รวม 15 ที่เที่ยวจีนด้วยตัวเอง ไปคนเดียวก็ได้ ไปกับเพื่อนก็เริ่ด [อัปเดท 2025]

Traveloka TH
19 Jul 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 8 นาที

อยากลองออกเดินทางคนเดียว เปิดโลกกว้างด้วยตัวเอง แต่ยังไม่รู้จะเริ่มจากที่ไหน? ขอแนะนำให้คุณลอง “เที่ยวจีนด้วยตัวเอง” เพราะในปี 2025 นี้ จีนคือหนึ่งในประเทศที่ตอบโจทย์สายเที่ยวครบทุกแบบ ทั้งลุยธรรมชาติ เที่ยวเมืองเก่า ช้อปในเมืองใหญ่ หรือแชะภาพสวย ๆ ไปพร้อมกับประสบการณ์แปลกใหม่แบบไม่ต้องง้อทัวร์

จีนมีระบบขนส่งที่ทันสมัย ปลอดภัย และสะดวกต่อการวางแผนเดินทางด้วยตัวเอง ไม่ว่าคุณจะไปจีนคนเดียว หรือจะจัดทริปไปกับเพื่อน ก็สามารถท่องเที่ยวได้แบบสนุกสบายใจ แถมเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมก็เดินทางง่าย เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ลี่เจียง และจางเจียเจี้ย!

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 15 ที่เที่ยวจีนที่เดินทางเองได้สบาย ๆ เหมาะทั้งสำหรับมือใหม่ที่อยากลองเที่ยวจีนครั้งแรก และนักเดินทางสายลุยที่กำลังหาแรงบันดาลใจในการจัดทริปเที่ยวจีนไม่ง้อทัวร์พร้อมเคล็ดลับ และข้อมูลเดินทางที่ครบจบแบบไม่ต้องเปิดหลายแท็บ เริ่ม!

รวม 15 ที่เที่ยวจีน เที่ยวเองได้ง่าย ๆ

🏙 เมืองใหญ่ เที่ยวง่าย เดินทางสะดวก

เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)

สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นเที่ยวจีนด้วยตัวเองครั้งแรก หรือชอบความสะดวกสบายในการเดินทาง เมืองใหญ่ของจีนคือจุดเริ่มต้นที่เพอร์เฟกต์! ระบบรถไฟใต้ดินดีเยี่ยม ป้ายมีภาษาอังกฤษ คนท้องถิ่นคุ้นกับนักท่องเที่ยว และมีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งสายวัฒนธรรม คาเฟ่ ช้อปปิ้ง ไปจนถึงแลนด์มาร์กสุดอลัง

1. เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)

หอไข่มุก เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)
หาดไว่ทาน เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)

เที่ยวจีนครั้งแรก? ถ้าเอาเที่ยวง่ายสุด ๆ ก็ต้องเที่ยวเซี่ยงไฮ้นี่ล่ะ! คุณจะได้สัมผัสจีนสมัยใหม่แบบครบทุกฟีลในเมืองเดียว ต้องไม่พลาด เซี่ยงไฮ้ เมืองเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของจีนที่เต็มไปด้วยความคึกคัก อาคารล้ำสมัย แหล่งช้อปปิ้ง และศิลปะร่วมสมัย เดินทางสะดวกมากด้วยรถไฟใต้ดินที่ครอบคลุมทั่วเมือง สำหรับสายเที่ยวคนเดียวก็ไม่ต้องห่วง เพราะที่นี่ปลอดภัย มีป้ายภาษาอังกฤษเกือบทุกสถานี เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเที่ยวจีนด้วยตัวเอง เซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองที่รวบรวมทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตไว้ในที่เดียว ตั้งแต่ถนนเก่า Tianzifang ไปจนถึงหอไข่มุกที่ล้ำสมัย

ไฮไลต์:

หาดไว่ทาน (The Bund)
หอไข่มุก (The Oriental Pearl Tower)
สวนอี้หยวน (Yuyuan Garden)
เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland)
ถนนคนเดินหนานจิง (Nanjing Road Pedestrian Street)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะจีน (China Art Museum)

การเดินทางในเซี่ยงไฮ้

การเดินทางในเซี่ยงไฮ้สะดวกและทันสมัยมาก เหมาะสุด ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเที่ยวเซี่ยงไฮ้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งทัวร์ ที่นี่มีระบบขนส่งหลากหลายและครอบคลุมทั้งในเมืองและรอบนอก

1. รถไฟใต้ดิน (Shanghai Metro)

วิธีเดินทางหลักของทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว มีทั้งหมดกว่า 15 สาย เชื่อมโยงเกือบทุกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เดอะบันด์ หอไข่มุก และถนนนานกิง ป้ายและเครื่องขายตั๋วมีภาษาอังกฤษ ใช้งานง่าย สามารถซื้อบัตรโดยสารเที่ยวเดียว หรือใช้ Shanghai Public Transportation Card (บัตรเติมเงินแบบแตะจ่าย) เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลา

2. รถบัส

รถบัสในเซี่ยงไฮ้ครอบคลุมพื้นที่ได้ละเอียดกว่า Metro แต่ใช้ยากขึ้นเล็กน้อยเพราะบางสายไม่มีภาษาอังกฤษ แนะนำให้นักท่องเที่ยวใช้แอปอย่าง Baidu Maps หรือ Citymapper เพื่อช่วยวางแผนเส้นทาง

3. แท็กซี่ และ DiDi

แท็กซี่ในเซี่ยงไฮ้มีจำนวนมากและราคาสมเหตุสมผล ถ้าจะให้สะดวกขึ้น ควรโหลดแอป DiDi ซึ่งเป็นแอปเรียกรถยอดนิยม (คล้าย Grab) รองรับภาษาอังกฤษ และสามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือ Alipay ได้

4. รถไฟความเร็วสูง และสนามบิน

เซี่ยงไฮ้มีสถานีรถไฟหลัก 3 แห่ง คือ Shanghai Railway Station, Hongqiao และ South Station ซึ่งเชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ทั่วจีน สำหรับเดินทางเข้าเมืองจากสนามบิน Pudong Airport มีทั้ง รถไฟ Maglev (ความเร็วสูงพิเศษ) และรถไฟใต้ดินสาย 2 ให้เลือกใช้

2. ปักกิ่ง (Beijing)

ปักกิ่ง (Beijing)
ปักกิ่ง (Beijing)

ถ้าคุณชอบประวัติศาสตร์และอยากสัมผัส “จีนแท้ ๆ” สักครั้งในชีวิต ลองมาเที่ยวปักกิ่งดู! เมืองหลวงของจีนแห่งนี้เต็มไปด้วยโบราณสถานระดับโลกอย่างพระราชวังกู้กงและจัตุรัสเทียนอันเหมิน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความโมเดิร์นไม่แพ้ใคร ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่สุดชิค แกลเลอรีศิลปะ หรือย่านช้อปเก๋ ๆ เช่น Sanlitun ระบบขนส่งสาธารณะของที่นี่ถือว่าดีเยี่ยม เหมาะมากสำหรับใครที่อยากเริ่มต้นเที่ยวจีนไม่ง้อทัวร์ ด้วยตัวเอง เดินทางคนเดียวก็สะดวก ปลอดภัย และได้เห็นความอลังของจีนในแบบที่แตกต่าง

ไฮไลต์:

พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)
จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square)
กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China)
สวนสัตว์ปักกิ่ง (Beijing Zoo)
หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven)

การเดินทางในปักกิ่ง

การเดินทางในปักกิ่ง (Beijing) นั้นสะดวก ครอบคลุม และราคาประหยัด เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวปักกิ่งด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะไปพระราชวังกู้กง กำแพงเมืองจีน หรือย่านฮิป ๆ ก็สามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายมาก

1. รถไฟใต้ดิน (Beijing Subway)

รถไฟใต้ดินเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทางในเมืองหลวงของจีน มีมากกว่า 20 สาย เชื่อมต่อสถานที่สำคัญเกือบทุกแห่ง เช่น จัตุรัสเทียนอันเหมิน พระราชวังต้องห้าม ย่าน Sanlitun และสถานีรถไฟหลักต่าง ๆ เครื่องจำหน่ายบัตรและป้ายในสถานีมีภาษาอังกฤษ และสามารถใช้บัตรเติมเงิน Yikatong Card หรือแอปจ่ายเงินอย่าง Alipay และ WeChat Pay ได้ด้วย

2. รถบัส

รถบัสในปักกิ่งครอบคลุมพื้นที่ได้ละเอียดมาก เหมาะกับการเดินทางในระยะใกล้ ๆ หรือเข้าไปในซอยเล็ก แต่ส่วนใหญ่ไม่มีภาษาอังกฤษ แนะนำให้ใช้แอป Baidu Maps หรือ Google Maps (โหลดล่วงหน้า) เพื่อดูเส้นทางและป้ายรถที่ถูกต้อง

3. แท็กซี่ และ DiDi

แท็กซี่ในปักกิ่งมีให้บริการทั่วไป โดยเฉพาะในจุดท่องเที่ยวยอดนิยม แต่ส่วนใหญ่คนขับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ การโหลดแอป DiDi (บริการเรียกรถของจีน) จึงเป็นตัวช่วยที่ดี เพราะมีเวอร์ชันภาษาอังกฤษ และสามารถจ่ายเงินผ่านแอปได้สะดวก

4. สนามบินและรถไฟความเร็วสูง

ปักกิ่งมีสนามบินหลัก 2 แห่ง: Beijing Capital International Airport และ Beijing Daxing Airport ทั้งสองแห่งมีรถไฟใต้ดินหรือ Airport Express เชื่อมเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่าย และยังมีรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อไปยังเมืองอื่น ๆ อย่าง เซี่ยงไฮ้ ซีอาน และเฉิงตู ได้อย่างรวดเร็วและสะดวก

3. เฉิงตู (Chengdu)

เฉิงตู (Chengdu)
เฉิงตู (Chengdu)

เมืองแห่งหมีแพนด้าและหม้อไฟสุดเผ็ด! ถ้าคุณกำลังมองหาเมืองที่มีทั้งธรรมชาติ อาหารอร่อย และบรรยากาศสบาย ๆ มาเที่ยวเฉิงตูด่วน! จะไม่ทำให้ผิดหวัง เมืองนี้มีจังหวะชีวิตที่ไม่เร่งรีบ เหมาะกับคนที่อยากมานั่งจิบชา ชมวิว หรือเดินเล่นสบาย ๆ ตามตรอกเก่าอย่าง Kuanzhai Alley การเดินทางในเมืองก็ง่าย มีรถไฟใต้ดินหลายสาย พร้อมป้ายภาษาอังกฤษ ช่วยให้มือใหม่ที่เริ่มเที่ยวจีนด้วยตัวเองเที่ยวได้แบบไม่เครียด อีกทั้งยังปลอดภัย เหมาะทั้งกับการเที่ยวจีนคนเดียวหรือชวนเพื่อนไปลุยหม้อไฟด้วยกัน

ไฮไลต์:

ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า (Giant Panda Breeding Research Base)
ถนนควานจ๋าย (Kuan Xiangzi Alley)
อารามเหวินซู (Wenshu Yuan Monastery)
จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou)
จัตุรัสเทียนฝู (Tianfu Square)

การเดินทางในเฉิงตู

เฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน นอกจากจะดังเรื่องหมีแพนด้าและอาหารรสจัดแล้ว ยังเป็นเมืองที่เดินทางสะดวกมาก ๆ ด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุม เดินทางเที่ยวเองได้แบบสบาย ๆ

1. รถไฟใต้ดิน (Chengdu Metro)

เฉิงตูมีรถไฟใต้ดินกว่า 10 สาย เชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต เช่น ฐานอนุรักษ์หมีแพนด้า ถนนคนเดินจิ๋นหลี่ วัดวูโหว และสถานีรถไฟหลักต่าง ๆ สะดวกมากสำหรับนักท่องเที่ยว รถไฟสะอาด มีแอร์ และมีป้ายภาษาอังกฤษ ใช้บัตรโดยสารเติมเงิน หรือแตะจ่ายด้วย Alipay/WeChat ได้เลย

2. รถบัส

รถบัสในเฉิงตูมีให้บริการทั่วเมือง ราคาถูกมาก เหมาะกับการเดินทางในระยะสั้น ๆ หรือไปยังชานเมือง มีแอปอย่าง Baidu Maps ช่วยดูเส้นทางได้อย่างแม่นยำ แม้ป้ายบางแห่งจะไม่มีภาษาอังกฤษ

3. แท็กซี่ และ DiDi

เรียกแท็กซี่ในเฉิงตูได้ง่าย และราคาไม่แรง ถ้าอยากสะดวก แนะนำให้ใช้แอป DiDi ซึ่งมีเมนูภาษาอังกฤษ รองรับทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น พร้อมให้คุณเลือกจ่ายผ่านแอปได้ทันที ไม่ต้องพกเงินสด

4. รถไฟความเร็วสูง และรถทัวร์

เฉิงตูมีสถานีรถไฟหลักอย่าง Chengdu East และ Chengdu South ที่เชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เช่น ซีอาน คุนหมิง หรือฉงชิ่ง ส่วนใครที่อยากไปเที่ยวจิ่วจ้ายโกว หรือ หวงหลง สามารถนั่งรถทัวร์จาก Chadianzi Bus Station ได้โดยตรง

5. สนามบิน

สนามบิน Chengdu Tianfu International Airport เป็นสนามบินใหม่ขนาดใหญ่ มีรถไฟฟ้าใต้ดินและ Shuttle Bus เชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวก ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงก็ถึงใจกลางเมือง

4. ซีอาน (Xi’an)

ซีอาน (Xi’an)
ซีอาน (Xi’an)

หากคุณหลงใหลในวัฒนธรรมจีนโบราณและประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง ต้องไม่พลาดซีอาน เมืองเก่าแก่ที่เคยเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม และเป็นหนึ่งในเมืองหลวงเก่าที่สำคัญที่สุดของจีน สิ่งที่ทำให้ซีอานพิเศษคือการผสมผสานระหว่างความเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว คุณจะได้เดินบนกำแพงเมืองเก่าแบบจีนแท้ ๆ แล้วต่อด้วยการชิมอาหารที่ถนนมุสลิมสุดคึกคัก บรรยากาศปลอดภัยและอบอุ่น เหมาะกับทั้งสายเที่ยวคนเดียวและเที่ยวกับเพื่อน ที่นี่จึงกลายเป็นหนึ่งในคำตอบของคนที่กำลังสงสัยว่า “เที่ยวจีนด้วยตัวเองเมืองไหนดี?!”

ไฮไลต์:

สุสานกองทัพทหารดินเผาจิ๋นซีฮ่องเต้
กำแพงเมืองซีอาน (Xian City Wall)
ย่านมุสลิมซีอาน (Muslim Quarter)
หอระฆังซีอาน (Bell Tower)
หอกลองซีอาน (Drum Tower)
วัดต้าซิงซาน (Daxingshan Temple)

การเดินทางในซีอาน

เมืองหลวงเก่าแห่งราชวงศ์ถัง และเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมในอดีต ทุกวันนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของจีน ที่ระบบขนส่งก็ดีเกินคาด เหมาะมากกับสายเที่ยวเอง ไม่ง้อทัวร์

1. รถไฟใต้ดิน (Xi’an Metro)

ซีอานมีรถไฟใต้ดินหลายสาย ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวหลัก เช่น กำแพงเมืองซีอาน ย่าน Muslim Quarter หอระฆัง หอกลอง และสถานีรถไฟหลัก การใช้งานง่าย มีภาษาอังกฤษที่เครื่องจำหน่ายตั๋ว แนะนำให้ซื้อ บัตรเติมเงินแบบแตะจ่าย หรือใช้ Alipay / WeChat Pay ก็สะดวกมาก

2. รถบัส

รถบัสในซีอานราคาถูกและมีสายวิ่งทั่วเมือง โดยเฉพาะสายที่เข้าซอย หรือไปสถานที่ที่รถไฟใต้ดินยังไม่ถึง เช่น บางจุดใกล้สุสานทหารดินเผา ควรใช้แอป Baidu Maps เพื่อช่วยดูเส้นทางและเลขสายรถ

3. แท็กซี่ และ DiDi

เรียกแท็กซี่ในซีอานได้ง่าย โดยเฉพาะในเขตเมืองเก่าและสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ ๆ ถ้าต้องการความสะดวกและลดปัญหาด้านภาษา แนะนำให้ใช้แอป DiDi เวอร์ชันภาษาอังกฤษ ซึ่งรองรับการชำระผ่านมือถือและช่วยให้การเรียกรถปลอดภัยขึ้น

4. รถไฟ และรถทัวร์

ซีอานมีสถานีรถไฟใหญ่ 2 แห่ง คือ Xi’an Railway Station (ใกล้ใจกลางเมือง) และ Xi’an North Railway Station (สำหรับรถไฟความเร็วสูง) ที่เชื่อมต่อไปยังเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู หรือลั่วหยาง ส่วนใครจะไป สุสานทหารดินเผา (Terracotta Army) สามารถขึ้นรถบัสท่องเที่ยวพิเศษหรือรถบัสประจำทางจากใจกลางเมืองได้ในราคาไม่แพง

5. สนามบิน

Xi’an Xianyang International Airport ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร มี Shuttle Bus และแท็กซี่บริการตลอดวัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการเข้าเมือง หรือจะใช้รถ DiDi ก็สะดวกไม่แพ้กัน

🏞 สายธรรมชาติ วิวปัง ถ่ายรูปสวย

5. จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)

จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)
จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติระดับโลกของจีนที่ควรมาเห็นกับตาสักครั้งในชีวิต! จางเจียเจี้ย คือแรงบันดาลใจของฉากภูเขาลอยฟ้าในหนัง Avatar และมีชื่อเสียงเรื่องภูเขาหินทรายรูปทรงแปลกตา สะพานกระจกที่สูงที่สุดในโลก และทางเดินกระจกริมหน้าผาสุดหวาดเสียว แม้ดูเหมือนลุย ๆ แต่จริง ๆ แล้วเดินทางได้ง่าย มีรถบัสท้องถิ่นและกระเช้าขึ้นเขาให้บริการ ใครที่กำลังคิดจะเที่ยวจีนด้วยตัวเอง แล้วอยากได้ทั้งความตื่นเต้นและความอลังการต้องจดไว้ในลิสต์นี้เลย แนะนำให้มาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือหน้าหนาว จะได้ภาพถ่ายสุดปัง

ไฮไลต์:

สะพานกระจกจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Glass Bridge)
ภูเขาอวตาร อุทยานจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park)
เมืองโบราณฟูหรงเจิ้น (Furong Zhen)
ถ้ำประตูสวรรค์ (Tianmen Cave)

การเดินทางในจางเจียเจี้ย

แม้เมืองจางเจียเจี้ยจะไม่ใช่เมืองใหญ่ แต่ระบบขนส่งภายในก็ถือว่าเพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเองแบบประหยัดและสะดวก รถบัสประจำทางมีให้บริการทั่วเมือง ค่าโดยสารถูกมากเพียง 1–2 หยวน เหมาะสำหรับเดินทางสั้น ๆ ภายในตัวเมือง เช่น ไปตลาด ถนนคนเดิน หรือสถานีรถไฟ แต่ป้ายส่วนใหญ่เป็นภาษาจีน แนะนำให้ใช้แอป Baidu Maps ช่วยดูเส้นทาง

ถ้าอยากเดินทางแบบรวดเร็ว แท็กซี่ในเมืองก็มีให้เรียกได้ทั่วไป ค่ารถไม่แพง แต่ควรเตรียมชื่อสถานที่เป็นภาษาจีนไว้โชว์ให้คนขับ เพราะส่วนมากพูดอังกฤษไม่คล่อง อีกทางเลือกคือเรียกรถผ่านแอป DiDi ที่ใช้งานง่าย รองรับภาษาอังกฤษ และจ่ายเงินผ่านมือถือได้

เมืองนี้ยังมีสนามบิน Zhangjiajie Hehua Airport อยู่ห่างจากใจกลางเมืองแค่ประมาณ 15–20 นาที สามารถนั่งแท็กซี่หรือเรียก DiDi เข้าเมืองได้สะดวกเช่นกัน ส่วนสถานีรถไฟหลักอย่าง Zhangjiajie Railway Station ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อรถไปยังแหล่งท่องเที่ยวดังอย่างเทียนเหมินซานและอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย

6. ภูเขาหวงซาน (Huangshan)

ภูเขาหวงซาน (Huangshan)

ถ้าพูดถึงวิวภูเขาสุดโรแมนติกในจีน ต้องยกให้หวงซาน หรือ “เขาเหลือง” ที่มีหมอกปกคลุมตลอดปี ต้นสนบนหน้าผา และยอดเขาแหลม ๆ ที่โดดเด่นเหนือเมฆ ทำให้ที่นี่เป็นแรงบันดาลใจในภาพวาดจีนและบทกวีมาหลายร้อยปี เดินทางไม่ยาก มีรถบัสจากเมืองใหญ่และกระเช้าขึ้นเขาให้บริการ จัดว่าเป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่อยากเที่ยวจีนด้วยตัวเองแบบประหยัดและสวยขั้นเทพ แนะนำให้ค้างคืนบนเขา 1 คืน จะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสุดอลังในยามเช้า

ไฮไลต์: จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น, ทะเลหมอก, ต้นสนพญามังกร

การเดินทางจากตัวเมืองไปเขาหวงซาน

1.
นั่งรถบัสจากสถานี Tunxi ไปยัง Tangkou Townนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางจากตัวเมืองหวงซาน (Tunxi) ไปยังเมืองเล็กชื่อ Tangkou ซึ่งอยู่ใกล้ทางเข้าอุทยานเขาหวงซานมากที่สุด รถบัสออกจากสถานี Huangshan Bus Station ทุกชั่วโมง ตั้งแต่ประมาณ 7:00–17:00 น. ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง และค่าตั๋วราว 20–30 หยวน เมื่อถึง Tangkou แล้วสามารถต่อ Shuttle Bus ของอุทยานเพื่อเข้าสู่เขาได้ทันที
2.
เรียกรถแท็กซี่หรือ DiDi ไป Tangkouสำหรับใครที่อยากเดินทางแบบสะดวกและเร็วขึ้น สามารถเรียกรถแท็กซี่หรือรถผ่านแอป DiDi ได้จากโรงแรมหรือที่พักในตัวเมือง ใช้เวลาประมาณ 1–1.5 ชั่วโมง พอ ๆ กับรถบัส แต่ราคาอยู่ที่ประมาณ 150–200 หยวน เหมาะกับการแชร์กัน 2–3 คน จะช่วยประหยัดเวลาและไม่ต้องรอรอบรถ
3.
ต่อ Shuttle Bus จาก Tangkou เข้าอุทยานเมื่อมาถึง Tangkou แล้ว จะต้องขึ้น Shuttle Bus ของทางอุทยาน เพื่อเข้าไปยังทางขึ้นเขาหวงซาน (ไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวเข้า) โดยสามารถเลือกได้ 2 เส้นทางหลัก คือ
Yungu Cable Car (ฝั่งตะวันออก): เหมาะกับคนที่ต้องการขึ้นกระเช้า ใช้แรงน้อย วิวดีตลอดทาง
Yuping Cable Car (ฝั่งตะวันตก): วิวอลังการ แต่ทางชัน เหมาะกับคนที่อยากท้าทาย หรือขึ้นฝั่งนี้ลงอีกฝั่งก็ได้

7. แชงกรีล่า (Shangri-La)

แชงกรีล่า (Shangri-La)
แชงกรีล่า (Shangri-La)

เมืองเล็ก ๆ กลางหุบเขาทิเบตในมณฑลยูนนาน ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชนเผ่าและธรรมชาติบริสุทธิ์ แชงกรีล่า เป็นเหมือนโลกอีกใบที่เงียบสงบและสวยงามอย่างเหลือเชื่อ คุณจะได้สัมผัสทุ่งหญ้ากว้างไกล วิวภูเขาหิมะ และวิถีชีวิตของชาวทิเบตแท้ ๆ เหมาะกับสายอินดี้ที่อยากเที่ยวจีนไม่ง้อทัวร์ และกำลังมองหาประสบการณ์ที่ลึกซึ้งกว่าการเที่ยวเมืองใหญ่ทั่วไป แนะนำให้เตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะอากาศที่นี่อยู่สูง ออกซิเจนน้อย แต่วิวคือรางวัลที่ยิ่งใหญ่สุด ๆ

ไฮไลต์:

วัดซงจ้านหลิน (Songzanlin Monastery)
ทะเลสาบนาเป่ยไห่ (Napahai Lake)
เมืองเก่าแชงกรีล่า (Dukezong Ancient Town)
อุทยานแห่งชาติเก๋อตู้ (Potatso National Park)

การเดินทางในแชงกรีล่า

1.
รถแท็กซี่และ DiDiการเดินทางหลักในตัวเมืองแชงกรีล่าคือแท็กซี่และ DiDi ซึ่งมีให้บริการทั่วไปในโซนตัวเมืองและรอบเมืองเก่า ค่าโดยสารเริ่มต้นประมาณ 10 หยวน และไม่ไกลมากนักเพราะเมืองไม่ใหญ่มาก
2.
รถบัสประจำทางแม้จะมีรถบัสประจำทางวิ่งอยู่บ้าง แต่จำนวนเส้นทางค่อนข้างจำกัด และข้อมูลเป็นภาษาจีนเกือบทั้งหมด จึงไม่ค่อยสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แนะนำใช้แท็กซี่หรือรถเช่าจะคล่องตัวกว่า โดยเฉพาะหากจะออกนอกเมือง
3.
การเดินทางไปสถานที่ใกล้เคียงถ้าไปเที่ยวธรรมชาตินอกเมือง เช่น อุทยานแห่งชาติผู่ต๋อโชว (Potatso National Park) หรือ วัดซงจ้านหลิน (Songzanlin Monastery) สามารถเช่ารถพร้อมคนขับ หรือติดต่อทัวร์ท้องถิ่นแบบไปเช้าเย็นกลับ ราคาประมาณ 200–400 หยวนต่อวัน หรือจะเหมารถแท็กซี่ไป-กลับก็ได้เช่นกัน
4.
สนามบิน Shangri-La Diqing Airportสนามบินอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียงประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งแท็กซี่แค่ 15 นาที สะดวกมากสำหรับนักเดินทางที่บินตรงมาจากคุนหมิง ลี่เจียง หรือเฉิงตู

8. หุบเขาย่าติง (Yading Nature Reserve)

หุบเขาย่าติง (Yading Nature Reserve)
หุบเขาย่าติง (Yading Nature Reserve)

ใครที่เคยเห็นภาพวิวทุ่งหญ้า ภูเขาหิมะ และทะเลสาบใสราวกระจกในโทนสีพาสเทล คงไม่แปลกใจถ้าจะรู้ว่าหุบเขาย่าติงถูกขนานนามว่า “สวรรค์แห่งสุดท้ายบนโลก” ที่นี่ตั้งอยู่ในเขตปกครองชาวทิเบตของเสฉวน มีเส้นทางเดินเท้าที่สวยงามอลังการแบบสุด ๆ เหมาะกับคนที่อยากท้าทายตัวเองด้วยการเที่ยวจีนคนเดียวแบบลุย ๆ ในที่ที่ยังไม่แมสแต่สวยกินขาด เดินทางแม้จะใช้เวลานานนิดนึง แต่เมื่อไปถึงแล้ว จะรู้เลยว่าคุ้มทุกวินาที แนะนำให้ไปเที่ยวย่าติงช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูร้อนนะ!

ไฮไลต์:

ทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake / Niunai Hai)
สามเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งย่าติง (The Three Holy Mountains)
Chonggu Monastery – วัดโบราณกลางหุบเขา
Luorong Pasture – ทุ่งหญ้าท่ามกลางเทือกเขา

การเดินทางไปย่าติง (Yading)

1.
รถบัสระหว่างเมืองจากแชงกรีล่า (Shangri-La) ไปย่าติงนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางจากแชงกรีล่าไปย่าติงโดยรถบัสระหว่างเมือง รถออกจาก Shangri-La Bus Station เวลา 8:30 น. และถึงย่าติงประมาณ 16:00 น. ค่าตั๋วประมาณ 148 หยวนต่อเที่ยว แนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้า เนื่องจากรถมักเต็มในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
2.
รถบัสจากสนามบินเต้าเฉิง (Daocheng) ไปย่าติงหากเดินทางมาถึงสนามบินเต้าเฉิง สามารถนั่งรถบัสจากสนามบินไปยังอุทยานย่าติงได้ ค่ารถไม่กี่หยวน และใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
3.
รถบัสภายในอุทยานย่าติงเมื่อถึงอุทยานย่าติง จะต้องนั่งรถบัสของทางอุทยานเพื่อเข้าสู่พื้นที่ท่องเที่ยว ระยะทางรวมประมาณ 35 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าบริการเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน

เช็คราคาไฟล์ทไปจีน

Wed, 1 Oct 2025

Air Macau

กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)

เริ่มจาก THB 2,666.83

Mon, 29 Sep 2025

China Eastern Airlines

กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)

เริ่มจาก THB 3,156.49

Sun, 28 Sep 2025

China Southern Airlines

กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)

เริ่มจาก THB 3,181.08

🧘‍♀️ เมืองวัฒนธรรมสำหรับสายชิล

9. ลี่เจียง (Lijiang)

ลี่เจียง (Lijiang)
ลี่เจียง (Lijiang)

เมืองโบราณที่ยังคงมนต์เสน่ห์แบบจีนแท้ ๆ เอาไว้ครบถ้วน ขอแนะให้เที่ยวลี่เจียงเลย! เป็นเมืองเล็กในมณฑลยูนนานที่มีตรอกซอยหินเล็ก ๆ บ้านไม้เก่า และลำธารไหลผ่านกลางเมือง เป็นเมืองมรดกโลกที่เที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ใครที่อยากลองเที่ยวจีนด้วยตัวเองแบบสโลว์ไลฟ์ รับรองว่าจะตกหลุมรักที่นี่ได้ไม่ยากเลย เดินเล่นในย่านเมืองเก่าก็เพลิน ถ่ายรูปก็สวย หรือจะนั่งจิบชาริมน้ำฟังดนตรีสดก็ได้ฟีลชิลเกินต้าน

ไฮไลต์:

เมืองโบราณลี่เจียง (Lijiang Old Town)
สระมังกรดำ (Black Dragon Pool)
ทะเลสาบไป๋สุ่ยเหอ (Baishui River)
หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley)
สวนหยวนเหอ (Yuhe Park)

การเดินทางในเมืองลี่เจียง

1.
เดินเท้าในเมืองเก่า (Dayan Old Town)เมืองเก่าเป็นเขตมรดกโลกที่มีถนนแคบ ๆ และสถาปัตยกรรมโบราณ การเดินเท้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจเมืองนี้
2.
รถแท็กซี่และ DiDiลี่เจียงมีแท็กซี่ให้บริการทั่วไป ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ประมาณ 8 หยวน และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง นอกจากนี้ยังสามารถใช้แอป DiDi เพื่อเรียกรถได้สะดวก
3.
รถบัสประจำทางเมืองลี่เจียงมีรถบัสประจำทาง 10 สายที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองเก่าและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น สถานีรถบัสลี่เจียง สวนสาธารณะมังกรดำ และวัดหย่งซาน
4.
สนามบินสนามบินลี่เจียง (Lijiang Sanyi Airport) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 28 กิโลเมตร มีเที่ยวบินจากเมืองใหญ่ ๆ เช่น คุนหมิง เฉิงตู และเซี่ยงไฮ้

10. ต้าลี่ (Dali)

ต้าลี่ (Dali)
ต้าลี่ (Dali)

อีกเมืองโบราณในยูนนานที่น่าไปสุด ๆ สำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศเรียบง่าย เป็นกันเอง แต่มีความฮิปซ่อนอยู่ทุกมุม ต้าลี่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเอ๋อร์ไห่ ท่ามกลางขุนเขาเขียวขจี โดดเด่นด้วยกำแพงเมืองเก่า อาคารสไตล์จีน–ตะวันตก และคาเฟ่ชิค ๆ เพียบ เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวจีนคนเดียว แล้วได้พักใจ ได้ใช้เวลากับตัวเองแบบช้า ๆ หรือจะไปกับเพื่อนสายติสท์ก็ได้ฟีลดีไม่แพ้กัน

ไฮไลต์:

ทะเลสาบเอ๋อร์ไห่ (Erhai Lake)
เมืองโบราณต้าหลี่ (Dali Ancient Town)

การเดินทางในเมืองต้าหลี่

1.
เดินเท้าในเมืองเก่าเมืองเก่าต้าหลี่เป็นเขตมรดกโลกที่มีถนนแคบ ๆ และสถาปัตยกรรมโบราณ การเดินเท้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจเมืองนี้
2.
รถแท็กซี่และ DiDiต้าหลี่มีแท็กซี่ให้บริการทั่วไป ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ประมาณ 8 หยวน และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง นอกจากนี้ยังสามารถใช้แอป DiDi เพื่อเรียกรถได้สะดวก
3.
รถบัสประจำทางเมืองต้าหลี่มีรถบัสประจำทาง 10 สายที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองเก่าและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น สถานีรถบัสต้าหลี่

11. ซูโจว (Suzhou)

ซูโจว (Suzhou)
ซูโจว (Suzhou)

ใครชอบอะไรแนวจีนโบราณแบบกวี ๆ และภาพวาด ต้องมาเที่ยวซูโจว! เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็น “เวนิสแห่งตะวันออก” เพราะมีลำคลองตัดผ่านเมือง บ้านโบราณเรียงราย และสะพานหินเก่าแบบคลาสสิก ที่นี่เคยเป็นเมืองโปรดของกวีจีนยุคเก่าหลายคน ปัจจุบันก็ยังคงเอกลักษณ์ไว้ได้ดี เหมาะมากกับคนที่อยากจัดทริปเที่ยวจีนด้วยตัวเอง ลองไปเดินเล่น ปล่อยใจ ใช้ชีวิตช้า ๆ ดูสวน เสพศิลป์ หรือจิบชาในศาลาไม้ริมคลองเงียบ ๆ บอกเลยว่าใจฟู!

ไฮไลต์:

สวนหลิวหยวน (The Lingering Garden – 留园)
ถนนโบราณซานถังเจีย
เมืองโบราณโจวจวง (Zhouzhuang Water Town– 周庄古镇)
คลองต้าอวิ่นเหอ (Grand Canal – 中国大运河)
ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake)

การเดินทางในเมืองซูโจว

1.
รถไฟฟ้าใต้ดิน (Metro)ซูโจวมีระบบรถไฟฟ้าใต้ดินที่สะดวกและครอบคลุมเมือง มีสายหลัก ๆ เช่น สาย 1, 2, 4, 5 และ 6 ที่เชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น สวนหลิวหยวน (Lingering Garden), สวนป่าสิงโต (Lion Grove Garden), และ ถนน Pingjiang
2.
เดินเท้าเมืองเก่าของซูโจวมีถนนแคบ ๆ และสะพานโบราณที่สวยงาม การเดินเท้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจเมืองนี้ เช่น ถนน Pingjiang และ ถนน Shangtang
3.
รถไฟความเร็วสูงจากเซี่ยงไฮ้ไปซูโจวการเดินทางจากเซี่ยงไฮ้ไปซูโจวสะดวกมาก โดยนั่งรถไฟความเร็วสูงจากสถานี Shanghai Hongqiao หรือ Shanghai Railway Station ไปยัง Suzhou Station ใช้เวลาเพียง 25–30 นาที ค่าโดยสารประมาณ 31–38 หยวนต่อเที่ยว

12. หางโจว (Hangzhou)

หางโจว (Hangzhou)
หางโจว (Hangzhou)

เมืองที่โด่งดังจากบทกวี “สวรรค์บนดิน” และยังคงความงดงามไม่เปลี่ยน หางโจวเป็นเมืองใหญ่ที่ยังรักษาบรรยากาศสงบแบบเมืองเก่าไว้ได้ มีทะเลสาบซีหูอันโด่งดังเป็นศูนย์กลางของเมือง และเต็มไปด้วยสวน พื้นที่สีเขียว และคาเฟ่นั่งชิล เหมาะมากกับการเที่ยวจีนไม่ง้อทัวร์แบบจัดทริปเองง่าย ๆ เพราะมีรถไฟเชื่อมจากเซี่ยงไฮ้เพียงชั่วโมงเดียวเอง

ไฮไลต์:

ทะเลสาบซีหู (West Lake / 西湖)
วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple / 灵隐寺)
สวนพฤกษศาสตร์หางโจว (Hangzhou Botanical Garden)
ถนนคนเดินหางโจว (Hubin Pedestrian Street / 湖滨步行街)

การเดินทางในหางโจว

รถไฟฟ้าใต้ดิน (Hangzhou Metro)

หางโจวมีรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งครอบคลุมทั้งสนามบิน สถานีรถไฟหลัก ย่าน West Lake และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ โดยสาย 1 เชื่อมระหว่าง Xiaoshan Airport กับ Hangzhou East Railway Station และ Wulin Square ค่าโดยสารเริ่มต้นเพียงประมาณ 2–9 หยวน

รถบัสและ Tourist Bus

หางโจวมีรถเมล์ให้บริการกว่า 1,100 เส้นทาง เริ่มตั้งแต่รถธรรมดาไปถึง BRT และ Tourist Bus รอบ West Lake ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 1–3 หยวน และบางสายจะมีสายรถท่องเที่ยวแบบ Y2–Y10 ที่จะพาคุณผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ เช่น Lingyin Temple และ Qinghefang Street

แท็กซี่ & DiDi

ราคาขึ้นต้นที่ประมาณ 11 หยวน (3 กม.แรก) และเพิ่มเป็น 2.5 หยวนต่อกิโลเมตรหลังจากนั้น ได้นั่งแท็กซี่สะดวกเวลารีบหรือไปที่ไกลต่อระบบสาธารณะ แนะนำให้เตรียมชื่อที่เป็นภาษาจีนไว้ให้คนขับดู และสามารถใช้แอป DiDi สำหรับบริการรถแบบเรียกรถเองได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

ปั่นจักรยาน & ล่องเรือ

หางโจวมีระบบจักรยานสาธารณะ (Hangzhou Public Bicycle) กว่า 2,700 จุด ให้ยืมจักรยานฟรีในชั่วโมงแรก และคิดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำหลังจากนั้น เหมาะมากกับการปั่นชม West Lake หรือเมืองเก่า นอกจากนี้ ยังมีบริการล่องเรือ West Lake, Grand Canal และ Qiantang River Night Cruise สำหรับคนที่อยากกินลมชมวิวอีกด้วย

🚄 เมืองน่าสำรวจสำหรับสายลุย

13. คุนหมิง (Kunming)

คุนหมิง (Kunming)
คุนหมิง (Kunming)

เมืองหลวงของมณฑลยูนนานที่ขึ้นชื่อว่า “เมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิ” เพราะอากาศดีตลอดปี คุนหมิงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในยูนนาน แต่ตัวเมืองเองก็น่าสำรวจไม่แพ้กัน เดินทางสะดวก มีรถไฟฟ้า สนามบินนานาชาติ และที่เที่ยวธรรมชาติใกล้เมืองอย่าง Stone Forest และทะเลสาบได่ชิ่ว ถ้าอยาก จัดทริปเที่ยวจีนด้วยตัวเองแบบไม่เหนื่อย คุนหมิงคือคำตอบที่ดีงาม เพราะมีทั้งความสะดวกแบบเมืองใหญ่ และความสงบแบบธรรมชาติ แถมยังต่อรถไปเมืองสุดฮิตอย่างต้าลี่ ลี่เจียง หรือแชงกรีล่าได้ง่ายมาก

ไฮไลต์:

อุทยานป่าหินคุนหมิง
ทะเลสาบเตียนฉือ
สวนสาธารณะและทะเลสาบชุ่ยหู
ตำหนักทองจินเตี้ยน (The Golden Temple Park | Jindian park)
สวนสาธารณะเฮย์หลงตัน (Heilongtan Park)

การเดินทางในคุนหมิง

1. รถไฟฟ้าใต้ดิน (Kunming Metro) คุนหมิงมีรถไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมด 4 สายหลัก (สาย 1, 2, 3, 6)

สาย 6 เชื่อม สนามบิน Changshui เข้าสู่ตัวเมือง
สาย 1 และ 2 เชื่อมต่อสถานีรถไฟและแหล่งช้อปปิ้ง
สาย 3 วิ่งผ่านย่านการค้าและสถานที่ท่องเที่ยว
ค่าโดยสารเริ่มต้นเพียงประมาณ 2 หยวน ใช้งานง่าย มีป้ายภาษาอังกฤษเกือบทุกสถานี เหมาะกับนักท่องเที่ยวมือใหม่

2. รถบัสประจำทาง คุนหมิงมีรถบัสประจำทางหลายร้อยสายที่วิ่งครอบคลุมทั่วทั้งเมือง

ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 1–2 หยวน
ขึ้นรถด้านหน้า ลงรถด้านหลัง
ใช้แอป Baidu Maps หรือ Gaode (Amap) เพื่อดูสายรถได้ (แอปมีภาษาอังกฤษให้เลือก)
เหมาะสำหรับเที่ยวภายในเมืองแบบประหยัด

3. แท็กซี่และ DiDi

ค่าบริการเริ่มต้นประมาณ 8 หยวนต่อ 3 กิโลเมตร
สามารถเรียกแท็กซี่ผ่านแอป DiDi ได้สะดวก มีภาษาอังกฤษรองรับ
แนะนำให้เตรียมชื่อสถานที่เป็นภาษาจีนไว้โชว์ให้คนขับดู
สะดวกสำหรับไปที่ไกล ๆ หรือเที่ยวช่วงกลางคืน
1.
การเดินเท้าและเช่าจักรยานในย่านใจกลางเมือง เช่น Cuihu Park, ย่าน Nanping หรือ Dongfeng Square เหมาะกับการเดินเที่ยว และยังมีจักรยานสาธารณะให้เช่าผ่านแอป เช่น Meituan หรือ Hello Bike สำหรับคนที่อยากชิลล์ชมเมืองแบบโลคอล ๆ
2.
การเดินทางจากสนามบินเข้าสู่เมือง
นั่ง รถไฟฟ้าสาย 6 (Kunming Metro Line 6) จากสนามบิน Changshui เข้าเมืองโดยตรง ใช้เวลาประมาณ 30–40 นาที
หรือใช้บริการ Airport Express Bus ที่มีหลายเส้นทางไปยังสถานีรถไฟและโรงแรมต่าง ๆ ในเมือง

14. กุ้ยหลิน (Guilin)

กุ้ยหลิน (Guilin)
กุ้ยหลิน (Guilin)

เมืองที่โด่งดังเรื่องภูเขาหินปูนกลางแม่น้ำสุดอลังอย่างกับภาพในจินตนาการ กุ้ยหลิน คือที่เที่ยวในฝันของสายเที่ยวธรรมชาติและสายชิล เพราะที่นี่มีทั้งแม่น้ำหลีเจียงสุดโรแมนติก ภูเขาสวย ๆ และหมู่บ้านชนบทที่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย สามารถล่องเรือ เดินเขา หรือปั่นจักรยานชมวิวได้แบบไม่ต้องรีบ สำหรับคนที่อยาก เที่ยวจีนคนเดียวแบบชิล ๆ กุ้ยหลินจะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยในการท่องเที่ยว เดินทางสะดวก และบรรยากาศดีแบบเกินคาด

ไฮไลต์:

เขาเซียงกง (Xiang Gong Mountain)
หยางซั่วเวสต์สตรีท (Yangshuo West Street)
ล่องแพไม้ไผ่แม่น้ำหยีหลง (Yulong River Bamboo Rafting)
ภูเขาหิมะคุนหมิงเจี้ยวซื่อ (JiaoZi Mountain)

การเดินทางในกุ้ยหลิน

1.
รถบัสประจำเมือง (City Bus)กุ้ยหลินมีรถบัสมากกว่า 150 สายที่เชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น Elephant Trunk Hill, Seven-Star Park, Reed Flute Cave และบริเวณ Two Rivers and Four Lakes รถบัสบางสายเป็นแบบสองชั้น และมีประกาศสถานีทั้งภาษาจีนและอังกฤษ ค่าโดยสารอยู่ระหว่าง 1–5 หยวน/เที่ยว
2.
รถแท็กซี่และ DiDiค่าโดยสารขึ้นต้นประมาณ 9 หยวน (เวลากลางคืน 11 หยวน) และเพิ่มประมาณ 1.9 หยวน/กม. แม้หลายคันไม่มีมิเตอร์ แต่สามารถเรียกผ่านแอป DiDi ได้สะดวก มีภาษาอังกฤษรองรับและจ่ายผ่านมือถือได้เลย
3.
จักรยานและจักรยานสาธารณะกุ้ยหลินเป็นเมืองกะทัดรัด จักรยานจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ราคาปั่นแบบเช่าเหมาจ่ายประมาณ 15–20 หยวน/วัน หรือจักรยานแชร์ผ่านแอป เช่น Meituan แค่ไม่ถึง 5 หยวนต่อชั่วโมง
4.
รถไฟฟ้าโมโนเรล (Skyrail Guilin)กุ้ยหลินกำลังก่อสร้างระบบโมโนเรลสายแรก (Guilin Rail Transit Line 1) ที่เชื่อมสนามบิน Liángjiāng และสถานีรถไฟหลัก เปิดให้บริการในปี 2025 โดยมีทั้งหมด 13 สถานี ความยาวประมาณ 29 กม. เกณฑ์จะช่วยให้การเชื่อมต่อสนามบินและเมืองสะดวกยิ่งขึ้น
5.
การเดินทางจากสนามบินและสถานีรถไฟสนามบิน Guilin Liangjiang International Airport อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 28 กม. สามารถนั่งแท็กซี่/DiDi ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเข้าสู่เมือง. สำหรับการเดินทางออกหรือเข้าเมืองด้วยรถไฟ มีสถานีหลักคือ Guilin Railway Station และ Guilin North Railway Station ซึ่งมีรถบัสสาธารณะหลายสายเชื่อมต่อทั้งสองจุดกับเมือง

15. ซีเหมิน (Xiamen)

ซีเหมิน (Xiamen)
ซีเหมิน (Xiamen)

เมืองชายทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนที่กำลังมาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ซีเหมิน เป็นเมืองที่มีทั้งชายหาด คาเฟ่น่ารัก และเกาะเล็ก ๆ อย่างเกาะกู่ล่าง (Gulangyu) ที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุโรปเก่า ใครที่อยาก เที่ยวจีนไม่ง้อทัวร์ แบบชิลแต่มีรสนิยม ซีเหมินคือตัวเลือกที่ใช่! บินตรงจากหลายเมืองใหญ่ได้ง่าย มีระบบขนส่งดี และเหมาะกับทั้งสายคาเฟ่ สายศิลป์ และคนที่อยากได้อากาศทะเล

ไฮไลต์:

สวนพฤกษศาสตร์เซียะเหมิน (Xiamen Botanical Garden)
เกาะกู่ลั่งอวี่ (Gulangyu Island)
ถนนคนเดินจงซาน (Zhongshan Road Pedestrian Street)
บ้านดินฝูเจี้ยน (Fujian Tulou)
หาดหูหลี่ซาน (Huli Mountain Beach)

การเดินทางในซีเหมิน (Xiamen)

1.
รถไฟฟ้าใต้ดิน (Xiamen Metro)มีรถไฟฟ้าใต้ดิน 2 สายหลัก (สาย 1 และสาย 2) ซึ่งวิ่งเชื่อมสนามบิน, สถานีรถไฟหลัก และย่านท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ใกล้ท่าเรือเฟอร์รี่ไปเกาะกู่ล่าง (Gulangyu) ป้ายและแอปใช้งานรองรับภาษาอังกฤษ ค่าโดยสารเริ่มต้นประมาณ 2–7 หยวน
2.
รถบัสและ BRT (Bus Rapid Transit)เมืองนี้มีบริการรถบัสกว่า 150 สาย และระบบ BRT ถึง 9 สาย ซึ่งเชื่อมต่อพื้นที่หลักของเมืองอย่างรวดเร็ว ค่าโดยสารเริ่มที่ 1 หยวน (ฤดูร้อน) หรือ 2 หยวน (ฤดูหนาว) ส่วน BRT ค่าโดยสารประมาณ 0.5–0.6 หยวนต่อตารางกิโลเมตร
3.
เรือเฟอร์รี่ไปเกาะกู่ล่าง (Gulangyu)เฟอร์รี่เชื่อมระหว่างท่าเรือในตัวเมืองซูเหมินกับเกาะกู่ล่าง มีให้บริการตั้งแต่เช้าถึงเย็น ราคาเที่ยวละประมาณ 35 หยวน และใช้เวลาประมาณ 8–20 นาที ขึ้นอยู่กับท่าเรือต้นทาง
4.
แท็กซี่และ DiDiแท็กซี่มีให้เรียกได้ทั่วไป ค่าขึ้นต้นประมาณ 8–10 หยวน (3 กม.) และเพิ่มราคาประมาณ 2 หยวน/กม. หลังจากนั้น ยามกลางคืนเริ่มต้นที่ 9.6 หยวน DiDi ก็สะดวก ใช้ภาษาอังกฤษได้ และจ่ายผ่านมือถือได้เลย
5.
จักรยานสาธารณะและลู่จักรยานริมชายฝั่งซีเหมินมีระบบจักรยานสาธารณะ และลู่จักรยานยาวเลียบชายฝั่ง (Island Ring Road) เหมาะกับคนชอบปั่นกินลมชมวิว ตัวจักรยานเช่าราคาไม่แพง (ประมาณ 5–15 หยวนต่อชั่วโมง)

ที่เที่ยวในเมืองใหญ่ ๆ เพิ่มเติม:

เคล็ดลับการซื้อของฝากจีนยังไงให้คุ้ม

การเลือกซื้อของฝากจากจีนให้ได้ของดีและคุ้มค่า เป็นอีกหนึ่งความสนุกที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวจีนด้วยตัวเองก่อนกลับบ้าน อยากให้คุณเตรียมตัวและวางแผนไว้ดังนี้

รู้ราคากลางก่อนซื้อ ลองเช็คข้อมูลราคาของฝากจีนยอดนิยมในออนไลน์ หรือลองถามคนท้องถิ่น เพื่อไม่ให้ถูกชาร์จราคาเกินจริง
ต่อรองราคาเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะตลาดนัดหรือแหล่งขายของฝากที่ไม่ใช่ร้านค้าตามห้างใหญ่ การต่อรองจะช่วยให้ได้ราคาที่ดีกว่า
เลือกซื้อของฝากในแหล่งช้อปยอดนิยม อย่างตลาดหยกในปักกิ่ง, ถนนนานกิงในเซี่ยงไฮ้ หรือถนนคนเดินในลี่เจียง เพราะมีของแท้และราคายุติธรรมกว่า
ตรวจสอบคุณภาพของสินค้า โดยเฉพาะสินค้าหัตถกรรม เครื่องประดับ และชา เพื่อป้องกันของปลอม
พกเงินสดและใช้ WeChat Pay / Alipay เพื่อสะดวกในการจ่ายเงินและได้โปรโมชั่นในบางร้าน
แพ็คของฝากอย่างดี เพราะบางชิ้นอาจแตกหักง่าย ควรเลือกกล่องหรือถุงกันกระแทกจากร้าน
วางแผนพื้นที่ในกระเป๋า ให้พอดีกับของฝากที่ซื้อ จะได้ไม่ต้องเสียค่าขนส่งเพิ่ม หรือเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าที่สนามบิน

การเตรียมตัวดี ๆ จะช่วยให้การซื้อของฝากจีนเป็นเรื่องง่าย สนุก และคุ้มค่าเหมือนกับการเที่ยวเองแบบไม่ง้อทัวร์เลยทีเดียว

สุดท้ายนี้! การเที่ยวจีนด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยระบบขนส่งที่ทันสมัย แหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย และเทคโนโลยีช่วยเหลือต่าง ๆ ที่พร้อมสนับสนุนการเดินทางของคุณ ไม่ว่าคุณจะไปคนเดียว หรือไปกับเพื่อน จีนก็มีเสน่ห์ที่รอให้คุณไปค้นพบ ตั้งแต่เมืองใหญ่ที่ทันสมัย ธรรมชาติที่งดงาม ไปจนถึงเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม

อย่ากลัวที่จะวางแผนและลองจัดทริปด้วยตัวเอง เพราะนั่นจะเป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มความทรงจำให้กับคุณแบบไม่มีวันลืม และถ้าใครกำลังมองหาไอเดียเที่ยวจีนแบบประหยัด ปลอดภัย และเต็มไปด้วยความสนุก บทความนี้คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับคุณ!

ถ้าพร้อมจะออกเดินทางแล้ว อย่าลืมจองตั๋วเครื่องบินและที่พักในจีนกับ Traveloka ที่เดียวครบจบทั้งเที่ยวบินและที่พักด้วยราคาน่ารักสบายกระเป๋า แถมมีโปรโมชั่นเด็ด ๆ มาแจกเป็นประจำ!

เที่ยวบินที่แนะนำในบทความนี้

Wed, 1 Oct 2025
Air Macau
กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)
เริ่มจาก THB 2,666.83
จองเลย
Mon, 29 Sep 2025
China Eastern Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)
เริ่มจาก THB 3,156.49
จองเลย
Sun, 28 Sep 2025
China Southern Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)
เริ่มจาก THB 3,181.08
จองเลย

บทความแนะนำ

25 ที่เที่ยวสุรินทร์ พร้อมลิสต์กิจกรรม ที่พักยอดนิยม [อัปเดต 2025]

19 Sep 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 2 นาที

25 ที่เที่ยวลำพูน พร้อมลิสต์กิจกรรม ที่พักยอดนิยม [อัปเดต 2025]

18 Sep 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 3 นาที

25 ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน พร้อมลิสต์กิจกรรม ที่พักยอดนิยม [อัปเดต 2025]

16 Sep 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 8 นาที

เช็กให้ชัวร์! คู่มือเที่ยวเซี่ยเหมิน เดือนไหนวิวสวย อากาศดี มาดูเลย

11 Sep 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 6 นาที

แจกพิกัดไหว้พระ 19 วัดดังในกรุงเทพฯ สำหรับสายมู วันเดียวก็ไหว้ครบ

08 Sep 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 8 นาที

เปิดลิสต์ 15 ซีรี่ย์จีนพระเอกคลั่งรัก ฟินจิกหมอนหนัก อินจนหยุดดูไม่ได้!

07 Sep 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร