7 เทคนิคเก็บเงินเที่ยวให้ทันปลายปี ฉบับมนุษย์เงินเดือน

Theerada Moonsiri
20 May 2020 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที

ถึงต้นปีนี้แพลนอาจจะล่ม แผนอาจจะผิดคาดไปบ้าง อย่ามัวแต่นั่งน้อยอกน้อยใจ คิดบวกเอาไว้แล้วเก็บเงินรอเที่ยวในช่วงปลายปีหลังกันดีกว่า เรามีเทคนิคออมเงินง่าย ๆ สำหรับมนุษย์เงินเดือนมาฝาก ฮึดสู้เริ่มเก็บหอมรอมริบตั้งแต่วันนี้ ทริปในฝันส่งท้ายปีก็ไม่ไกลเกินเอื้อม :)

1. เก็บก่อนใช้

โบราณว่าถ้าจะแก้ปัญหาก็ต้องตัดไฟแต่ต้นลม การออมเงินก็เช่นกัน! เจ้าวายร้ายที่จะทำให้เงินหดเงินหายไปก็ไม่ใช่ใครหรอกนอกจากตัวเราเอง วิธีแก้ง่าย ๆ ที่เห็นผลชะงัดก็คือเก็บก่อนใช้ หักดิบไปเลยตั้งแต่วันเงินเดือนออก หักเงินฝากประจำ เงินเก็บส่วนตัว หรือเงินเพื่ออนาคต ลองคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ตามที่ไหว แล้วโยกไปฝากเก็บไว้ที่บัญชีอื่น

หากเป็นบัญชีออมทรัพย์ แนะนำว่าอย่าทำบัตร ATM จะได้ถอนยากกว่าเดิมสักหน่อย แต่ถ้าเป็นไปได้และใจพร้อม เราว่าเปิดบัญชีฝากประจำไปเลย จะ 12 24 หรือ 36 เดือนก็ว่าไป ถ้าฝากครบตามกำหนดจะได้ดอกเบี้ยเยอะกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปด้วยนะ

2. เปิดบัญชีแยกเก็บเงินเที่ยว

หากคุณเป็นอีกคนที่มีเป้าหมายในการท่องเที่ยวอย่างชัดเจน เช่น ปีนี้ตั้งใจจะเที่ยวในประเทศ 2 ทริป เที่ยวต่างประเทศ 1 ทริป เราอยากให้ลองตั้งงบประมาณของแต่ละทริป บวกลบคูณหารดูว่าต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ และตัดสินใจเปิดบัญชีแยกเก็บเงินเที่ยวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย! ถ้าจะให้ดีก็จัดการตั้งค่าหักเงินฝากอัตโนมัติไปด้วยเลย จะได้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง วิธีนี้เราจะได้เห็นตัวเลข เห็นความเป็นไป เห็นทริปในฝันที่กำลังจะกลายเป็นจริงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

แต่ถ้าจะเปิดบัญชีใหม่ก็ต้องออกไปธนาคาร เตรียมเอกสารยุ่งยากอีก… ไม่แล้วจ้า! ขอบอกว่าการเปิดบัญชีออมทรัพย์เดี๋ยวนี้ไม่ยุ่งยาก ยิ่งถ้ามีบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารใหญ่ ๆ อยู่แล้วยิ่งหวานหมู เพราะเพื่อน ๆ สามารถเปิดบัญชีออมทรัพย์ออนไลน์ผ่านแอปฯ ธนาคารได้เลย อีกทั้งยังได้ดอกเบี้ยเท่ากับหรือมากกว่าบัญชีแบบมีสมุดเงินฝากอีกนะ

3. เก็บแบงก์ 50 หรือแบงก์ที่ลงท้ายด้วยวันเกิด

กูรูหลายต่อหลายสำนักต่างเห็นพ้องต้องกันว่าการเก็บแบงก์ 50 เป็นอีกวิธีออมเงินที่ได้ผลจริง! ลองตั้งปณิธานเลยว่าถ้าเราได้แบงก์ 50 มาจะไม่ใช้เด็ดขาด หากกระเป๋าสตางค์หรือแฟ้มเล็ก ๆ ไว้เก็บให้เป็นเรื่องเป็นราวเลยยิ่งดี อย่าดูถูกพลังของแบงก์เล็ก เก็บไปเรื่อย ๆ แล้วมานับสักทีอาจจะได้หลายพันเลย หรือใครอยากอัปเลเวลเก็บแบงก์ 500 ด้วยก็ไม่ว่ากันนะ

ส่วนใครที่ดวงไม่สมพงษ์กับแบงก์ 50 พอตั้งใจเก็บแล้วแบงก์ 50 ดันหายสาบสูญจากชีวิตไปเลย! จะลองเปลี่ยนมาเก็บแบงก์อะไรก็ได้ที่ลงท้ายด้วยวันเกิดตัวเอง เช่น ถ้าเกิดวันที่ 16 ก็เก็บแบงก์ที่มีหมายเลขลงท้ายด้วย 16 หรือจะเลือกเลขนำโชค เลขที่ชอบก็แล้วแต่สะดวกเลย

4. เก็บเหรียญเงินทอนมาหยอดกระปุก

กระปุกออมสินน่าจะเป็นวิธีคลาสสิกที่หลายคนคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ลองมาเพิ่มความสนุกสักหน่อยด้วยการตั้งชาเลนจ์เก็บเงินทอนทุกตอนเย็น ถ้าได้เงินทอนมาเป็นเหรียญก็จงมาหยอดกระปุกให้เรียบ! ถึงมูลค่าของเหรียญจะแค่ 1, 5, 10 บาท แต่พอหยอดจนเต็มกระปุกแล้วอาจจะได้มูลค่ารวมเยอะเกินคาด

สำหรับตัวกระปุกออมสินอาจต้องโหดกันสักหน่อย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เลือกแบบมีแค่ช่องหยอดเหรียญ ไม่มีจุกเปิดเอาเงินออกมา จะได้มีแรงจูงใจให้หยอดจนเต็มแล้ว ‘ทุบ’ กระปุกกันทีเดียว เชื่อเถอะว่าความรู้สึกตอนนั้นมันฟินสุด ๆ ไปเลย!

5. พกเงินสดให้น้อยลง จำกัดวงเงินบน Mobile Banking

ไม่อยากใช้เงินเยอะหรอ? ก็พกเงินให้หน่อยลงสิ! ถึงจะเป็นวิธีที่หัวชนฝาหน่อย ๆ แต่เราว่ามันก็แฟร์ดี ต่อไปนี้ลองพกเงินในกระเป๋าให้น้อยลง พกแบงก์เล็ก ไม่ถอนแบงก์พัน ตรงกับสุภาษิตมีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง น่าจะเป็นอีกวิธีที่ช่วยประหยัดเงินได้ในระดับนึง

แต่ถ้าใครแอบเจ้าเล่ห์ พกเงินน้อยก็จริงแต่เน้นยิงคิวอาร์โค้ดจ่ายรัว ๆ นี่แหละจะโดนตีมือ! เราแนะนำให้ตั้งค่าจำกัดวงเงินทำรายการต่อวัน (ฟีเจอร์นี้ทำได้แทบทุกแอปฯ Mobile Banking) ให้ต่ำ ๆ ไปเลย ลองคำนวณดูตามความเหมาะสมว่าจะใช้ประมาณวันละเท่าไหร่ ถ้าตั้งใจก็ทำได้แน่นอน

6. ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น กำหนดวงเงินช้อปปิ้งรายเดือน

นอกเหนือจากการเก็บออมตัวเงิน อาจต้องลองมาสำรวจไลฟ์สไตล์ของตัวเราเองด้วย ลองดูว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่สามารถลดทอนลงมาได้บ้าง เช่น หากปกติแล้วมีปาร์ตี้ปิ้งย่างกับเพื่อนทุกสัปดาห์ ลองเปลี่ยนเป็นเดือนละครั้งแทนจะดีไหม? ถ้าซื้อกาแฟแก้วละ 100 บาทวันละแก้ว ลองเปลี่ยนมาชงดื่มเองจะประหยัดขึ้นหรือเปล่า? หรือถ้าที่บ้านและที่ทำงานมี Wi-Fi ใช้อยู่แล้ว ลองเช็กดูว่าใช้แพ็กเกจเน็ตมือถือปัจจุบันคุ้มหรือเปล่า ขยับเป็นแพ็กเกจที่ถูกลงจะเข้าท่ากว่าไหม?

อีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือการช้อปปิ้งทั้งในห้างและออนไลน์ สมัยนี้จะสั่งอะไรก็ง่าย กดจ่ายเพียงปลายนิ้ว ถึงจะช้อปของจิปาถะราคาครั้งละไม่กี่บาท แต่ถ้าลองเอามารวมกันทั้งเดือน อาจเป็นมูลค่าที่น่าตกใจก็เป็นได้! ฉะนั้น เราแนะนำให้จำกัดงบช้อปปิ้งของแต่ละเดือนไปเลย ใครจะแยกย่อยลงมาเป็นงบช้อปเสื้อผ้า งบช้อปของแต่งบ้าน งบช้อปหนังสือ ก็แล้วแต่สะดวก

7. แลกคะแนนสะสม ใช้แต้มบัตรเครดิตให้คุ้ม

หากจะใช้เงินทั้งที ก็ต้องใช้ให้ออกดอกออกผล ปัจจุบันนี้รอบตัวเรามีสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะในรูปแบบคูปอง เงินคืน โปรแกรมสมาชิก ฯลฯ สำหรับมนุษย์เงินเดือนใจกลางกรุง ลองเอาแต้มบัตรแรบบิทไปแลกกาแฟ ของกิน หรือส่วนลดต่าง ๆ ก็ประหยัดเงินได้ไม่น้อย หรือใครเข้า 7-eleven บ่อย ๆ ก็เอาแต้ม ALL member ใช้แทนเงินสดได้เช่นกัน

สำหรับใครที่ใช้บัตรเครดิต (หรือกำลังมองหาสมัครบัตรเครดิตสักใบ) ก็ลองเลือกแบบที่มีเงินคืน (Cash Back) หรือแบบสะสมแต้ม เช่น บางใบมีส่วนลดสำหรับซูเปอร์มาร์เก็ต บางใบใช้แต้มจ่ายแทนเงินสดได้ บางใบใช้แต้มแลกไมล์บินได้ บางใบรูดเงินต่างประเทศได้เรทดี ลองเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง รับรองว่าเซฟเงินได้แน่นอน!

ติดตามบทความที่น่าสนใจอีกมากมายใน Self Recovery ได้ที่นี่ และที่แฟนเพจ TravelokaTH

ติดตาม Traveloka Xperience ค้นหาที่เที่ยว/กิจกรรม ราคาพิเศษ พร้อมโปรโมชั่น
→ Website: https://www.traveloka.com/th-th/activities
ติดตามคอนเทนต์สำหรับคนชอบเที่ยว พร้อมแจ้งข่าวส่วนลดและโปรฯ มากมาย
→ Facebook Page: https://www.facebook.com/TravelokaTH
ติดตามบทความดี ๆ ครบทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก
→ Traveloka Blog: https://www.traveloka.com/th-th/explore

Tags:

self recovery

traveloka xperience

ค้นหาที่พักที่ดีที่สุดใน กรุงเทพฯ

Vintana Siam Hotel Bangkok

Siam
THB 691.65
THB 518.74

Asleep2

Ratchadaphisek
THB 832.31
THB 624.23

สำรวจสิ่งที่ดีที่สุดของ กรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ

Thailand

ดอนเมือง

Thailand

ลาดกระบัง

Thailand

ราชเทวี

Thailand
จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร