0

Traveloka TH

18 Oct 2022 - 6 min read

ญี่ปุ่นเปิดแล้ว! อัปเดตที่เที่ยว โตเกียว-ฮอกไกโด ฉบับปี 2565-2566

อัปเดตที่เที่ยวญี่ปุ่น โตเกียว-ฮอกไกโด ฉบับใหม่

หลังจากที่ญี่ปุ่นได้ประกาศข่าวดีในการยกเลิกมาตรการขอวีซ่า เชื่อว่าหลายคนคงดีใจอยู่ไม่น้อย เพราะเราจะไม่ต้องนั่งรอคิดถึงบรรยากาศในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกต่อไป และแน่นอนว่าจุดหมายปลายทางยอดฮิตคงจะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากโตเกียว-ฮอกไกโด ที่รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ไว้มากมาย วันนี้เราเลยอยากขออาสาพาทุกคนไปอัปเดตที่เที่ยวฉบับใหม่ที่ไม่ควรพลาดไปเช็กอินหลังญี่ปุ่นได้มีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

แต่ก่อนจะเตรียมตัวแพ็คกระเป๋าก็อย่าลืมกดจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นราคาโปรโมชันสุดคุ้มกับ Traveloka Travel & Lifestyle Superapp แอปเดียวที่เอาอยู่ครบทุกเรื่องการเดินทาง ที่มาพร้อมตั๋วราคาสุดคุ้มกับสายการบินชั้นนำให้คุณเลือกมากมาย และหากใครสงสัยว่านั่งจากไทยไปญี่ปุ่นใช้เวลากี่ชั่วโมงนั้นบอกเลยว่าประมาณแค่ 6 ชั่วโมง คุณก็จะได้สัมผัสกลิ่นอายของดินแดนปลาดิบกันแล้ว

การเดินทางท่องเที่ยวเส้นทางโตเกียว-ฮอกไกโด

การเดินทางจากโตเกียว-ฮอกไกโด ถือเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยม โดยนักท่องเที่ยวสามารถใช้ JR East-South Hokkaido Rail Pass เพื่อเดินทางจากโตเกียวด้วยชินคันเซ็นต่อเนื่องยาวไปจนถึง Hakodate บนเกาะฮอกไกโดได้อย่างง่ายสะดวก ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น

ที่เที่ยวโตเกียว-ฮอกไกโด

1. ย่านชิบูย่า

ย่านชิบูย่า
ย่านชิบูย่า

เริ่มกันที่สถานที่ท่องเที่ยวอันดับแรกกับย่านชิบูย่า ศูนย์กลางของแหล่งรวมวัยรุ่นและแฟชั่นสุดชิคที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากมาย อาทิ เซบุ(Seibu), ล็อฟท์ (Loft), พาร์โก้ (Parco) และ มารูอิ (Marui) ที่มีทั้งของชอปแบรนด์ดัง ร้านค้าน่ารัก ๆ และร้านอาหาร รวมถึงแหล่งบันเทิงที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยวให้สามารถมาเดินเที่ยวเล่นได้ตลอดทั้งวันอย่างไม่มีเบื่อ บอกเลยว่าสายช้อปคนไหนที่คิดถึงบรรยากาศของการช้อปปิ้งจะต้องไม่พลาดในการมาเช็กอินแลนด์มาร์กแห่งนี้

เวลาเปิด – ปิด : 10:00 – 20:00 น.

ค่าเข้าชม : ไม่มี

แผนที่ Google Map : http://bitly.ws/vdMY

2. ชินจูกุ

ชินจูกุ
ชินจูกุ

ที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดฮิตที่สายกินไม่ควรพลาดเลยก็คือ ชินจูกุ โดยเฉพาะย่าน Omoide Yokocho ตรอกเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่มมากมาย บอกเลยว่าใครที่ชอบร้านแนวอิซากายะแบบญี่ปุ่นแท้ ที่เน้นอาหารปิ้งย่างสไตล์จานเล็ก ทานคู่กับเบียร์ สาเก และเหล้า คุณจะต้องหลงรักที่แห่งนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีร้านขายราเมง, โซบะ, ซูชิ, ยากิโทริ, คุชิยากิ รวมไปถึงอาหารขึ้นชื่อของท้องถิ่นต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกทานได้อย่างตามอำเภอใจ

เวลาเปิด – ปิด : 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม : ไม่มี

แผนที่ Google Map : http://bitly.ws/vdNz

3. MIYASHITA PARK

MIYASHITA PARK
MIYASHITA PARK

ไปต่อกันที่เที่ยวญี่ปุ่นในโตเกียวเปิดใหม่ล่าสุดกันต่อกับ MIYASHITA PARK สาธารณะมิยาชิตะ ที่แต่เดิมเคยเป็นสวนธรรมดา ๆ แต่หลังจากโควิดได้มีการเนรมิตใหม่ให้กลายเป็นแหล่งคอมมูนิตี้ใจกลางเมืองที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาทำกิจกรรมได้หลากหลาย เพราะที่แห่งนี้มีทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน โดยชั้นที่ 1-3 เป็นศูนย์การค้าที่เต็มไปด้วยร้านค้าตั้งเรียงรายอย่างมากมาย แต่ชั้น 4 เปิดเป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่สีเขียวให้นักท่องเที่ยวได้มานั่งชิลกันได้อย่างสบายใจ

เวลาเปิด – ปิด : 11:00 – 21:00 น.

ค่าเข้าชม : ไม่มี

แผนที่ Google Map : http://bitly.ws/vdPt

4. Disney Sea ​

Disney Sea ​
Disney Sea ​

แน่นอนว่าซื้อตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นราคาสุดคุ้มมาแล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะไปเก็บความสนุกสนานกันที่โตเกียว ดิสนีย์ซี (Disney Sea) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานของท้องทะเลที่ถ่ายทอดผ่านการออกแบบและเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจ โดยภายในมีเครื่องเล่นทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่สามารถเล่นกันได้อย่างสนุกสนาน ซึ่งเครื่องเล่นห้ามพลาดเลยก็คือ Storm Rider เรือเหาะสุดผจญภัยท่ามกลางพายุที่สร้างความตื่นตาตื่นใจกันแบบสุด ๆ รวมถึงการผจญภัยตามล่าหาสมบัติกันที่ Indiana Jones Adventure ที่ใครก็ไม่ควรพลาด

เวลาเปิด – ปิด : 08:00 – 22:00 น. (อาจแตกต่างไปในแต่ละวัน สามารถตรวจสอบได้ที่ Calendar)

ค่าเข้าชม : One-day Passport

สำหรับผู้ใหญ่ 1 คน ราคา 7,900 เยน - 9,400 เยน
Junior ราคา 6,600 เยน - 7,800 เยน
Child ราคา 4,700 เยน - 5,600 เยน

โดยสามารถอ่านรายละเอียดตั๋วประเภทต่าง ๆ และช่องทางการซื้อตั๋วเพิ่มเติมได้ที่ » ตั๋วเข้าชม Tokyo Disney Resort

แผนที่ Google Map : http://bitly.ws/vdR3

5. TeamLab Borderless

TeamLab Borderless
TeamLab Borderless

มาต่อที่เที่ยวญี่ปุ่นในโตเกียวที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งในช่วงที่ผ่านมากันบ้างกับ TeamLab Borderless พิพิธภัณฑ์ดิจิตอล หรือจุดแสดงศิลปะที่ถูกนำเสนอในรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานความอินเตอร์แอคทีฟ ด้วยการใช้เทคนิคของแสงสีที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก จนทำให้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ต้องที่จองคิวกันล่วงหน้าหลายวันเลยทีเดียว บอกเลยว่าใครที่ชอบความอาร์ต และอยากได้รูปสวย ๆ นั้น ที่แห่งนี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

เวลาเปิด – ปิด : วันธรรมดา 10:00 – 19:00 น., เสาร์อาทิตย์ 10:00 – 21:00 น

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 3,200 เยน เด็ก 1,000 เยน

แผนที่ Google Map : http://bitly.ws/vdRU

6. ตลาดปลาโทโยสุ

ตลาดปลาโทโยสุ
ตลาดปลาโทโยสุ

เอาใจสายกินกันบ้างด้วยการพาไปเช็กอินที่ตลาดปลาโทโยสุ ตลาดปลาแห่งใหม่ที่มาแทนตลาดปลาซึกิจิ โดยหากใครอยากดูการประมูลปลาแนะนำเลยให้มาที่แห่งนี้ เพราะคุณจะได้เห็นการประมูลปลามากุโระไซต์ยักษ์สด ๆ จากทะเลช่วงเช้าของทุกวัน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน The must ที่ใครมาถึงญี่ปุ่นก็ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ด้านในตลาดยังมีโซนร้านอาหารที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกทานได้กันแบบสด ๆ ใครที่มองหาร้านซูชิดี ๆ ก็ต้องมาที่นี่เลย อีกทั้งยังมีโซนตลาดผักสดให้เดินเที่ยวชมกันอีกด้วย

เวลาเปิด – ปิด : 05:00 – 17:00 น.

ค่าเข้าชม : ไม่มี

แผนที่ Google Map : http://bitly.ws/vdTv

7. วัดเซ็นโซจิ

วัดเซ็นโซจิ
วัดเซ็นโซจิ

หากพูดถึงที่เที่ยวญี่ปุ่นในโตเกียวก็ต้องไม่พลาดที่จะไปปักหมุดกันที่ วัดเซ็นโซจิ หรือที่ใครหลายคนเรียกติดปากกันว่า วัดอะซะคุสะ เพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างพากันหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย โดยใครที่มาถึงที่นี่ก็ต้องเข้าไปกราบไหว้สักการบูชาเจ้าแม่กวนอิม เพื่อขอพรและซื้อเครื่องรางนำโชคที่บริเวณทางเข้า พร้อมทั้งถ่ายรูปคู่กับโคมแดงยักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์อันสำคัญของวัดแห่งนี้ นอกจากนั้นบริเวณด้านนอกยังมีร้านอาหาร ร้านค้า ที่สามารถเดินหาของทานอร่อย ๆ และซื้อของฝากขึ้นชื่อกลับไปได้อีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด : 06:00 - 17:00 น., 06:00 - 16:30 น (ตุลาคม - มีนาคม)

ค่าเข้าชม : ไม่มี

แผนที่ Google Map : http://bitly.ws/vdUi

8. สวนสาธารณะโอโดริ

สวนสาธารณะโอโดริ
สวนสาธารณะโอโดริ

เดินทางจากโตเกียวไปปักหมุดกันต่อที่เกาะฮอกไกโดกันบ้าง ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮอกไกโดเลยก็คือ สวนสาธารณะโอโดริ ที่มีแนวคิดในการสร้างให้เหมือนกับเซ็นทรัลพาร์คที่มหานครนิวยอร์ก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพื้นที่สีเขียวที่สามารถเดินทางมาเพื่อผ่อนคลาย หรือนั่งเล่นชิล ๆ ได้ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ Sapporo TV Tower จุดชมวิวที่มีความสวยงาม และสามารถมองเห็นวิวเมืองได้อย่างไกลสุดลูกหูลูกตา ที่สำคัญในช่วงฤดูหนาวบริเวณเเห่งนี้ยังถูกใช้เป็นพื้นที่ในการจัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโรที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งอีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด:

สวนสาธารณะโอโดริ : เปิด 24 ชั่วโมง
Sapporo TV Tower : เวลา 09.00 – 22.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย เวลา 21.50 น.)

ค่าเข้าชม :

สวนสาธารณะโอโดริ : เข้าชมฟรี
Sapporo TV Tower : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก อายุ 6-15 ปี 500 เยน, เด็ก อายุ 0-5 ปี เข้าฟรี

แผนที่ Google Map : http://bitly.ws/vdUu

9. Otaru Snow Light Path Festival

Otaru Snow Light Path Festival
Otaru Snow Light Path Festival

หนึ่งในสุดยอดไฮไลท์ของการมาเยือนฮอกไกโดเลยก็คือ การไปเช็กอินที่เมืองโอตารุ ที่แต่เดิมเคยเป็นเมืองท่าหลัก แต่ในปัจจุบันได้ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีจุดน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คลองโอตารุ ที่มีการจัดเทศกาล Otaru Snow Light Path Festival โดยตลอดแนวทางเดินจะมีการประดับประดาด้วยแสงไฟตั้งแต่เวลาประมาณ 17:00-21:00 น. และรูปปั้นหิมะขนาดเล็กน่ารัก ๆ ให้เราได้เดินเที่ยวชมกันท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก

เวลาเปิด-ปิด : ตลอด 24 ชม. (งานเริ่มประมาณช่วงต้นถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี)

ค่าเข้าชม : ไม่มี

แผนที่ Google Map : http://bitly.ws/vecv

10. สวนสัตว์มารุยามะ

สวนสัตว์มารุยามะ
สวนสัตว์มารุยามะ

เอาใจน้อง ๆ หนู ๆ กันบ้าง ด้วยการพาไปเช็กอินกันที่สวนสัตว์มารุยามะ ที่ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ซึ่งถึงเป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวญี่ปุ่น โดยภายในแบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น โซนนกที่เต็มไปด้วยนกนานาชนิด หรือจะเป็นโซนลิงที่มีให้ชมหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะลิงหน้าเเดงที่ชอบเเช่น้ำร้อนและแสดงความน่ารักให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกันอย่างใกล้ชิด รวมถึงโซนหมีขั้วโลกที่มีทั้งหมีขาว และหมีน้ำตาล อีกทั้งยังมีโซนสำหรับเด็กที่สามารถเข้าไปถ่ายรูปและเล่นกับเหล่าบรรดาสัตว์น้อยน่ารักต่าง ๆ ได้อีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการ เวลา 09.30 – 16.30 น. (ปิดทุกวันพุธ)

ค่าเข้าชม : คนละ 800 เยน

แผนที่ Google Maps : http://bitly.ws/vef2

11. Chitose Lake Shikotsu Ice Festival

Chitose Lake Shikotsu Ice Festival
Chitose Lake Shikotsu Ice Festival

ด้วยความที่สภาพอากาศฮอกไกโดช่วงปลายปีค่อนข้างหนาวเย็น และมีหิมะปกคลุมในพื้นที่ส่วนใหญ่ แน่นอนว่าการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นที่ฮอกไกโดนั้นก็ต้องไม่พลาดที่จะไปเยือนเทศกาลเฮียวโด ที่จัดขึ้นบริเวณทะเลสาบชิโคสึ ชิโตเสะ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม – 23 กุมภาพันธ์ 2023 ที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งความโดดเด่นของงานนี้คือ งานประติมากรรมน้ำแข็งที่ใช้น้ำจากทะเลสาบแห่งนี้ พร้อมกิจกรรมเล่นสไลเดอร์น้ำแข็ง ลานสเก็ต และดอกไม้ไฟที่ช่วยเพิ่มแสง สี เสียง และบรรยากกาศอันงดงามที่ยิ่งกว่าเดิม

เวลาเปิด-ปิด : 09.00-22.00 น. ช่วงเวลาเปิดไฟประดับ : 16.30-22.00 น. (เวลาที่แนะนำ 16:30-17:00)

ค่าเข้าชม : 500 JPY

แผนที่ Google Maps : http://bitly.ws/veia

12. หุบเขานรกจิโงคุดานิ (Jigokudani noboribetsu)

หุบเขานรกจิโงคุดานิ
หุบเขานรกจิโงคุดานิ

สำหรับใครที่เป็นสายรักธรรมชาติ เราขอแนะนำที่เที่ยวญี่ปุ่นในฮอกไกโดกับ หุบเขานรกจิโงคุดานิ สถานที่ที่มีควันพวยพุ่งไปตามหุบเขาอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากที่แห่งนี้มีแร่กำมะถันที่ไหลไปตามลำธาร ทำให้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของที่นี่และเป็นที่เรียกว่าหุบเขานรกนั่นเอง โดยไฮไลท์ของการมาเยือนที่เที่ยวแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ในเกาะฮอกไกโดเลยก็คือ การเดินไต่เนินเพื่อขึ้นไปชมบ่อน้ำร้อนและบ่อโคลนอันสวยงาม และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” แบบที่เราเห็นกันในจอเลยนั่นเอง

เวลาเปิด-ปิด : 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม : ไม่มี

แผนที่ Google Maps : http://bitly.ws/vemk

13. โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen)

โจซังเคออนเซ็น
โจซังเคออนเซ็น

ใครที่มาถึงเกาะฮอกไกโดแน่นอนว่าจะต้องไม่พลาดกับการมาเยือน โจซังเคออนเซ็นแห่งนี้ เพราะที่นี่ถือเป็นที่แช่ออนเซ็นอันดับต้น ๆ ของไฮไกโดเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นออนเซ็นที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโร จึงทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่นิยมมาแช่ออนเซ็นกัน เพราะนอกจากจะสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกแล้ว บรรยากาศรอบ ๆ ยังสวยงดงาม โดยมีวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาที่เรียงรายเป็นฉากหลังให้เราสามารถชื่นชมกันได้อย่างผ่อนคลายไปในคราวเดียวกัน

เวลาเปิด-ปิด : 09:00 น. – 17:00 น. (เสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 8:30 น.)

ค่าเข้าชม : ประมาณ 1,500 เยน

แผนที่ Google Maps : http://bitly.ws/veqH

14. โรงงานช็อคโกแล็ต

โรงงานช็อคโกแล็ต
โรงงานช็อคโกแล็ต

โรงงานช็อคโกแล็ตถือเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นของฮอกไกโดที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง เพราะที่แห่งนี้เป็นที่ผลิตช็อกโกแลตยี่ห้อ Shiroi Koibito ที่มีทั้งคุ้กกี้สอดไส้ไวท์ช็อกโกแลต, Mifuyu เวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลตสอดไส้บลูเบอรี่ คาราเมล และเมลอน, โรลเค้ก, เค้กท่อนไม้, Cake Palette, ช็อกโกแลตดริงค์ และคุกกี้อื่น ๆ ที่มาพร้อมน่าตาอันน่ารับประทานให้เลือกซื้อมากมาย โดยทางโรงงานได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชมโรงงาน และชมทุกขั้นตอนการผลิตของขนมต่าง ๆ ได้แบบใกล้ชิดเลยทีเดียว

เวลาเปิด-ปิด : 09.00-18.00

ค่าเข้าชม : 600 เยน (ซื้อตั๋วเข้าชมได้ถึง 17.00 น.)

แผนที่ Google Maps : http://bitly.ws/vesj

15. จุดชมวิว Mount Moiwa

จุดชมวิว Mount Moiwa
จุดชมวิว Mount Moiwa

ปิดท้ายกันด้วยที่เที่ยวญี่ปุ่นในฮอกไกโดอันดับสุดท้ายกับจุดชมวิว Mount Moiwa ที่ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ฮอตฮิตมาก ๆ เพราะความสวยงามของจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองซัปโปโรแบบพาโรนามาได้อย่างไกลสุดลูกหูลูกตา โดยนักท่องเที่ยวจะต้องนั่งกระเช้าเพื่อขึ้นไปชมวิวด้านบน เลยทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศระหว่างทางของวิวภายนอกที่ปกคลุมไปด้วยหิมะได้อย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว นอกจากนี้ด้านบนยังมีจุดชมวิวท้องฟ้าจำลอง และโรงละคร รวมไปถึงร้านอาหาร The Jewels ที่สามารถมานั่งรับประทานอาหารพร้อมชมวิวด้านนอกได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด: เดือนเมษายน-พฤศจิกายน 10:30-22:00, เดือนธันวาคม-มีนาคม 11:00-21:00

ค่าเข้าชม:

ค่ากระเช้า : 1,700 เยน(สำหรับไปกลับ และมินิเคเบิ้ลคาร์)
1,100 เยน(สำหรับไปกลับเท่านั้น)
600 เยน(สำหรับไปกลับมินิเคเบิ้ลคาร์)

แผนที่ Google Maps : http://bitly.ws/vet3
ทั้งหมดนี้ก็เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นฉบับอัปเดตเส้นทางโตเกียว-ฮอกไกโด ที่สามารถตามไปปักหมุดเช็กอินกันได้ บอกเลยว่าแต่ละสถานที่นั้นจะทำให้คุณหายคิดถึงญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอน แต่ก่อนเดินทางไปก็อย่าลืมเช็กสภาพอากาศฮอกไกโดให้ดีก่อน โดยเฉพาะใครที่กำลังเดินทางไปช่วงฤดูหนาวนี้ จะได้เตรียม Outfit ให้พร้อมมากที่สุด ว่าแล้วกดจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นราคาสุดคุ้มกับ Traveloka ได้เลย

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร