วิธีป้องกัน RSV ไวรัส ป้องกันได้ไหม ?​ ป้องกันอย่างไรดี ?

รวมวิธีปกป้องคนใกล้ตัวจาก RSV ไวรัส
Traveloka TH
04 Aug 2024 - ใช้เวลาอ่านไม่ถึง 1 นาที

ในยุคที่การเดินทางเป็นเรื่องง่าย การพาครอบครัวและลูกน้อยไปเที่ยวเป็นกิจกรรมที่หลายคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการจองเที่ยวบินในประเทศ ตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ หรือจองตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ แต่การเดินทางไปเที่ยวที่เที่ยวเด็กบ่อยครั้งอาจเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้ หนึ่งในไวรัสที่ควรระวังอย่างยิ่งคือ RSV (Respiratory Syncytial Virus) ไวรัสนี้สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเด็กเล็กและผู้สูงอายุเป็นพิเศษ เมื่อคุณวางแผนที่จะพาลูกน้อยหรือครอบครัวไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ที่เที่ยวเด็กในกรุงเทพฯ อย่าลืมคำนึงถึงวิธีการป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ด้วย

RSV คืออะไร?

RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus เป็นไวรัสที่มีเปลือกหุ้ม ซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ เมื่อร่างกายติดเชื้อ RSV จะมีการสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ภูมิคุ้มกันนี้ไม่สามารถอยู่ได้นาน ทำให้มีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้หลายครั้งในช่วงชีวิต

ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัส RSV มักจะแสดงอาการภายในระยะเวลา 2-8 วัน อาการเริ่มต้นมักคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ จาม คัดจมูก และมีน้ำมูกไหล

อาการเมื่อติดเชื้อไวรัส RSV

ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัส RSV มักจะแสดงอาการภายในระยะเวลา 2-8 วัน อาการเริ่มต้นมักคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ จาม คัดจมูก และมีน้ำมูกไหล หากเชื้อแพร่ลงสู่ทางเดินหายใจส่วนล่าง อาจทำให้เกิดหลอดลมฝอยอักเสบหรือปอดอักเสบ ในกรณีที่อาการรุนแรง ผู้ป่วยอาจหายใจลำบาก เสียงหายใจดังวี้ด และผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเขียว ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลทันที เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

วิธีแพร่เชื้อไวรัส RSV

เชื้อไวรัส RSV สามารถแพร่กระจายได้ผ่านทางสารคัดหลั่งต่าง ๆ เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือผ่านละอองจากการไอหรือจาม นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อ เช่น ของเล่น ลูกบิดประตู โต๊ะ และเก้าอี้ ซึ่งเชื้อไวรัส RSV สามารถอยู่บนสิ่งของได้นานหลายชั่วโมง

กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัส RSV

กลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัส RSV ได้แก่:

เด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด (ก่อนครบ 35 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์)
เด็กแรกเกิดอายุน้อยกว่า 1 ปี
เด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี ที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดหรือหัวใจ
ผู้สูงอายุ
ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรังหรือโรคหัวใจ
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ผู้ที่มีความบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด

การป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV

การป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV เป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาแบบเฉพาะทางสำหรับเชื้อไวรัสนี้ วิธีการป้องกันที่สามารถทำได้ ได้แก่:

ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หมั่นออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
หลีกเลี่ยงการสัมผัสและใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส RSV
หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือก่อนและหลังสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ
ดูแลรักษาข้าวของเครื่องใช้ เช่น ของเล่น เสื้อผ้า ชุดเครื่องนอน ให้สะอาดอยู่เสมอ
หลีกเลี่ยงการพาลูกน้อยไปยังสถานที่ที่มีคนหนาแน่นในช่วงฤดูกาลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส RSV

นอกจากนี้ยังมียาและวัคซีนสำหรับฉีดป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ในบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะในเด็กกลุ่มเสี่ยง ยาพาลิวิซูแมบ (Palivizumab) เป็นยาประเภทโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ฉีดป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ในเด็กที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัส RSV

Discover flight with Traveloka

Fri, 11 Jul 2025

Nok Air

หาดใหญ่ (HDY) ไป กรุงเทพ (DMK)

เริ่มจาก THB 950.54

Wed, 2 Jul 2025

Nok Air

เชียงใหม่ (CNX) ไป กรุงเทพ (DMK)

เริ่มจาก THB 821.58

Wed, 2 Jul 2025

Nok Air

นครศรีธรรมราช (NST) ไป กรุงเทพ (DMK)

เริ่มจาก THB 815.58

การฉีดยาพาลิวิซูแมบป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV

ยาพาลิวิซูแมบต้องฉีดอย่างไร ? ขนาดยาที่แนะนำคือ 15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ โดยแนะนำให้เริ่มฉีดก่อนช่วงการระบาดของเชื้อไวรัส RSV และฉีดต่อเนื่องเดือนละ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลารวมทั้งหมด 5 เดือน (5 เข็ม) ในระหว่างช่วงฤดูกาลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส RSV ยานี้สามารถลดความเสี่ยงในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ลดระยะเวลาการเข้ารับการรักษา และลดโอกาสการเข้ารับการรักษาตัวในหออภิบาลผู้ป่วยเด็กวิกฤต

ประสิทธิภาพของยาพาลิวิซูแมบ

ยาพาลิวิซูแมบมีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากติดเชื้อไวรัส RSV ในกลุ่มเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด (ก่อนครบ 35 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์) ได้ 78% และในกลุ่มเด็กที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง (BPD) ได้ 39% นอกจากนี้ ยาพาลิวิซูแมบยังมีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากติดเชื้อไวรัส RSV ในกลุ่มเด็กทารกและเด็กเล็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่มีผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิตอย่างมีนัยสำคัญ (HS-CSD) ได้ถึง 45%

นอกจากนี้ยังมียาและวัคซีนสำหรับฉีดป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ในบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะในเด็กกลุ่มเสี่ยง ยาพาลิวิซูแมบ (Palivizumab) เป็นยาประเภทโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ฉีดป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ในเด็กที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัส RSV

อาการข้างเคียงจากการฉีดยาพาลิวิซูแมบ

อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ มีไข้ เป็นผื่น และปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้มักไม่รุนแรงและหายไปภายในไม่กี่วัน

วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV สำหรับผู้สูงอายุและผู้ใหญ่กลุ่มเสี่ยง

สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 50 ถึง 59 ปี ที่มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส RSV ควรฉีดวัคซีนชนิดหน่วยย่อยรีคอมบิแนนท์ (recombinant subunit vaccine) ซึ่งประกอบด้วยโปรตีนของไวรัส RSV วัคซีนนี้สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่าง (lower respiratory tract disease; LRTD) ที่มีสาเหตุมาจากไวรัส RSV

การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส RSV

แนะนำให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ครั้งละ 1 เข็ม โดยฉีดเพียงครั้งเดียว วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV มีประสิทธิภาพสูงถึง 82.6% ในการป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่างที่เกิดจากเชื้อไวรัส RSV ในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีโรคร่วมดังต่อไปนี้อย่างน้อย 1 โรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหืด โรคทางเดินหายใจ/ปอดเรื้อรัง ภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคตับหรือโรคไตเรื้อรัง พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่างที่เกิดจากเชื้อไวรัส RSV ได้สูงถึง 94.6%

อาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน

อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ ปวดบริเวณที่ฉีด อ่อนล้า ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และปวดข้อ ซึ่งมักมีความรุนแรงเล็กน้อย และหายไปภายใน 2-3 วัน หลังฉีดวัคซีน

วิธีป้องกันเชื้อไวรัส RSV

การป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสุขภาพของลูกน้อยและครอบครัวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย หมั่นล้างมือ และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล นอกจากนี้ การฉีดยาพาลิวิซูแมบสำหรับเด็กกลุ่มเสี่ยงและการฉีดวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุและผู้ใหญ่กลุ่มเสี่ยงก็เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัส RSV

หากคุณวางแผนที่จะพาลูกน้อยหรือครอบครัวไปเที่ยวกรุงเทพฯ อย่าลืมเตรียมความพร้อมและป้องกันเชื้อไวรัส RSV ด้วยการดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัว นอกจากมั่นใจจากเชื้อไวรัส RSV แล้ว ควรมั่นใจด้วยว่าคุณได้วางแผนการเดินทางด้วยการจองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ และได้วางแผนการเที่ยวกรุงเทพฯในที่เที่ยวเด็ก ที่ปลอดภัย เพื่อให้การเดินทางและการพักผ่อนของคุณและครอบครัวเป็นไปอย่างราบรื่นและสุขภาพดี

ในบทความนี้

• RSV คืออะไร?
• อาการเมื่อติดเชื้อไวรัส RSV
• วิธีแพร่เชื้อไวรัส RSV
• กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัส RSV
• การป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV
• การฉีดยาพาลิวิซูแมบป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV
• ประสิทธิภาพของยาพาลิวิซูแมบ
• อาการข้างเคียงจากการฉีดยาพาลิวิซูแมบ
• วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV สำหรับผู้สูงอายุและผู้ใหญ่กลุ่มเสี่ยง
• การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส RSV
• อาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน
• วิธีป้องกันเชื้อไวรัส RSV

เที่ยวบินที่แนะนำในบทความนี้

Fri, 11 Jul 2025
Nok Air
หาดใหญ่ (HDY) ไป กรุงเทพ (DMK)
เริ่มจาก THB 950.54
จองเลย
Wed, 2 Jul 2025
Nok Air
เชียงใหม่ (CNX) ไป กรุงเทพ (DMK)
เริ่มจาก THB 821.58
จองเลย
Wed, 2 Jul 2025
Nok Air
นครศรีธรรมราช (NST) ไป กรุงเทพ (DMK)
เริ่มจาก THB 815.58
จองเลย

สำรวจสิ่งที่ดีที่สุดของ กรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ

Thailand

ดอนเมือง

Thailand

ลาดกระบัง

Thailand

ราชเทวี

Thailand
จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร