จะเป็นฤดูร้อน ฝน หรือหนาว เชียงใหม่ก็ยังคงเป็นพิกัดที่เราทุกคนปักหมุดมุ่งหน้าไปเมื่อมีวันหยุดสั้นๆ ให้พักผ่อนกัน การไปเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืนนั้น จึงเรียกได้ว่าเป็นแพลนเที่ยวสุดคลาสสิกยอดฮิตของทุกคนเลยเชียวละ วันนี้เราเลยขอนำเสนอที่เที่ยวเชียงใหม่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพิกัดที่ยังไม่ค่อยช้ำ เผื่อใครกำลังวางแผนเที่ยวอยู่พอดี จะได้หยิบเอาแพลนนี้ไปเป็นไกด์ไลน์ จะไปเที่ยวเชียงใหม่ในปี 2022 นี้ก็ได้ หรือจะเก็บไว้ไปชิลล์กันในปี 2023 ก็ดี ที่สำคัญ อย่าลืมจองตั๋วเครื่องบินเชียงใหม่กับ Traveloka Travel & Lifestyle app เพราะจะได้ตั๋วราคาดี เหลือเงินเอาไว้เที่ยวแบบแฮปปี้ในสไตล์ #lifeyourway ของคุณได้แบบสบายๆ ไง!
จากตัวเมืองเชียงใหม่ พิกัดแรกขอพาไปออกสตาร์ทกันที่ วัดบ้านเด่น ซึ่งเป็นวัดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมงดงามในกลิ่นอายล้านนา เริ่มจากพระวิหารซึ่งด้านในประดิษฐานองค์พระเจ้าทันใจสีทองอร่าม ด้านหน้าบันไดมีประติมากรรมรูปนกหัสดีลิงค์ที่งดงามแปลกตา นอกจากนั้นยังมีพระมหาเจดีย์นักษัตร 12 ราศี และพระธาตุประจำปีเกิดทั้ง 12 ราศี ภายในวัดยังมีมุมสวยๆ ซึ่งประดับด้วยรูปปั้นสัตว์ในป่าหิมพานต์อีกมากมาย เป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ที่มีพิกัดให้คนชอบถ่ายรูปได้แชะกันเพียบเลยจ้า ส่วนคนที่เป็นสายบุญก็รับรองว่าได้ไหว้พระกันจนจุใจแน่นอน
วัน - เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 7.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
จากวัดบ้านเด่นมาแค่ประมาณ 15 นาที ก็จะถึง เขื่อนแม่งัด ซึ่งเป็นพิกัดที่เที่ยวเชียงใหม่ที่สายชิลล์ไม่ควรพลาด เพราะที่เขื่อนนี้เค้ามีทั้งร้านอาหารและที่พักแบบเรือนแพให้บริการด้วยนะ สายชิลล์คนไหนมองหาที่เที่ยวเชียงใหม่ปลายปี 2022 ที่ไม่ใช่ภูเขาอยู่พอดี บอกเลยว่าที่นี่น่าสนใจจ้ะ ถ้าไม่ได้เข้าพัก ก็แวะมานั่งกินข้าวชมวิวเขื่อนสวยๆ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ กันได้อยู่น้า อาหารเด็ดๆ ที่นี่ส่วนใหญ่ก็เน้นไปที่เมนูปลาสดๆ จากในเขื่อนนั่นละจ้ะ กินไปดูวิวไปบอกได้ว่าเพลินสุดๆ เชียวละ ลองแวะมาชิลล์กันเน้อ
วัน - เวลาเปิดปิด: 8.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม: คนละ 20 บาท / รถยนต์คันละ 30 บาท
อิ่มอร่อยกับวิวชิลล์ๆ กันเสร็จสรรพ ก็ได้เวลาขับรถมุ่งหน้าไปยัง ดอยค้ำฟ้า ซึ่งเป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ที่หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก การขึ้นไปยังยอดดอยนี้ต้องใช้บริการรถรับ - ส่งของเจ้าหน้าที่หน่วยจัดการต้นน้ำขุนคองนะ ระยะทางขึ้นก็ประมาณ 8 กิโลเมตร ด้านบนมีบ้านพักและจุดกางเต็นท์ให้บริการ แต่รับนักท่องเที่ยวได้วันละประมาณ 50 คนเท่านั้นจ้า ที่สำคัญคือไม่มีอาหารและน้ำดื่มให้น้า ต้องขนขึ้นไปเองจ้ะ ส่วนไฟฟ้าก็มีให้ใช้แค่บางเวลา แม้จะไม่ได้เป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ที่สะดวกสบาย แต่รับรองได้ว่าทิวทัศน์ด้านบนที่จะได้เห็นน่ะคุ้มค่า ใครชอบเที่ยวแบบลุยๆ หน่อยนะ เชื่อว่าถูกใจแน่นอน
วัน - เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม: ฟรี / ค่ารถรับ - ส่ง พร้อมพาชมดอย คนละ 300 บาท / ค่าบ้านพัก คนละ 300 บาทต่อคืน / ค่าเช่าเต็นท์พร้อมเครื่องนอน คนละ 250 บาทต่อคืน (จองล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน)
ลงจากดอยมา ก็ได้เวลาออกเดินทางไปยัง ไร่ชาลุงเดช ซึ่งเป็นอีกที่เที่ยวเชียงใหม่ที่เหมาะกับการไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ในยามเช้าแบบสุดๆ เลยละ ที่นี่เป็นไร่ชาซึ่งปลูกไล่เรียงเป็นขั้นบันได รายล้อมด้วยสีเขียวของต้นไม้และภูเขารอบด้าน แม้จะไม่ได้เป็นไร่ขนาดกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา แต่ที่นี่ก็เหมาะจะมาถ่ายรูปเล่นกันนะ ที่เริ่ดก็คือเค้ามีร้านอาหารให้บริการด้วยจ้า แวะมานั่งชมวิวพร้อมหาของอร่อยรองท้องกันท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ อิ่มแล้วสั่งเค้กมานั่งกินกับชาหอมๆ เป็นการปิดท้ายก็ฟินสุดๆ เชียวละ ที่นี่เปิดเป็นที่พักและมีจุดกางเต็นท์ด้วยนะ ใครสนใจปักหมุดมาเลย
วัน - เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง / ร้านอาหารเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 7.30 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
เต็มอิ่มกับบรรยากาศชิลล์ๆ กันจนจุใจ ก็ได้เวลาออกเดินทางไปยัง ถ้ำหลวงแม่สาบ ใช้เวลาขับรถจากไร่ชามาประมาณ 2 ชั่วโมงจ้า ถ้ำนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติขุนขาน ซึ่งเป็นอุทยานฯ เล็กๆ ซึ่งถูกรายล้อมไปด้วยขุนเขา แม้จะเป็นถ้ำขนาดกลางที่มีความลึกประมาณ 150 เมตรเท่านั้น แต่ไฮไลท์ของที่เที่ยวเชียงใหม่แห่งนี้คือการมีผนังถ้ำโถงหนึ่งเป็นชั้นๆ หลากสีแลดูสวยแปลกตา หลายคนจึงเรียกที่นี่ว่า ‘ถ้ำสีรุ้ง’ อีกชื่อหนึ่งจ้า ใครมีแพลนไปเที่ยวเชียงใหม่ปลายปี 2022 นี้ ลองแวะไปเช็คอินที่นี่ดูนะ เชื่อว่าสายแอดเวนเจอร์น่าจะถูกใจ
วัน - เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 8.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม: คนละ 20 บาท
ขับรถต่อมาอีกไม่ถึง 10 กิโลเมตร ก็จะมาถึง ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง ซึ่งเป็นที่เที่ยวเชียงใหม่พิกัดต่อไปจ้า ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือการมาถ่ายรูปเช็คอินกันท่ามกลางทุ่งข้าวสาลีหรือข้าวบาเล่ย์แสนสวยหลากหลายสายพันธุ์ ช่วงพีคๆ ที่ทุ่งข้าวสาลีจะสวยสุดๆ นั้นอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคมน้า มาช่วงบ่ายๆ จะได้รูปถ่ายที่แสงสวยกว่าช่วงอื่นของวันเลยละ ใครมาไม่ตรงช่วงทุ่งข้าวสาลี ก็จะมีทุ่งปอเทืองสีเหลืองสวยให้ชมกันแทนนะ สวยทั้งสองแบบเลยจ้า เป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ซึ่งคนชอบถ่ายรูปไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง
วัน - เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
ก่อนกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ขอพาไปแวะปิดท้ายชมแสงสวยๆ ของวันกันที่ อ่างเก็บน้ำห้วยลาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่ซึ่งเหมาะกับการมาพักผ่อนแบบชิลล์ๆ กันนะ ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามสบายตาของผืนน้ำกว้างและภูเขาเขียวขจี ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งพิกัดยอดฮิตของที่เที่ยวเชียงใหม่ 2022 เลยเชียวละ จะแวะมานั่งชิลล์ชมวิวสวยช่วงพระอาทิตย์ตกก็ได้ ใครเป็นสายแค้มปิ้งจะมากางเต็นท์ก็สบายเชียวนะ ใกล้ๆ กันยังมีร้านอาหารและร้านค้าสวัสดิการเปิดให้แวะหาของอร่อยรองท้องกันได้ด้วยจ้า เดินทางง่ายแถมบรรยากาศดีสุดๆ เชียวละ เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่ไม่อยากให้พลาดเลย
วัน - เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 7.00 - 20.00 น.
ค่าเข้าชม: คนละ 20 บาท
ปิดท้ายวันที่สองของทริปเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืนทริปนี้ กันที่ ถนนคนเดินเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เที่ยวเชียงใหม่ซึ่งไม่ควรพลาด ถ้าไปช่วงวันอาทิตย์ต้องไปแวะช้อปแวะชิมกันที่ถนนคนเดินท่าแพ ซึ่งนับเป็นถนนคนเดินที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของเชียงใหม่เค้าเลยละ ที่นี่มีทุกสิ่งให้เลือกซื้อหา ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ และของที่ระลึกอีกมากมาย ส่วนถ้ามาเชียงใหม่ในวันเสาร์ แนะนำให้ไปชิลล์กันที่ถนนคนเดินวัวลายเลยจ้า ที่นี่จะฟีลคล้ายๆ กับที่ท่าแพ เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ของดีของเด็ดของถนนวัวลายก็ต้องยกให้พวกเครื่องเงินทั้งหลายเลยนะ เลือกมาตามวันและเวลาที่สะดวกเลย
วัน - เวลาเปิดปิด: ถนนคนเดินท่าแพ ทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 - 22.00 น. / ถนนคนเดินวัวลาย ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 - 22.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
พิกัด: ถนนคนเดินท่าแพ https://goo.gl/maps/ypb6hfDfhFajozXd7
ถนนคนเดินวัวลาย https://goo.gl/maps/JVMXKhwZAf8oc16z6
ออกสตาร์ทกันตั้งแต่ช่วงเช้า กับการไปชมความสวยของทุ่งไฮเดรนเยียใน ขุนแปะ ซึ่งที่นี่มีทุ่งไฮเดรนเยียของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะที่กินพื้นที่ขนาดกว้างกว่า 200 ไร่ และจะมีดอกไฮเดรนเยียสารพัดสีบานสะพรั่งให้ชมกันแบบเต็มตาในช่วงเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ ของทุกปี แต่ถ้าใครมาในช่วงอื่น ที่นี่ก็มีทุ่งนาขั้นบันไดและไร่พืชผักผลไม้เมืองหนาวให้ชม ชิม ช้อปกันได้ตลอดเลยนะ ในละแวกเดียวกันยังมีทุ่งไฮเดรนเยียของชาวบ้านให้เข้าไปชมกันได้หลายแห่งเชียวละ เลือกไปเช็คอินกันได้ตามใจอยากเลยจ้า รับรองว่าเป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ซึ่งสวยได้ใจทุกจุดแน่นอน
วัน - เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 6.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม: คนละ 30 บาท / ค่าบริการรถรับ - ส่ง จากจุดจอดรถขึ้นไปยังทุ่งดอกไม้ คันละ 500 บาท
จากทุ่งดอกไม้ ที่เที่ยวเชียงใหม่พิกัดต่อมาก็คือการแวะขอพรไหว้พระกันที่ วัดพระธาตุดอยคำ วัดเก่าแก่ซึ่งมีอายุกว่า 1,300 ปี ด้านในมีองค์พระธาตุดอยคำซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรจุอยู่ นอกจากนั้นยังมีองค์พระเจ้าทันใจ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และมีผู้คนนิยมมากราบสักการะขอพรกันตลอดเวลา ว่ากันว่าหลายคนมีโชคใหญ่จากการมาขอพรท่านด้วยนะ รอบๆ วัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายให้กราบสักการะกันด้วยจ้า เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่ซึ่งอยากชวนให้แวะมาเช็คอินกัน
วัน - เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 6.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
พิกัดต่อมา ก็ได้เวลามาเดินเล่นกันชิลล์ๆ ที่ คลองแม่ข่า ซึ่งเป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ที่หลายคนขนานนามว่าเป็นคลองโอตารุของเมืองไทยเลยละ คลองเล็กๆ ความยาวประมาณ 750 เมตรแห่ง นี้ได้รับการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามสะอาดตา โดยบรรดาผู้ที่อยู่อาศัยริมคลองส่วนใหญ่ต่างก็ร่วมมือร่วมใจกันปรับปรุงบ้านเรือนให้น่ารักเข้ากับบรรยากาศ แล้วเปิดเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายของหลากหลายรูปแบบเลยจ้า บรรยากาศก็ชิลล์มาเดินเล่นก็เพลินให้ฟีลคล้ายๆ กับคลองโอตารุในฮอกไกโดอยู่เหมือนกันนะ จะเจ๋งแค่ไหนลองแวะมาด้วยตัวเองเลย
วัน - เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 - 22.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
ไม่ถึง 3 กิโลเมตรจากคลองแม่ข่า ก็จะมาถึง ถนนช้างม่อย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่ที่เหมาะจะมาช้อปปิ้งกันจ้ะ แม้จะไม่ได้มีร้านรวงมากมายหลายสิบร้านให้เดินซื้อหา แต่สำหรับคนชอบงานฝีมือท้องถิ่นโดยเฉพาะบรรดากระเป๋าและเครื่องจักสานทั้งหลาย รับรองได้ว่าฟินสุดๆ แน่นอนเชียวละ ที่นี่มีชิ้นงานสารพัดรูปแบบไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสะพาย ตะกร้า เสื่อ หมวก และของใช้อีกหลากหลายให้ช้อปติดมือกลับบ้านกันไปนะ รับประกันว่ามีชิ้นงานที่เหมาะกันกับทุกเพศทุกวัยเลยจ้า เป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ที่สายช้อปมาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
วัน - เวลาเปิดปิด: ร้านส่วนใหญ่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลาประมาณ 8.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
และทั้งหมดนี้คือตัวอย่างแพลนเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน ที่เราเอามาฝากกัน ใครมีแพลนเที่ยวเชียงใหม่ปลายปี 2022 หรือจะไปหลังจากนี้ ก็ลองเอาแพลนที่เราเอามาฝากไปลองปรับใช้ได้เลยน้า เชียงใหม่ยังมีที่เที่ยวเด็ดๆ ในหลากหลายสไตล์ให้แวะไปเช็คอินกันได้ตลอดเลยละ มีเวลาเมื่อไหร่ อย่าลืมไปจองตั๋วเครื่องบินเชียงใหม่กับ Traveloka Travel & Lifestyle app กันไว้นะ จะเป็นสายลุย สายชิลล์ สายหรู หรือสายกิน ก็ไปฟินที่เชียงใหม่ในสไตล์ #lifeyourway ได้เลยจ้า รับประกันเลยว่าแฮปปี้ทุกรายแน่นอน