001 เริ่มการเดินทาง
ทริปดอยหลวงเชียงดาวในครั้งนี้เมื่อเรารู้ว่าต้องใช้แรงเดินไปกลับกว่าสิบกิโล เราเลยตัดสินใจเลือกมาเชียงใหม่ด้วยวิธี“เครื่องบิน” สะเลย เร็ว ราคาไม่แพงมากแถมเซฟแรงการเดินทางไปได้เยอะเลย ส่วนการจองเราเลือกใช้เว็บกลางของTraveloka ในการจอง สะดวกง่าย ไม่ต้องเข้าเว็บสายการบินทีละเว็บให้ยุ่งยาก เพราะใน Traveloka รวบรวมไว้หมดว่า สายการบินไหน ช่วงเวลาไหนและราคาที่เหมาะสมที่สุดไว้ให้พร้อม ซึ่งตอนนี้ทางได้ออกฟีเจอร์ใหม่ที่เอาไว้ใช้เปรียบเทียบหาตั๋วโปรราคาสุดคุ้มโดยไม่ต้องนั่งหาเทียบจากหลายเว็บให้เปลืองเวลาเลย สะดวกในการใช้งานมาก #Travelokaเทียบแล้วเที่ยวเลย
รอบนี้เรามาเชียงใหม่ด้วยสายการบินนกแอร์ราคาตั๋วไปกลับไม่ถึงสองพันบาท แถมโหลดกระเป๋าฟรีอีก 10 กิโล(เพราะอุปกรณ์เดินป่าเยอะและหนักมาก ถ้าโหลดไม่ได้คือแย่เลย)
แสงของเมืองเชียงใหม่ในช่วงฤดูหนาวคือที่สุดอากาศเย็นๆ สบายๆ แสงตอนเย็นก็สวยมากเราใช้เวลาไม่นาน เครื่องก็มาถึงเชียงใหม่
เรามาถึงเชียงใหม่ก็เย็นแล้ว คืนนี้เลยนอนพักกันในเมืองพร้อมเช่ามอเตอร์ไซด์ 1 คัน เพื่อพรุ่งนี้เช้าจะได้แว๊นไปที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวกัน
002 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว
ก่อนอื่นเลยเราต้องทำการจองและส่งเอกสารสำเนาบัตรประชาชน เพื่อขอขึ้นดอยหลวงเชียงดาวกันก่อน รายละเอียดตามรูปนี้เลยส่วนใครจะเช่าเตนท์ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย และหากไม่ได้รับเมลล์ตอบกลับ แนะนำให้โทรถามซ้ำกับเจ้าหน้าที่อีกทีนึง
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจจองเราก็มาลงทะเบียนกันต่อที่หน้างาน
อันดับแรก ตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายกันก่อนและเตรียมบัตรประชาชนไปจุดที่ 2 และระบุว่าเช่าอุปกรณ์อะไรบ้างแต่ละอุปกรณ์จะมีค่ามัดจำ ซึ่งลงมาถึงได้คืน ดังนั้นแนะนำให้เพื่อนๆพกเงินเผื่อกันไว้หน่อยน๊า
หลังจากนั้นลำดับ 3 ให้ชำระค่าธรรมเนียมต่างๆและไปต่อจุดที่ 4 คือชำระค่าเช่าเตนท์และค่ามัดจำอุปกรณ์ต่างๆ และนี่คือรายละเอียดค่าเช่าอุปกรณ์ รวมถึงค่ารถค่าลูกหาบ ดูได้ในรูปนี้เลย
พอเสร็จจากจุดที่ 4 เราก็มาจุดที่ 5 กันต่อคือการเข้ารับฟังวิธีการเดินศึกษาธรรมชาติดอยหลวงเชียงดาว สิ่งไหนห้ามทำและข้อปฏิบัติต่างๆ
นอกจาก ห้ามดื่มสุราและงดใช้เสียงหลังสี่ทุ่มแล้ว มีอีกเรื่องที่เป็นอีกกฎที่บังคับคือ ห้ามขับถ่ายบนลงพื้นดิน เนื่องจากปัสสาวะและทำให้พื้นดินเป็นโป่งทำให้สัตว์มาทำเป็นที่อยู่อาศัย ทำให้บริเวณกางเตนท์ที่เคยกางได้ก็กางไม่ได้และทำให้วิธีชีวิตของสัตว์เปลี่ยนไปด้วย ดังนั้นทุกคนเลยต้องเรียนวิธีการใช้อุปกรณ์ขับถ่าย
พอนั่งฟังจบก็เตรียมตัวขนของขึ้นรถไปจุดเริ่มเดินกัน
ใครจ้างลูกหาบไว้ก็เตรียมของรอไว้เลยส่วนใครไม่จ้างก็รอเจ้าหน้าที่จัดคิวรถได้เลย
รถ 1 คันนั่งได้ประมาณ6 คน ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง
ผ่านไป 2 ชั่งโมงเราก็มาถึงจุดเริ่มเดินแล้ว(เด่นหญ้าขัด) จุดนี้จะเป็นจุดที่มีห้องบริการเป็นจุดสุดท้าย ลืมบอกไปว่าปีนี้จะปิดเส้นทางปางวัวนะเนื่องจากยากต่อการจัดการและชอบแอบมีนักท่องเที่ยวหนีเดินขึ้นไปเอง ดังนั้นรอบนี้ก็จะขึ้นได้แค่ฝั่งเดียวนั้นคือฝั่งเด่นหญ้าขัด
003 พิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาว
มาถึงจุดเริ่มเดินแล้ว ก็ต้องถ่ายคู่กับป้ายนี้เป็นที่ระลึกสักหน่อยให้ดูสภาพก่อนเริ่มเดิน 55555
ระยะทางจากจุดเริ่มเดินไปลานกางเตนท์ประมาณ 8.5กิโลและจากเตนท์ขึ้นไปบนยอดอีกประมาณ 2 กิโลและนี่คือระหว่างทางเดิน ช่วงเริ่มแรกๆ ทางยังราบๆ ขึ้นบ้างเล็กน้อยแต่เดินสบาย วิวสวย
บอกก่อนว่าระหว่างทางเดินคือเพลินมา ดอกไม้แปลกๆมีให้ดูตลอดทางเลย
และใครมาดอยหลวงเชียงดาวจะพลาดไม่ได้กับดอกเทียนนกแก้วซึ้งมองดีๆ ดอกจะเป็นรูปนก คือชัดมากๆๆ
ตอนเดินอยู่เจอพี่ลูกหาบท่านนึงไม่แน่ใจกรุ๊ปไหนแบกผ้าห่มขึ้นมาเลย คืนนี้นอนอุ่นแน่นอน 55555
เดินไปเรื่อยๆ ก็ยังคงเจอดอกไม้แปลกๆตลอดทางเลย
รีวิวเส้นทางหน่อย ตอนเริ่มเดินจะเป็นทางง่ายๆ ราบๆมีขึ้นบ้างนิดหน่อยแต่พอใกล้ถึงจุดกางเตนท์ จะเริ่มเจอทางเดินขึ้น โดยขึ้นแบบหนืดๆๆ แนะนำให้พกน้ำดื่มไว้คอยจิบด้วยน๊าเพราะกลางวันเชียงใหม่ร้อนมากกกก TT
เราใช้เวลา 4 ชั่วโมงก็มาถึงจุดกางเตนท์แล้ว(แวะกินข้าวครึ่งชั่วโมง) สิ่งแรกที่เจอเลยคือ ร้านค้าสวัสดิการข้างบนกรีสมากๆๆๆ
และมีอีกสิ่งที่ทำให้กรี๊สหนักกว่าเดิมเลยก็คือที่นี่มีโค๊กขายกระป๋องละ 40 บาท ดีใจน้ำตาไหล แงงง 100 นึงก็ยอมมมมม
หลังจากซื้อโค๊กเสร็จ เพื่อนๆที่เช่าเตนท์ไว้ก็ยื่นเอกสารจองเตนท์ให้เจ้าหน้าที่และเลือกเตนท์ได้เลย ส่วนใครนำเตนท์มากางเองก็หาที่กางได้เลย
ส่วนเราพอถึงเตนท์ก็จิบโค๊กไปชิลๆรอเวลาขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตก
เวลาประมาณเกือบๆ 5 โมงเย็นเราก็เตรียมตัวขึ้นยอดดอยหลวงเชียงดาวกัน ทางเดินก็คือขึ้นแบบรัวๆๆๆๆ มากกกทางราบไม่มีเหนื่อยก็พักไปเรื่อยๆ
ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงยอดดอยหลวงเชียงดาวแล้วและสิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้กรี๊ดออกมาไม่รู้ตัวว
ดีใจได้เห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวแล้วววว ต้องบอกก่อนว่าเราเคยมาที่นี่เมื่อ 4-5 ปีก่อนแต่ต้องผิดหวังเพราะฟ้าปิดตลอดเวลาเลย TT ทำให้รอบนี้ตัดสินใจกลับมาซ้ำอีกครั้ง
และการซ้ำครั้งนี้ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แสงเย็นวันนี้สวยมากๆๆๆๆๆๆๆ
พอแสงเย็นหมดเราตัดสินใจรอดูทางช้างเผือกกันต่อ แต่ระหว่างรออยู่ดีๆ มีเมฆก้อนใหญ่มาบังฟ้าไว้รอจนทุ่มนึงฟ้าไม่มีท่าทีจะโปร่ง เลยตัดสินใจลง ตอนมืดต้องระวังหน่อยนะไฟฉายสำคัญมากๆๆๆ แต่เหมือนโดนแกล้งพอลงมาเราทำอาหารกินเสร็จเตรียมจะนอนเงยหน้ามองฟ้าอีกที ทำให้เห็นว่าฟ้าเปิดแล้ววว เราเลยถ่ายดาวตรงเตนท์เรานี่แหละ ขึ้นไม่ไหวแล้ว แง
ส่วนค่ำคืนนี้ นอนแล้วน๊า ฝันดี Zzzzzzzzz
004 แสงเช้าบนยอดดอยหลวงเชียงดาว
เดิมทีแต่ก่อนถ้าตอนเช้าเราต้องเดินขึ้นฝั่งกิ่วลมแต่หลังจากเกิดไฟฟ้าที่นี่ทำให้ต้องปิดฝั่งกิ่วลมเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ดังนั้นแสงเช้าวันนี้เราก็กลับมาจุดเดิมนั้นก็คือยอดดอยหลวงเชียงดาว
มีคนเคยบอกเราว่ามาเชียงดาว 5 ครั้งแต่ละครั้งวิวไม่เคยจะเหมือนกัน ครั้งนี้ก็เช่นกันเพราะอยู่ดีๆแสงก็ระเบิดตู๊มมาตอนไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ ฮือฮากันทั้งดอย
พอเราอิ่มหน่ำกับแสงเช้าแล้วเราก็มาเดินรอบยอดดอยกัน มาทั้งทีจุดที่ขาดไม่ได้ก็คือป้ายสินะ....
พอจากป้ายเพื่อนๆ เดินไปสุดได้เลย ก็จะเห็นวิวในอีกมุมมองนึง
จริงๆตอนเช้า หมอกเยอะมากนะ แต่เราสิ๊มัวแต่หลงกับแสงเช้าอยู่ พอจะมาถ่าย หมอกเริ่มหายเลย แงงง
เราเดินเล่นกันอยู่พักใหญ่ๆ เราก็ต้องเตรียมลงและเพราะกะจะเดินกลับประมาณ 9 โมงเช้าก่อนกลับเราพาเพื่อนมาดูห้องน้ำกัน ข้างบนจะมีห้องอยู่ 4 ห้องข้างในจะมีเก้าอี้ตัวนึง ไว้ให้เราคอยนั่งปลดทุกข์
ถึงเวลาเดินกลับจริงๆแล้วจะบอกว่าเส้นทางเดินกลับก็ตื่นเต้นพอกันเพราะระหว่างทางคือสวยมาก แวะถ่ายรูปตลอดทางเลย55555
อีกจุดที่แบบเห็นวิวและต้องแวะ
ดอกไม้ยังคงเบ่งบานและมีตามระหว่างทางเรื่อยๆเลยย
ขอจบด้วยรูปนี้น๊าทุกคนนนน ไปเที่ยวป่ากันแล้ว อย่าลืมรักษากฎและนำขยะทุกชิ้นลงมาทิ้งด้วยน๊า ไว้เจอกันใหม่ป่าหน้าเน้อออ : ))