สถานที่ท่องเที่ยว ฮิเมจิชิ

รายละเอียดเกี่ยวกับ ฮิเมจิชิ

ฮิเมจิชิ ญี่ปุ่น: เมืองปราสาทที่ต้องไปให้ได้!

สวัสดีเพื่อนๆ นักเดินทางชาวไทย! ใครกำลังมองหาที่เที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ซ้ำใคร แถมยังได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ แบบเต็มอิ่มบ้าง? วันนี้เราจะมาแนะนำ ฮิเมจิชิ (Himeji-shi) เมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์เหลือล้นในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) ที่สำคัญเดินทางจากโอซาก้า (Osaka) ก็สะดวกมากๆ ด้วยนะ

ฮิเมจิชิไม่ได้มีดีแค่ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ที่สวยอลังการเท่านั้นนะ แต่ยังมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนสวย, วัดเก่าแก่, แหล่งช้อปปิ้ง, และอาหารอร่อยๆ ที่รอให้เราไปลิ้มลอง ถ้าพร้อมแล้ว ตามเราไปตะลุยฮิเมจิชิกันเลย!

สถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็กอินห้ามพลาดในฮิเมจิชิ

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle): มรดกโลกที่ต้องเห็นด้วยตาตัวเอง

แน่นอนว่าไฮไลท์ของฮิเมจิชิก็คือ ปราสาทฮิเมจิ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ปราสาทนกกระเรียนขาว" (White Heron Castle) เพราะความสวยสง่าและสีขาวบริสุทธิ์ของตัวปราสาท ปราสาทฮิเมจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO และเป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น การได้เดินชมภายในปราสาท, ขึ้นไปชมวิวจากด้านบน, และถ่ายรูปกับปราสาทจากมุมต่างๆ เป็นประสบการณ์ที่พลาดไม่ได้เลยจริงๆ

สวนโคโคเอ็น (Kokoen Garden): สวนญี่ปุ่น 9 สไตล์ในที่เดียว

หลังจากชมความงามของปราสาทฮิเมจิแล้ว อย่าลืมแวะไปผ่อนคลายที่ สวนโคโคเอ็น สวนญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นบ้านพักของซามูไร สวนแห่งนี้ประกอบด้วยสวน 9 สไตล์ที่แตกต่างกัน ทั้งสวนน้ำ, สวนชา, สวนไผ่, และอื่นๆ อีกมากมาย การได้เดินเล่นในสวนโคโคเอ็น, ชมความงามของธรรมชาติ, และจิบชาเขียว เป็นการพักผ่อนที่ช่วยเติมพลังได้อย่างดีเลยล่ะ

วัดโชสะ (Shoshazan Engyoji Temple): วัดบนเขาที่เงียบสงบ

สำหรับใครที่ชอบวัดเก่าแก่และบรรยากาศเงียบสงบ เราขอแนะนำ วัดโชสะ วัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาโชสะ (Mount Shosha) การเดินทางขึ้นไปวัดจะต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปก่อน แล้วค่อยเดินเท้าต่ออีกหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะวัดโชสะมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม, บรรยากาศที่เงียบสงบ, และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ วัดโชสะยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Last Samurai อีกด้วยนะ

อะไรที่ทำให้ฮิเมจิชิไม่ควรพลาด

ฮิเมจิชิไม่ได้มีแค่สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ เท่านั้นนะ แต่ยังมีประสบการณ์ immersive วัฒนธรรมเฉพาะตัวที่หาจากที่อื่นไม่ได้อีกด้วย

• สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ: ฮิเมจิชิเป็นเมืองที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม, อาหาร, หรือเทศกาลต่างๆ
• บรรยากาศเมืองที่เงียบสงบและเป็นกันเอง: ฮิเมจิชิเป็นเมืองที่ไม่วุ่นวายเหมือนเมืองใหญ่อื่นๆ ในญี่ปุ่น ทำให้เราสามารถพักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศสบายๆ ได้อย่างเต็มที่
• อาหารอร่อยๆ ที่หารับประทานได้เฉพาะที่นี่: ฮิเมจิชิมีอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ หลายอย่างที่หาทานได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น เช่น หอยนางรม, เนื้อโกเบ, และขนมหวานต่างๆ

ลิสต์ที่ต้องทำในฮิเมจิชิ

• เดินเล่นในปราสาทฮิเมจิ: สัมผัสความยิ่งใหญ่และสวยงามของปราสาทมรดกโลก
• ชมสวนโคโคเอ็น: ผ่อนคลายในสวนญี่ปุ่น 9 สไตล์
• เยี่ยมชมวัดโชสะ: สัมผัสความเงียบสงบและชมวิวทิวทัศน์
• ชิมอาหารท้องถิ่น: ลิ้มลองรสชาติอาหารอร่อยๆ ที่หารับประทานได้เฉพาะที่นี่
• เดินเล่นในย่านการค้า: ช้อปปิ้งของฝากและสินค้าพื้นเมือง

ย่านน่าเที่ยวในฮิเมจิชิ

ย่านสถานีฮิเมจิ (Himeji Station Area): แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหาร

ย่านสถานีฮิเมจิเป็นย่านที่คึกคักและมีชีวิตชีวา มีห้างสรรพสินค้า, ร้านค้า, ร้านอาหาร, และโรงแรมมากมาย ใครที่อยากช้อปปิ้งของฝาก, หาของอร่อยๆ ทาน, หรือพักผ่อนในโรงแรมสบายๆ ย่านนี้ตอบโจทย์แน่นอน

ย่านมิยูกิโดริ (Miyukidori Shopping Street): ถนนคนเดินที่มีชีวิตชีวา

ย่านมิยูกิโดริเป็นถนนคนเดินที่เชื่อมต่อจากสถานีฮิเมจิไปยังปราสาทฮิเมจิ ถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยร้านค้า, ร้านอาหาร, และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ การได้เดินเล่นในย่านมิยูกิโดริ, ชมบรรยากาศ, และช้อปปิ้งของฝาก เป็นกิจกรรมที่สนุกและเพลินมากๆ

ย่านแนะนำสำหรับนักเดินทางแต่ละประเภท

• คนเที่ยวคนเดียว: ย่านสถานีฮิเมจิ (Himeji Station Area) เพราะเดินทางสะดวกและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
• ครอบครัว: สวนโคโคเอ็น (Kokoen Garden) เพราะมีพื้นที่กว้างขวางให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่นและเรียนรู้
• สายแอดเวนเจอร์: วัดโชสะ (Shoshazan Engyoji Temple) เพราะต้องนั่งกระเช้าและเดินเท้าขึ้นไปบนเขา
• คนรักความหรู: โรงแรมหรูในย่านสถานีฮิเมจิ (Himeji Station Area) เพราะมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม

อาหารห้ามพลาดในฮิเมจิชิ

• หอยนางรม (Oysters): ฮิเมจิชิเป็นแหล่งผลิตหอยนางรมที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น หอยนางรมที่นี่สดและอร่อยมากๆ
• เนื้อโกเบ (Kobe Beef): ถึงแม้ว่าเนื้อโกเบจะมาจากจังหวัดเฮียวโงะ แต่ก็สามารถหารับประทานได้ในฮิเมจิชิเช่นกัน
• ขนมหวาน (Sweets): ฮิเมจิชิมีขนมหวานอร่อยๆ หลายอย่าง เช่น โมจิ, ดังโงะ, และไอศกรีม

เทศกาล งานอีเวนต์ และวัฒนธรรมประจำถิ่นในฮิเมจิชิ

ฮิเมจิชิมีเทศกาลและงานอีเวนต์ที่น่าสนใจหลายอย่างตลอดทั้งปี เช่น เทศกาลชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ, เทศกาลฤดูร้อน, และเทศกาลปีใหม่ ลองเช็คปฏิทินกิจกรรมก่อนเดินทางไป เพื่อจะได้ไม่พลาดงานสนุกๆ นะ

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเที่ยวฮิเมจิชิ

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเที่ยวฮิเมจิชิคือช่วง ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และ ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) เพราะอากาศดี, คนไม่เยอะมาก, และมีเทศกาลชมดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี

การเดินทางในฮิเมจิชิ

การเดินทางในฮิเมจิชิสะดวกสบายมากๆ สามารถเดินทางด้วยรถไฟ, รถบัส, หรือแท็กซี่ได้ นอกจากนี้ การเดินเท้าก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี เพราะเมืองไม่ใหญ่มากและมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่อยู่ในระยะที่สามารถเดินถึงกันได้

แหล่งช้อปปิ้งในฮิเมจิชิ

• ย่านสถานีฮิเมจิ (Himeji Station Area): ห้างสรรพสินค้า, ร้านค้า, และร้านขายของที่ระลึก
• ย่านมิยูกิโดริ (Miyukidori Shopping Street): ถนนคนเดินที่มีชีวิตชีวา
• ร้านค้าท้องถิ่น: ร้านขายสินค้าพื้นเมืองและของฝาก

จุดลับและที่เที่ยวแบบไม่แมส

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังแล้ว ฮิเมจิชิยังมีจุดลับและที่เที่ยวแบบไม่แมสอีกหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะ, สวนสาธารณะ, และร้านอาหารท้องถิ่น ลองสอบถามข้อมูลจากคนท้องถิ่นหรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตดูนะ

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในฮิเมจิชิ

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในฮิเมจิชิสะดวกสบาย มี Wi-Fi ฟรีให้บริการตามโรงแรม, ร้านอาหาร, และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นอกจากนี้ ยังสามารถเช่า Pocket Wi-Fi หรือซื้อซิมการ์ดได้ที่สนามบินหรือร้านสะดวกซื้อ

บทสรุป: ฮิเมจิชิควรเป็นทริปต่อไปของคุณหรือไม่?

ถ้าคุณกำลังมองหาที่เที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ซ้ำใคร, อยากสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ, และต้องการพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นกันเอง ฮิเมจิชิ คือคำตอบ! อย่ารอช้า รีบจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดและโรงแรมราคาประหยัดกับ Traveloka แพลตฟอร์มท่องเที่ยวชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วออกเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ของฮิเมจิชิด้วยตัวคุณเอง!

Traveloka ยังมีบริการรถเช่าและรถรับส่งสนามบินที่จะช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น อย่าลืมเช็คโปรโมชั่นดีๆ ก่อนจองนะ!