ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวในจีนที่ครบทั้งประวัติศาสตร์ วัดสวย วิวธรรมชาติ ของกินอร่อย และเดินทางไม่ยาก หนานจิงเป็นอีกหนึ่งเมืองที่ตอบโจทย์ของคุณได้แบบไม่ต้องคิดเยอะเลย เมืองนี้เคยเป็นราชธานีของจีนมาหลายยุค เลยเต็มไปด้วยร่องรอยของอดีต ทั้งในกำแพงเมือง วัดโบราณ พิพิธภัณฑ์ และถนนสายเก่าที่ยังคึกคักมาจนถึงตอนนี้ ที่สำคัญคือเมืองนี้มีบรรยากาศชิล ๆ ไม่เร่งรีบ ทำให้เที่ยวได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องแย่งกันเที่ยว แย่งกันถ่ายรูปเหมือนเมืองท็อป ๆ อย่างปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้
ไม่ว่าคุณจะเคยท่องเที่ยวประเทศจีนมาก่อนหรือไม่ การท่องเที่ยวหนานจิงก็น่าจะเป็นหนึ่งในทริปที่คุ้ม ทั้งในแง่ประสบการณ์และค่าใช้จ่าย อีกทั้งเมืองนี้เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวเองแบบไม่ง้อทัวร์ และยังสามารถเดินทางไปยังที่เที่ยวต่าง ๆ ในหนานจิงได้ง่ายอีกด้วย เพราะมีรถไฟใต้ดินครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งเมือง
การเริ่มเที่ยวหนานจิงที่ถูกต้องคือการมาเช็คอินที่กำแพงหนานจิงก่อนเลย! เพราะที่นี่เป็นจุดที่เล่าเรื่องราวของเมืองได้ชัดเจนมาก กำแพงนี้สร้างมาตั้งแต่ยุคราชวงศ์หมิง แล้วก็ยังอยู่ในสภาพดีแบบน่าทึ่ง ถ้าได้เดินไปตามแนวกำแพงก็จะเห็นวิวมุมสูงของเมือง ทั้งบ้านเรือนแบบดั้งเดิม ผสมกับตึกใหม่ ๆ เป็นภาพที่มีความผสมผสานกันอย่างลงตัวมาก ๆ ในรูปแบบของวัฒนธรรมเมืองจีน โดยเฉพาะถ้ามาช่วงเย็น ๆ แสงอาทิตย์ตกกระทบกับกำแพงหิน จะได้รูปที่ดูมีเสน่ห์สุด ๆ ที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูป หรือใครที่อยากเดินเล่นช้า ๆ ชิล ๆ แล้วดื่มด่ำกับบรรยากาศที่หาได้เฉพาะในหนานจิง เรียกได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในหนานจิงมาก ๆ แนะนำให้เผื่อเวลาไว้นิดนึง เพราะเดินเพลินกว่าที่คิด!
เวลาเปิด-ปิด :08:30–17:30 น.
ค่าเข้าชม : 30 หยวน
ที่นี่เป็นจุดเช็กอินที่สำคัญมากของหนานจิง และบรรยากาศก็ดีสุด ๆ แบบเดินไปก็รู้สึกขลังไปด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะที่นี่เป็นสุสานของซุนยัดเซ็น ซึ่งเป็น “บิดาแห่งชาติ” ของจีน ตั้งอยู่กลางเขา มีบันไดให้เดินขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงอาคารหลัก ด้านบนจะมองเห็นวิวเมืองหนานจิงได้กว้างสุดลูกหูลูกตา ยิ่งถ้ามาช่วงที่อากาศดี ๆ จะได้ภาพสวยแบบกดชัตเตอร์มั่ว ๆ ก็สวย เป็นที่ที่ให้ความรู้สึกสงบ แถมยังได้ซึมซับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แบบไม่ต้องนั่งเรียน เพราะแค่เดินไปเรื่อย ๆ ก็ค่อย ๆ ซึมเข้ามาเอง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ประวัติศาสตร์ในหนานจิง ที่ทั้งสวย สงบ และมีพลังบางอย่างที่รู้สึกได้จริง ๆ
เวลาเปิด-ปิด : 08:30–17:00 น. ปิดทุกวันจันทร์
ใครที่ชอบดูของโบราณหรืออยากรู้ว่าหนานจิงมีอดีตอะไรน่าสนใจบ้าง แนะนำให้แวะที่พิพิธภัณฑ์นี้เลย ที่นี่จัดแสดงโบราณวัตถุเยอะมาก แถมยังจัดโซนดี เดินแล้วไม่งง มีคำอธิบายที่อ่านง่ายด้วย ไม่ต้องกลัวว่าจะเข้าไม่ถึง ด้านในก็แอร์เย็นสบาย เดินเล่นได้ยาว ๆ ไม่เบื่อแน่นอน ที่สำคัญคือของที่จัดแสดงบางชิ้นคือเก่ามากและหายากจริง ๆ เหมาะกับคนที่อยาก เที่ยวหนานจิงแบบชิล ๆ แล้วเก็บเกี่ยวเรื่องราวของเมืองไปด้วย แถมยังได้ภาพสวย ๆ จากมุมต่าง ๆ เพราะตัวอาคารก็ออกแบบได้สวยงามไม่แพ้ข้างในเลย
เวลาเปิด-ปิด : 9:00–17:00 (เข้ารอบสุดท้าย 16:00) ปิดทุกวันจันทร์
การเดินทาง : สถานี Minggugong Station และเดินต่อประมาณ 10 นาที
สวนสาธารณะที่นี่ใหญ่กว่าที่คิด แถมมีครบทั้งบรรยากาศชิลล์ ทะเลสาบใหญ่ และมุมถ่ายรูปสวย ๆ ถ้าอยากหา ธรรมชาติหนานจิง แบบที่เดินเล่นแล้วรู้สึกผ่อนคลายจริง ๆ ต้องมาเสวียนอู่เลย บรรยากาศริมทะเลสาบดีมาก มีคนมาวิ่ง มาปั่นจักรยาน มานั่งปิกนิก หรือแม้แต่มานั่งเงียบ ๆ กับกาแฟสักแก้วก็ยังฟินเลย ยิ่งถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ในสวนจะบานเต็มที่ สีสันสดใสไปหมด เป็นที่เที่ยวที่ไม่ต้องใช้พลังเยอะ แต่เติมพลังใจได้ดีสุด ๆ เหมาะกับวันที่อยากพักจากวัดหรือพิพิธภัณฑ์ แล้วมาสูดอากาศธรรมชาติแทน
การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดินสาย 1 สถานี Xuanwu และเดินต่อประมาณ 5 นาที
ถ้าชอบที่เที่ยวแบบวัดเก่า ๆ ที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์เยอะ ๆ แล้วก็บรรยากาศสงบ ๆ หน่อย ต้องมาที่วัดฉีเมิ่งเลย วัดนี้อยู่บนเนินเล็ก ๆ มีบันไดหินให้เดินขึ้นไปด้านบน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์สูงเจ็ดชั้น วิวจากด้านบนสวยมาก มองเห็นทั้งทะเลสาบและวิวเมืองแบบพาโนรามา ยิ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระที่ปลูกรอบ ๆ ก็จะบานสวยงาม เป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิตของหนานจิงอีกที่ที่เราแนะนำให้มาเช็คอิน ที่นี่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และเหมาะกับการเดินเล่นพักผ่อน เป็นหนึ่งในวัดสวย ๆ ในหนานจิงที่มีทั้งความสงบและความคลาสสิกในตัวเองแบบที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
เวลาเปิด-ปิด : 07:30–17:30 น.
ค่าเข้าชม : 10 หยวน
สถานที่เล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจ ใครชอบประวัติศาสตร์และแอบเนิร์ดดาราศาสตร์ในเวลาเดียวกัน ต้องลองมา หอดูดาวโบราณหนานจิง แห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งจุดที่บอกเล่าเรื่องราวของการสำรวจท้องฟ้าในยุคก่อนแบบจริงจังเลยนะ เครื่องมือโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่บางชิ้นดูแล้วน่าทึ่งมาก เพราะคิดว่าคนสมัยก่อนจะคิดอะไรแบบนี้ได้ยังไง ตัวหอดูดาวเองตั้งอยู่ในจุดที่ค่อนข้างเงียบ บรรยากาศเลยค่อนข้างสงบ เหมาะกับการเดินชมแบบเรื่อย ๆ ไม่ต้องเร่งรีบ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในหนานจิงที่ไม่ดังเปรี้ยงปร้างแต่กลับน่าประทับใจ เหมือนสมบัติลับของเมืองที่รอคนมาเปิดประตูเข้าไปดู คุณจะได้เห็นความอัจฉริยะของคนจีนยุคก่อน และอาจแอบอินมากกว่าที่คิดก็ได้นะ
เวลาเปิด-ปิด : 08:00–16:30 น.
ค่าเข้าชม : 15 หยวน
การเดินทาง : นั่งบัสสาย 20,125,140 ไป Baima Park Stop แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
ถ้าอยากรู้ว่าคนหนานจิงใช้ชีวิตกันยังไงในเมืองใหญ่ ลองแวะไปเดินเล่นที่จตุรัสเซี่ยนเจียโข่วดู แล้วจะเข้าใจเลยว่าที่นี่คือหัวใจของเมืองหนานจิง เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า ห้างสรรพสินค้า คาเฟ่ และผู้คนที่เดินขวักไขว่ทั้งกลางวันและกลางคืน ใครชอบเดินเล่นในบบรรยากาศคึกคัก ๆ สไตล์จีนต้องแวะมา มีร้านอาหารให้เลือกเยอะมาก ถ้าหิวก็หาของกินง่ายสุด ๆ มุมถ่ายรูปสวย ๆ ก็มี โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่มีแสงไฟจากอาคารต่าง ๆ สะท้อนกับกระจกและพื้นถนน ให้อารมณ์ไลฟ์สไตล์เมืองใหญ่ในรูปแบบของหนานจิง เป็นจุดเช็คอินหนานจิงที่เหมาะกับการแวะมาชมบรรยากาศ ส่องแฟชั่นคนจีน หรือมานั่งพักขาก่อนลุยเที่ยวที่อื่นต่อ
การเดินทาง : ลงรถไฟใต้ดินสาย 1 หรือ 2 ที่สถานี Xinjiekou แล้วเดินต่อประมาณ 1 นาที
ใครที่อินกับประวัติศาสตร์การเดินเรือหรืออยากเห็นเรือแบบสำเภาจีนสมัยก่อนของจริง แนะนำให้มาเดินที่สวนเรือเจิ้งเหอ เพราะเขาจำลองเรือไว้ขนาดใหญ่มาก เดินเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนย้อนเวลาไปยุคราชวงศ์หมิงเลยทีเดียว มีนิทรรศการที่เล่าถึงเส้นทางเดินเรือ การสร้างเรือ และเรื่องราวของ “เจิ้งเหอ” แบบอ่านง่ายและเพลิน ไม่ต้องกลัวจะน่าเบื่อเลย เหมาะกับครอบครัวหรือคนที่อยากเที่ยวหนานจิงแบบชิล ๆ ไม่ลุยมาก แต่ก็อยากได้อะไรที่น่าสนใจและแตกต่างนิดนึงด้วย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหนานจิงที่ทั้งสนุก ได้ความรู้ และมีมุมให้ถ่ายรูปเท่ ๆ เยอะเลยด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 08:30–17:30 น.
ค่าเข้าชม : 30 หยวน
การเดินทาง : นั่งบัสสาย 47, 72, 133, 307, 560 แล้วลงที่ป้าย Treasure Ship Park Stop และเดินต่อประมาณ 1 นาที
ที่นี่คือถนนสายเก่าที่เต็มไปด้วยชีวิตและกลิ่นอายแบบจีนโบราณสุด ๆ ถนนโบราณฝูจือเมี่ยว ไม่ได้มีแค่ของกินหรือร้านขายของที่ระลึก แต่ยังมีอาคารโบราณที่อนุรักษ์ไว้สวยมาก ถ้าใครอยากได้รูปสไตล์ย้อนยุคสวย ๆ ไม่ควรพลาดเลยนะ ตอนเย็น ๆ จะมีแสงไฟจากโคมจีนเรียงรายตลอดสองข้างทาง สะท้อนกับแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางถนน บรรยากาศดีมาก เดินไป กินไป ดูโชว์ข้างทางไปก็เพลินแล้ว เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คหนานจิงที่คนท้องถิ่นเองก็ยังชอบมาเดิน ใครมาเที่ยวแล้วไม่แวะถือว่าพลาดมาก ๆ เพราะที่นี่คือหนานจิงในแบบที่มีชีวิตชีวาที่สุด
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงสถานี Fuzimiao แล้วเดินต่อประมาณ 1 นาที
ถ้าอยากปิดทริปด้วยธรรมชาติแบบสุดปอด แนะนำให้ขึ้นไปเดินเล่นบนภูเขาสีม่วงจื่อจินชานเลย เพราะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง บรรยากาศดี มีทั้งทางเดินป่า จุดชมวิว และสถานที่สำคัญหลายแห่งที่อยู่กระจายกันตามเนินเขา เช่น สุสานซุนยัดเซ็น สวนพฤกษศาสตร์ หรือหอดูดาว ถ้าจะเดินครบอาจต้องใช้เวลาทั้งวัน แต่ถ้าเลือกเฉพาะจุดก็เดินได้แบบชิลล์ ๆ ไม่เหนื่อยเกินไป เป็นที่ยอดฮิตสำหรับสายถ่ายรูป ใครมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะได้วิวสวย ๆ แบบไม่ต้องปรับสีเลยด้วยซ้ำ เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวท่ามกลางธรรมชาติในหนานจิง แบบสงบ ๆ และได้พักสายตาจากเมืองใหญ่สักหน่อย
เวลาเปิด-ปิด : 06:00–18:30 น.
ค่าเข้าชม :
ร้าน Xia Ji ที่สาขาริม Yueya Lake เป็นร้านดังเรื่องอาหาร ซู่เป่ย (ซูเป่ยโภชนา) แบบบ้าน ๆ แต่รสเด็ดมาก ได้รับรีวิวดีเป็นอันดับ 4 ของร้านซู่เป่ยในหนานจิงเลยทีเดียวบรรยากาศสบาย ๆ ดีไซน์คล้ายโรงน้ำชา มีโต๊ะริมน้ำให้เห็นวิวทะเลสาบ เหมาะกับการมานั่งคุยพลางกินอะไรไปด้วยเพลิน ๆ เมนูแนะนำมีทั้ง หมูก้อนผักโขม, กุ้งหางฟิน, ไก่แดงต้ม, น้ำซุปหอยล็อบสเตอร์ และอีกหลายอย่างที่ให้ฟีลอบอุ่นแบบทำกันเอง เหมาะกับคนที่อยากลองอาหารพื้นเมืองแบบบ้าน ๆ แต่มีความพิถีพิถัน
เวลาเปิด-ปิด:
ร้านแนวตลาดนัดจีนที่ทุกคนรู้จักในหนานจิง รสชาติรวมความเป็นปักกิ่งและเจียงซูอย่างลงตัว รวมเมนูเด็ดอย่างเป็ดย่างอันนุ่ม หนังกรุบ ได้กลิ่นหอม เครื่องเทศจีนคลาสสิก, ข้าวต้มหมูนุ่ม และเส้นบะหมี่น้ำใสที่รสชาติไม่ธรรมดา บรรยากาศในร้านค่อนข้างคึกคัก ออกแนวตลาดโบราณยุคเก่า ตกแต่งแนวสไตล์ปลายราชวงศ์ชิงถึงยุคสาธารณรัฐจีน มีทั้งโต๊ะญี่ปุ่น จีน และห้องส่วนตัว บรรยากาศดูมีชีวิตชีวา เหมาะกับการมาทานกับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว เพราะร้านจะเต็มตอนมื้อกลางวัน–เย็น ต้องมีคิวรอหน่อยแต่คุ้มค่ามาก
เวลาเปิด-ปิด:
ร้านนี้เป็นร้านอาหารสไตล์บ้าน ๆ จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ที่ได้รีวิวประมาณ 4.4 ดาวบน Dianping และคนรีวิวเยอะถึงเรื่องความคุ้มค่าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 58 หยวนต่อคน บรรยากาศที่ร้านดูเป็นกันเองเหมือนมากินข้าวบ้านเพื่อน เน้นโต๊ะไม้ ตกแต่งธรรมดา ๆ แต่ความรู้สึกอบอุ่นและชิลล์มาก ซึ่งมีเมนูแนะนำเช่น หมูทอดสไตล์ตะวันออกเฉียงเหนือ ลาเป่ยเส้นแห้ง ผักสามอย่างผัด ซุปบล็อกดิน และรากหอมจีนผัดหรือทำน้ำส้ม
เวลาเปิด-ปิด:
เหมาะกับ: คู่รัก / สายติดแกลม / ครอบครัว / คนรักสบาย
InterContinental Nanjing เป็นโรงแรมหรูระดับพรีเมียมใจกลางเมืองที่โดดเด่นด้วยวิวเมืองแบบพาโนรามา เพราะตั้งอยู่ในตึกสูงของ Gulou Square ห้องพักตกแต่งโมเดิร์น มีอ่างอาบน้ำริมหน้าต่าง วิวสวยอลัง พร้อมฟิตเนส สระว่ายน้ำในร่ม-กลางแจ้ง และห้องอาหารหลายแห่ง รวมถึง Rooftop Bar ที่ชมแสงพระอาทิตย์ตกได้สุดโรแมนติก การเดินทางสะดวกมาก อยู่ติดสถานีรถไฟใต้ดินและใกล้แหล่งช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ถือเป็นตัวเลือกที่พักที่ครบเครื่องทั้งในเรื่องบรรยากาศ การบริการ และความสะดวกสบายทุกด้าน
China
InterContinental Hotels NANJING by IHG, an IHG Hotel
Gulou Qu
ดูราคา
เหมาะกับ: ครอบครัว / สายเสพวิว / สายคอนเทนต์ / คู่รัก
Hilton Nanjing Riverside เป็นโรงแรมวิวแม่น้ำที่ให้ความรู้สึกเหมือนรีสอร์ตในเมือง ตัวอาคารอยู่ริมแม่น้ำแยงซี ให้บรรยากาศสงบแต่ยังสะดวกต่อการเดินทางเข้าเมือง ภายในห้องพักกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องอาหาร และเลาจน์ มีห้องเชื่อมต่อเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ รวมถึงห้องที่มองเห็นแม่น้ำแบบเต็มตา เหมาะมากถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวแต่ไม่อยากห่างจากความสะดวกสบายของตัวเมือง เป็นที่พักที่บาลานซ์ระหว่างธรรมชาติ ความสะดวก และคุณภาพของแบรนด์โรงแรมได้ดี
China
InterContinental Hotels NANJING by IHG, an IHG Hotel
Gulou Qu
ดูราคา
เหมาะกับ: สายประหยัดงบ / นักธุรกิจ / คนที่อยากพักใกล้สนามบิน
Hampton by Hilton Nanjing คือตัวเลือกสายประหยัดที่ยังคงความสะดวกและความสะอาดในมาตรฐานระดับนานาชาติ โรงแรมอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Nanjing South ทำให้เหมาะมากสำหรับคนที่มีแพลนเดินทางต่อทั้งรถไฟและเครื่องบิน ห้องพักตกแต่งเรียบง่ายแต่ครบครัน มีอาหารเช้าฟรี ฟิตเนส และ Wi‑Fi ที่แรงพอจะทำงานหรือดูซีรีส์ได้สบาย ๆ การเดินทางไปยังย่านท่องเที่ยวหลักก็สะดวกเพราะเชื่อมต่อรถไฟใต้ดินหลายสาย เหมาะกับคนที่อยากนอนสบายในงบไม่แรงเกินไป
China
Hampton by Hilton in Nanjing Qilin Zhongshan Mausoleum Scenic Area
Nanjing
ดูราคา
Tue, 2 Sep 2025
Sichuan Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป หนานจิง (NKG)
เริ่มจาก THB 3,291.25
Thu, 11 Sep 2025
Air Macau
กรุงเทพ (BKK) ไป หนานจิง (NKG)
เริ่มจาก THB 3,502.00
Sun, 7 Sep 2025
China Southern Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป หนานจิง (NKG)
เริ่มจาก THB 3,517.56
ถ้าให้แนะนำจากประสบการณ์ตรงและเสียงส่วนใหญ่ของคนที่เคยไปมา หนานจิงควรเที่ยวช่วงที่อากาศกำลังดี เพราะเมืองนี้อากาศค่อนข้างสุดโต่ง พอถึงบทจะร้อนก็ร้อนจัดและหน้าหนาวก็หนาวจนสั่นสะท้านไปเลย ดังนั้น…
สรุป: ถ้าเลือกได้ ให้ล็อกไว้ที่ มี.ค.–พ.ค. หรือ ปลายก.ย.–พ.ย. คือดีที่สุด เดินสนุก เที่ยวเพลิน ถ่ายรูปสวยทุกมุม
1.แต่งตัวให้เหมาะกับฤดูหนานจิงมีอากาศที่ค่อนข้างสุดโต่ง ถ้าไปหน้าร้อนอาจเจออุณหภูมิสูงกว่า 35°C พร้อมความชื้นที่ทำให้เดินไม่กี่นาทีก็เหงื่อโชก ส่วนหน้าหนาวจะหนาวแบบชื้นทะลุเสื้อ ต้องเตรียมโค้ทกันลม ถุงมือ และเสื้อขนเป็ด ถ้าไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือฤดูใบไม้ผลิ ให้พกเสื้อคลุมบางกับผ้าพันคอไว้ จะช่วยได้เยอะทั้งกันลมและเสริมลุคในรูปถ่ายแบบปัง ๆ
2.เลือกที่พักใกล้ MRT เพื่อความคล่องตัวแม้หนานจิงจะมีรถบัสและแท็กซี่ แต่การใช้รถไฟใต้ดินช่วยให้เดินทางง่ายและคาดเดาเวลาได้ดีกว่า แนะนำพักใกล้สถานีอย่าง Xuanwumen หรือ Minggugong เพราะอยู่ใกล้แหล่งเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เดินทางสะดวกทั้งกลางวันและกลางคืน
3.วางแผนเที่ยวเป็นโซน จะไม่เหนื่อยเกินไปสถานที่เที่ยวหลายแห่งในหนานจิงอยู่ห่างกัน เช่น โซน Purple Mountain ที่รวมสุสานซุนยัดเซ็น พิพิธภัณฑ์ และหอดูดาว ถ้าพยายามเก็บหลายโซนในวันเดียวจะเดินกันจนขาอ่อน ทางที่ดีควรแบ่งวันตามโซน เช่น วันหนึ่งเที่ยวภูเขา อีกวันเดินเล่นในเมือง แล้ววันสุดท้ายค่อยเน้นถนนโบราณหรือหาของฝาก
4.โหลดแอปแผนที่จีนและเตรียมวิธีจ่ายเงินให้พร้อมGoogle Maps ใช้ในจีนได้ไม่ดีเท่าไหร่ แนะนำให้โหลดแอป Gaode Map หรือ Baidu Maps จะช่วยให้หาทางเดินและป้ายรถบัสได้แม่นกว่าเยอะ ส่วนเรื่องจ่ายเงิน ถ้ามี WeChat หรือ Alipay จะสะดวกสุด หรือจะซื้อบัตร IC อย่าง Jinlingtong สำหรับขึ้นรถเมล์กับรถไฟใต้ดินก็ได้เหมือนกัน