นราธิวาส อาจจะเป็นจังหวัดที่หลายคนมองข้ามไป แต่สำหรับนักเดินทางสายธรรมชาติ บอกเลยว่าจังหวัดนี้เต็มไปด้วยที่เที่ยวนราธิวาสที่โอบล้อมธรรมชาติให้สายเขียวได้ไปเที่ยวกันแบบเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นทะเล ป่าไม้ หรือน้ำตก ตลอดจนความงามทางวัฒนธรรม ที่สอดแทรกประเพณีอันล้ำค่าเอาไว้ เรียกได้ว่าจังหวัดนี้มีครบทุกอย่างให้คุณมาเช็กอิน หากใครได้มาสัมผัสบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติแสนบริสุทธิ์สมบูรณ์ก็คงหลงรักดินแดนใต้แห่งนี้ได้ไม่ยาก มาเตรียมแพลนเที่ยวกันให้พร้อมกับ 25 ที่เที่ยวนราธิวาสฉบับอัปเดตที่เราขอแนะนำ อย่ารอช้า! กดจองตั๋วเครื่องบินไปนราธิวาสกับแอป Traveloka พร้อมรับโปรโมชั่น และบริการมากมายที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเที่ยวของคุณในราคาสุดโดนใจ เก็บกระเป๋าให้พร้อม แล้วออกเดินทางกันได้เลย!
เชื่อว่าสายเขียวตัวจริงต้องเคยได้ยินที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้มาบ้าง เพราะนี่คือ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา” ผืนป่าอนุรักษ์บริเวณชายแดนไทยและมาเลเซีย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เทือกเขาสันกาลาคีรี โดยนำพื้นที่ป่าดงดิบในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส รวมเข้าไว้ด้วยกัน คุณสามารถขับรถยนต์เข้าไปชมธรรมชาติจากถนนที่ตัดผ่านผืนป่าแห่งนี้กันได้แบบสบาย ๆ ความสมบูรณ์ของป่าแห่งนี้ทำให้หลายคนยกให้ที่นี่เป็น ‘แอมะซอนแห่งเอเชีย’ เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์หายากอย่างนกเงือกถึง 9 ชนิดของไทย ชะนีดำใหญ่ และสัตว์อื่น ๆ อีกมากมาย ใครชอบเดินป่าก็มาจัดหนักที่นี่กันได้เลยนะ เป็นที่เที่ยวนราธิวาสที่สายเขียวมาแล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
เปลี่ยนบรรยากาศมาชิลกับชายหาดสวยกันบ้างดีกว่ากับ “หาดนราทัศน์” ที่มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้เป็นหาดโค้งยาวเหยียดสุดสายตา บริเวณริมชายหาดมีทิวสนที่ให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งเช็กอินยอดฮิตของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ตลอดชายหาดมีหมู่บ้านชาวประมง และร้านอาหารให้คุณมาลิ้มลองตลอดทาง หรือเดินเล่นชมวิวกันชิล ๆ ใครเป็นสายแคมป์ปิ้งก็เอาเต็นท์มากางได้เช่นกัน กิจกรรมครบขนาดนี้ไม่มาได้แล้ว นับเป็นอีกที่เที่ยวนราธิวาสที่ห้ามพลาด
นราธิวาสนั้นมีพิกัดชมทะเลหมอกสวย ๆ ที่ไม่แพ้ภาคเหนือ หรือภาคอีสานเลยอย่าง “ผานับดาว” ที่ตั้งอยู่ในอำเภอสุคิริน กับความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยต้นไม้มากมาย และวิวทะเลภูเขาน้อยใหญ่ทอดตัวสลับกันไปสุดสายตา จึงทำให้มีอากาศเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี รวมถึงความชื้นที่เหมาะกับการเกิดทะเลหมอกขาวให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมกันเป็นประจำ ใครอยากฟินกับที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้ให้เต็มที่ก็สามารถมากางเต็นท์นอนดูดาว พร้อมรอชมความอลังการของทะเลหมอกในช่วงเช้าที่จุดให้บริการได้เช่นกัน
สำหรับสายชิลที่มองหาที่เที่ยวนราธิวาส ที่สามารถพักผ่อนสบาย ๆ อยากชวนมาแวะ “น้ำตกสิรินธร” เป็นน้ำตกที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่มาก แต่คุณจะได้เห็นบรรยากาศสวย ๆ ของสายน้ำที่ไหลรินไปตามทางลาดจากแนวป่าด้านบนอย่างแน่นอน ตลอดเส้นทางยังมีแอ่งน้ำ และลานหินไว้ให้แวะนั่งเล่นกันได้ หากใครจะลงเล่นน้ำก็ควรเล่นแบบระมัดระวัง เพราะบางช่วงกระแสน้ำจะแรงมากเลยทีเดียว ว่ากันว่าเวลาที่นี่จะเดินเร็วกว่าเวลาปกติทั่วไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เพราะโทรศัพท์จะไปจับสัญญาณสื่อสารจากฝั่งมาเลเซียแทนนั่นเอง นับเป็นที่เที่ยวนราธิวาสที่มอบทั้งความสงบ และความสดชื่นได้เป็นอย่างดี
แม้ว่า “หาดบ้านทอน” ของนราธิวาสอาจจะไม่ได้เป็นชายหาดที่ขาวสะอาด และมีน้ำทะเลสีฟ้าใสเหมือนชายหาดยอดฮิตอื่น ๆ ของภาคใต้ แต่ที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตเรือกอ ซึ่งเหลืออยู่เป็นแห่งสุดท้ายในจังหวัดนี้เลย ไฮไลท์ของหาดนี้จึงอยู่ที่การเห็นเรือสวยสีสันสดใสจอดเรียงรายตามชายหาดอย่างงดงาม นอกจากนี้ ยังได้ชมวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านในท้องถิ่นที่เรียบง่ายกันอีกด้วย เหมาะกับการมาเดินเล่นเพลิน ๆ หรือเช็กอินถ่ายรูปกันแบบชิล ๆ
“น้ำตกซีโป” หรือสีโป หมายถึงต้นมะตาด ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่จะเห็นได้หนาแน่นในบริเวณที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้ ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมดถึง 9 ชั้น โดยว่ากันว่าชั้นที่ 7 นั้นเป็นชั้นที่มีสภาพแวดล้อมงดงามที่สุด เพราะจะมีน้ำตกไหลผ่านจากชั้นหินซึ่งมีความสูงประมาณ 30 เมตร ลงมายังแอ่งน้ำด้านล่าง ใครอยากเล่นน้ำดับความร้อนท่ามกลางวิวสุดปังก็มาจัดกันได้ที่ชั้นนี้เลย เชื่อว่าจะเป็นอีกพิกัดที่เที่ยวนราธิวาสที่สายเขียวมาแล้วต้องชื่นใจกันอย่างแน่นอน
สำหรับใครที่อยากได้พิกัดพักผ่อนสบาย ๆ โดยไม่ต้องเดินทางไกลนัก ลองปักหมุดมาที่ “อ่าวมะนาว” เพราะที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้คือ ชายหาดสวยซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองนราธิวาสเพียงแค่ 8 กิโลเมตรเท่านั้น บริเวณริมชายหาดมีทรายขาวสะอาด และโขดหินน้อยใหญ่สลับกันเป็นระยะ น้ำทะเลของที่นี่ก็สวยใส แถมยังมีพันธุ์ไม้บริเวณชายหาดอีกหลายชนิดให้ความร่มรื่น ไม่ว่าจะเป็น เตยทะเล จักทะเล และต้นมะนาวผี รวมถึงมีแนวต้นสนขนานไปเป็นทางยาว ไม่ไกลกันยังมีเขาตันหยงซึ่งมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และน้ำตกให้ชมกันด้วยนะ เดินทางง่ายแถมยังมีบรรยากาศหลากหลายให้ชม เรียกได้ว่ามาที่เดียวคุ้มค่ามาก ๆ
ว่ากันว่า “ป่าพรุโต๊ะแดง” คือ ป่าพรุผืนสุดท้ายของภาคใต้ และของเมืองไทย ซึ่งมีเนื้อที่กว้างใหญ่ใจกลางสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้เต็มไปด้วยความหลากหลายของพันธุ์ไม้ และสัตว์ป่า อีกทั้งสมเด็จพระเทพฯ ทรงเสด็จมาทรงงานที่นี่หลายครั้ง ชาวบ้านจึงชอบเรียกกันว่า ป่าพรุสิริธร นั่นเอง ไฮไลท์ของที่นี่คือ การเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งมีสารพัดพันธุ์ไม้ให้ชมกันกว่า 500 ชนิด คนรักต้นไม้พลาดไม่ได้เชียว ไม่งั้นรับรองว่าเสียดายแน่นอน
อีกหนึ่งที่เที่ยวนราธิวาสยอดนิยมคือ “เขื่อนท่าพระยาสาย” ที่อยู่ใจกลางเมืองนราธิวาส เป็นสันเขื่อนกั้นน้ำความยาว 600 เมตรบริเวณริมฝั่งแม่น้ำบางนรา เหมาะกับการมาเดินเล่นพักผ่อนแบบสบาย ๆ ในตอนเช้า และชมพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น ซึ่งเราจะได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นที่มักออกมาพักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกายกันอย่างหนาตา ไฮไลท์ของที่นี่คือ การมาถ่ายรูปกับรูปปั้นนกเงือกในท่าทางที่หลากหลายถึง 101 ตัวเลย ไม่ไกลจากเขื่อนยังมีตลาดไนท์ บาซาร์ให้เดินชิลหาของกินของฝากกันด้วยนะ เป็นอีกที่เที่ยวนราธิวาสที่บรรยากาศดีสุด ๆ
อีกหนึ่งวัดที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่งดงามก็คือ “วัดชลธาราสิงเห”ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นหนึ่งในที่เที่ยวนราธิวาสที่ผสมผสานระหว่างความเป็นพุทธ มุสลิม และจีนเข้าด้วยกัน ให้อารมณ์สวยแปลกตาไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังอยู่ในทำเลดี ๆ ริมแม่น้ำท่ามกลางบรรยากาศสงบสบาย จึงเหมาะแก่การไปเดินเล่นชมความสวยของอาคารโบราณแบบเพลิน ๆ ก่อนจะเข้าไปกราบไหว้พระด้านในวัดกัน
อีกหนึ่งน้ำตกสวยของจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในพื้นที่ผืนป่าอุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดี “น้ำตกปาโจ”นี้แบ่งออกเป็น 4 ชั้น โดยชั้นแรกนั้นได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่และสวยที่สุด เพราะมีลักษณะเป็นผาสูง 60 เมตร มีน้ำไหลเป็นสายลงไปในแอ่งขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง เส้นทางเดินชมน้ำตกนี้ก็สะดวกสบาย และอยู่ในระยะไม่ไกลเกินไปด้วยนะ ระหว่างทางมีจุดให้แวะพักชมความสวยของตัวน้ำตกในมุมต่าง ๆ อยู่เป็นระยะ ให้คุณค่อย ๆ เดินพลางซึมซับบรรยากาศอบอุ่นไปพร้อมกัน นับเป็นที่เที่ยวนราธิวาสต้องแวะมาเช็กอินสักครั้ง
อีกหนึ่งที่เที่ยวนราธิวาสที่มีบรรยากาศแสนสบายเหมาะกับการไปเดินเล่นชมวิวกันแบบชิล ๆ ก็คือ “แม่น้ำโกลก” ซึ่งนับเป็นแม่น้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคใต้ แถมยังทำหน้าที่เป็นพรมแดนกั้นระหว่างอำเภอสุไหงโกลกของจังหวัดนราธิวาส และเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะไหลลงอ่าวไทยที่อำเภอนราธิวาสใบ ในช่วงหน้าแล้งของบางปี เนื่องจากมีปริมาณน้ำค่อนข้างน้อยทำให้สามารถเดินลงไปเล่นน้ำกันได้ วิวช่วงเช้าและเย็นแถบริมน้ำก็แสนจะสบาย นับว่ามีจุดชมวิวสวยๆ หลายจุดจากที่นี่เลยทีเดียว
จากธรรมชาติอันสมบูรณ์สวยงามของนราธิวาส ขอชวนมาเปลี่ยนบรรยากาศไปไหว้พระทำบุญกันสักนิดกับ “พุทธอุทยานกง” สถานที่ประดิษฐานองค์พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์พระพุทธรูปกลางแจ้งที่งดงามที่สุดของภาคใต้ ที่มีความสูงประมาณ 24 เมตร นอกจากนี้ ที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้มีเจดีย์สิริมหามายาที่งดงามแปลกตา ด้านบนยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้นักท่องเที่ยวแวะขึ้นไปกราบสักการะ อีกหนึ่งไฮไลท์ของวัดนี้ก็คือ พระอุโบสถที่มีสถาปัตยกรรมสวยไม่เหมือนใคร ถือเป็นที่เที่ยวและทำบุญเลยนะ คุ้มค่ามาก ๆ
สำหรับคนที่ชอบสถาปัตยกรรม และหลงใหลในความสวยของอาคารโบราณ ต้องไม่พลาดการมาเยือนที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้กับ “มัสยิดวาดีลฮูเซ็น 300 ปี” หรือ มัสยิดตะโละมาเนาะ เป็นมัสยิดโบราณสร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง แถมยังมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะแบบไทย จีน และมลายูเข้าไว้ด้วยกัน ประดับประดาด้วยงานแกะสลักที่ละเอียดงดงามตามมุมต่าง ๆ ของอาคาร ปัจจุบันที่นี่ยังคงถูกใช้งานเป็นศาสนสถานของนราธิวาส แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมภายนอกได้ตามปกติ หากเป็นภายในก็เยี่ยมชมได้เช่นกันแต่ต้องขออนุญาตจากโต๊ะอิหม่ามก่อน
“หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12” เป็นหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอสุคิรินของนราธิวาส พัฒนามาจากการเป็นพื้นที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาในยุคอดีต จนปัจจุบันเป็นที่เที่ยวนราธิวาสซึ่งเน้นในเรื่องการท่องเที่ยววิถีชุมชนเป็นหลัก ที่นี่ถูกรายล้อมด้วยธรรมชาติสมบูรณ์งดงามทั้งป่าไม้ ภูเขา และลำธาร มีไฮไลท์เป็นการล่องแก่งพายคายัคชมความสวยของธรรมชาติริมสองฝั่ง รวมถึงอิ่มอร่อยไปกับเมนูท้องถิ่นที่หลากหลาย ก่อนปิดท้ายด้วยการนอนโฮมสเตย์ของชาวบ้าน รับรองว่าที่นี่คือที่เที่ยวนราธิวาสที่สายสโลว์ไลฟ์ถูกใจแน่นอน
สายกินอย่างเรา ๆ ต้องไม่พลาดมาที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้กับ “ตลาดน้ำชุมชนยะกัง ขนม 100 ปี” ที่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 4 กิโลเมตร เป็นชุมชนเก่าแก่ของจังหวัดนราธิวาสที่อาศัยอยู่ริมน้ำ สมัยก่อนบริเวณนี้เป็นพื้นที่ค้าขายของเหล่าพ่อค้าแม่ค้า และเป็นท่าเรือขนาดใหญ่สำหรับแลกเปลี่ยนสินค้ากับจังหวัดอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะค้าขายอาหาร และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของชุมชนเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้มาล่องเรือชมวิถีชีวิตของคนริมน้ำกันอีกด้วย
หนึ่งในสะพานที่เก่าแก่ของจังหวัดนราธิวาสก็คือ “สะพานคอย 100 ปี-เกาะยาว” เป็นสะพานเก่าแก่ที่เชื่อมต่อระหว่างอำเภอตากใบ และเก่ายาวเข้าด้วยกันด้วยความยาว 345 เมตร ก่อนหน้าที่จะสร้างสะพานนี้ชาวบ้านใช้วิธีการเดินทางข้ามไปยังเกาะด้วยเรือเป็นหลัก โดยที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้ถูกสร้างจากไม้ทั้งหมดก่อนที่จะพัฒนาเป็นสะพานปูนที่มีความคงทนจนถึงทุกวันนี้ ช่วงเย็นนับเป็นเวลาอันเหมาะสมของการมานั่งตากลมชิล ๆ พร้อมกับดูพระอาทิตย์ตกไปด้วย
แวะมาไหว้พระขอพรกันบ้างที่ “ศาลเจ้าแม่โก้วเล้งจี่” ศาลเจ้าจีนแห่งแรกที่สร้างขึ้นในจังหวัดนราธิวาส โดยมีเจ้าศาลเป็นหัวมังกรคาบแก้ว ภายนอกมีการตกแต่งผนังแบบปูนปั้นที่บอกเล่าเรื่องราวความเชื่อ ขนมธรรมเนียม และวัฒนธรรมจีน ส่วนภายในเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพเจ้าต่าง ๆ เช่น เจ้าแม่กวนอิม เจ้าพ่อมังกรดำ และเทพเจ้ากวนอู เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอย่างพิธีแห่พระลุยไฟ ที่ถูกจัดขึ้นทุกเดือนกรกฎาคมด้วยนะ ห้ามพลาดที่เที่ยวนราธิวาสนี้เด็ดขาด
“ตลาดตาบา” แหล่งค้าขายระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ที่เที่ยวนราธิวาสแห่งนี้ได้รับความนิยมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวมาเลเซียเป็นจำนวนมาก เพราะตั้งอยู่แถบด่านตากใบซึ่งเป็นบริเวณด่านศุลกากรนั่นเอง ตลาดแห่งนี้มีสินค้าหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นผักสด, ผลไม้, เสื้อผ้า และสินค้าอื่น ๆ ที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้มาเดินเล่นกันเพลิน ๆ เลย
ที่เที่ยวนราธิวาสแห่งสุดท้ายกับ “วัดพระธาตุภูเขาทอง” วัดแห่งนี้โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ และภูเขาอย่างงดงาม เปิดให้ผู้คนขึ้นมาไหว้พระทำบุญตลอดทั้งปี นอกเหนือจากเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธแล้ว วัดแห่งนี้ยังเป็นแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นมาชมวิวทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงฤดูหนาวด้วย นับเป็นช่วงเวลาที่หาดูไม่ได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว
ใครอยากตื่นเช้ามาสูดอากาศสดชื่น แนะนำให้มาที่ ทะเลหมอกสุคิริน บอกเลยว่านี่คือหนึ่งในที่เที่ยวนราธิวาสที่ฟีลดีสุด ๆ ยิ่งถ้ามาช่วงฤดูหนาว หมอกจะปกคลุมภูเขาเป็นแผ่นกว้าง ๆ มองไปไกลสุดลูกหูลูกตา เหมือนอยู่ในฝัน! ที่นี่เหมาะกับสายถ่ายรูป สายโรแมนติก หรือใครอยากพักใจแบบสงบ ๆ ชิลล์ ๆ รับรองว่าคุ้มค่าที่ตื่นเช้าแน่นอน
ถัดมาที่สายธรรมชาติและน้ำตก ต้องห้ามพลาด น้ำตกสุคิริน น้ำใสไหลเย็น ผ่านชั้นหินสวยงาม รอบ ๆ เป็นป่าเขียวขจี ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวนราธิวาสที่สามารถมานั่งปิคนิค เล่นน้ำ หรือถ่ายรูปเก๋ ๆ กับเพื่อนและครอบครัวได้ ใครอยากหนีความวุ่นวาย มาพักผ่อนแบบธรรมชาติ น้ำตกสุคิรินนี่แหละตอบโจทย์สุด ๆ
สำหรับสายบุญและอยากสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ต้องมาที่ วัดโกลกเทพวิมล วัดสวยสงบ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะสำหรับเดินชม ศึกษาประวัติศาสตร์ หรือถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรมสวย ๆ ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวนราธิวาสที่เต็มไปด้วยความสงบและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม
ใครอยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น แนะนำให้แวะ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นขุนละหาร ที่นี่คุณจะได้เห็นของเก่า เครื่องมือพื้นบ้าน งานฝีมือ และเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชุมชนท้องถิ่น เป็นที่เที่ยวนราธิวาสที่เหมาะกับสายวัฒนธรรมและสายอาร์ตที่อยากเข้าใจวิถีชีวิตชาวนราธิวาส
ปิดท้ายด้วย สถานีรถไฟสุไหงโกลก ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทาง แต่ยังเป็นที่เที่ยวนราธิวาสที่เหมาะสำหรับสายถ่ายรูปและสายชิลล์ เพราะสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกและบรรยากาศท้องถิ่นทำให้คุณได้ฟีลย้อนยุค ยิ่งใครชอบนั่งรถไฟชมวิวระหว่างทาง บอกเลยว่าสถานีนี้เป็นจุดเช็คอินที่ต้องมา
ถ้าพูดถึงนราธิวาส หลายคนอาจยังไม่คุ้น แต่บอกเลยว่านี่คือหนึ่งในจังหวัดภาคใต้ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ที่อื่น ๆ เลย ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายที่ทำให้คุณต้องตกหลุมรักแน่นอน
สำหรับสายรักสัตว์และคนที่ชอบธรรมชาติ บอกเลยว่าที่นี่คือสวรรค์! เพราะเป็นสถานที่เที่ยวนราธิวาสที่มีนกเงือกอยู่เยอะมาก ๆ คุณสามารถขึ้นไปเดินป่าศึกษาธรรมชาติ และถ้ามีโชคก็จะได้เจอฝูงนกเงือกบินโฉบไปมาเป็นภาพที่น่าประทับใจสุด ๆ
หาดนราทัศน์ ถือเป็นแลนด์มาร์กขึ้นชื่อของนราธิวาสเลย หาดทรายขาวทอดยาวสุดสายตา น้ำทะเลใส ๆ แถมยังมีชิงช้าและมุมถ่ายรูปน่ารัก ๆ ให้เลือกเพียบ เหมาะทั้งเดินเล่น ปิคนิค หรือถ่ายรูปชิค ๆ ลงโซเชียล บอกเลยว่าฟีลดีจนไม่อยากกลับ
มานราธิวาสไม่ได้มีดีแค่ทะเลหรือภูเขาเท่านั้นนะเพื่อน ๆ ยังมีที่เที่ยวสายศิลป์อย่าง De’ Lapae Art Space ให้คุณได้ซึมซับบรรยากาศเก๋ ๆ ด้วย ที่นี่เป็นศูนย์รวมงานศิลปะหลากหลายแนว ทั้งงานเพนต์ ภาพถ่าย งานจัดแสดงร่วมสมัย และกิจกรรมเวิร์กชอปที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับสายอาร์ตที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการท่องเที่ยวธรรมชาติมาเติมเต็มแรงบันดาลใจ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวนราธิวาสที่แตกต่างและห้ามพลาดเลย
ไปเที่ยวนราธิวาสทั้งที จะนอนแบบธรรมดาไม่ได้ ต้องมีที่พักดี ๆ ไว้ชาร์จพลังหลังจากตะลุยที่เที่ยวนราธิวาส กันทั้งวัน ลิสต์นี้เราเลือกมาแล้วว่าดีงามทั้งเรื่องทำเล บรรยากาศ และความสะดวกสบาย ที่สำคัญจองผ่าน Traveloka มีที่พักนราธิวาสให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ที่พักสุไหงโกลก ที่พักหาดนราทัศน์ ที่พักใกล้สนามบินนราธิวาส หรือจะเป็น ที่พักใกล้อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง บอกเลยว่าจองที่เดียวมีให้ครบ
ที่พักนราธิวาส ⭐⭐⭐
ถ้าพูดถึงโรงแรมที่มีทำเลใจกลางเมือง บอกเลยว่า Imperial Narathiwat Hotel คือที่สุด! เหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวชมสถานที่เที่ยวนราธิวาสแบบครบ ๆ เพราะออกจากโรงแรมแป๊บเดียวก็ถึงร้านอาหาร คาเฟ่ หรือแหล่งช้อปปิ้งแล้ว ห้องพักกว้าง มีทั้งวิวเมืองและวิวสระว่ายน้ำ บรรยากาศอบอุ่น สะอาด และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ และห้องอาหาร บอกเลยว่านอนที่นี่เหมือนได้พักผ่อนแบบฟูลเซอร์วิส
Bang Nak
โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส
8.0/10
•
Bang Nak
THB 820.81
THB 767.60
ที่พักนราธิวาส ⭐⭐⭐
ใครชอบความทันสมัยและบริการเป็นกันเองต้องเลิฟ Grand Garden Hotel ที่นี่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ห้องพักสะอาดสะดวกสบาย มีสระว่ายน้ำและสวนสวยให้เดินเล่น แถมห้องอาหารก็มีเมนูหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารนานาชาติ และของว่างเบา ๆ สำหรับสายชิลล์ ใครอยากชาร์จพลังหลังจากตระเวนที่เที่ยวนราธิวาสทั้งวัน บอกเลยว่าที่นี่ตอบโจทย์สุด ๆ
Thailand
โรงแรมแกรนด์การ์เด้น
7.7/10
•
Su-ngai Kolok District
ดูราคา
ที่พักนราธิวาส ⭐⭐⭐
ถ้าอยากได้ฟีลอบอุ่น เป็นส่วนตัว และชิค ๆ ต้องมาที่ GreenView Boutique Hotel เลย ที่พักนราธิวาสแห่งนี้มาในสไตล์บูติกโฮเทลน่ารัก ๆ ที่ตกแต่งสวยงาม มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ เหมาะสำหรับนักเดินทางสายคอนเทนต์หรือคนที่ชอบบรรยากาศเงียบสงบ ราคาก็ดีงาม ถือว่าเป็นตัวเลือกคุ้มค่า แถมใกล้ทั้งสถานที่เที่ยวนราธิวาส และร้านอาหารท้องถิ่น ทำให้คุณได้เที่ยวสนุกและพักผ่อนแบบชิลล์ ๆ
Thailand
กรีนวิว บูติก โฮเต็ล
Su-ngai Kolok District
ดูราคา
การมาเที่ยวนราธิวาส บอกเลยว่าง่ายกว่าที่คิด และมีหลายวิธีให้เลือกตามสไตล์คุณ
สำหรับใครที่อยากประหยัดเวลาและรีบมาสัมผัสสถานที่เที่ยวนราธิวาสแบบชิล ๆ แนะนำให้บินตรงจากกรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงแล้ว คุณสามารถจอง ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพไปนราธิวาส ผ่าน Traveloka ได้ง่าย ๆ แค่คลิกเดียว เลือกสายการบิน เวลาเดินทางที่ถูกใจ แล้วจ่ายง่ายพร้อมโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินสุดคุ้ม ใครชอบความสะดวกสบาย บอกเลยว่าการบินตรงนี่แหละตอบโจทย์ที่สุด
สายเที่ยวสายลุยชอบขับรถเองต้องลอง จากกรุงเทพขับรถลงใต้ตามถนนเพชรเกษมไปเรื่อย ๆ ประมาณ 1,100 กิโลเมตร ใช้เวลา 18 ชั่วโมง ไม่อยากเหนื่อยขับเอง? ไม่มีปัญหา เพราะคุณสามารถจอง รถเช่า ผ่าน Traveloka ได้ล่วงหน้า แถมยังเลือกประเภทรถตามสไตล์ ทั้งรถเก๋ง รถ SUV หรือแม้แต่รถตู้ เหมาะสำหรับทริปกับเพื่อนหรือครอบครัว บอกเลยว่าการขับรถเองทำให้คุณแวะตามที่เที่ยวนราธิวาสระหว่างทางได้สะดวกสุด ๆ หรือแวะเที่ยวจังหวัดใกล้เคียงนราธิวาสก็ยังได้ ไม่ว่าจะเป็น ที่เที่ยวยะลา ที่เที่ยวปัตตานี หรือจะวาปไปเที่ยว ที่เที่ยวมาเลเซีย ก็ยังได้
ถ้าชอบชิลล์และชมวิวระหว่างทาง การนั่งรถไฟสายใต้ลงที่สถานีสุไหงโกลก ก็เป็นอีกตัวเลือกดี ๆ จากนั้นต่อรถยนต์หรือรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองนราธิวาสอีกประมาณ 1–2 ชั่วโมง ก็ถึงสถานที่เที่ยวนราธิวาสที่คุณตั้งใจไว้
อีกหนึ่งความสะดวกสบายที่ไม่ควรพลาด สำหรับใครที่บินมาถึงนราธิวาสแต่ไม่อยากหารถหรือแท็กซี่เอง สามารถจอง บริการรับส่งสนามบิน ผ่าน Traveloka ได้เลย รถรับส่งสะอาดปลอดภัย ถึงที่พักนราธิวาสสบาย ๆ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องหาทางเดินทาง
Thu, 16 Oct 2025
Thai AirAsia
กรุงเทพ (DMK) ไป นราธิวาส (NAW)
เริ่มจาก THB 1,456.77
Tue, 7 Oct 2025
Thai AirAsia
กรุงเทพ (BKK) ไป นราธิวาส (NAW)
เริ่มจาก THB 1,456.54
Mon, 6 Oct 2025
Thai VietJet Air
เชียงราย (CEI) ไป นราธิวาส (NAW)
เริ่มจาก THB 2,457.51
การมา เที่ยวนราธิวาส ถ้าอยากได้ฟีลดี ๆ และสนุกกับทุกที่เที่ยวนราธิวาสก็ต้องรู้จักฤดูกาลของที่นี่ก่อนจะได้แพลนทริปได้ตรงใจ
ช่วงนี้อากาศจะร้อนพอประมาณ แต่ไม่ร้อนเกินไปเพราะมีลมทะเลพัดเย็น ๆ ช่วยให้สบายขึ้น เหมาะกับการไปเที่ยวที่เที่ยวนราธิวาส ริมน้ำ ล่องเรือชมป่าโกงกาง หรือเดินเล่นริมหาด ฟีลดี ๆ รับลมทะเลพร้อมถ่ายรูปชิค ๆ 📸 แนะนำให้พกหมวก แว่นกันแดด และครีมกันแดดไปด้วยนะ จะได้เที่ยวสบาย ๆ
สำหรับสายชิลล์ที่ชอบความเขียวชอุ่มของธรรมชาติ ช่วงฝนก็ถือว่าเป็นโอกาสดี เพราะป่าไม้และภูเขาจะเขียวสดมาก ๆ แต่ฝนตกค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะเดือน ก.ย.–ต.ค. แนะนำให้เช็คพยากรณ์อากาศล่วงหน้า และเตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนไปด้วย ถ้าโชคดีเจอฝนเบา ๆ จะได้ฟีลชุ่มฉ่ำ เดินป่า หรือเที่ยวที่เที่ยวนราธิวาส แบบโรแมนติกไปอีกแบบ
นี่แหละช่วงทองของการมานราธิวาส เพราะอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนเกินไป แดดอ่อน ๆ เหมาะกับทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะล่องเรือ ชมป่า ขึ้นเขาดูนกเงือก หรือแวะชมหอศิลป์ De’ Lapae Art Space ทะเลก็ใสแจ๋ว สวยเหมือนอยู่ในโปสการ์ด ถ่ายรูปมุมไหนก็ปัง ช่วงนี้ใครอยากเที่ยวสถานที่เที่ยวนราธิวาสแบบเต็มอิ่ม รับรองว่าฟินสุด ๆ