Rapid Antigen Test vs Rapid Antibody Test ต่างกันอย่างไร พร้อมวิธีการตรวจโควิดเอง 30 นาที รู้เรื่อง! | COVID-19

Opor P. Suthini
20 Jul 2021 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที

Rapid Antigen Test vs Rapid Antibody Test

เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตอนนี้ เชื่อว่าทุกคนทราบกันดีว่า ไม่นานมานี้ กระทรวงสาธารณสุข หรือ สธ.ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า อนุมัติให้โรงพยาบาลสามารถใช้ที่ตรวจคัดกรอง Rapid Antigen Test เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลและผู้รอคิวตรวจได้ หลังจากนั้นไม่นานก็ประกาศอนุมัติให้ประชาชนทั่วไป สามารถหาซื้อและใช้ที่ตรวจ Antigen Test Kit (ATK) หรือ ชุดตรวจคัดกรอง Antigen ได้เองที่บ้าน เนื่องด้วยโรงพยาบาลหลายแห่งในตอนนี้มีผู้ป่วยที่ต่อคิวรอรับการตรวจหาเชื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะใช้เวลานานในการตรวจพบเชื้อ จึงมีความเห็นชอบว่าให้ใช้ชุดตรวจเร็ว หรือ Rapid Test ตรวจแทนได้ เพื่อจะช่วยย่นเวลาในการตรวจหาเชื้อได้เร็วมากขึ้น ซึ่งนั่นจะเป็นผลดีต่อการคัดแยกผู้ป่วยให้เร็วมากกว่าเดิมเช่นกัน

ปัจจุบัน การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยมีด้วยกัน 3 แบบ นั่นคือ Real-Time PCR, Antigen Test และ Antibody Test ซึ่งในบางประเทศอาจมีการตรวจแบบ ECLIA (Electro chemiluminescent Immunoassay) Test เพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ่งแต่ละแบบนั้นมีข้อดี ข้อเสีย และความแม่นยำที่ต่างกัน และที่กล่าวไปข้างต้นว่า สธ. ได้อนุมัติให้ประชาชนทั่วไปใช้ Antigen Test Kit ได้เองแล้ว หลายคนอาจสับสนว่าต่างกันอย่างไรกับ Antibody Test Kit (ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยยังไม่อนุมัติให้ใช้ตรวจเอง) อยู่ไม่น้อย ถ้าอย่างนั้นเราจะมาเปรียบเทียบชุดตรวจทั้งสองแบบ พร้อมอธิบายวิธีใช้ให้ทุกคนได้รู้ไปด้วยกัน ที่นี่

Rapid Antigen Test

Rapid Antigen Test คือการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยการ swab หรือ แยงจมูก เพื่อหาโปรตีนของเชื้อไวรัสโควิด-19 การตรวจ Antigen เป็นเพียงการตรวจคัดกรองแบบรวดเร็วก่อนการตรวจแบบละเอียดจากห้องปฏิบัติการ หรือ RT-PCR ซึ่งผลของการตรวจหา Antigen จะโชว์ได้ว่าคุณมีเชื้อเป็นอยู่ในร่างกายหรือไม่ การใช้ชุดตรวจเร็ว Antigen Test Kit นั้น ผู้ใช้จำเป็นต้องศึกษาวิธีการใช้ให้ดีโดยอ่านข้างกล่องอย่างละเอียด และจำเป็นต้องรู้วิธีการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง ชุดตรวจให้ถูกต้องอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น สำหรับวิธีการใช้ Antigen Test Kit (ATK) เบื้องต้น มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

Rapid Antigen Test procedure in TH

ขั้นตอนการตรวจโควิด-19 ด้วย ATK

วิธีการใช้ Antigen Test Kit:

1.
ล้างมือให้สะอาด
2.
เตรียมหลอดใส่น้ำยา lysis buffer ที่ให้มาพร้อมกับชุดตรวจ
3.
นำก้านที่ให้มาใช้เก็บตัวอย่าง โดยการ swab หรือแหย่เข้ารูจมูก (ความลึกตามขีดที่อยู่บนไไม้ swab) แล้วหมุน 3-4 ครั้ง ค้างทิ้งไว้ 3 วินาที
4.
เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง โดยนำไม้ก้านที่ swab แล้วใส่หลอดที่ผสมน้ำยา lysis buffer ไว้แล้ว หมุนก้านในน้ำยา 5 ครั้ง
5.
ใช้ตัวดูด ดูดน้ำยาในหลอดเก็บสารคัดหลั่ง หยดลงไปที่แผ่นทดสอบ 3-4 หยด
6.
รอผลตรวจประมาณ 30 นาที
7.
ดูผลตรวจ หากขึ้น 1 ขีด = ไม่พบเชื้อ (ผลเป็นลบ) หรือ หากขึ้น 2 ขีด = พบเชื้อ (ผลเป็นบวก)
8.
หากผลตรวจขึ้นเป็น บวก (+) ผู้ตรวจจำเป็นต้องไปตรวจหาเชื้อโดยเทคนิค RT-PCR อีกครั้งเพื่อยืนยัน

คำแนะนำ ควรทำการตรวจเชื้อทันทีที่คุณแสดงอาการที่เข้าข่ายติดเชื้อ COVID-19 หากมีเชื้อมาระยะหนึ่ง เกิน 5 วัน แล้วใช้ Antigen Test Kit ตรวจเชื้อ อาการอาจลดลงต่ำกว่าที่ชุดตรวจตรวจพบได้

ซึ่งตอนนี้นั้น ชุดตรวจเร็ว Antigen ได้มีวางขายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฏาคม 2564 ที่ผ่านมา ประชาชนสามารถหาซื้อ Rapid Antigen Test Kit ได้ตามร้านขายยาทั่วไปและช่องทางออนไลน์ที่ได้รับอนุญาตและที่สินค้ามี อย.ผู้ผลิต-นำเข้าอย่างถูกต้องตามกฏหมาย

Rapid Antibody Test

Rapid Antibody Test คือการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยการ เจาะเลือด เพื่อไปหาภูมิคุ้มกัน หรือ Antibody ในร่างกาย ซึ่งในหลายประเทศได้มีการวางขาย Antibody Test Kit ให้ประชาชนได้ใช้ตรวจกันเอง แต่สำหรับประเทศไทยในปัจจุบันยังไม่มีการอนุญาตให้ประชาชนชั่วไปนำมาใช้ เนื่องจากการตรวจหาภูมิคุ้มกันนั้นถูกแนะนำให้ใช้เพื่อดูอาการหรือภูมิหลังติดเชื้อ และใช้เวลานานกว่าภูมิต้านในตัวจะขึ้น ซึ่งอาจจะยังไม่เหมาะกับสถานการณ์ในขณะนี้

Rapid Antibody Test นั้น สามารถใช้ตรวจแอนติบอดี้ในร่างกาย 2 ชนิด:

Immunoglobulin M (IgM) - พบมากในเลือดและน้ำเหลือง เป็นแอนติบอดีตัวแรกที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับไวรัสในช่วงการติดเชื้อใหม่ IgM ทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการป้องกันการติดเชื้อก่อนที่จะมีการผลิตแอนติบอดีอื่นๆเพิ่ม
Immunoglobulin G (IgG) - เป็นแอนติบอดีที่พบบ่อยที่สุด พบเจอในเลือดและของเหลวในร่างกายอื่นๆ IgG อาจใช้เวลาในการสร้างแอนติบอดี้หลังจากการติดเชื้อหรือการสร้างภูมิคุ้มกัน

สำหรับวิธีการใช้ Antibody Test Kit เบื้องต้น เพื่อเป็นกรณีศึกษา มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

Rapid Antibody Test procedure in TH

ขั้นตอนการตรวจโควิด-19 ด้วย Antibody Test Kit

วิธีการใช้ Antibody Test Kit:

1.
ล้างมือให้สะอาด
2.
เช็คแอลกอฮอล์ ที่นิ้วที่จะเจาะเลือดเพื่อตรวจ
3.
ใช้แม็กเจาะเลือดกดไปที่นิ้วมือ รอให้มีเลือดไหลออกมา
4.
ใช้ที่ดูดที่ให้มา ดูดเลือดจากนิ้วและหยดลงไปบน portable test kit 2-3 หมด และหยดน้ำยาที่ให้มาตามลงไปอีก 2-3 หยด
5.
รอผลตรวจประมาณ 15-30 นาที
6.
ดูผลตรวจ หากขึ้น 1 ขีด = ไม่พบภูมิคุ้มกัน หรือ หากขึ้น 2 ขีด = พบภูมิคุ้มกัน
7.
หากผลตรวจคือ 2 ขีด ผู้ตรวจจำเป็นต้องไปตรวจหาเชื้อโดยเทคนิค RT-PCR อีกครั้งเพื่อยืนยัน

คำแนะนำ สำหรับการตรวจหาเชื้อประเภท Antibody เวลาที่ดีที่สุดในการตรวจคือประมาณ 7 วันหลังหรือนานกว่านั้นหลังการสัมผัสใกล้ชิดคนที่มีความเสี่ยงหรือติดเชื้อ เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่ภูมิคุ้มกันจะขึ้น หากเร็วกว่านั้นอาจจะยังไม่เกิดภูมิคุ้มกัน

ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่า Antibody Test Kit ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปใช้ในไทย หากทุกคนต้องการตรวจหาภูมิคุ้มกัน ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล หรือ แล็ปที่รับตรวจหาเชื้อเท่านั้น

นอกจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ Antibody แบบที่คนทั่วไปรู้จักกันแล้ว ยังมีการตรวจหาภูมิคุ้มกันอีกแบบ ที่มีให้ตรวจกันในบางประเทศ เรียกว่า การตรวจ ECLIA หรือ Electrochemiluminescent Immunoassay เป็นการตรวจหาแอนติบอดี้ที่เจาะจงหาการมีอยู่ของ IgG และ IgM ในแต่ละบุคคล ซึ่งการตรวจแบบนี้เป็นการตรวจในห้องแล็บที่ต้องใช้ทั้งเครื่องมือ และ โปรแกรมสำหรับหาโดยเฉพาะ การตรวจหา ECLIA ใช้เวลาสำหรับขั้นตอนการตรวจ 10-15 นาที และจะรู้ผลตรวจภายใน 1-2 วัน

หากเปรียบเทียบกันกับ Rapid Antibody Test แล้วนั้น ECLIA Test ถือเป็นการตรวจที่เซนซิทีฟน้อยกว่า เพราะว่า เป็นการตรวจหาแอนติบอดี้ได้น้อยกว่า แถมราคายังเท่าๆกันกับการตรวจ Rapid Antibody อีกด้วย ที่สำคัญ ผลตรวจ ECLIA Test ไม่สามารถใช้ในการยืนยันเพื่อเดินทางได้เหมือน RT-PCR Test หรือ Rapid Antibody Test เพราะถ้าจะให้แม่นยำที่สุด ควรไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR นะคะ

ตารางเปรียบเทียบ โควิด-19

เปรียบเทียบชนิดการตรวจหาเชื้อ โควิด-19

หากต้องการเดินทางออกนอกจังหวัด พื้นที่สีแดงเข้ม ต้องทำอะไรบ้าง?

ในขณะนี้ที่มีการล็อคดาวน์ 29 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และ อ่างทอง

ตามมารตราการแล้ว มีสิ่งที่ทุกคนต้องเตรียมและต้องต้องปฏิบัติตาม หากมีความจำเป็นต้องเดินทางข้ามจังหวัดพื้นที่สีแดงและแดงเข้ม ดังนี้:

ลงทะเบียนบนเว็บไซต์ https://covid-19.in.th/
มีหลักฐานการอนุญาตเดินทางจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ เพื่อเป็นใบผ่าน
มี QR Code ที่จะได้หลังลงทะเบียนบนเว็บไซต์ “หยุดเชื้อเพื่อชาติ” เพื่อใช้เดินทางเข้า–ออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

อ้างอิง:

COVID-19 Tests: Which One Should I Take? By Traveloka Editorial
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
Centers of Disease Control and Prevention (CDC)
กรุงเทพธุรกิจ
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19

Tags:

ตรวจantigen

ตรวจภูมิคุ้มกัน

ตรวจโควิด19

ตรวจโควิดที่บ้าน

วิธีตรวจโควิด

โรงพยาบาลรับตรวจโควิด

บทความแนะนำ

เปิดประเทศ จะเข้ามาเที่ยวไทย ต้องเตรียมอะไรบ้าง? Thailand Pass คืออะไร?

25 Oct 2021 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที

เช็คก่อนตรวจ! วิธีการตรวจโควิด-19 ปัจจุบันมีกี่แบบ แล้วแบบไหนเหมาะกับคุณ?

08 Jun 2021 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 3 นาที

จบปัญหาเรื่องเปลี่ยนซิมต่างประเทศด้วย Gohub e-SIM & SIM Card เที่ยวสะดวกเน็ตไม่สะดุด

02 Apr 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที

โหลดด่วน! แอปพลิเคชั่นเด็ดต้องมี! 13 แอปท่องเที่ยวตัวช่วยคู่ใจนักเดินทาง โหลดไว้ เที่ยวไหนก็สบาย

04 Mar 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 4 นาที

เที่ยวบินตรงสบายกว่า? หรือเที่ยวบินต่อเครื่องคุ้มกว่า? มาหาคำตอบกัน!

28 Feb 2025 - ใช้เวลาอ่านไม่ถึง 1 นาที

ปฏิทินวันหยุด 2566 ลางานวันไหนบ้างดี? ให้คุ้มค่าที่สุด สำหรับวันหยุดยาว

06 Jan 2023 - ใช้เวลาอ่านไม่ถึง 1 นาที
จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร