เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยว หลายคนมักนึกถึงการผจญภัยและการพักผ่อน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ในปัจจุบัน การท่องเที่ยวต้องมาพร้อมกับความระมัดระวังเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะโรคติดต่อที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด หนึ่งในโรคที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษในขณะนี้คือ “โรคฝีดาษลิง” หรือ Monkeypox (Mpox) วันนี้เรามาทำความรู้จัก “โรคฝีดาษลิง” หรือ Monkeypox (Mpox) นี้พร้อมรับมือการระบาดโรคฝีดาษลิงด้วยวิธีการป้องกันจากกรมควบคุมโรค
โรคฝีดาษลิงคืออะไร ความรู้พื้นฐานและการแพร่เชื้อ
โรคฝีดาษลิง (Monkeypox หรือ Mpox) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่เกิดจากเชื้อไวรัสฝีดาษลิง ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ในสัตว์ป่า เช่น ลิงและสัตว์ฟันแทะ โรคนี้มีต้นกำเนิดจากแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก แต่ในปัจจุบัน มีการรายงานการระบาดของโรคในหลายพื้นที่ทั่วโลก ทำให้การเตรียมตัวและการป้องกันตนเองจากโรคนี้กลายเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับนักเดินทาง
เชื้อไวรัสฝีดาษลิง (Monkeypox หรือ Mpox) สามารถแพร่กระจายจากสัตว์สู่คนผ่านการสัมผัสโดยตรงกับเลือด, สารคัดหลั่ง หรือรอยแผลจากสัตว์ที่ติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ โดยผ่านการสัมผัสโดยตรงกับตุ่มหนอง, ผื่น, หรือของใช้ส่วนตัวที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน และอุปกรณ์อื่น ๆ
อาการของโรคฝีดาษลิง
โรคฝีดาษลิง (Monkeypox หรือ Mpox) มีอาการที่คล้ายกับโรคฝีดาษคน (Smallpox) แต่อาการจะมีความรุนแรงน้อยกว่า อาการของโรคฝีดาษลิงที่พบบ่อย ได้แก่:
ไข้สูง: อาการไข้เป็นสัญญาณแรกที่พบในผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง
ผื่นและตุ่มหนอง: ผื่นของโรคฝีดาษลิงจะเริ่มขึ้นที่ใบหน้าและแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า
ปวดหัวและปวดกล้ามเนื้อ: ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมักมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและอ่อนเพลีย
ต่อมน้ำเหลืองบวม: อาการของโรคฝีดาษลิงนี้ เป็นอาการที่แตกต่างจากโรคฝีดาษคน ซึ่งต่อมน้ำเหลืองบวม เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในโรคฝีดาษลิง
อาการของโรคฝีดาษลิงมักจะเริ่มปรากฏภายใน 5-21 วันหลังจากการสัมผัสเชื้อ โดยอาการมักจะคงอยู่ประมาณ 2-4 สัปดาห์ แม้โรคนี้มีความรุนแรงน้อยกว่าโรคฝีดาษคน แต่ยังคงเป็นโรคที่ต้องให้ความสำคัญในการป้องกันและรักษาอย่างเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
วิธีป้องกันโรคฝีดาษลิงระหว่างการท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน นอกจากโควิด-19 แล้ว ยังต้องคำนึงถึงการป้องกันโรคฝีดาษลิง (Monkeypox หรือ Mpox) อย่างจริงจัง เนื่องจากการเดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคฝีดาษลิง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดของโรคโรคฝีดาษลิง การปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยลดความเสี่ยงโรคฝีดาษลิง และทำให้การท่องเที่ยวของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น วิธีป้องกันโรคฝีดาษลิงมีอะไรบ้าง ไปดูเลย
หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ป่า: การสัมผัสกับสัตว์ป่าหรือสัตว์ที่อาจติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง นักท่องเที่ยวควรเลี่ยงการไปยังตลาดที่ขายสัตว์ป่า หรือสถานที่ที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่โดยตรง รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ปรุงสุก
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง: หากพบว่ามีผู้ที่มีอาการป่วยโรคฝีดาษลิง โดยเฉพาะอาการที่เกี่ยวข้องกับผื่นหรือตุ่มหนอง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับผิวหนังหรือของใช้ส่วนตัวของผู้ป่วย เช่น เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน หรือผ้าขนหนู
รักษาความสะอาดของมือ: การล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำเป็นวิธีป้องกันโรคฝีดาษลิงที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหลังจากการสัมผัสกับสิ่งของสาธารณะหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยง หากไม่สามารถล้างมือด้วยน้ำและสบู่ได้ ควรใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 60%
สวมหน้ากากอนามัย: การสวมหน้ากากอนามัยสามารถช่วยป้องกันการแพร่เชื้อโรคฝีดาษลิงผ่านทางระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคฝีดาษลิง หรือในสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น
เลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น: สิ่งของส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า ผ้าขนหนู หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ควรใช้เฉพาะบุคคล เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรคฝีดาษลิง
รับวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิง: วัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคฝีดาษคนสามารถใช้ป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูงควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการรับวัคซีนโรคฝีดาษลิงก่อนการเดินทาง
ติดตามข้อมูลสถานการณ์โรคฝีดาษลิง: การติดตามข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ที่จะเดินทางไปเป็นสิ่งสำคัญ นักท่องเที่ยวควรทราบถึงสถานการณ์การระบาดของโรคฝีดาษลิงในพื้นที่นั้น ๆ และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

การดูแลตนเองหลังการเดินทาง
หลังจากการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นทั้งในไทยหรือต่างประเทศ การดูแลสุขภาพยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญ หากคุณเริ่มมีอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคฝีดาษลิง เช่น ไข้สูง, ผื่น, หรือปวดเมื่อยตามร่างกาย ควรรีบพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการเดินทาง เพื่อให้แพทย์สามารถประเมินอาการและให้การรักษาที่เหมาะสมได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้ปลอดภัยจากโรคฝีดาษลิงที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้
5 สิ่งสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง
การแพร่เชื้อและการติดต่อของโรคฝีดาษลิง
โรคฝีดาษลิงสามารถแพร่เชื้อได้ทั้งจากสัตว์สู่คนและคนสู่คน โดยการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ป่าที่ติดเชื้อ เช่น ลิง หรือสัตว์ฟันแทะ รวมถึงการสัมผัสสารคัดหลั่ง, ผื่น, หรือของใช้ส่วนตัวของผู้ป่วย นอกจากนี้ การแพร่เชื้อสามารถเกิดขึ้นผ่านทางระบบทางเดินหายใจ เมื่อมีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย
อาการของโรคฝีดาษลิงที่ควรระวัง
อาการของโรคฝีดาษลิงคล้ายกับโรคฝีดาษคน (Smallpox) แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า อาการสำคัญได้แก่ ไข้สูง, ผื่นและตุ่มหนอง, ปวดหัว, ปวดกล้ามเนื้อ, และต่อมน้ำเหลืองบวม อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นภายใน 5-21 วันหลังจากการติดเชื้อ และสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 2-4 สัปดาห์
วิธีป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิง
การป้องกันโรคฝีดาษลิงสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ป่าหรือสัตว์ที่อาจติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีผื่นหรือตุ่มหนอง และรักษาความสะอาดของมือโดยการล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ การสวมหน้ากากอนามัยและหลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่นก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน
วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิง
วัคซีนที่ใช้สำหรับโรคฝีดาษคนสามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ในบางกรณี โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงหรือผู้ที่ต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการฉีดวัคซีน
การรักษาและดูแลตัวเองจากโรคฝีดาษลิง
ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาเฉพาะสำหรับโรคฝีดาษลิง การรักษามักจะเป็นการรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้, ยาบรรเทาอาการปวด, และการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสม หากพบว่าตนเองมีอาการของโรคฝีดาษลิง ควรรีบพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการเดินทางหรือการสัมผัสกับสัตว์ป่าหรือผู้ป่วย เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาได้อย่างถูกต้อง
โรคฝีดาษลิง (Monkeypox (Mpox) เป็นโรคติดเชื้อที่นักท่องเที่ยวทุกคนควรตระหนักถึงและเตรียมตัวป้องกันอย่างเคร่งครัด โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันโรค เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ป่าและผู้ป่วย, รักษาความสะอาด, หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงต่อโรคฝีดาษลิง และติดตามข้อมูลสถานการณ์โรคฝีดาษลิง จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงและทำให้การท่องเที่ยวของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การท่องเที่ยวเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ แต่การดูแลสุขภาพและความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ข้อมูลนี้อ้างอิงจาก กรมควบคุมโรค และสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเอกสารแนวทางการป้องกันและควบคุมโรคฝีดาษลิงที่จัดทำโดยกรมควบคุมโรค (อ้างอิงจาก เอกสารของกรมควบคุมโรค)
Discover flight with Traveloka
หาดใหญ่ (HDY) ไป กรุงเทพ (DMK)
เชียงใหม่ (CNX) ไป กรุงเทพ (DMK)
นครศรีธรรมราช (NST) ไป กรุงเทพ (DMK)