ถ้าคุณกำลังนั่งเบื่อๆ อยู่บ้าน หรือติดแหง็กอยู่บนถนนหลังเลิกงาน แล้วอยากหาอะไรทำฆ่าเวลาล่ะก็ ทำไมไม่ลองเปิดพอดแคสต์ฟังดูล่ะ บางคนอาจจะตาลายเพราะมีรายการเป็นร้อยเป็นพันให้เลือกฟัง แต่วันนี้ผมมี 10 รายการพอดแคสต์ที่มีเนื้อหาสุดน่าสนใจมาแนะนำให้ฟังแก้เบื่อกัน จะนั่งอยู่บ้านชิลล์ๆ หรือทำกิจกรรมอะไรอยู่ ก็เปิดฟังได้เลย
1. คำนี้ดี
ใครบอกว่าถ้าอยากเรียนภาษาอังกฤษ ต้องไปลงคอร์สเรียนภาษาจริงๆ จังๆ อย่างเดียว สมัยนี้เราเรียนภาษาได้จากทุกสื่อไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เพลง หรือรายการพอดแคสต์อย่าง “คำนี้ดี” โดยดำเนินรายการโดยคุณบิ๊กบุญ-ภูมิชาย บุญสินสุข เนื้อหาใน คำนี้ดี Podcast จะได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวประจำวันของเราบ้าง หนังสือบ้าง หรือเหตุการณ์สำคัญๆ ต่างๆ มาบอกเล่าให้เราฟังในแต่ละตอนที่ส่วนใหญ่แล้วความยาวจะไม่เกิน 30 นาที แต่จุดเด่นของรายการนี้คือจะมีการสอดแทรกคำภาษาอังกฤษเอาไว้ตลอด ซึ่งเป็นคำที่เราๆ ใช้กันอยู่เป็นประจำ บวกกับน้ำเสียงที่นุ่ม ฟังง่าย ออกเสียงชัด ทำให้เราฟังตอนแล้วตอนเล่าต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีทางเบื่อ ยิ่งไม่นานมานี้ ได้มีตอน ASMR ที่คุณบิ๊กจะมาท่องศัพท์และสำนวนให้ฟังก่อนนอนพร้อมเสียง ASMR ทีนี้ไม่หลับไม่มันรู้ไป
ความยาวแต่ละตอน: 20 - 30 นาที
2. The Secret Sauce
ใครอยากรู้ว่าแบรนด์ไทยแต่ละแบรนด์ทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ มีเคล็ดลับอะไร ฟังทางนี้ The Secret Sauce จะนำเรื่องราวความสำเร็จของนักธุรกิจไทยหรือคนที่อยู่เบื้องหลังกลยุทธ์ของแบรนด์ต่างๆ มาแชร์ให้คุณฟัง ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตโควิด-19 ก็จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทางสังคม ทางธุรกิจ และการศึกษา ที่เหล่านักธุรกิจจะมาแชร์ความคิดเห็นกัน ตอนที่ผมชอบที่สุดน่าจะเป็นช่วง Executive Espresso ที่จะมาสรุปความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและธุรกิจให้ทุกคนฟังด้วยเนื้อหาที่ฟังง่าย ไม่จำเป็นต้องเป็นนักธุรกิจก็ฟังได้เข้าใจได้
ความยาวแต่ละตอน: 30 นาที - 1 ชั่วโมง
3. Look Good Naked
ใครบอกอยู่บ้านเราจะฟิตแอนด์เฟิร์มไม่ได้ Look Good Naked ที่ดำเนินรายการโดยซุปตาร์ฟิตเนสอย่างฟ้าใส พึ่งอุดม จะมาพูดคุยกับคุณในเรื่องเคล็ดลับการฟิตหุ่นให้เฟิร์มจนคนรอบข้างต้องบอกว่า “โห ขนาดอยู่บ้าน ยังฟิตอยู่เลยนะเนี่ย” คุณจะได้เรียนรู้การปรับ Mindset ในการเล่นกล้ามหรือลดน้ำหนัก เทคนิคการออกกำลัง รวมถึงกินอย่างไรให้หุ่นดี มาขยับร่างกายต้อนรับร่างใหม่กัน
ความยาวแต่ละตอน: ประมาณ 30 นาที
4. R U OK
มาสำรวจพฤติกรรมของตัวเองในแต่ละวันตามหลักจิตวิทยากันในรายการ R U OK รายการที่นักจิตบำบัดอย่างคุณดุจดาว วัฒนปกรณ์ จะมาทำให้ผู้ฟังรู้จัก “ตรวจสอบตัวเอง และเข้าใจตัวเอง” เพื่อที่หวังว่าจะทำให้เข้าใจคนรอบข้างมากขึ้น โดยเนื้อหารายการจะเป็นการหยิบยกเรื่องราวที่เราเห็นบ่อยๆ มาพูดคุยกัน เช่น ทำไมตัวเองเป็นคน Sensitive ร้องไห้ง่าย ทำยังไงเวลาถูกนินทา หรือฝึกให้เป็นคนใจเย็นต้องทำยังไง
ความยาวแต่ละตอน: ประมาณ 20-30 นาที
5. We Need to Talk
สำหรับใครที่อยากฟังรายการที่พูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ แต่ให้ไปฟังฝรั่งคุยกัน เนื้อหาก็อาจจะไม่เกี่ยวกับเราเท่าไหร่ รายการ We Need To Talk จะเชิญดาราคนดังที่ใช้ภาษาอังกฤษดีมาพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาที่คนๆ นั้นเชี่ยวชาญหรือเรื่องราวในชีวิตของตนเอง พอเราได้ฟัง เราก็รู้สึกมีกำลังใจเหมือนกันนะว่าขนาดแขกรับเชิญเหล่านี้เป็นคนไทยก็จริงแต่พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก ทำให้เราอยากฝึกฝนให้เก่งเหมือนพวกเขาบ้าง ฟังแล้วก็อาจได้ข้อคิดในชีวิตมากมายแถมได้ฝึกภาษาอังกฤษไปด้วย
ความยาวแต่ละตอน: ประมาณ 30 นาที
6. How did this get made?
คอหนังห้ามพลาดกับรายการ How did this get made? ที่นักแสดงตลกทั้ง 3 คนอย่าง Pual Scheer, Jason Mantzoukas และ June Diane Raphael จะเอาภาพยนตร์ “ห่วยๆ” มาล้อหรือแซะเล่น แล้วก็ถกกันในเรื่องความเหลวแหลกของพล็อตเรื่องหรืออะไรที่ไม่สมจริงในหนังในสไลต์ฮาๆ และ Chemistry ที่เข้ากันของทั้ง 3 คนจะทำให้คุณฟังไปได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อเลย แล้วถ้าคุณเคยดูหนังเรื่องนั้นมาก่อนแล้วรับรองจะอินมาก
ความยาวแต่ละตอน: ประมาณ 1 - 1.5 ชั่วโมง
7. TED Talks Daily
ทุกคนคงรู้จัก TED Talks กันดีอยู่แล้ว ใน TED Talks Daily คุณจะได้ฟังนักพูดและนักคิดเก่งๆ ที่จะมาพูดคุยในหัวข้อจากแขนงองค์ความรู้ต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น เทคโนโลยี สังคม จิตวิทยา เศรษฐกิจ และการศึกษา ที่พร้อมเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้เราได้ บางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องที่เรารู้อยู่แล้ว หรือบางเรื่องที่เราอาจคิดว่าเรารู้แล้ว แต่จริงๆ เราอาจยังรู้ไม่ดีพอ
ความยาวแต่ละตอน: ประมาณ 15 นาที
How I built this with Guy Raz
8. How I Built This with Guy Raz
เคยสงสัยไหมว่า บริษัทหรือแบรนด์ดังๆ มีที่มาที่ไปอย่างไร หรืออะไรทำให้เขาปิ๊งไอเดียทำธุรกิจนี้ขึ้นมาได้ How I Built This with Guy Raz จะพาเราไปรู้จักกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวความเป็นมาของบริษัทชื่อดังต่างๆ ของโลก ที่จะมาเผยให้ฟังถึงไอเดียเจ๋งๆ ที่คุณเองอาจนำไปต่อยอดธุรกิจของคุณได้ ตอนดังๆ ที่ผมฟังแล้วชอบมาก ก็เช่น ตอนที่ได้พูดคุยกับ Whitney Wolfe ซีอีโอของแอปหาคู่ชื่อดังอย่าง Bumble, Julie Rice & Elizabeth Cutler ผู้ก่อตั้งสตูดิโอปั่นจักรยานในร่มชื่อดังที่มีสาขามากกว่า 90 แห่งอย่าง SoulCycle และ Joe Gebbia ผู้ร่วมก่อตั้ง Airbnb
ความยาวแต่ละตอน: ประมาณ 1 ชั่วโมง
9. I’m ทราย, Thank you
หลายคนรู้จักเธอในฐานะนักแสดงชื่อดัง แต่วันนี้คุณทราย เจิรญปุระ จะมาตอบคำถามคาใจหลายๆ คนเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าที่เธอกำลังเผชิญ และปัญหาในชีวิตและในสังคมทั่วไป ที่คนอยากเราอาจสงสัยมานานในสไตล์คุณทราย ถึงรายการจะเพิ่งเปิดตัวในปลายปีที่แล้ว แต่ก็ได้รับการตอบรับดีมาก เพราะหัวข้อที่พูดคุยมันช่างน่าสนใจและเกี่ยวกับชีวิตเราโดยตรงเลยอย่าง “ช่างแม่งนี่...ทำกันยังไงครับ” หรือ “เราจะกำจัดโรคซีมเศร้าออกไปได้ยังไง” เอพิโสดใหม่มาทุกวันอังคาร อย่าลืมไปฟังกันครับ
ความยาวแต่ละตอน: 30 นาที
10. The Bangkok Podcast
เคยสงสัยไหมว่า ฝรั่งที่มาทำงานและอาศัยอยู่กรุงเทพคิดยังไงกับเมืองหลวงของประเทศไทยเมืองนี้ The Bangkok Podcast ซีซีนปัจจุบันดำเนินรายการโดยคุณ Greg Jorgensen และ Ed Knuth โดยหัวข้อที่ทั้งคู่คุยกันก็จะเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัวชาวกรุงในมุมของ Expat ที่อาจเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับเราคนไทย
ความยาวแต่ละตอน: 30-40 นาที
จะอยากฟังเพื่อความบันเทิง หรือฟังเพื่อสาระความรู้ ก็เลือกฟังกันได้เลย
ติดตามบทความที่น่าสนใจอีกมากมายใน Self Recovery ได้ที่นี่ และที่แฟนเพจ TravelokaTH
ติดตาม Traveloka Xperience ค้นหาที่เที่ยว/กิจกรรม ราคาพิเศษ พร้อมโปรโมชั่น
→ Website: https://www.traveloka.com/th-th/activities
ติดตามคอนเทนต์สำหรับคนชอบเที่ยว พร้อมแจ้งข่าวส่วนลดและโปรฯ มากมาย
→ Facebook Page: https://www.facebook.com/TravelokaTH
ติดตามบทความดี ๆ ครบทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก
→ Traveloka Blog: https://www.traveloka.com/th-th/explore