ซูโจวเป็นเมืองเล็กแต่มากเสน่ห์ในมณฑลเจียงซู อยู่ห่างจากเซี่ยงไฮ้แค่ประมาณ 100 กิโลเมตร ระยะทางพอๆ กับกรุงเทพฯ ไปชลบุรีเลย แต่จุดเด่นคือเดินทางง่ายมาก แค่นั่งรถไฟความเร็วสูงก็ถึงใน 25 นาที เท่านั้น! ใครกำลังมองหาทริปเที่ยวจีน ที่ทั้งเที่ยวชิล เดินสบาย ได้ฟีลย้อนยุคหน่อยๆ บอกเลยว่าการไปเที่ยวซูโจว ตอบโจทย์สุดๆ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น เมืองแห่งสะพานและสวน เต็มไปด้วยบ้านโบราณริมคลอง สวนจีนคลาสสิก และกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าที่หาดูได้ยากในเมืองใหญ่
บทความนี้ Traveloka เลยรวมมาให้แล้วกับ 10 ที่เที่ยวซูโจว ที่สวยจริง ฮิตจริง พร้อมพิกัด ร้านอาหารแนะนำ และที่พักน่านอน ครบทุกอย่างในที่เดียว!
ถ้าถามว่ามา ซูโจว แล้ว เที่ยวไหนดี? เชื่อเลยว่า ถนนโบราณซานถังเจีย (Shantang Street) ต้องเป็นหนึ่งในคำตอบยอดฮิตแน่นอน! ที่นี่เป็นย่านเมืองเก่าจีนสุดคลาสสิกที่บรรยากาศดีมากกก เดินเพลินได้ทั้งวัน
ซานถังเจียสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคราชวงศ์ถัง เคยเป็นเส้นทางการค้าหลักของเมืองซูโจวมาก่อน ถึงจะเป็นถนนโบราณที่มีมานาน แต่ปัจจุบันก็ยังมีชีวิตชีวาสุดๆ มีร้านน่ารักๆ เรียงรายเต็มสองข้างทาง ทั้งร้านน้ำชา ขายของที่ระลึก ขนมพื้นเมือง ไปจนถึงคาเฟ่เก๋ๆ
บรรยากาศริมคลองก็ดีมาก บ้านไม้จีนโบราณเรียงกันเป็นแนวยาวตามริมคลอง ยิ่งช่วงเย็นคือที่สุด แดดอ่อนๆ สะท้อนคลองน้ำและโคมแดงที่ห้อยเรียงกันตามถนน เดินแล้วได้ฟีลเหมือนอยู่ในหนังหนังพีเรียดจีน ใครเป็นสายถ่ายรูป สายเดินเล่น สายชอบของกิน คือต้องมา แนะนำเลย!
ถ้าหากพูดถึงเมืองแห่งสวนจีนโบราณคงไม่มีใครไม่พูดถึง สวนหลิวหยวน หรือ The Lingering Garden ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สวนคลาสสิกแห่งซูโจว ที่ขึ้นชื่อว่าจัดองค์ประกอบได้สวยแบบละเมียดสุดๆ จนได้เป็นที่เที่ยวระดับ 5A ของจีนไปเลย
เดิมที่นี่เคยเป็นบ้านของเศรษฐีชื่อดังในยุคราชวงศ์ชิง จึงไม่แปลกที่สวนจะดูหรูหราและครบทุกองค์ประกอบ พื้นที่สวนแบ่งเป็น 4 โซน โซนตะวันออกจะเน้นอาคารจีนโบราณ โซนตรงกลางเป็นสวนสวยมีบ่อน้ำกับต้นไม้ร่มรื่นให้เดินเพลินๆ โซนตะวันตกมีภูเขาจำลองกับหินตั้งเท่ๆ แบบนิยายกำลังภายใน และโซนเหนือเป็นฟีลชนบทนิดๆ แต่ชมแล้วสบายตาสุดๆ ถ้าให้แนะนำช่วงที่ควรมาที่สุด ก็คือฤดูใบไม้ผลิ เพราะดอกไม้จะบานเต็มไปหมด ทั้งแมกโนเลีย โบตั๋น วิสทีเรีย สีสันสดใสสุดๆ เหมาะกับสายถ่ายรูปหรือใครที่อินกับความ aesthetic แบบจีนๆ คือห้ามพลาดเลย
พามาเที่ยวอีกหนึ่งที่เที่ยว 5A ที่ห้ามพลาดของซูโจว! ใครชอบทั้งวิวสวยและประวัติศาสตร์ในที่เดียว ต้องแวะมาเนินเสือ จุดชมวิวที่เก่าแก่กว่า 2,500 ปี เดินขึ้นมาบนเนินจะเจอกับสวนร่มรื่น ศาลาสไตล์จีน บ่อน้ำใสๆ กับสะพานเล็กๆ ที่จัดวางอย่างลงตัวทุกมุม เดินแล้วเพลินมาก แต่ไฮไลต์ตัวจริงต้องยกให้ เจดีย์เนินเสือ เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สูง 7 ชั้น ที่เอียงนิดๆ เลยถูกเรียกว่า “หอเอนปิซ่าของจีน” อีกมุมที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ สระดาบ ที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์เหอลู่แห่งรัฐอู๋ เล่ากันว่าข้างใต้มีดาบกว่า 3,000 เล่ม รวมถึงสมบัติมากมายฝังอยู่ ใครชอบเสพวิวพร้อมเรื่องเล่าคือห้ามพลาด!
ใครเป็นสายอาร์ตหรือหลงใหลงานสถาปัตย์ ต้องแวะ! พิพิธภัณฑ์ซูโจว พิพิธภัณฑ์สุดโมเดิร์นที่นอกจากจะจัดแสดงของโบราณกว่า 10,000 ชิ้นแบบจุกๆ แล้ว ตัวอาคารก็คือสวยกินขาด! เพราะออกแบบโดย I.M. Pei สถาปนิกระดับโลกเจ้าของผลงานพีระมิดแก้ว Louvre ที่ปารีส
ดีไซน์ของอาคารที่นี่คือเท่ไม่ซ้ำใคร ผสมผสานความโมเดิร์นมินิมอลสมัยใหม่กับกลิ่นอายจีนดั้งเดิมได้อย่างลงตัว ทั้งแสงธรรมชาติ เส้นสายเรขาคณิต และการใช้วัสดุอย่างหินแกรนิตแบบมีสไตล์ เดินดูงานศิลป์ไป ชมอาคารไป คือเพลินสุดๆ ด้านในก็จัดแสดงทั้งเครื่องเคลือบ ภาพวาด งานทองสัมฤทธิ์ และของโบราณต่างๆ ที่สะท้อนประวัติศาสตร์ซูโจวได้ครบ ใครไม่ได้อินประวัติศาสตร์มากก็เดินสนุกได้เหมือนกัน ดูแล้วไม่มีง่วงแน่นอน!
ขอพาไปหลบหลีกความวุ่นวาย มาเที่ยวแบบสโลวไลฟ์ ชมวิวสวยๆ รับลมเย็นๆ กันที่โจวจวง เมืองโบราณริมคลองที่ได้ชื่อว่าเป็น “เวนิสแดนมังกร บรรยากาศที่นี่คือดีมาก บ้านไม้เก่าริมน้ำที่ยังคงความคลาสสิก ไฮไลต์คือนั่งเรือพายล่องไปตามคลอง ชมวิวบ้านโบราณที่สะท้อนบนผิวน้ำ หรือจะเลือกเดินเล่นบนถนนหินเก่าก็ชิลไม่แพ้กัน เพราะมีทั้งร้านของฝาก คาเฟ่ และของกินอร่อยๆ เพียบ แถมมุมถ่ายรูปคือปังทุกมุม โดยเฉพาะแถว สะพานซวงเฉียว กับ สะพานฟู่อัน ได้ภาพสวยเม็มเต็มกันแน่นอน แม้จะอยู่นอกตัวเมืองซูโจวออกมาหน่อย แต่บอกเลยว่าคุ้มมม!
ถ้าอยากสัมผัสซูโจวในมุมที่คลาสสิกที่สุด ต้องลองล่องเรือใน คลองต้าอวิ่นเหอ คลองเก่าแก่กว่า 1,400 ปี ที่เป็นส่วนหนึ่งของคลองขุดปักกิ่ง–หางโจว คลองขุดที่ยาวที่สุดในโลก! ระหว่างทางจะได้ชม บ้านไม้จีนโบราณ เรียงรายริมคลอง บวกกับสะพานหินเก่าๆ กว่า 20 แห่งที่แต่ละอันก็มีดีไซน์และเรื่องราวเฉพาะตัว โดยเฉพาะ Midu Bridge ที่ถือว่าเป็นสะพานเก่าแก่ของเมืองที่ยังอนุรักษ์ไว้อย่างดี นอกจากนี้ยังจะได้เห็น กำแพงเมืองเก่าซูโจวที่สร้างมากว่า 2,500 ปี พร้อม ประตูเมืองโบราณอย่าง Xu Gate ที่ยังดูขลังและยิ่งใหญ่เหมือนในสมัยก่อน ที่พิเศษไปกว่านั้นคือวิวสองฝั่งคลอง ฝั่งหนึ่งเป็นบ้านโบราณของเมืองเก่า อีกฝั่งเป็นอาคารทันสมัยของเมืองใหม่ เป็นภาพที่สะท้อนความกลมกลืนของซูโจวได้ชัดเจนสุดๆ
สำหรับใครที่อยากล่องเรือชมคลองต้าอวิ่นเหอ สามารถเลือกขึ้นเรือได้จากหลายท่า เช่น Xinshiqiao Wharf (เส้นทางไป–กลับ Panmen หรือ Midu Bridge), Bai Juyi Wharf (มีทั้งรอบกลางวันและกลางคืน), Xiangmen Wharf (เส้นทางชมเมืองเก่า), และ Qimen Wharf (เส้นทางระยะสั้น เหมาะกับเวลาน้อย) แต่ละท่าจะมีวิวและเส้นทางต่างกันนิดหน่อย เลือกตามฟีลที่ชอบได้เลย
ถ้าเบื่อบรรยากาศเมืองเก่ากันแล้ว ลองเปลี่ยนฟีลมาเที่ยวซูโจวอีกฝั่งที่ ทะเลสาบจินจิ จุดเช็กอินของซูโจวที่รายล้อมด้วยตึกระฟ้า โรงแรมหรู ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ และบรรยากาศริมทะเลสาบที่ดีต่อใจสุดๆ จะเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือแค่นั่งชิลดูวิวเฉยๆ ก็ได้หมด โดยเฉพาะตอนเย็นที่พระอาทิตย์ตกสะท้อนทะเลยสาบคือสวยม๊าก! ส่วนกลางคืนก็ยิ่งโรแมนติกไปอีก เพราะแสงไฟจากตึกที่สะท้อนลงน้ำวิบวับไปหมด ถ้ามาเที่ยวซูโจวหน้าหนาวจะมีหมอกจางๆ ให้ได้ชม ส่วนฤดูใบไม้ผลิก็มีสวนดอกไม้ให้เดินถ่ายรูปเพลินๆ บอกเลยว่ามุมนี้ของซูโจว ไม่โบราณแต่ดีงามไม่แพ้กัน!
อีกหนึ่งสวนเก่าแก่ที่อยากชวนแวะในซูโจว สวนโอ่วหยวน สวนสวยเงียบสงบที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากคูเมือง สร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดย UNESCO อีกด้วย แม้จะไม่ได้ใหญ่โตเหมือนสวนอื่นๆ แต่การจัดวางพื้นที่ถือว่าเดินสะดวกมาก ตรงกลางเป็นเรือนที่พักอาศัย และสองฝั่งซ้ายขวาเป็นสวนที่เชื่อมต่อกันด้วยระเบียงมีหลังคา เดินสบายรอบสวนแบบไม่ต้องกลัวแดด บรรยากาศภายในก็จัดสรรได้ลงตัวมาก มีทั้งสระน้ำ หินจำลอง ศาลา หอคอย และเรือนโถงแบบจีนโบราณ แถมรอบสวนยังล้อมด้วยคลองถึง 3 ด้าน เดินเล่นเพลินๆ หรือขึ้นเรือชมวิวรอบสวนได้ด้วย ใครเบื่อแหล่งเที่ยวคนแน่นๆ แล้วอยากได้มุมเงียบๆ ถ่ายรูปสวยๆ เดินรับลมช้าๆ แบบไม่ต้องรีบ คือต้องลองแวะมา!
ถ้าเริ่มอิ่มตัวกับวัดโบราณและสวนคลาสสิกของซูโจวแล้ว ลองเปลี่ยนฟีลมาเช็กอินที่ Gate of the Orient หรือที่คนแซวกันว่า ตึกกางเกงยีนส์! แลนด์มาร์กยุคใหม่สุดล้ำของเมืองซูโจวที่ตั้งเด่นริมทะเลสาบจินจิ ด้วยดีไซน์โค้งเว้าสุดล้ำแบบตึกสูงที่ดูเผินๆ แล้วเหมือนยีนส์ยักษ์ยืนกลางเมือง จนกลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต ที่นี่ไม่ได้มีไว้ให้ดูอย่างเดียว เพราะด้านในมีทั้งร้านอาหารดังๆ คาเฟ่น่านั่ง ไปจนถึงจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบจินจิแบบพาโนรามาได้ด้วย ใครอยากเห็นซูโจวในมุมใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่กลิ่นอายโบราณ Gate of the Orient คืออีกมุมเมืองสุดโมเดิร์นที่ตอบโจทย์สุดๆ ถ่ายรูปขึ้นทุกมุม ไม่มาไม่ได้แล้ว!
พามาปิดท้ายที่เที่ยวซูโจวกันที่วัดฉงหยวน วัดริมทะเลสาบที่บรรยากาศเงียบสงบสุดๆ เหมาะกับการมาชาร์จพลังหลังจากตะลุยเที่ยวเมืองมาเต็มวัน ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่กว่า 1,500 ปี ที่แม้จะได้รับการบูรณะใหม่ แต่กลิ่นอายความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่ครบ! วัดฉงหยวนตั้งอยู่ริมทะเลสาบหยางเฉิง พร้อมสะพานทอดยาวไปถึงเกาะกลางน้ำ มองจากมุมสูงจะเห็นเป็นรูปดอกบัวรองรับองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำองค์ใหญ่ สูงถึง 33 เมตร ซึ่งถือเป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมในร่มที่ใหญ่ที่สุดในจีนเลยทีเดียว
บรรยากาศภายในวัดก็ร่มรื่น เดินชิลได้แบบไม่ต้องเร่งรีบ มีทั้งหอกลอง หอระฆัง โถงใหญ่ให้ไหว้พระขอพร หรือจะถ่ายรูปมุมสวยๆ ก็เพียบ ยิ่งใครเป็นสายมูที่ศรัทธาเจ้าแม่กวนอิม บอกเลยว่าต้องไม่พลาด เป็นจุดเช็กอินสุดปังที่เหมาะกับการปิดทริปซูโจวแบบอิ่มบุญ อิ่มใจสุดๆ
สายกินเส้นต้องรีบเซฟ! ร้านนี้คือตำนานบะหมี่ของซูโจวเลยก็ว่าได้! น้ำซุปของที่นี่เคี่ยวมาอย่างดี และเส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม เมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้เลยคือ บะหมี่น้ำซุปเนื้อ ซุปเข้มข้น เนื้อนุ่มละลายในปาก หรือถ้าอยากลองอะไรพิเศษช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้องโดน บะหมี่แห้งเนื้อปู ที่รสชาติกลมกล่อม หอมมัน ใครชอบอาหารจีนแบบดั้งเดิมที่ปรุงด้วยความใส่ใจและรสชาติดี ต้องมาลองให้ได้สักครั้ง รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน!
สาวกของทอดและของกินเล่นต้องเลี้ยวเข้าให้ไว! ร้านนี้คือร้านเด็ดที่คนท้องถิ่นบอกต่อกันมานานแสนนาน ที่นี่โด่งดังเรื่อง Shengjian (เซิงเจียน) ซึ่งเป็นเหมือนเสี่ยวหลงเปาแบบทอด แป้งด้านนอกกรอบกำลังดี แต่มีซุปฉ่ำๆ และเนื้อหมูแน่นๆ อยู่ข้างในด้วย รสชาติเค็มๆ มันๆ ลงตัวสุดๆ เตือนไว้ก่อนว่าต้องกินอย่างระมัดระวัง เพราะน้ำซุปข้างในร้อนมากๆ แต่รับรองว่าคุ้มค่า! ร้านนี้คนเยอะตลอด แนะนำให้ไปช่วงเช้าๆ หรือก่อนเที่ยง ไม่งั้นอาจจะต้องรอคิวนาน หรือเมนูเด็ดอาจจะหมดก่อน!
ร้านอาหารจีนกวางตุ้งชื่อดัง ตั้งอยู่ใจกลางถนนโบราณซานถังเจีย! ร้านนี้คือหนึ่งในร้านเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของซูโจวเลย บรรยากาศร้านกว้างขวาง ยังคงกลิ่นอายความคลาสสิก เมนูอาหารที่นี่เน้นอาหารซูโจวและอาหารจีนกวางตุ้งที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะเมนู Squirrel-shaped Mandarin Fish ที่เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของซูโจวเลยก็ว่าได้ เนื้อปลาทอดกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยซอสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ อีกมากมายที่อร่อยไม่แพ้กัน ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์การทานอาหารจีนระดับพรีเมียมในบรรยากาศที่ถูกต้อง ต้องมาที่นี่เลย!
สำหรับใครที่กำลังวางแผนเที่ยวซูโจว และมองหาโรงแรมน่าพัก ไม่ว่าจะอยากพักแบบหรูสไตล์รีสอร์ต เที่ยวกับครอบครัวแบบสะดวกสบาย หรือเป็นสายประหยัดที่อยากได้ที่พักบรรยากาศดี ๆ ซูโจวมีให้เลือกครบทุกแนวเลย และนี่คือ 3 โรงแรมในซูโจวที่เราคัดมาให้ ทั้งทำเลดี บริการดีเยี่ยม และบรรยากาศน่ารักจนอยากอยู่ยาว ๆ เลย!
ใครมองหาที่พักมาตรฐานดีๆ เดินทางสะดวก บริการครบ และมีวิวสวยริมทะเลสาบ ต้องไม่พลาดที่นี่ Crowne Plaza SUZHOU เป็นโรงแรมในเครือ IHG ที่การันตีเรื่องคุณภาพ ห้องพักกว้าง สะอาด ตกแต่งหรูแบบร่วมสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องอาหารพร้อมวิวทะเลสาบจินจิแบบเต็มตา บรรยากาศดีมาก แถมใกล้ย่านช้อปปิ้งและจุดท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งด้วย
China
คราวน์พลาซ่า ซูโจว - เครือโรงแรมไอเอชจี
Wuzhong Qu
THB 3,579.98
THB 3,526.75
ถ้าใครกำลังมองหาที่พักหรูๆ ในซูโจว ที่เงียบ สงบ และเป็นส่วนตัวสุดๆ แนะนำให้เลือกพักที่ Banyan Tree Suzhou Shishan เลย โรงแรมในเครือบันยันทรีที่ขึ้นชื่อเรื่องการพักผ่อนระดับพรีเมียม ห้องพักที่นี่กว้างขวาง ตกแต่งสวยหรูในสไตล์จีนร่วมสมัย ผสานความเป็นธรรมชาติเข้ากับดีไซน์โมเดิร์นได้อย่างลงตัว ในรีสอร์ตก็มีครบทุกอย่าง ทั้งสปา สระว่ายน้ำอินดอร์ ห้องอาหารเสิร์ฟเมนูฟิวชั่นแบบจัดเต็ม และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกเพียบ ใครอยากพักแบบหรูๆ ติดแกลม นอนสบาย ปล่อยความเหนื่อยจากการเที่ยวทั้งวัน ที่นี่ตอบโจทย์มาก!
China
บันยัน ทรี ซูโจว ชีซาน
Huqiu Qu
THB 13,739.64
THB 10,304.74
สายงบประหยัดที่กำลังมองหาที่พักราคาเป็นมิตรในซูโจว หรือใครที่อยากสัมผัสการพักผ่อนแบบเต็มที่ ขอแนะนำโฮมสเตย์น่ารักๆ แห่งนี้เลย Sanshan Island HoldDream Designer Castel Homestay ตั้งอยู่บนเกาะ Sanshan ซึ่งเป็นพื้นที่ธรรมชาติใกล้ทะเลสาบ ให้บรรยากาศเงียบ สงบ และเป็นกันเองสุดๆ ห้องพักตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูดีในสไตล์มินิมอล พร้อมพื้นที่ส่วนกลางให้นั่งอ่านหนังสือ ทำงาน หรือจะนั่งเล่น จิบชาแบบชาวซูโจวก็ได้ฟีลไปอีกแบบ ที่สำคัญคือเจ้าของดูแลดี เป็นกันเองมากๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนมานอนบ้านเพื่อนเลย
China
Sanshan Island HoldDream Designer Castel Homestay
Suzhou
ดูราคา
ปัจจุบันยังไม่มีเที่ยวบินตรงจากไทยไปซูโจวโดยตรง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกบินไปลงที่ เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ก่อน เพราะเดินทางสะดวกและมีไฟลต์จากไทยให้เลือกหลากหลาย เช่น Thai Airways, AirAsia X, Spring Airlines, China Southern, Cathay Pacific ฯลฯ ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที
จากสนามบินเซี่ยงไฮ้สามารถ นั่งรถไฟความเร็วสูง (High-Speed Rail) มาซูโจวได้เลย ใช้เวลาแค่ประมาณ 25–30 นาที เท่านั้นเอง เรียกได้ว่า ซูโจวใกล้เซี่ยงไฮ้ มาก จนสามารถจัดเป็น one day trip ก็ยังได้!
เช็กราคาตั๋วเครื่องบินไปเซี่ยงไฮ้กับ Traveloka ได้เลย!
Wed, 16 Jul 2025
China Southern Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)
เริ่มจาก THB 3,312.29
Thu, 17 Jul 2025
China Eastern Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)
เริ่มจาก THB 3,415.00
Tue, 24 Jun 2025
Xiamen Air
กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)
เริ่มจาก THB 4,027.78
ส่วนใครแพลนเที่ยวจีน เที่ยวเซี่ยงไฮ้แล้วต่อด้วยซูโจว แวะมาเก็บลิสต์ที่เที่ยว ที่บทความเหล่านี้ก่อนได้เลย!
เที่ยวซูโจวด้วยตัวเองไม่ยากเลยค่ะ เพราะระบบขนส่งในเมืองสะดวกมาก ทั้งรถไฟฟ้า (Suzhou Metro) รถบัส และรถแท็กซี่ โดยเฉพาะ Suzhou Metro ที่เชื่อมต่อหลายสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น ถนนโบราณซานถังเจีย, ทะเลสาบจินจี และพิพิธภัณฑ์ซูโจว ถ้าใครอยากเที่ยวแบบชิลๆ หรือมีเวลาน้อย แนะนำให้นั่งแท็กซี่หรือเรียกรถผ่านแอป Didi (เหมือน Grab ในจีน) จะสะดวกกว่า แถมราคาไม่แพงมาก
ซูโจว มีเสน่ห์ต่างกันในแต่ละฤดู ใครวางแผนไปเที่ยว ลองเลือกช่วงเวลาที่ตรงกับสไตล์ของตัวเองได้เลย
โหลดแอปแนะนำก่อนออกเดินทาง: Didi (แอปเรียกรถแท็กซี่ คล้าย Grab), WeChat/Alipay (ใช้แชตและจ่ายเงิน)และ Baidu Maps (ใช้แทน Google Maps เพราะแม่นยำกว่าในจีน)
เตรียมวิธีจ่ายเงินให้พร้อม: ที่จีนส่วนใหญ่จะใช้ Alipay หรือ WeChat Pay ในการจ่ายเงินแทบทุกอย่าง แนะนำให้สมัครและเปิดใช้งานแอปเหล่านี้ล่วงหน้าก่อนเดินทาง โดยผูกกับบัตรเครดิตหรือเดบิตจากไทยไว้เลยก็สะดวกดี ส่วนเงินสดพกติดตัวไปบ้างก็ได้ เผื่อใช้ในร้านเล็กๆ ที่ยังไม่รับจ่ายผ่านแอป แต่ไม่ต้องพกเยอะ
อย่าลืม VPN: ในจีนจะไม่สามารถใช้งาน Google, Facebook, Instagram, LINE หรือ YouTube ได้ ถ้าไม่มี VPN ค่ะ ใครอยากอัปสตอรี ถ่ายรูปรีวิว หรือใช้ Google หาข้อมูล ต้องติดตั้ง VPN ตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศนะ
เผื่อเวลาเที่ยวแต่ละจุด: บางจุดท่องเที่ยว เช่น เมืองโบราณโจวจวง หรือ สวนหลิวหยวน อาจใช้เวลาเดินทางนานกว่าที่คิด และบางแห่งมีนักท่องเที่ยวเยอะ คิวเข้าชมยาวพอสมควร แนะนำให้แพลนวันละ 3-4 จุดแบบสบายๆ จะได้ไม่เหนื่อยเกินไป
จัดกระเป๋าให้เหมาะกับฤดูกาล
ถ้าไป เที่ยวซูโจวหน้าหนาว (ธ.ค.–ก.พ.) อย่าลืมพกเสื้อโค้ตกันลม ผ้าพันคอ และถุงมือ เพราะอุณหภูมิอาจลดลงถึงเลขตัวเดียว
ถ้าไปช่วง ฤดูร้อน (มิ.ย.–ส.ค.) อากาศจะร้อนชื้น ควรเตรียมเสื้อผ้าบางๆ พัดลมมือถือ และครีมกันแดด
China
Suzhou and Zhouzhuang Water Village Private Full Day Tour from Shanghai
คุนชานชื่อ
THB 5,523.02