ในยุคที่การเดินทางเป็นเรื่องง่าย การพาครอบครัวและลูกน้อยไปเที่ยวเป็นกิจกรรมที่หลายคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการจองเที่ยวบินในประเทศ ตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ หรือจองตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ แต่การเดินทางไปเที่ยวที่เที่ยวเด็กบ่อยครั้งอาจเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้ หนึ่งในไวรัสที่ควรระวังอย่างยิ่งคือ RSV (Respiratory Syncytial Virus) ไวรัสนี้สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเด็กเล็กและผู้สูงอายุเป็นพิเศษ เมื่อคุณวางแผนที่จะพาลูกน้อยหรือครอบครัวไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ที่เที่ยวเด็กในกรุงเทพฯ อย่าลืมคำนึงถึงวิธีการป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ด้วย
RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus เป็นไวรัสที่มีเปลือกหุ้ม ซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ เมื่อร่างกายติดเชื้อ RSV จะมีการสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ภูมิคุ้มกันนี้ไม่สามารถอยู่ได้นาน ทำให้มีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้หลายครั้งในช่วงชีวิต
ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัส RSV มักจะแสดงอาการภายในระยะเวลา 2-8 วัน อาการเริ่มต้นมักคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ จาม คัดจมูก และมีน้ำมูกไหล หากเชื้อแพร่ลงสู่ทางเดินหายใจส่วนล่าง อาจทำให้เกิดหลอดลมฝอยอักเสบหรือปอดอักเสบ ในกรณีที่อาการรุนแรง ผู้ป่วยอาจหายใจลำบาก เสียงหายใจดังวี้ด และผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเขียว ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลทันที เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เชื้อไวรัส RSV สามารถแพร่กระจายได้ผ่านทางสารคัดหลั่งต่าง ๆ เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือผ่านละอองจากการไอหรือจาม นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อ เช่น ของเล่น ลูกบิดประตู โต๊ะ และเก้าอี้ ซึ่งเชื้อไวรัส RSV สามารถอยู่บนสิ่งของได้นานหลายชั่วโมง
กลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัส RSV ได้แก่:
การป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV เป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาแบบเฉพาะทางสำหรับเชื้อไวรัสนี้ วิธีการป้องกันที่สามารถทำได้ ได้แก่:
นอกจากนี้ยังมียาและวัคซีนสำหรับฉีดป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ในบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะในเด็กกลุ่มเสี่ยง ยาพาลิวิซูแมบ (Palivizumab) เป็นยาประเภทโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ฉีดป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ในเด็กที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัส RSV
Wed, 28 May 2025
Nok Air
หาดใหญ่ (HDY) ไป กรุงเทพ (DMK)
เริ่มจาก THB 811.00
Thu, 15 May 2025
Nok Air
เชียงใหม่ (CNX) ไป กรุงเทพ (DMK)
เริ่มจาก THB 875.27
Mon, 19 May 2025
Nok Air
นครศรีธรรมราช (NST) ไป กรุงเทพ (DMK)
เริ่มจาก THB 874.23
ยาพาลิวิซูแมบต้องฉีดอย่างไร ? ขนาดยาที่แนะนำคือ 15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ โดยแนะนำให้เริ่มฉีดก่อนช่วงการระบาดของเชื้อไวรัส RSV และฉีดต่อเนื่องเดือนละ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลารวมทั้งหมด 5 เดือน (5 เข็ม) ในระหว่างช่วงฤดูกาลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส RSV ยานี้สามารถลดความเสี่ยงในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ลดระยะเวลาการเข้ารับการรักษา และลดโอกาสการเข้ารับการรักษาตัวในหออภิบาลผู้ป่วยเด็กวิกฤต
ยาพาลิวิซูแมบมีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากติดเชื้อไวรัส RSV ในกลุ่มเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด (ก่อนครบ 35 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์) ได้ 78% และในกลุ่มเด็กที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง (BPD) ได้ 39% นอกจากนี้ ยาพาลิวิซูแมบยังมีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากติดเชื้อไวรัส RSV ในกลุ่มเด็กทารกและเด็กเล็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่มีผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิตอย่างมีนัยสำคัญ (HS-CSD) ได้ถึง 45%
อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ มีไข้ เป็นผื่น และปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้มักไม่รุนแรงและหายไปภายในไม่กี่วัน
สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 50 ถึง 59 ปี ที่มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส RSV ควรฉีดวัคซีนชนิดหน่วยย่อยรีคอมบิแนนท์ (recombinant subunit vaccine) ซึ่งประกอบด้วยโปรตีนของไวรัส RSV วัคซีนนี้สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่าง (lower respiratory tract disease; LRTD) ที่มีสาเหตุมาจากไวรัส RSV
แนะนำให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ครั้งละ 1 เข็ม โดยฉีดเพียงครั้งเดียว วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV มีประสิทธิภาพสูงถึง 82.6% ในการป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่างที่เกิดจากเชื้อไวรัส RSV ในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีโรคร่วมดังต่อไปนี้อย่างน้อย 1 โรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหืด โรคทางเดินหายใจ/ปอดเรื้อรัง ภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคตับหรือโรคไตเรื้อรัง พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่างที่เกิดจากเชื้อไวรัส RSV ได้สูงถึง 94.6%
อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ ปวดบริเวณที่ฉีด อ่อนล้า ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และปวดข้อ ซึ่งมักมีความรุนแรงเล็กน้อย และหายไปภายใน 2-3 วัน หลังฉีดวัคซีน
การป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสุขภาพของลูกน้อยและครอบครัวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย หมั่นล้างมือ และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล นอกจากนี้ การฉีดยาพาลิวิซูแมบสำหรับเด็กกลุ่มเสี่ยงและการฉีดวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุและผู้ใหญ่กลุ่มเสี่ยงก็เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัส RSV
หากคุณวางแผนที่จะพาลูกน้อยหรือครอบครัวไปเที่ยวกรุงเทพฯ อย่าลืมเตรียมความพร้อมและป้องกันเชื้อไวรัส RSV ด้วยการดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัว นอกจากมั่นใจจากเชื้อไวรัส RSV แล้ว ควรมั่นใจด้วยว่าคุณได้วางแผนการเดินทางด้วยการจองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ และได้วางแผนการเที่ยวกรุงเทพฯในที่เที่ยวเด็ก ที่ปลอดภัย เพื่อให้การเดินทางและการพักผ่อนของคุณและครอบครัวเป็นไปอย่างราบรื่นและสุขภาพดี