25 พิกัดที่เที่ยวเลย ถ้ายังไม่เคย บอกเลยต้องไป [อัปเดต 2025]

รวม 25 ที่เที่ยวเลยสุดฮิต ปี 2025 เที่ยวธรรมชาติ วัด วิวสวย จุดเช็กอินสุดปัง ที่สายเที่ยวต้องห้ามพลาด! ถ้ายังไม่เคย บอกเลยว่าต้องไป
Traveloka TH
20 Jun 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 6 นาที

เลย คือหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยวของเมืองไทย โดยเฉพาะสำหรับคนที่เป็นนักเดินทางสายธรรมชาติ รักการผจญภัย ชอบการได้ท่องเที่ยวแบบชิลล์ๆ กับพิกัดบรรยากาศดี ยิ่งในช่วงหน้าหนาวที่เลยคือพีคมากจ้า เพราะนี่คือเมืองที่ได้ชื่อว่าอากาศเย็นที่สุดในประเทศไทย ใครชอบป่า ชอบเขา ชอบการเดินชมธรรมชาติ และสนุกกับการได้เห็นวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รีบไปส่องตั๋วเครื่องบินเมืองเลยได้ที่ Traveloka เลยจ้า หน้าหนาวใกล้เข้ามาแล้วนะ เชื่อเถอะว่าเลยจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

25 ที่เที่ยวเมืองเลยต้องไป

1. ภูลมโล

เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และยังเป็นพิกัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รอยต่อสามจังหวัดคือพิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลยอีกด้วย ความพีคของภูลมโลจะอยู่ในช่วงราวๆ เดือนมกราคมของทุกปี เพราะที่นี่เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ด้วยพื้นที่ป่านางพญาเสือโคร่งกว่า 1,000 ไร่ ที่จะกลายเป็นพรมสีชมพูคลุมภูเขาในช่วงต้นปี สวยพีคขนาดนี้จะไม่ไปได้ยังไง?

2. ภูลำดวน

ภูลำดวนเป็นพิกัดท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่กี่ปี แต่ด้วยความสวยของที่นี่จึงทำให้กลายเป็นสถานที่ที่ฮิตติดลมบนได้ไม่ยาก ส่วนหนึ่งเพราะการเป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บริเวณริมเขตพรมแดนประเทศไทย เมื่อขึ้นไปอยู่บนยอดภูนี้เราจึงสามารถชมความสวยของโค้งแม่น้ำโขง และทิวทัศน์สองฝั่งทั้งของไทยและลาวที่ในตอนเช้าๆ อาจจะมีทะเลหมอกขาวๆ ให้ได้เห็นกันอีกด้วยจ้า จากตีนภูจะเดินขึ้นมาก็ได้ หรือจะใช้บริการรถอีแต๊กนั่งขึ้นมาสบายๆ ก็ชิลล์นะ อยากได้ฟีลไหนก็เลือกเอา

3. เทศกาลผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย

ถึงจะไม่ได้เป็นสถานที่ แต่นี่คืองานเทศกาลซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ยืนหนึ่งของเมืองเลยมายาวนาน และยังเป็นเทศกาลซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกแล้วด้วยจ้า เทศกาลผีตาโขนนั้นเป็นส่วนหนึ่งในงานบุญผะเหวด ซึ่งเป็นงานบุญใหญ่ของชาวอีสาน งานนี้จะจัดในช่วงราวเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม ซึ่งวันที่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามแต่ฤกษ์ยามที่ถูกกำหนดขึ้นในแต่ละปี ไฮไลท์ในงานคือการเต้นรำของบรรดาผีตาโขนซึ่งต่างคนก็จะทำหน้ากากและดีไซน์เสื้อผ้าให้โดดเด่นเพื่อออกมาเต้นรำประชันกัน บอกเลยว่าเป็นงานที่บันเทิงสุดๆ งานหนึ่งของเมืองไทยเลยนะ แนะนำว่าต้องมาซักครั้งให้ได้จริงๆ

4. ภูกระดึง

อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของเมืองเลย ซึ่งสายลุยสายเทรกกิ้งทั้งหลายต้องเคยไปเช็คอินกันซักครั้งในชีวิต ไม่งั้นก็เหมือนยังไม่ได้เป็นสายเทรกกิ้งตัวจริงเสียงจริงเลยนะ ภูกระดึงถือเป็นพิกัดวัดใจที่ท้าทายในระดับตำนาน ด้วยเส้นทางเดินจากจุดสตาร์ทถึงลานกางเต็นท์ประมาณ 9 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นหลายจุดพักที่เรียกกันว่าซำ ด้านบนภูกระดึงมีธรรมชาติที่สวยงามแปลกตาและหลากหลาย และที่เริ่ดกว่าภูไหนๆ ก็คือมีความสะดวกสบายพอประมาณเลยละ กระซิบให้ว่าเมนูเด็ดเค้าเยอะมากนะ ขึ้นไปกินให้ได้ก็แล้วกัน

5. ภูเรือ

เมื่อถึงฤดูหนาวในแต่ละปี หนึ่งในพิกัดที่ถือว่ายอดฮิตของนักท่องเที่ยวก็ต้องมีภูเรืออยู่ในลิสต์ด้วยแน่ๆ เพราะที่นี่เป็นจุดเช็คอินที่เดินทางง่าย แถมยังมีแลนด์มาร์คให้แวะชมกันได้แบบแน่นๆ เลยจ้า ไม่ว่าจะเป็นการไปชมไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักเมืองหนาวที่สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ จุดชมวิวทะเลหมอกยามเช้า น้ำตกหลายแห่ง และที่นี่ยังมีลานต้นคริสต์มาสสีแดงฉ่ำให้ชมกันในช่วงฤดูหนาวของทุกปีอีกด้วยจ้า อากาศดี เดินทางง่าย วิวก็เริ่ดมากนะ ไม่มาไม่ได้แล้วเด้อ

6. เชียงคาน

สำหรับสายชิลล์ที่ไม่ชอบการเหนื่อยยากลำบากลำบนเดินขึ้นไปชมความสวยบนยอดเขา เราขอแนะนำให้ปักหมุดตรงดิ่งมาที่นี่ เชียงคานคือพิกัดที่ชิลล์มากไม่ว่าคุณจะมาฤดูไหน เพราะการได้มานอนในบ้านไม้สไตล์โบราณ ชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงที่ไหลเรียบเรื่อย รับลมเย็นเอื่อยๆ ที่โชยมาตลอดเวลานั้น คือความสุขที่ได้เจอแน่จ้าเมื่อมาที่นี่ นอกจากนั้นยังมีเมนูท้องถิ่นรสเริ่ดให้กินกันอีกสารพัดเลยนะ ตามหาได้ในถนนคนเดินเชียงคานและตามตรอกซอกซอยต่างๆ เลยจ้า มาเดินเล่น เดินกิน แล้วกลับขึ้นไปนอนชมวิวสบายๆ ไม่ถูกใจก็เกินไปแล้วละ

7. ภูทอก

ภูทอกคือแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้หากคุณมาเยือนเชียงคาน โดยเฉพาะคนที่รักการได้ตื่นแต่เช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์สบาย ชอบการได้เห็นวิวสวยสะกดใจของทะเลหมอกขาวๆ ที่มาพร้อมแสงแรกของวัน การเดินทางมาภูทอกจากเชียงคานนั้นก็สะดวกสบายแถมยังใช้เวลาไม่นานมาก แต่กระซิบตรงนี้ว่าถ้าอยากเห็นทะเลหมอกน่ะ ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีโอกาสมากกว่าช่วงหนาวจัดๆ นะ ลองเลือกเวลากันให้ดี

8. ภูอีเลิศ

เชื่อว่านี่คือสถานที่ที่หลายคนต้องไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน เพราะเป็นหนึ่งในพิกัดใหม่ซึ่งเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานของจังหวัดนี้ ภูอีเลิศนั้นตั้งอยู่ในพิกัดริมขอบประเทศไทย ด้วยความสูงประมาณ 500 เมตร ที่นี่จึงใช้เป็นจุดชมวิวมุมสูงที่มองเห็นสองประเทศโดยมีแม่น้ำโขงคั่นกลางได้แบบ 180 องศา โดยมีไฮไลท์เป็นทะเลหมอกที่ยาวคดเคี้ยวตามรูปร่างเส้นทางร่องเขาแลดูแปลกตาไม่เหมือนที่ไหน เป็นอีกพิกัดที่สายล่าตะวันพลาดไม่ได้เลยทีเดียว

9. ภูเตาโปง

เป็นอีกหนึ่งพิกัดชมวิวมุมสูงที่หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อคุ้นหูกันเท่าไหร่นัก แต่ภูเตาโปงเป็นพิกัดที่คนอยากชมวิวทะเลหมอกแต่ไม่ชอบความเหนื่อยยากสมบุกสมบันเท่าไหร่น่าจะแฮปปี้ เพราะที่นี่มีบริการรถอีแต๊กพาขึ้นมาส่งด้านบน ก่อนจะต้องเดินแบบกรุบกริบแค่ 50 เมตรเท่านั้นจ้า ความเก๋คือภูเตาโปงนั้นอากาศเย็นสบายเกือบทั้งปี และมีทะเลหมอกให้ดูแบบเต็มๆ ตา บางวันที่อากาศเหมาะๆ ก็อาจจะเห็นทะเลหมอกกันได้ตั้งแต่เที่ยงคืนยันสิบโมงเช้าไปเลยนะ ต้องมาโดนกันซักครั้งแล้วจริงมั้ย?

10. ภูป่าเปาะ

ภูป่าเปาะนั้นเป็นอีกหนึ่งพิกัดชมวิวมุมสูงของเมืองเลย โดยยอดภูนั้นมีความสูงประมาณ 900 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไฮไลท์หลักของการมาเยือนภูป่าเปาะก็คือการมาชมวิวภูหอ ซึ่งหลายคนขนานนามให้เป็นฟูจิแห่งเมืองเลยนี่ละ และนอกจากจุดนี้ ภูป่าเปาะก็ยังมีจุดชมวิวอีก 3 จุดที่สวยแตกต่างกันไปให้แวะนะ ที่เริ่ดคือเราสามารถเที่ยวชมทุกจุดได้แบบไม่ต้องเหนื่อยเลยจ้า เพราะชาวบ้านเค้ามีรถอีแต๊กให้บริการพาขึ้นมาเที่ยวด้านบนกันแบบชิลล์ๆ เลยนะ เป็นพิกัดชมวิวที่เหมาะกับทุกเพศวัยจริงๆ

11. สกายวอล์ค เชียงคาน

แลนด์มาร์คล่าสุดแห่งหนึ่งของเมืองเลยที่หลายคนอาจจะเคยเล็งๆ เอาไว้แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปซักที สกายวอล์คแห่งนี้มีความสูงใกล้เคียงกับตึกถึง 30 ชั้นเลยนะ แถมยังสร้างยื่นออกไปบนหน้าผาซึ่งสามารถมองเห็นความสวยของสองฝั่งไทย - ลาวได้แบบเต็มๆ ตาอีกด้วย ได้เห็นโค้งแม่น้ำโขงคดเคี้ยวและแบ็คกราวนด์เป็นทิวเขาสีเขียวน่าประทับใจ แถมด้านหน้าของสกายวอล์คยังเป็นพื้นกระจกใสความยาว 100 เมตรถ้วนจ้า จากตรงนี้เห็นวิวสูงๆ เสียวๆ ได้แบบ 360 องศาเลยนะ ต้องมาให้ได้เชียว

12. ภูโปก

อีกหนึ่งพิกัดที่เชื่อว่าหลายคนที่ได้ยินชื่อคงต้องทำหน้าสงสัย ภูโปกนั้นเป็นพิกัดท่องเที่ยวซึ่งเพิ่งเป็นที่รู้จักได้ไม่นานนัก และด้วยเส้นทางการขึ้นสู่จุดชมวิวด้านบนที่ค่อนข้างลำบาก ทำให้ที่นี่เหมาะกับนักเดินทางสายลุยกันซักหน่อย ภูโปกในภาษาอีสานนั้นแปลง่ายๆ ว่าภูเขาหัวโล้นนั่นละ และเพราะไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ทำให้ที่นี่กลายเป็นพิกัดที่ชมวิวได้แบบ 360 องศา บนภูโปกนั้นไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ การขึ้นไปกางเต็นท์นอนจึงต้องเตรียมตัวกันให้ดี เส้นทางขึ้นมาที่นี่ใช้ได้เฉพาะรถ 4x4 ซึ่งต้องมีคนขับที่ชำนาญเส้นทางด้วยนะ สายธรรมชาติปักหมุดจ้า เชื่อว่าถูกใจแน่นอน

13. แก่งคุดคู้

แนวก้อนหินขนาดใหญ่ที่ทอดตัวขวางกลางแม่น้ำโขง ซึ่งถ้าจะชมกันแบบเต็มๆ ตา แนะนำว่าต้องมาช่วงหน้าแล้งที่น้ำน้อยซักหน่อยนะ รอบๆ แก่งคุดคู้นั้นล้อมรอบไปด้วยทิวเขาเขียวขจี และมีหาดทรายกว้างสำหรับใช้ลงเรือล่องชมแม่น้ำโขงกันอย่างใกล้ชิดด้วยจ้า ที่เด็ดคือมีร้านให้ช้อปปิ้งกันเพียบเลยนะ แถมระหว่างทางยังมีพิกัดที่เป็นร้านทำมะพร้าวแก้วของดีเมืองเชียงคานให้แวะชิม ชม ช้อป กันหลายร้านเลยจ้า ได้เห็นวิธีทำก็ยิ่งทำให้อยากช้อปมากขึ้นอีกนะ อย่าลืมแวะเชียว

14. ภูหลวง

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงนั้นเป็นภูเขาสูงใหญ่ที่กินพื้นที่กว่า 560,000 ไร่ ด้วยความกว้างใหญ่ทำให้ที่นี่มีสภาพแวดล้อมสมบูรณ์และหลากหลาย โดยเฉพาะดอกไม้ป่าซึ่งมีผลัดเปลี่ยนให้เห็นกันได้เกือบตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้สารพัดสีหลากหลายสายพันธุ์ไปจนถึงกุหลาบพันปี แถมที่นี่ยังมีรอยเท้าไดโนเสาร์อายุกว่า 120 ล้านปีให้ชมกันด้วยนะ บนภูหลวงมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายระดับให้เลือกกันได้ตามสมรรถภาพร่างกาย ใครเป็นสายธรรมชาติรักป่าเขาและต้นไม้ ปักหมุดเอาไว้เลย

15. ภูบ่อบิด

ภูบ่อบิดนั้นนับเป็นพิกัดชมทะเลหมอกที่เดินทางง่าย เพราะอยู่ใกล้กับตัวเมืองเลยเพียงแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้นจ้า ระยะทางจากด้านล่างขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดภูนั้นอยู่ที่ประมาณ 650 เมตรเท่านั้นนะ เชื่อว่าไม่ยากจนเกินไป และรับรองได้ว่าวิวที่จะได้เห็นนั้นคุ้มค่า เพราะที่นี่มีทะเลหมอกแบบแน่นๆ และจุดชมวิวที่เห็นได้เกือบ 360 องศาให้เราได้ฟินกัน และถ้าใครไม่ชอบตื่นเช้าเราขอแนะนำอีกออพชั่นเป็นการขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็นๆ นะ เพราะจะได้เห็นแสงไฟระยิบระยับจากตัวเมืองเลยเป็นโบนัสด้วยจ้า ด้านบนภูเปิดให้อยู่ได้ถึงราว 19.30 น. นะ กะเวลากันให้ดี

16. ถนนคนเดินเชียงคาน

ใครมาถึงเชียงคานแล้วไม่ได้แวะที่นี่ ถือว่าพลาดมาก! ถนนคนเดินเชียงคานคือแลนด์มาร์กฮิตติดอันดับของที่เที่ยวจังหวัดเลยทุกเย็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ถนนเลียบโขงจะกลายเป็นแหล่งช้อป ชิม ชิลล์ กับของฝากงานแฮนด์เมด น่ารัก ๆ อาหารพื้นบ้านแบบอีสานแท้ ๆ และบรรยากาศย้อนยุคด้วยบ้านไม้เก่า กลิ่นอายวินเทจสุดโรแมนติก เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวเลยแบบช้า ๆ ซึมซับเสน่ห์เมืองเล็ก ๆ ริมโขงให้เต็มปอด

17. พระธาตุศรีสองรัก

พูดถึงที่เที่ยวจังหวัดเลยแล้วไม่เอ่ยถึง พระธาตุศรีสองรัก ไม่ได้เลย เพราะที่นี่คือหนึ่งในแลนด์มาร์กสายมูที่ใคร ๆ ก็ต้องแวะมากราบขอพร! ตั้งอยู่ที่อำเภอด่านซ้าย โดดเด่นด้วยเจดีย์สีขาวสง่างามท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น เป็นพระธาตุเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีความหมายถึง “รักและสามัคคี” เหมาะกับคนที่อยากขอพรเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ หรือแม้แต่เรื่องงาน บอกเลยว่าที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ! ช่วงเทศกาลมีประเพณีบุญหลวงสุดอลังการให้ได้ชมวัฒนธรรมพื้นบ้านอีกด้วย มาที่เที่ยวเลย 2568 แวะเติมพลังใจ พร้อมเช็คอินจุดไหว้พระเสริมดวงปัง ๆ ต้องมาที่นี่เท่านั้น

18. สกายวอล์คเชียงคาน (Skywalk Chiang Khan)

ใครกำลังมองหาที่เที่ยวเลยที่วิวสวยระดับล้าน ต้องไม่พลาด สกายวอล์คเชียงคาน ที่นี่คือจุดชมวิวริมโขงแบบพาโนราม่า 360 องศา เดินบนทางกระจกใสที่ยื่นออกไปจากผา สูงสะใจ แต่วิวอลังการมาก! มองเห็นทั้งโค้งน้ำโขงฝั่งไทย-ลาว และภูเขาสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา ถ้ามาเช้า ๆ หน่อยจะเจอทะเลหมอกลอยปกคลุม บรรยากาศฟินขั้นสุด แนะนำให้พกกล้องดี ๆ มาถ่ายรูป เพราะมุมนี้คือ “ของมันต้องมี” สำหรับทุกสายโซเชียล คนมาเที่ยวเลย 2568 ห้ามพลาดเด็ดขาด

19. วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน

อีกหนึ่งที่เที่ยวจังหวัดเลยที่ได้ทั้งบุญและวิว วัดพระพุทธบาทภูควายเงินตั้งอยู่บนยอดเขา บรรยากาศสงบ อากาศดี มีรอยพระพุทธบาทบนหินใหญ่ที่ผู้คนศรัทธา เชื่อกันว่ามากราบไหว้แล้วจะร่ำรวยเงินทองตามชื่อ ภูควายเงิน เลยนะ นอกจากได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยังได้ชมวิวเมืองเชียงคานจากมุมสูงแบบเต็มตา ใครที่ชอบความสงบ บวกกับชอบชมธรรมชาติ พร้อมซึมซับพลังบวก ต้องแวะที่นี่ในการเที่ยวเลยให้ได้สักครั้ง

20. วนอุทยานภูบ่อบิด

ใครสายสายเดินป่า วิ่งเทรล หรือแค่ชอบความเงียบสงบของธรรมชาติ ต้องมาตรงนี้ วนอุทยานภูบ่อบิด อยู่ใกล้ตัวเมืองเลย เดินทางง่าย ที่นี่เหมาะมากกับการปีนขึ้นไปชมวิวบนยอดเขา บอกเลยว่าข้างบนวิวสวยตะโกน! มีทะเลหมอกให้ดูในช่วงเช้า หรือถ้าคุณเป็นสายโรแมนติกก็มานั่งดูพระอาทิตย์ตกดินแบบฟีลกู้ดได้เลย เส้นทางเดินป่าไม่โหด เด็กเดินได้ ผู้ใหญ่เดินดี ใครชอบเที่ยวแบบเนิบ ๆ สูดอากาศดี ๆ แนะนำเลย! เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเลย 2568 ที่ไม่ควรหลุดโผ

21. ถนนชมโขง เชียงคาน

อยากหามุมสงบ เดินเล่นแบบชิลล์ ๆ ต้องมาที่ ถนนชมโขง ถนนเลียบแม่น้ำโขงสุดโรแมนติกของเมืองเชียงคาน ที่นี่มีทางเดินจักรยาน ทางเดินเล่น พร้อมวิวโขงที่เห็นพระอาทิตย์ตกดินชัดสุด ๆ เป็นโลเคชันยอดฮิตของคนที่มา เที่ยวเลย แล้วอยากพักใจ หามุมเงียบ ๆ จิบกาแฟ เบา ๆ บางร้านก็มีมุมเก๋ ๆ ให้ถ่ายรูปด้วยนะ! เหมาะทั้งสายครอบครัว คู่รัก หรือคนโสดที่อยากมาเติมพลังใจ

22. หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดํา

หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ คือที่เที่ยวเลย แนววัฒนธรรมที่ต้องแวะ ที่เที่ยวจังหวัดเลยที่นี่จำลองวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวไทดำเอาไว้ครบถ้วน ทั้งบ้านเรือนไม้ การแต่งกายประจำเผ่า การทอผ้าด้วยมือ และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่สามารถเข้าร่วมได้จริง แถมยังมีโชว์และนิทรรศการให้เราเข้าใจวัฒนธรรมได้ลึกขึ้นด้วย เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ และสถานที่ถ่ายรูปเก๋ ๆ ในธีมพื้นถิ่นที่หายาก เหมาะมากกับสายฮิป สายคัลเจอร์ มาเที่ยวเลย 2568 ต้องลองสัมผัสเสน่ห์นี้ด้วยตัวเอง

23. น้ำตกถ้ำใหญ่

ถ้าคุณชอบแนวลุย ๆ ผจญภัยเล็ก ๆ พร้อมธรรมชาติสุดอิ่มใจ น้ำตกถ้ำใหญ่ คือคำตอบ ที่นี่เป็นที่เที่ยวจังหวัดเลยสไตล์แอดเวนเจอร์ในอำเภอภูหลวง ต้องเดินเท้าเข้าไปหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มเหนื่อย เพราะระหว่างทางได้เจอป่าเขียวชอุ่ม น้ำตกสวยใสหลายชั้น และยังมีถ้ำให้เข้าชมเพิ่มความตื่นเต้นด้วยนะ! เหมาะมากกับสายรักธรรมชาติ หรือกลุ่มเพื่อนที่อยากทำกิจกรรมร่วมกันแบบไม่จำเจ

24. สวนหินผางาม

อยากหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซี ต้องมาที่ สวนหินผางาม หรือ คุนหมิงเมืองเลย เพราะที่เที่ยวเลยที่นี่เต็มไปด้วยหินปูนรูปร่างแปลกตา วางเรียงรายเหมือนประติมากรรมธรรมชาติสุดอลังการ เส้นทางเดินก็สนุกเหมือนไปผจญภัยเบา ๆ ในดินแดนลึกลับ มีทั้งหุบเขา แคนยอนเล็ก ๆ ให้เดินสำรวจ เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และเป็นหนึ่งในที่เที่ยวเลย 2568 ที่ให้ฟีลไม่เหมือนใครแน่นอน

25. อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง

ปิดทริปแบบสบายใจ ต้องมาที่ อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง ที่เที่ยวเลยแห่งนี้คือจุดพักผ่อนกลางธรรมชาติสุดชิล เหมาะกับการนั่งแพไม้ไผ่ กินอาหารอีสานรสแซ่บ พร้อมชมวิวทะเลสาบสีเขียวมรกต ท่ามกลางขุนเขา ถ้าใครอยากพายเรือคายัก หรือปั่นเรือเป็ดก็มีให้เช่าแบบชิลล์ ๆ เป็นที่เที่ยวจังหวัดเลยที่ครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อนสามารถแวะมาผ่อนคลายกันได้แบบไม่เร่งรีบเลย ใครมาเที่ยวเลยแล้วอยากปิดทริปด้วยความสงบสุข ที่นี่คือคำตอบ

🌟 กิจกรรมที่เที่ยวเลย ที่ไม่ควรพลาด!

1. เช็กอินถนนคนเดินเชียงคาน เดินเพลิน ชิมเพลิน ฟินทุกวันศุกร์–เสาร์–อาทิตย์

มาที่เที่ยวจังหวัดเลยทั้งที ไม่แวะเชียงคานถือว่าพลาดแรง โดยเฉพาะถนนคนเดินเชียงคานที่เต็มไปด้วยของกิน ของฝาก และบรรยากาศสุดอบอุ่นริมโขง ใครชอบเดินเล่นแบบชิล ๆ พร้อมจิบกาแฟเบา ๆ หรือช้อปของแฮนด์เมดน่ารัก ๆ ต้องไม่พลาดที่นี่เลย แถมตอนเช้าใครตื่นไหวก็อย่าลืม “ตักบาตรข้าวเหนียว” หน้าบ้านไม้โบราณ ได้ฟีลวินเทจไทยแท้ไปอีก

2. ล่องเรือแม่น้ำโขง เชียงคาน ชมวิวสองฝั่งไทย–ลาว สุดโรแมนติก

ถ้าใครกำลังหาที่เที่ยวเลยแบบโรแมนติก ๆ วิวสวย ๆ ต้องมาลองล่องเรือแม่น้ำโขงที่เชียงคาน กิจกรรมนี้คือที่สุดของความชิลล์ เพราะจะได้ล่องเรือช้า ๆ ไปตามแม่น้ำโขง รับลมเย็น ๆ มองวิวสองฝั่งแม่น้ำที่ฝั่งนึงเป็นไทย อีกฝั่งเป็นลาว ไฮไลต์ของทริปนี้คือช่วงเย็น ที่พระอาทิตย์ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า แล้วท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นชมพูส้มสะท้อนผืนน้ำ โอ๊ย…ฟีลดีเกินต้าน ถ่ายรูปออกมาคือปังทุกมุม ใครมากับแฟนคือโรแมนติกน้ำตาไหล ใครมาคนเดียวก็ได้ซึมซับความสงบแบบเต็มพิกัด

3. ปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำโขง เชียงคาน สูดลมหายใจให้เต็มปอด แล้วปล่อยใจไปกับวิวสุดปัง

ถ้าพูดถึงกิจกรรมที่ทั้งชิล ทั้งเฮลตี้ แถมยังได้วิวหลักล้านแบบไม่ต้องจ่ายแพง ต้องมาลองปั่นจักรยานชมวิวแม่น้ำโขงที่เชียงคานเลย ที่นี่คือหนึ่งในที่เที่ยวเลยที่สายธรรมชาติและสายแชะห้ามพลาด เพราะเส้นทางปั่นเลียบโขงมีวิวที่บอกเลยว่าสุดจัดปลัดบอก ช่วงเช้าแดดอ่อน ลมเย็น ๆ พัดเบา ๆ ปั่นไปเรื่อย ๆ ผ่านบ้านไม้เก่า คาเฟ่น่ารัก และวัดวาอารามเล็ก ๆ บรรยากาศสโลว์ไลฟ์สุด ๆ จนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้เลยแหละ~ ส่วนตอนเย็นก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกสะท้อนลงบนผืนน้ำโขงแบบโรแมนติกสุด ๆ มุมนี้คือถ่ายรูปกี่ครั้งก็ยังสวยทุกช็อต

💚 โรงแรมที่พักเลย น่ารัก บรรยากาศดี นอนสบาย วิวสุดปัง

1. Chiangkhan River Green Hill

ที่พักเลย
ที่พักเลย
ที่พักเลย
ที่พักเลย

+11

ที่พักเลย

ที่พักเลย ⭐⭐⭐

ที่พักเลยที่ได้ทั้งวิวแม่น้ำโขงและภูเขาในที่เดียว บอกเลยว่าต้องปักหมุดมาที่ Chiangkhan River Green Hill เลย ที่นี่คือที่พักเลยที่ตั้งอยู่กลางธรรมชาติจริง ๆ เหมาะมากสำหรับสายชิล สายถ่ายรูป หรือคนที่อยากตื่นเช้ามาเจอหมอกบาง ๆ ลอยเหนือแม่น้ำ ฟีลคือดีแบบไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มเลย ห้องพักตกแต่งเรียบง่าย สบายตา แต่มีความอบอุ่น มีทั้งห้องวิวโขงและวิวสวนให้เลือก จะนอนคนเดียวก็เหงาเบา ๆ หรือจะมากับคนรู้ใจก็โรแมนติกจนไม่อยากเช็กเอาต์เลยล่ะ ที่สำคัญคือเจ้าของที่นี่ใจดีมาก มีจักรยานให้ปั่นเล่นอีกด้วย~

📍 พิกัด: อ.เชียงคาน จ.เลย
💰 ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 800 – 5,000 บาท/คืน

Thailand

Chiangkhan River Green Hill

8.7/10

Bu Hom

THB 854.40

THB 850.98

2. Chiangkhan River Mountain Resort

ที่เที่ยวเลย
ที่เที่ยวเลย
ที่เที่ยวเลย

+6

ที่เที่ยวเลย

ที่พักเลย ⭐⭐⭐⭐

ใครอยากสัมผัสฟีลนอนกลางหุบเขา มองวิวแม่น้ำโขงต้องมาที่นี่เลย Chiangkhan River Mountain Resort หนึ่งในที่พักเลยที่วิวดีที่สุดแห่งหนึ่ง! บรรยากาศรอบที่พักคือดีมากกก มีทั้งแม่น้ำ ภูเขา และสวนเขียว ๆ ล้อมรอบ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในรีสอร์ตกลางธรรมชาติจริง ๆ ห้องพักมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งห้องเตียงคู่ เตียงเดี่ยว และแบบสำหรับครอบครัว แถมยังมีระเบียงให้นั่งจิบกาแฟยามเช้า ชมหมอกจาง ๆ บอกเลยว่าฟินแบบไม่ต้องพึ่งกาแฟเลยจ้า~ ภายในรีสอร์ตยังมีคาเฟ่เล็ก ๆ ให้นั่งชิล มุมถ่ายรูปเพียบ ใครมองหาที่พักเลยที่เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนแบบเต็มหัวใจ ที่นี่คือตอบโจทย์

📍 พิกัด: ริมโขง อ.เชียงคาน
💰 ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1,500 – 3,500 บาท/คืน

Thailand

Chiangkhan River Mountain Resort

8.9/10

Chiang Khan District

ดูราคา

3. Suneta Hostel Chiangkhan Soi 13

ที่เที่ยวจังหวัดเลย
ที่เที่ยวจังหวัดเลย
ที่เที่ยวจังหวัดเลย
ที่เที่ยวจังหวัดเลย

+6

ที่เที่ยวจังหวัดเลย

ที่พักเลย ⭐⭐⭐

สำหรับใครสายฮิป สายแบ็กแพ็ค หรือชอบที่พักเลยที่อยู่ใจกลางความคึกคัก ต้องมาจองที่นี่ Suneta Hostel Chiangkhan Soi 13 บอกเลยว่าเล็ก ๆ แต่คูลมาก~ ที่นี่ตั้งอยู่บนถนนคนเดินเชียงคาน เดินออกจากประตูไม่กี่ก้าวก็คือเจอตลาด ของกิน คาเฟ่ ของฝากครบหมด! ตัวที่พักตกแต่งสไตล์ลอฟต์ผสมกลิ่นอายบ้านไม้แบบเชียงคาน ห้องพักมีทั้งแบบห้องส่วนตัวและห้องรวม สะอาด ปลอดภัย บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านเพื่อน แถมยังมีโซนนั่งเล่น โซนอ่านหนังสือ และบริการเช่าจักรยานให้ปั่นริมโขงอีกด้วย คุ้มแบบนี้จะรออะไร~ ที่พักดี ราคาไม่แรง อยู่ย่านฮิต บอกเลยว่าคุ้มทุกบาทแน่นอน

📍 พิกัด: ซอย 13 ถนนคนเดินเชียงคาน
💰 ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1,000 – 3,000 บาท/คืน

Thailand

Suneta Hostel Chiangkhan Soi 13

8.7/10

Chiang Khan District

THB 2,131.82

THB 2,002.05

🗺️ ไป “เลย” ยังไงให้สนุก!? คู่มือการเดินทางสู่เมืองหมอกสุดฮิป ที่เที่ยวเลยรออยู่เพียบ

ถ้าใจมันอยากเที่ยวเลยแล้วล่ะก็...อย่ารอช้า! เก็บกระเป๋าแล้วไป เลย กันเถอะ~ จังหวัดนี้ไม่ได้มีดีแค่หมอกหนาวกับวิวเขานะ แต่ยังเต็มไปด้วยที่เที่ยวจังหวัดเลยสวย ๆ ซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติ และบรรยากาศแบบสโลว์ไลฟ์ที่ใครได้มาแล้วจะต้องตกหลุมรัก แต่ก่อนจะไปฟินกับทะเลหมอกภูเรือ เดินถนนคนเดินเชียงคาน หรือปั่นจักรยานริมแม่น้ำโขง…เรามาดูกันก่อนว่าไปเลยยังไงดี?

🚗 เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ขับเองก็แฮปปี้ แวะได้ตามใจ วิวข้างทางสวยไม่แพ้ปลายทาง

ถ้าคุณเป็นสายรักอิสระ ชอบขับรถชมวิว แวะกิน แวะเที่ยวแบบไม่ต้องรีบล่ะก็...การขับรถไปเที่ยวเลยด้วยรถยนต์ส่วนตัวคือคำตอบที่ใช่ที่สุด!
จาก กรุงเทพฯ ไป จังหวัดเลย ระยะทางประมาณ 530–580 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว ๆ 8–9 ชั่วโมง (หรือมากกว่านั้นถ้าแวะบ่อย) แต่บอกเลยว่าทางขับง่าย ถนนดี มีปั๊มเพียบ

🛣️ เส้นทางยอดนิยมมีให้เลือก 2 สายหลัก:

1. สายธรรมชาติสายกลาง:

กรุงเทพฯ – สระบุรี – ชัยภูมิ – ด่านซ้าย – เลย
เส้นนี้จะได้ขับผ่านป่า เขา และอุทยานเยอะหน่อย เหมาะกับสายธรรมชาติ ชอบแวะถ่ายรูป หรืออยากแวะเที่ยวที่เชิงเขาอย่าง ภูเขียว, อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ก่อนเข้าตัวเมืองเลย

2. สายขับง่ายสายหลัก:

กรุงเทพฯ – นครราชสีมา – ขอนแก่น – อุดรธานี – เลย
เส้นนี้ถนนกว้าง วิ่งสบาย ร้านอาหาร คาเฟ่ แวะได้ตลอดทาง มีที่ให้เติมพลังทั้งคนและรถแบบจุก ๆ! แถมผ่านเมืองใหญ่หลายแห่ง ใครอยากแวะกินก๋วยเตี๋ยวเมืองพล หรือหมูยออุดร ก็จัดไปเลย

📌 ไฮไลต์ของการขับรถไปเที่ยวเลย

วิวสองข้างทางช่วงเข้าเขตที่เที่ยวจังหวัดเลยคือสวยมากกกก มีทั้งภูเขา ป่าเขียว ๆ และช่วงหน้าหนาวจะได้เห็นทะเลหมอกบาง ๆ ลอยอยู่ตรงหน้ารถแบบว้าวสุด
ระหว่างทางสามารถแวะเที่ยวได้อีกหลายจุด เช่น เขื่อนลำตะคอง, มอหินขาว, ภูผาม่าน, จุดชมวิวภูเรือ ก่อนจะเข้าตัวเมืองหรือ เชียงคาน แบบชิลล์ ๆ

🚘 เหมาะกับ: ครอบครัว, แก๊งเพื่อน, คู่รัก หรือคนชอบขับรถเที่ยวแบบลุย ๆ
🎒 ทิป: อย่าลืมเช็กสภาพรถ เติมน้ำมันให้พร้อม และโหลดเพลย์ลิสต์เพลงโปรดไว้ให้พร้อมขับแบบเพลินสุด

✈️ เดินทางโดยเครื่องบิน ทางลัดสู่ “เลย” ที่เร็วที่สุด! ถึงไว ฟินไว พร้อมเที่ยวทันที

ถ้าคุณมีเวลาน้อย แต่ใจมันเรียกร้องจะไปเที่ยวเลยแบบด่วนจี๋ทันใจ การบินตรงคือทางเลือกที่ดีงามสุด ๆ! ปัจจุบันมี ไฟลต์ตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) ไปยัง สนามบินเลย (LOE) ใช้เวลาแค่ ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที เท่านั้น

✈️ สายการบินที่ให้บริการเส้นทางนี้:

AirAsia
Nok Air
(แนะนำให้เช็กตารางไฟลต์ล่วงหน้า เพราะบางช่วงอาจมีวันละ 1 เที่ยว)

🛬 ถึงสนามบินแล้วไปไหนต่อ?

ต่อรถแท็กซี่หรือสองแถว เข้าเมืองเลย (ประมาณ 10–15 กม.)
หรือจะเช่ารถขับเองก็สะดวกสุด ๆ เพราะจะได้ตระเวนที่เที่ยวจังหวัดเลย ได้แบบจัดเต็ม เช่น ภูเรือ, เชียงคาน, ภูกระดึง, ภูหลวง ฯลฯ

🎒 เหมาะกับ: นักเดินทางสายด่วน, คนมีเวลาน้อย, หรือใครอยากไปถึงเช้าแล้วเที่ยวเลยทันที!
📸 ทิป: ถึงเร็วพอ ก็สามารถไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูบ่อบิดได้เลย ฟินตั้งแต่เช้า

🚌 เดินทางโดยรถโดยสาร ประหยัด คุ้มค่า และสะดวกสบาย

ใครงบจำกัด หรืออยากนั่งยาว ๆ แบบไม่ต้องขับเอง ต้องทางนี้เลย ขึ้นรถโดยสารจาก หมอชิต 2 (กรุงเทพฯ) ไปยัง บขส.เลย ได้ทุกวัน มีให้เลือกทั้งรอบกลางวันและกลางคืน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9–10 ชั่วโมง แล้วแต่ว่ารถแวะพักหรือไม่

🚌 บริษัทที่ให้บริการ เช่น:

บขส. (999)
เชิดชัยทัวร์
สหพันธ์ร้อยเอ็ด ฯลฯ

💺 มีให้เลือกหลายแบบ:

รถปรับอากาศธรรมดา
VIP (ที่นั่งกว้าง หลับสบาย)
VIP 24 ที่นั่ง (มีบริการผ้าห่ม น้ำดื่ม ขนม)

🎯 จุดลง:

บขส.เมืองเลย
หรือบางสายวิ่งถึงเชียงคานเลยด้วย สะดวกมากสำหรับคนที่อยากไปเดินเล่นริมโขงตอนเช้าเลย~

📦 ทิป: แนะนำรอบกลางคืน จะได้ขึ้นรถตอนหัวค่ำ ตื่นมาก็ถึงเช้า พร้อมเที่ยวแบบไม่เสียวัน
🚶‍♀️ เหมาะกับ: นักเรียน นักศึกษา คนแบกเป้ สายประหยัดแต่เก๋ไก๋

🚆 เดินทางโดยรถไฟ ถึงจะอ้อมนิด แต่ฟินระหว่างทางก็ได้นะ

ตอนนี้เลยยังไม่มีสถานีรถไฟเป็นของตัวเอง (แง...) แต่ไม่เป็นไร ใครสายคลาสสิกชอบนั่งรถไฟมองวิวแบบเรื่อย ๆ ก็สามารถนั่งไปลงที่ขอนแก่นหรือ อุดรธานีก่อนแล้วค่อยต่อรถตู้หรือรถบัสไปจังหวัดเลยได้เลย

🚉 เส้นทางแนะนำ:

กรุงเทพฯ – ขอนแก่น (ประมาณ 6–7 ชั่วโมง)
กรุงเทพฯ – อุดรธานี (ประมาณ 8 ชั่วโมง)

จากนั้นนั่งรถต่อประมาณ:

ขอนแก่น → เลย: 3 ชั่วโมง
อุดรธานี → เลย: 2.5 ชั่วโมง

🧳 เหมาะกับ: คนมีเวลาชิลล์ ๆ อยากได้ฟีลย้อนยุค เดินทางแบบ Slow Travel ไม่รีบร้อน
🍱 ทิป: อย่าลืมหาอาหารติดตัวไว้ด้วยนะ เพราะบางเที่ยวไม่มีพนักงานขายอาหารบนรถไฟ

เลยเป็นจังหวัดที่มีสารพัดธรรมชาติสวยๆ ให้ได้เสพกันจนจุใจ โดยเฉพาะถ้าใครเป็นนักล่าตะวันที่ชอบการชมวิวทะเลหมอกยามเช้าและวิวมุมสูงเป็นพิเศษนะ รับรองว่าฟินกันสุดๆ ที่นี่แน่ๆ เพราะเป็นพิกัดที่เต็มไปด้วยภูเขาและจุดชมทิวทัศน์แจ่มๆ เพียบเลยจ้า ที่สำคัญส่วนใหญ่ยังเดินทางได้แบบไม่ลำบากเกินไปด้วยนะ ยิ่งเป็นช่วงใกล้ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ยิ่งมีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกกันบ่อยๆ เลยเชียวละ รับรองว่าจะต้องประทับใจกันแน่นอน

Discover flight with Traveloka

Tue, 22 Jul 2025

Thai AirAsia

กรุงเทพ (DMK) ไป เลย (LOE)

เริ่มจาก THB 1,139.49

Fri, 18 Jul 2025

Thai AirAsia

ภูเก็ต (HKT) ไป เลย (LOE)

เริ่มจาก THB 2,128.33

Fri, 25 Jul 2025

Thai Lion Air

ภูเก็ต (HKT) ไป เลย (LOE)

เริ่มจาก THB 2,138.05

เที่ยวบินที่แนะนำในบทความนี้

Tue, 22 Jul 2025
Thai AirAsia
กรุงเทพ (DMK) ไป เลย (LOE)
เริ่มจาก THB 1,139.49
จองเลย
Fri, 18 Jul 2025
Thai AirAsia
ภูเก็ต (HKT) ไป เลย (LOE)
เริ่มจาก THB 2,128.33
จองเลย
Fri, 25 Jul 2025
Thai Lion Air
ภูเก็ต (HKT) ไป เลย (LOE)
เริ่มจาก THB 2,138.05
จองเลย

สำรวจสิ่งที่ดีที่สุดของ ประเทศไทย

กรุงเทพฯ

Thailand

ประเทศไทย

ดอนเมือง

Thailand

ภูเก็ต

Thailand
จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร