ต้องบอกว่าตอนนี้เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่กำลังมาแรง ซึ่งหลังจากที่เรามีโอกาสไปสัมผัสเมืองนี้มา 6 วัน 5 คืนเต็มๆ ต้องบอกเลยว่าเมืองนี้มีดีกว่าที่หลายคนคิดมากๆ เพราะเป็นเมืองที่มีความลงตัวทั้งด้านอาหารการกินที่อร่อย ที่เที่ยวที่หลากหลายไม่ว่าจะแนวธรรมชาติ แหล่งช็อปปิ้ง สวนสนุก จนไปถึงวัด ที่สำคัญในเรื่องของการคมนาคมภายในเมืองนั้นก็สะดวกสุดๆ ด้วยรถเซี่ยงไฮ้เมโทร (Shanghai Metro) ที่ครอบคลุมแทบจะทั้งเมือง และปิดท้ายด้วยเรื่องที่ทุกคนต้องชอบนั่นก็คือ “ตั๋วเครื่องบินราคาไม่แรง และใช้เวลาเดินทางจากไทยประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น”
Sat, 24 May 2025
Spring Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (PVG)
เริ่มจาก THB 2,976.89
Mon, 12 May 2025
Air Macau
กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (PVG)
เริ่มจาก THB 3,245.09
Thu, 1 May 2025
China Eastern Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (PVG)
เริ่มจาก THB 3,310.99
บอกแล้วว่าเซี่ยงไฮ้น่ะ น่าเที่ยว น่าสนใจกว่าที่เราคิดเยอะ และเมื่อนำมาประกอบกับเวลาในการเดินทางที่ไม่นาน รวมถึงการที่หลายๆ สายการบินมีไฟล์ทการเดินทางที่ตอบโจทย์คนทำงานอย่างบินดึกถึงเช้า ก็ทำให้เราสามารถลางานเพียงแค่ 1-2 วัน ก็สามารถเที่ยวเมืองนี้ได้อย่างเต็มอิ่มแล้ว
ก่อนที่เราจะเริ่มเก็บกระเป๋าเดินทางแล้วไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้กัน มี 2 เรื่องที่ทุกคนควรรู้ ดังนี้
ตอนนี้เราก็รู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเซี่ยงไฮ้ไปแล้ว ทีนี้เรามาดูแผนเที่ยวเซี่ยงไฮ้ของเราใน 72 ชั่วโมงกันดีกว่า โดยจะแบ่งโปรแกรมการเที่ยวออกเป็น 3 วันดังนี้
วันที่ 1: Jing’an Temple – Tianzifang - Yuyuan Garden– The Bund – Nanjing Road
สำหรับโปรแกรมวันแรกนี้ จะเหมาะมากสำหรับผู้ที่สามารถหาสายการบินที่ไปถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ได้ไม่เกิน 7.00 น. เพราะหลังจากที่เราผ่านการตรวจคนเข้าเมือง เดินทางไปเก็บกระเป๋าที่โรงแรม เราก็จะสามารถเริ่มเที่ยวได้ตั้งแต่ 11.00 น. โดยสถานที่แห่งแรกที่จะพาทุกคนไปก็คือ วัดจิ้งอัน (Jing’an Temple) วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองเซี่ยงไฮ้มากว่า 800 ปีแล้ว
วัดจิ้งอัน ถือเป็นวัดที่ชาวเซี่ยงไฮ้นิยมกันมาสักการะบูชากันเป็นอย่างมาก โดยภายในวัดจะมีอาคารที่สวยงาม รวมทั้งสิ่งศักสิทธิ์ให้เรากราบไหว้บูชาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอีก 2 อย่างที่คนที่มาวัดแห่งนี้นิยมทำก็คือการโยนเหรียญเข้าไปในเจดีย์ธูปที่อยู่บริเวณกลางลาน และการแตะหยกชิ้นใหญ่ Lucky Jade Stone เพื่อขอพร โดยหยก Lucky Jade Stone นี้ ดูเผินๆ จะมีลักษณะเหมือนก้อนหิน ดังนั้นหากใครสนใจอยากจะไปขอพรก็ต้องสังเกตบริเวณทางซ้ายมือของลานที่อยู่ด้านหน้าหอกลางให้ดีๆ จะได้ไม่พลาดโอกาสนี้ไป
การเดินทาง: Metro line สาย 2 หรือ สาย 7 ลงสถานี Jing'an Temple จากนั้นเดินขึ้นมาจากสถานีก็จะเจอวัด
ค่าเข้า: 50 หยวน/คน
เวลาเปิด-ปิด: 07.30 – 17.00 น.
ระยะเวลาการเที่ยวที่เหมาะสม: 1 ชั่วโมง
ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยเสร็จแล้ว แถมนาฬิกาก็บอกเวลาเที่ยงๆ พอดี ดังนั้นจุดหมายต่อไปของเราก็คือแหล่งชอปปิ้งที่มีทั้งของกินและของน่าซื้ออย่าง Tianzifang (เถียนจีฝาง) โดยที่นี่คืออีกหนึ่งสถานที่ที่คนชอบช็อปปิ้งของ local ที่ไม่ใช่สินค้าแบรนด์เนมน่าจะถูกอกถูกใจ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยร้านสวยๆ สไตล์จีนที่ผสมผสานกับความเป็นยุโรปได้อย่างลงตัว แถมยังมีตรอกซอกซอยให้เราเดินสำรวจเยอะแยะเหลือเกิน ส่วนประเภทสินค้านั้นก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า ของที่ระลึก น้ำหอม ขนมโบราณ อาหาร และอื่นๆ บอกเลยว่าถ้าใครไปที่นี่ ต้องเตรียมขาและเงินไปให้พร้อม
การเดินทาง: นั่ง Metro สาย 9 มาที่สถานี Dapuqiaoจากนั้นออกที่ทางออกหมายเลข 1
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด: 10.00 – 21.00 น.
ระยะเวลาการเที่ยวที่เหมาะสม: 2-3 ชั่วโมง
และสำหรับคนที่ยังช็อปปิ้งไม่หนำใจ ขอแนะนำที่นี่ต่อเลยกับ Yuyuan Garden(สวนอวี้หยวน) และ Yuyuan Garden Market (ตลาดอวี้หยวน) โดยทั้งสองสถานที่นี้จะอยู่ในบริเวณเดียวกัน และเราจะต้องเดินผ่านตลาดอวี้หยวนที่มีของขายมากมายก่อน จึงจะเจอทางเข้าสวนอวี้หยวน ใครที่หิวหรืออยากจะหาซื้อของฝากอะไรเพิ่มเติมก็ลองเดินเลือกซื้อของกันก่อนที่จะเข้าไปในสวนได้
และหลังจากที่เราเดินมาถึงสถานที่ในภาพด้านบนแล้ว เราก็จะเจอกับทางเข้าสวนอวี้หยวนที่เป็นสวนไสตล์จีนที่มีความงดงามมาก โดยเฉพาะอาคารต่างๆ ที่แม้จะมีอายุมากกว่า 400 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีความสมบูรณ์อยู่ โดยภายในสวนแห่งนี้จะมีจุดถ่ายรูปสวยๆ อยู่เยอะแยะ รวมทั้งยังมีพื้นที่กว้างขวางให้เราเดินเล่นหรือนั่งพักผ่อนได้อย่างสบายๆ
การเดินทาง: Metro line สาย 10 ลงสถานี Yuyuan Garden จากนั้นเดินตามป้ายไปอีกประมาณ 600 เมตร
ค่าเข้า: สวนอวี้หยวน 40 หยวน ส่วนบริเวณตลาดไม่เสียค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด: สวนอวี้หยวน 8.30 – 17.15 น. (เวลาปิดขายตั๋ว 16.45 น.)
ระยะเวลาการเที่ยวที่เหมาะสม: 2-3 ชั่วโมง
เดินเที่ยวสวนและพักผ่อนกำลังขาได้ซักพัก ตอนนี้ก็ใกล้ได้เวลาที่พระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าพอดี ดังนั้นสถานที่ต่อไปที่จะพาทุกคนไปนั่นก็คือ Waitan (ไว่ทาน) หรือ The Bund โดยสถานที่นี้น่าจะเป็นสถานที่ที่คนไทยหลายคนรู้จักกันดี เพราะเป็นสถานที่ที่เคยถ่ายทำภาพยนต์เรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
สำหรับ Waitan หรือ The Bund นั้นถือเป็นสถานที่ที่อยู่ไม่ห่างจาก Yuyuan Garden มากนัก เรียกว่าเราสามารถเดินจาก Yuyuan Garden มาได้โดยที่นี่แนะนำเลยว่าทุกคนควรหาเวลาในช่วงเย็นๆ มาเดินเล่นที่บริเวณถนนเลียบแม่น้ำเพื่อชมบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตก รวมไปถึงแสงสีที่สวยงามจากตึกฝั่งตรงข้ามที่เป็นเขตเมืองใหม่ บอกเลยว่าใครที่ไปกับแฟนหรือคนรักนี่ มันจะเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่แสนโรแมนติคของทริปนี้
การเดินทาง: Metro line สาย 2 หรือสาย 10 ลงสถานี East Nanjing Road จากนั้นเดินต่ออีก 600 เมตร
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มีเวลาเปิดปิด แต่ไฟของตึกต่างๆ รวมทั้งไฟของหอไข่มุกจะเปิดหลัง 18.00 น. หรือ 19.00 น. แล้วแต่ฤดู (ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว ท้องฟ้ามืดเร็วก็จะเปิดไฟเร็วหน่อย)
ระยะเวลาการเที่ยวที่เหมาะสม: 1-2 ชั่วโมง
หลังจากที่เดินชมความงามของตึกในเมืองเซี่ยงไฮ้ในยามค่ำคืนกันเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าทุกคนตอนนี้ก็น่าจะเหนื่อยและเมื่อยขามากแน่ๆ แต่ด้วยความที่ Waitan นั้นอยู่ใกล้กับถนนนานจิง (Nanjing Road) ซึ่งเป็นถนนที่มีความคึกคักสุดๆ ของเมืองเซี่ยงไฮ้ ดังนั้น จะพาทุกคนไปเที่ยวต่อที่สถานที่แห่งนี้ โดยขอให้ทุกคนแข็งใจเดินจาก Waitan ไม่เกิน 10 นาที แล้วคุณจะพบกับแสงสี ความคึกคัก ร้านอาหาร ร้านค้า ที่ละลานตาเต็มสองข้างถนน รับรองว่าเมื่อคุณเดินไปถึงแล้ว คุณจะลืมความเมื่อยไปจนหมดสิ้น และรู้สึกสนุกสนานกับการซื้อของรวมทั้งของกินอร่อยๆ แทน
การเดินทาง: Metro line สาย 2 หรือสาย 10 ลงสถานี East Nanjing Road เมื่อขึ้นจากสถานีก็ถึง
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มีเวลาเปิดปิด แต่ช่วงที่คึกคักสุดๆ คือช่วง 12.00 – 21.00 น.
ระยะเวลาการเที่ยวที่เหมาะสม: 2-3 ชั่วโมง
ตอนนี้ก็ตะลุยเที่ยวเซี่ยงไฮ้ในวันแรกจบกันไปเรียบร้อยแล้ว โดยโปรแกรมวันถัดไปนั้นจะเป็นการเที่ยวสถานที่แห่งเดียวแบบเต็มๆ วัน ซึ่งสถานที่นั้นก็คือ “Shanghai Disneyland” นั่นเอง
วันที่ 2: Shanghai Disneyland
ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า หลายๆ คนรู้จักเซี่ยงไฮ้ หรืออยากจะมาเซี่ยงไฮ้ก็เพราะสวนสนุกแห่งนี้ สวนสนุกระดับโลกที่ทุกเพศทุกวัยต่างก็รู้จัก ที่สำคัญ Shanghai Disneyland นี้ ยังเป็น Disneyland ที่ใหม่ที่สุด เทคโนโลยีต่างๆ ก็ทันสมัยตระการตามากๆ แถมพื้นที่ของสวนสนุกแห่งนี้ยังกว้างเป็นอันดับ 2 จากสวนสนุก Disneyland ทั้ง 6 แห่งทั่วโลกอีกด้วย
สำหรับที่นี่ คงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก แนะนำเลยว่าใครที่ชอบเที่ยวสวนสนุก ชอบความเป็นดิสนีย์ ไม่ควรพลาดเด็ดขาด เครื่องเล่นต่างๆ แม้จะไม่หวาดเสียวแบบที่เราต้องร้องกรี้ดจนสุดเสียง แต่มันก็อลังการงานสร้าง และตระการตาสุดๆ แบบที่หาดูที่อื่นไม่ได้
และด้วยความที่สวนสนุกแห่งนี้มันใหญ่และอลังการงานสร้างมากๆ ดังนั้น ว่าแค่ภาพถ่ายอย่างเดียวคงสื่อถึงความน่าไปของสถานที่นี้ได้ไม่หมด
การเดินทาง: นั่ง Metro สาย 11 มาที่สถานี Disneyเมื่อเดินออกจากสถานีก็ถึง
ค่าเข้า: วันธรรมดา 370 หยวน/คน วันหยุด 499 หยวน/คน โดยเราไม่สามารถนำขาตั้งกล้องเข้าไปได้
เวลาเปิด-ปิด: วันธรรมดา 9.00 – 20.00 น. วันหยุด 8.00-21.00 น.
ระยะเวลาการเที่ยวที่เหมาะสม: 1 วัน
และตอนนี้เราก็จบการเที่ยวเซี่ยงไฮ้ในวันที่สองแล้ว ซึ่งต้องบอกว่าสองวันที่ผ่านมา ได้พาทุกคนเที่ยวจนดึกดื่นทุกคืน ดังนั้นโปรแกรมในวันที่ 3 จึงเป็นโปรแกรมง่ายๆ สามารถตื่นสายได้ และเน้นที่การเดินซื้อของ กับชมวิวเป็นหลัก
วันที่ 3: Nanjing Road – Xintiandi - ตึก Shanghai World Financial Center
โปรแกรมในวันนี้จะเหมาะมากสำหรับผู้ที่พักอยู่แถว Nanjing Road และ People Square ซึ่งแนะนำว่าใครที่ไปเซี่ยงไฮ้ครั้งแรก ควรเลือกหาที่พักแถวนี้จะดีที่สุด เพราะเป็นโซนที่อยู่ใจกลางเมือง เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก แถมยังใกล้แหล่งช็อปปิ้งกับมีของกินให้เราตะลุยชิมเยอะแยะ โดยที่พัก คือ Jinjiang Inn – Nanjing East Road Pedestrian Street ใครสนใจก็ลองไปส่องทำเลกับราคาดูได้ว่ารับกับราคาและลักษณะห้องได้หรือเปล่า
สำหรับภาพด้านล่างนั้น จะเป็นภาพบรรยากาศของถนนนานจิงในช่วงเช้าๆ ผู้คนจะยังน้อยๆ อยู่ ทำให้เราสามารถเดินถ่ายรูปกับตึกสวยๆ ทั้งสไตล์ยุโรปและสไตล์โมเดิร์นที่อยู่สองข้างทางของถนนนี้ได้สบายๆ เห็นภาพบรรยากาศแบบนี้แล้วเริ่มอยากพักแถวๆ นี้
การเดินทาง: Metro line สาย 2 หรือสาย 10 ลงสถานี East Nanjing Road เมื่อขึ้นจากสถานีก็ถึง
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มีเวลาเปิดปิด แต่ช่วงที่คึกคักสุดๆ คือช่วง 12.00 – 21.00 น.
ระยะเวลาการเที่ยวที่เหมาะสม: 2-3 ชั่วโมง
เดินเล่นกันที่ถนนนานจิงกันเสร็จแล้ว ก็น่าจะได้เวลาเที่ยงๆ พอดี คราวนี้เลยจะพาทุกคนไปทานข้าวในสถานที่ที่โรแมนติคและสวยงามแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ นั่นก็คือที่ Xintiandi (ซินเทียนตี้) โดยที่นี่นั้นเหมาะแก่การถ่ายรูปและพาแฟนมาเดินเล่นมากกกกกก เพราะเป็นที่ที่มีห้างหรู ตึกสวย รวมทั้งร้านอาหารเก๋ๆ อยู่มากมาย โดยที่นี่จะมีการแบ่งออกเป็น 2 บล็อค ได้แก่ North Block และ South Block ซึ่งเราไม่ต้องกังวล ว่าจะหลงหรือหาร้านที่เราอยากกินไม่เจอเพราะที่บริเวณทางเข้าแต่ละด้านเค้าจะมีแผนที่แจกฟรี
การเดินทาง: Metro line สาย 10 หรือสาย 13 ลงสถานี Xintiandi ทางออก 6 จากนั้นเดินตาม Google Map ไปเรื่อยๆ ประมาณ 200-300 เมตร
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด: 11.00-22.00 น.
ระยะเวลาการเที่ยวที่เหมาะสม: 1-2 ชั่วโมง
ถึงตอนนี้ก็น่าจะเป็นเวลาบ่ายคล้อยใกล้ช่วงเย็นแล้ว และตลอดโปรแกรมที่ผ่านมา ก็ยังไม่ได้พาทุกคนขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมืองเซี่ยงไฮ้ ดังนั้นที่เที่ยวสุดท้ายในทริป “เที่ยวเซี่ยงไฮ้ใน 72 ชั่วโมง” ก็เลยจะเป็นการขึ้นตึก Shanghai World Financial Center เพื่อไปชมความสวยงามของเมืองแห่งนี้
สำหรับการชมวิวเมืองเซี่ยงไฮ้ในมุมสูงนั้น โดยปกติแล้ว 2 ตึกที่คนนิยมไปกันมากๆ ก็คือหอไข่มุก และก็ตึก Shanghai World Financial Center ซึ่งถ้าใครมีเวลาเหลือและชอบชมวิวมุมสูงก็สามารถวางแผนขึ้นทั้ง 2 ตึกเลยก็ได้ แต่ถ้าใครมีเวลาจำกัด แนะนำให้ทุกคนไปที่ตึกหลังมากกว่าเพราะเราจะสามารถมองเห็นหอไข่มุกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ได้ด้วย
สำหรับการเดินทางมายังตึก Shanghai World Financial Center นั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่เรานั่งรถ Metro สาย 2 มาลงที่สถานี Lujiazui จากนั้นก็มองหาตึกสูงๆที่หน้าตาเหมือนที่เปิดขวดแล้วก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ จนถึงจุดซื้อบัตรที่อยู่ชั้นล่างของตึก เมื่อซื้อบัตรเสร็จแล้วก็สามารถขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นบนเพื่อชมวิวได้ โดยเค้าจะมีการจำหน่ายบัตรเข้าชมตึกหลายแบบหลายราคามาก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วๆ ไปนั้น แนะนำว่าให้เลือกบัตร 3 ชั้นที่ประกอบไปด้วยชั้น 94, 97 และ 100 ในราคา 180 หยวน/คน จะดีที่สุด ส่วนระหว่างทางที่เดินมาที่ตึกนั้น หากใครจะแวะไปถ่ายรูปกับหอไข่มุกก่อนก็ได้ เพราะหอไข่มุกนั้นจะอยู่ใกล้สถานี Lujiazui มาก และไหนๆ ก็มาถึงเซี่ยงไฮ้ทั้งทีแล้วเราก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชมสัญลักษณ์ของเมืองนี้กัน
ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขึ้นตึก Shanghai World Financial Center นั้น คิดว่าเราควรไปต่อแถวซื้อบัตรตั้งแต่ช่วงเวลา 16.00 น. เพราะบางวันคิวซื้อบัตรจะยาวมาก นอกจากนี้ถ้าเราขึ้นตึกไปในช่วงกลางวันที่ยังมีแสงอาทิตย์อยู่ เราก็จะได้เห็นวิวเมืองเซี่ยงไฮ้กับแม่น้ำหวงผู่ที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ได้มองพื้นชั้น 1 ผ่านช่องกระจกอย่างชัดๆ แล้วก็ยังได้เห็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้ากับแสงสีที่สวยงามในช่วงกลางคืนของเมืองนี้ด้วย เรียกว่าขึ้นไปครั้งเดียว จ่ายเงินทีเดียว อยู่ยาวๆ เห็นวิวจนคุ้ม ถ่ายรูปจนเม็มเต็ม
การเดินทาง: นั่ง Metro สาย 2 มาที่สถานี Lujiazuiจากนั้นออกที่ทางออกหมายเลข 1
ค่าเข้า: 180 หยวน/คน สำหรับการเข้าชมชั้น 94, 97 และชั้น 100 โดยสามารถนำขาตั้งกล้องขึ้นไปถ่ายรูปได้
เวลาเปิด-ปิด:08.00 – 23.00 น. โดยจะปิดการจำหน่ายบัตรตอน 22.00 น. และไฟของหอไข่มุกจะเปิดหลัง 18.00 น. หรือ 19.00 น. แล้วแต่ฤดู (ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว ท้องฟ้ามืดเร็วก็จะเปิดไฟเร็วหน่อย)
ระยะเวลาการเที่ยวที่เหมาะสม: 2-3 ชั่วโมง
และทั้งหมดนี้ก็คือโปรแกรมการตะลุยเที่ยวเซี่ยงไฮ้ใน 72 ชั่วโมง ซึ่งรับรองเลยว่ามันเป็นการเที่ยวที่เต็มอิ่ม สนุกสุดๆ และสามารถเก็บสถานที่เที่ยวไฮไลท์ของเมืองนี้ได้เกินครึ่งเลย บอกเลยว่าถ้าใครได้ไปตามรูทนี้น่าจะชอบเมืองนี้เหมือนกัน