สำหรับนักเดินทางทั้งหลาย เชื่อว่าหนึ่งประเทศที่ปักหมุดเอาไว้ในใจต้องมีสวิตเซอร์แลนด์อยู่ในนั้นด้วยแน่นอน เพราะนี่คือประเทศที่ได้ชื่อว่ามีพิกัดธรรมชาติสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยเชียวละ แถมยังสะดวกสบายและได้ชื่อว่าเป็นพิกัดที่ปลอดภัยที่สุดอีกแห่งของโลกด้วยนะ ความที่สุดเค้าเยอะขนาดนี้ ต้องหาเวลาไปเช็คอินที่สวิสกันซักครั้งแล้วจ้า ไปมองหาตั๋วเครื่องบินสวิตเซอร์แลนด์กับ Traveloka ได้เลยนะ ตั๋วโปรฯ ราคาดี มีสารพัดสายการบินให้เลือกด้วยละ พร้อมแล้วเราไปหาพิกัดเที่ยวสวิสกันแบบสุดชิลล์ได้เลย
เมืองสุดน่ารักบนความสูง 1,620 เมตร ซึ่งเป็นพิกัดที่สามารถมองเห็นยอดเขาชื่อดังอย่าง Matterhorn ได้แบบเต็มตา โดยยอดเขานี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกด้วยนะ เพราะมีหน้าตาอยู่บนโลโก้บริษัทหนัง Paramount Pictures ช็อคโกแลต Toblerone หรือแม้กระทั่งกล่องลูกอม Ricola ว่ากันว่านี่คือยอดเขาที่สวยที่สุดของสวิสเลยด้วยนะ ตัวเมืองเซอร์แม็ทท์ก็เริ่ดไม่แพ้กันจ้า เพราะเพราะเมืองปลอดมลภาวะเนื่องจากที่นี่ไม่มีรถยนต์วิ่งเลยซักคัน รอบด้านก็ยังคงเป็นบ้านไม้สไตล์สวิสแบบดั้งเดิมเป็นส่วนใหญ่ เป็นพิกัดที่มาแล้วต้องประทับใจแน่นอน
เป็นสะพานไม้เก่าแก่ซึ่งตั้งชื่อตามโบสถ์ Chapel ที่อยู่ใกล้ๆ กัน สะพานแห่งนี้นับเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และเป็นหนึ่งในสะพานแบบโครงที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งยังเหลือให้ดูอยู่ในโลกขณะนี้ ตัวสะพานสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1365 ด้านในสะพานยังมีภาพจิตรกรรมโบราณตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ซึ่งบางส่วนมีความเสียหายจากการเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ บริเวณกลางสะพานยังมีหอคอยแปดเหลี่ยมซึ่งสร้างขึ้นในช่วงใกล้ๆ กันกับตัวสะพาน เพื่อใช้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษในยุคก่อนให้แวะชมกันด้วยจ้า ใกล้ๆ กันยังมีร้านขายของริมทางให้แวะช้อปกันเพียบเลยนะ มาแล้วต้องจัดให้ได้เด้อ
อินเทอร์ลาเคนนั้นเป็นเมืองมรดกโลกแห่งแรกของเทือกเขาแอลป์ และยังเป็นเมืองที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสวยๆ มากมาย เมืองนี้มีทะเลสาบสองแห่งโอบล้อมเอาไว้ได้แก่ Lake Brienz และ Lake Thun รวมถึงยังเป็นทางผ่านในการเข้าไปยังยอดเขา Jungfrau ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของยุโรปอีกด้วยจ้า ที่นี่จึงมีธรรมชาติสุดปังทั้งทะเลสาบ ภูเขา ถ้ำ หรือน้ำตกเล็กๆ สวยสบายตา รวมถึงยังมีปราสาทเก่าแก่และบ้านเรือนสวยๆ อีกมากมาย เป็นอีกเมืองที่น่าไปเดินเล่นซะจริงๆ
สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในทวีปยุโรปแห่งนี้ ตั้งอยู่บนยอดเขาจุงเฟราซึ่งมีความสูงที่สุดในทวีปยุโรปด้วยเช่นกัน โดยตัวสถานีตั้งอยู่ในความสูง 3,454 เมตร และยอดเขานี้ยังเป็นเขตพื้นที่มรดกโลกด้วยจ้า ความเก๋ของการขึ้นไปบนยอดเขานี้คือการที่เราจะได้นั่งรถไฟไต่ความสูงขึ้นไป โดยเดินทางได้ทั้งจากเมือง Lauterbrunnen และ Grindelwald เลยนะ ทั้งสองเส้นทางจะมีวิวแสนสวยของทิวทัศน์สุดอลังรอบด้านให้ดูกันแบบแสนเพลินเลยละ บนยอดเขายังมีพิพิธภัณฑ์และถ้ำน้ำแข็งให้ชมกันด้วยจ้า เริ่ดขนาดนี้ไม่มาไม่ได้แล้ว
นี่คือหมู่บ้านเล็กๆ กลางอ้อมกอดแห่งขุนเขาที่สวยเหมือนอยู่ในความฝัน ตัวหมู่บ้านนั้นยังเต็มไปด้วยความสงบเรียบง่าย มีบ้านไม้สไตล์สวิสชาเล่ต์ให้เดินชมกัน รอบๆ หมู่บ้านนั้นเป็นผาสูงชันของทิวเขาสลับซับซ้อน 360 องศา แถมยังมีไฮไลท์เป็นสายน้ำตกที่ไหลลงมาจากผาหินเป็นแบ็คกราวนด์สวยแปลกตาไม่เหมือนใคร เป็นหมู่บ้านไซส์ไม่ใหญ่แต่สวยได้ใจจนลืมไม่ลงอย่างแน่นอน
ซูริค คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ทุกวันนี้ที่นี่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งของสวิสและยุโรป รวมถึงยังเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมทั้งเครื่องบินและรถไฟ ซูริคจึงเป็นเมืองที่ให้อารมณ์ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับสถาปัตยกรรมในอารมณ์เก่าแก่ของอาคารบ้านเรือนได้อย่างลงตัวเชียวละ แถมเมืองนี้ยังมีความสวยของทะเลสาบและรวมแหล่งช้อปปิ้งไว้แบบแน่นๆ เลยจ้า รับรองว่าจะเป็นอีกพิกัดที่มาแล้วแฮปปี้แน่นอน
หมู่บ้านเล็กๆ ชานเมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งตั้งอยู่บนความสูง 1,034 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนเชิงเขา Bernese Alps เห็นเป็นหมู่บ้านเล็กๆ เงียบสงบแบบนี้ แต่ที่นี่นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งเลยนะ ในช่วงฤดูหนาวจะมีผู้คนมาเล่นสกีที่นี่กันหนาตา ส่วนในช่วงหน้าร้อนนั้นยังมีผู้คนนิยมมาเทรกกิ้งในบริเวณนี้กันมากมาย จึงไม่ต้องแปลกใจในการเดินทางอันแสนสะดวกสบายที่มีให้บริการกัน หมู่บ้านบรรยากาศดีแถมยังมีธรรมชาติให้ชมกันแน่นๆ แบบนี้ ไม่มาที่นี่แล้วจะเสียดาย!
ยอดเขาสูง 2,132 เมตรแห่งนี้ อยู่ห่างจากตัวเมืองลูเซิร์นเพียงแค่ 10 กิโลเมตรเท่านั้น นี่จึงเป็นอีกพิกัดที่มีธรรมชาติสุดอัศจรรย์แต่เดินทางได้สะดวกสบาย นอกจากวิวสวยแล้ว ที่นี่ยังมีเส้นทางรถไฟไต่เขาที่สูงชันที่สุดในโลกให้เราได้ใช้บริการกันด้วยนะ โดยรถไฟเส้นนี้จะวิ่งสู่ยอดเขาด้วยความชันถึง 45 องศา มาที่นี่แนะนำให้ใช้บริการทั้งรถไฟและกระเช้าไฟฟ้าในการขึ้นลงนะ เพราะจะได้อารมณ์และได้ชมวิวสวยในฟีลที่แตกต่างกันไป ด้านบนก็มีจุดชมวิวสวยๆ และร้านอาหารให้เราได้นั่งฟินกับบรรยากาศรอบตัวกันอีกด้วยนะ รับรองว่าต้องเพลิน
อีกหนึ่งเมืองสวยริมทะเลสาบลูกาโนในบริเวณใกล้กับพรมแดนระหว่างสวิสและอิตาลี แถมที่นี่ยังเป็นเมืองสวยที่ได้ฉายาว่าเป็น ‘มอนติคาโลแห่งสวิตเซอร์แลนด์’ เลยเชียวละ เพราะความสวยของทิวทัศน์และบรรยากาศสบายๆ ทำให้ที่นี่มักจะมีเหล่าผู้มีอันจะกินแวะเวียนมาใช้เป็นสถานที่พักผ่อนกันอยู่เสมอ ที่นี่ยังมีจุดชมวิวบนยอดเขาสูงกว่า 900 เมตร ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร สนามเด็กเล่น เส้นทางเดินชมธรรมชาติ และมุมสวยบรรยากาศดีที่เหมาะจะมาปิกนิกอีกมากมาย ในเมืองยังมีพิพิธภัณฑ์ โบสถ์เก่าสมัยศตวรรษที่ 16 และร้านรวงเด็ดๆ อีกสารพัด เชื่อว่าต้องเป็นอีกพิกัดที่คุณประทับใจกันแน่นอน
ธารน้ำแข็งซึ่งใหญ่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์ โดยมีความยาวถึง 23 กิโลเมตรด้วยกัน ถึงจะดูเหมือนนิ่งๆ แต่จริงๆ แล้วธารน้ำแข็งแห่งนี้เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลาเลยนะ แต่เป็นสปีดซึ่งช้าเพียง 200 เมตรต่อปีเท่านั้นเองจ้า ก็เลยจะดูเหมือนว่ามันแข็งค้างอยู่กับที่ ส่วนที่หนาที่สุดของธารน้ำแข็งนี้มีความหนาถึง 900 เมตรเลยเชียวนะ การมาชมความน่าตื่นตาของที่นี่ก็ไม่ยากอะไร แค่อาจจะต้องไฮกิ้งบนเขาจากสถานีกระเช้าไฟฟ้ากันนิดหน่อยจ้า พอได้ยืดเส้นยืดสายน่า ยังไงก็คุ้มค่ากับความสวยที่จะได้เห็นกันแน่นอน
อีกหนึ่งความเป็นที่สุดในประเทศนี้ ก็คือน้ำตกไรน์นี่ละ เพราะนี่คือน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปจ้า โดยน้ำตกนี้เกิดจากการลดระดับของแก่งหินกลางแม่น้ำไรน์นะ มีความกว้างประมาณ 150 เมตร และมีความสูงราวๆ 23 เมตรจ้ะ ที่แปลกตาสำหรับเราคือบริเวณรอบๆ น้ำตกนั้นยังมีบ้านเรือนตั้งอยู่โดยรอบในระยะประชิด ส่วนวิธีการชมน้ำตกแห่งนี้จะเลือกไปยืนดูบริเวณจุดชมวิวที่มีให้ก็ได้ หรือถ้าไม่สะใจก็ลงเรือไปดูให้เต็มตากันเลยจ้า ที่เจ๋งคือจุดชมวิวบนเกาะเล็กๆ กลางน้ำตกอันเชี่ยวกรากนี่ละ ใครใจถึงแนะนำว่าต้องลอง
ความสวยของทะเลสาบเจนีวานั้นได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ไข่มุกของริเวียร่าแห่งสวิส’ กันเลยเชียวละ ทะเลสาบแห่งนี้มีรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว ตั้งอยู่ทางปลายสุดของทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และเป็นแนวกั้นระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับฝรั่งเศส แถมยังเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของสวิสเลยด้วยนะ แล้วยังเป็นที่ตั้งของเมืองเจนีวาซึ่งมีหนึ่งในแลนด์มาร์คเป็นน้ำพุ Jet d-Eau ซึ่งมีน้ำพุ่งสูงถึง 400 ฟุตกันเลยจ้า ตัวเมืองเจนีวานั้นยังมีเขตเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสุดคลาสสิก และยังมีร้านรวงให้ช้อปปิ้งกันมากมาย อย่าลืมมาเช็คอินให้ได้เชียว
จะเรียกว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในสวิสก็น่าจะไม่ผิดอะไร ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ กลางขุนเขาที่ชื่อว่า Kandersteg แถมนี่ยังเป็นทะเลสาบซึ่งเป็นมรดกโลกด้วยจ้า ทะเลสาบแห่งนี้นั้นมีความลึกประมาณ 56 เมตร มีน้ำเป็นสีฟ้าเทอควอยซ์สวยใส ล้อมรอบไปด้วยหุบเขาสูงรอบด้าน จะมานั่งกินอาหารท่ามกลางบรรยากาศสุดอลังการก็ดี หรือจะมาเดินชมธรรมชาติรอบๆ แล้วแวะพายเรือท่ามกลางทิวทัศน์โรแมนติกของที่นี่ก็เริ่ดนะ ปักหมุดรอเอาไว้เลย
ยอดเขาความสูง 3,238 เมตรแห่งนี้ เป็นพิกัดที่คนรักหิมะต้องถูกใจ เพราะมีให้หนาวกันได้ตลอดทั้งปี หนึ่งในไฮไลท์ของที่นี่ต้องยกให้กับ Titlis Rotair กระเช้าไฟฟ้าหมุนได้ 360 องศาแห่งแรกของโลก ใครรักความสูงและวิวตื่นตาต้องมาลองขึ้นกันให้ได้เลยนะ บนยอดเขายังมีลานสกี และสะพานแขวนที่อยู่สูงที่สุดในยุโรปอย่าง Titlis Cliff ซึ่งมีความยาวราวๆ 100 เมตร ให้เราได้เดินชมวิววัดใจกันได้แบบเสียวสุดๆ เลยเชียวละ เป็นอีกพิกัดที่ควรมาสัมผัสซักครั้งเลย
ถึงจะไม่ใช่เมืองใหญ่ แต่นี่คือเมืองริมทะเลสาบที่สวยไม่แพ้ใครเลยเชียวละ ตัวเมืองมีแม่น้ำ Aare ไหลผ่าน แถมยังมีปราสาทโบราณตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลยด้วยจ้า นี่คือเมืองเล็กที่มาเที่ยวแบบ One Day Trip ก็ยังได้ หรือถ้าอยากซึมซับบรรยากาศสวยสงบสบายกันให้จุใจ แนะนำให้แวะค้างคืนไปเลยจ้า ใครที่ชอบเมืองเล็กบรรยากาศโรแมนติกในกลิ่นอายยุโรปแบบโบราณ เชื่อว่าน่าจะถูกใจแน่นอน
โลซานน์ คืออีกหนึ่งเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบเจนีวาและมีพรมแดนติดต่อกับประเทศฝรั่งเศส เป็นอีกเมืองที่มีเสน่ห์ด้วยทำเลที่ตั้งบนเนินเขา แถมยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี โลซานน์เป็นเมืองที่มีความสะดวกสบายและเต็มไปด้วยบรรยากาศสุดชิลล์เลยละ จะขึ้นไปดูวิวพระอาทิตย์ตกบริเวณจุดที่สูงที่สุดของเมืองก็ได้ หรือจะเดินเล่นไปตามเส้นทางท่าเรือและสวนสาธารณะริมทะเลสาบก็โรแมนติกได้ใจเหมือนกันนะ อยากช้อปปิ้งก็มีร้านรวงใจกลางเมืองให้จับจ่ายกันเพียบเลยจ้า เป็นอีกพิกัดที่บอกเลยว่าดีงาม
นี่อาจจะไม่ใช่พิกัดที่คุ้นหูนักเดินทางชาวไทยกันซักเท่าไหร่นัก แต่เมืองโลคาร์โนนั้นเป็นหนึ่งในเมืองยอดนิยมที่ชาวสวิสมักปักหมุดไปเที่ยวกันเลยนะ เพราะนี่คือเมืองตากอากาศที่มีทิวทัศน์งดงาม แถมยังตั้งอยู่ริมทะเลสาบกว้าง และยังอยู่ใกล้กับอิตาลีด้วยจ้า ดังนั้น เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยบรรยากาศแบบอิตาเลียนทั้งอาหาร สถาปัตยกรรม และสำเนียงการพูดของชาวเมืองท้องถิ่น ถ้าอยากฟินสุดๆ แนะนำให้มาล่องเรือเที่ยวในทะเลสาบกันด้วยนะ เชื่อเถอะว่าจะตกหลุมรักเมืองนี้กันได้ง่ายๆ เลยเชียว
หมู่บ้านตากอากาศใจกลางเทือกเขาสูงตระหง่าน ซึ่งในช่วงหน้าหนาวนั้น ที่นี่จะเป็นพิกัดยอดฮิตของคนรักสกีเลยเชียวละ ในขณะที่ช่วงฤดูร้อนหมู่บ้านนี้ก็จะเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้และทุ่งหญ้า สีฟ้าของทะเลสาบสวย ในขณะที่ยังไปเล่นสกีบนยอดเขาทิตลิสซึ่งอยู่ไม่ไกลได้ด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่เหมาะจะมาเดินเล่นเสพบรรยากาศดีๆ กับคนรู้ใจ ใครเป็นสายกิจกรรมกลางแจ้งแนะนำให้ปักหมุดเอาไว้เลย
อีกหนึ่งเมืองสวยของสวิสที่รายล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา เวกกีส์นั้นเป็นเมืองเล็กแสนสงบที่อยู่ติดกับทะเลสาบลูเซิร์น และเป็นเมืองซึ่งนักเดินทางส่วนใหญ่ล้วนมุ่งหน้ามา หากต้องการขึ้นไปพิชิตยอดเขา Rigi ซึ่งได้ฉายาว่าเป็นราชินีแห่งเทือกเขา ด้วยความสูงประมาณ 1,800 เมตร เราจึงสามารถมองวิวสวยในรัศมีราวๆ 300 กิโลเมตรจากยอดเขาได้เลยละถ้าอากาศดี จากยอดเขาแห่งนี้เราจะเห็นเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบอีก 13 แห่งเลยนะ แถมยังเห็นทิวทัศน์ของประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศสที่อยู่ใกล้กันได้เลยจ้า เป็นเมืองเล็กๆ แต่มาแล้วไม่ผิดหวังกันแน่นอน
กรุงเบิร์นคือเมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเมืองโบราณซึ่งมีอายุกว่า 800 ปีที่ยูเนสโก้ยกให้เป็นมรดกโลกไปแล้วจ้า ไฮไลท์ของที่จึงเป็นย่านเมืองเก่าซึ่งได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี ที่นี่เราจะได้เห็นสถาปัตยกรรมแบบสวิสแท้ๆ ถนนหนทางที่ยังปูด้วยหินเป็นหลัก แถมยังมีพิกัดสวยๆ ที่น่าปักหมุดอีกมากมายเลยเชียวละ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ หอนาฬิกาโบราณ รวมถึงยังมีบ้านที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เคยมาใช้ชีวิตอยู่ช่วงหนึ่งด้วยนะ เป็นเมืองบรรยากาศดีที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยจริงๆ
เชื่อว่า 20 จุดเช็คอินสวิตเซอร์แลนด์ที่เราเอามาฝากกันคราวนี้ จะมีพิกัดที่กระแทกใจกระแทกตาใครหลายคนอยู่บ้างนะ นี่คือประเทศที่เรียกได้ว่าสวยในทุกย่างก้าวที่เราเดินไป ใครเป็นสายธรรมชาติยิ่งพลาดที่นี่ไม่ได้เลยจ้า ปักหมุดมาเที่ยวสวิสกันซักครั้งนะ รับประกันว่าจะต้องเป็นทริปที่ติดตาตรึงใจจนลืมไม่ลงไปอีกนานเลยเชียว