หากพูดถึงสิงห์บุรี หลายคนอาจนึกถึงแค่เมืองทางผ่าน แต่จริงๆ แล้วจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้อัดแน่นไปด้วยที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัดสวย ตลาดเก่าย้อนยุค คาเฟ่ชิลๆ และธรรมชาติบำบัดใจ เหมาะกับทั้งสายครอบครัว สายบุญ สายถ่ายรูป หรือสายชิล วันนี้ Traveloka ขอพาทุกคนไปตะลุย 16 ที่เที่ยวสิงห์บุรี 2025 อัปเดตล่าสุด เที่ยวได้ทุกสาย พร้อมพิกัดร้านเด็ดและที่พักน่าจองครบจบในบทความเดียว!

เริ่มต้นทริปด้วยที่เที่ยวสิงห์บุรี 2568 แบบอิ่มบุญกันที่ วัดพิกุลทอง วัดดังริมแม่น้ำน้อยที่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวแวะมาสักการะไม่ขาดสาย จุดเด่นคือ หลวงพ่อองค์ใหญ่ หรือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี พระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งตระหง่านให้เห็นตั้งแต่ไกล อีกฝั่งของถนนคือวิการ หลวงพ่อแพ พระเกจิชื่อดังที่ชาวบ้านเคารพศรัทธา ภายในมี พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ จัดแสดงประวัติและของใช้ส่วนตัวให้ได้เรียนรู้ บรรยากาศภายในวัดร่มรื่น สงบ มีสระน้ำให้อาหารปลาได้ด้วย ใครวางแผนเที่ยวสนุกๆ ในสิงห์บุรี อย่าลืมแวะไหว้พระที่นี่ เติมพลังบุญก่อนออกเดินทางกันนะ

ถ้าพูดถึง ที่เที่ยวสิงห์บุรี ที่สายบุญและคนชอบประวัติศาสตร์ต้องแวะให้ได้ คงหนีไม่พ้น วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร วัดเก่าแก่ที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ องค์ใหญ่ยาวถึง 47 เมตร สวยสง่าแบบศิลปะสุโขทัย และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของไทยเลยทีเดียว บรรยากาศภายในวัดร่มรื่น เหมาะทั้งกับการมาสักการะ ขอพร หรือจะแวะถ่ายรูปกับพระนอนสุดอลังการก็ดีไม่แพ้กัน ที่นี่มีความเชื่อว่าหากขอพรแล้วสมหวัง ผู้คนนิยมกลับมาแก้บนด้วยไข่ต้ม หัวหมู หรือบายศรี เป็นอีกหนึ่งวัดดังสิงห์บุรีที่ไม่ควรพลาด ถ้าอยากเริ่มต้นทริปสิงห์บุรีแบบอิ่มบุญและได้ภาพสวยๆ กลับไป

Credit: ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน วัดโพธิ์เก้าต้น https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1110278257769781&set=pb.100063628523098.-2207520000&type=3

ใครสายวินเทจ ชอบฟีลย้อนยุค ต้องปักหมุดที่นี่เลย! ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน คือ ตลาดเก่าสิงห์บุรี ที่ยังคงเสน่ห์ในแบบพื้นบ้านได้อย่างครบถ้วน แม่ค้าพ่อค้าแต่งชุดไทยแบบชาวบ้านบางระจัน เดินผ่านคือเหมือนหลุดเข้าไปในละครย้อนยุคเลย ที่นี่มีทั้งของกินพื้นถิ่น ขนมโบราณ เครื่องจักสาน ไปจนถึงของฝากสุดชิค เดินถ่ายรูปตามซุ้มไม้หรือสะพานไม้ริมคลองคือได้ภาพมุมไหนก็ได้ภาพสวยชวนว้าว นอกจากความสมจริงนี้แล้ว ยังอินกับบรรยากาศได้มากกว่าเดิม เพราะมีการแสดงจากชาวบ้านและเด็กๆ ด้วย น่ารักสุดๆ

วัดโพธิ์เก้าต้น คือหนึ่งในที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของสิงห์บุรี ที่สายบุญและสายประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านบางระจันในอดีต ภายในวัดมีวิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ พระเกจิผู้มีบทบาทสำคัญในการรวมชาวบ้านต่อสู้กับข้าศึก ให้ผู้คนได้เข้ามากราบไหว้ ส่วนด้านหน้าก็เป็นที่ตั้งของ ค่ายบางระจันจำลอง พร้อมกำแพงไม้แบบโบราณให้ได้สัมผัสบรรยากาศย้อนยุคสุดสมจริง อีกหนึ่งจุดที่ไม่พลาดไม่ได้คือ สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านนิยมมาบนบานขอพร และหากสมหวัง ก็มักจะกลับมา “หาบน้ำ” แก้บนตามธรรมเนียมที่สืบต่อกันมา วัดตั้งอยู่ใกล้กับ ตลาดย้อนยุคบางระจัน เหมาะกับการจัดทริปครึ่งวันแบบครบจบ ทั้งไหว้พระ ขอพร และเดินเล่นเพลินๆ ในบรรยากาศไทยโบราณ

อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน คือแลนด์มาร์กที่เล่าขานเรื่องราวความกล้าหาญของชาวบ้านบางระจันในยุคกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ที่รวมพลังกันสู้ศึกพม่านานถึง 5 เดือน แม้จะมีกำลังน้อยกว่าและอาวุธจำกัดก็ตาม อนุสาวรีย์นี้หล่อขึ้นจากรูปหัวหน้าค่ายทั้ง 11 คน โดยกรมศิลปากร ตั้งอยู่กลางสวนร่มรื่น มีทั้งจุดถ่ายรูปสวยๆ และที่ให้นั่งพักผ่อนสบายๆ นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์วีรชนค่ายบางระจัน ให้เรียนรู้ประวัติศาสตร์แบบเพลินๆ ด้วยเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสิงห์บุรี วันเดียว ที่แวะแล้วไม่ผิดหวัง แน่นอน!

สายทำบุญหรือใครที่อยากพักใจในวันเงียบๆ ต้องแวะมาที่ วัดอัมพวัน วัดสายวิปัสสนาชื่อดังแห่งสิงห์บุรี ที่เงียบ สงบ และร่มรื่นแบบสุดๆ ตัววัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน มีต้นไม้ใหญ่เรียงรายให้ร่มเงา ที่นี่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม พระเกจิชื่อดังที่แม้ท่านจะล่วงลับไปแล้ว แต่คำสอนยังคงเป็นแรงศรัทธาให้ผู้คนแวะมาทำบุญและนั่งสมาธิกันไม่ขาดสาย เหมาะทั้งมาพักใจ ปล่อยวาง หรือไหว้พระเติมพลังบวกให้กับตัวเองเลย

ใครหลงเสน่ห์วัดเก่า ต้องไม่พลาด วัดหน้าพระธาตุ อีกหนึ่ง วัดสวย สิงห์บุรี ที่ว่ากันว่าเคยเป็นที่ตั้งของเมืองเก่าสิงห์บุรี ที่นี่บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์ แถมยังมีไฮไลต์อยู่ที่ พระปรางค์สูง 8 วา ศิลปะอยุธยาตอนต้นสุดคลาสสิก มีครุฑถือกระบองประดับเหนือเชิงบาตร และฐานศิลาแลงก่ออิฐแบบโบราณ มุมถ่ายรูปเรียบเท่แต่มีเสน่ห์แบบย้อนยุคสุดๆ นอกจากนี้รอบๆ ยังมี พระวิหารหลวง พระอุโบสถ ที่สวยงามไม่แพ้กัน ใครเป็นสายถ่ายรูป สายไหว้พระ สายตาเช็กอินวัดเก่า ถูกใจแน่นอน

Credit: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี https://www.facebook.com/photo?fbid=308476371306075&set=a.308476327972746

ชวนสายเรียนรู้มาเปิดโลก! ที่นี่คือหนึ่งใน แหล่งเรียนรู้ สิงห์บุรี ที่ต้องลองแวะสักครั้ง! พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินทร์บุรี แหล่งรวมโบราณวัตถุทรงคุณค่าของสิงห์บุรี ตั้งอยู่ในวัดพระอารามหลวง ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุทั้งสมัยทวารวดี อยุธยา และเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวบ้านดั้งเดิม อย่าง คานหามรัชกาลที่ 5, หนังใหญ่วัดประศุภ, พระพุทธรูปหินเขียวสมัยทวารวดี รวมถึงเครื่องประดับสมณศักดิ์ และวัตถุจากแหล่งโบราณบ้านคูเมือง–เตาเผาแม่น้ำน้อย นอกจากนี้ยังมีโซนวิถีชีวิตพื้นบ้านให้ชม ทั้ง เครื่องทอผ้า, เครื่องมือดักปลา, และ การละเล่นพื้นถิ่น ที่สะท้อนเสน่ห์ท้องถิ่นได้อย่างครบครัน บ้านไหนพาเด็กๆ มาเที่ยว แนะนำให้ลองแวะเพิ่มสาระความรู้แบบสนุกๆ

Credit: บ้านข้าวหอมสิงห์บุรี

Credit: บ้านข้าวหอมสิงห์บุรี https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1136412094959363&set=pb.100057717487618.-2207520000&type=3&locale=th_TH

Credit: บ้านข้าวหอมสิงห์บุรี https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1118019053465334&set=pb.100057717487618.-2207520000&type=3&locale=th_TH

ฟีลธรรมชาติแบบชนบทแท้ๆ อยู่ที่นี่! บ้านข้าวหอม ฟาร์มสเตย์ คือ ที่เที่ยวสิงห์บุรี เชิงธรรมชาติ สำหรับคนเมืองที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาใกล้ชิดท้องนาและวิถีชาวบ้าน มีกิจกรรมให้เลือกทำเพียบ ทั้ง ขับ ATV ขี่แทรกเตอร์ ปั่นจักรยานชมทุ่ง ยกยอจับปลา ให้อาหารควายเผือก–ปลา ไปจนถึงนั่งเล่นชมสวนผัก สระบัวแบบชิลๆ ใครติดใจอยากพักต่อก็มีโฮมสเตย์สไตล์บ้านไม้ไว้รองรับ บรรยากาศยามเช้าเงียบสงบ แสงแดดอ่อนๆ ส่องลงบนท้องนาเขียวขจี คือมุมถ่ายรูปที่ต้องเก็บให้ได้!

ถ้าอยากได้รูปฟีลวัดเก่าแบบมีเสน่ห์ไม่ซ้ำใคร ต้องแวะ! โบสถ์ต้นโพธิ์ วัดไทร เป็น จุดเช็กอินสิงห์บุรี ที่ไม่ควรพลาด เพราะโบสถ์ทั้งหลังถูกรากโพธิ์ขนาดใหญ่อุ้มโอบล้อมไว้สวยงาม เกลายเป็นศิลปะจากธรรมชาติที่สวยงามและขลังไม่ซ้ำใคร ให้ฟีลขลัง ลึกลับ และสงบไปพร้อมกัน ถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุมโดยไม่ต้องแต่งเพิ่มเลย! เดิมทีวัดนี้มีชื่อว่า วัดทะยาน ตัวโบสถ์เหลือเพียงกำแพงเก่าที่รากไม้ช่วยพยุงไว้ หลังคาทรุดไปแล้วแต่กลับกลายเป็นความงามแบบธรรมชาติบังแดดบังฟ้าอย่างลงตัว ภายในประดิษฐาน “หลวงพ่อวัดไทร” หรือที่ชาวบ้านแต่เดิมเรียกกันว่า หลวงพ่อทะยาน พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ และยังเป็นจุดสรงน้ำพระในช่วงสงกรานต์ของทุกปีอีกด้วย

ที่เที่ยวสิงห์บุรี 2025 ตลาดปากบาง ตลาดชุมชนเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ อาคารบ้านเรือนหลายหลังยังคงอนุรักษ์ไว้ในให้เหมือนเดิม ให้ฟีลเหมือนเดินอยู่ในฉากหนังพีเรีย ภายในตลาดมีร้านค้าโลคอลและกลิ่นอายของวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบคนรุ่นก่อน นอกจากนี้ยังไฮไลท์ของชุมชนอย่าง ศาลาหลวงพ่อหิน พระศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพศรัทธามานาน และ ศาลเจ้าพ่อปากบางหมื่นหาญ ศาลเจ้าจีนเก่าแก่ที่จัดงาน ประเพณีทิ้งติ้ว เป็นประจำทุกปี เพิ่มสีสันและความคึกคักให้ชุมชนแห่งนี้เสมอ ใครกำลังมองหาที่เที่ยวชิลๆ แฝงกลิ่นอายประวัติศาสตร์ แนะนำให้แวะมาเดินเล่นตลาดนี้สักครั้ง รับรองว่าประทับใจแน่นอน

ใครพาเด็กๆ มาเที่ยวสิงห์บุรี ต้องห้ามพลาดที่นี่! ศูนย์อนุรักษ์ควายไทยเขางาม คือแหล่งเรียนรู้เชิงอนุรักษ์ที่เปิดโอกาสให้สัมผัสกับควายไทยอย่างใกล้ชิด ในบรรยากาศปลอดภัยและเป็นกันเองสุดๆ กิจกรรมก็มีให้ทำเพียบ ทั้งให้อาหารควาย เรียนรู้วิถีชีวิต ถ่ายรูปคู่กับควายไทย และยังได้รู้จักความสำคัญของควายไทยในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะบทบาทของควายในศึกบางระจันสมัยอยุธยา ที่นี่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2543 เพื่อเป็นพื้นที่อนุรักษ์และถ่ายทอดเรื่องราวของ “เพื่อนร่วมบ้าน” ที่อยู่คู่วิถีไทยมายาวนาน เหมาะกับครอบครัวหรือทริปแนว Edutainment สุดๆ

หนึ่งในวัดเก่าแก่ของสิงห์บุรีที่ไม่ควรมองข้ามคือ วัดม่วงชุม วัดสวยอายุกว่า 400 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมมีชื่อว่า “วัดกระดังงา” และมี หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหลังวัด เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านมาช้านาน ต่อมาในปี พ.ศ. 2424 ชาวบางระจันได้ร่วมแรงร่วมใจกันบูรณะวัด และเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดม่วงชุม” โดยมีที่มาชื่อน่ารักจากการที่ชาวบ้านเคยนัดประชุมกันใต้ต้นมะม่วงนั่นเอง เป็นอีกหนึ่งจุดแวะที่นอกจากจะได้ไหว้พระขอพรแล้ว ยังได้สัมผัสบรรยากาศวัดเก่าแก่ที่อบอวลด้วยเรื่องราวของชุมชนในอดีตอีกด้วย ใครกำลังมองหา ที่เที่ยวสิงห์บุรี ไม่เสียค่าเข้า สำหรับพักใจ แนะนำที่นี่เลย

ถ้าใครมองหาสถานที่ชิลๆ สำหรับพักผ่อนในตัวเมืองสิงห์บุรี ต้องแวะมา อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์ อุทยานเล็กๆ บรรยากาศเงียบสงบ ตั้งอยู่ติดกับลำน้ำแม่ลา ลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน เหมาะกับการมานั่งเล่น เดินเล่น หรือปล่อยใจชิลๆ สำรวจเมืองสิงห์บุรีในอีกมุม ความพิเศษของที่นี่ไม่ได้มีแค่บรรยากาศ แต่ยังผูกโยงกับของดีประจำจังหวัดอย่าง ปลาช่อนแม่ลา ปลาช่อนรสชาติเด็ดที่โตในลำน้ำแม่ลา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของสิงห์บุรี ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติแถวนี้ ทำให้เนื้อปลาช่อนอร่อยไม่เหมือนที่อื่น จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดอุทยานแห่งนี้ขึ้น เพื่อให้คนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติของแม่ลาแบบใกล้ๆ

อีกหนึ่ง ที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของสิงห์บุรี โดยเฉพาะใครที่อินงานโบราณคดี โบราณสถานเตาเผาแม่น้ำน้อย ตั้งอยู่ในวัดพระปรางค์ เป็นแหล่งเตาเผาโบราณที่ขนาดใหญ่ที่สุดของยุคกรุงศรีอยุธยา ที่ยังหลงร่องรอยให้ได้ชม ตลอดแนวแม่น้ำน้อยกว่า 2 กิโลเมตร ยังมีร่องรอยของเตาเผาโบราณกระจายอยู่มากกว่า 200 เตา ให้เดินชมแบบใกล้ชิด ได้ฟีลย้อนเวลาไปสมัยอยุธยา ไฮไลต์คือเตาเผาโบราณขนาดมหึมา ยาวถึง 14 เมตร กว้าง 5.6 เมตร ใหญ่เกินคาดแบบต้องร้องว้าว! จะสายชอบเที่ยวแบบได้ความรู้หรือแค่ชอบถ่ายรูปก็ถูกใจ เพราะจะได้ภาพสวยๆ ในฉากเตาเผาเก่าเท่ ๆ แน่นอน !

ปิดท้ายที่เที่ยวสิงห์บุรี 2568 ด้วยการมาสัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่ วัดพระปรางค์ วัดสำคัญอีกแห่งของสิงห์บุรีที่เก่าแก่มากๆ จุดเด่นของที่นี่คือ พระปรางค์ศิลปะอยุธยาตอนต้น สูงประมาณ 15 เมตร ก่อด้วยอิฐแบบดั้งเดิม เชื่อกันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ เลย

และถ้าเดินต่อไปด้านหลังจะเจอกับ วิหารเก่าแบบอยุธยา มีหน้าบันแกะสลักไม้เป็นรูปสิงห์ พร้อมพระอุโบสถที่ยังคงความงดงามตามแบบฉบับของยุคนั้น และถ้าใครชอบของโบราณ บริเวณวัดยังมี ร่องรอยเตาเผาโบราณริมแม่น้ำน้อย ให้ได้เดินชมเพลินๆ ด้วย บรรยากาศวัดเงียบ สงบ เหมาะกับการเดินเล่นชิลๆ หรือจะแวะถ่ายรูปก็ดีงาม เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่เหมาะจะปิดทริปสิงห์บุรีแบบเต็มอิ่มเลย!

ถ้าพูดถึงของดีสิงห์บุรี เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักร้าน แม่ลาปลาเผา ร้านเก่าแก่ที่เปิดมาเกิน 40 ปี ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย เดินทางสะดวก แถมมีที่นั่งทั้งโซนห้องแอร์และโซนริมน้ำ บรรยากาศดีสุดๆ เมนูขึ้นชื่อคือ ปลาช่อนแม่ลาเผา ตัวโตๆ ย่างแบบหนังกรอบ เนื้อฉ่ำ เสิร์ฟคู่สะเดาและน้ำปลาหวานแบบต้นตำรับ หรือจะลองสั่งเมนูปลาอื่นๆ ก็คุ้มทุกจาน ที่สำคัญ! มีโซนขายของฝากด้วย ไม่ว่าจะเป็นปลาช่อนแดดเดียว กุนเชียงปลา ปลาสลิดทอดกรอบ หรือกาแฟหอมๆ ใครแวะก่อนกลับกรุงเทพฯ รับรองของเต็มมือแน่นอน

อีกหนึ่งร้านในตำนานของสิงห์บุรี รำพึง การันตีความอร่อยจนต้องบอกว่า ใครจะไป แนะนำให้จองโต๊ะก่อน! เมนูเด็ดคือเมนูปลา แต่เมนูอื่นก็จัดจ้านถึงใจไม่แพ้กัน รสชาติกลมกล่อมแบบต้นตำรับ ไม่ต้องปรุงเพิ่ม เสิร์ฟมาแต่ละจานแบบจัดเต็ม เหมาะทั้งมื้อครอบครัวหรือยกแก๊งมาอร่อยด้วยกัน บรรยากาศร้านเรียบง่าย แต่อบอุ่นน่านั่งสุดๆ

ใครจะคิดว่า สิงห์บุรี จะมีคาเฟ่ฟีลเมืองตากอากาศซ่อนอยู่! เฌอแตม คือคาเฟ่กึ่งร้านอาหารและวิลล่าส่วนตัวที่ตกแต่งสไตล์ยุโรปสีขาว ล้อมด้วยต้นสนและสระว่ายน้ำ บรรยากาศเหมือนวาร์ปไปเขาใหญ่ มุมถ่ายรูปเพียบตั้งแต่หน้าร้านยันในร้าน มีสนูปปี้ต้อนรับให้กดชัตเตอร์กันตั้งแต่ยังไม่เดินเข้า เมนูมีทั้งคาว–หวานครบ เครื่องดื่มเน้นสายหวาน ใครชอบจิบกาแฟพร้อมถ่ายรูปสวยๆ ต้องแวะ!

ไชยแสงพาเลส หนึ่งในโรงแรมยอดนิยมของจังหวัดสิงห์บุรี ที่ตั้งอยู่ในทำเลดีเยี่ยม ใกล้ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่ง และร้านอาหารท้องถิ่นดังๆ ถึงแม้ตัวอาคารจะดูเก่าเล็กน้อย แต่ภายในยังคงสะอาดเรียบร้อย พนักงานบริการดี ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง เหมาะกับคนที่ต้องการที่พักสะดวก ปลอดภัย และอยู่กลางเมือง

Chaisaeng Villa Hotel ที่พักสิงห์บุรีใจกลางเมือง บรรยากาศร่มรื่น ห้องพักกว้างขวาง สะอาด พนักงานต้อนรับให้บริการดีและยืดหยุ่น ขอ Late Check Out ได้ ห้องพักใหญ่ เงียบสงบ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีโซนบาร์และร้านอาหารให้ได้ปล่อยใจชิลๆ ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสุดๆ

Golden Dragon Resort โรงแรมทำเลดี ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระนอนจักรสีห์ และวัดพิกุลทอง เดินทางง่าย ใกล้ร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้ง ข้างในกว้างขวาง ห้องพักสะอาด เตียงนุ่ม มีอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ให้เลือกหลากหลาย ที่จอดรถสะดวก พักสบาย เหมาะกับทั้งครอบครัว คู่รัก หรือกรุ๊ปทัวร์ที่อยากได้ความครบครันในราคาดีๆ เลย

จากกรุงเทพฯ ไปสิงห์บุรีใช้เวลาเพียง 1.5–2 ชั่วโมงเท่านั้น จะขับรถเองก็ง่าย หรือจะใช้บริการขนส่งสาธารณะก็สะดวกไม่แพ้กัน

รถยนต์ส่วนตัว

ขับจากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายเอเชีย (ทางหลวงหมายเลข 32) มุ่งหน้าภาคเหนือ วิ่งตรงยาวผ่านอยุธยา อ่างทอง ถึงสิงห์บุรีได้แบบไม่มีหลง เส้นทางดี ขับสบาย หมาะกับสาย Road Trip สุดๆ

ใครไม่มีรถส่วนตัวก็ไม่ต้องห่วง! สามารถจองรถเช่าผ่าน Traveloka แล้วขับเที่ยว สิงห์บุรี ได้แบบชิลๆ ทั้งสะดวกและสนุกในทริปเดียว

รถตู้โดยสาร / รถบัส

คนไม่มีรถส่วนตัวก็เดินทางสะดวก เพราะมีบริการจาก หมอชิต มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองสิงห์บุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง รถออกถี่ทั้งวัน

รถไฟ

คนที่อยากลองเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ สามารถนั่งรถไฟสายเหนือจากสถานีหัวลำโพง มาลงที่สถานี อินทร์บุรี แล้วต่อรถเข้าตัวเมือได้เลย

วางแผนเที่ยวให้ครบ จบในวันเดียว หรือค้างคืนก็เวิร์ก! Traveloka เอาเคล็ดลับเล็กๆ ที่จะทำให้ทริปสนุกและราบรื่นมากยิ่งขึ้นมากฝาก!

ใครว่าเมืองเล็กจะไม่มีอะไรน่าสนใจ! สิงห์บุรีคือจังหวัดที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งวัดเก่าแก่ ตลาดย้อนยุค จุดเช็กอินหลากหลาย และร้านอาหารพื้นบ้านรสจัดจ้าน จะเที่ยวสายบุญ สายชิล หรือสายถ่ายรูปก็เก็บได้ครบแบบไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ว่าจะเที่ยวแบบ ไปเช้าเย็นกลับ หรือพักค้าง 1 คืน ที่นี่ก็ตอบโจทย์ทั้งความสะดวก งบไม่แรง และบรรยากาศชวนผ่อนคลาย อย่าลืม! จองทุกอย่างไว้ล่วงหน้าผ่าน Traveloka ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมในสิงห์บุรี ทำเลกลางเมือง หรือรถเช่าขับเที่ยวสบายๆ ออลอินวันแอป ใช้ง่าย จองได้ครบ จบในไม่กี่คลิก ส่วนใครที่กำลังมองหาจังหวัดอื่นในภาคกลางที่เที่ยวสนุกไม่แพ้กัน Traveloka ก็มีลิสต์ 12 ที่เที่ยว 12 จังหวัดเมืองรองน่าเที่ยวภาคกลาง ให้ตามรอยต่อได้ อย่าลืมแวะเข้าไปดูกันนะ!