ขับรถเที่ยวแบบต๊ะต่อนยอน ณ เชียงราย งานนี้สาย Natural ต้องฟิน!

ใกล้ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ บอกเลยว่าเป็นช่วงนึงที่เชียงรายจะสวยสุดๆ ไปเลยละ เพราะทั้งนาข้าวและต้นไม้ก็จะเขียวสดชื่นตาแบบได้ใจ แถมในช่วงเช้าๆ ก็จะมีหมอกให้เห็นกันแบบหนาๆ อากาศก็กำลังสบายไม่หนาวไม่ร้อน แล้วนักท่องเที่ยวก็ยังไม่เต็มเพียบเท่าช่วงหน้าหนาวอีกด้วย และเพราะแบบนี้ละ การใช้วิธีขับรถเที่ยวจึงฟินมากในช่วงนี้ แถมเรายังเห็นราคาดีๆ จากในเว็บ Traveloka อีกจ้ะ แล้วจะรออะไร ก็ต้องจัดไปทั้งตั๋วเครื่องบินเชียงราย และจองบริการรถเช่าเชียงรายกับเค้าด้วยเลยสิ! ที่เริ่ดอ่ะ นอกจากจะไม่แพงแล้วนะ เค้ายังมีให้เลือกได้ว่าจะเช่าขับเองหรือเช่าพร้อมคนขับไปอีก ลงเครื่อบปั๊บก็เข้ารถปุ๊บ สบายเว่อร์ คราวนี้ละเธอเอ๊ยยยยยยย เที่ยวเชียงรายได้แบบทั่วทุกตารางนิ้วกันไปเลย!

เราเริ่มต้นวันแรกในเชียงรายแบบสบายๆ ด้วยการใช้บริการทัวร์กับทราเวลโลก้า ซึ่งเริ่มด้วยการพาไปชมน้ำพุร้อนแม่ขะจาน แวะแช่เท้าในน้ำอุ่นกันเป็นการผ่อนคลายจากการเดินทางได้เป็นอย่างดี แล้วกลับเข้ามาที่ตัวเมืองเพื่อใช้เวลาเพลินๆ ช้าๆ กับงานศิลปะสวยแปลกตาที่วัดร่องขุ่น ซิกเนเจอร์หนึ่งของเมืองเชียงราย แล้วไปชมความสวยสดใสของวัดร่องเสือเต้น ก่อนปิดท้ายทริปกันที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ได้เดินดูของสวยของงามกันแบบแฮปปี้ ได้ไหว้พระ แล้วยังได้อิ่มกับบุฟเฟ่ต์นานาชาติอีกหนึ่งมื้อนะ บอกเลยว่าสบ๊ายยยสบายยย

แดดร่มลมตกในเวลาเย็นๆ เราเลยมองหาที่เที่ยวซึ่งไม่ไกลจากในตัวเมืองมากนัก แต่ก็ยังได้บรรยากาศชิลล์ๆ ของธรรมชาติแบบไม่ขาดตกบกพร่อง มองไปมองมาก็คิดว่าที่ สิงห์ ปาร์ค นี่ละ ลงตัวสุด เพราะเดินทางก็ง่ายแถมยังมีมุมถ่ายรูปคูลๆ เพียบ กิจกรรมก็มี ของคาวของหวานที่นี่เค้าก็ว่ากันว่าเด็ด จะปั่นจักรยานก็ชิลล์ จะนั่งรถพ่วงชมวิวก็เริ่ด เสพบรรยากาศสวยๆ ของแสงเย็นกันให้เต็มที่ เชื่อว่ายังไงก็แฮปปี้แน่นอน

หลังจากมองหาที่พักหลายรูปแบบในเชียงราย เราก็สะดุดตาสะดุดใจกับ โรงแรมบลูลากูน ในตัวเมืองนี่ละ นอกจากดีไซน์จะสวยเริ่ดให้ฟีลโมเดิร์นน่าถ่ายรูปเช็คอินไปทุกมุมแล้วนะ ที่นี่ยังสะดวกมากกกก เพราะอยู่ใกล้กับทั้งไนท์ บาร์ซาร์ หอนาฬิกาเชียงราย และห้างสรรพสินค้า ชนิดที่ว่าพอเดินไปได้ละนะ ราคาก็ยังถือว่าไม่ได้แพงแบบแตะไม่ได้ ใครอยากนอนสบายๆ สะดวกแบบรอบด้านนะ ที่นี่คือน่าสนใจเลย

ถ้าอยู่เชียงรายตรงกับวันเสาร์พอดี สิ่งที่ไม่ควรพลาดก็คงต้องเป็นการมาเดินเล่นที่ถนนคนเดินเชียงรายนี่ละ ก็เพราะเดี๋ยวนี้น่ะ เกือบทุกจังหวัดในบ้านเราก็ต้องมีถนนคนเดินไว้รอรับนักท่องเที่ยวกันทั้งนั้น ซึ่งมันก็ดีเว่อร์ เพราะแค่เรามาที่เดียว ก็จะได้เจอทั้งของขบเคี้ยว อาหารหลัก หรือของฝากของที่ระลึกกันแบบจุใจ แล้วข้อดีคือต่อราคากันได้พอสนุกสนาน ช้อปเสร็จก็เดินหาอะไรกินกันไปเพลินๆ สบายๆ ได้ทั้งกินทั้งออกกำลังกายไปในคราวเดียวเลย แล้วถนนคนเดินเชียงรายจะมีเฉพาะแค่ในช่วงวันเสาร์เท่านั้นนะ ถ้าสนใจก็แพลนกันไว้เลย

อย่างที่บอกว่าคราวนี้น่ะ เราใช้วิธีเช่ารถขับกับ Traveloka เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวให้ทั่วถึงกว่าที่เคย เช้านี้เราเลยปักหมุดกันไว้ที่จุดเช็คอินเชียงรายอย่างภูชี้ฟ้า ซึ่งนับว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกยอดฮิตอันดับหนึ่งของจังหวัดนี้ เพราะการเดินทางที่ถือได้ว่าสะดวกง่ายดาย ไม่ต้องเดินเท้ากันไปไกลเป็นหลายกิโลแบบบางที่ ตื่นเช้าหน่อยนะ เชื่อว่าความสวยของที่นี่คือคุ้มแหละ แน่นอน

ใกล้กันกับภูชี้ฟ้ายังมีอีกหนึ่งพิกัดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่น่าสนใจ แต่ต้องสำหรับคนที่เป็นสายลุยหน่อยนะ เพราะที่ภูชี้ดาวน่ะรถเข้าไปได้ถึงแค่ตีนเขาเท่านั้น ส่วนการขึ้นไปสู่ด้านบน ต้องอาศัยเช่ารถชาวบ้านซึ่งเป็นรถโฟว์วีลขึ้นไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ยังจ้ะ ยังไม่จบแต่เพียงเท่านั้น เพราะยังต้องเดินเท้าต่อไปในป่าอีกราว 200 เมตร จนถึงยอดภูชี้ดาว บอกเลยว่าเห็นวิวแล้วจะหายเหนื่อยเพราะสุดจะคุ้มค่า แล้วยังมีคนมาเที่ยวน้อยกว่าที่อื่นด้วยนะ เพราะเดินทางไม่ง่ายนัก และต้องติดต่อหาคนนำทางล่วงหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลปอก่อนจะมาอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากชมวิวฟินๆ ที่ต้องลุยหน่อยอ่ะ มาเลย … ส่วนเราก็ยังไม่ได้ไปจ้ะ แค่เห็นว่าน่าสนใจเลยเอามาให้ส่องกันไว้ก่อน โอเคนะะะะ

จากภูชี้ฟ้า เราตัดสินใจจะขับรถยาวหน่อยเพื่อไปดอยสะโง้หรือดอยสะโงะ ซึ่งมีความสูง 709 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บนดอยนี้เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าอาข่าของหมู่บ้านบนดอย แล้วยังมีจุดชมวิวที่มองเห็นพรมแดนได้ถึง 3 ประเทศ คือ ไทย ลาว และเมียนมาร์ ซึ่งมองได้กว้างเกือบ 360 องศาเลยอ่ะ ใครมีเวลามานอนซักคืนก็เริ่ดนะ ความสวยคือไม่ธรรมดานะจ๊ะ เพราะที่นี่น่ะเคยเป็นฉากละครที่แสดงโดยณเดชน์กับญาญ่ามาแล้วจ้า อ้อ แต่ว่าถ้าไม่ได้ขับรถโฟว์วีลมา ต้องจอดรถไว้ตีนดอยแล้วนั่งรถรับส่งขึ้นมาอีกประมาณ 1 กิโลเด้อ ชิลล์ๆ น่า ถือว่าได้ชมวิว

ชมดอยกันจนจุใจ ก็ได้เวลาวกขับรถกลับลงมาในย่านใจกลางจังหวัดอีกครั้ง เพราะเรากำลังตั้งเป้ามุ่งหน้าไปที่วนอุทยานถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน ซึ่งเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบไปแล้วในปัจจุบัน เรียกว่าที่นี่เป็นน้องใหม่แต่ยิ่งใหญ่และโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกนำหน้าที่อื่นไปแล้วจ้า นอกจากถ้ำหลวงซึ่งเป็นไฮไลท์แล้วนะ ที่นี่ยังมีสระขุนน้ำมรกตซึ่งมีน้ำเขียวใส มีถ้ำพระ มีอนุสาวรีย์วีรบุรุษจ่าแซม มีศาลาแสดงงานศิลปะ เรียกว่ามาเชียงรายแล้วต้องมาเช็คอินนะจ๊ะ ไม่งั้นชาวบ้านเค้าจะหาว่าตกเทรนด์

ช่วงบ่ายๆ เราปักหมุดเอาไว้ว่าจะขับรถต่อไปชิลล์บนดอยแม่สลองกัน เพราะตั้งใจเอาไว้ว่าจะได้ไปกราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี ที่อยู่บนยอดดอยกันซักหน่อย ได้ไหว้พระธาตุฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วยังจะได้วิวมุมสูงสวยๆ จากบนยอดดอยเป็นของแถมอีกด้วยนะ มีรถขับเองมันก็ดีแบบนี้ละ จะไปไหนเมื่อไหร่ก็ได้หมด!! จะให้สวยเว่อร์วังน่ะควรต้องมาที่นี่ในช่วงเช้า เพราะเค้าว่าที่นี่ก็เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยเว่อร์! ครั้งนี้เรามาไม่ทัน ไว้ครั้งหน้าละกันเนอะ

อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของดอยแม่สลองก็ต้องเป็นไร่ชา เพราะที่นี่นับว่าเป็นแหล่งปลูกใบชาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะมีไร่ชาสวยๆ ให้แวะเที่ยวกันเพียบ! นอกจากจะได้วิวสวยๆ เป็นแบ็คกราวนด์ถ่ายรูปเฟี้ยวๆ แล้วนะ ยังได้สูดอากาศดีๆ ที่แสนสบายเป็นกำไร แล้วถ้าแวะมาถึงไร่ชาทั้งที ก็ต้องห้ามพลาดการนั่งจิบชาหอมๆ สดจากไร่ พร้อมเค้กอร่อยๆ ซักชิ้น ดื่มด่ำกับวิวสวยๆ รอบด้านไปด้วยนะ สวรรค์ชัดๆ อ่ะ พูดเลย

อีกหนึ่งอย่างที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงดอยแม่สลองแล้วทั้งที ก็คือการแวะชิมอาหารยูนนานบนดอยนี้นี่ละ แต่ละเมนูนี่ถือว่าเป็นคุณค่าที่คุณคู่ควรทั้งนั้น เอาจริง! ตั้งแต่ขาหมูยูนนานที่เคี่ยวมาจนเปื่อยนุ่มรสเข้มข้น กินคู่กับข้าวก็ดี กินคู่หมั่นโถวก็เริ่ดด หรือจะเป็นเมนูที่มีวัตถุดิบเป็นผักสดๆ ในท้องถิ่น แต่เมนูน่ากินที่ใช้ใบชาเป็นส่วนผสมก็ต้องลองนะ ซิกเนเจอร์ของดอยนี้เค้าทั้งนั้นละ สั่งเลย!

วันสุดท้ายของทริปต๊ะต่อนยอนในเจียงฮายยย ก็ได้เวลาที่จะไปช้อปของกิน ของใช้ และของฝากกันซักหน่อย จะซื้อในเมืองก็ธรรมดาไป เลยเล็งเอาไว้แหละว่าขอข้ามแดนไปมองหาของฝากจากฝั่งเมียนมาร์ที่ชายแดนแม่สายกันนี่ละ น่าจะเริ่ด! และด้วยความที่อยากเดินทางแบบสบายๆ เราจึงเลือกสอยแพ็คเกจทัวร์ชมเมืองแบบ one day trip ของทราเวลโลก้าเค้ามาอีกเซ็ต โดยโปรแกรมในทัวร์นี้จะพาเราแวะสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างวัดร่องขุ่น พิพิธภัณฑ์บ้านดำ วัดร่องเสือเต้น ไร่ชา และวัดถ้ำลิง ซึ่งจริงๆ เราก็ไปมาเกือบหมดแล้วละ แต่อันนี้ดีมากนะถ้าหากว่ารอบแรกที่ไป ฟ้าไม่สวยไม่ใสหรือชุดที่ใส่ไปไม่เต็มพอ ก็ถือว่าได้โอกาสที่สองสำหรับไปถ่ายรูปซ่อมให้สะใจ แล้วก็ยิงยาวไปตลาดแม่สายเพื่อข้ามแดนไปช้อปกันให้เพลิน ขากลับจากตลาดยังมีโปรแกรมให้แวะเดินเล่นเช็คอินที่สามเหลี่ยมทองคำและตัวเมืองเชียงแสนอีกด้วยนะ เรียกว่าวันเดียวเก็บเกือบครบทุกแหล่งเช็คอินเลยเชียว แต่ถ้าตรงไหนอยากตัดตรงไหนอยากเพิ่มก็ลองต่อรองดูนะ คนของทราเวลโลก้าเค้าใจดี คุยกันได้หมดแหละ ลองดูละกัน ยังไงก็เอาให้ทันไฟลท์บินกลับที่จองไว้ด้วยเน้อ

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี เชียงรายก็ยังคงเป็นเมืองที่ให้ฟีลเพลิน สบาย และยิ่งเดินทางง่ายขึ้นทุกครั้ง เพราะเค้ามีออพชั่นเสริมเพิ่มความสะดวกให้นักเดินทางมากขึ้นตลอดเวลา แต่ทุกครั้งที่ได้มา สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปก็คือความน่ารักและใจดีของผู้คนเมืองนี้ เชียงรายเลยเป็นจังหวัดหนึ่งที่ครองใจเรามาได้ในอันดับต้นๆ ตลอดเวลา เพราะไม่ว่าจะเมื่อไหร่ เมืองนี้ก็แสนจะสวยและสบาย บอกได้เลยว่าต๊ะต่อนยอนนอนเพลิน เดินเล่นก็ชิลล์! อยากชวนทุกคนออกไปเที่ยวไทย ไปผ่อนคลายหนีความวุ่นวาย กลับสู่อ้อมกอดของธรรมชาติกันเถอะ