ไปเหนือมาเกือบจะครบทั้งภาคและ แต่เรายังไม่เคยไปเชียงรายเลย
งงตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่ได้ไปเช็คอินจังหวัดนี้ซักที ได้แต่โฉบๆ
วันดีคืนดีเข้าเว็บ Traveloka เล่นๆ เห็นตั๋วเครื่องบินเชียงรายถูกมาก!
เลยโดนซักหน่อย และแล้วก็ได้ไปเที่ยวจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทยซักที
จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงราย กับ Traveloka
3 วัน 2 คืน ครั้งนี้ เราจะพาทุกคนไปเที่ยวเชียงรายด้วยพาหนะหลักตลอดทริปคือ
ม อ เ ต อ ร์ ไ ซ ค์ ! แว้นหนัก แว้นมั่ว แว้นทั่ว เชียงรายจริงๆ หลาย100โล
ขี่กันจนขาแทบหลุด แต่โคตรสนุกเลย! 555
และเมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าทริปนี้เราจะไม่เช่ารถยนต์ขับกัน
อยากจะลองแว้นไปเที่ยวไกลๆดูบ้าง เราเลยเซฟร่างกายด้วยการเดินทางจากกรุงเทพ
มาถึงเชียงรายด้วยเครื่องบิน! อย่างที่บอกไปว่าได้ตั๋วโคตรถูกจาก Traveloka มา
เซฟทั้งร่าง เซฟทั้งเงิน ชิลล์เลยยยยย~
เนื่องจากทริปนี้เราวางแผนทุกอย่างกะทันหันมากจริงๆ
หลอกเพื่อนไปได้อีก 2 คน แบบโนแพลน และโนเงิน 55555
ทำให้การไปเที่ยวแต่ละที่มันเลยดูงงๆ วนไปวนมาบ้าง
ใครที่อยากไปเที่ยวเชียงราย ในรูท “ภูชี้ฟ้า ดอยผาตั้ง ภูชี้ดาว”
แบบเราก็ลองลิสต์ที่ที่จะไปแล้ววางรูทใหม่ดีๆนะ อาจจะเซฟเวลาได้มากกว่าเราก็ได้ : )
-DAY1-
วัดร่องขุ่น-ร้านกาแฟบ้านไออุ่น-เดินทางไปภูชี้ฟ้า
หลังจากบินมาถึง ‘เชียงราย’ โจทย์แรกก็คือหามอเตอร์ไซค์เช่า
ด้วยความที่ขากลับเรานั่งรถทัวร์กลับ เราเลยไปหามอเตอร์ไซค์เช่าตรงที่ใกล้รถทัวร์มากสุด
เพื่อให้ตอนกลับเอารถมาคืนแล้วสะดวก ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล
ราคาเช่า 250-300 บาทแล้วแต่รุ่น (ไม่รวมน้ำมัน)
ได้รถแล้ว กินข้าวเติมพลังแล้ว ที่แรกที่เราจะไปเช็คอินคือ ‘วัดร่องขุ่น’
Signature สำคัญของจังหวัดเชียงราย ที่ถ้าใครไม่มาถือว่าไม่ถึงได้เลย 55555
ครั้งแรกที่เราเห็นเราอึ้งจริงๆนะ วัดสวยมากกกกกก
สถาปัตยกรรมสีขาวล้วน ที่อาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ตั้งใจถ่ายทอดออกมา
เราไม่แปลกใจเลยที่ต่างชาติจะชอบ เพราะคนไทยด้วยกันยังว้าวเลยอ่ะ
ท ร ง คุ ณ ค่ า จริงๆ ควรมาซักครั้งในชีวิตนะ
แม้คนจะเยอะ และแดดจะร้อนมากกกกก แต่เราก็ดีใจที่ได้มาเห็นที่นี่
ด้วยตาตัวเองซักครั้ง เพราะมันสวยมากจริงๆ
INFO:
วัดร่องขุ่น
ที่ตั้ง: ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย
เปิด: ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.
ราคา: คนไทยเข้าฟรี ชาวต่างชาติ 50 บาท
ข้อควรรู้: ห้ามถ่ายภาพข้างในพระอุโบสถ
หลังจากชื่นชมกับสถาปัตยกรรมที่โคตรว้าวเสร็จแล้ว
เราก็ตัดสินใจแว้นไปภูชี้ฟ้าทันที เพราะระยะทางไกลมากกกกกกกก
จากตัวเมืองเชียงราย – ภูชี้ฟ้า ระยะทาง 110 กิโล !
คือเป็นการแว้นที่ไกลสุดในชีวิตแล้ว แม้จะแค่ซ้อนเพื่อนยังโคตรเมื่อยอ่ะเอาจริง
ใครที่ขับมอเตอร์ไซค์ไม่แข็งเราไม่แนะนำนะ เพราะระยะทางมันไกลมาก
และมันจะมีระยะทางบางช่วงที่ขึ้นเขา ทางไม่ได้ขับยากอะไร
แต่ถ้าไม่แข็งก็เสี่ยงอยู่เหมือนกัน ประเมินตัวเองดีๆน้า : )
ขับมาซักพักก็รู้สึกว่า พักเหอะ ! 55555
เห็นร้านกาแฟข้างทางบรรยากาศดีมาก เลี้ยวเข้าทันที
‘ร้านกาแฟบ้านไออุ่น’ เป็นร้านที่อยู่ระหว่างทางไปภูชี้ฟ้า
ร้านน่ารักมากกกก แนะนำให้แวะนะ พักผ่อนสายตา พักผ่อนร่างกายด้วย
เราใช้เวลากับที่นี่ไปนานมาก ทั้งหาข้าวเที่ยงกินแถวนั้น
และก็แลกเปลี่ยนเรื่องราวดีๆกับคุณป้าเจ้าของร้าน
ร้านมีมุมถ่ายรูปเยอะมากกกกก
แม้ร้านจะไม่มีแอร์ แต่ก็ไม่ร้อนเลยนะ
เพราะร้านโปร่งโล่งมาก วิวสวยยยยยยยเห็นทุ่งนา
แถมโชคดีวันที่เราไปไม่มีแขกเลย เลยแถบจะเหมือนเหมาร้าน
นั่งเล่นถ่ายรูปกันทั่วร้านเลย
พักกันจนหายเหนื่อยแล้วก็พร้อมสู้ต่อ ไม่อยากไปถึงที่พักเย็นมาก
เพราะว่ากลัวมืดแล้วมันอันตราย เราเลยทำเวลานิดนึง รอแดดล่มลมตก
ก็เคลื่อนพลกันอีกครั้ง พร้อมบอกคุณป้าว่าขากลับถ้ามีโอกาสจะกลับมาทักทายอีกครั้ง : )
การเดินทางไปภูชี้ฟ้าไม่ยากเลย มีป้ายบอกตลอดทางไม่ต้องกลัวหลง
หรือเปิด GPS ไปด้วยก็ได้ แม่นเป๊ะ! ถึงแน่นอน ยังไงก็ถึง 5555555
คืนแรกเราพักที่ บ้านพักภูชี้ฟ้ารีสอร์ทสาขา 2 ขอตัดจบแบบนี้เลยละกันนะ 5555
เพราะเพลียมากจริงๆ แว้นจนขาตะคริวจะกิน TT
และพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปลุ้นวิวเด็ดๆข้างบน ขอพักเอาแรงก่อนนะ!
-DAY2-
ขึ้นภูชี้ฟ้า-กาแฟสดชมดอย-ดอยผาตั้ง
05:00 น.
ตื่นเช้าแบบชีวิตปกติไม่ตื่น 55555 เพราะกลัวว่าคนข้างบนจะเยอะ
และจะไม่มีมุมเจ๋งๆให้เราตั้งกล้อง เราเลยรีบไป
แว้นออกมาจากที่พักคือโคตรหนาววววววววว เตรียมเสื้อหนาวไปกันด้วยนะ
หนาวจริง สั่นเลยยยยย ขับมอเตอร์ไซค์โต้ลมที กรี้ดดดดดดแพ้บ 555555
และคนก็เยอะจริงๆนั่นแหละ คือเช้ายังไงก็แพ้คนอื่น 555555
และด้วยความที่เมื่อคืนฝนตก ใจคิดแล้วว่าหมอกแน่นแน่
แต่ฟ้าเสี่ยงจะไม่เปิด TT แถมทางขึ้นลื่นอีก!
เพื่อนเราลื่นจนต้องร้องไห้ 5555555 ลื่นไม่ไหวแล้ว
เพราะฉะนั้นคำแนะนำคือ หารองเท้ากันลื่นดีๆหน่อยนะ
ถ้าใครตัดสินใจจะไปหน้าฝนเหมือนกัน 555555
ระยะทางเดินขึ้นภูชี้ฟ้าถือว่าเบสิคมากกกก
ทางไกลประมาณ 700-800 เมตร ไม่ไกล โคตรชิลล์
อุปสรรคอย่างเดียวที่พบคือ ความลื่น นี่แหละ
ที่เหลือคือชิว ใครๆก็ขึ้นได้ ตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดง ถึง ผู้สูงอายุ (ที่ยังแข็งแรงนะ)
และฟ้าก็ไม่ค่อยจะเปิดจริงๆด้วย TT หมอกน้อย เมฆน้อยเลย
รอนานมากกกกกก จนฟ้าสว่างก็ยังไม่เหมือนที่คาดหวังไว้เท่าไหร่ 555
แต่ก็ไม่เสียใจนะ เพราะธรรมชาติมีเสน่ห์แบบนี้แหละ
เราถึงชอบ เพราะมันไม่ได้สวยเหมือนกันทุกๆวัน เราถึงอยากมาค้นหามันด้วยตัวเอง
มากกว่าดูแค่รูปที่ผ่านการแต่งมาอย่างสวยงามแล้วจากในรีวิวของคนอื่น : )
เต็มอิ่มกับบรรยากาศบนภูชี้ฟ้าแล้ว เราก็ขับมอเตอร์ไซค์ต่อตั้งใจไป ‘ดอยผาตั้ง’
ระยะทางจากภูชี้ฟ้า – ดอยผาตั้ง ประมาณ 30 กิโล
โจทย์เดียวที่เราตั้งไว้คือ เราอยากไปดูพระอาทิตย์ตกที่นั่น
เพราะฉะนั้นระหว่างทางเราก็ชมนกชมไม้ชิวๆไป แวะไปเรื่อยยยยย
ไม่ได้รีบร้อนอะไรมาก เน้นปลอดภัย
จนมาเจอร้านกาแฟร้านนึง ที่ตัดสินใจแวะทันทีที่เห็นเลย
‘กาแฟสดชมดอย’ เป็นร้านกาแฟที่น่ารักมาก ตอนที่เราไปร้านยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100%
เราถือเป็นลูกค้ากลุ่มแรกๆของร้านเลย และพี่เจ้าของร้านก็น่ารักมาก
ให้การต้อนรับดีมากจริงๆ พิมพ์ไปยังคิดถึงคุณพี่เจ้าของอยู่เลย
อยากกลับไปอีก ชาเขียวอร่อยมากด้วย! ห้ามพลาด : )
ที่นี่มีลานกางเต้นท์และก็มีที่พักด้วยนะ โคตรอยากกลับไปนอนเลย
บรรยากาศคือสุดจริงๆ แนะนำเลย อวยยยยยยยย
ขออนุญาตวาร์ปมาดอยผาตั้งเลย ถึงแล้ว!
ที่นี่เป็นสถานที่เช็คอินยอดฮิตอีกที่นึงที่ห้ามพลาดเลย
สวยมากกกกกกก ข้างบนจะมีจุดชมวิวหลายจุด ดังนี้
ช่องเขาขาด (ระยะทางประมาณ 400-450 เมตร)
จุดชมวิว 102 (ระยะทางประมาณ 500 เมตร)
จุดชมวิว 103 (ระยะทางประมาณ 900 เมตร)
สวยหมดทั้ง 3 จุด แนะนำเลย แล้วอากาศโคตรดี หมอกนี่แบบตีหน้าแน่นลื้ม!
ข้างบนจะสามารถมองเห็นวิว 2 ฝั่งทั้งฝั่งไทย และฝั่งลาว สวยจริง เด็ดสุด
สรุปคือวิวโคตรคุ้มค่ากับที่แว้นโต้ลมมา 5555
คืนนี้เรานอนที่ ร่มฟ้าสยามรีสอร์ท เป็นที่พักเชียงรายของชาวบ้านที่เรียบง่ายมาก
ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกับคนในพื้นที่ เป็นวันที่มีความสุขมากจริงๆ
ได้ดูชาวบ้านและเด็กๆใช้ชีวิตกัน รู้สึกความไร้เดียงสา และความธรรมชาติ
มันหาได้จากคนที่นี่จริงๆ อยากอยู่ไปนานๆเลย : )
-DAY3-
ภูชี้ดาว-กลับบ้านจ้า
วันสุดท้ายของทริปนี้เราตัดสินใจไป ‘ภูชี้ดาว’ สถานที่เปิดใหม่
คนยังรู้จักไม่เยอะมาก แต่ก็เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆแล้วในปัจจุบัน
ภูชี้ดาว อยู่ระหว่างภูชี้ฟ้าและดอยผาตั้ง (อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้า 12 กิโล)
ที่นี่สวยมากและมีจุดเด่นคือสามารถดูวิวได้ 360 องศาเลย
เราเห็นรูปแล้วคือกรี๊ดมากกกก ตัดสินใจแว้นไปทันทีจ้า
การเดินทางขึ้นภูชี้ดาวมีข้อจำกัดนิดนึงคือ ด้วยความที่มันสูง และทางชันมาก
เพราะฉะนั้นเราจะไม่สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ เพราะอันตรายมาก
ต้องเหมารถชาวบ้านขึ้นไป ซึ่งรถจะเป็นรถ 4x4 ในราคาเหมาคันละ 500 บาท
(หรือราคาต่อหัว 70 บาท แต่ถ้าคนน้อยก็ต้องจ่ายเหมาคันไป)
เราไปกัน 3 คนและก็ไม่มีใครมาหารด้วยเลย เราเลยเหมาขึ้น จ่ายไป 500
ตอนแรกคือรู้สึกว่าแพง แต่พอเห็นทางแล้ว เออจ่ายๆไปเหอะ คุ้ม! 5555
เห็นความหนาแน่นของหมอกป่ะ คือพอมันสูงมาก หมอกก็โคตรตีหน้าเลย
ตอนนั้นคือคิดละ ขาวโพลนแน่ๆข้างบน ไม่น่ารอด TT ทริปนี้ดวงไม่ค่อยดีเลย
เออลืมบอกไปจากจุดลงรถ เราต้องเดินเท้าต่อขึ้นยอดอีกนิดนึงนะ
ระยะทางไม่ถึงโลอ่ะ ก็พอเดินได้ไม่เหนื่อย อากาศเย็นๆ
แต่โคตรลื่นเช่นเดิม แถมเสียวเดียว เพราะเป็นทางแคบๆ 2 ข้างทางเป็นเหวสูง
แต่ข้อเสียคือข้างบนไม่มีใครเลยตอนเราเดินขึ้น เหงามากกกก
และฟ้าก็เปิดให้เราถ่ายรูปแบบไม่เกิน 20 วิ! เมฆแยกกันแปบเดียว
หลังจากนั้นขาวโพลนจ้า 5555555 ร้องไห้ค่าาา
แต่คือมันสวยมากนะ มันแบบเหมือนเราเหยียบเมฆอ่ะ คือเมฆแน่นลื้มมม
ทุกอย่างดูนุ่มมมมมไปหมด ขาวววววสุดๆ
บรรยากาศโดยรวมก็ยังสวยอยู่ ลองมากันซักครั้งก็ไม่เสียหาย : )
หลังจากนั้นเราแว้นกลับเข้าตัวเมืองเชียงราย ยิงยาวเลย
แวะตามทางประปราย และก็แวะทักทายคุณป้าร้านกาแฟขามา
และนั่งรถทัวร์กลับ เป็นอันจบทริปเชียงรายด้วยความสุขจ้าาา
ไว้มีโอกาส จะแวะไปเที่ยวอีกหลายๆที่ในเชียงราย
แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังอีกนะ : )
อ่านจบแล้วหวังว่ารีวิวเราจะเป็นประโยชน์กับทุกคนบ้างน้า
เข้าเว็บ Traveloka ไปจองตั๋วเลยสิ เก็บกระเป๋าเลย!
ออกจากบ้าน สะพายเป้ มาหาประสบการณ์ใหม่ๆกันนะทุกคน
เชื่อเราเหอะ ว่าเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวแต่ละสถานที่ไม่ได้มีตลอดหรอก
วันนึงร่างกายเราอาจจะแว้นหรือเดินขึ้นเขาระยะทางสั้นๆแบบนี้ไม่ไหวก็ได้
เพราะฉะนั้นถ้ายังแข็งแรงอยู่ ออก มา ใช้ ชีวิต เหอะ : )
ใครมีคำถามสงสัยอะไร ตามเข้ามาที่เพจเราได้น้า : )
ฝากติดตามรีวิวเจ๋งๆอีกเยอะแยะบานเบอะ
ทั้งในไทยและต่างประเทศได้ที่…
FB: RelationTrips
https://www.facebook.com/relationtripsss :)
#RelationTRIPS #Traveloka