สาย Cafe Hopper คนไหนที่อยากตามเก็บคาเฟ่ทั่วไทยใส่ Bucket List เอาไว้ ต้องห้ามพลาดบทความนี้! เพราะวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 5 คาเฟ่ร้อยเอ็ดสวย ๆ ที่มีทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติและอยู่ในตัวเมือง เหมาะสำหรับแวะไปนั่งจิบกาแฟแบบชิลล์ ๆ แต่จะมีร้านไหนบ้าง มาเช็กลิสต์กันได้เลย!
แต่ก่อนจะปักหมุดไปร้านคาเฟ่กัน สามารถจองตั๋วไปร้อยเอ็ดในราคาสุดคุ้มได้ที่ Traveloka จองง่ายทั้งตั๋วเครื่องบินและโรงแรม แอปฯ เดียวให้คุณเที่ยวได้ทุกประเทศทั่วโลก!
เริ่มต้นกันที่ “พอดิน Clay Studio” คาเฟ่ร้อยเอ็ดที่กลายเป็นท็อปลิสต์น่าเช็กอินในช่วงปี 2023 เพราะที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่และสตูดิโอศิลปะ ที่เปิดให้เวิร์กช็อปงานด้านเซรามิก โดยมีผู้ก่อตั้งคือคุณนิต จันทร์โยธา ครูสอนศิลปะและเซรามิกที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี พร้อมเปิดสอนหลักสูตรต่าง ๆ ทั้งในระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับมืออาชีพ อีกทั้งที่นี่ยังมีการจัดนิทรรศการติสท์ ๆ ที่จะแวะเวียนมาจัดให้เข้าชมกันอีกมากมาย
แต่ใช่ว่าร้านแห่งนี้จะโดดเด่นแต่เรื่องศิลปะเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นคาเฟ่ก็ย่อมต้องมีเมนูอร่อย ๆ ไว้ให้คนที่มาแวะเวียนได้ลองทาน โดยเมนูชาดอกไม้ถือว่าเป็นไฮไลต์เด็ด เพราะเขาใช้ดอกไม้สดจากสวนรอบ ๆ จังหวัด มาทำเป็นชาหอมกรุ่น ทานคู่กับขนมเค้กโฮมเมดที่ทำแบบวันต่อวัน เรียกได้ว่านอกจากจะได้ดื่มด่ำกับศิลปะแล้ว คาเฟ่แห่งนี้ยังมีของท้องถิ่นมาให้ได้ลิ้มรสกันแบบถึงที่อีกด้วย
มาต่อกันที่คาเฟ่ร้อยเอ็ดแห่งที่ 2 อย่าง “Skipper Garden” ที่จัดเต็มด้วยบรรยากาศความร่มรื่นที่เงียบสงบ เพราะถูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ เหมาะสำหรับ Cafe Hopper ที่ชื่นชอบการจิบชากาแฟเพื่อ Retreat ความอ่อนล้าของร่างกายและจิตใจ
ซึ่งภายในคาเฟ่จะมีโซนที่นั่งให้เลือกหลากหลาย ทั้งโซน Indoor และ Outdoor โดยโซน Indoor มีที่นั่งแบบโต๊ะเก้าอี้และโซฟา เหมาะสำหรับการนั่งพูดคุยกันแบบกลุ่ม ส่วนโซน Outdoor มีที่นั่งแบบเปลญวนและโต๊ะเก้าอี้ เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ส่วนในด้านของเมนูก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะที่นี่เขามีหลากหลายเมนูให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาโน่, โกโก้, น้ำผึ้งมะนาวโซดา, น้ำอ้อยสด, คาราเมลมัคคิอาโต้, มะพร้าวน้ำหอม, มิ้นต์โกโก้, ชาเขียวลาเต้, นมน้ำผึ้ง, นมวานิลลา และอื่น ๆ อีกมากมาย
มาต่อกันที่ร้านถัดไป แต่หากจะบอกว่าเป็นคาเฟ่ก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะที่นี่เป็นทั้งโอมสเตย์ ฟาร์ม และคาเฟ่ที่สามารถมาเข้าพักได้ โดยมีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้ง เพราะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่อยากลองหาที่พักแบบสงบ ๆ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตชนบทแถบอีสานที่น่าสนใจ
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมสวนผลไม้ สวนมะม่วง มะยงชิด ลำไย, การตกปลาในบ่อของฟาร์ม, การพายเรือ ไปจนถึงการสัมผัสกับประสบการณ์นั่งรถอีแต๋นชมสวนและไร่ บอกเลยว่านอกจากจะได้ฟีลดี ๆ แล้วยังได้ความสนุกแบบเต็มเปี่ยมกลับไปด้วย
และในส่วนของคาเฟ่ก็ไม่น้อยหน้า เพราะที่นี่พร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูกาแฟและเครื่องดื่มชื่นใจ สไตล์บ้านทุ่งอย่างน้ำอัญชัน น้ำมะนาว รวมไปถึงอาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่นมาทำกันให้แบบสด ๆ บอกเลยว่าถ้าจะนึกถึงคาเฟ่ร้อยเอ็ดที่ให้บรรยากาศธรรมชาติแบบเต็มสิบก็ต้องที่นี่เท่านั้น!
มาถึงลำดับก่อนสุดท้าย ที่อยากจะแนะนำให้แวะมาเช่นกัน นั่นก็คือสถานที่อย่าง “เมืองไม้บาติก” ศูนย์การเรียนรู้และจำหน่ายผ้าบาติก โดยอาจารย์ต่อศักดิ์ สิทธิสา ผู้ริเริ่มนำผ้าบาติกแดนใต้มาสู่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่นี่เป็นทั้งโรงเรียนสอนและโรงงานผลิตผ้าบาติกที่พัฒนาจนโด่งดัง ทำให้ใครหลาย ๆ คนเลือกที่จะมาเยือน หากมีโอกาสได้มาเที่ยวที่เมืองร้อยเอ็ด
ซึ่งนอกจากที่นี่จะเป็นศูนย์การเรียนรู้แล้ว เขายังมีคาเฟ่รองรับสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างร้าน “Muangmai Coffce” ให้ได้สั่งเครื่องดื่มและขนม พร้อมจิบกาแฟ ดูผ้าสวย ๆ ไปพร้อม ๆ กันด้วย
ปิดท้ายลิสต์รายชื่อคาเฟ่ร้อยเอ็ดที่นำส่วนผสมของธรรมชาติมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหาร กับร้าน “Hommali Story” ร้านคาเฟ่และร้านอาหารที่ใช้ข้าวหอมมะลิ 100% มาเป็นส่วนประกอบในทุก ๆ เมนู ตั้งแต่เครื่องดื่ม ไปจนถึงกับข้าว! โดยใช้แป้งข้าวหอมมะลิซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มาเป็นกิมมิคของร้าน พร้อมผสมผสานกับทักษะการทำขนมอบแบบฝรั่ง จนกลายเป็นไฮไลต์ขึ้นชื่อที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาลอง
จดลิสต์แล้วกำแพลนให้มั่น พร้อมตีตั๋วไปร้อยเอ็ด และอย่าลืมไปเช็กอินคาเฟ่เหล่านี้ที่นำมาแนะนำกัน ที่สำคัญหากอยากไปเที่ยวร้อยเอ็ดแบบคุ้ม ๆ อย่าลืมไปเช็กราคาตั๋วเครื่องบินก่อนได้เลยที่ Traveloka ที่รวมตั๋วเครื่องบินและที่พักราคาดีไว้ให้คุณแบบครบครันในราคาสบายกระเป๋า