เมื่อฤดูหนาวมาถึง หลาย ๆ คนคงกำลังมองหาที่เที่ยวที่สามารถออกไปสัมผัสอากาศหนาวได้ ซึ่งหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่ได้รับความสนใจจากเหล่าบรรดานักท่องเที่ยว คงหนีไม่พ้นญี่ปุ่นอย่างแน่นอน แต่เพราะเจ้าโควิดที่กำลังแพร่ระบาดทำให้เราไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ วันนี้เราเลยได้รวบรวม 10 จุดเช็คอินเชียงใหม่ ฟีลเหมือนไปญี่ปุ่นมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ตามไปเช็กอินกัน รับรองว่าแต่ละที่เราได้คัดมาอย่างเน้น ๆ ทำให้คุณรู้สึกถึงบรรยากาศเหมือนอยู่ญี่ปุ่นอย่างแน่นอน และหากคุณกำลังคิดถึงการไปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ ก็สามารถตามเราไปเช็กอินแก้ขัดก่อนได้ ว่าแล้วก็เตรียมเก็บกระเป๋าและกดจองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka ผ่านหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันในขั้นตอนอันแสนง่ายได้เลย เพราะตอนนี้เขามีฟีเจอร์สุดพิเศษที่ให้คุณสามารถเทียบราคาและโปรโมชั่นจากสายการบินต่าง ๆ เพื่อให้คุณได้ตั๋วในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด โดยไม่ต้องเสียเวลาเปรียบเทียบเองให้เหนื่อยอีกต่อไป #Travelokaเทียบแล้วเที่ยวเลย
พาเพื่อน ๆ ไปเช็กอินกันที่พิกัดแรกกับอาณาจักร ฮิโนกิ แลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่สร้างเลียนแบบและจำลองปราสาทและหมู่บ้านโบราณของคนญี่ปุ่นได้ออกมาเสมือนจริงมาก ๆ ทำให้นักท่องเที่ยวที่คิดถึงบรรยากาศญี่ปุ่นสามารถเดินทางไปซึมซับความงดงามของสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมญี่ปุ่นต่าง ๆ ได้อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น โคมแดงขนาดใหญ่ เสาโทริอิสีแดง ปราสาทฮิโนกิที่มีให้เดินชมถึง 4 ชั้น และดอกซากุระที่ปลูกบริเวณภายใน ทำให้ใครที่ได้ไปเยือนก็สัมผัสได้ถึงความเป็นญี่ปุ่นสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีชุดกิโมโนให้เช่าเดินถ่ายรูปอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสด้วยตนเองสักครั้งเลยทีเดียว
เวลาเปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
ขอบคุณรูปภาพจาก facebook.com/NekoemonCafe
เอาใจนักท่องเที่ยวสายคาเฟ่กันต่อกับการพาไปเช็กอินกันที่ เนโกะเมม่อน คาเฟ่น่ารักสไตล์ญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นหาและบรรยากาศแบบญี่ปุ่นที่น่านั่งสุด ๆ เพราะหากคุณกำลังมองหาที่นั่งชิลที่สามารถนั่งกินอาหารญี่ปุ่นแบบต้นฉบับ และขนมพื้นเมืองญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชั่นแล้วละก็ ที่นี่ถือว่าตอบโจทย์อย่างลงตัวมากเลยทีเดียว เพราะภายในได้มีการออกแบบราวกับว่าได้ยกประเทศญี่ปุ่นมาไว้ในที่แห่งนี้ โดยคุณจะสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวแรก เนื่องจากบริเวณด้านหน้าจะมีเสาโทริอิสีแดงตั้งเด่นเป็นสง่า และเมื่อเดินเข้ามาก็จะเจอกับสวนไผ่สไตล์เกียวโต รวมถึงและศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ภายในอย่างสวยงามนั่นเอง
เวลาเปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
ขอบคุณรูปภาพจาก facebook.com/BambooGroveChiangmai
ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงญี่ปุ่น ก็สามารถไปเช็กอินที่ป่าไผ่ซางาโนะแห่งอะราชิยามะ ในกรุงเกียวโตได้ง่าย ๆ ที่แบมบูโกลบ ป่าไผ่แห่งเชียงใหม่ที่ถูกจำลองขึ้นมาเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายรูปโพสท่าสวย ๆ พร้อมทั้งซึมซับกับความสวยงามของต้นไผ่ที่ตั้งเรียงรายเป็นแนวยาว ตลอดไปจนถึงเป็นสถานที่พักผ่อนที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้สึกผ่อนคลายไปกับอากาศอันบริสุทธิ์ได้อย่างแท้จริง เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้ป่าไผ่แห่งนี้กลายเป็นจุดเช็กอินแห่งใหม่ของเชียงใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
เวลาเปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น.
แน่นอนว่าหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของญี่ปุ่นที่ใครหลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้น ดอกซากุระ อย่างแน่นอน ซึ่งสถานที่ถัดมาที่เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเช็กอินกันก็คือ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงดงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่พากันผลิดอกเบ่งบานเป็นชมพูสะพรั่งเต็มไปทั่วบริเวณมากกว่า 5,000 ต้น โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนมกราคม-ต้นกุมภาพันธ์ ซึ่งเราสามารถชมได้ทั้งบริเวณด้านหน้าอาคารสโมสรอ่างขาง, ด้านข้างสวนกุหลาบอังกฤษ และตลอดเส้นทางเดินรถขาออกฝั่งโรงเรือนรวบรวมพันธุ์ผัก
เวลาเปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น.
ขอบคุณรูปภาพจาก facebook.com/Morinaturalfarm
Mori Natural Farm เป็นฟาร์มสเตย์เล็ก ๆ ที่ผสมผสานกลิ่นอายความเป็นล้านนาและญี่ปุ่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้ผู้ที่ไปเยือนสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศในชนบทของญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบและการตกแต่งภายในที่มีความเรียบง่ายในสไตล์มินิมอล และความเป็นธรรมชาติด้วยการใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง อีกทั้งยังมีน้องหมาตัวเบิ้มที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตรอีกเช่นกัน รับรองว่าหากใครมีโอกาสไปเยือนแล้วจะต้องติดใจอย่างแน่นอน
เวลาเปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น.
ขอบคุณรูปภาพจาก facebook.com/ Magokoro Japanese Teahouse
มาต่อกันที่จุดเช็คอินเชียงใหม่ที่ต่อมาอย่าง Magokoro Japanese Teahouse หนึ่งในคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่ต้องบอกเลยว่าภายในร้านแห่งนี้มีของขึ้นชื่ออย่างชาเขียวมัทชะสุดหอมมันแสนอร่อยที่สายชาเขียวห้ามพลาดมาลิ้มลองรสชาติ และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นที่ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเฟอร์นิเจอร์การตกแต่งทั้งสวนด้านใน และหน้าร้านก็สามารถทำให้ออกมาให้มีความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดี อีกทั้งยังมีเมนูขนมและเครื่องดื่มมากมายให้คุณได้มาเปิดหูเปิดตาแบบไม่ต้องไปไกลถึงเมืองโตเกียวก็สามารถเที่ยวในไทยได้แบบฟิน ๆ เหมือนกันเลยนั่นเอง
เวลาเปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.
ขอบคุณรูปภาพจาก facebook.com/ Onset At Moncham
Onset At Moncham เชื่อว่าใครหลายคนเมื่อพูดถึงญี่ปุ่นแล้วแน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องนึกถึงออนเซ็นร้อน ๆ กับบรรยากาศเย็น ๆ ที่จะทำให้คุณสามารถมาผ่อนคลายความเมื่อยล้าและเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายทำให้เลือดลมหมุนเวียนได้เป็นอย่างดีแถมยังให้มีผิวพรรณที่ผ่องใสขึ้นอีกด้วย ดังนั้นแล้วขอบอกเลยว่าไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่นเราก็สามารถมาแช่ออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ ที่เชียงใหม่แห่งนี้ เพราะนอกจากจะมีโซนออนเซ็นให้เราได้มาเพลิดเพลินแล้ว ยังมีบรรยากาศโดยรอบที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนนั่งแช่อยู่ที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหน้าหนาวนี้ห้ามพลาดเดินทางมาแช่ออนเซ็นกันที่ที่นี่เลย
เวลาเปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น.
ขอบคุณรูปภาพจาก facebook.com/อันดู สตูดิโอ
ไปต่อกันที่คาเฟ่แนวญี่ปุ่นน่ารัก ๆ ที่คนชอบคาเฟ่ไม่ควรพลาดกับร้าน อันดู สตูดิโอ หนึ่งในร้านคาเฟ่ชั้นด้านฟ้าของโกดังที่จะเต็มไปด้วยสไตล์การออกแบบแบบมินิมอลที่เพิ่มความเป็นญี่ปุ่นเข้าไปอีกหน่อยด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบไม้ ๆ ซึ่งจะทำให้ภาพบรรยากาศภายในร้านดูอบอุ่นเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว อีกทั้งภายในยังมีเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดลิ้มลองอย่าง Lemon Tiramizu ที่รับรองได้เลยว่าสายกาแฟต้องมาลอง แล้วคุณจะได้สัมผัสรูปแบบการดื่มกาแฟแบบใหม่ที่จะทำให้สดชื่นไปกับเช้าวันใหม่อย่างสดใสเลยทีเดียว
เวลาเปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
ขอบคุณรูปภาพจาก facebook.com/ฟิน เจแปน
เปลี่ยนบรรยากาศจากแหล่งที่เที่ยว และคาเฟ่มาเอาใจสำหรับสายกินกันบ้างกับการพาทุกคนไปเปิดจุดเช็คอินในจังหวัดเชียงใหม่ที่ให้ฟีลเหมือนญี่ปุ่นที่ถัดมาอย่าง ร้านฟิน เจแปน ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่จะมีหลากหลายเมนูให้คุณได้เลือกรับประทานกันได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเมนูปลาดิบ ข้าวแกงกะหรี่ รวมไปถึงข้าวหมูทงคัตสึที่สุดแสนอร่อยซึ่งรับรองได้เลยว่านอกจากรูปแบบภายในร้านที่เหมือนเรายกญี่ปุ่นมาแล้ว รสชาติของอาหารก็คงความเป็นญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าใครอยากมาลิ้มลองรสชาติดี ๆ แบบนี้แล้วต้องไม่พลาดปักหมุดตรงมาที่ร้านนี้เลย
เวลาเปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-21.30 น.
ขอบคุณรูปภาพจาก facebook.com/Khagee
เดินทางมาถึงจุดเช็คอินที่สุดท้ายที่เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้เดินทางมาแวะชมกันนั่นก็คือ ขจี คาเฟ่ (Khagee Natural yeast bread Cafe) ร้านคาเฟ่ชื่อดังเมืองเชียงใหม่สไตล์ญี่ปุ่นที่มีการตกแต่งในสไตล์มินิมอลเน้นความเรียบง่ายด้วยโทนสีขาวดำ ทำให้บรรยากาศภายในร้านดูน่าค้นหา และสามารถถ่ายรูปในหลากหลายมุม นอกจากนี้ยังมีเมนูขึ้นชื่ออย่างขนมปังสไตล์ญี่ปุ่นต่าง ๆ ที่มีทั้งความนุ่ม หอมฉบับเจแปนนิสที่หาชิมได้ยากในเมืองไทย เพราะฉะนั้นแล้วถ้าใครได้มาที่เมืองเชียงใหม่ก็ต้องแวะมาลิ้มลองรสชาติของขนมปังที่ร้านแห่งนี้นั่นเอง
เวลาเปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.
เป็นอย่างไรกันบ้างหมดไปแล้วกับการพาทุกคนไปแวะชม 10 จุดเช็คอินเชียงใหม่ ฟีลเหมือนญี่ปุ่น ที่ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศ และการตกแต่งต่าง ๆ ทำให้เราสามารถหลุดเข้าในอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อตั๋วเครื่องบินไปแพงเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทั้งสวย และฟินขนาดนี้แล้วต้องมาให้ได้เลยกับเมืองเชียงใหม่ ที่จะเต็มไปด้วยสถานที่ต่าง ๆ ให้คุณได้มาสัมผัสอีกเพียบนั่นเอง