แจกแพลน เที่ยวจอร์เจียแบบไม่ง้อทัวร์ 7 วันไม่เกิน 10,000!

Traveloka TH
30 Aug 2022 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 3 นาที

ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ถ้าอยากออกไปแตะขอบฟ้าในราคาไม่หน้ามืดนักนะ ขอชวนให้ไปปักหมุดเที่ยวจอร์เจียกันดูจ้า เพราะนอกจากค่าครองชีพจะไม่แพงแล้วยังเที่ยวจอร์เจียกันได้ตลอดปีเลยด้วยนะ ไม่ต้องมานั่งปวดหัวหาข้อมูลว่าจะไปเที่ยวจอร์เจียเดือนไหนดีถึงจะสวยที่สุด เอาเป็นว่าปักหมุดจองตั๋วเครื่องบินจอร์เจียกับ Traveloka Travel & Lifestyle Superapp ในฤดูที่ชอบกันได้ตามใจเลยละ วันนี้เราเลยขอเอาแพลนเที่ยวจอร์เจียแบบไม่ง้อทัวร์มาฝากกันไว้นะ รับรองว่าเช็คอินพิกัดเด็ดๆ ได้ครบในงบแบบสบ๊ายสบาย ไม่เชื่อก็มาส่องไปพร้อมกันได้เลย!

วันที่ 1

โบสถ์ Sameba

ก่อนอื่นขอชวนมาทัวร์จอร์เจียในเมืองหลวง Tbilisi กันก่อนเลยนะ เพราะที่เที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ก็เลยจะเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ได้แบบสบายๆ เลยจ้า เริ่มการทัวร์เมืองแบบยาวๆ กับพิกัดแรกที่เราเชื่อว่าอยู่ตรงไหนก็ต้องเห็นอย่าง Holy Trinity Cathedral of Tbilisi หรือ โบสถ์ Sameba ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของจอร์เจียเลยนะ แถมยังเป็นโบสถ์อีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยด้วยจ้า มาช่วงกลางวันก็สวย กลางคืนก็แจ่มไปอีกแบบละ ใครอยากจะแวะมาชมพระอาทิตย์ตกกันที่นี่ช่วงเย็นๆ ก็ยังได้ นี่คือแลนด์มาร์คหลักที่ต้องปักหมุดไว้เมื่อไปเที่ยวจอร์เจีย

Rezo Gabriadze Theatre

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสุดน่ารักที่อยู่ไม่ไกลกันมาก ก็คือ Rezo Gabriadze Theatre ซึ่งเป็นโรงละครหุ่นเชิดแห่งแรกของเมืองทบิลิซีที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1981 ตัวโรงละครว่าน่ารักแล้วนะ แต่เราว่าหอนาฬิกาที่อยู่ใกล้กันมีความตะมุตะมิกว่า หลายคนตั้งฉายาให้มันว่าหอนาฬิกาที่บิดเบี้ยว เพราะรูปทรงที่โย้เย้ไปมาเหมือนหอนาฬิกาในนิทาน แถมทุกชั่วโมงจะมีโชว์จากเหล่ารูปปั้นนางฟ้าที่จะเปิดประตูบนยอดหอนาฬิกาออกมาทักทายผู้คนอีกด้วยนะ เป็นจุดเช็คอินที่น่ารักเลยเชียวละ มาเที่ยวจอร์เจียแล้วต้องปักหมุดไป

 The Chronicle of Georgia

ปิดท้ายวันกันที่ The Chronicle of Georgia ซึ่งต้องนั่งรถออกไปประมาณ 20 นาที ที่นี่เป็นอนุสรณ์สถานซึ่งบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของประเทศจอร์เจียผ่านเสาขนาดใหญ่ 16 ต้น ซึ่งใหญ่ซะจนทำให้เรากลายเป็นมนุษย์จิ๋วไปเลยเชียวละ เดินดูเสร็จแล้วยังสามารถชมวิวมุมสูงของทบิลิซีได้จากตรงนี้เลยด้วยนะ ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น The Hidden Gems of Tbilisi กันเลยจ้า แวะมาแล้วจะรู้ว่าเด็ดจริง!

วันที่ 2

Narikala Fortress

Narikala Fortress คืออีกพิกัดโดดเด่นของเมืองทบิลิซี เพราะนี่คือป้อมปราการหินโบราณที่มีอายุกว่า 1,000 ปี บนยอดเขากลางเมืองทบิลิซีเลยจ้า ที่นี่นับว่าเป็นป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในจอร์เจียอีกด้วยนะ แถมยังผ่านศึกสงครามมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง นอกจากความสวยของตัวป้อมแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวสุดปังของเมืองนี้เลยด้วยจ้ะ แถมยังมีกระเช้าไฟฟ้าพาขึ้นแบบสบายๆ ไม่ต้องเดินให้เมื่อยกันด้วยน้า มาเที่ยวจอร์เจียแล้วอย่าพลาดที่นี่เด้อ

Mother of Georgia

ไม่ไกลจากป้อม Narikala มากนัก คือพิกัดเช็คอินที่ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจอร์เจีย นั่นคืออนุสาวรีย์ Mother of Georgia ซึ่งมีความสูง 20 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา Sololaki โดยสร้างขึ้นเพื่อฉลองวาระที่เมืองทบิลิซีก่อตั้งมาครอบ 1,500 ปี โดยในมือขวานั้นมีดาบสำหรับต่อสู้กับศัตรู ในขณะที่มือซ้ายนั้นถือแก้วไวน์เพื่อต้อนรับบรรดามิตรสหายที่เข้ามา ว่ากันว่านี่คือตัวแทนของอุปนิสัยของชาวจอร์เจียเลยนะ มาถึงเมืองทบิลิซีแล้วควรแวะจ้ะ อย่ามองข้ามไป

Rike Park

พอแดดเริ่มร่มลมเริ่มเย็นกำลังดี ก็ได้เวลาไปเดินเล่นกันที่ Rike Park ซึ่งนอกจากจะได้เพลินไปกับความสวยของต้นไม้ใบหญ้าท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ แล้วนะ สวนนี้ยังมี Rike Concert Hall & Exhibition Center อาคารหน้าตาสุดล้ำที่จุคนได้ถึงประมาณ 500 คนตั้งโดดเด่นอยู่ด้านใน แถมยังมีคาเฟ่ชิลล์ๆ และสถานีเคเบิ้ลคาร์ที่ใช้เดินทางขึ้นไปบน Narikala Fortress ให้ใช้บริการกันด้วยนะ เป็นอีกแลนด์มาร์คในทบิลิซีที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

The Bridge of Peace

ใกล้ๆ กันกับสวน Rike คืออีกหนึ่งพิกัดสุดโดดเด่นซึ่งเป็นแลนด์มาร์คใจกลางเมืองทบิลิซี นั่นคือ The Bridge of Peace สะพานที่มีรูปร่างเหมือนอยู่ในหนัง Sci-Fi สุดล้ำ ซึ่งมีความยาว 150 เมตร ทอดตัวข้ามแม่น้ำ Kura เชื่อมระหว่างฝั่งเมืองใหม่และเมืองเก่าของเมืองหลวงแห่งนี้เข้าไว้ด้วยกัน ช่วงกลางวันก็สวยแปลกตา ส่วนช่วงกลางคืนนั้นให้บรรยากาศล้ำยิ่งกว่าเมื่อเจอกับแสงไฟสว่างจ้าที่ประดับเพิ่มเข้าไป เชื่อว่านี่ต้องเป็นหนึ่งในภาพจำเมื่อหลายคนคิดถึงจอร์เจียเลยใช่มั้ยล่ะ? ไปดูของจริงปังกว่าในรูปจ้า ไมเชื่อก็ไปสัมผัสด้วยตาตัวเองเลย!

วันที่ 3

 Ananuri Fortress

หลังจากลุยทัวร์เมืองหลวงของจอร์เจียกันรัวๆ ไปแล้วนะ ก็ได้เวลาออกไปเที่ยวแหล่งเช็คอินยอดฮิตนอกเมืองกันบ้างดีกว่า ถ้าไปหลายคนแนะนำให้เช่ารถขับเที่ยวกันไปเลยจ้า เพราะหารออกมาแล้วถือว่าคุ้มค่าเลยเชียวละ พิกัดแรกขอชวนไปเช็คอินกันที่ Ananuri Fortress ซึ่งเป็นป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 16 - 17 เลยนะ นอกจากความสวยคลาสสิกของป้อมนี้แล้ว วิวรอบด้านของที่นี่ยังสวยไม่แพ้กัน เพราะรายล้อมด้วยภูเขาและอ่างเก็บน้ำ Zhinvali เป็นอีกพิกัดที่แวะมาชมกันได้แบบชิลล์ๆ เลยเชียว

 Juta Village

จุดหมายหลักในการทัวร์นอกเมืองหลวงของจอร์เจียในวันนี้คือ Juta Village หมู่บ้านเล็กๆ กลางเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร ทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และด้วยความสวยของทิวทัศน์ธรรมชาติในหมู่บ้านนี้นี่ละ หลายคนจึงยกให้หมู่บ้านจูทาเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วยจ้ะ แถมที่นี่ยังเป็นหนึ่งในจุดหมายที่คนรักการเดินเขาจากทั่วโลกอยากปักหมุดมา เพราะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเด็ดๆ หลายเส้นทางให้เลือกเดินกันเลยนะ จะให้ดีควรมานอนค้างที่นี่ซักคืนเป็นอย่างน้อยจ้า รับรองว่าประทับใจกันจนลืมไม่ลงอย่างแน่นอน

วันที่ 4

Gergeti Trinity Church

ออกสตาร์ทวันที่ 4 ด้วยการไปเช็คอินที่อีกหนึ่งแลนด์มาร์คซึ่งเชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นตากันดีอย่าง Gergeti Trinity Church โบสถ์สวยตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ซึ่งมีแบ็คกราวนด์เป็นเทือกเขาคอเคซัสสุดอลังการ โบสถ์นี้ตั้งอยู่บนยอด Mt.Kazbek ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคอเคซัสนี่ละ โดยตั้งอยู่บนความสูง 2,170 เมตร และได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดในโลกเลยเชียวนะ มาเที่ยวจอร์เจียแล้วต้องได้ไปเช็คอินที่นี่จ้า ไม่งั้นก็เหมือนมาไม่ถึงเด้อ

Russian Georgian Friendship Monument

พิกัดต่อไปที่อยากชวนให้ปักหมุดมา ก็คือการมาชมทิวทัศน์สุดอลังการของ Russian Georgian Friendship Monument ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานรูปวงกลมแปลกตาที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าผาสูงในเขตเมือง Gudauri สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1983 เพื่อฉลองความสัมพันธ์อันดีระหว่างจอร์เจียกับรัสเซียครบ 200 ปี ด้านในใช้กระเบื้องสีตกแต่งเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์สำคัญของสองประเทศ แต่ที่เด็ดสุดๆ ก็คือวิวที่อยู่ด้านนอกนี่ละ เพราะเราจะได้เห็นทิวทัศน์สุดอลังการของ Devil’s Valley แบบ 360 องศา บอกเลยว่าตื่นตาตื่นใจแน่นอน

Mtskheta

เลาะมาเรื่อยๆ ตามเส้นทางกลับสู่ทบิลิซี จะมีอีกหนึ่งพิกัดน่าแวะนั่นก็คือที่เมือง Mtskheta ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงออกมาแค่ 20 กิโลเมตรเท่านั้น เมืองนี้สวยด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่แลดูแปลกตา ด้วยความที่เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศจอร์เจียในช่วงศตวรรษที่ 5 ที่นี่จึงมีอาคารในรูปแบบสถาปัตยกรรมยุคกลางให้เดินชมกันมากมาย นอกจากนั้นยังเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำสองสายคือแม่น้ำ Aragvi และแม่น้ำ Mtkvari แถมยังมีไร่องุ่นรายล้อมอยู่รอบนอกของเมืองอีกด้วยนะ เชื่อว่าจะเป็นอีกพิกัดที่มาแล้วประทับใจแน่นอน

Svetitskhoveli Cathedral

แลนด์มาร์คหลักๆ ที่ต้องมาในเมืองนี้ก็คือที่ Svetitskhoveli Cathedral โบสถ์เก่าแก่ซึ่งเป็นมรดกโลก และเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของพระมหากษัตริย์ในยุคก่อน รวมถึงยังเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์จอร์เจียถึง 10 พระองค์ด้วยกัน รอบๆ โบสถ์ยังมีร้านค้ามากมายให้แวะช้อปกันได้เพลินๆ ด้วยนะ ส่วนอีกสองโบสถ์ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในเมืองมิชเคห์ตา ก็คือ Samtavro Church and Monastery และ Mtskhetis Jvari มาถึงอดีตเมืองหลวงของจอร์เจียแล้วทั้งที ต้องแวะเช็คอินให้ครบทุกที่กันไปเลย

วันที่ 5

Uplistsikhe

จากเมืองมิชเคห์ตา ขอชวนมุ่งหน้าไปชมความมหัศจรรย์ของเมืองถ้ำเก่าแก่ Uplistsikhe ซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคหินโน่นเลยจ้า เมืองถ้ำแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตรเลยนะ ความเจ๋งก็คือการเจาะทะลุภูเขาหินเข้าไปเป็นห้องหลากหลายขนาด รวมถึงยังมีบันไดหินเชื่อมต่อแต่ละส่วนเข้าไว้ด้วยกัน ที่นี่จึงเป็นชุมชนโบราณขนาดใหญ่ซึ่งมีทั้งที่อยู่อาศัย โบสถ์ ไปจนถึงคุกกันเลยจ้า นอกจากนั้น ทิวทัศน์รอบด้านของที่นี่ยังอลังการสุดๆ เลยด้วยนะ ใครเป็นสายพิพิธภัณฑ์เค้าก็มีให้เดินดูกันด้วยละ เป็นอีกแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้จ้า มาจอร์เจียแล้วต้องไปโดน!

Gori

ขับรถต่อไปอีกนิดก็จะเจอกับเมือง Gori เชื่อว่าใครที่เป็นสายประวัติศาสตร์น่าจะถูกใจเมืองนี้แน่นอนเลยละ เพราะนี่คือเมืองเกิดของโจเซฟ สตาร์ลิน อดีตผู้นำคนสำคัญของสหภาพโซเวียตในช่วงปี ค.ศ.1920 - 1953 ในเมืองนี้เราจึงจะเห็นสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสตาร์ลินมากมาย ใครเป็นสายพิพิธภัณฑ์อย่าลืมแวะไปชมพิพิธภัณฑ์สตาร์ลินกันให้ได้เลยนะ นี่คืออีกหนึ่งเมืองในจอร์เจียที่คนรักประวัติศาสตร์พลาดไม่ได้เลยจริงๆ

Borjomi

สำหรับคนที่อาจจะชอบความชิลล์มากกว่าประวัติศาสตร์นะ ขอแนะนำให้มุ่งหน้าตรงไปยังเมือง Borjomi ซึ่งเป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวย มีบรรยากาศสงบสบาย และยังเป็นหนึ่งในพิกัดพักผ่อนที่ชาวจอร์เจียนิยมเดินทางไปเที่ยวกันด้วยละ เพราะนี่คือเมืองแห่งน้ำแร่ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศนี้เลยจ้า แถมยังเป็นเมืองที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ไฮไลท์ของที่นี่จึงเป็นการได้มาผ่อนคลายท่ามกลางทิวทัศน์สวยๆ พร้อมกับการได้แช่น้ำแร่ซึ่งมีให้เลือกใช้บริการกันได้หลายที่ นี่จึงเป็นอีกพิกัดเที่ยวจอร์เจียซึ่งสายชิลล์ควรมีอยู่ในแพลนเดินทาง

วันที่ 6

Abanotubani

หลังจากชิลล์กันที่เมืองบอร์โจมิจนสาแก่ใจ ก็ได้เวลากลับไปทบิลิซีกันอีกครั้ง คราวนี้จะขอชวนไปเดินเล่นในอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองในย่าน Abanotubani ซึ่งเป็นย่านที่มีโรงอาบน้ำแร่อายุเก่าแก่ตั้งอยู่มากมาย เราจึงจะได้เห็นอาคารก่ออิฐแบบโบราณในรูปทรงแปลกตา ใครอยากลองใช้บริการดูก็แวะได้เลยจ้า นับว่าเป็นอีกย่านที่เดินเล่นก็เพลิน เดินถ่ายรูปก็มีหลายมุมให้เลือกใช้เป็นแบ็คกราวนด์สวยๆ กันได้ด้วยนะ นี่คืออีกพิกัดในเมืองทบิลิซีที่อยากให้ลองแวะไปเช็คอินกัน

 Dry Bridge Market

เดินต่อมาอีกไม่กี่นาที ก็จะเจอกับ Dry Bridge Market ตลาดนัดบรรยากาศสุดชิลล์ที่ชาวทบิลิซีเค้านำของมือสองสารพัดรูปแบบมาวางขายกัน ใครเป็นสายช้อปที่ชอบการตามหาช้างเผือกจากร้านรวงแผงลอยสองข้างทาง หรืออยากมองหาของฝากของที่ระลึกแปลกๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน พลาดการมาเช็คอินที่นี่กันไม่ได้เลยน้า ตลาดนี้มีให้เดินกันทุกวัน ตั้งแต่ประมาณ 10 โมงเช้าไปจนถึงราวๆ 5 โมงเย็นเลยจ้า มาเดินกันได้แบบยาวๆ สะใจไปเลย

วันที่ 7

Dezerter Bazaar

ส่งท้ายทริปเที่ยวจอร์เจียในคราวนี้ด้วยการไปเดินหาของติดไม้ติดมือกลับเมืองไทยกันที่ Dezerter Bazaar ซึ่งเป็นแหล่งรวมบรรดาอาหารท้องถิ่น ผลไม้ ไปจนถึงข้าวของอีกหลากหลายประเภทเลยละ อยากได้ขนมท้องถิ่นกลับไปฝากคนที่บ้าน ก็มาจัดกันได้ที่นี่เลยน้า ช้อปเสร็จก็แพ็คใส่กระเป๋าเอาไว้ได้เลยจ้า สำคัญที่สุดก็คืออย่าช้อปเพลินจนเกินเวลาเช็คอินขึ้นเครื่องก็แล้วกัน!

สำหรับคนที่มีจอร์เจียเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ปักหมุดไว้ แต่มีงบไม่มากและไม่อยากไปกับทัวร์ ลองเอาแพลนนี้ไปปรับใช้กันได้เลยจ้า ที่เที่ยวในจอร์เจียส่วนใหญ่นั้นไม่ค่อยเสียค่าใช้จ่ายนะ ส่วนอาหารและที่พักก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบและราคา สำหรับคนที่เคยสงสัยว่าจอร์เจียอันตรายไหม? ก็สบายใจได้เลยจ้า เพราะที่นี่มีจำนวนอาชญากรรมที่ค่อนข้างต่ำ และเคยได้อันดับที่ 7 ในบรรดาประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกมาแล้วนะ ลองมองหาโปรโมชั่นดีๆ แล้วไปจองตั๋วเครื่องบินจอร์เจียกับ Traveloka Travel & Lifestyle Supper app กันไว้ก่อนเลยจ้า ได้ตั๋วเครื่องบินราคาดี บวกกับค่าใช้จ่ายในทริปนี้ที่เชื่อว่าไม่น่าเกินหมื่นนะ รับรองว่าจะได้ทัวร์จอร์เจียด้วยตัวเองกันแบบจุใจในราคาสุดประหยัดแน่นอน

จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร