ซัมเมอร์ร้อนเปรี้ยงแบบนี้ มั่นใจเลยว่าหลายคนต้องมีแพลนไปเที่ยวภาคใต้กันแน่ๆ ใช่มั้ยล่ะ? แล้วถ้าใครกำลังมองหาพิกัดเช็คอินใหม่ๆ ซึ่งไม่ซ้ำซากจำเจ ลองมาส่องพิกัดเที่ยวภาคใต้แบบ Unseen ที่เรารวบรวมมาให้กันดูจ้า จะเป็นสายทะเลหรือสายภูเขา เราก็มีพิกัดน่าปักหมุดมาฝากกันแบบจุกๆ เลยนะ เลือกจุดหมายที่อยากไปแล้วอย่าลืมมองหาตั๋วเครื่องบินภาคใต้ราคาเริ่ดๆ จาก Traveloka Travel & Lifestyle Supper app จองง่ายแถมราคาก็โดนใจ จองปุ๊บเก็บของปั๊บ แล้วไปฟินกับพิกัดสวยภาคใต้กันได้ทันทีเลย!
ใครไม่มีปัญหากับการตื่นเช้า เราขอบอกเลยว่าตรงนี้ดี! เพราะที่นี่มีวิวสวยสุดอลังการให้คนรักธรรมชาติได้แฮปปี้กัน หนองทะเลนั้นมีทิวทัศน์แสงแรกของวันเป็นไฮไลท์ กับบึงน้ำขนาดใหญ่ที่เรียบนิ่งเหมือนแผ่นกระจก ซึ่งสะท้อนเงาภูเขาหินปูนและธรรมชาติรอบด้านเอาไว้แบบน่าตื่นตาตื่นใจเชียวละ บรรยากาศโดยรอบในช่วงเช้านั้นก็ทั้งสงบและสบาย แถมยังมีโอกาสได้เห็นวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้านในท้องถิ่นไปพร้อมกันอีกด้วยจ้า ใครชอบถ่ายรูปจัดเต็มอุปกรณ์มาเลยนะ รับรองว่าได้วิวปังๆ กลับบ้านไปแบบสะใจแน่นอน
นี่คือดินแดนทุ่งหญ้าสะวันนากลางทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นเกาะใหญ่อันดับสามของพังงา รอบเกาะพระทองมีทะเลสวยและหาดทรายขาวให้เห็นกัน แต่ไฮไลท์ของที่นี่นั้นอยู่บริเวณตรงกลางเกาะ ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่มีต้นเสม็ดขาวขึ้นกระจายตัวอยู่ในบริเวณทั่วไป นอกจากจะได้ชมความสวยของพระอาทิตย์ขึ้นและตกในบรรยากาศกลิ่นอายแบบอัฟริกาแล้วนะ ไฮไลท์อีกอย่างก็คือการมาส่องสัตว์ในยามค่ำ ซึ่งถ้าโชคดีจะได้เห็นฝูงกวางม้าหรือปูไก่ที่ออกมาหาอาหารกัน เป็นพิกัดที่สายชิลล์รักธรรมชาติพลาดไม่ได้เลยทีเดียว
พิกัดธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ทะเลไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู หรือปลา เพราะบริเวณนี้เป็นเหมือนปลายทางที่น้ำจืดจากแหล่งต่างๆ จะไหลมารวมกันก่อนเข้าสู่ทะเลน้อยและทะเลสาบสงขลา ไฮไลท์ขึ้นชื่อของคลองปากประจึงเป็นวิวของบรรดายอขนาดยักษ์ที่ตั้งเรียงกระจายตัวกันอยู่ทั่วไป โดยยอเหล่านี้เป็นเครื่องมือที่ชาวประมงพื้นบ้านในท้องถิ่นใช้หาวัตถุดิบจากทะเลมากินและขาย ช่วงเช้าในเวลาที่แสงแรกของวันเริ่มสาดส่องขึ้นไปบนขอบฟ้าถือเป็นช่วงเวลาทีเด็ดในการไปชมความสวยของคลองปากประกันเลยละ ตื่นเช้าหน่อยนะ แต่รับรองว่าประทับใจ
จุดชมทะเลหมอกแบบจัดหนักของเมืองคอนฯ แห่งนี้ มีข้อดีตรงที่สามารถมาชมทะเลหมอกกันได้ตลอดทั้งปีเลยจ้า ยอดเขาศูนย์นั้นสูงประมาณ 510 เมตร แถมยังมีเส้นทางขับรถขึ้นเขาที่ค่อนข้างสะดวกสบาย บริเวณรอบๆ ของเขาศูนย์นั้นเต็มไปด้วยต้นยางพาราและสวนผลไม้ บนยอดเขาสามารถชมวิวรอบด้านได้แบบ 360 องศา สายแค้มปิ้งก็มากางเต็นท์นอนดูดาวชมวิวทะเลหมอกยามเช้ากันได้ เป็นพิกัดที่เดินทางง่ายแต่มีวิวหลักล้านให้ดูแบบสะใจเลยเชียวละ
อีกพิกัดที่อยากชวนให้แวะมาปักหมุดกัน ก็คือจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของไทยอย่างยะลานี่ละ ทุกวันนี้ยะลาเป็นพิกัดที่เดินทางได้ง่ายเพราะมีสนามบินสวยปังรอให้ใช้บริการกันอยู่จ้า ทะเลหมอกแห่งนี้นั้นได้ชื่อว่ามีสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในอาเซียนเลยด้วยนะ ปลายสุดของสกายวอล์คยังเป็นพื้นทางเดินกระจกใสยาว 61 เมตรให้คนใจแข็งได้ไปชมวิวท้าทายความสูงกัน ที่สำคัญคือสามารถมาชมทะเลหมอกกันได้ตลอดทั้งปีเลยจ้า สะดวกตอนไหนก็ปักหมุดมาได้เลยนะ บอกเลยว่าสวยปังคุ้มค่ากับการเดินทางอย่างแน่นอน
เป็นจุดชมทะเลหมอกและวิวมุมสูงที่ปังสมชื่อเลยเชียวละ เพราะบนดอยนี้เป็นพิกัดที่ชมวิวได้แบบ 360 องศา บนยอดดอยตาปังนั้นมีลานกางเต็นท์ให้มาใช้บริการกันได้ ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 500 เมตรโดยไม่มีอะไรมาบดบัง บนดอยนี้จึงเป็นจุดชมวิวมุมสูงสุดปังที่มาชมทะเลหมอกและวิวรอบด้านได้แบบ 360 องศา ไฮไลท์คือการมารอชมแสงแรกของวันที่จะสาดส่องผ่านโพรงหินของเขาทะลุที่อยู่ตรงหน้า วันไหนมีทะเลหมอกก็จัดได้ว่าเด็ดเลยละ แต่ถ้าไม่มีหมอกให้เห็นก็ไม่เป็นไรนะ เพราะวิวรอบด้านก็นับได้ว่าจัดจ้านไม่แพ้ใคร มาชุมพรเมื่อไหร่ปักหมุดให้ไวเลย
อีกหนึ่งจุดชมวิวสุดแจ่มของภาคใต้ที่อยากชวนให้แวะมา เพราะจากบนนี้จะเห็นวิวผืนป่าเขียวขจีกว้างไกลสุดสายตาสลับกับภูเขาหินปูนสูงใหญ่ที่กระจายตัวกันอยู่แบบเต็มพื้นที่ ในวันที่อากาศเป็นใจ จะมีทะเลหมอกแบบจัดเต็มให้ชมกันจากตรงนี้ ให้อารมณ์คล้ายหุบเขาอวตารในเมืองจีนนิดๆ เหมือนกันนะ บนยอดดอยมีจุดให้กางเต็นท์กันได้จ้า มีร้านอาหารฮาลาลให้บริการด้วยนะ ใครอยากชิลล์หน่อยเค้าก็มีบ้านพักให้นอนกันได้ด้วยจ้า เป็นอีกพิกัดที่บอกเลยว่าดี!
เอาใจสายมุดกันบ้างดีกว่า กับถ้ำที่มีเนื้อที่รวมกว่า 50 ไร่ ด้านในมีโถงถ้ำขนาดใหญ่และแบ่งเป็นห้องเล็กห้องน้อยกว่า 20 ห้องเชียวละ ทุกห้องเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยสวยงามตระการตาส่องประกายระยิบระยับเหมือนประกายเพชร ซึ่งนี่เองเป็นที่มาของชื่อถ้ำนี้ ด้านในมีบันไดไม้ให้เดินชมได้สบายๆ ตลอดทาง และถึงจะมีไฮไลท์ปังๆ ให้ชมกันหลายจุด แต่หนึ่งแห่งที่พลาดไม่ได้ก็ต้องยกให้กับห้องแสงมรกต ซึ่งจะมีแสงจากภายนอกส่องลอดเข้ามากระทบกับผนังถ้ำเกิดเป็นสีเขียวสวยน่าประทับใจ เป็นหนึ่งความ Unseen ที่อยากให้มาเห็นกันด้วยตัวเอง
ภูเขาสูงราวๆ 300 เมตรแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งพิกัดดูทะเลหมอกแดนใต้ แต่ที่เก๋กว่าใครก็คือทะเลหมอกของที่นี่นั้นดูได้ตลอดคืนตั้งแต่ค่ำยันเช้า! นี่จึงแทบจะเป็นพิกัดเดียวที่เราสามารถชมทะเลหมอกได้ในเวลาเดียวกับที่จะเห็นทางช้างเผือกปรากฏกายอยู่บนท้องฟ้า จากยอดเขาจะเห็นความสมบูรณ์ของผืนป่าเขียวขจีและเทือกเขาสันกาลาคีรีอยู่ตรงหน้า เป็นอีกหนึ่งความสวยที่น่าตื่นตาตื่นใจจนไม่อยากให้พลาดกันไปเลยเชียวละ
คลองสายเล็กๆ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Little Amazon ของเมืองไทย สองฝั่งคลองเต็มไปด้วยความหลากหลายทางระบบนิเวศน์วิทยา เราจึงจะพบเห็นบรรดาพืชพรรณแปลกๆ มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือเหล่าต้นไทรโบราณอายุหลายร้อยปี ที่ทุกวันนี้หลายต้นแผ่กิ่งก้านสาขากว้างไกล หลายต้นยังกลายเป็นม่านระย้าน่าตื่นตาตื่นใจด้วยจ้า อีกหนึ่งไฮไลท์ก็ต้องยกให้กับบรรดางูน้อยสารพัดสายพันธุ์ซึ่งมักจะพากันมาขดนอนตามกิ่งก้านของต้นไม้สองฝั่งคลองนี่ละ ใครรักธรรมชาติชอบการผจญภัยแนะนำให้ไปล่องเรือชิลล์ๆ ที่นี่เลยจ้า ทั้งลุ้นทั้งเพลินสุดๆ นะ เรารับรอง
นี่คือสถานที่ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของประเทศไทย และได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานธรณีโลกจากองค์การยูเนสโก้ด้วยจ้า ภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาแห่งนี้มีอายุนับย้อนไปได้ถึงประมาณ 470 ล้านปีขึ้นไป มีลักษณะเป็นภูเขาหินที่มีปลายยอดแหลมเรียงรายมองดูคล้ายกับยอดปราสาทขนาดใหญ่ มีแนวสันเขาช่วงหนึ่งโอบล้อมชายหาดเอาไว้คล้ายป้อมปราการที่มีน้ำทะเลสีเขียวอยู่ด้านใน มีช่องหินคล้ายประตูที่สามารถพายเรือคายัคเข้าไปได้ เป็นอีกหนึ่งวิวสวยน่าตื่นตาตื่นใจที่สายแอดเวนเจอร์ต้องไปโดน
ดูพระอาทิตย์ขึ้นจากบนเขามาก็มาก ดูพระอาทิตย์ขึ้นจากริมทะเลมาก็บ่อย คราวนี้เลยอยากชวนให้ลองมาคอยดูพระอาทิตย์ขึ้นจากกลางทะเลกันดูบ้าง ผาเขาค้อมนั้นเป็นภูเขาหินปูนกลางทะเลซึ่งมีความเก๋ตรงที่มีโพรงถ้ำความยาว 100 เมตรอยู่ด้านล่าง การมาเยือนที่นี่เราต้องลงเรือจากบนฝั่งกันตั้งแต่ราวๆ ตีห้า แล้วปีนขึ้นไปในโพรงถ้ำเพื่อมองหาจุดที่ถูกใจ เพื่อไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นผ่านม่านหินย้อยจากกลางทะเลซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่แปลกตา ใครเป็นสาย Sun Hunter แล้วไม่มา ถือว่าพลาดจริงๆ
จุดชมทะเลหมอกในความสูง 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเลแห่งนี้ เป็นพิกัดที่ต้องใช้ความพยายามซักนิดในการขึ้นไป เพราะต้องเดินขึ้นเขากันในความมืดของช่วงเวลาประมาณตีสี่ ผ่านระยะทางประมาณ 600 เมตรซึ่งต้องใช้เวลานับชั่วโมงในการเดินขึ้นไป ที่สำคัญคือต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางให้ด้วยน้า ห้ามขึ้นไปเองจ้ะเพราะอาจเกิดอันตรายได้ อยากสะดวกหน่อยก็แนะนำให้จองที่พักหรือกางเต็นท์นอนตรงที่ทำการด้านล่างเลยจ้า ตื่นเช้ามาก็ลุยกันได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาเดินทางอีกนะ ลองแวะมาเช็คอินกันดูจ้ะ เป็นอีกพิกัดสวยเมืองตรังที่น่าสนใจ
ใครข้อเข่ายังดี แนะนำให้มาเช็คอินที่นี่เลยจ้า เพราะเป็นวัดสวยซึ่งมีไฮไลท์เป็นจุดชมวิวที่ต้องเดินขึ้นบันไดมา 1,237 ขั้น และถ้าอยากเช็คอินกับวิวสวยสุดปังซึ่งเป็นไฮไลท์ ก็แนะนำให้มาเริ่มขึ้นบันไดขั้นแรกกันตั้งแต่ประมาณตีห้า เพราะจะได้ขึ้นมาทันเวลาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทิวเขาแบบ 360 องศาที่ด้านบนกัน ในวันที่อากาศเป็นใจ ก็จะมีทะเลหมอกลอยปกคลุมพื้นที่โดยรอบให้เห็นเป็นโบนัสกันด้วยจ้า ขาอาจจะสั่นหน่อยแต่ได้เห็นวิวน่าประทับใจ รับรองว่าคุ้มค่าเหนื่อยที่ต้องเดินขึ้นไปอย่างแน่นอน
เป็นสะพานความยาวกว่า 5 กิโลเมตรซึ่งลอยเด่นอยู่เหนือผิวน้ำกว้างไกล ใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ไปยังอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา โดยสะพานนี้นับว่าเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในเมืองไทยอีกด้วยนะ ระหว่างเส้นทางขับรถยาวสุดลูกหูลูกตา รอบด้านจะเป็นธรรมชาติสวยของทะเลสาบซึ่งมีนกนานาพันธุ์ และยังมีวิถีชีวิตของควายน้ำแห่งเมืองพัทลุงให้ชมกันด้วยจ้า ตลอดเส้นทางมีธรรมชาติสวยๆ ให้ชมกันมากมาย แต่อย่าลืมคิดถึงความปลอดภัยเวลาจอดรถชมวิวกันด้วยน้า ไปเช็คอินกันเลยจ้า เชื่อว่าเพลินแน่นอน
อีกหนึ่งจุดชมทะเลหมอกของเมืองพังงาซึ่งมีความสูงแค่เพียงประมาณ 200 เมตรจากระดับน้ำทะเลเท่านั้น ถึงไม่ได้สูงมาก แต่บอกเลยว่าอยากให้แวะไป เพราะจากด้านบนจะได้เห็นวิวกลุ่มภูเขาน้อยใหญ่ตรงหน้า ในบางวันที่อากาศเป็นใจก็จะได้ชมทะเลหมอกขาวๆ แน่นๆ ในยามเช้ากันด้วยนะ ว่ากันว่าโอกาสที่จะได้เห็นทะเลหมอกจากบนนี้มีมากถึงประมาณ 80% เลยเชียวละ เพราะสภาพแวดล้อมซึ่งเป็นใจทำให้มีโอกาสผิดหวังน้อยมากจ้า การเดินทางก็สะดวกสบายเพราะขึ้นมาถึงได้ด้วยรถยนต์นะ มาได้มาจ้ะ บอกเลยว่าดี
จุดชมวิวเก๋ๆ ของเกาะสมุยที่เหมาะจะมาโพสต์ท่าถ่ายรูปอัพโปรไฟล์กัน กับก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกจับมาวางซ้อนกันด้วยฝีมือธรรมชาติ โดยมีแบ็คกราวนด์เป็นหาดละไมแบบพาโนรามา นี่เป็นจุดชมวิวซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 150 เมตร แต่ก่อนจะข้ามไปยังบริเวณหินซ้อนนั้นต้องใช้ความกล้ากันพอประมาณนะ เพราะต้องเดินข้ามสะพานแขวนซึ่งทอดตัวผ่านเหวลึกไป เสียวหน่อยแต่ได้ภาพสวยสมใจแน่นอนจ้า มาสมุยแล้วอย่าพลาดเชียว
นี่คือพิกัดพายเรือคายัคที่สวยติดตาตรึงใจในระดับโลกเลยเชียวละ กับผืนป่าชายเลนสีเขียวขจีกว้างใหญ่ที่มีภูเขาหินปูนสูงตระหง่านกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ บริเวณนี้เป็นเส้นทางพายคายัคที่มีความยาวราวๆ 4 - 6 กิโลเมตรให้เลือกตามต้องการ ที่สำคัญยังเป็นจุดที่พายเรือได้ง่ายเพราะน้ำค่อนข้างนิ่งสงบไร้คลื่นลมด้วยจ้า ตลอดเส้นทางพายเรือมีจุดแวะชมธรรมชาติสวยๆ ให้เพลินกันหลายจุดเลยนะ ใครชอบเที่ยวแนวผจญภัยหลงใหลความแอดเวนเจอร์น่าจะถูกใจเชียวละ ปักหมุดไว้เลยจ้ะ มากระบี่แล้วอย่าพลาดเชียว
วัดสวยท่ามกลางพื้นที่สีเขียวผืนใหญ่ ซึ่งมีจุดเช็คอินแจ่มๆ ให้ชมให้แชะกันหลายจุดเลยละ เริ่มจากซุ้มประตูพุทธวดี 9 ยอดซึ่งงดงามแปลกตาบริเวณด้านหน้า ไปจนถึงเจดีย์ลอยฟ้า พระพุทธศิลาวดี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ตัวเจดีย์ก่อสร้างด้วยศิลาแลงที่นำมาจากเมืองกำแพงเพชรเชียวนะ นอกจากนั้นยังมีเจดีย์ร้อยยอด พระธาตุพันองค์ และรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาให้สักการะกันด้วยจ้า วัดนี้สวยสุดๆ ในช่วงเช้านะ วันไหนมีทะเลหมอกจะปังเว่อร์จ้ะ ไปให้ทันชมแสงแรกของวันกันด้วยล่ะ เชื่อว่าจะประทับใจกันสุดๆ อย่างแน่นอน
เป็นพื้นที่เวิ้งอ่าวซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนสวยตระหง่าน โดยที่นี่เป็นแหล่งหญ้าทะเลอันเป็นอาหารหลักของบรรดาพะยูนด้วยนะ น้ำทะเลบริเวณนี้เป็นสีฟ้าเทอควอยซ์สวยเตะตา รอบด้านยังเป็นพื้นที่ป่าเขียวขจี ในบริเวณอ่าวนี้ยังมีจุดชมภาพเขียนสีโบราณบนผนังถ้ำหินที่อายุประมาณ 2,000 - 4,000 ปีให้ชมด้วยจ้า อ่าวนี้เข้าถึงได้ทางเรือเท่านั้นนะ จะมาพายคายัคชมจุดต่างๆ กันสบายๆ หรือจะใช้บริการเรือชมวิวที่มีให้ก็ชิลล์จ้ะ สวยเหมือนภาพวาดแต่บรรยากาศสงบสุดๆ นะ สายเขียวปักหมุดมาได้เลย
และนี่คือ 20 พิกัดสวย Unseen น่าตื่นตาตื่นใจในภาคใต้ที่เรารวบรวมมาให้ปักหมุดกัน นอกจากทะเลสีฟ้าสวยใสและหาดทรายขาวละเอียดที่ทุกคนคุ้นตา ภาคใต้บ้านเรายังมีพิกัดที่น่าสนใจในอีกหลากหลายรูปแบบเลยเชียวละ ซัมเมอร์นี้ใครมีแพลนลงใต้ ลองมองหาพิกัดที่ถูกใจแล้วปักหมุดกันดูนะ ไปเที่ยวครั้งเดียวแต่เจอวิวเฟี้ยวๆ หลายอารมณ์เลยจ้ะ รับรองว่าฟินคุ้มค่าวันลากันแน่นอน