ใครกำลังจองตั๋วไปโอซาก้า หรือแพลนเที่ยวญี่ปุ่นรอบใหม่อยู่ บอกเลยว่า แค่โอซาก้าอย่างเดียวมันไม่พอ!ภูมิภาคคันไซเนี่ย เค้าเด็ดหลายจังหวัด ของกินก็ดี วิวก็ปัง วัดวาก็ว้าว ที่นี่รวมเอาความเก่าคลาสสิก วัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ ติและธรรมชาติแบบตะโกน! แล้วที่สำคัญคือ เดินทางง่าย เที่ยวได้วันเดียวก็ยังไหว ถ้าอยากลุยโอซาก้าให้สุด บินสบายไปกับ Japan Airlines เส้นทาง กรุงเทพฯ – โอซาก้า จองง่าย ๆ ผ่าน Traveloka แล้วออกไปตะลุย 7 ที่เที่ยวรอบคันไซใกล้โอซาก้าที่ควรค่าแก่การใส่ลิสต์! รับรองว่าเที่ยวสนุก แชะรูปสวย ฟีลลิ่งดีเวอร์~
ฮัลโหลทุกคน~ ถ้าพูดถึงข่าวดีปี 2025 ต้องห้ามพลาดหนึ่งในอีเวนต์ระดับโลกที่สายเที่ยว สายอนาคต หรือใครที่ชอบความแปลกใหม่ต้องปักหมุดไว้เลยก็คืองาน Kansai World Expo 2025 (Osaka Expo 2025) กำลังจะเปิดม่านแบบจัดเต็มระหว่าง 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2025 งานนี้คือเวิลด์เอ็กซ์โป คันไซ เอ็กซ์โป 2025 ที่จัดทุก 5 ปีเท่านั้นนะ! และรอบนี้…ญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพอีกแล้ว เย้~! โดยสถานที่จัดคือ เกาะยูเมะชิมะ ใจกลางโอซาก้า เมืองที่ทั้งกินดี เดินมันส์ และวิวก็เริ่ดไม่แพ้ใครฃ
Mon, 1 Sep 2025
Japan Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป โอซาก้า (ITM)
เริ่มจาก THB 8,579.45
Wed, 17 Sep 2025
Japan Airlines
ซัปโปโร (CTS) ไป โอซาก้า (ITM)
เริ่มจาก THB 4,556.76
Thu, 28 Aug 2025
IBEX Airlines
ฟุกุโอกะ (FUK) ไป โอซาก้า (ITM)
เริ่มจาก THB 2,788.59
สำหรับสายเที่ยวที่ไม่ค่อยอินกับคำว่า "งานเวิลด์เอ็กซ์โป" ฟังทางนี้! นี่คืองานมหกรรมระดับโลกที่รวมเอาไอเดียล้ำ ๆ นวัตกรรมเด็ด ๆ และวัฒนธรรมจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ที่เดียว เหมือนสวนสนุก+นิทรรศการ+โลกอนาคตรวมร่างกันยังไงยังงั้น! ซึ่งในปี 2025 นี้ ญี่ปุ่นมาในธีม “Designing the Future, for Our Lives” หรือแปลแบบง่ายๆ สไตล์กันเองก็คือ..."ออกแบบอนาคตที่อยู่ดีมีสุขด้วยมือเรา!" คอนเซ็ปต์นี้เค้าตั้งใจจะชวนให้ทั่วโลกมาร่วมกันคิดค้นนวัตกรรม เทคโนโลยี และไอเดียใหม่ๆ ที่จะช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพ พลังงาน สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงวิถีชีวิตแห่งอนาคต
จุดสตาร์ทของงาน คันไซ เอ็กซ์โป 2025 (EXPO 2025) ที่บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ ก็คือ "โซนจัดแสดงธีม" นี่แหละ! เพราะงาน คันไซ เอ็กซ์โป 2025 (EXPO 2025) ครั้งนี้มาในคอนเซ็ปต์สุดล้ำ “พิมพ์เขียวสังคมแห่งอนาคตที่ทำให้ชีวิตเปล่งประกาย” เขาจัดเต็มด้วย "Signature 8 พาวิลเลียนธีม" ที่ได้ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่น 8 คนจากหลากหลายสาย มาร่วมแชร์มุมมองแบบจัดหนักจัดเต็ม ทั้งเรื่องชีวิต สังคม และโลกอนาคต! แต่ละพาวิลเลียนคือมีไอเดียไม่ซ้ำกันเลยนะ กระตุกต่อมคิดเรื่องการอยู่ร่วมกันและอนาคตแบบยั่งยืนแบบสุด ๆ ใครสายอินเทรนด์ สนใจอนาคตของโลก ต้องมาดูให้ได้!
พาวิลเลียน (Pavilion) คือ สถานที่จัดแสดงนิทรรศการ ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง ในงานเอ็กซ์โปจะมีทั้งสิ่งก่อสร้างสุดล้ำ นิทรรศการเจ๋ง ๆ และกิจกรรมมันส์ ๆ ที่จะให้คุณได้สัมผัสประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมของแต่ละประเทศและบริษัทที่เข้าร่วม รวมถึงได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในอนาคต แล้วในแต่ละพาวิลเลียนมีคอนเทนต์เด็ดอะไรบ้าง? ไปดูกัน
งานนี้ต้องบอกเลยว่า พาวิลเลียนต่างประเทศ คือหนึ่งในไฮไลต์เด็ดที่ไม่ควรพลาด! เพราะคุณจะได้เดินทางไปเจอกับนวัตกรรมสุดล้ำจากกว่า 100 ประเทศ
นี่คือโซนที่เราจะได้เห็น “ญี่ปุ่น” สุดล้ำ! ไม่ใช่แค่ซูชิและการ์ตูนเท่านั้นนะ แต่ พาวิลเลียนของญี่ปุ่น จะพาเราดู เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า, วิธีการพัฒนาคุณภาพชีวิต, และ นวัตกรรมการเกษตรที่รักษ์โลก
สุดท้ายแล้ว มาเจอกับ ซิกเนเจอร์พาวิลเลียน ที่ถือเป็น “หัวใจหลัก” ของงานเอ็กซ์โป พาวิลเลียนนี้จะเป็นการจัดแสดงผลงานจากโปรดิวเซอร์ชาวญี่ปุ่น 8 ท่านที่ทำงานในสาขาต่าง ๆ ที่จะนำเสนอ แนวคิดสุดล้ำ ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน มันเหมือนเป็นการเชื่อมโยงทุกสิ่งในโลกเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น พลังงานสะอาด, เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ, หรือ นวัตกรรมการใช้ชีวิต อย่างสมดุลและสร้างสรรค์!
🗓️ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2025
ยาว ๆ ไปเลย 6 เดือนเต็ม! จะไปช่วงไหนก็ได้ แต่อย่าลืมจอง ตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น japan airlines ล่วงหน้ากันให้ดีนะ เพราะบอกเลยว่าคนจะไปกันเพียบ
📍งานจะจัดที่ เกาะยูเมะชิมะ ในเขตเบย์แอเรียของโอซาก้า เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 155 เฮกตาร์ (ประมาณ 1,000 ไร่!) และคาดว่าจะมีคนจากทั่วโลกมาเยือนกว่า 28 ล้านคน ตลอด 6 เดือนของการจัดงาน บอกเลยว่าพาวิลเลียนจากแต่ละประเทศน่าสนใจสุด ๆ มีทั้งโซนเทคโนโลยีสุขภาพ โซนสิ่งแวดล้อม โซนอาหารแห่งอนาคต และแน่นอน... พาวิลเลียนของญี่ปุ่นเองก็จัดเต็มสมชื่อเจ้าบ้านแน่นอน
สำหรับใครที่กำลังแพลนจะไปมันส์ที่งานเอ็กซ์โป บอกไว้ก่อนเลยว่า “เกาะยูเมะชิมะ” เค้าไม่มีที่จอดรถให้นะ เพราะงั้นทางที่เวิร์กที่สุดคือใช้บริการขนส่งสาธารณะ จะสะดวกสุด ประหยัดสุด แถมไม่ต้องวุ่นวายเรื่องหาที่จอดอีกด้วย
อยากไปญี่ปุ่นเที่ยวโอซาก้า (osaka) งานคันไซ เอ็กซ์โป 2025 (EXPO 2025) แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี? ไม่ต้องกังวลเลย! จองตั๋วเครื่องบินไปงานนี้ง่ายกว่าที่คิด แถมสะดวกสุด ๆ แต่ถ้าอยากได้ความพิเศษสุด ๆ แนะนำให้จองผ่าน Traveloka เลย
ฟูชิมิ อินาริ คือศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น นี่คือศาลเจ้าที่จะพาเดินผ่าน ประตูโทริอิสีแดง ร้อย ๆ คัน! ย้ำว่าร้อยๆ คันนะ! สวยจนไม่อยากเชื่อว่าเป็นสถานที่จริง เหมือนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซีแบบญี่ปุ่นเลยล่ะ ทางเดินที่มีประตูโทริอิสีแดงต่อๆ กันนั้นยาวมากกก (ประมาณ 4 กิโลเมตร) เดินไปเรื่อยๆ จนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพระเอกในเรื่องเทพนิยายญี่ปุ่น บรรยากาศคือสุดคลาสสิกและเต็มไปด้วยความเป็นญี่ปุ่นสุดๆ แถมระหว่างทางยังมี เทพเจ้าฟูชิมิ อินาริ ที่คนญี่ปุ่นมาขอพรให้โชคดีเรื่องธุรกิจและความเจริญรุ่งเรือง อีกหนึ่งไฮไลต์คือ… มุมถ่ายรูป! ถ้าชอบถ่ายรูปจะฟินมาก เพราะทุกมุมของศาลเจ้าผสมผสานระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะยืนถ่ายตรงโทริอิ หรือถ่ายวิวจากด้านบนของเขาฟูชิมิ ก็สวยจนต้องรีบอัปลง IG เลย ส่วนใครที่อยากฟินกว่าการเดินขึ้นไปยัง จุดสูงสุด ก็สามารถเดินขึ้นไปถึงด้านบนของเขาฟูชิมิได้ด้วย จะเจอวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแบบสุดๆ และได้รู้สึกถึงความสงบที่ญี่ปุ่นเค้าเคารพอย่างแท้จริง
ใครมาเกียวโตแล้วอยากได้ฟีลหลุดเข้าไปในโลกญี่ปุ่นโบราณแบบเทพนิยาย ต้องมาที่นี่เลย! ป่าไผ่อาราชิยามะ (Arashiyama Bamboo Grove) เดินเข้าไปในป่าไผ่แล้วบอกเลยว่า เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลก! ต้นไผ่สูงเรียงกันแน่นเป๊ะ ลมพัดแล้วมีเสียงซู่ซ่าชวนให้ใจสงบแบบสุดๆ คือเดินไป ถ่ายรูปไป ใครๆ ก็เป็นนางเอกซีรีส์ญี่ปุ่นได้แหละบอกเลย แถมไม่ใช่แค่ป่าไผ่นะ ด้านข้างยังมีสวน อาราชิยามะพาร์ค ที่มีทั้งแม่น้ำ ภูเขา และวิวธรรมชาติสวยตาแตก!! จะเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือจะนั่งรถลากแบบย้อนยุคก็ได้ฟีลไปอีกแบบ ใครอยากหนีความวุ่นวาย ไปชาร์จพลังท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ บรรยากาศดีๆ ต้องมาที่นี่เลย บอกเลยว่า...อาราชิยามะคือความสงบที่ถ่ายรูปออกมาแล้วปังทุกมุม
ใครไป นารา (Nara) แล้วไม่แวะวัดโทไดจิ ถือว่าพลาดหนักมากก! เพราะนี่คือวัดระดับตำนาน ที่มี พระใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แบบ ใหญ่มากจริง ๆ ตัววัดหลักคือ ไดบุทสึเด็น (Daibutsuden) หรืออาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก! (ใช่จ้าาา ของโลก! ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่นนะ) เข้าไปแล้วจะเจอพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดมหึมาแบบที่ต้องเงยหน้าถ่ายถึงจะเก็บได้ทั้งองค์ ที่น่ารักสุดๆ คือด้านนอกวัดมีเหล่ากวางน้อยเดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด น่ารักจนใจละลาย~ อยากได้ฟีลเจ้าหญิงดิสนีย์? แค่ซื้อขนมกวาง (shika senbei) ไปล่อ เดี๋ยวน้องๆ ก็มารุมเอง! แต่ระวังนิดนึงนะ บางตัวก็หิวจัด เดินมากระแทกขอขนมแบบจริงจังอยู่เหมือนกัน โดยรวมคือ...สายประวัติศาสตร์ก็ปลื้ม ธรรมชาติก็มา วิวงาม กวางน่ารัก แถมยังได้ไหว้พระเสริมดวงแบบแน่นๆ
ถ้าเธอชอบกวาง นี่แหละคือ แดนสวรรค์ของกวาง จริง ๆ สวนสาธารณะนารา (Nara Park) คือที่ที่น้องกวางเดินเล่นชิล ๆ ไปทั่วสวนแบบไม่มีใครห้าม เดินๆ อยู่ น้องอาจจะมาทักทายเพื่อน ๆ ก่อนด้วยนะ เหมือนบอกว่า “โย่ว มีขนมมั้ย?” สวนนี้ไม่ได้มีดีแค่น้องกวางนะ บรรยากาศคือดีมากกก~ กว้างสุดลูกหูลูกตา ต้นไม้ร่มรื่น มีทั้งซากุระให้ชมตอนฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้แดงสุดอลังช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หรือจะนั่งปิกนิกชิล ๆ ก็ได้หมดเลยแถมยังอยู่ใกล้ที่เที่ยวญี่ปุ่นอื่น ๆ อย่างวัดโทไดจิด้วยนะ เดินจากสวนไปไหว้พระต่อได้เลย สายถ่ายรูปก็มีมุมปัง สายธรรมชาติก็ได้ฟีลเงียบสงบ สายรักสัตว์ก็คือฟินนนน
ถ้าพูดถึงโกเบแล้วไม่พูดถึง โกเบ พอร์ท ทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) ก็คือเหมือนมาแล้วไม่ได้มา! เพราะนี่คือแลนด์มาร์คตัวแม่ของเมืองโกเบเลย หอคอยสีแดงทรงเกลียวสุดยูนีคนี้ตั้งตระหง่านอยู่ริมอ่าวโกเบ มองเห็นตั้งแต่ไกลแบบ นั่นแหละ! ถึงแล้ววว~ จุดเด่นไม่ใช่แค่ดีไซน์เก๋ ๆ แต่คือ วิวบนหอคอย ที่บอกเลยว่า โคตรอลัง! ขึ้นไปปุ๊บ เห็นทั้งเมืองโกเบ ทะเล และภูเขาแบบ 360 องศา ตอนกลางวันก็วิวปังแบบสดใส แต่พอตกเย็นถึงค่ำ… โอ้โห บรรยากาศโรแมนติกเวอร์! แสงไฟเมือง+แสงสะท้อนน้ำคือดีงามจนอยากขอใครซักคนแต่งงาน แถมรอบๆ หอก็มีทั้งพิพิธภัณฑ์ เรือสวยๆ ร้านอาหาร คาเฟ่น่ารักๆ เดินถ่ายรูปได้เป็นร้อยช็อตแบบไม่มีเบื่อ ใครสายชอบวิวเมือง สายคอนเทนต์ IG หรือสายมาเดตเบาๆ ที่นี่คือ ต้องมา
ปราสาทฮิเมจิ นี่คือ ปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เลยนะ! ไม่ได้โม้! ปราสาทนี้ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโกะ ซึ่งถือว่าเป็นปราสาทที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด เพราะไม่ได้ถูกทำลายจากสงครามหรือภัยพิบัติใดๆ เลยเลยได้ชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว (White Heron Castle) เพราะสีขาวๆ ของตัวปราสาทดูเหมือนนกกระสาขาวที่บินอยู่บนท้องฟ้า จุดเด่นของที่นี่คือความใหญ่โตอลังการ และดีไซน์ที่สวยงาม มีทั้งกำแพงสูงๆ ทางเดินโค้งๆ และทุ่งหญ้าเขียวๆ รอบๆ ปราสาทให้เราเดินเล่น ถ่ายรูปได้แบบไม่มีเบื่อ แถมข้างในปราสาทก็เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้องต่างๆ ที่เคยเป็นที่ประทับของขุนนาง และห้องทหารที่เคยใช้ป้องกันปราสาทจากศัตรู ถ้าชอบปราสาทหรือประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ปราสาทฮิเมจิคือที่ที่ต้องไป อีกอย่างคือที่นี่มักจะมี วิวทิวทัศน์ สวยๆ ในทุกฤดู ยิ่งฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีคือฟินมากก
ถ้าพูดถึง ถนนเบียวโดอิน โอโมเตะซันโด (Byodoin Omotesando) นี่คือถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความคลาสสิก ที่จะทำให้เธอหลุดเข้าไปในโลกญี่ปุ่นย้อนยุคแบบเต็มที่! ถ้าเธอชอบเดินเล่นในที่ที่มีบรรยากาศสงบๆ พร้อมวิวสวยๆ ก็ไม่ควรพลาดที่นี่เลย ถนนเส้นนี้อยู่ในเมืองอุจิ ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องชาเขียว และถนนนี้จะพาเธอเดินผ่านบรรยากาศเก่าแก่ พร้อมร้านค้าที่ขายของฝากจากชาเขียวอุจิสุดอร่อย ตลอดทางเธอจะเห็นร้านเก๋ๆ ขายของพื้นเมืองที่ทำด้วยมือ และคาเฟ่น่ารักๆ ที่เสิร์ฟชาเขียวแบบที่ต้องลอง สิ่งที่ทำให้ที่นี่พิเศษคือ วิว ของถนนที่มีการตกแต่งสวยงามด้วยต้นไม้และดอกไม้ตลอดทั้งปี ทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุม ไม่ว่าจะมาช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ซากุระบาน หรือจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ใบไม้แดงสวยจนต้องร้อง "ว้าว!" ที่เด็ดสุดๆ คือถนนนี้ยังพาเธอไปสู่ วัดเบียวโดอิน ที่มีชื่อเสียงระดับโลก! อันนี้คือจุดที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่คือ ที่ตั้งของพระพุทธรูปในบรรยากาศสุดสงบ และยังเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ด้วย
เที่ยวโอซาก้า (osaka) ก็ว่าดีแล้ว แต่พอมีเวลานิดหน่อย ลองขยับออกไปเที่ยวรอบ ๆ “คันไซ” แล้วจะหลงรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น ไม่ว่าจะชอบสายธรรมชาติ สายวัฒนธรรม หรือสายกิน คันไซมีหมด! ที่สำคัญคือเดินทางง่ายจากโอซาก้า แค่ขึ้นรถไฟชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงแล้ว ใครมีแพลนไปญี่ปุ่นรอบหน้า อย่าลืมใส่ “10 ที่เที่ยวใกล้โอซาก้า” เหล่านี้ลงในลิสต์ด้วยนะ บอกเลยว่าปังทุกที่ และถ้าหากถ้าคุณชอบญี่ปุ่น ชอบของล้ำ ๆ หรือแค่อยากหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใครในชีวิต งานคันไซ เอ็กซ์โป 2025 Kansai World Expo 2025 (Osaka Expo 2025) คือ "ทริปแห่งปี" ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ข้อมูลอ้างอิง
Thematic Project Expo 2025. (2568). สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2568, จาก https://www.expo2025.or.jp/en/project/