หากพูดถึงประเทศญี่ปุ่น สถานที่แรก ๆ ที่มักจะลอยมาในใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกคงหนีไม่พ้น ภูเขาไฟฟูจิ หรือ ภูเขาไฟฟูจิซัง (Mount Fuji) ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความสูงกว่า 3,776 เมตร ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังของธรรมชาติที่งดงามรอบด้านจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 2013 แต่นอกเหนือจากจุดถ่ายรูปฟูจิสวย ๆ ยังมีที่เที่ยวรอบภูเขาฟูจิมากมายที่น่าสนใจและตอบโจทย์นักท่องเที่ยวแทบทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายธรรมชาติ สายชิล สายถ่ายรูป หรือแม้กระทั่งสายแอดเวนเจอร์
นอกจากความงดงามของธรรมชาติแล้ว รอบภูเขาฟูจิยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เหมาะสำหรับการไปเที่ยวแบบ One Day Trip หรือจะค้างคืนก็ยิ่งดี เพราะจะได้สัมผัสฟูจิทั้งกลางวันและยามเช้าแบบใกล้ชิด ซึ่งสามารถไปเที่ยวได้ทุกช่วงฤดู ไม่ว่าจะเดือนอะไรก็ตาม! บทความนี้จะพาคุณไปเปิดลิสต์ 15 ที่เที่ยวฟูจิยอดฮิตที่ห้ามพลาด พร้อมคู่มือที่กิน ที่พักยอดนิยม เพื่อให้คุณเตรียมตัวให้พร้อม และเก็บความทรงจำดี ๆ กลับมาอย่างเต็มอิ่ม
ทะเลสาบคาวากุจิโกะเป็นหนึ่งในห้าทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ เป็นจุดชมวิวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเห็นภูเขาไฟฟูจิอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ ที่มีวิวดอกซากุระบานและฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ย้อมด้วยสีแดง ทะเลสาบนี้มีบรรยากาศเงียบสงบเหมาะสำหรับล่องเรือ ปั่นจักรยานหรือเดินเล่นรอบทะเลสาบ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะและออนเซ็นให้บริการอยู่รอบ ๆ ในวันที่อากาศแจ่มใส ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิสะท้อนน้ำทะเลสาบที่ไม่ควรพลาด! เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในวิวที่ต้องไปตำ!
เจดีย์ชูเรโตะเป็นเจดีย์ห้าชั้นสีแดงที่ตั้งอยู่เชิงภูเขาไฟฟูจิ เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุม เจดีย์นี้ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะอะระคุระยามะ เซ็นเก็น ให้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมและวิวพาโนรามาของภูเขาไฟฟูจิที่งดงาม แต่อาจจะต้องเดินขึ้นบันไดเยอะหน่อยนะ กว่าจะถึงจุดชมวิวที่สวยที่สุด
สวนโออิชิตั้งอยู่ริมทะเลสาบคาวากุจิโกะ เป็นสวนดอกไม้ที่โด่งดังเรื่องทุ่งลาเวนเดอร์ในฤดูร้อน รวมถึงดอกไม้ตามฤดูกาลอื่น ๆ ที่สร้างบรรยากาศสดใสและงดงามตลอดปี ภายในสวนมีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม ทุ่งดอกไม้สีม่วงตัดกับภูเขาไฟฟูจิเป็นภาพที่น่าประทับใจ สวนนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อน ถ่ายภาพ และทำกิจกรรมครอบครัว
เมืองฟูจิโยชิดะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูเขาไฟฟูจิ เป็นจุดเริ่มต้นยอดนิยมสำหรับนักปีนเขาภูเขาไฟฟูจิในฤดูร้อน ที่นี่มีวัดโคฟุจิและพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิ พร้อมด้วยร้านอาหารและตลาดท้องถิ่นที่ให้บรรยากาศวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ ๆ เมืองนี้ยังจัดเทศกาลและกิจกรรมตามฤดูกาลที่น่าสนใจ เป็นที่เที่ยวฟูจิที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม
สะพานยูเมะโนะโอะฮาชิเป็นสะพานลอยทั่วไปที่บังเอิญมีภูเขาไฟฟูจิสุดอลังการตั้งอยู่ใกล้ ๆ จึงจุดเช็คอินถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิที่โดดเด่นในตัวเมืองโคโต จุดถ่ายรูปตรงนี้ คุณจะได้เห็นเส้นตัดของสะพานให้ความรู้สึกมินิมอลและโมเดิร์น ในขณะเดียวกันก็มีฟูจิเป็นฉากหลัง คุมโทนถูกใจวัยรุ่นมาก ๆ นักท่องเที่ยวมักจะมาแวะถ่ายรูปกับฟูจิตรงนี้ในช่วงหน้าหนาว (ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์) เพราะแสงไม่แข็งจนเกินไป
ทะเลสาปยามานากาโกะ ก็เป็นอีกหนึ่งในทะเลสาปที่สามารถชมวิวฟูจิได้ทุก ๆ ฤดูอย่างใกล้ชิด ซึ่งกิจกรรมยอดฮิตของทะเลสาปแห่งนี้คือการนั่งรถบัสสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก เริ่มออกเดินทางจากบนพื้นดินขับตรงดิ่งลงสู่ทะเลสาปแล้วกลายร่างเป็นเรือซะงั้น! เป็นประสบการณ์ที่สนุกและน่าตื่นเต้น เหมาะสำหรับเที่ยวกับครอบครัว และผู้สูงอายุ เพราะไม่ต้องเดิน สามารถล่องเรือชมวิวฟูจิได้อย่างเต็มอิ่ม
7. ทะเลสาบยามานากะ (Yamanakako Lake)
ทะเลสาบยามานากะเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาห้าทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ บรรยากาศเงียบสงบและธรรมชาติสมบูรณ์ เหมาะสำหรับกิจกรรมตกปลา ล่องเรือ และชมซากุระช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือมีนาคม ในช่วงเดือนธันวาคมจะมีนักท่องเที่ยวมารวมตัวที่นี่จำนวนมาก เหมาะแก่การนอนสักหนึ่งคืนแล้วตื่นมาชมภูฟิยามเช้า ใกล้ ๆ ทะเลสาบมีสวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวและนักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย
ทะเลสาบโมโตสุมีน้ำใสสะอาดและเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก น้ำในทะเลสาบสามารถสะท้อนเงาภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนในวันที่อากาศแจ่มใส ทะเลสาบแห่งนี้เหมาะสำหรับเดินเล่นชมธรรมชาติและถ่ายภาพวิวภูเขาไฟฟูจิที่งดงามในมุมสงบเงียบ เหมาะกับการพักผ่อนและหลีกหนีความวุ่นวาย ว่ากันว่าทะเลสาปแห่งนี้เป็นภาพที่อยู่บนธนบัตรเยนของญี่ปุ่นอีกด้วย
หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก หรือ หมู่บ้านน้ำใส เป็นหมู่บ้านชนบทเล็ก ๆ ที่มีบ่อน้ำธรรมชาติใสสะอาดซึ่งเกิดจากการละลายของน้ำแข็งบนภูเขาไฟฟูจิ ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมบ่อน้ำ คลองเล็ก ๆ ที่น้ำใสปิ้ง เห็นทั้งตัวปลาที่แหวกว่าย จนถึงพื้นของบ่อเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีตลาดที่จำหน่ายของฝากท้องถิ่นและร้านอาหารพื้นเมืองให้แวะทานหลายร้าน โดยรวมมีบรรยากาศแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้
ทะเลสาบอาชิตั้งอยู่ในเขตฮาโกเน่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ที่นี่จึงมีทัวร์นั่งเรือชมวิวทะเลสาปและฟูจิ อีกทั้งยังมีป้ายรถบัสหลายสายมายังฮาโกเน่ เพราะฉะนั้นคุณสามารถเที่ยวฮาโกเน่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางเลย! บริเวณรอบทะเลสาบมีศาลเจ้าโทริอิที่ตั้งอยู่ในน้ำ และกระเช้าโรปเวย์โอวาคุดานิที่ให้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากมุมสูง ฮาโกเน่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผสมผสานธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรมญี่ปุ่นไว้อย่างลงตัว
ไร่ชาโอบุจิซะซะบะในจังหวัดชิซุโอกะเป็นไร่ชาที่มีชื่อเสียง ผลิตชาเขียวคุณภาพสูง บรรยากาศเต็มไปด้วยทุ่งชาเขียวสดที่ตัดกับวิวภูเขาไฟฟูจิในระยะไกล ไร่ชานี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชาและวัฒนธรรมการชงชาแบบญี่ปุ่น สามารถเข้าร่วมเวิร์คช็อปชงชาและซื้อผลิตภัณฑ์ชาคุณภาพพรีเมี่ยมจากไร่ รวมทั้งชมวิวธรรมชาติที่งดงาม
ทะเลสาบไซโกะเป็นทะเลสาบที่เงียบสงบและยังคงความเป็นธรรมชาติสูงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งอย่างเดินป่า ปั่นจักรยาน และตั้งแคมป์ บริเวณรอบทะเลสาบมีเส้นทางเดินป่าและจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่
ฟูจิคิวไฮแลนด์เป็นสวนสนุกที่มีชื่อเสียงใกล้ภูเขาไฟฟูจิ มีเครื่องเล่นที่ท้าทายความกล้าหลากหลายชนิด เช่น รถไฟเหาะตีลังกาและโซนสำหรับเด็กและครอบครัว ภายในสวนสนุกสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้จากหลายจุด แต่จุดที่พีคที่สุดก็คือบนรถไฟเหาะ! ก่อนคุณจะใจหายใจคว่ำกับการดิ่งลงมาจากจุดสูงสุด คุณจะได้ชมวิวฟูจิสุดอลังการบนนี้! อีกทั้งที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องบ้านผีสิงที่รีโนเวทมาจากโรงพยบาลร้างแสนน่ากลัว ไม่แน่จริง อย่าเข้า นอกจากนี้ฟูจิคิวไฮแลนด์ยังมีจัดงานเทศกาลและกิจกรรมตลอดทั้งปี เป็นสถานที่พักผ่อนที่เหมาะกับทุกวัยโดยเฉพาะครอบครัวและกลุ่มเพื่อน
ภูเขาเท็นโจตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบคาวากุจิโกะ เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามและเดินทางสะดวกด้วยกระเช้า Kachi Kachi Ropeway ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 นาทีในการขึ้นมาด้านบน นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าไปยังยอดเขาเพื่อชมวิวทะเลสาบและภูเขาไฟฟูจิแบบพาโนรามา นอกจากนี้จุดชมวิวยังมีร้านอาหารและร้านของฝากท้องถิ่น เช่น ดังโงะ เหมาะสำหรับเดินเล่นและถ่ายภาพวิวสวยงาม
น้ำตกชิราอิโตะในเมืองฟูจิโนะมิยะเป็นน้ำตกที่มีลักษณะน้ำไหลเป็นเส้นสายขาวละเอียดเหมือนด้ายฝ้าย น้ำตกตั้งอยู่ในเขตธรรมชาติที่สงบ ซึ่งน้ำในน้ำตกนี้มาจากการละลายของน้ำแข็งบนภูเขาไฟ ทำให้เป็นแหล่งน้ำแร่ที่ใสสะอาด! เหมาะสำหรับการเดินป่าและพักผ่อน น้ำตกงดงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อนที่มีน้ำแข็งละลายจากภูเขาไฟฟูจิมากเป็นพิเศษ บวกกับสีเขียวของป่าที่อดุมสมบูรณ์ และฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เนื่องจากคุณจะได้เห็นสีแดงสดของใบไม้ล้อมรอบวิวภูเขาไฟภูจิ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติรอบภูเขาไฟฟูจิที่ควรไปเยือน
Sanrokuen
Sanrokuen เป็นร้านยากินิคุบรรยากาศย้อนยุค ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาฟูจิ เมนูเด่นคืออาหารปิ้งย่างสไตล์โบราณ โดยลูกค้าจะได้นั่งรอบเตาถ่านและย่างอาหารเอง เช่น ปลาอิวานะย่างเกลือ ข้าวปั้นย่าง เนื้อหมูหมักซอส และผักตามฤดูกาล บรรยากาศภายในร้านเป็นบ้านไม้ญี่ปุ่นดั้งเดิม ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเงียบสงบ เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมการกินแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ร้านได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่น เนื่องจากให้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป และยังสามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิในบางจุดได้อีกด้วย เหมาะสำหรับมื้อเย็นที่ต้องการความพิเศษและเป็นกันเอง
พิกัด : https://g.co/kgs/kave2Ui
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันยกเว้นวันพุธ 11.00 น. ถึง 17.30 น.
Fuji Tempura Idaten
ร้านเทมปุระคุณภาพเยี่ยมในเมืองฟุจิโยชิดะ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Fujisan ตัวร้านตกแต่งอย่างเรียบง่ายและสะอาดตา จุดเด่นคือการเลือกวัตถุดิบสดใหม่ ทั้งกุ้ง ปลาหมึก ผักตามฤดูกาล นำมาทอดด้วยน้ำมันพิเศษจนได้เทมปุระกรอบนอกนุ่มใน ราคาไม่แพง เมนูยอดนิยมคือ Tendon หรือข้าวหน้าเทมปุระ และชุดเทมปุระรวมที่เสิร์ฟพร้อมซุปและของเคียงในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ พนักงานให้บริการด้วยความสุภาพและเป็นกันเอง ทำให้ร้านนี้กลายเป็นหนึ่งในจุดแวะพักมื้อกลางวันหรือเย็นยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิหรือแวะ Fuji-Q Highland
พิกัด : https://g.co/kgs/4Nr64rZ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 7.00 น. ถึง 00.00 น.
Kawaguchiko Herb Hall Café
คาเฟ่น่ารักภายในศูนย์สมุนไพร Kawaguchiko Herb Hall ซึ่งเป็นจุดแวะพักยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ คาเฟ่แห่งนี้เน้นเมนูที่ใช้สมุนไพรและดอกไม้ เช่น ชาลาเวนเดอร์ ชากุหลาบ และไอศกรีมกลิ่นสมุนไพรที่มีรสชาติละมุนและหอมสดชื่น ขนมหวานตกแต่งอย่างสวยงาม เหมาะสำหรับถ่ายรูปอัพโซเชียลหรือเป็นของฝาก บรรยากาศร้านโปร่งโล่ง มีกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ลอยอ่อน ๆ ตลอดเวลา ด้านนอกยังมีสวนดอกไม้ให้เดินเล่นและจุดขายของที่ระลึก ร้านนี้เหมาะสำหรับพักผ่อนหลังจากเที่ยวทะเลสาบหรือเดินชมวิวฟูจิ
พิกัด : https://g.co/kgs/w7PSvEH
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 9.00 น. ถึง 18.00 น.
การเดินทาง : สถานี Kawaguchiko และเดินต่อประมาณ 15 นาที
ระดับ : 5 ดาว
เหมาะกับ : นักท่องเที่ยวที่ต้องการการพักผ่อนอย่างหรูหราและเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะ คู่รัก ที่มองหาสถานที่โรแมนติกสำหรับฮันนีมูน หรือฉลองโอกาสพิเศษ เช่น วันครบรอบ รวมถึง ครอบครัว ที่ต้องการประสบการณ์ระดับพรีเมียมพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตาจากห้องพักและออนเซ็นส่วนตัว ที่พักแห่งนี้เน้นบริการอย่างประณีต อาหารญี่ปุ่นแบบไคเซกิคุณภาพสูง เป็นสวรรค์ของคนที่ต้องการผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติด้วยความสะดวกสบายสูงสุด
ระดับ : 3 ดาว
เหมาะกับ : ครอบครัวและผู้สูงอายุที่ต้องการที่พักสะดวกสบาย พร้อมบรรยากาศสงบและธรรมชาติสวยงาม โรงแรมตั้งอยู่ท่ามกลางสวนญี่ปุ่นร่มรื่น มีวิวภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากุจิ พักผ่อนแบบเรียบง่ายแต่ครบครัน มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สนามกอล์ฟและออนเซ็นในพื้นที่เดียวกัน นอกจากนี้ยังเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยรถยนต์และต้องการที่พักใกล้แหล่งท่องเที่ยวหลักในบริเวณนี้
ระดับ : 3 ดาว
เหมาะกับ : นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ ๆ ผ่านการพักแบบเรียวกังดั้งเดิม โดยเฉพาะคู่รักและครอบครัวที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ที่นี่มีออนเซ็นกลางแจ้งพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิอย่างชัดเจน บรรยากาศเงียบสงบอบอุ่น พร้อมบริการชุดยูกาตะและอาหารไคเซกิแบบดั้งเดิม เหมาะกับผู้ที่ชอบประสบการณ์พักผ่อนที่เป็นธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ ๆ มากกว่าความทันสมัยหรือความหรูหรา
ในแต่ละฤดู บรรยากาศของภูเขาไฟฟูจิและสถานที่ท่องเที่ยวจะแตกต่างกันออกไปอย่างมีเอกลักษณ์ สะดวกเที่ยวเมื่อไรก็จองตั๋วได้เลย!
ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่ภูเขาไฟฟูจิถูกโอบล้อมด้วยความสดใสของดอกซากุระที่เบ่งบานเต็มที่ บรรยากาศรอบภูเขาจะอบอวลไปด้วยสีชมพูอ่อนตัดกับฉากหลังของยอดเขาสูงที่ยังคงมีหิมะขาวปกคลุม เหมาะสำหรับคู่รักและสายถ่ายรูปที่ต้องการเก็บภาพประทับใจของฟูจิในมุมที่หวานที่สุดของปี
หน้าร้อนเป็นช่วงเดียวของปีที่นักผจญภัยสามารถปีนขึ้นสู่ยอดภูเขาไฟฟูจิได้ โดยเส้นทางปีนเขาจะเปิดตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมไปจนถึงกลางเดือนกันยายน นอกจากความท้าทายของการปีนฟูจิแล้ว ท้องฟ้าในช่วงนี้มักปลอดโปร่ง ทำให้มองเห็นยอดเขาได้ชัดเจนทั้งกลางวันและช่วงพระอาทิตย์ขึ้น
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเป็นอีกหนึ่งฤดูที่เหมาะกับการชมฟูจิ เพราะภูเขาจะตัดกับใบไม้หลากสี ทั้งแดง ส้ม และเหลือง กลายเป็นภาพที่อบอุ่นและคลาสสิกแบบญี่ปุ่น จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม
ฤดูหนาวเป็นช่วงที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดเจนที่สุด ด้วยอากาศที่แห้งและฟ้าใส ยอดฟูจิจะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวล้วน ดูสง่างามและทรงพลังเป็นพิเศษ แม้อากาศจะหนาวเย็น แต่ความสวยของฟูจิในฤดูนี้จะตราตรึงใจไม่แพ้ฤดูใดเลย
สามารถบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังโตเกียวโดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง จากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ (BKK) ลงจอดปลายทาง ณ สนามบินนาริตะ (NRT) หรือสนามบินฮาเนดะ (HND)
ดูราคาตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวราคาถูกได้ที่ Traveloka
ถ้าคุณไปเพราะอยากเห็นฟูจิอย่างชัดเจน แนะนำให้เช็กพยากรณ์อากาศก่อนเดินทาง โดยเฉพาะปริมาณเมฆ เพราะบางวันแม้อากาศจะดีแต่เมฆอาจจะบังยอดฟูจิหมดเลย!
เช่น Fujisan Pass หรือ JR Tokyo Wide Pass ช่วยลดค่าเดินทางและเข้าชมบางสถานที่ฟรี
หากคุณมีบัตเจต แนะนำให้เช่ารถ แล้ว Roat Trip ไปเลย! จะได้ไม่ต้องคอยเช็คตารางเวลารถบัส และรถไฟ และสามารถเดินทางได้คล่องตัว ใช้เวลาน้อยกว่าโดยสารรถสาธารณะ อยากแวะตรงไหนก็สามารถจอดได้เลย (แต่ต้องเช็คจุดจอดดี ๆ ด้วยนะ!) ทำให้ทริปของคุณง่าย และสะดวกสบายขึ้น
สุดท้ายนี้ ญี่ปุ่นยังมีวิวธรรมชาติที่สวยงามอยู่อีกมากมายหลายเมือง เช่น เกียวโต เมืองเก่าแก่สงบ ๆ ที่มีสวนญี่ปุ่นชื่อดังและวัดเก่าแก่, นารา เมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยน้องกวาง เหมาะกับสายธรรมชาติและวัฒนธรรม, หรือ คุราชิกิ เมืองคลองย้อนยุคบรรยากาศอบอุ่นไม่พลุกพล่าน นอกจากนี้ นิกโก้ ก็เหมาะมากสำหรับคนรักธรรมชาติ แถมยังเป็นมรดกโลกที่อยู่ใกล้โตเกียว