เช็คอินเมืองเลย พิชิตยอดภูกระดึง ครั้งหนึ่งในชีวิตคือต้องไป!

Thamonwan B
08 Dec 2020 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 3 นาที

ภูกระดึงคือหนึ่งในพิกัดสุดคลาสสิกที่หลายคนตั้งเป้าว่าต้องไปซักครั้งให้ได้ แล้วถ้าสนใจ บอกเลยว่าอย่ารอ! เพราะนี่คือไฮซีซั่นของการขึ้นภูกระดึงแล้วจ้ะ แถมนอกจากที่นี่นะ เมืองเลยยังมีพิกัดเริ่ดๆ อีกเพียบให้เราได้เช็คอินกัน และถ้าไม่อยากเพลียเพราะต้องนั่งรถหลังแข็งกันข้ามคืน แนะนำให้เลือกบินตรงดิ่งไปเมืองเลย แล้วเช่ารถขับเที่ยวกันแบบชิลล์ๆ ง่ายๆ ที่สำคัญคือจะได้เที่ยวทุกที่ที่อยากไปกันแบบครบๆ เลยจ้า ทั้งตั๋วเครื่องบินและรถเช่าก็มองหาจาก Traveloka ได้เลย ยิ่งเดี๋ยวนี้เค้าเพิ่ม Feature เปรียบเทียบราคาตั๋วจากทุกสายการบินให้เราเลือกดูได้อีก ก็ยิ่งสะดวกมาก เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปงมหาเองว่าสายการบินไหนจะถูกที่สุด บอกเลยว่าจองก็ง่ายแถมราคาก็แฮปปี้ และถ้าอยากรู้ว่าทริปนี้เราจะมีพิกัดไหนมาฝากกันบ้าง ก็ออกเดินทางไปพร้อมกันได้เลยจ้า!

ขึ้นภูกระดึง เที่ยวจุดเช็คอินเมืองเลย

พิกัดแรกที่เราจะพาไป ก็คือจุดหมายหลักอย่างภูกระดึง ซึ่งโดยปกติแล้วต้องใช้การนั่งรถทัวร์รอบค่ำแบบล้าๆ มาจากกรุงเทพฯ กันถึง 9 ชั่วโมง ในขณะที่บินมาเมืองเลยนั้นใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวเอง เก็บแรงเอาไว้ปีนขึ้นภูได้สบายๆ เพราะเราต้องเดินกันไปยาวๆ อีกเกือบ 9 กิโลเด้อ

ความคลาสสิกอีกอย่างของภูกระดึงซึ่งเห็นกี่ครั้งก็ทึ่งมาก นั่นคือการใช้บริการลูกหาบเพื่อช่วยขนสัมภาระของเราขึ้นไปด้านบน บอกเลยว่าอเมซิ่งมากจ้า เพราะแค่เราเดินตัวเปล่าก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดแล้วนะ แต่ชาวคณะลูกหาบคือเดินกันแบบพลิ้วๆ ทั้งที่แบกของเพียบ! ยอดมนุษย์มากจ้ะ คารวะจริงๆ

บนภูกระดึงนั้นมีธรรมชาติที่สวยแปลกตาไม่เหมือนกับที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นพื้นทราย ป่าสน น้ำตก หรือต้นเมเปิ้ลซึ่งจะทำให้ที่นี่มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ดูแบบไม่ต้องไปถึงเมืองนอกด้วยจ้า แต่ถ้าอยากเห็นวิวนี้คือต้องไปช่วงปลายตุลาถึงต้นเดือนพฤศจิกายนเด้อ อันนี้อยู่ที่การกะเวลาและดวงส่วนตัวเป็นหลักนะทุกคน

ด้านบนภูกระดึงนั้นเป็นพื้นที่ราบซึ่งกว้างมากกก ไฮไลท์หลักของที่นี่จึงเป็นการเดินตามล่าพระอาทิตย์ผ่านหน้าผาตามทิศต่างๆ ที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ซึ่งบอกได้เลยว่าถ้าจะดูให้ครบคือสามวันไม่พอจ้ะ แต่พิกัดหลักๆ ที่แนะนำให้ปักหมุดไว้เลยก็คือผานกเค้าและผาหล่มสัก ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คที่ต้องได้เห็นเมื่อมาถึงภูกระดึงเลยเชียว

นอกจากดูพระอาทิตย์และทะเลหมอกแล้วนะ ความโรแมนติกอีกอย่างของภูกระดึงก็คือการที่เราจะได้เห็นดาวเต็มท้องฟ้ายามค่ำคืนแบบแน่นๆ เต็มๆ ตา ชนิดที่เหมือนแค่เอื้อมมือก็คว้าได้กันเลยเชียวละ อากาศหนาวๆ มีดาวเต็มท้องฟ้า บอกเลยว่าเป็นบรรยากาศที่โรแมนซ์จนคนโสดอารมณ์เสียมากจ้ะ พูดเลย

เทียบกับภูเขาลูกอื่นๆ นะ เราว่าภูกระดึงคือพิกัดที่ตอนเดินขึ้นคือยากลำบาก แต่ข้อดีคือด้านบนน่ะแสนจะสะดวกสบาย เพราะมีร้านค้า มีจุดเช่าจักรยาน มีห้องน้ำ และที่เด็ดสุดคืออาหาร เพราะมีสารพัดเมนูให้เลือกชิมกันแบบจุกๆ เลยละ ส่วนที่ยืนหนึ่งจนต้องขอมอบมงให้ก็คือหมูกระทะและจิ้มจุ่มจ้า ท่ามกลางอากาศหนาวๆ ดาวเต็มท้องฟ้าบนยอดภูนะ นั่งกินสองเมนูนี้คือนิพพานจ้ะ พูดเลย!

ไหนๆ ก็พูดถึงดินเนอร์บนภูกระดึงไปแล้ว คงต้องขอเม้าท์ถึงมื้อเช้ากันต่อเพื่อความครบครัน ซึ่งบอกเลยว่าเด็ดไม่แพ้กันจ้า ไม่ว่าจะเป็นโจ๊ก นมร้อน กาแฟ หรือชา อาหารตามสั่ง ขนมปังปิ้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปร้อนๆ และไข่กระทะ ทั้งหมดนี้หาได้ในยามเช้า นั่งดูหมอกขาวๆ ที่มาพร้อมแสงแรกอุ่นๆ พร้อมกินเบรคฟาสต์ที่บอกมานี่นะ สวรรค์จริงๆ จ้า ไม่จกตา รับรองเลย

ปิดท้ายความสนุกบนภูกระดึงด้วยการพูดถึงเจ้าถิ่นอย่างน้องกวางกันซักหน่อย จริงๆ แล้วบนภูกระดึงมีสัตว์ป่าซึ่งอาศัยอยู่ตามธรรมชาติหลายชนิดเลยนะ ตั้งแต่สัตว์เล็กสัตว์น้อยไปจนถึงช้าง! แต่ขาประจำซึ่งมั่นใจว่าเกือบทุกคนที่ขึ้นมาบนนี้ต้องได้เจอกันแน่นอนก็คือน้องๆ เหล่านี้นี่ละ เพราะพวกนางจะมาเยี่ยมกันถึงหน้าเต็นท์นอนเลยจ้า ยิ่งในช่วงเวลาค่ำๆ นะ จะยิ่งหาตัวได้ง่ายเชียว โดยเฉพาะในแถบโซนร้านอาหาร เวลามาที่นี่ ข้อสำคัญจึงเป็นเรื่องของการทิ้งขยะให้ถูกที่ถูกทางเด้อ ไม่งั้นดึกๆ น้องมาเจอ น้องจะงับเข้าไป แล้วถ้าเป็นพวกถุงพลาสติกหรือโฟมก็อาจจะทำให้น้องเป็นอันตรายได้น้า อย่าเผลอเชียว

นอกจากภูกระดึงแล้ว เมืองเลยยังมีแลนด์มาร์คเด็ดๆ อีกหลายแห่งที่เราอยากชวนให้มาปักหมุดกัน เริ่มต้นด้วยการมุ่งหน้าไปบนภูป่าเปาะ ซึ่งเป็นพิกัดที่สามารถชมความสวยของภูหอ อันเป็นภูเขาที่ให้อารมณ์คล้ายคลึงกับภูเขาไฟฟูจิในประเทศญี่ปุ่นเชียวละ แถมยังไม่ต้องใช้กำลังขามากมายนักเพราะมีรถรับ - ส่งของชาวบ้านพาขึ้นไปจ้า ถือว่าชิลล์นะ โดยเฉพาะเมื่อเราเพิ่งลงมาจากภูกระดึง!

จากภูป่าเปาะ ขอชวนมุ่งหน้าต่อไปยังไฮไลท์ที่หลายคนรู้จักกันดีอย่างเชียงคาน เมืองเล็กๆ ที่มีอาคารไม้แบบเก่าแสนจะคลาสสิกริมฝั่งแม่น้ำโขงให้ได้แวะพักแวะชิลล์กัน เชียงคานนั้นให้ฟีลสบายๆ ซึ่งหลายคนบอกว่าคล้ายกับเมืองหลวงพระบางในประเทศลาว มีทีเด็ดเป็นถนนคนเดินที่แสนจะน่ารัก และบรรดาเมนูอาหารประจำถิ่นที่บอกเลยว่าเริ่ดมาก ถ้าลงจากภูกระดึงมาแล้วเวลายังเหลือ อยากชวนให้ขับรถมานอนพักร่างที่เชียงคานกันซักคืนสองคืนนะ เชื่อว่าแฮปปี้แน่นอน

เมื่อมาเยือนเชียงคานทั้งที ก็ไม่อยากให้พลาดการได้มีโอกาสขึ้นมาชมวิวมุมสูงกันที่ภูทอก ซึ่งบางวันจะมีทะเลหมอกให้ได้เห็นกันด้วยนะถ้าอากาศเป็นใจ แนะนำให้มาถึงเช้าหน่อย เพราะถ้าไม่ได้เห็นทะเลหมอกก็ยังได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมวิวสวยๆ และอากาศหนาวๆ ที่มีให้สัมผัสกันแน่นอน ยังไงก็เพลินไม่เสียเที่ยวละ เชื่อเรา

ถ้ายังดูวิวมุมสูงกันแบบไม่จุใจ ขอชวนให้ขับรถไปภูลำดวนกันต่อเลยจ้า รับรองว่าไม่มีผิดหวัง เพราะที่นี่มีวิวทิวเขาสลับซับซ้อนของฝั่งประเทศลาวให้ชมกันแบบจุกๆ ไปเลยละ ถ้ามาตอนเช้าก็อาจจะมีลุ้นได้เห็นทะเลหมอกด้วยนะ ความเริ่ดอยู่ตรงทางเดินไม้สุดน่ารักที่จะพาเราเดินชมวิวไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าผาที่เป็นไฮไลท์ ซึ่งเราบอกได้เลยว่าวิวที่นี่คือสุดปังจ้ะ เค้าเพิ่งเปิดให้เที่ยวกันได้ไม่กี่ปีด้วยนะ ใครหาพิกัดสวยๆ ไว้กดชัตเตอร์อยู่ละก็ ขอบอกว่าตรงนี้ดี!

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ไม่ไกลมากนักจากเชียงคาน และเพิ่งเปิดให้ได้เที่ยวกันได้เมื่อไม่นานนี้เอง ก็คือสกายวอล์คเชียงคาน ซึ่งเป็นพิกัดชมวิวด้วยความสูง 80 เมตรเหนือแม่น้ำโขง เทียบได้เท่ากับตึก 30 ชั้นเท่านั้นจ้าาา! ไฮไลท์ของที่นี่คือทางเดินกระจกใสความยาว 100 เมตร ซึ่งชวนให้วาบหวิวเหลือเกินเมื่อมองทะลุลงไปเห็นถึงข้างล่าง แต่แม้จะลุ้นระทึกแค่ไหน ก็บอกได้ว่าคุ้มค่า เพราะว่าวิวตรงหน้าคือเริ่ดจริง!

ถ้ามีโอกาสไปเยือนเมืองเลยในช่วงต้นปี อีกหนึ่งพิกัดที่ไม่อยากให้พลาดเพราะว้าวจริงจังก็คือที่ภูลมโล ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทุ่งซากุระของเมืองไทย เพราะที่นี่มีต้นนางพญาเสือโคร่งปลูกปกคลุมภูเขาอยู่มากมายกว่า 100,000 ต้น! บนพื้นที่ราว 1,000 ไร่!! ซึ่งส่วนใหญ่จะพร้อมใจกันบานสะพรั่งในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี ย้อมให้ภูเขาทั้งลูกเป็นสีชมพูสวยเว่อร์วัง ถ้าคิดถึงวิวซากุระเมืองไทยแบบสุดปัง บอกเลยว่าที่นี่ยืนหนึ่งไม่แพ้ใคร!

ขับรถแค่หนึ่งชั่วโมงนิดๆ จากภูลมโล ก็จะได้ไปกราบนมัสการองค์พระธาตุศรีสองรัก ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี พระธาตุแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสักขีพยานของความปรองดองระหว่างไทยและลาว ที่ร่วมกันต้านการรุกรานจากพม่าในยุคก่อน ทุกวันนี้ที่นี่ก็ยังได้รับความเคารพนับถือทั้งจากชาวไทยและชาวลาวที่อยู่ใกล้เคียง บางคนยังเชื่อว่าถ้ามากราบขอพรด้านความรักและมิตรภาพที่พระธาตุนี้ก็จะมีโอกาสสมหวังค่อนข้างมากอีกด้วยนะ ส่วนการมาสักการะองค์พระธาตุแห่งนี้ข้าวของและเสื้อผ้าสีแดงคือสิ่งที่ต้องห้าม เพราะถือว่าเป็นสีของเลือด ความรุนแรง และความบาดหมาง ยังไงก็ระวังตรงนี้หน่อยเด้อ

อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง คือพิกัดต่อมาที่อยากชวนให้แวะพักตาพักร่างจากการเดินทางกัน ด้วยการไปล่องแพนั่งกินอาหารแบบสบายๆ ท่ามกลางวิวสวยของอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ ส่วนเมนูยอดฮิตก็หนีไม่พ้นอาหารรสแซ่บแบบสุดจี๊ดจ๊าด นั่งกินไป ชมวิวภูเขาและป่าไม้ที่โอบล้อมเราอยู่รอบด้าน ลมพัดโชยๆ เย็นสบาย บอกเลยว่าเป็นอะไรที่ชิลล์มากกก ใครอยากหาที่พักขายืดเส้นยืดสาย ปักหมุดได้เลย รับรองไม่ผิดหวัง

ปิดท้ายทริปกันที่พิกัดสุดคลาสสิกอีกหนึ่งแห่งของเมืองเลย นั่นคืออุทยานแห่งชาติภูเรือ ซึ่งกินพื้นที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวอีกเพียบ โดยเฉพาะน้ำตกและหน้าผาที่มีให้เลือกแวะชมกันหลายแห่งเชียวเด้อ บอกเลยว่าใครรักอากาศหนาวต้องเลิฟภูเรือมาก เพราะด้านบนอากาศเย็นตลอดปีจ้ะ บางครั้งหนาวจนมีแม่คะนิ้งเกาะให้เห็นด้วยนะ ว่าไม่ได้ ใครชอบเดินเล่นในเส้นทางศึกษาธรรมชาติแนวป่าแนวเขา ที่มีวิวสวยๆ ให้เห็นตลอดเส้นทาง ภูเรือคืออีกหนึ่งพิกัดสุดปังที่ควรต้องมา

จังหวัดเลยยังมีพิกัดเจ๋งๆ ให้แวะเช็คอินอีกเยอะเลยนะ เอาไว้คราวหน้าเราจะรวบรวมมาฝากกันใหม่ ถ้าใครยังหาพิกัดสัมผัสลมหนาวแบบจัดหนักไม่ได้ บอกไว้ตรงนี้เลยว่าที่นี่น่าปักหมุดมาก รับรองว่าถ้าชอบธรรมชาติและอากาศเย็นๆ คือไม่มีผิดหวัง และถ้าอยากจัดหนักกับที่เที่ยวปังๆ ของเมืองเลยกันให้ทั่ว ต้องลองใช้บริการรถเช่าขับเที่ยวเลยเท่านั้นจ้า เพราะจะสะดวกและสบายกว่าวิธีอื่นแน่นอน หนาวนี้ปักหมุดเมืองเลยเอาไว้เลยเด้อ รับรองว่าได้เจอวิวสวยๆ และอากาศหนาวๆ กันแบบจุกๆ ชัวร์!

จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร