วันนี้เราจะพามาดูกันว่า ทำไมเมืองสิงคโปร์ถึงสะดวกสบายถึงขนาดพาผู้สูงอายุเที่ยวได้ เรามาเริ่มกันตั้งแต่จองตั๋วและ จองที่พักสิงคโปร์ผ่าน Traveloka กันเลย เราได้ในราคาถูกที่สุด เพราะ Traveloka คัดเลือกมาให้แล้ว พร้อมแสดงราคาสุทธิ ไม่มีเก็บค่าธรรมเนียมใดใดเพิ่ม เมื่อจองตั๋วและที่พักสิงคโปร์เรียบร้อย ก็แพ็คกระเป๋าเตรียมเดินทางกันเลย ต้องขอบอกก่อนนะ ว่าทริปนี้เราจะเน้นความสะดวกสบายของที่พักด้วย เพราะพาผู้สูงอายุไป ที่พักจึงราคาสมเหตุสมผลกับคุณภาพ

การที่เราจะพาพ่อแม่เราไป เราก็ต้องมั่นใจว่าที่เที่ยวสิงคโปร์ที่เราจะพาท่านไป สะดวกสบาย ไม่มีเดินเหนื่อย หรือการเดินทางห่างกันมากเกินไป ซึ่งสิงคโปร์แต่ละที่ก็ใกล้กันมากๆ เพราะเป็นเกาะเล็กๆ แต่ความเจริญรุ่งเรืองไปไกลมากทีเดียว การเดินทางก็สะดวก ด้วย EZ-Link บัตรเดียวเที่ยวได้ทุกที่ เพราะเป็นบัตรที่เชื่อมการใช้งานทั้ง รถเมล์ รถใต้ดิน กระทั่งซื้อของในเซเว่นก็ได้

ย่านที่พักสิงคโปร์แบ่งเป็น 5 ย่าน ได้แก่ ย่านไชน่าทาวน์, ถนน Orchard, Marina, Little India และ Geylang ย่านไชน่าทาวน์จะเป็นที่พักสุดฮิต ราคาถูกที่สุด แต่ห้องก็จะมีขนาดเล็กมากๆ เหาะสำหรับพักแล้วไปต่อแบบแบคแพค ที่พักย่านถนน Orchard เป็นย่านที่พักค่อนข้างแพง เหมาะสำหรับช็อปปิ้งแบรนด์เนม ย่าน Marina อยู่ใกล้มาริน่าแซนด์เบย์ Little India ก็จะเป็นที่พักราคาถูก ใกล้มุฟตาฟา และย่าน Geylang ที่พักถูก ใกล้ของกิน

ถ้าเป็นในช่วงทียังมีมาตรการโควิดที่ยังไม่ปลดล็อคอยู่ นักท่องเที่ยวทุกคนต้องเดินทางเข้าเพื่อเที่ยวสิงคโปร์ด้วยโครงการ VTL โดยจะต้องเตรียมเอกสารหลักฐานการฉีดวัคซีนที่เขากำหนดให้พร้อม

เมื่อถึงสนามบินชางกีแล้ว อันดับแรกที่มาก่อนเลย คือ ความหิว! เพราะเครื่องลงที่นี่ช่วงบ่ายพอดี เราจึงพาพ่อแม่ทานอาหารในสนามบิน โดยพาไปร้านอาหาร Jumbo Seafood ปูผัดผงกะหรี่จานเด็ดขึ้นชื่อ คู่กับหมั่นโถวชุบแป้งทอดร้อนๆ หอมมากๆ และยังมีเมนูอื่นๆ เช่นผัดหมี่ หรือเมนูข้าว แล้วแต่จะเลือกได้เลย

เมื่อทานอาหารเสร็จเเล้ว เราก็มาซื้อบัตร EZ-Link กันคนละใบ และดูเส้นทางที่ผังเดินรถใต้ดินเพื่อไปเช็คอินที่พักสิงคโปร์ของเรา โดยคืนแรกเราเลือกพักที่ย่านไชน่าทาวน์ ใกล้ที่เที่ยวสิงคโปร์มากมาย โดยเลือกพักที่ Hotel 81 Chinatown ผ่าน Traveloka ที่นี่เป็นจุดที่ใกล้ MRT จึงลากกระเป๋าเดินไปไม่ไกล ตกเย็นเราพาพ่อแม่ออกไปเดินห้างของที่นี่กันบ้าง พร้อมชมบรรยากาศของเมืองริมน้ำตอนกลางคืน ถ้าใครลืมซื้อของอะไรมาก็ซื้อของใช้ที่จำเป็นที่นี่ได้เลย

ด้วยความที่เราพักย่านไชน่าทาวน์ การเดินทางไปเที่ยวยัง Merlion กับ Garden by the bay จึงสะดวกมากๆ ตอนเช้าเราเลือกไป Merlion ให้พ่อกับแม่ได้ถ่ายรูปกับเจ้าสิงโตนางเงือกสักหน่อย จุดที่เดินทางมาที่นี่ เดินทางมาได้โดยบัส อาจจะมีเดินทางยังจุดถ่ายรูปนิดหน่อยนะ พอช่วงกลางวันไปกินข้าวมันไก่ขึ้นชื่อที่ศูนย์อาหารของที่นี่กัน นั่นคือ ศูนย์อาหาร แม็กซ์เวล (Maxwell Food Centre) ตามชื่อเลยว่าเป็นศูนย์อาหาร มีร้านอาหารให้เลือกซื้อหลากหลาย รอรับแล้วยกมานั่งทางตรงโซนที่นั่งส่วนกลาง ที่ห้ามพลาด คือ ร้านข้าวมันไก่เทียนเทียน(Tian Tian Hainanese Chicken Rice) ไก่นุ่ม จะมีความมันๆหน่อยๆ แต่รสชาตินุ่มละมุนลิ้นสุด ข้าวก็หุงมากำลังดีหอมมากๆ

จากนั้นเราก็กลับไปที่โรงแรมเพื่อเช็คเอ้าท์ก่อน แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้ เพราะเดียววันนี้เราจะย้ายย่านที่พักกัน พอฝากระเป๋าเสร็จเรียบร้อย เราเดินทางกันไปที่ Garden by the bay ที่เที่ยวสิงคโปร์อันเลื่องชื่อ ซื้อตั๋วที่นี่ได้เลย เพื่อเข้าไปชมสวน พ่อกับแม่มีความสุขมากเดินชมรอบ พร้อมกับถ่ายรูปคู่กับดอกไม้ ต้นไม้กันใหญ่ ลูกๆอย่างเราเตรียมรับรูปสวัสดีวันจันทร์กันได้เลย เราใช้เวลากับที่นี่ถึงสองชั่วโมงครึ่ง เพราะมีหลายส่วนมากทั้งเขตร้อน เขตหนาว ดิบชื้น เพลินมากๆ ส่วนการย้ายที่พักคืนนี้เราจะไปนอนกันที่ York Hotel ซึ่งจุดที่พักนี้ อยู่ย่าน Orchard เลย และแน่นอนว่าคืนนี้เราจะพาพ่อกับแม่ไปช็อปปิ้งกันสักหน่อย แบรนด์ที่ซื้อได้ราคาถูกในสิงคโปร์ เช่น Charle & Keith, Onitsuka Tiger และเครื่องสำอางค์ต่างๆ

เราจองไฟล์ทขากลับไว้ช่วงดึก ดังนั้นเลยมีเวลาเที่ยวสิงคโปร์ต่อในวันนี้ เราตัดสินใจกลับมาที่ไชน่าทาวน์อีกครั้ง โดยฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมเดิม เพราะพ่อกับแม่อยากมาที่ The Buddha Tooth Relic Temple and Museum

วัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการแก้ชง ตัววัดภายนอกดูสงบๆ เหมือนวัดจีน และมีแมวน้อยเดินไปเดินมา มีร้านเครื่องรางขายมากมาย พอเดินเข้าไปถึงตัววัดก็จะมีลำดับขั้นตอนการไหว้ ซึ่งเราเองก็ทำตามๆเขาไป ตามทางเดิน เมื่อเดินครบลูปด้านล่างแล้ว ก็สามารถเดินขึ้นไปชั้นบนได้ จะเป็นพิพิธภัณฑ์ มีของโบราณจัดแสดง และที่นี่เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าถูกบรรจุอยู่ในสถูปทองคำด้วย

และเนื่องจากเวลาของเรายังเหลืออีกตลอดทั้งบ่าย เลยพาพ่อกับแม่ไปที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Singapore Oceanarium แลนด์มาร์กใต้ทะเลสุดล้ำแห่งใหม่ใจกลางเกาะเซ็นโตซ่า ที่เพิ่งอัปเกรดจาก S.E.A. Aquarium มาแบบจัดเต็มกว่าเดิมสิบระดับ! เดินเข้าไปปุ๊บ บอกเลยว่ารู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกใต้ทะเลแบบ 360 องศา ทั้งปลากระเบนยักษ์ ปลาฉลามหน้าดุ ๆ หรือจะเป็นฝูงปลาสีรุ้งว่ายผ่านหัวไปแบบใกล้ชิดสุด ๆ ไฮไลต์เด็ดคือโซนที่จำลอง “มหาสมุทรอินเดีย” กับ “ช่องแคบมะละกา” ที่เขาทำแสง เสียง เอฟเฟกต์แบบจึ้งไม่ไหว! เดินแล้วเหมือนกำลังดำดิ่งลึกลงไปใต้ทะเลจริง ๆ ยังไม่หมดนะ มีโซนแบบ “อินเตอร์แอคทีฟ” ให้ลองสัมผัส ลองเล่น ลองเรียนรู้เรื่องมหาสมุทรแบบไม่ง่วงเลยสักนิด บอกเลยว่าเด็กก็สนุก ผู้ใหญ่ก็ว้าว