0

Traveloka TH

21 Oct 2021 - 9 min read

25 ที่เที่ยวอุบลราชธานี รวมสถานที่อันซีนเมืองไทย ที่ชีวิตนี้ควรต้องไปให้เห็นกับตา!

ที่เที่ยวอุบลราชธานี

อุบลราชธานี (Ubon Ratchathani) เมืองสุดเขตแดนอีสานใต้ 1 ใน 8 จังหวัดของไทยที่มีแม่น้ำโขงไหลเลาะเลียบชายแดน มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสุด Unseen อยู่มากมาย สวยงามน่ามหัศจรรย์ ทั้งน้ำตก, ภูผาสูงชัน, แกรนด์แคนยอน, ทะเลทราย บรรยากาศราวกับเที่ยวต่างประเทศอย่างไรอย่างนั้น อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เก่าแก่เป็นเอกลักษณ์อยู่มากมายไม่น้อยหน้าจังหวัดไหน ๆ

สามารถเดินทางไปเที่ยวเมืองอุบลได้ง่าย ๆ เพียงแค่จองตั๋วเครื่องบินไปอุบลราชธานีกับแอป Traveloka ที่นอกเหนือจากจะช่วยประหยัดเวลา ยังราคาไม่แพงอย่างที่คิด เพราะเรามีโปรโมชั่นมากมาย รวมถึงฟีเจอร์ Price Alerts ที่จะช่วยแจ้งเตือนราคาตั๋วเครื่องบินที่คุณต้องการ จองตั๋วเครื่องบินได้ในราคาแบบที่โดนใจใช่เลย แนะนำให้เข้าแอปพลิเคชันแล้วเปิดแจ้งเตือนไว้ด้วยนะ!

ที่เที่ยวอุบลราชธานี 2023 ผจญภัยในจังหวัดสุด Unseen

1.ทุ่งศรีเมือง (Tung Sri Muang)

ทุ่งศรีเมือง
นาทุ่งศรีเมือง

ทุ่งศรีเมือง เดิมมีชื่อว่า “นาทุ่งศรีเมือง” เป็นที่ประดิษฐานศาลหลักเมือง หนึ่งในที่เที่ยวอุบลราชธานียอดนิยม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุบลราชธานี ณ ถนนอุปราช บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด (หลังเก่า) มีลักษณะเป็นทุ่งกว้าง แต่เดิมเป็นที่ทำนาของเจ้าเมือง ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 ได้โปรดฯ ให้งดการทำนาที่ทุ่งศรีเมือง และนำมาใช้สอยเป็นพื้นที่สาธารณะเช่นเดียวกับสนามหลวงกรุงเทพฯ แทน โดยทุ่งนี้เป็นทั้งที่ประกอบพิธีศพเจ้าเมือง จัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา และประเพณีอื่น ๆ

ปัจจุบัน ทุ่งศรีเมืองได้กลายเป็นที่พักผ่อนของชาวเมืองอุบล และเป็นที่จัดเทศกาลงานบุญต่าง ๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีต้นเทียนพรรษาเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เมื่อ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 และยังมีอนุสาวรีย์พระปทุมวรราชสุริยวงษ์ (เจ้าคำผง) ผู้ก่อตั้งเมืองอุบลราชธานี โดยจะมีพิธีบวงสรวงและสดุดีวีรกรรมของท่าน ทุกวันที่ 10 พฤศจิกายน ของทุกปี ณ ทุ่งศรีเมืองแห่งนี้อีกด้วย

2. วัดทุ่งศรีเมือง (Tung Sri Muang Temple)

หอไตรกลางน้ำ
วัดทุ่งศรีเมือง

วัดทุ่งศรีเมือง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองอีกหนึ่งที่เที่ยวอุบลราชธานี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ “ทุ่งศรีเมือง” สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ “หอไตรกลางน้ำ” ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นหอไตรที่สวยงามที่สุดและสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน จัดเป็นหนึ่งในของดีประจำจังหวัดอุบลราชธานีเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีหอระฆัง และภาพจิตรกรรมฝาผนัง รวมถึงศิลปวัตถุมีค่าอีกหลายอย่าง เช่น พระพุทธบาทจำลอง และองค์พระเจ้าใหญ่เงินฮาง หอไตรกลางน้ำเป็นหอพระไตรปิฏกที่สร้างด้วยไม้ ตั้งอยู่กลางสระน้ำ มีลักษณะผสมผสานกันระหว่างศิลปะของไทย ลาว และพม่า ภายในมีตู้เก็บพระธรรมลงรักปิดทอง และหอไตรกลางน้ำยังได้รับรางวัล “อนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น” จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือว่าเป็นสถานที่เที่ยวเมืองอุบลที่ห้ามพลาด

3. วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ (Wat Tai Phra Chao Yai Ong Tue)

พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ
วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ

วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ หรือวัดใต้เทิง ตั้งอยู่ที่ถนนพรหมราช เป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีอันมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ และเป็นวัดที่ถูกเคารพนับถือจากทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ภายในพระอุโบสถมณฑปเพชร 7 แสงพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เป็นที่ประดิษฐาน “พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ” พระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางมารวิชัย โดยมีความสำคัญเป็น 1 ใน 5 องค์จากจำนวนพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศไทย

นอกจากพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อแล้ว ยังมีโบราณวัตถุ ได้แก่ พระพุทธรูปปางยืนห้ามสมุทร 4 องค์ และพระพุทธรูปเจตมุนเพลิงองค์ตื้อ (สีดำสนิท) หลักศิลาจารึกหินทราย 2 หลัก วิหารเฉลิมพระเกียรติ 200 ปี และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลรัตนสิริธัญสถิตและเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ โดยทุกวันที่ 1-5 มีนาคมของทุกปี จะมีงานเทศกาลอัญเชิญพระพุทธรูปเจตมุนเพลิงองค์ตื้อ เพื่อให้ประชาชนได้นมัสการสรงน้ำตลอด 5 วัน 5 คืน

4. วัดพระธาตุหนองบัว (Wat Phrathat Nong Bua)

วัดพระธาตุหนองบัว
วัดพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์

วัดพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ หรือที่ชาวอุบลเรียกกันว่า “วัดพระธาตุหนองบัว” ตั้งอยู่ที่ถนนธรรมวิถี เป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีที่ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2500 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนา โดยพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์นี้ ได้จำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า โดยบริเวณฐานเจดีย์ มีประตูทางเข้าสู่ใจกลางเจดีย์ทั้ง 4 ด้าน ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งถูกบรรจุไว้ในสถูปลงรักปิดทองศิลปะอินเดียแบบปาละ สลักลายเรื่องพระเจ้า 500 ชาติ

ด้านหลังของพระธาตุฯ มีอุโบสถศาลา ซึ่งสร้างเลียนแบบรูปทรงมาจากปรินิพพานวิหาร เมืองกุสินาราย รัฐอุตร ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นที่เสด็จดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า อีกหนึ่งไฮไลท์ในพระธาตุฯ แห่งนี้ คือรูปปั้นฉัพยาปุตตะ หรือพญานาคสีรุ้ง ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงาม และความหลากหลายของสีวรกาย

5. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี (Ubon Ratchathani National Museum)

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี
พิพิธภัณฑ์อุบลราชธานี

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำจังหวัดแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของจังหวัดอุบลราชธานี ตลอดจนโบราณคดี ศิลปวัฒนธรรม หัตถกรรม พุทธศาสนา และการปกครอง เดิมพิพิธภัณฑ์ถูกใช้เป็นศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2461 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว

ลักษณะของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นอาคารชั้นเดียว ก่ออิฐถือปูนยกพื้นสูง หลังคาทรงปั้นหยา มุงกระเบื้องว่าว แผนผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศเหนือ ถือเป็นอาคารที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรม และเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี อีกทั้งยังได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปกรรมดีเด่นในปี พ.ศ. 2532 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมถ์ นับเป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีอันทรงคุณค่าที่ควรมาให้ได้

6.วัดสิรินธรวราราม (Wat Sirindhornwararam)

วัดเรืองแสง
วัดสิรินธรวราราม

วัดเรืองแสง หรือวัดสิรินธรวราราม แห่งตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร โดดเด่นด้วยอุโบสถสีปัดทองตั้งเด่นเป็นสง่า ด้านหลังของอุโบสถเป็นจิตรกรรมเรืองแสงสีเขียวของต้นกัลปพฤกษ์อันแสนสวยงามตื่นตาตื่นใจในยามค่ำคืน ด้วยการใช้สารเรืองแสงหรือสารฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งมีคุณสมบัติรับแสงพระอาทิตย์ในตอนกลางวัน และปล่อยพลังงานออกมาในตอนกลางคืน

โดยเป็นฝีมือการออกแบบของช่าง “คุณากร ปริญญาปุณโณ” ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิต ในภาพยนตร์เรื่อง “อวตาร” และช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมและถ่ายภาพคือ ตั้งแต่เวลา 18.00-20.00 น. นอกจากนี้ บริเวณด้านหลังพระอุโบสถยังเป็นจุดชมวิวริมลำน้ำโขง ทิวทัศน์ของฝั่งลาว ด่านช่องเม็ก และอ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขา นับว่าเป็นหนึ่งในที่เที่ยวอุบลราชธานีที่มีจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม

7. พัทยาน้อย (Pattaya Noi)

พัทยาน้อย
หาดพัทยาน้อย

หาดพัทยาน้อย หรือ ทะเลอีสานใต้ ตั้งอยู่ริมถนนสถิตนิมานการ บ้านใหม่ภูทอง อำเภอสิรินธร ห่างจากตัวเมืองอุบลประมาณ 60 กิโลเมตร ในฤดูแล้งระดับน้ำเหนือเขื่อนสิรินธรจะต่ำลงมาก จนเห็นเป็นหาดทรายขาวทอดตัวยาว และสามารถลงเล่นน้ำได้ พื้นที่แห่งนี้จึงได้รับการพัฒนาให้เป็นจุดท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และเล่นน้ำยอดฮิตของชาวอุบลราชธานี รวมไปจนถึงชาวอีสานใต้ในหลายๆ พื้นที่ใกล้เคียงกัน

ที่เที่ยวอุบลราชธานีแห่งนี้ เพียบพร้อมไปด้วยบริการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวมากมาย ทั้งร้านอาหาร รีสอร์ท ร้านกาแฟ ในลักษณะที่เป็นเรือนแพกลางน้ำ แถมยังมีเครื่องเล่นทางน้ำ อย่างเช่น บานาน่าโบ๊ต เจ็ตสกี และห่วงยางให้บริการอีกด้วย

8. อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ (Kaeng Tana National Park)

อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
อุทยานแห่งชาติดงหินกอง

อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ เดิมชื่อ “อุทยานแห่งชาติดงหินกอง” เกาะแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุด มีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี มีลักษณะเป็นที่ราบสูงและเนินเขาเตี้ย ๆ โดยมียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่านไปตามร่องหิน อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นของแก่งตะนะแห่งนี้

“แก่งตะนะ” ที่เที่ยวอุบลราชธานีแห่งนี้ เป็นแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุด ตัวแก่งเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่กั้นขวางลำน้ำมูล สายน้ำที่ไหลผ่านแก่งตะนะนั้น แยกเป็นน้ำตกน้อยใหญ่สวยงามน่าชม และมีจุดเล่นน้ำเหนือแก่ง ที่จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ และรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวอยู่เสมอ

กิจกรรมห้ามพลาดของที่นี่คือ เดินป่า ค้างคืน ดูพระอาทิตย์ขึ้นบนผาด่าง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นพร้อม ๆ กับผาชะนะได อีกทั้งยังสามารถมองเห็นหมู่บ้านชาวลาว และสะพานปากแซ เมืองปากแซ แขวงจำปาสัก ของประเทศลาวอีกด้วย

9. สามพันโบก (Sam Phan Bok)

สามพันโบก
แกรนด์แคนยอนเมืองไทย

สามพันโบก ได้รับสมญานามว่า “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” ตั้งอยู่ที่บ้านโป่งเป้า ตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิ์ไทร เป็นแก่งหินทรายขนาดใหญ่ที่ถูกกระแสน้ำธรรมชาติกัดเซาะมานานหลายพันปี จนกลายเป็นแอ่งหลุมรูปร่างแปลกตา กระจายกินพื้นที่เลียบริมแม่น้ำโขง ทั้งฝั่งไทยและลาว ในช่วงหน้าแล้งจะปรากฏให้เห็นเป็นภาพศิลปะสารพัดรูปร่าง เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร รวมเป็นพื้นที่กว่า 30 ตารางกิโลเมตร

จุดถ่ายรูปยอดฮิตคือ ผาหินรูปสะพานโค้ง, หินหัวสุนัข, สระมรกต, โบกรูปดาว, โบกรูปหัวใจ และโบกรูปมิกกี้เม้าส์ ใกล้ ๆ กันยังมีจุดน่าเที่ยวอย่างเช่น หลักศิลาเลข, ถ้ำนางเข็นฝ้าย, แก่งสองคอน, ถ้ำนางต่ำหูก, หาดหินสี, หาดแห่, ภูเขาหิน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือนสามพันโบกคือ ช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมิถุนายนของทุกปี สามพันโบกเรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีที่มีชื่อเสียงที่สุดเลยทีเดียว

10. หาดหงส์ (Hong Beach)

หาดหงส์
ซาฮาร่าเมืองไทย

อีกหนึ่งที่เที่ยวอุบลราชธานีที่อำเภอโพธิ์ไทร ไม่ไกลจากสามพันโบก “หาดหงส์” เป็นเนินทรายแม่น้ำโขงที่เกิดจากการพัดพาของน้ำ และนำตะกอนทรายมาทับถมกัน จนกลายเป็นทะเลทรายที่กว้างใหญ่ การเดินทางมาที่นี่ต้องมาทางเรือเท่านั้น โดยนั่งมาจากสามพันโบกหรือหาดสลึงก็ได้เช่นกัน

แนะนำให้มาในฤดูแล้ง จะได้เห็นเนินทรายกว้างใหญ่ สมฉายาซาฮาร่าเมืองไทย และช่วงที่เหมาะกับการถ่ายรูปคือ 4 โมงเย็น จนถึงช่วงพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า จะได้ภาพสวยงามที่สุด อย่าลืมเลือกใส่รองเท้าที่เดินทรายได้สบาย ๆ รวมทั้งพกน้ำดื่มกันมาด้วย หากต้องการอยู่ถ่ายรูปจนพระอาทิตย์ตกดิน เพื่อความปลอดภัย ควรพกไฟฉายไปด้วย

11. บ้านผาชัน (Ban Pha Chan)

บ้านผาชัน
เสาเฉลียงใหญ่

“บ้านผาชัน” ที่เที่ยวอุบลราชธานีซึ่งเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ริมน้ำโขง ตั้งอยู่ที่ตำบลสำโรง อำเภอโพธิ์ไทร โดยมี “เสาเฉลียงใหญ่” เป็นไฮไลต์สำคัญ เสาเฉลียงยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนี้ มีรูปร่างคล้ายดอกเห็ด สูงกว่า 20 เมตร สันนิษฐานว่ามีอายุประมาณ 100 ล้านปี

นอกจากนี้ยังมี “ผาชัน” เป็นหน้าผาหินที่มีความสูงชันประมาณ 40-50 เมตร ตลอดเส้นทางยาวประมาณ 5 กิโลเมตร จนเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน และยังมีจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกเช่น ผาตัวเลข หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ผาศิลาเลข, ผาหัวช้าง, ผาหมาว้อ, ผาสามหมื่นรู, ศิลาปะการัง, หินหัวพญานาค, สวนหิน, ถ้ำนางเข็ญฝ้าย และท่ากกกระดาน ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นริมฝั่งโขง

12. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (Pha Taem National Park)

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
ผาแต้ม

เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันออกที่สุดของประเทศไทย มีเนื้อที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร มีจุดเด่นที่สวยงามตามธรรมชาติมากมาย เช่น “เสาเฉลียง” เสาหินลักษณะคล้ายดอกเห็ด ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและลมเป็นเวลานับล้านปี และ “ผาชะนะได” หน้าผาสูงชัน อันเป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ที่แรกในประเทศไทย

บริเวณผนังหน้าผาด้านล่าง มีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์เรียงรายอยู่ประมาณ 300 ภาพ นับเป็นภาพเขียนริมหน้าผาที่ยาวที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าชมธรรมชาติ โดยระหว่างทางจะได้พบกับสิ่งที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกห้วยพอก, ผากำปั่น, ผาหินแตก, ภูโลง, ภูกระบอ, ภูผาขาม, ถ้ำปาฎิหาริย์, น้ำตกทุ่งนาเมือง, น้ำตกแสงจันทร์, น้ำตกกวางโตน, ภูจ้อมก้อม, หาดวิจิตรา, หินโยกมหัศจรรย์ และน้ำตกสร้อยสวรรค์ เป็นต้น

13. น้ำตกแสงจันทร์ (Sang Chan Waterfall)

น้ำตกแสงจันทร์
น้ำตกรู

น้ำตกแสงจันทร์ หรือน้ำตกรู อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นน้ำตกหนึ่งเดียวที่ไหลผ่านรูช่องหิน และกลายเป็นสายสีขาวนวลอย่างสวยงามราวกับแสงจันทร์ จนได้ชื่อว่า “น้ำตกรู” โดยเฉพาะในวันเพ็ญที่แสงจันทร์จะสาดส่องมาตรงรูหินพอดี วันนี้น้ำตกจะยิ่งสวยเป็นพิเศษ ถือเป็นที่สุดของที่เที่ยวอุบลราชธานีอีกแห่งหนึ่งที่ต้องห้ามพลาด

รูช่องหินเกิดจากการกัดเซาะของสายน้ำ โดยเมื่อมีฝนตกลงมามาก ๆ กระแสน้ำในลำธารก็จะพัดพาเอาก้อนกรวดก้อนหินไหลติดไปด้วย ทำให้หลุมที่เป็นหินทรายขยายตัวเป็นหลุมกว้างขึ้นเรื่อย ๆ นานวันเข้าหลุมก็ทะลุกลายเป็นรู อันเป็นที่มาของชื่อ “น้ำตกลงรู” และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ในบางช่วงและมุมมองที่ดีเราจะเห็นน้ำที่ตกกระทบผิวน้ำในแอ่งข้างล่างเป็นรูปหัวใจอีกด้วย

14. น้ำตกสร้อยสวรรค์ (Soi Sawan Waterfall)

น้ำตกสร้อยสวรรค์
น้ำตกผาแต้ม

หนึ่งในน้ำตกสวยของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม อยู่ห่างจากอำเภอโขงเจียมประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลจากหน้าผาสูงชันสองด้าน ซึ่งเกิดจากลำห้วยสร้อยและลำแซไผ่ ตกลงมาบรรจบกันคล้ายสายสร้อย ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ตัวน้ำตกอยู่ห่างจากจุดชมภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ผาแต้มประมาณ 15 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทิวทัศน์แม่น้ำโขง ผืนป่า และหน้าผาหินฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน

ช่วงสวยงามเหมาะกับการเที่ยวชมที่สุด คือปลายฝนต้นหนาว ประมาณปลายเดือนตุลาคมจนถึงธันวาคม และที่นี่ยังเป็นแหล่งชมดอกไม้ป่า ทั้งดอกสร้อยสุวรรณา, ดุสิตา, มณีเทวา, หญ้าบัว ที่บานอวดโฉมอยู่เต็มท้องทุ่ง ในช่วงที่น้ำตกสร้อยสวรรค์มีความงดงามมากที่สุดของปีอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวอุบลราชธานีที่คนรักธรรมชาติควรมาสัมผัส

15. วัดถ้ำคูหาสวรรค์ (Tham Khuha Sawan Temple)

วัดถ้ำคูหาสวรรค์
ถ้ำคูหาสวรรค์

วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ตั้งอยู่ที่บ้านด่านใหม่ ตำบลโขงเจียม เป็นสถานที่เก็บรักษาร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของ “หลวงปู่คำคนิง จุลมณี” พระสายปฏิบัติผู้ก่อตั้งวัด ซึ่งทางวัดยังคงเก็บสังขารของท่านไว้ในโลงแก้วภายในถ้ำคูหาสวรรค์ที่อยู่ทางด้านหลังวัด ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ พร้อมทั้งยังเป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีที่สามารถชมทัศนียภาพของแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูล ที่ไหลมารวมกันกลายเป็นแม่น้ำสองสีได้อย่างสวยงาม

ภายในวัดโดดเด่นด้วยพระธรรมเจดีย์ศรีไตรภูมิ พระเจดีย์สีขาวทรง 8 เหลี่ยม ส่วนยอดมี 9 ยอด เป็นสีทองเหลืองอร่าม กลางห้องโถงมีพระพุทธรูปปางสมาธิ คือ พระพุทธชิโนดมบรมโรคเชษฐ์ และในเรือนธาตุมีพระบรมสารีริกธาตุ

อีกหนึ่งจุดเด่นคือ ฆ้องที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก โดยฆ้องนี้ใช้เสาสูง 26 เมตร รัศมีฆ้อง 10 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 20 เมตร น้ำหนัก 18,000 กิโลกรัม เสาหลักที่ใช้สร้างฆ้องก่อสร้างทิ้งไว้ถึง 2 ปี เลยทีเดียว

16. วัดหนองป่าพง (Nong Pa Phong Temple)

วัดหนองป่าพง
พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร

วัดป่าสายวิปัสสนากรรมฐาน ที่เที่ยวอุบลราชธานีอันเป็นต้นแบบของวัดป่ากว่า 100 แห่งในประเทศไทย และอีกหลายประเทศทั่วโลก ตั้งอยู่ที่บ้านพงสว่าง ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ เป็นสำนักปฎิบัติธรรมภายในพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ ที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันสงบเงียบ ก่อตั้งโดย “หลวงพ่อชา สุภัทโท” หรือ “พระโพธิญาณเถร” พระธุดงค์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตโต

ภายในวัดที่มีสถานสำคัญคือ “พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร” สถานที่ประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ชาให้ได้สักการะ รวมทั้งจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านที่ชาวบ้านนำมาถวายวัด และยังมี “เจดีย์ศรีโพธิญาณ” ตั้งโดดเด่นอยู่กลางป่า เป็นที่บรรจุอัฐิของหลวงปู่ชา เพื่อให้ผู้ศรัทธาได้มาสักการะ และ “ศูนย์เผยแพร่มรดกธรรม” ที่มีครบทั้งหนังสือ ซีดี และวีซีดี

วัดหนองป่าพงเปิดให้เข้าชมช่วงเช้า เวลา 10.30-12.00 น. ส่วนตอนบ่าย เวลา 14.00-18.00 น.

17. หาดชมดาว (Chom Dao Beach)

หาดชมดาว
แก่งชมดาว

“หาดชมดาว” หรือแก่งชมดาว อยู่ที่บ้านโนนตาล อำเภอนาตาล ก่อนถึงสามพันโบก ประมาณ 20 กิโลเมตร ช่วงที่น้ำโขงลดในฤดูแล้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน เกาะแก่งซึ่งเคยอยู่ใต้น้ำ จะโผล่พ้นขึ้นมาให้เห็นเป็นแนวหาดหินแก่งหินกว้างใหญ่ กินพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ เรียกกันว่า “แก่งหินงาม” ลักษณะคล้ายสามพันโบก แต่จะมีโบกมากกว่าและใหญ่กว่า แนวหินที่ดูกว้างไกลสุดตานั้น เต็มไปด้วยแก่งหินน้อยใหญ่ที่ซ่อนเร้นไว้ด้วยความสวยงามแปลกตา

จุดที่ห้ามพลาด ได้แก่ ถ้ำตาอ้วน, ถ้ำตามา, ก้อนสามเส้า, แกรนด์แคนยอนนาตาล, แก่งหินงาม, ผาวัดใจ, หาดชมดาว และช่องแคบสองฝั่งโขง ซึ่งจุดที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่คือ “หินชมนภา” ลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ชิดกัน จนเกิดช่องแคบ ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำที่ใสจนสามารถสะท้อนท้องฟ้าได้ชัดเจน จุดนี้เองที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า พระอาทิตย์ตกยามเย็น และนับว่าเป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีที่สามารถชมทะเลดาวในยามค่ำคืนได้สวยที่สุด

18. อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย (Phu Chong Na Yoi National Park)

อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย
สามเหลี่ยมมรกต

อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย มีพื้นที่ประมาณ 686 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ที่ตำบลนาจะหลวย อำเภอนาจะหลวย รวมถึงมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศลาว และกัมพูชา จึงเป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีที่ได้รับการขนานนามว่า “สามเหลี่ยมมรกต” ประกอบด้วยภูเขาภูเล็กภูน้อยมากมาย เช่น ภูจองนายอย, ภูจองน้ำซับ, ภูจอง, ภูจันทร์แดง, ภูพลาญสูง, ภูพลาญยาว เป็นต้น

ลักษณะอุทยานเป็นป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรังที่หนาแน่นสมบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น สวนหินพลาญยาว, จุดชมทิวทัศน์ผาผึ้ง, แก่งศิลาทิพย์ และมีน้ำตกห้วยหลวง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นที่สุด คนท้องถิ่นเรียกน้ำตกนี้ว่า “น้ำตกบักเตว” เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงประมาณ 45 เมตร มีลักษณะเป็นหน้าผาหิน โอบล้อมด้วยป่าไม้สีเขียวร่มรื่น พื้นน้ำเป็นสีมรกตสามารถลงเล่นได้ จะนั่งเล่นชมบรรยากาศ หรือจะถ่ายรูปสวย ๆ ก็ดีงามทั้งนั้น

19. ทุ่งหนองหญ้าม้า (Field of Nong Ya Ma)

ทุ่งหนองหญ้าม้า
ทุ่งดอกกระดุมเงิน

ทุ่งดอกกระดุมเงินหนองหญ้าม้า ตั้งอยู่ที่บ้านโนนเค็ง ตำบลคำขวาง อำเภอวารินชำราบ ทุก ๆ ปีในช่วงหน้าหนาวราวเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปลายเดือนมกราคม พื้นที่ทุ่งโล่งที่นี่จะมีดอกกระดุมเงินสีขาวนับล้านดอกเบ่งบานเต็มพื้นที่หลายสิบไร่

ดอกกระดุมเงิน ชาวบ้านแถบนี้นิยมเรียกว่า “หญ้าหัวหงอก” ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ประทานนามไว้ว่า “มณีเทวา” ภายในทุ่งดอกกระดุมเงินยังสลับไปด้วย “ดอกสร้อยสุวรรณา” สีเหลืองสด ซึ่งเป็นดอกไม้ที่รับพระราชทานนามเช่นกัน รวมทั้ง “จอกบ่วาย” พืชกินสัตว์ขนาดเล็ก ในสกุลหยาดน้ำค้างอีกด้วย

เวลาที่เหมาะแก่การถ่ายภาพ คือตั้งแต่เริ่มพระอาทิตย์ขึ้นจนถึง 10 โมงเช้า และตั้งแต่บ่าย 2 จนพลบค่ำ เป็นช่วงเวลาที่แสงสวยและอากาศไม่ร้อนมาก ใครที่เป็นสายถ่ายรูปเช็คอิน ต้องห้ามพลาดที่เที่ยวอุบลราชธานีแห่งนี้เลย

20. ขัวน้อย (Khua Noi)

ขัวน้อย
สะพานน้อย

“ขัวน้อย” หรือ “สะพานน้อย” แลนด์มาร์กสำคัญของบ้านชีทวน ตั้งอยู่ตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน เป็นสะพานที่อยู่ท่ามกลางทุ่งนาทอดยาวไปสุดสายตา สร้างขึ้นเพื่อให้พระสงฆ์ได้เดินข้ามมาบิณฑบาต และใช้เดินทางสัญจรไปมาระหว่างชุมชนบ้านหนองแคนกับบ้านชีทวน

เดิมเป็นคันดินผ่านทุ่งนา ต่อมาชาวบ้านได้นำเอาไม้จากเรือเก่า ๆ และไม้ที่เหลือจากการเผาศพมาทำเป็นสะพาน ช่วยให้เดินทางไปมาได้สะดวกขึ้น ภายหลังชาวบ้านจึงจัดผ้าป่าสามัคคีสร้างขัวน้อย เป็นสะพานคอนกรีตใช้ในการเดินทางไปมาหาสู่กัน

ชุมชนบ้านชีทวนยังมีที่เที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างเช่น วัดทุ่งศรีวิไล, วัดธาตุสวนตาล, วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์ และเรือโบราณ ใครชอบวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ต้องห้ามพลาดที่เที่ยวอุบลราชธานีแห่งนี้เด็ดขาด

21. เขื่อนสิรินธร (Sirindhorn Dam)

เขื่อนสิรินธร
แก่งแซน้อย

เขื่อนสิรินธร ตั้งอยู่ในบริเวณแก่งแซน้อย อำเภอสิรินธร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอุบลราชธานีที่ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างแวะมาพักผ่อนหย่อนใจกัน ที่เขื่อนมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้ท้องถิ่นให้ได้เดินเล่น และถ่ายรูปเพลิดเพลินกัน และยังมีบริการจักรยานให้เช่าสำหรับใครที่อยากปั่นจักรยานชมอ่างเก็บน้ำอีกด้วย

22. ผาโสก (Pha Sok)

ผาโสก เป็นหนึ่งในจุดชมวิวและลานกางเต็นท์ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำใสที่อยู่ตรงกลางระหว่างโขดหินตรงริมหน้าผา ที่นักท่องเที่ยวสามารถลงไปแช่น้ำและชมวิวเล่น จนเรียกกันว่าเป็น “จากุซซี่ลอยฟ้า” เพราะทำเลที่ตั้งอยู่ริมผาและสามารถเห็นวิวของแม่น้ำโขง ภูเขา และป่าได้อย่างพาโนรามา ถือเป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แนะนำสำหรับคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ เลย

23. เกาะภูกระแต (Ko Phu Kratae)

เกาะภูกระแต ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านโนนกลาง อำเภอพิบูลมังสาหาร อยู่บริเวณด้านข้างของเขื่อนสิรินธร มีลักษณะเป็นภูเขาเตี้ย ๆ ที่มีสภาพเป็นเกาะกลางน้ำที่น้ำท่วมไม่ถึงตลอดทั้งปี สามารถไปกางเต็นท์ ล่องเรือชมทัศนียภาพ และวิถีชีวิตของชาวบ้านรอบเกาะได้ หรือจะลงไปเล่นน้ำและหาดทรายก็ได้เช่นกัน เป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีที่เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจ

24. แก่งช้างหมอบ (Kaeng Chang Mop)

แก่งช้างหมอบ อยู่ในตำบลเขมราฐ อำเภอเขมราฐ ตั้งอยู่ติดริมน้ำโขง มีลักษณะเป็นแก่งน้ำสลับโขดหิน ที่ถูกกัดเซาะโดยแม่น้ำโขง และมีระดับน้ำไม่ลึกมาก เหมาะกับการเล่นน้ำ นับว่าเป็นที่เที่ยวอุบลราชธานียอดฮิตสำหรับการล่องแก่ง หรือจะเดินเล่นชิว ๆ ชมธรรมชาติอันสวยงามริมฝั่งแม่น้ำโขงก็ได้เช่นกัน แนะนำให้มาในช่วงฤดูร้อน จะคึกคักและเหมาะกับการล่องแก่งกว่าฤดูอื่น ๆ สามารถพาเด็กมาเล่นน้ำได้ มีบริการห่วงยางให้เช่า

25. วัดป่าภูปัง (Wat Pa Phu Pang)

ตั้งอยู่ในบ้านพะเนียด ตำบลหนามแท่ง อำเภอศรีเมืองใหม่ เป็นวัดที่มีพญานาคเรืองแสงหนึ่งเดียวในไทย และมีพระประธานปางมหาจักรพรรดิ์ทรงเครื่องที่สวยที่สุดในอุบลราชธานี เป็นวัดที่ชาวบ้านเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาปฏิบัติธรรม และถ่ายรูปกับสิ่งก่อสร้างอันสวยงามตระการตาต่าง ๆ ได้ ถือเป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีที่คุ้มค่าแก่การมาเยือน

ข้อมูลที่น่าสนใจเมื่อต้องการไปเที่ยวอุบลราชธานี

มารู้จักอุบลราชธานีให้มากขึ้น จะได้วางแผนการท่องเที่ยวได้อย่างราบรื่นตลอดทั้งทริป หมดปัญหาไม่รู้จะเที่ยวไหนดี หรือเดินทางไปอุบลอย่างไร เพราะเรามีข้อมูลมาให้คุณหมดแล้ว

ข้อมูลอุบลราชธานีในเบื้องต้น

เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของภาคอีสาน มีลักษณะภูมิประเทศหลากหลาย ทั้งที่ราบสูง ภูเขาสลับซับซ้อน มีแม่น้ำโขงกั้นระหว่างตัวจังหวัดกับประเทศลาว และมีพื้นที่บางส่วนติดต่อกับประเทศลาวและกัมพูชา

การเดินทางไปท่องเที่ยวอุบลราชธานี

สามารถเดินทางไปยังจังหวัดอุบลราชธานีได้ด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถทัวร์ รถไฟ หรือเครื่องบิน หากเดินทางโดยการใช้เครื่องบิน จะใช้เวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังอุบลราชธานี 1 ชั่วโมงโดยประมาณ สามารถไปได้ทั้งสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ลงจอดปลายทางที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี

สายการบินที่สามารถไปยังเมืองอุบลได้ ได้แก่ สายการบิน THAI Smile, Thai Lion Air, Thai VietJet, AirAsia และ Nok Air สามารถดูราคาตั๋วเครื่องบินไปอุบลราชธานี และเลือกสายการบินที่คุณต้องการได้ที่แอปTraveloka ตัวช่วยประหยัดเวลาในการซื้อตั๋วเครื่องบิน แจ้งรายละเอียด พร้อมเปรียบเทียบราคาสุดคุ้มค่าให้คุณ แถมด้วยโปรโมชั่นดี ๆ อีกมากมาย

การเดินทางภายในจังหวัดไปยังที่เที่ยวอุบลราชธานี

สามารถเดินทางไปยังที่เที่ยวในอุบลราชธานีได้ด้วยรถแท็กซี่ หรือรถรับจ้างสาธารณะ แต่ถ้าหากคุณอยากขับรถด้วยตนเองก็สามารถเช่ารถยนต์มาขับภายในตัวเมืองอุบลราชธานีได้ที่แอป Traveloka ที่นอกจากจะช่วยคุณให้จองตั๋วเครื่องบินได้ในราคาดีแล้ว ยังมีบริการเช่ารถพร้อมคนขับ หรือจะเช่ารถเปล่า ๆ มาขับเองก็ได้เช่นกัน

ข้อมูลฤดูกาลสำหรับการท่องเที่ยวอุบลราชธานี

มี 3 ฤดู ตามฤดูกาลประเทศไทย ได้แก่

ฤดูร้อน เริ่มต้นประมาณเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงพฤษภาคม อากาศจะค่อนข้างร้อนอบอ้าว
ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม ช่วงเดือนสิงหาคมจะฝนตกชุกที่สุด
ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงกุมภาพันธ์ อากาศโดยทั่วไปจะหนาวเย็นและแห้ง อาจมีอากาศเย็นกว่าปกติในบางวันช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร