0

Thawatchai Prommai

30 Mar 2021 - 4 min read

แจกแพลนทริป ขับรถเที่ยวทั่วเชียงใหม่สไตล์สายเขียว

ในช่วงโควิดแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะออกไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ แต่เราก็สามารถเดินทางไปตะลุยเที่ยวพักร้อนคลายความกังวลจากการทำงานได้เหมือนกัน ซึ่งในครั้งนี้เราได้วางแผนออกเดินทางไปสัมผัสเมืองเชียงใหม่ เมืองยอดฮิตของภาคเหนือ ดินแดนที่เต็มไปด้วยของอร่อยขึ้นชื่อและคาเฟ่สุดชิคมากมาย ตลอดไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งธรรมชาติที่สายเขียวจะต้องติดใจและชื่นชอบความ Slow Life แห่งภาคเหนือจนไม่อยากกลับอย่างแน่นอน ซึ่งในครั้งนี้เราจะออกเดินทางทั้งหมดเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน โดยการจองตั๋วเครื่องบินเชียงใหม่ แล้วเช่ารถขับเที่ยวชมธรรมชาติ พร้อมทั้งแวะเที่ยวรอบเมืองกันแบบเพลิน ๆ สไตล์คนเนิบ ๆ

ซึ่งการเดินทางของเราจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ในครั้งนี้ เราได้กดจองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka เพราะเห็นว่าเขามีฟีเจอร์ Price Alerts สุดพิเศษที่ช่วยเปรียบเทียบและแจ้งเตือนราคาตั๋วเครื่องบินของสายการบินต่าง ๆ ในเรทราคาที่เราต้องการ เพื่อให้ได้ตั๋วในราคาที่ถูกที่สุด แถมขั้นตอนในการจองและชำระเงินยังง่ายและสะดวกสบายมาก ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์คนงบน้อยอย่างเราได้มากเลยทีเดียว

price alerts

เที่ยวเชียงใหม่วันที่ 1

หลังจากที่เครื่องได้แลนด์ดิ้งเป็นที่เรียบร้อย เราก็ได้เดินไปหยิบสัมภาระเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถและมุ่งหน้าไปยังที่พัก ซึ่งการเดินทางเที่ยวเชียงใหม่ของเราในทริปนี้ เราได้เช่ารถกับ Traveloka อีกเหมือนกัน เพราะเห็นว่าเขามีบริการเช่ารถขับเอง และเมื่อหารเฉลี่ยรายวันต่อหัวก็ถูกมาก ๆ ทางเราจึงไม่รอช้ารีบกดจองใช้บริการแบบทันที

พอรับรถและเซ็นเอกสารต่าง ๆ กับทางเจ้าหน้าที่เสร็จ เราก็มุ่งหน้าไปยังบูชิตา นิมมาน เพื่อเช็กอินและเก็บกระเป๋าก่อนจะออกเดินทางไปปักหมุดกันต่อ โดยที่พักแห่งนี้คืนละเพียงหลักร้อยเท่านั้น แต่สิ่งอำนวยความสะดวกภายในครบครันมาก ๆ แถมเจ้าหน้าที่ยังคอยให้ความช่วยเหลือและบริการอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับตัวเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ของเชียงใหม่อีกด้วย

หลังจากที่ได้เช็กอินเป็นที่เรียบร้อย เราก็เดินทางไปเช็กอินกันที่แรกกับพระบรมธาตุดอยสุเทพ เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยกันสักหน่อย เพราะหากใครมาถึงเชียงใหม่และไม่ได้แวะไปที่พระธาตุดอยสุเทพ ก็ยังเหมือนมาไม่ถึง เพราะที่แห่งนี้เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กยอดฮิตและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ตลอดไปจนถึงเป็นวัดที่มีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์มาแต่ช้านาน

โดยไฮไลท์ของการเดินทางมาที่นี่ก็คือ การขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต และชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมขององค์เจดีย์ที่ออกแบบโดยใช้ศิลปะเชียงแสนผสมผสานจนออกมาอย่างงดงาม พร้อมทั้งชมวิวเมืองเชียงใหม่ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา

หลังจากได้กราบไหว้พระบรมธาตุ และชมวิวเมืองเสร็จ เราก็มุ่งหน้าไปยัง วัดพระธาตุดอยคำ ที่ประดิษฐานของหลวงพ่อทันใจ สถานที่ที่ผู้คนต่างเลื่อมใสและเดินทางมาขอพรกันเป็นจำนวนมากอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งปี เนื่องจากวัดแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านการบนบานและเป็นที่เล่าขานกันว่าเป็นสุดยอดแห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่สายมูต้องพลาดไม่ได้ ด้วยความที่เคยมีคนมาอธิษฐานแล้วได้ผลทันใจเพียงไม่กี่วัน อีกทั้งยังเป็นพระพุทธรูปที่สร้างเสร็จภายในหนึ่งวัน จึงทำให้เป็นชื่อเรียกของหลวงพ่อทันใจในเวลาต่อมานั่นเอง

ตอนที่เราเข้าไปกราบไหว้ขอพร เราจะเห็นดอกมะลิจำนวนมากที่ผู้คนต่างเดินทางมาแก้บนเมื่อสิ่งที่ขอไปนั้นสำเร็จ ตอนนั้นรู้สึกได้เลยว่ามีคนมากมายที่ให้ความนับถือและศรัทธาท่านเป็นอย่างมาก พอเราไหว้ขอพรกันเป็นที่น่าพอใจ เราก็ได้เดินชมบริเวณรอบ ๆ และเข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อพระใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดก่อนจะขับรถเข้าไปในเมืองเพื่อหาอะไรลงท้องกันในเย็นวันนี้

หลังจากที่ขอพรกันเสร็จแล้ว เราก็ขับรถเข้าไปยังนิมมานเมืองเชียงใหม่ เพื่อไปหาของอร่อยจากร้านดังทานกัน ซึ่งร้านที่เราจะไปฝากท้องกันในวันนี้ก็คือ ต๋องเต็มโต๊ะ ร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดังของเชียงใหม่ที่โดดเด่นในด้านของรสชาติความอร่อยแบบเหนือแต๊ ๆ

ซึ่งเมนูเด็ดของที่นี่ที่ใครมาก็ต้องสั่งเลยก็คือ เซ็ทขันโตกอาหารเหนือ และเมนูอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณสามารถเลือกทานได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ลาบคั่ว แกงฮังเล จิ้นส้ม ปูอ่อง ไส้ย่าง แกงขนุน แกงคั่วเห็ดเผาะ แกงโฮะ แกงผักหวานไข่มดแดง เชียงดาผัดไข่ น้ำพริกอ่อง หรือน้ำพริกหนุ่ม บอกเลยว่าอาหารแต่ละจานรสชาติถึงรสถึงเครื่องมาก ๆ ใครได้ลองแล้วจะต้องติดใจอย่างแน่นอน

ต๋องเต็มโต๊ะ

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/TongTemToh

พอทานของคาวกันเสร็จ ก็ต้องต่อด้วยของหวานสักหน่อย ดั่งสำนวนที่ว่า "กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่” และร้านที่เราเลือกเพื่อจะไปลิ้มลองรสชาติเพื่อล้างปากเลยก็คือ Fruiturday (ฟรุตเทอร์เดย์) ที่เน้นผลิตภัณฑ์จากผลไม้สดแล้วรังสรรค์หน้าตาเมนูแต่ละอันให้เราได้เลือกทานกันอย่างชื่นใจ โดยทางร้านมาพร้อมกับคอนเซ็ปที่ว่า “ไม่สด ไม่ฉ่ำ เราไม่เสิร์ฟ” เราจึงไม่รีรอที่จะสั่งพุดดิ้งผลไม้รวมมาลองกันนั่นเอง

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/fruiturdaycnx

ส่วนตัวรู้สึกชอบมาก ๆ เพราะตัวพุดดิ้งเป็นมะพร้าวอ่อน และน้ำกะทิที่ราดมาก็หอมมันอย่างลงตัว ส่วนผลไม้ชนิดต่าง ๆ ที่อยู่ในจานก็สดสมคำร่ำลือจริง ๆ เรียกได้ว่าหน้าตาขนมน่ารัก สวยงาม และรสชาติก็ผ่านอีกด้วย ใครที่มานิมมานก็ลองมาแวะชิมกันได้ พอทานกันจนอิ่มท้อง เราก็ขับรถกลับที่พัก เพื่อไปพักผ่อนและออกเดินทางไปตะลุยกันต่อในเช้าวันที่สอง

เที่ยวเชียงใหม่วันที่ 2

เช้าวันที่สองตื่นขึ้นมาอย่างสดใส วันนี้เราจะเดินทางขึ้นดอยกัน ซึ่งระยะเวลาจากโรงแรมไปยังดอยอินทนนท์จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า โดยเส้นทางก็ไม่ได้ชันมากนัก สามารถขับรถขึ้นไปเองได้อย่างสะดวก แต่หากใครเป็นนักขับมือใหม่ก็สามารถใช้บริการจากรถสองแถวแดงได้อีกเช่นกัน

ซึ่งแพลนของเราในวันนี้ก็คือ การเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติกันที่ กิ่วแม่ปาน เพื่อพิชิตจุดชมวิวที่คุณสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทิวเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนกันไปมา และทะเลหมอกที่เคล้าไปกับแนวสันเขาจนเกิดเป็นภาพที่งดงาม โดยการเดินขึ้นไปยอดดอยนั้นจะมีไกด์ท้องถิ่นที่คอยนำทางและนำเที่ยวตลอดเส้นทาง ทำให้เราหมดห่วงเรื่องปัญหาหลงป่าได้อย่างไร้กังวล

โดยเส้นทางการเดินจะมีความยาวประมาณ 3.2 กิโลเมตร หรือใช้เวลาในการเดินประมาณ 3-4 ชั่วโมง ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าเป็นการเดินป่าที่ไม่ยากลำบากมากนัก เนื่องจากเส้นทางส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบ และมีบางช่วงที่ต้องเดินขึ้นเขา-ลงเขาบ้าง

บริเวณโดยรอบนั้นถูกโอบล้อมไปด้วยป่าไม้สีเขียวขจีน้อยใหญ่จำนวนมากมาย เหมือนเราได้ชาร์จพลังให้ตัวเองจากธรรมชาติ และได้สูดอากาศบริสุทธิ์แบบเต็มปอดได้อย่างสดชื่นมาก ๆ เรียกได้ว่าเป็นการหลีกหนีความวุ่นวายในตัวเมือง เพื่อมาดื่มด่ำกับบรรยากาศความเงียบสงบที่เต็มไปด้วยความร่มเย็นและความสบายใจได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

หลังจากที่เราเดินมาสักพัก ก็ถึงจุดชมวิวยอดฮิตกันแล้ว บอกได้เลยว่ามันสวยจนต้องร้องว๊าว! แบบตะลึงไปเลย รู้สึกหายเหนื่อยและคุ้มค่ามาก ๆ แถมอากาศด้านบนก็เย็นสบาย ทางเราก็ได้ซึมซับบรรยากาศของธรรมชาติและเดินเก็บภาพความประทับใจอยู่สักพัก ก็พากันเดินลงกลับมา

พอเดินมาถึงบริเวณด้านล่าง เราก็ขึ้นรถและเดินทางต่อไปยัง พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภเมทนีดล ที่ตั้งคู่กันอย่างโดดเด่นสง่างาม โดยภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะแวะมาสักการะบูชาและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตกัน

นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีสวนเมืองหนาวที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสให้เราได้แวะถ่ายรูปกันได้อย่างพอชุ่มใจ เรียกได้ว่าการเดินทางในวันนี้ทำให้เรารู้สึกอิ่มทั้งบุญ และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรื่นรมย์สบายใจจากการได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่สวยงามของเมืองเชียงใหม่แห่งนี้

พอเดินเล่นถ่ายรูปกันเป็นที่น่าพอใจแล้ว เราก็ขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้ากลับเข้าตัวเมือง โดยในเย็นวันนี้เราจะแวะไปหาของอร่อยทานกันในนิมมานกันอีกครั้ง เพราะเมื่อวานยังชิมได้ไม่กี่อย่างก็อิ่มก่อนไปซะงั้น ว่าแล้วก็ขอตัวไปหาอะไรทานกันก่อน และมาดูกันต่อว่าพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง

เที่ยวเชียงใหม่วันที่ 3

เช้าวันสุดท้ายของการตะลุยเที่ยวในเมืองเชียงใหม่ วันนี้เราไม่ได้มีแพลนจะไปไหนมาก เพราะเดี๋ยวต้องรีบไปสนามบินเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพ เราจึงขอแวะไปเช็กอินคาเฟ่กันที่ ร้าน Groon คาเฟ่เปิดใหม่สไตล์เกาหลีแบบมินิมอล ที่มีการตกแต่งได้อย่างเรียบง่าย โดยภายในมีมุมถ่ายรูปให้เราได้ไปสร้างคอนเทนต์กันอย่างมากมาย เอาใจสาว ๆ สาย cafe hopping ได้อย่างแน่นอน

แถมยังมาพร้อมกับเมนูเบเกอรี เค้ก และขนมอบต่าง ๆ ที่หอมกรุ่นจากเตาให้เราได้ลองชิมและลิ้มลองรสชาติ นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่ม Coffee และ Non-coffee ให้ได้จิบกันอย่างเพลิน ๆ อีกด้วย

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/Groon.Cafe

หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปยังร้านที่ชื่อว่า Gao Cafe Nimman คาเฟ่อาหารเช้าสไตล์ไทยที่ผสมผสานกับความเป็นล้านนาภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่า​ "อยากทานอาหารเช้าที่ไม่ต้องตื่นเช้า" โดยทางร้านได้คิดค้นเมนูแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวต้มแห้งเจียงใหม่ ข้าวซอยผัดแห้ง หรือจะเป็นเมนูขนมไทยต่าง ๆ ที่มาพร้อมน่าตาอันน่ารับประทานด้วยการตกแต่งจานได้อย่างสวยงาม จนทำเอาใครหลายคนต้องหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาแชะภาพกันอย่างรัว ๆ

ซึ่งเราก็ได้สั่งทั้งเมนูอาหารคาว และอาหารหวาน พร้อมทั้งเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นกันอีกสักแก้ว ส่วนตัวแล้วคิดว่ารสชาติทุกอย่างเข้ากันได้ดี แถมยังมีเมนูที่หลากหลาย หากใครไปก็สามารถแวะไปทานกันได้ เพราะร้านตั้งอยู่​ที่ถนนนิมมานเหมินท์ซอย 7 ที่สามารถขับรถแวะไปได้อย่างง่าย ๆ เลยทีเดียว

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/gaocafenimman

หลังจากได้ทานกันจนอิ่มท้อง เราก็ได้เดินทางไปยัง ตลาดกาดวโรรส เพื่อซื้อของฝากกลับไปให้คนที่บ้านและเพื่อน ๆ ที่ทำงานกัน ซึ่งตลาดแห่งนี้นับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ และเก่าแก่มานับร้อยปี ทำให้ภายในมีสินค้าต่าง ๆให้เลือกซื้ออย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แคปหมู น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว แหนม หรือผลไม้แปรรูป ตลอดไปจนถึงอาหารพื้นเมืองราคาย่อมเยาอื่น ๆ อีกมากมาย

พอเดินซื้อของกันเสร็จแล้ว เราก็ขับรถไปยังสนามบินเพื่อคืนรถ เช็กอิน และขึ้นเครื่องเพื่อมุ่งหน้ากลับกรุงเทพไปใช้ชีวิตกันต่อ ซึ่งการมาเที่ยวเชียงใหม่เป็นเวลา 3 วัน 2 คืนในครั้งนี้เราไม่ได้เน้นเที่ยวเยอะ แต่เน้นมาพักผ่อนแบบสบาย ๆ ไม่ต้องรีบเร่งอะไรมากมาย เพราะเราอยากมาเที่ยวแบบเนิบ ๆ ซึมซับความสวยงามและความ Slow life ของชาวเชียงใหม่กัน

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร