ใจกับบางเมนูที่เราหลงลืมละเลยไป และที่ขาดไม่ได้ก็คงเป็นอาหารซึ่งจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้พร้อมรับมือกับเชื้อโรคทั้งหลาย ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันได้เลย!

อาหารที่ควรกินในยุคโควิด-19

1. เนื้อสัตว์

อัตราส่วนที่เหมาะสมของปริมาณเนื้อสัตว์ที่ควรกินต่อวันนั้น คือเนื้อสัตว์ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัวของคุณ 1 กิโลกรัม นอกจากจะให้โปรตีนสูงแล้ว เนื้อสัตว์ส่วนใหญ่ยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายชนิดเลยละ ในเนื้อสัตว์ส่วนใหญ่ยังมีวิตามินบี 12 ซึ่งจะช่วยในการผลิตและเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่ทางที่ดีควรเลือกกินเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันเป็นหลักนะ ในเนื้อไก่และปลายังพบธาตุเหล็กและสังกะสีซึ่งช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ที่จะช่วยฆ่าเชื้อโรคโดยการเพิ่มจำนวนของอนุมูลอิสระ และยังควบคุมปฏิกิริยาของเอนไซม์ที่จำเป็นสำหรับเซลล์ภูมิคุ้มกัน ในการรับรู้ จดจำ และกำหนดเชื้อโรคเป้าหมายได้อีกด้วย

2. อาหารทะเล

ในปลาทะเลนั้นมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ มีกรดอะมิโนที่จำเป็นซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย อีกทั้งยังมีกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3 เช่น กรดไขมัน EPA ซึ่งจะช่วยป้องกันการจับตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดี มีกรดไขมัน DHA ซึ่งจำเป็นต่อคนทุกวัย ในปลาบางชนิดอย่างปลาแซลมอนยังให้วิตามินเอและวิตามินดีที่ค่อนข้างสูง ซึ่งจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย ส่วนในหอยนางรมก็ยังมี Zinc หรือสังกะสี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีซีลีเนียม วิตามินบี และทองแดง ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อปอด ช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกัน และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ต่างๆ ได้อีกด้วย

3. ไข่ไก่

ไข่ไก่คืออาหารหารที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้ชนิดขนาดไม่ได้ เพราะเป็นแหล่งโปรตีนในราคาย่อมเยา ซื้อหาง่าย และยังมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกรดอะมิโนถึง 9 ชนิด มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี2 บี 3 บี 6 บี 12 ธาตุเหล็ก และเลซิติน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงให้ภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังช่วยบำรุงสมอง ระบบประสาท เพิ่มขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ช่วยบำรุงสายตา และยังช่วยให้การผลิตเม็ดเลือดแดงเป็นไปได้อย่างปกติ ยุคโควิดแบบนี้ ไข่จึงเป็นเมนูที่ต้องมีติดบ้านไว้เลย

4. กินไขมันที่ดีต่อสุขภาพ

เพราะการที่ต้อง WFH อาจทำให้เราได้ขยับเขยื้อนใช้พลังงานในชีวิตประจำวันกันน้อยลง อาหารที่มีส่วนประกอบของกรดไขมันอิ่มตัวสูงซึ่งมักพบจากไขมันของสัตว์ เนย ชีส น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว ของทอด และอาหารประเภทเบเกอรี่ จึงเป็นสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยง และควรหันมาเลือกกินอาหารซึ่งมีไขมันดีเป็นส่วนประกอบ เช่น อะโวคาโด ถั่ว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันคาโนลา น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด และที่ลืมไม่ได้คือน้ำมันมะกอก ซึ่งมีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะคุณสมบัติในการช่วยการไหลเวียนของโลหิต และน้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์ยังออกฤทธิ์คล้ายกลุ่มยาลดการอักเสบ เช่น แอสไพรินหรือไอบูโพรเฟนได้อีกด้วย นอกจากนั้น ยังมีไขมันดีในปลา ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินเอ ที่จะช่วยรักษาสภาพโครงสร้างของเซลล์ในผิวหนังและทางเดินหายใจให้แข็งแรงได้อีกทางหนึ่ง

5. ผัก - ผลไม้

ควรเลือกกินผักและผลไม้หลากหลายสี เพราะในผักและผลไม้จะมีวิตามินซึ่งช่วยกระตุ้นและเสริมการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม ซึ่งเป็นกระบวนการทางเคมีที่ช่วยแปลงอาหารเป็นพลังงาน เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย แต่ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสหวานจัด เนื่องจากน้ำตาลในปริมาณสูงๆ นั้นอาจเข้าไปกดการทำงานของภูมิคุ้มกันร่างกายได้ โดยผักและผลไม้แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น

ฟักทอง มีแคโรทีนอยด์ เบต้าแคโรทีน ลูทีน และซีแซนทีน ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพปอดให้ทำงานได้ดี และในเมล็ดฟักทองยังมี Zinc ซึ่งช่วยเพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นอีกด้วย
แอปเปิ้ล มีใยอาหาร วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระสูง
พริกหวาน โดยเฉพาะสีเขียวและสีแดง นับเป็นแหล่งวิตามินซีชั้นดี และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น
มะเขือเทศ มีสารไลโคปีน อันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของทางเดินหายใจในผู้ที่เป็นโรคหอบหืด และช่วยเรื่องการทำงานของปอดในผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
ผักใบเขียวต่างๆ ล้วนมีวิตามินบีในปริมาณสูง โดยเฉพาะวิตามินบี 6 และบี 9 ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการผลิตและเสริมสร้างการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิด natural killer cells ซึ่งทำหน้าที่ทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อโรคในร่างกายให้แตกสลายไป
มะม่วงสุก แม้จะเป็นผลไม้ที่มีรสหวานจัด แต่ในมะม่วงสุกนั้นยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ และมีรายงานว่าโครงสร้างทางโมเลกุลของมะม่วงสุก อาจจะมีส่วนช่วยในการบล็อกการแบ่งตัวของไวรัสได้
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ โดยส่วนใหญ่มักจะมีวิตามินซีซึ่งเป็นตัวช่วยในการเพิ่มภูมิคุ้มกันและยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะในผลเอลเดอร์เบอร์รี่ (Elderberry) ซึ่งจะเต็มไปด้วยกรดอะมิโนรูติน เคอเซติน วิตามินเอ บี และซี อีกทั้งยังมีสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และยังมีส่วนช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งในวงการแพทย์นั้นนำผลไม้ชนิดนี้มาสกัดเอาสารที่มีประโยชน์ทั้งหลายไปใช้ในการผลิตยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไวรัสเริม โดยเชื่อว่าจะช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อไวรัสในร่างกาย ลดการอักเสบ และยับยั้งการหลั่งของสารก่อการอักเสบในร่างกายได้

6. ธัญพืชต่างๆ

เมล็ดธัญพืชไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี ข้าวกล้อง ข้าวบาเล่ย์ รวมถึงถั่วชนิดต่างๆ ซึ่งไม่ผ่านการขัดสีหรือแปรรูปนั้น เป็นอาหารที่มีเส้นใยสูง มีวิตามินเอ วิตามินบี 6 บี 9 และบี 12 มีวิตามินอี ซีลีเนียม ธาตุเหล็ก สังกะสี และกรดไขมันที่จำเป็นต่างๆ มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่นั้นทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และยังเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อปอดอีกด้วย

7. โยเกิร์ต

ในโยเกิร์ตส่วนใหญ่นั้นอุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นแลคโตบาซิลัส แอซิโดฟิลัส รวมถึงยังมีทั้งโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ ซึ่งช่วยดูแลลำไส้และระบบย่อยอาหาร ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวให้ช่วยในการป้องกันและกำจัดเชื้อโรคแปลกปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

8. สมุนไพรไทย

เป็นที่รู้กันมานานแล้วว่าสมุนไพรไทยนั้นเป็นพืชซึ่งมีคุณประโยชน์มหาศาล และยิ่งมาเห็นศักยภาพกันชัดขึ้นไปอีกในช่วงนี้ สมุนไพรไทยนั้นมีมากมาย และบางส่วนยังใช้เป็นวัตถุดิบที่ช่วยเพิ่มรสชาติในมื้ออาหารได้อย่างอร่อยจับใจ หลายอย่างนับเป็นยาที่เจอและกินได้ในเกือบทุกมื้อของอาหารไทยเลยเชียวนะ อาทิ

กระชายขาว อุดมไปด้วยสาร panduratin ซึ่งมีฤทธิ์ต้านไวรัสทั้งในระยะก่อนและหลังการติดเชื้อ อีกทั้งยังพบว่ามีสรรพคุณช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสโควิด-19 ได้อีกด้วย นอกจากนั้นสารสกัดจากกระชายยังมีฤทธิ์ช่วยต้านอาการหวัด ช่วยต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด การกินกระชายขาวนั้นควรนำไปผ่านความร้อนให้สุกก่อน หากต้องการทำน้ำกระชายควรใช้วิธีนำไปต้มให้สุกมากกว่าการปั่นและคั้นน้ำกินแบบสดๆ แต่หากจะให้ได้รับคุณประโยชน์แบบเต็มที่ ควรกินสารสกัดจากกระชายซึ่งจะให้สรรพคุณที่มากกว่าการกินกระชายในรูปแบบอาหารหลายเท่าตัว
ขิง เป็นสมุนไพรคู่ครัวไทยอีกชนิดที่นอกจากจะมีรสเผ็ดร้อนซู่ซ่าถึงใจแล้ว สารประกอบสำคัญในขิงอย่าง Zingerol และ Gingerol ยังอาจมีฤทธิ์ที่ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสได้ นอกจากนั้นในขิงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ลดอาการไอ และช่วยขับเสมหะได้เป็นอย่างดี โดยการกินขิงแบบสดนั้นจะให้สรรพคุณที่เต็มที่กว่าขิงแห้ง
กระเทียม เป็นสมุนไพรคู่ครัวไทยที่เชื่อว่าทุกบ้านต้องมี กระเทียมมีฤทธิ์ลดการอักเสบ ส่งเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาว ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยสาร allicin และ sulfides ในกระเทียม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของ B-cell lymphocyte รวมทั้งกระตุ้นการหลั่งของสาร interferon ซึ่งเป็นสารที่สร้างในระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต้านไวรัส โดยบางงานวิจัยยังระบุว่ากระเทียมอาจช่วยป้องกันอาการหวัดได้อีกด้วย
มะขามป้อม หลายคนอาจรู้จักสรรพคุณในแง่ของความชุ่มคอชื่นใจ แก้กระหายน้ำ นอกจากนั้นมะขามป้อมยังมีฤทธิ์บรรเทาอาการไอ ละลายเสมหะ ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และยังอาจช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสได้ อีกทั้งมะขามป้อมยังเป็นสมุนไพรที่มีวิตามินซีสูงมาก จึงสามารถช่วยป้องกันอาการหวัดได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน
ขมิ้นชัน สมุนไพรพื้นบ้านซึ่งมีสีสันเป็นเอกลักษณ์สะดุดตาและพบได้ในหลายเมนูอาหารไทย โดยเฉพาะอาหารปักษ์ใต้ มีงานวิจัยที่พบว่าสารประกอบในขมิ้นชันนั้นช่วยลดการอักเสบของปอดที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอได้ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสที่จะเข้าสู่ปอด รวมถึงช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อีกด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่บางส่วนของอาหารที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานในยุคโควิด-19 แบบนี้ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีร่างกายที่แข็งแรงและไม่พลาดพลั้งให้กับเชื้อไวรัสหรือเชื้อโรคอื่นๆ ได้ง่ายๆ ที่สำคัญคืออย่าลืมกินอาหารที่ผ่านความร้อนในการปรุงให้สุกก่อนทุกครั้ง และควรเป็นอาหารที่ทำขึ้นอย่างสดใหม่ ที่สำคัญคือควรแบ่งสำรับอาหารสำหรับแต่ละคนโดยไม่กินปะปนกัน ในยุคโควิดแบบนี้ การกินก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้ เพราะคำว่า You are what you eat ยังใช้ได้ผลเสมอ!

Hotels
Flights
Things to Do
Always Know the Latest Info
Subscribe to our newsletter for more travel & lifestyle recommendations and exciting promos.
Subscribe