ถ้าพูดถึงซัวเถาหลายคนอาจนึกถึงบ้านเกิดของอากงอาม่า เมืองที่บรรพบุรุษของคนไทยเชื้อสายจีนหลายคนเคยขึ้นเรือจากที่นี่เพื่อมาตั้งรกรากในเมืองไทย หรือบางคนอาจแค่คุ้นๆ ชื่อจากเรื่องเล่าในครอบครัว แต่รู้ไหมว่าเมืองท่าเล็กๆ แห่งนี้มีอะไรน่าสนใจกว่าที่คิด! เพราะซัวเถาเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบแต้จิ๋วแท้ๆ ทั้งวัดเก่า ถนนโบราณ อาหารท้องถิ่นรสเด็ด และสถานที่มูอีกเพียบ ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ฮวงจุ้ยดีที่สุด แถมยังเป็นต้นกำเนิดของเทพเจ้าหลายองค์ ใครที่เป็นสายมู สายบุญ หรืออยากลองเที่ยวจีนแบบโลคอลไม่ซ้ำใคร ตามมาเลย! วันนี้ Traveloka รวมมาให้แล้วกับ 12 ที่เที่ยวซัวเถา พร้อมลิสต์ที่กิน ที่พักแนะนำ จัดทริปง่าย เที่ยวครบในบทความเดียวเลย!

มาเริ่มต้นการเที่ยวซัวเถากันด้วยสถานที่ที่มีความผูกพันกับคนไทย สุสานพระเจ้าตากสิน ตั้งอยู่ในเขตเฉิงไห่ เชื่อกันว่าเป็นบ้านเกิดของพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนจะเดินทางข้ามทะเลมาสู่แผ่นดินสยาม ที่นี่เป็นสวนอนุสรณ์ขนาดใหญ่ มีรูปปั้น รูปหล่อ และแผ่นจารึกเกี่ยวกับพระราชประวัติ ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมจีนสวยงามแบบคลาสสิก เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ และตามรอยเส้นทางที่เชื่อมโยงไทยจีนไว้อย่างแน่นแฟ้น

แลนด์มาร์กของซัวเถาที่สายบุญต้องแวะ! วัดดังในซัวเถา วัดไคหยวน คือวัดพุทธเก่าแก่ที่สุดในเมือง สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ราวปี ค.ศ. 738 ตั้งอยู่บนทำเลฮวงจุ้ยดีที่สุดที่เรียกว่าทีกง เชื่อกันว่าเป็นจุดรวมพลังฟ้าดิน ภายในวัดร่มรื่นด้วยต้นไม้และสระบัว มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ วิหารสวยแบบจีนดั้งเดิม พร้อมองค์เจ้าแม่กวนอิมหยกขาวปางทะเลใต้ที่ประดิษฐานอยู่หน้าวัด เชื่อกันว่าขอพรแล้วจะช่วยเรื่องค้าขาย การเดินทาง และสุขภาพ ส่วนด้านในยังมีเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ผู้คนศรัทธาว่าศักดิ์สิทธิ์มาก โดยเฉพาะเรื่องปลดหนี้และโชคลาภ จนถูกเปรียบว่าขอปุ๊บ ได้ปั๊บไม่แพ้หลวงพ่อทันใจในไทยเลย

หนึ่งในไฮไลต์ของทริปเที่ยวซัวเถา ต้องยกให้ Shantou Old Town ย่านเมืองเก่าที่ถูกรีโนเวตใหม่อย่างมีสไตล์ เต็มไปด้วยตึกสไตล์จีนยุโรปสุดคลาสสิก เดินเพลินตั้งแต่บ่ายยันค่ำ ที่นี่เป็นถนนคนเดินคึกคักสุดๆ มีร้านอาหารท้องถิ่น ร้านชาเก่าแก่ และคาเฟ่ชิคๆ อยู่เยอะมาก สายคอนเทนต์ สายคาเฟ่ฮอปปิ้งต้องชอบแน่นอน แม้ซัวเถาจะเป็นเหมือนเมืองเยี่ยมญาติในสายตาคนไทย แต่ในหมู่วัยรุ่นจีนที่นี่คือโลเคชันฮอตฮิตสำหรับเช็กอิน ถ่ายภาพแบบเท่ๆ ในบรรยากาศวินเทจแบบจีนเลยก็ว่าได้

ใครที่มาเที่ยวซัวเถา แล้วอินเรื่องมูเตลู ขอพรเสริมดวง ขอแนะนำให้แวะสักการะศาลเจ้าแม่ทับทิมหรือ ศาลเจ้าแม่ไฮตังม่า ที่ตั้งอยู่กลางเกาะหม่าสือ จุดเช็กอินสุดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวแต้จิ๋วและชาวเรือศรัทธากันมานานหลายร้อยปี ถ้าหากเดินขึ้นไปบนยอดเกาะหม่าสือ จะพบกับองค์เจ้าแม่กวนอิมปางประทานพร องค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่บนดอกบัวสูงเด่น มองเห็นมาตั้งแต่ไกล ชาวซัวเถานิยมมากราบไหว้เพื่อขอพรด้านการค้าขายและความมั่งคั่ง บรรยากาศศาลเจ้าอยู่ติดทะเล มีสะพานเชื่อมให้เดินข้ามไป มีลมทะเลเย็นๆ พัดมาตลอดเวลา เป็นอีกหนึ่งจุดแนะนำสำหรับใครที่มาเที่ยวซัวเถาแล้วอยากไหว้เจ้า และพกพรดีๆ กลับบ้าน

ถ้าเอ่ยถึงไต่ฮงกงหลายคนคงคุ้นหูกับชื่อ มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ในไทย แต่น้อยคนจะรู้ว่า ต้นกำเนิดของสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อยู่ที่ ซัวเถา เมืองจีนนี่เอง ศาลเจ้าไต่ฮงกงง คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กลางหุบเขา ที่ชาวแต้จิ๋วให้ความเคารพนับถือมาอย่างยาวนาน หลวงพ่อไต่ฮงกงเป็นมหาเถระจากสมัยราชวงศ์ซ้อง ผู้เปี่ยมเมตตา ช่วยเหลือคนเจ็บ คนจน และเก็บศพไร้ญาติ จนได้รับความเลื่อมใสจากผู้คนอย่างกว้างขวาง เกิดเป็นแรงศรัทธาที่ส่งต่อมายังไทยและทั่วโลก ทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นนิยมมาขอพรเรื่องสุขภาพ การสะเดาะเคราะห์ และเสริมสิริมงคล ใครแวะมาอย่าลืมทำบุญซื้อโรงศพ รับฮู้แดง ติดตัวกลับไปด้วยนะ เชื่อกันว่าจะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีและเสริมความร่มเย็นให้ชีวิต

มาเที่ยวซัวเถาทั้งที ถ้าไม่มาย่านนี้ ก็คงไม่ได้! Paifang Street ถนนโบราณใจกลางเมืองเก่าที่ให้บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในฉากหนังจีนย้อนยุค จะมากลางวันหรือกลางคืนก็เดินชิลได้คนละฟีล สองข้างทางเรียงรายด้วยร้านขนมโบราณ ของที่ระลึก และร้านอาหารแต้จิ๋วท้องถิ่นแท้ๆ ใครอยากลิ้มรสแบบออริจินัลหรือหาของฝากติดมือกลับบ้าน บอกเลยว่าเพลินไม่แพ้แหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆ แน่นอน นอกจากนี้ จากถนนนี้ยังสามารถเดือนไปอีกสองสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของซัวเถา อย่างหอประตูเมืองกว่างจี้ และสะพานวัวคู่จุดชมวิวแม่น้ำที่โด่งดังของเมืองแต้จิ๋วได้อีกด้วย

สะพานโบราณอายุกว่าร้อยปีที่ทอดข้ามแม่น้ำหานเจียงใจกลางเมืองเก่าซัวเถา หนึ่งในจุดสัญจรสำคัญของชาวแต้จิ๋วในอดีต และวันนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กสุดโรแมนติกที่ใครมาเที่ยวซัวเถาก็ต้องแวะถ่ายรูป สะพานแห่งนี้มีอีกชื่อว่าสะพานกว่างจี้ มีความยาวกว่า 515 เมตร โดยจุดเด่นอยู่ตรงช่วงกลางสะพานที่ใช้เรือไม้ 18 ลำเชื่อมต่อกัน สามารถเปิด ปิดได้เพื่อให้เรือแล่นผ่าน ถือเป็นสะพานเปิดปิดแห่งแรกของจีนเลย ทีเด็ดคือวิวจากกลางสะพาน คือสวยมาก โดยเฉพาะช่วงเย็นที่แสงอาทิตย์ตกกระทบแม่น้ำ บรรยากาศทั้งสงบและอบอุ่น เหมาะกับการเก็บภาพที่ผสมผสานทั้งประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและธรรมชาติของซัวเถาไว้อย่างลงตัว

ถ้าได้เดินเล่นที่ Paifang Street แล้ว ยังไงก็ต้องแวะมาเก็บภาพตรงนี้ให้ได้! แค่เดินเพลินๆ ไม่กี่ก้าวก็จะเจอกับ หอประตูเมืองกว่างจี้ แลนด์มาร์กสุดขลังที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเก่าซัวเถา ตัวประตูออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิม ที่ยังคงความงดงามแบบคลาสสิกไว้ครบ ทั้งโครงสร้างไม้ หน้าจั่วโค้ง และหลังคาเรียงกระเบื้องแบบโบราณ แถมตอนเย็นๆ พอไฟเมืองเริ่มเปิด บรรยากาศคือดีมาก! แค่ยืนโพสเบาๆ หน้าประตูก็ได้ภาพฟีลจีนคลาสสิกกลับไปลงอวดเพื่อนแล้ว บอกเลยว่าถ้าไม่ได้แวะมาจุดนี้ ถือว่าทริปเมืองเก่ายังไม่ครบ!

อีกที่เที่ยวซัวเถาที่สายมูต้องแวะ! ศาลเทพมังกรเขียว หรือ แชเล่งเอี๊ย คือหนึ่งในศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวแต้จิ๋วนับถือมายาวนาน เชื่อกันว่าท่านช่วยเสริมพลังชีวิต เรียกทรัพย์ และคุ้มครองให้ปลอดภัย ศาลแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงแชเล่งเอี๊ย ขุนนางผู้เคยช่วยชาวแต้จิ๋วเดินทางข้ามทะเลไปตั้งหลักในต่างแดน ปัจจุบันจึงกลายเป็นที่พึ่งทางใจของชาวจีนโพ้นทะเล และเชื่อกันว่าเป็นเทพผู้ดูแลแหล่งน้ำ คอยอำนวยความอุดมสมบูรณ์และความสงบร่มเย็น ตัวศาลตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เดินทางง่าย โดยเฉพาะช่วงตรุษจีนที่ศาลแห่งนี้จะคึกคักเป็นพิเศษ เหมาะกับใครที่อยากเที่ยวจีนเมืองรอง อย่างซัวเถาแบบเน้นพลังบวก ได้ทั้งทำบุญ ขอพร หรือเติมพลังดีๆ ก่อนเริ่มต้นปีใหม่

ถ้าอยากเข้าใจว่า ซัวเถา มีวัฒนธรรมลึกซึ้งแค่ไหน ต้องแวะมาที่ พิพิธภัณฑ์เฉาซาน พิพิธภัณฑ์ใหญ่กลางเมืองที่รวมทุกเรื่องราวของภูมิภาคแต้จิ๋วไว้ครบ ทั้งภาษา ประวัติศาสตร์ อาหาร การแต่งกาย และวิถีชีวิต

คำว่าเฉาซานหมายถึงภูมิภาควัฒนธรรมในภาคตะวันออกของมณฑลกวางตุ้ง ครอบคลุมเมืองแต้จิ๋ว เจียหยาง และซัวเถา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบรรพบุรุษชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากที่อพยพมาตั้งรกรากในไทย ที่นี่จัดแสดงนิทรรศการได้มีชีวิตชีวาแถมเข้าใจง่ายแม้ทุกอย่างจะเป็นภาษาจีนล้วน เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะใครที่มาเที่ยวซัวเถาแบบครอบครัว หรืออยากเติมความรู้เรื่องวัฒนธรรมจีนแต้จิ๋วในเชิงลึก

ตัวอาคารที่นี่มีถึง 4 ชั้น สวยงาม โอ่อ่ากว้างขวางมาก และที่สำคัญเข้าชมฟรี! แถมยังเป็นโลเคชันยอดฮิตของเหล่าบล็อกเกอร์เลยก็ว่าได้เพราะมีมุมมินิมอลเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปเพียบ เรียกได้ว่า ทั้งได้ความรู้และภาพสวยกลับบ้านแบบจบครบในที่เดียว

อีกหนึ่งวัดดังซัวเถาที่สายบุญไม่ควรพลาด วัดดอกไม้ขาว หรือ ศาลเจ้าแปะฮวยเจียม วัดเก่าแก่บนเนินเขาที่ทั้งวิวสวย อากาศดี และเงียบสงบ เหมาะกับกามาไหว้ขอพรเรื่องสุขภาพ ความรัก การงาน และความราบรื่นในชีวิต วัดแห่งนี้สร้างตามหลักศาสนาเต๋ามาหลายร้อยปี และมีการบูรณะใหม่ให้สวยงามยิ่งขึ้น ภายในประดิษฐานเทพเจ้าหลายองค์ตามความเชื่อจีนโบราณ เช่น พระเจ้าหยก (อี้หวางฮ่องเต้), เจ้าแม่สวรรค์ชั้นเก้า (กิ้วเทียนเนี้ยงเนี้ยง) และเทพเจ้าตามความเชื่อจีนโบราณอีกมากมายที่ชาวแต้จิ๋วนับถือ บรรยากาศทั้งของวัดทั้งศักดิ์สิทธิ์และร่มรื่น ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดที่คนซัวเถาและนักท่องเที่ยวต่างศรัทธา แวะมาเติมพลังบุญกันแน่นแทบทุกเทศกาลเลย

ปิดท้ายทริปเที่ยวซัวเถา กับศาลเจ้าที่คนไทยคุ้นชื่อกันดี! ถ้าใครได้เคยไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือที่เสาชิงช้า ที่กรุงเทพแล้วก็ต้องไม่พลาดมาสักการะองค์จริง ที่ Xuanwu Mountain หรือเฮี้ยงบู้ซัว ที่เมืองลู่เฟิง ในซัวเถา แหล่งศักดิ์สิทธิ์ที่สายมูและนักธุรกิจจีนเชื้อสายแต้จิ๋วศรัทธากันมายาวนาน

ศาลแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง และได้รับการบูรณะให้ยิ่งใหญ่ตามแบบศาสนาเต๋า โดยผสมผสานความเชื่อของพุทธเข้าไว้ด้วยกัน ว่ากันว่า ใครที่มาขอพรที่นี่มักจะประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะด้านค้าขายและธุรกิจ ทำให้ผู้คนเดินทางมาบนบานและแก้บนกันทุกปี ทั้งจากในจีนและต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีน ที่เชื่อว่าชีวิตหนึ่งต้องมาไหว้ให้ได้สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล ใครกำลังเที่ยวซัวเถาด้วยตัวเอง แล้วอยากเสริมดวง แก้ปีชง หรือขอพรให้ธุรกิจปังๆ ศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้คืออีกหนึ่งจุดที่ต้องปักหมุดเลย!

หลังจากเดินสายไหว้เจ้า เที่ยวเมืองเก่า และถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว ก็ถึงเวลาตะลุยของกินซัวเถาที่บอกเลยว่าเด็ดไม่แพ้เมืองใหญ่! เพราะของกินที่นี่คือรสชาติต้นตำรับแบบแต้จิ๋วแท้ๆ ลองแวะร้านเหล่านี้ รับรองไม่ผิดหวัง

สายเนื้อห้ามพลาดร้านนี้! Fuhecheng Beef Hotpot ร้านหม้อไฟสไตล์แต้จิ๋วแท้ๆ เนื้อวัวพรีเมียม สไลซ์บางเฉียบ เสิร์ฟคู่ลูกชิ้นเนื้อโฮมเมดแบบเด้งสู้ฟัน น้ำซุปหอมเบาๆ ไม่หนักเครื่องจนเกินไป ทำให้กินได้เรื่อยๆ แบบไม่เลี่ยน ไฮไลต์คือที่นี่ใช้เนื้อวัวหลากหลายส่วน ทั้งเนื้อสัน เนื้อเอ็น และเครื่องในที่สดมาก ใครอยากฟินแบบครบสูตรแนะนำให้จิ้มกับซอสถั่วตังเชียงที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน รับรองว่าฟิน!

เที่ยวซัวเถากินอะไรดี? ร้านนี้คือร้านหม้อไฟสูตรแต้จิ๋วที่หาทานได้ยากมากในเมืองอื่น! จุดเด่นของร้าน Chaolu Dao คือใช้น้ำพะโล้หรือที่ชาวแต้จิ๋วเรียกว่าโล่ยสุ่ยมาเป็นน้ำซุปหลักของหม้อไฟ เสิร์ฟพร้อมเนื้อ เครื่องใน เต้าหู้ หมูสามชั้น และลูกชิ้นต่างๆ กลิ่นหอมของสมุนไพรพะโล้คือดีมาก และรสชาติกลมกล่อม ไม่จัดจนเกินไป ใครที่อยากลองอะไรแปลกใหม่ ก็ต้องแวะมากินหม้อไฟพะโล้ที่นี่ให้ได้

มาซัวเถาแล้วไม่กินห่านพะโล้เท่ากับมาไม่ถึง! ร้าน Ririxiang Goose Meat Restaurant ร้านขึ้นชื่อที่คนท้องถิ่นยกให้เป็นหนึ่งในเจ้าประจำ ห่านพะโล้เนื้อนุ่ม หนังบาง น้ำพะโล้เข้มข้นแต่ไม่เค็มจัด เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมๆ หรือบะหมี่น้ำ ยังไม่หมดแค่นั้น! เมนูอื่นๆ ก็จัดจ้านไม่แพ้กัน ทั้งเต้าหู้พะโล้ ตับห่าน และซุปห่านตุ๋น คือดีแบบต้องยกนิ้ว เหมาะมากสำหรับเติมพลังช่วงมื้อกลางวัน หรือปิดท้ายทริปหลังตะลุยครบทุกจุดในเส้นทางเที่ยวซัวเถา แบบจุกๆ อิ่มทั้งเที่ยวและอิ่มท้องเลย!

วางแผนเที่ยวทั้งที เรื่องที่พักก็สำคัญ! เรารวมมาให้แล้วกับ 3 โรงแรมในซัวเถา ตอบโจทย์ครบทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเที่ยวแบบครอบครัว สายบุญ หรือแบ็กแพ็กเบาๆ พร้อมเดินทางสะดวก ใกล้แลนด์มาร์กหลักของซัวเถา

โรงแรม Shantou DIOTEL Queen Hotel บรรยากาศอบอุ่น อยู่ในทำเลทอง ใกล้ร้านอาหาร คาเฟ่ และย่านช้อปปิ้ง เดินทางสะดวกสุดๆ จะไปเที่ยววัดก็ง่าย ไป Paifang Street ก็แค่ไม่กี่นาที ห้องพักตกแต่งเรียบแต่ดูดี เตียงนุ่ม แอร์เย็น วิวเมืองสวยๆ มีคาเฟ่และบาร์ข้างล่างให้นั่งชิลตอนเช้าหรือพักเท้าตอนเย็นหลังตะลุยเที่ยว เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวซัวเถาแบบสะดวกและไม่ไกลจากจุดเที่ยวหลัก

ใครมาทริปนี้แบบจัดเต็ม อยู่นาน อยากพักผ่อนแบบสบายตัว สบายใจ Shantou Marriott Hotel ตัวเลือกที่ดีที่สุด! โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่อยู่ในเครือ Marriott มาตรฐานระดับโลก บริการดีไว้ใจได้แน่นอน ห้องพักกว้าง วิวเมืองสวย ฟังก์ชันครบ ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องอาหารหลากสไตล์ และฟิตเนสครบครัน โลเคชันก็ดีงาม อยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ใกล้ห้าง ใกล้ร้านอาหาร เดินทางไปจุดเที่ยวต่างๆ ในเมืองก็สะดวก เหมาะมากสำหรับทั้งครอบครัว คู่รัก หรือใครที่อยากชิลๆ ทริปเที่ยวซัวเถา เมืองจีนแบบไม่ต้องเร่งรีบ พักหรู นอนสบาย ตื่นมาก็พร้อมลุยต่อทันที!

ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองจอแจ มาใช้เวลาเงียบๆ ต้องเล็งที่นี่ไว้เลย! Shantou Jintaiwan Hotel (Haimen Lotus Peak Scenic Area) ตั้งอยู่ใกล้ ภูเขา Lotus Peak จุดหมายยอดฮิตของสายมู ที่นี่ทั้งวิวดี บรรยากาศก็สงบ ห้องพักสะอาด กว้างขวาง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ แถมราคายังน่ารัก เหมาะมากสำหรับสายชิลที่อยากเซฟงบ หรือใครที่กำลังมองหาที่พักเงียบๆ สำหรับพักผ่อนก่อนกลับไทยแบบได้หลับเต็มอิ่ม

สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าซัวเถาอยู่ไหน คำตอบคือที่นี่ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีน ใกล้เมืองใหญ่อย่างกว่างโจวและเซินเจิ้น เป็นเมืองท่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และยังเป็นเมืองต้นกำเนิดบรรพบุรุษคนไทยเชื้อสายจีนจำนวนไม่น้อยอีกด้วย

แม้ตอนนี้จะยังไม่มีเที่ยวบินตรงจากไทยไปซัวเถาโดยตรง แต่เดินทางได้ไม่ยากเลย! วิธีที่สะดวกที่สุดคือบินไปลงที่สนามบินเมืองใหญ่ในจีน เช่น กว่างโจว (Guangzhou) เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) เซินเจิ้น (Shenzhen) และเซียะเหมิน (Xiamen)

จากนั้นต่อเครื่องบินภายในประเทศมาลงที่ สนามบิน Jieyang Chaoshan International Airport (SWA) ซึ่งเป็นสนามบินหลักของซัวเถา ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 6–10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก

หากใครอยากเช็กตั๋วเครื่องบินไปซัวเถาล่วงหน้าแบบง่ายๆ จองผ่าน Traveloka ก็สะดวกสุด เพราะรวมสายการบินจีนไว้ครบ!

ส่วนใครที่แพลนเที่ยวหลายวันจากทั้งกว่างโจว เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น หรือเซียะเหมิน แล้วต่อด้วยซัวเถา อย่าลืมแวะเช็กลิสต์ที่เที่ยวดังในเมืองใหญ่กันนะ

อ่านต่อ:

แม้ซัวเถาจะไม่มีรถไฟใต้ดินเหมือนเมืองใหญ่ แต่ระบบขนส่งในเมืองก็ใช้งานง่ายและครอบคลุม ทั้งรถบัส แท็กซี่ และแอปเรียกรถ

ถ้าแพลนเที่ยวซัวเถาด้วยตัวเอง ก็สบายใจได้เลย เพราะการเดินทางในเมืองไม่ซับซ้อน แถมคนท้องถิ่นก็น่ารักและพร้อมช่วยเหลือ

การวางแผนเรื่องเวลาเที่ยวก็สำคัญไม่แพ้พิกัด! สำหรับใครที่กำลังคิดว่าควรไปช่วงไหน ขอสรุปสั้นๆ ให้แบบนี้เลย

พูดง่ายๆ คือจะมาเที่ยวซัวเถาตอนไหนก็ได้ แต่ถ้าอยากได้ฟีลดีสุด แนะนำให้เล็งไว้ช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วง รับรองทั้งรูปสวย อากาศดี เดินเที่ยวเพลิน!

ใจเปิดพร้อมลองของกินใหม่ๆ ของกินที่นี่อาจรสอ่อนกว่าของไทย แต่ถ้าลองหม้อไฟพะโล้หรือห่านพะโล้ สักมื้อ รับรองจะเข้าใจว่าทำไมซัวเถา เมืองมรดกชาวจีนโพ้นทะเลแห่งนี้ถึงมีของอร่อยที่คนจีนโพ้นทะเลคิดถึงอยู่เสมอ