เชื่อว่าหลายคนคงอัดอั้นและอยากจะออกไปเปิดหูเปิดตา เที่ยวชมความสวยงาม พร้อมทั้งสัมผัสลมหนาวในต่างแดนกันไม่มากก็น้อย แต่การเดินทางท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ คงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะนอกจากเราจะต้องเตรียมเอกสารการเข้าประเทศให้พร้อม ยังต้องทำตามมาตรการเข้มงวดต่าง ๆ อีกด้วย
ที่สำคัญยังต้องวางแผนอีกว่าไปแล้วกลับไทยมาจะต้องปฏิบัติตนอย่างไรบ้าง? ถึงแอร์พอร์ตแล้ว ตรงดิ่งนั่งรถกลับบ้านเลยได้ไหม? รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือคนไทยที่กำลังเดินทางกลับเข้าประเทศจะต้องปฎิบัติตนอย่างไรบ้าง? คำถามเหล่านี้คงวนเวียนอยู่ในหัวและอาจทำให้ใครหลายคนวางแผนเตรียมกดวันลาไม่ถูกสักที
วันนี้ Traveloka เลยขออาสามาตอบทุกคำถามที่คุณสงสัย ตั้งแต่การอัพเดตลิสต์ประเทศที่เดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว พร้อมทั้งชี้แนะมาตรการต่าง ๆ ให้อย่างละเอียดชัดเจน
หลายคนคงได้ยินมาบ้างแล้วว่าวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นายกฯ ประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว 63 ประเทศ โดยสามารถเดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว ทำให้หลายคนรีบหาวันลากดจองตั๋วบินข้ามทวีปไปเที่ยวต่างแดนกันอย่างมากมาย เพราะเหตุผลที่ว่ากลับมาแล้วก็ไม่ต้องกักตัว หรือไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด คราวนี้คนไทยที่อาศัยในต่างประเทศ และคนไทยที่อยากออกไปต่างประเทศ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนเกินอีกต่อไป
ซึ่ง 63 ประเทศที่สามารถเข้าไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว มีดังนี้
โดยนักท่องเที่ยวที่มาจากลิสต์ 63 ประเทศข้างต้น นับว่าเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศนำร่องไม่ต้องกักตัว หรือ Exemption From Quarantine กลุ่มที่ 1 (TEST&GO) ซึ่งหากคุณกำลังเดินทางกลับจากประเทศข้างต้น ทำตามเงื่อนไขและมาตรการนี้ได้เลย
ใคร : รายชื่อ 63 ประเทศที่กำหนด
มาตรการกักตัว : ไม่ต้องกักตัว
เงื่อนไขการรับวัคซีน : ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส 14 วันก่อนเดินทาง
เอกสารการเข้าประเทศ :
1. หนังสือเดินทาง
2. เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน
*กรณีเคยติดเชื้อ ต้องได้รับวัคซีน 1 เข็ม ก่อนเดินทาง 14 วัน และรักษาหายภายใน 3 เดือน
3.ใบรับรองแพทย์ ‘ไม่พบเชื้อ’ โดยวิธี RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
4. หลักฐานการจองที่พัก
*ที่พักหรือโรงแรมต้องได้มาตรฐาน SHA PLUS หรือเป็นสถานที่กักตัวทางเลือก (AQ) จำนวน 1 คืนก่อน
5. ประกันสุขภาพอย่างน้อย 50,000 ยูเอสดอลลาร์
6. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘หมอพร้อม’ เพื่อใช้ในการเฝ้าระวังอาการ
ขั้นตอนที่ 1 : ยื่นเอกสารการเข้าประเทศต่อเจ้าหน้าที่
ขั้นตอนที่ 2 : เช็กอิน ณ โรงแรมที่จองไว้ โดยระยะเวลาเดินทางจากสนามบินต้องไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ขั้นตอนที่ 3 : ตรวจหาเชื้อ ณ โรงแรมที่จองไว้ และรอผลตรวจในห้องพัก โดยทางโรงพยาบาลจะส่งผลให้ทราบภายใน 6 ชั่วโมง หากพบไม่ติดเชื้อคุณสามารถเช็กเอาต์ได้ และเดินทางไปได้ทุกพื้นที่ในประเทศไทยได้เลย โดยจะได้รับชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตนเองหรือ ATK เพื่อตรวจตัวเองในวันที่ 6-7 และส่งผลตรวจกลับมาทางแอปพลิเคชันหมอชนะอีกครั้ง
ซึ่งหากคุณมีแพลนเดินทางไปยัง 63 ประเทศ ดังกล่าว 5-6 วันแล้วกลับเข้าไทยมา ก็ถือว่าเข้าข่ายในกลุ่มที่ 1 โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ครบถึง 21 วัน
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโครงการแซนบ็อกซ์ก่อนว่ามันคือโครงการอะไร และจัดทำขึ้นมาเพื่ออะไร?
โครงการแซนบ็อกซ์ นั้นเป็นโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัวภายในที่พัก ซึ่งโครงการนี้มีผลเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2564 ที่ผ่านมาก่อนการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบที่จังหวัด ‘ภูเก็ต’
อีกทั้งยังมี “สมุย พลัส โมเดล” ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมความสวยงามของ 3 เกาะ ได้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็น เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า
รวมถึงจังหวัด ‘กระบี่’ และจังหวัด ‘พังงา’ ที่นำร่องเปิด 3 แหล่งท่องเที่ยวในกระบี่ ได้แก่ เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เลย์ และ 3 แหล่งท่องเที่ยวในพังงา ได้แก่ เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างแท้จริง
Phuket Sandbox นั้นถือเป็นประกาศที่เริ่มต้นโดยสมาคมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยได้มีการยืนยันแผนเปิดจังหวัดภูเก็ตเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ให้สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีการกักตัวและมีการระบุว่าผู้ที่เดินทางเข้ามานั้นจะต้องอยู่ในภูเก็ตเป็นเวลาเพียง 7 วัน ก่อนที่จะเดินทางออกนอกพื้นที่ ไปยัง 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว หรือ The Blue Zone นั่นเอง ซึ่ง 17 จังหวัดนำร่องนี้ ได้แก่17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว (The Blue Zone)
17 จังหวัดนำร่องนี้เป็น จังหวัดที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปได้เมื่อได้รับแจ้งผลว่าไม่พบเชื้อ ด้วยวิธีการตรวจแบบ RT-PCR และพักอาศัยอยู่ในโครงการแซนบ็อกซ์แล้วอย่างน้อย 7 วัน
ใคร : ทุกประเทศ
มาตรการกักตัว : ไม่ต้องกักตัว
เงื่อนไขการรับวัคซีน : ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส 14 วันก่อนเดินทาง
เอกสารการเข้าประเทศ :
1. หนังสือเดินทาง
2. Thailand Pass หรือ Certificate of Entry (COE)
3. เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน
*กรณีเคยติดเชื้อ ต้องได้รับวัคซีน 1 เข็ม ก่อนเดินทาง 14 วัน และรักษาหายภายใน 3 เดือน
4. ใบรับรองแพทย์ ‘ไม่พบเชื้อ’ โดยวิธี RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
5. หลักฐานการจองที่พัก
*ที่พักหรือโรงแรมต้องได้มาตรฐาน SHA PLUS หรือเป็นสถานที่กักตัวทางเลือก (AQ) จำนวน 7 คืนก่อน
6. ประกันสุขภาพอย่างน้อย 50,000 ยูเอสดอลลาร์
7. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘หมอพร้อม’ เพื่อใช้ในการเฝ้าระวังอาการ
ขั้นตอนที่ 1 : ยื่นเอกสารการเข้าประเทศต่อเจ้าหน้าที่
ขั้นตอนที่ 2 : เช็กอิน ณ โรงแรมที่จองไว้ โดยระยะเวลาเดินทางจากสนามบินต้องไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ขั้นตอนที่ 3 : ตรวจหาเชื้อ ณ โรงแรมที่จองไว้ และรอผลตรวจในห้องพัก โดยทางโรงพยาบาลจะส่งผลให้ทราบภายใน 6 ชั่วโมง หากพบไม่ติดเชื้อคุณสามารถเดินทางไปได้ทุกพื้นที่ภายในแซนบ็อกซ์ และตรวจเชื้อด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้งในวันที่ 6-7 ตามที่กรมสาธารณสุขกำหนด
ขั้นตอนที่ 4 : ในกรณีผู้เดินทางออกจากพื้นที่จังหวัดนําร่องด้านการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดอื่น ๆ ผู้เดินทางจะต้องแสดงหลักฐานสถานที่พักอาศัยที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนําร่องด้านการท่องเที่ยว พร้อมหลักฐานผลการตรวจหาเชื้อโรคโควิด - 19 โดยวิธี RT-PCR ต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อของจังหวัดต้นทางและจังหวัดปลายทางตามหลักเกณฑ์
คือ ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศไหนก็ได้ (กรณีที่ไม่เข้าเกณฑ์ในกลุ่มแรก) เช่น คนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลย หรือได้รับแล้วแต่ยังไม่ครบโดส ซึ่งแต่ละกรณีจำเป็นต้องเข้ารับการกักตัวโดยจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน
ใคร : ทุกประเทศ
มาตรการกักตัว : ไม่ต้องกักตัว
เงื่อนไขการรับวัคซีน : ไม่จำเป็นต้องฉีดครบโดส
เอกสารการเข้าประเทศ :
1. หนังสือเดินทาง
2. Thailand Pass หรือ Certificate of Entry (COE)
3. เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน
4. ใบรับรองแพทย์ ‘ไม่พบเชื้อ’ โดยวิธี RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
5. หลักฐานการจองที่พัก *ที่พักหรือโรงแรมต้องได้มาตรฐาน SHA PLUS หรือเป็นสถานที่กักตัวทางเลือก (AQ) จำนวน 10 คืน
6. ประกันสุขภาพอย่างน้อย 50,000 ยูเอสดอลลาร์
7. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘หมอพร้อม’ เพื่อใช้ในการเฝ้าระวังอาการ
ขั้นตอนที่ 1 : ยื่นเอกสารการเข้าประเทศต่อเจ้าหน้าที่
ขั้นตอนที่ 2 : เช็กอิน ณ โรงแรมที่จองไว้ โดยระยะเวลาเดินทางจากสนามบินต้องไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ขั้นตอนที่ 3 : ตรวจหาเชื้อ ณ โรงแรมที่จองไว้ และรอผลตรวจในห้องพัก โดยทางโรงพยาบาลจะส่งผลให้ทราบภายใน 6 ชั่วโมง หากพบไม่ติดเชื้อคุณสามารถกักตัวได้ภายใน AQ เป็นระยะเวลา 10 ในระหว่างนั้น 6 - 7 วันคุณจะต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ตามที่กรมสาธารณสุขกำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าคุณไม่พบเชื้ออย่างแน่นอน หลังจากนั้นคุณจะสามารถเดินทางไปได้ทุกพื้นที่ภายในแซนบ็อกซ์
ขั้นตอนที่ 4 : ในกรณีผู้เดินทางออกจากพื้นที่จังหวัดนําร่องด้านการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดอื่น ๆ ผู้เดินจะต้องแสดงหลักฐานสถานที่พักอาศัพที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนําร่องด้านการท่องเที่ยว พร้อมหลักฐานผลการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อของจังหวัดต้นทางและจังหวัดปลายทาง
ทั้งหมดก็เป็น 3 กลุ่มของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย โดยคุณสามารถเช็ก รายละเอียดการจองที่พัก และมาตรการการกักตัวที่อัพเดทให้คุณได้สามารถเตรียมตัวก่อนการเดินทางได้อย่างละเอียด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในทุกการเดินทาง Traveloka ขอแนะนำให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง หมั่นล้างมือให้สะอาด และเตรียมเอกสารในการเดินทางให้พร้อม เพื่อให้การเดินทางของคุณไม่ติดขัดและเที่ยวได้อย่างราบรื่นมากที่สุด